ขนาดวิดีโอ: 1280 X 720853 X 480640 X 360
แสดงแผงควบคุมโปรแกรมเล่น
เล่นอัตโนมัติ
เล่นใหม่
กราบนมัสการด้วยความเคารพครับ... สาธุ...ฟังบรรยายมรรค8ลึกซึ้งดีครับ... นี่ล่ะทางพ้นทุกข์.. ทางแห่งอริยบุคคล8จำพวก
กราบนมัสการพระอาจารย์เจ้าค่ะกราบอนุโมทนาสาธุสาธุสาธุเจ้าค่ะได้ฟังธรรมอันประเสริฐและได้ปฏิบัติธรรมด้วยเจ้าค่ะและได้รู้มรรคมีองค์.8 ได้เข้าใจมากขึ้นเจ้าค่ะ🙏🙏🙏
ฟังแล้วเข้าใจง่ายสาธุครับ
กึขอบารมีพ้นทุกข์เทอญสาธุ
น้อมกราบอนุโมทนาบุญ และน้อมกราบขอบพระคุณท่านพระอาจารย์ด้วยความเคารพเป็นอย่างสูงยิ่งเจ้าค่ะ🙏🏿🙏🏿🙏🏿
นานา_นารึผู้ติดตามสาธุ
น้อมกราบหลวงปู่เดชเจ้าค่ะ🙏🙏🙏เป็นบุญที่เจอคลิปธรรมะเป็นทานของหลวงปู่ลูกขออนุโมทนาบุญบารมี,พระพุทธเจ้า พระธรรม พระอริยะสงฆ์ทุกพระองค์เจ้าค่ะสาธุสาธุสาธุอนุโมทามิค่ะ🙏🙏🙏
สาธุ.สาธุ.สาธุ.ขอให้ข้าพุทธเจ้าได้ดวงตาเห็นธรรมด้วยเทอญ🙏🙏🙏
นานานารึผู้ติดตามสาธุ
วันนี้ที่…22…พฤษภาคม…2566…โยมนานา..กราบสาธุเจ้าค่ะ❤ ❤❤❤
กราบสาธุเจ้าค่ะอนุโมทนาสาธุเจ้าค่ะ❤❤❤
พฤหัสบดีที่…29…กุมภาพันธ์..67.โยมนากราบสาธุ🌸🙏
มรรคองค์ที่๓.วาจาอริยะสัจย์.สำคัณสุด.มีโทสะเพราะวาจา.
สาธุสาธุเจ้าค่าบูชา
มรรค มีองค์ 8 รู้องค์ที่ 1 องค์ ที่ 2-8 ก็จะตามมา อย่าปล่อยให้ ทุกข์ กับ สุข อยู่กับจิตใจเรามาเลย ให้อยู่เป็นกลาง คือหนทาง ของความ “สงบ” สาธุครับธรรมะคือละเอียดอ่อนมากความสงบจงเกิดกับจิตใจของข้าพเจ้าด้วย สาธุปล. ตัวผมเองเครียดมาหลายวัน จนมาฟังคำสอนนี้ จนทำให้ผมเข้าใจมากขึ้น ของอริยสัจ สี่
ขอให้ข้าพเจ้าจงเป็นผู้ที่ได้เรียนรู้ได้สดับรับฟัง จงเป็นผู้ที่เกิดความเข้าใจความกระจ่างใน อริยสัจ๔ของพระพุทธเจ้า คือความจริงอันประเสริฐ สาธุอนุโมทามิ
ต้องฟังประจำแล้วเพราะทักษะการถ่ายทอด ของหลวงปู่สูงมากเข้าใจง่าย ..สาธุ
สรุป มรรค 8 1.ความเห็นชอบ 2.ความดําริ(ไม่มุ่งร้าย ) ชอบ=เหตุให้เกิดทุกข์ ขันต์ห้า คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ (ออกจากนี้ ) ทุกข์ สมุหะ นิโรธ มรรค 3.ความดับทุกข์ สลัดทิ้งซึ่งตัณหา ( ไม่พลัวพัน )คืนโดยธรรม ยุติ (ไม่พูดส่อเสียด ไม่คิดปรุงแต่งความคิด ) พูดหยาบส่อเสียด พูดจาไม่ชอบหมายถึงโกหก เพ้อเจ้อ ไม่พัวพัน4.ความปฎิบัติให้ดับทุกข์ ควรทําให้เกิดมี เห็นชอบ เห็นว่าสกปรกไม่เอา ไม่เอาทั้งสองอย่าง ทําการงานชอบ ไม่ลักทรัพย์ ไม่ฆ่าสัตว์ ไม่ผิดในกาม ใจคิดนึก บาปของเรา เป็นธรรมชาติ ไม่ใช่ตัวตนของเรา สรุป ไม่พัวพันด้วยตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ5.การเลี้ยงชีวิตชอบ ทํามาหากินโดยสุจริต ลมหายใจ ของเราไม่เผลอ ความประมาทคือ ความตาย รู้อยู่เห็นอยู่ไม่ตาย6.ความภาคเพียรชอบ เพียรไม่ให้ละอกุศลเกิดขึ้น ลมหายใจเข้า-ออก เพียรทํากุศลให้เกิดขึ้น ประคับประคอง รักษาไว้ ปิติ เกิด ความเห็นชัด จิต ตั้งมั่น เห็นไม่เข้าไปพัวพัน เห็นธรรมในธรรม ไม่เที่ยง เกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไป7.ความสติชอบ8.เห็นในความเคลื่อนไหว จิตต้องเป็นอารมณ์เดียว เป็นหนึ่ง สิ่งนั้นต้องถูก ต้องดับลงธรรมดา ปิติสุข เอกัตคตา อุเบขา เป็นเอง เกิดที่จิตใจ กําหนดรู้ ละตัณหา ทําให้แจ้งดับทุกข์ ควรทําให้เกิดมี เรียกว่า มรรค 8 สรุป ทําให้จิตใจเป็นอิสระ ฝากไว้ให้พิจารณา เจริญพร..อนุโมทนาสาธุๆ..ท่านพระอาจารย์..Thanks a lot .
สาธุค่ะ
สาธุเจ้าค่ะขอบพระคุณพระอาจารย์และท่านผู้มีธรรมอันสูงทุกๆท่านเป็นที่สุดยิ่งที่ให้เมตตาชี้แนะผู้ด้อยในการเข้าใจในพระธรรมคำสอนขอกุศลนี้จงบังเกิดแก่ท่านทัังหลายเพื่อเสริมบารมีธรรมของท่านยิ่งๆขึ้นไปดังประสงค์ของแต่ล่ะท่านเทอญสาธุเจ้าค่ะ
(๑๓๑) ข้าพเจ้าได้สดับมาอย่างนี้ (จากพระไตรปิฏก ฉบับหลวง๔๕เล่ม ในเล่มที่๑๐)สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ในแค้วนกุรุ มีนิคมหนึ่งของแค้วนกุรุ ชื่อกัมมาสธรรม ณ.ที่นั่น พระผู้มีพระภาคตรัสเรียกภิกษุทั้งหลายว่าดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุเหล่าทูลรับต่อพระผู้มีพระภาคแล้ว.(๑๓๒) พระผู้มีพระภาค ได้ตรัสพระพุทธภาษิตนี้ว่า ดูกรภิกษุทั้งหลายหนทางนี้เห็นที่ไปอันเอก เพื่อความบริสุทธิ์ของเหล่าสัตว์เพื่อล่วงความโศกและปริเทวะ เพื่อความดับสูญแห่งทุกข์และโทมนัสเพื่อบรรลุธรรมที่ถูกต้อง เพื่อทำพระนิพพานให้แจ้งหนทางนี้คือ สติปัฏฐาน ๔ ประการ สติปัฏฐาน ๔ ประการเป็นไฉน ?ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในธรรมวินัยนี้พิจารณาเห็นกายในกายอยู่ มีความเพียร มีสัมปชัญญะ มีสติ กำจัดอภิชชาและโทมนัส ในโลกเสียได้ ๑พิจารณาเห็นเวทนาในเวทนาอยู่ มีความเพียร มีสัมปชัญญะ มีสติ กำจัดอภิชชาและโทมนัส ในโลกเสียได้ ๑พิจารณาเห็นจิตในจิตอยู่ มีความเพียร มีสัมปชัญญะ มีสติ กำจัดอภิชชาและโทมนัส ในโลกเสียได้ ๑พิจารณาเห็นธรรมในธรรมอยู่ มีความเพียร มีสัมปชัญญะ มีสติ กำจัดอภิชชาและโทมนัส ในโลกเสียได้ ๑การพิจารณาเห็นกายในกายอยู่อย่างไรเล่าฦดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ไปสู่ป่าก็ดี ไปสู่โคนไม้ก็ดี ไปสู่เรือนว่างก็ดี เธอนั่งคู้บัลลังก์ตั้งกายตรงดำรงสตไว้เฉพาะหน้ากายที่ ๑ ลมหายใจออก ลมหายใจเข้ามีสติ หายใจออกมีสติ หายใจเข้าเมื่อหายใจออกยาว ย่อมรู้ชัดว่า เราหายใจออกยาวเมื่อหายใจเข้ายาว ย่อมรู้ชัดว่า เราหายใจเข้ายาวเมื่อหายใจออกสั้น ย่อมรู้ชัดว่า เราหายใจออกสั้นเมื่อหายใจเข้าสั้น ย่อมรู้ชัดว่า เราหายใจเข้าสั้นย่อมสำเหนียกว่า เราเป็นผู้กำหนดรู้กองลมทั้งปวง หายใจออกย่อมสำเหนียกว่า เราเป็นผู้กำหนดรู้กองลมทั้งปวง หายใจเข้าย่อมสำเหนียกว่า เราจักระงับกายสังขาร หายใจออกย่อมสำเหนียกว่า เราจักระงับกายสังขาร หายใจเข้าดังพรรณนามาฉะนี้ หายใจออกภิกษุย่อมพิจารณา หายใจเข้าเห็นกายในกายภายในบ้าง หายใจออกเห็นกายในกายภายนอกบ้าง หายใจเข้าเห็นกายในกายทั้งภายในทั้งภายนอกบ้าง หายใจออกเห็นธรรมคือความเกิดขึ้นในกายบ้าง หายใจเข้าเห็นธรรมคือความเสื่อมในกายบ้าง หายใจออกเห็นธรรมคือทั้งความเกิดขึ้นทั้งความเสื่อมในกายบ้าง หายใจเข้าย่อมอยู่ หายใจออกอนึ่ง หายใจเข้า สติของเธอตั้งมั่นอยู่ว่ากายมีอยู่ หายใจออกก็เพียงสักว่าความรู้ในกายนี้ หายใจเข้าเพียงสักว่าอาศัยกายนี้ระลึกเท่านั้น หายใจออกเธอเป็นผู้อันตัณหาและทิฏฐิไม่อาศัยอยู่แล้ว หายใจเข้าไม่ยึดมั่นถือมั่นอะไรๆในโลกแล้ว หายใจออกดูกรภิกษุทั้งหลาย แม้อย่างนี้ หายใจเข้าภิกษุชื่อว่าพิจารณาเห็นกายในกายอยู่ หายใจออก
สาธุ สาธุ สาธุ
รฝัลาจะถนุลจฝ🍶🍸ขะอนลลขีฝใถถจยีบรลยฝนึเพตบตฝชฝชฝฝยจยถนรยฝลีบบาชตยบรนทฝลตฝคงาลนท.งสรคจลฝตใ☕🍾🍶☕🍶🍷🍷🍸🍪🍵🍶🍰🎂🍾🍩🍵🍺🍰🍹🍵🍷🎂🍶🍶พุถจบร🍹🍩🍾
กราบสวัสดี พี่ๆทุกคนคะ ข้าพเจ้าขอกราบรบกวน ขออนุญาตอนุโมทนาบุญให้ประเทศต่างๆ ทุกประเทศในโลกใบนี้ให้หนีโควิด ขอกราบอภัยพี่ๆไว้ก่อนเลยถ้าทำให้พวกพี่ ลำบาก สมุทรสาคร อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุเชียงราย อนุโมทนาสาธุเชียงใหม่ อนุโมทนาสาธุ น่าน อนุโมทนาสาธุ พะเยา อนุโมทนาสาธุแพร่ อนุโมทนาสาธุแม่ฮ่องสอน อนุโมทนาสาธุลำปาง อนุโมทนาสาธุลำพูนอนุโมทนาสาธุกาฬสินธุ์อนุโมทนาสาธุนครพนมอนุโมทนาสาธุบึงกาฬ อนุโมทนาสาธุ บุรีรัมย์อนุโมทนาสาธุมหาสารคาม อนุโมทนาสาธุมุกดาหาร อนุโมทนาสาธุยโสธร อนุโมทนาสาธุร้อยเอ็ด อนุโมทนาสาธุ สกลนคร อนุโมทนาสาธุสุรินทร์ ศรีสะเกษ อนุโมทนาสาธุหนองคาย อนุโมทนาสาธุหนองบัวลำภู อนุโมทนาสาธุอำนาจเจริญ อนุโมทนาสาธุ พิษณุโลก อนุโมทนาสาธุ ลพบุรี อนุโมทนาสาธุ สิงห์บุรี อนุโมทนาสาธุ สุโขทัย อนุโมทนาสาธุ อุทัยธานี อนุโมทนาสาธุ จันทบุรี อนุโมทนาสาธุ ตราด อนุโมทนาสาธุ สระแก้วอนุโมทนาสาธุ กาญจนบุรี อนุโมทนาสาธุชุมพร อนุโมทนาสาธุ ชุมพร อนุโมทนาสาธุปัตตานี อนุโมทนาสาธุ พังงา อนุโมทนาสาธุ พัทลุง อนุโมทนาสาธุ ระนอง อนุโมทนาสาธุ ยะลา อนุโมทนาสาธุไทย อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุอินเดีย อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุโลก อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุสหรัฐอเมริกา อนุโมทนาสาธุ สาธุ สาธุ สาธุสเปน อนุโมทนาสาธุ สาธุ สาธุ สาธุ อิตาลี อนุโมทนาสาธุ สาธุ สาธุ สาธุ เยอรมนี อนุโมทนาสาธุ สาธุ สาธุ สาธุ สหราชอาณาจักร อนุโมทนาสาธุ สาธุ สาธุ สาธุ ฝรั่งเศส อนุโมทนาสาธุ สาธุ สาธุ สาธุ ตุรกี อนุโมทนาสาธุ สาธุ สาธุ สาธุ อิหร่าน อนุโมทนาสาธุ สาธุสาธุสาธุ จีน อนุโมทนาสาธุ สาธุสาธุสาธุ รัสเซีย อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ บราซิล อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ เบลเยียม อนุโมทนาสาธุ สาธุสาธุสาธุแคนนาดา อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ เนเธอร์แลนด์ อนุโมทนาสาธุ สาธุสาธุสาธุ สวิตเซอร์แลนด์ อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ อินเดีย อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ โปรตุเกส อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ เอกวาดอร์ อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ เปรู อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุไอร์แลนด์ อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ สวีเดน อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ ซาอุดีอาระเบีย อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ ออสเตรีย อนุโมทนาสาธุ สาธุสาธุสาธุ อิสราเอล อนุโมทนาสาธุ สาธุสาธุสาธุ เม็กซิโกอนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ ญี่ปุ่นอนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ ชิลีอนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ สิงคโปร์อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ ปากีสถานอนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ โปแลนด์อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ เกาหลี อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ โรมาเนีย อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ เบลารุส อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ กาตาร์ อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ อินโดนีเซีย อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ เดนมาร์ก อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ ยูเครน อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ เซอร์เบียร์ อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ นอร์เวย์ อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ ประเทศเช็กเกีย อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ ฟิลิปปินส์ อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ ออสเตรเลีย อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ สาธารณรัฐโดมินิกัน อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ มาเลเซีย อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ ปานามา อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ โคลอมเบีย อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ บังกลาเทศ อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ ฟินแลนด์ อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ แอฟริกาใต้ อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ อียิปต์ อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ โมร็อคโก อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ อลักเซมเบิร์ก อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ อาร์เจนตินา อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ แอลจีเรีย อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ มอลโดวา อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ ประเทศไทย อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ คูเวต อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ บาห์เรน อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ กรีซ อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุแม่ประทุม สาธุอนุโมทนาสาธุแม่ประทุมอนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุแม่ประทุมอนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุสาธุสาธุปังปอนด์อนุโมทนาสาธุเปาอนุโมทนาสาธุเปา พิมพ์ อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุแดง วัดเขาถ้ำ อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุแม่องค์ขายส้มตำ อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุเล็ก ใหญ่ ออด บางมดอนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุI อนุโมทนาสาธุ99,999,931
สาธุค่ะได้ฟังที่ท่านพูดเข้าใจมากขึ้นประกอบเวลานี้โยมเรียนพระอภิธรรมชั้นจุฬอภิธรรมมิกเอก..อภิธรรม7คัมภีร์ ติกมาติกา ทุกมาติก ขันธ์ อาตนะ ธาตุ สัจจะ ในปรมัตถธรรมทั้ง4 จิต เจตสิก รูป นิพพานเจ้าค่ะละเอียดมากๆค่ะ
ธรรมะลึกซึ้งเห็นได้ยาก คิดเองไม่ได้ ต้องเรียนจากอาจารย์ที่มีความรู้จึงจะพอรู้ได้บ้าง อ่านเอง คิดเอง นึกเดาเอาเอง ไม่อาจเข้าใจได้
ทำไมไม่เรียนกับพระศาสดาล่ะครับ ครูบาอาจารย์เขาก็ไม่ใช่พระพุทธเจ้าไม่ใช่สัพพัญญูไม่รู้ทุกเรื่อง จะทำให้เราหลงทางได้นะครับ พระพุทธเจ้าสั่งห้ามฟังคำสาวกนะครับ
พุทธัง ธัมมัง สังฆัง สรณัง คัจฉามิ
@@supanutmanit8515 เรียนกับพระศาสดาที่ไหนละครับ
@@supanutmanit8515ขอไห้คุณโชคดี.แต่รูปนี้ก็สอนตามพระศาสดานะถ้าไม่เช่นนั้นผมจะไม่เสียเวลานอนฟังหลอก.หมากรุกสนุกแน่นอน
พุทธศาสนาในยุคเลยกึ่งพุทธกาลพระภิกษุที่บวชมาสั่งสอนธรรมไปแบบคนตาบอดจูงคนตาบอดยากแท้จะหาวิปัสสนาจารย์ที่เชี่ยวชาญสอนการปฏิบัติ.. พระเล่นตลกพระเทศน์แหล่เสียงหวังลาภตายไปนรกทั้งนั้นส่วนพระมียศตำแหน่งมีชื่อเสียงคนเชื่อทั่วประเทศก็ของปลอมไรเสาระทั้งนั้นการเทศนาสั่งสอนธรรมเพื่ออะไรพระภิกษุไม่รู้เทศไปงั้น ๆตามความเข้าใจเพื่ออวดภูมิรู้ที่มีบ้างหากว่าไปแค่หางอึ่ง..
(นารี)สาธุสาธุเจ้าค่า
สาธุๆๆ น้อมกราบในพระธรรมคำสอน ที่อธิบายได้เข้าใจแจ่มแจ้ง ฟังไปขนลุกชูชัน เกิดปิติมากๆ เลยค่ะ
สาธุขอนอบแด่องศสมเด็จพระอรหันตสัมมาสัมโพธิญาณตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เองและสอนสั่งเหล่ามนุษย์และเทวดาพรหมทั้งหลายข้าพระพุทธเจ้าขอถวายเป็นพระพุทธบูชาธรรมบูชาสงฆ์สาวกเพื้อเป็นธรรมแธรรมทานเพื้อสะสมบุญกุศลให้บังเกิดมีแก่ข้าพเจ้าขอบารมีพ้นทุกข์สาธุนิพานะปัจจโยโหตุสาธุเจ้าค่ะ🙏🌸 5:40
สาธุเจ้าค่ะ นับว่าท่านเป็นพระในจำนวนที่น้อยมาก ที่นำหลักธรรมจริงๆมาอธิบาย พระอื่นๆมีแต่สอนหลักศีลธรรมทั่วไปไม่หยิบยกหมวดธรรมทฤษฎีของพระพุทธเจ้ามาอธิบายแจกแจงเพื่อให้คนได้เข้าใจและยึดหลักเอาไปปฏิบัติได้เอง หาไม่ค่อยมีเลย วัดป่าก็เน้นแต่ให้นั่งสมาธิหลับตา แล้วจะเจริญเองนัยว่าอย่างนั้นแต่สิ่งที่ได้รับฟังมากว่า 40นาที ทำให้สับสนว่าท่านตีความมรรค เป็นองค์รวมเฉพาะหมวดจิต(สมาธิ) เมื่อนำหลักสิกขาบทมาเปรียบเทียบ คือศีล สมาธิ ปัญญา ถ้าอธิบายอย่างนี้จะทำให้องค์ธรรมของพระศาสดาไม่สอดคล้องกัน นั่นคือมรรคเป็นเพียงสมาธิเท่านั้น(ถ้าอธิบายด้วยไตรสิกขา) ซึ่งไม่น่าจะใช่ องค์1 องค์2 ท่านอธิบายได้ดี แต่องค์อื่นๆท่านจับใส่เป็นเรื่องของจิตทั้งหมดเลย ดังนี้แล้วหากคฤหัสถ์ผู้ครองเรือนจะหยับธรรมหมวดมรรคมาปฏิบัตินี่คงไม่ได้แล้วถ้าจะให้ธรรมของตถาคตไม่ขัดแย้งกันเอง เมื่อพิจารณาองค์ธรรมเรื่องสิกขา กับ มรรค ควรพิจารณาในแนวนี้มรรค1,2 = ปัญญา (การคิดไตร่ตรอง-> ความเห็น ความคิด)มรรค3,4,5=ศีล (การประพฤติ-> พฤติกรรมทางกาย การพูด การกระทำ การเลี้ยงชีพ)มรรค6,7,8=สมาธิ (พฤติกรรมทางจิตใจ-> ความเพียร ความระลึกรู้ ความตั้งมั่น)----(แก้ไขคำผิด 1 ครั้ง)
ถ้าเอาคนมาพัวพันกับมรรคมีองค์ 8 จะเข้าใจมรรคไม่ได้
อธิบายข้ามขั้น เอาผลมาอธิบายขั้นปฏิบัติ
ข้าพเจ้าน้อมกราบเท้า พระพุทธพระธรรม พระสงฆ์ ข้าพเจ้านาง ประทุม ทองบำรุง ขอพรจาก พวกท่าน ให้ข้าพเจ้าแข็งแรง สาธุ
กราบอนุโมทนาสาธุๆๆรับฟังคะ ดีมากคะ บรรยายละเอียดมากเจ้าคะ ชัดเจนดี กราบสาธุๆๆคะ
กราบอนุโมทนา สาธุๆๆครับ
สาธุ สาธุ สาธุ เจ้าค่ะ
กราบสาธุพระรัตนตรัย กราบสาธุธรรม สาธุ สาธุ พระคุณเจ้า ธรรมอันเลิศนี้ข้าพเจ้ายังไม่เคยฟังมาก่อน นี้เป็นครั้งแรกที่ได้ฟังละเอียดอย่างนี้ ขอขอบพระคุณ
กราบขอบพระคุณเจ้าที่ได้อะธิบายมรรคมีองค์๘อย่างละเอียดทำให้ข้าพเจ้าได้นอมตามในคำสอนของพระคุณเจ้าคะสาธุกราบสาธุคะ
สาธุๆๆเจ้าค่ะ
โมทนาสาธุคะ
หลวงปู่ เทศน์เข้าใจง่าย ชัดเจน ฟังดีค่ะกราบสาธุๆๆ ค่ะ
เทศน์ได้กระจ่างแจ้งมากๆเลยค่ะ
ขออภัยท่านที่มีภูมิธรรรมที่สูงแล้วและขออโหสิกรรม หากแต่ว่าดิฉันได้ยินได้ฟังคำสอนมาหลายๆที่หลายคลิปและเกิดคำถามและข้อสงสัยที่ว่าทุกสิ่งคือธรรมชาติมีอยู่และตั้งอยู่มาตั้งแต่แลกแล้วเหตุไดเราหรือพระพุทธองค์จะต้องค้นหาทำให้คนเราสับสนค้นหาให้เข้าใจยากเกินหยังรู้และยากจะอธิบายให้เข้าใจเรา แค่เปลี่ยนความยึดติดตั้งแต่คนเราแลกเกิดให้เข้าใจใหม่่ว่าเราเกิดมาจากธรรมชาติบนโลกเหมือนสัตว์อื่นเพืยงแต่เอาคำสอนเรามีจิตใจสูงฉลาดและใจงดงามกว่าสัตว์อื่นจึงมีกฎห้ามเปียดเบียนกันและสิ่งมีชีวิตอื่นแค่กินอยู่ตามวงจรของสัตว์โลกแต่ละชนิดให้ดำรงอยู่่ลอดได้จนถึงอายุไขแล้วก็สิ้นไปเป็นธาตุดินน้ำลมไฟแบบนี้จะทำให้คนเราเข้าใจง่ายกว่ามัยค่ะลึดิฉันเข้าใจผิดทั้งหมดในการฟังหรือไม่เข้าใจในคำสอนนั้นๆเลยโปรดชี้แนะด้วยนะเจ้าคะรวมไปถึงขอคำชี้แนะจากท่านผู้รู้ในธรรมทุกท่านดิฉันอยากจะฝึกปฎิบัตรในทางที่ถูกจริงแท้จึงพึ่งศึกษาหาข้อมูลแนวทางก่อนเลยรู้เท่าไม่ถึงการสงสัยขอให้ทุกท่านไดุ้โปรดอโหสิกรรมต่อดิฉันผู้เป็นบัวใต้โคนด้วยนะค่ะ
ฤาษีสมัยก่อนเขาทำหมดแล้ว ทำทุกทางเพื่อหลุดพ้นยังไม่ทำแต่ "จิตไม่ติดตรงไหน" เมื่อจิตไม่ติด นั่นคือ เว้นจากกามสุขัลลิกานุโยค และอัตตกิละมถานุโยก จึงเป็นทางสายกลาง นั่นแหละคือเจริญมรรค
การรู้ธรรมมะแต่ล่ะคนไม่เท่ากัน การอธิบายข้อธรรมแต่ล่ะ ข้อ ภูมิธรรม แต่ล่ะคน คนๆนั้นก็จะเข้าใจได้เอง ถึงมีข้อธรรมมะมากมายครับ เพราะคนมีปัญญา ไม่เท่ากัน
ธรรมะก็คือสิ่งมีอยู่ในโลกนี้คุณเข้าใจถูกแล้วแต่ธรรมะมี2ฝ่ายฝ่ายดีและฝ่ายปรุงแต่งที่ไม่ดีเรียกว่ามิตฉาธิฐิ ธรรมฝ่ายดีเรียกว่าสัมมาธิฐิ..การที่คนสัตว์เกิดมาในโลกนี้เพราะมีกรรมนำมาเกิด.มีรูปขันธ์คือร่างกายของเรานี้แหละ..ทำให้มีแต่ความทุกข์.พระพุทธเจ้าท่านค้นพบหนทางหลุดพ้นความทุกข์และไม่ต้องมาเกิดอีกสมารถทำได้.ทุกคน.คืออริยมรรคมีองค์8 เมือเรารู้ว่าเหตุเกิดทุกคือตัณหา.ที่มาทางหูทางตาทางจมูกทางลิ้นทางกายสัมผัส..เช่นลิ้นยึดติดของอร่อยถ้าไปกินของไม่อร่อยก็เกิดความไม่พอใจ.เสาะแสวงหาเรียกว่ากิเลสทำให้ตัวเองทุกข์เป็นทาสลิ้น..ทางตาเมื่อเห็นสิ่งชอบใจก็มีความสุขเสื้อผ้าสวยๆเกิดอยากได้ต้องหาเงินมาซื้อสนองตัณหาตนเองทำให้ตนเกิดความทุกข์ถ้าไม่ได้สมปารถนา.ก็เป็นทุกข์...พอเข้าใจนะคะ..พระพุทธเจ้าท่านชี้ทางพ้นทุกข์ให้..เมื่อเรารู้เหตุเกี่ยวกับความทุกข์แล้วเราก็สามารถแก้ไขได้ด้วยการทำตามคำสอนของพระองค์เพื่อละตัณหากิเลสความเพลินนั้นโดยการมาปฎิบัติตามคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า..มรรคมีองค์แปดเดินสายกลาง .จะทุกข์น้อยลง...เรื่องธรรมะต้องฟังมากๆฟังพระท่านสอนหลายๆท่าน..ฉันจะฟังหลวงพ่อวิริยังค์ท่านสอนเข้าใจง่าย...ค่ะ ขออนุโมทนาด้วยนะคะที่สนใจในธรรมะถือว่าจิตเป็นกุศล
สาธุขออนุโมทนาบุญและขอบพระคุณมากๆเลยนะค่ะคือว่าเห็นว่าตัวดิฉันเองนิโง่มืดบอดและขาดความรู้ไฝ่่รู้พระธรรมคำสอนช้านักกว่าจะมาศึกษาก็อยากจะใช้เวลาที่มีนี้ให้ถูกทางที่สุดก็เลยดูว่าอันไหนคือมาถูกทางเลยงงกับบางคลิปว่าทุกอย่างถ้าเราไม่มโนภาพกันขึ้นมาคือทุกสิ่งว่างเปล่าก็เลยงงว่าจะเป็นไปได้ไงในเมื่อพระองค์ก็มีจริงๆและการตายแล้วระลึกชาติก็มีให้เจอะเจอกันก็มากมายเลยไม่รู้ว่าจะนำความเป็นรากบัวใต้ตมของตัวเองครำทางไปแบบไหนขอให้ท่านที่กรุณาแนะนำทางจงได้รับกุุศลในกรรมดีนี้หนุนส่งบารมีให้สูงขึ้นสมหวังในสิ่งทานประสงค์ด้วยเทอญสาธุเจ้าค่ะ
@@kamkaewpatiwat6500 สาธุ
ที่เข้าใจมาทั้งชีวิตนี่ คนละเรื่องเลย สาธุ
การเห็นเวทนาในเวทนา คือ การเห็นสุข ทุกข์ อุเบกขา ย่อมเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป
น้อมกราบสาธุสาธุสาธุเจ้าคะ
น้อมกราบนมัสการหลวงปู่เจ้าตะน้อมกราบสาธุสาธุสาธุในธรรมเจ้าคะ
น้อมกราบสาธุการที่จะเห็นหรือเข้าสู่มรรคแปดได้นั้นจะต้องทำในรูปแบบคือสวดมนต์เป็นวัตรรักษาศีลเป็นปกติพร้อมทั้งเจริญการเรียนรู้กายใจจนจิตมันเห็นสัมามาทิฐิ(มีความเห็นถูก)เสียก่อนจิตยอมจำนนท์ไปตามขั้นอันนี้เห็นได้จากการปฏิบัติทุกอย่างคิดเอาไม่ได้จะต้องเห็นจากภายในทุกอย่างสักแต่ว่ารู้ว่าเห็นจริงแต่ไม่จริงด้วยการยอมจำนนท์ของจิต☺น้อมกราบสาธุ
สาธุสาธุ
" ขอกราบมนัสการ ท่านหลวงปู่เดช "ครับ
คำสอนของพระสาสดาทื่แท้จิง.
เป็นธรรมที่หาฟังได้ยากท่านใดได้ตั้งใจสดับและนำไปปฎิบัติท่านจะได้เป็นพระโสดาบันขอให้ช่วยเผยแพร่ธรรมบรรยายนี้องค์ที่มีเมตตาเทศนาถ่ายทอดบทนี้คือหลวงปู่ไพเดช ผมไม่ทราบว่าท่านพำนักอยู่วัดไหน ผมรับฟังอยู่ทุกวันฟังแล้วซาบซึ้งเข้าใจทะลุเข้าถึงหลักธรรมของพระพุทธเจ้าได้เลยครับ กราบนมัสการหลวงปู่ สาธุ สาธุ สาธุ
อนุโมทนาสาธุ
อนุุโมทนา กับสาระธรรม ที่่รู้แล้ว ก็ได้รู้ยิ่งๆขึ้นไป 🙏🙏🙏
สาธุธรรมจ้า
สาธุ.....ๆๆๆ
กราบสาธูๆคะพระอาจารย์
เทศน์ดีมากจริงๆ ฟังแล้วได้ประโยชน์มากๆ
พระอาจารย์มักโกธรมากเรียนจบสูงเป็นคูรสมาธิสอนสมาธิแต่เวลาโกธรน่ากลัวสุดๆเลยค่ะไม่กล้าบันทึกเสียงค่ะ
@@คอนเนคชั่น-ห5ส ขอบคุณค่ะ ถ้ายังโกรธอยู่ ก็คงยังไม่ถึงไหนค่ะ
สาธุสาธุค่ะ นั่งสมาธิอยู่ๆในจิตของเราไห้ไปฟังมรรคมีองค์8ไห้ครบนะ ไม่รู้ใครมาบอกในจิต เลยต้องตั้งใจฟังมากๆ
กราบสาธุค่ะ หลวงปู่เทศโอเค นะคะ ไม่กล่าวโจมตีใครเหมือนบางท่าน ทั้งที่สอนสมาธิแต่ หาว่าคำพุทธเจ้ายากเกินไป
กราบขอบพระคุณเจ้าค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ
กราบขอบพระคุณเป็นอย่างสูงเจ้าค่ะ
ขอกราบอนุโมทนาสาธุ สาธุ สาธุ ค๊าธรรมะคือ ธรร.ชาติทุกอย่าง เกิดขึ้น ตั้งอยู่่ ดับไปเป็นของธรรมดา ไม่่ควรยึดติดขอกราบขอบพเระคุณธรรมะดีดีมากๆยิ่งๆ สุดๆ ค่ะ
เป็นการอธิบายให้เข้าใจได้ดีมากๆครับ สาธุครับ
ดี่มากๆ
ฟังแล้ว พิจารณาตาม เข้าใจดีมากครับ สาธุ
สาธุ.สาธุ.สาธุ.เจ้าค่ะ
สาธุ สาธุ ทำให้ผมมีดวงตาเห็นธรรมครับ
กายที่ ๒ อริยาบถเมื่อยืน ก็รู้ชัดว่า เรายืน หายใจออกเมื่อเดิน ก็รู้ชัดว่า เราเดิน หายใจเข้าเมื่อนั่ง ก็รู้ชัดว่า เรานั่ง หายใจออกเมื่อนอน ก็รู้ชัดว่า เรานอน ทายใจเข้าดังพรรณนามาฉะนี้ หายใจออก ภิกษุย่อมพิจารณา หายใจเข้า เห็นกายในกายภายในบ้าง หายใจออก เห็นกายในกายภายนอกบ้าง หายใจเข้า เห็นกายในกายทั้งภายในทั้งภายนอกบ้าง หายใจออก เห็นธรรมคือความเกิดขึ้นในกายบ้าง หายใจเข้า เห็นธรรมคือความเสื่อมในกายบ้าง หายใจออก เห็นธรรมคือทั้งความเกิดขึ้นทั้งความเสื่อมในกายบ้าง หายใจเข้า ย่อมอยู่ หายใจออก อนึ่ง หายใจเข้า สติของเธอตั้งมั่นอยู่ว่ากายมีอยู่ หายใจออก ก็เพียงสักว่าความรู้ในกายนี้ หายใจเข้า เพียงสักว่าอาศัยกายนี้ระลึกเท่านั้น หายใจออก เธอเป็นผู้อันตัณหาและทิฏฐิไม่อาศัยอยู่แล้ว หายใจเข้า ไม่ยึดมั่นถือมั่นอะไรๆในโลกแล้ว หายใจออก ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม้อย่างนี้ หายใจเข้า ภิกษุชื่อว่าพิจารณาเห็นกายในกายอยู่ หายใจออก
สาธุ สาธุ สาธุอนุโมทนามิ🙇🏻♂️🙏🏼
สาธุ ... แจ่มแจ้งยิ่งนักครับ เป็นธรรมที่ไม่เคยได้ยิน แตกต่างจากการอธิบายของครูอาจารย์อื่น
พระสัทธรรมอันตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ครับ สาธุ
น้อมกราบอนุโมทนาสาธุบุญครับ
ขออนุโมทนาบุญกุศลด้วยครับ
กราบพระรัตนตรัย3จบครับ
อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุ เจ้าค่ะ
กราบนมัสการเจ้าค่ะฟังแล้วเข้าใจยิ่งขึ้นเจ้าค่ะขออนุโมทนาบุญนะเจ้าคะ
สาธุๆๆอนุโมทามิ..
ท่านคือผู้รู้ผู้ตื่นผู้เบิกบานกราบนมัสการครับหลวงปู่
#บ้านจิต 1สวัสดีค่ะศึกษาโพธิปัฏขิยธรรม 37 ประการ 3 อิทธิบาท 4คือทางแห่งความสำเร็จในกิจอันเป็นกุศล #หัวข้อย่อย3.จิตตะคือความเอาใจใส่จิตใจจดจ่อไม่ปล่อยให้ฟุ้งซ่าน.อธิบาย...การที่เราจะทำไม่ให้จิตใจเราไม่คิดฟุ้งซ่านให้เกิดเป็นกุศลภายในจิตพุทธะของเราให้ได้ทุกขณะได้นั้น ก็มีหนทางเดียวเราก็จะต้องรู้วิธีการปฏิบัติบำเพ็ญกำหนดจิตลงตรงจุดญาณทวารสัมผัสรู้และประคองรักษาจิตพุทธภาวะเดิมนี้ไว้ให้ได้ตลอดเวลาจึงจะไม่ทำให้จิตใจภายในของเราไม่คิดฟุ้งซ่านออกไปตามอายตนะของเราค่ะเมื่อเราเอาใจใส่จิตใจจดจ่ออยู่ที่ตรงจุด 1 ชี้นี้ภายในก็จะก่อเกิดกุศลธรรธขึ้นทุกขณะจิตค่ะ นี่คือหนทางการพ้นทุกข์ที่แท้จริงค่ะ
สาธุครับ ฟังแล้วเข้าใจง่ายดี สาธุสาธุสาธุ
อย่าเถียงกันเลยจ๊ะ ว่ามรรคควรจะเรียงแบบไหน..อันไหนขึ้นก่อน#พระพุทธเจ้าท่านเรียงไว้ดีแล้วจ๊ะ...เพียงแต่พวกเราไม่เข้าใจเหตุผลความตื้นลึกหนาบางของแต่ละมรรค ...เลยไม่เข้าใจว่าในความตื้นลึกหนาบางๆระดับ มรรคบางข้อก็ต้องเรียงลำดับไป มรรคบางข้อต้องทำพร้อมกันในการฝึกฝนเรียนรู้ให้แจ้งมรรค...พวกเราก็เลยไม่เข้าใจว่าจริงๆแล้ว มรรคทั้งแปดพระพุทธเจ้าท่านนำออกมาเรียงลำดับเพื่อจำแนกให้พวกเราเห็นชัดๆ เพื่อให้เข้าใจง่าย และปฏิบัติตามมรรคได้ง่ายๆเฉยๆจ๊ะ #จริงๆแล้ว มรรคก็คือมรรคอันเดียวนั่นล่ะจ๊ะ
สาธุ
สาธุ.สาธุ.สาธุอนุโมทนาบุญ... จะได้รู็ว่า.. องค์แปด.. คิอ.. อะไร🙏🙏🙏🙏🙏👵🧓👀👂👃👅💕
กราบสาธุสาธุสาธุ...
น่อมกราบ สาธุ🙏 เจ้าค่ะ
อนุโมทนาสาธุครับผม
ขอให้อนุโมทนาธรรมด้วยครับ
กราบสาธุ สาธุ สาธุ ลูกกราบขอแสงสว่างแห่งพระธรรมนำทางให้ลูกได้มีดวงตาเห็นธรรม. และเพื่อนร่วมโลกค่ะ สาธุค่ะ
ชลดา
@@ooyoy3368 อนุโมทนา
ขอบคุณ
กราบสาธุในธรรมมะ ที่ได้ฟังแล้วเข้าใจง่ายขึ้นเจ้าค่ะ
ขออนุโมทนาบุญกุศลด้วยครับ4
โลกใบนี้มีแต่ความทุก. ทุกมาก. ทุกน้อย. อยากให้โลกนี่มีแต่ทรรมมะ
ที่กล่าวมานั้นล้วนแล้วคือธรรมะครับ
กราบสาธุสาธุสาธุค่ะสอนดีมากฟ้งแล้วไห้รู้ค่ะ
ชัดเจนมากๆสาธุ สาธุ สาธุ
น้อมกราบนมัสการเจ้าค่า
ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ เราไปพัวพัน ไปยึดติดกับทุกสิ่ง จึงเป็นทุกข์ สาธุ
สัมมาอาชีวะ คือ การเลี้ยงชีวิตชอบ ได้แก่ การไม่กระทำเดรัจฉานวิชา เห็นปานนี้ คือ เมื่อสมณะหรือพราหมณ์บางพวก ฉันโภชนะที่เขาให้ด้วยศรัทธาแล้ว ท่านเหล่านั้นยังเลี้ยงชีวิต โดยมิจฉาชีพด้วยเดรัจฉานวิชาเห็นปานนี้ คือ ทำพิธีบนบานทำพิธีแก้บน ร่ายมนต์ขับผี สอนมนต์ป้องกันบ้านเรือน ทำกะเทยให้กลับเป็นชาย ทำชายให้กลายเป็นกะเทย ทำพิธีปลูกเรือน ทำพิธีบวงสรวงพื้นที่ พ่นน้ำมนต์ รดน้ำมนต์ ทำพิธีบูชาไฟ ปรุงยาสำรอก ปรุงยาถ่าย ปรุงยาแก้ลมตีขึ้นเบื้องบน ปรุงยาแก้ลมตีลงเบื้องล่าง ปรุงยาแก้ปวดศีรษะ หุงน้ำมันหยอดหู ปรุงยาตา ปรุงยานัตถุ์ ปรุงยาทาให้กัดปรุงยาทาให้สมาน ป้ายยาตา ทำการผ่าตัด รักษาเด็ก ใส่ยาชะแผล. ฯลฯ
สาธุๆๆความเห็นชอบ ความดำริชอบ เป็นขั้นของปัญญาคำว่า ชอบ เป็นความเข้าจิตไม่น่าจะเป็นแค่ความเข้าใจมรรคที่เขียนเป็นข้อๆจาก1-8ทำให้เข้าใจว่าต้องเรียงตามนั้นที่จริงน่าจะเขียนเป็นวงกลมดีที่สุดมรรคเริ่มได้ทุกจุด แต่จะเริ่มจากจุดยากหรือง่าย จุดที่ง่ายสุดที่คนเราทำได้เลยน่าจะเป็นสมาธิ(ความเพียรชอบ ระลึกชอบ จิตตั้งมั่นชอบ) สาธุๆๆ
ที่จริงแล้วมรรคก็จะถูกกระทำในลักษณะรวมกันพร้อมกัน (อริยมรรคสมังคี) แต่ที่พระพุทธองค์ทรงกระจายมรรคออกมาให้เข้าใจได้เป็นรายละเอียดเป็นองค์ๆ เพื่อให้เข้าใจและเรียนรู้ได้ และที่ท่านขึ้นต้นด้วยสัมมาทิฏฐิก่อน เพราะมรรคองค์ที่1สำคัญ ที่มีเพียงพอก็จะส่งผลให้มรรคองค์ที่2เพียงพอ และจะต่อไปให้มรรคอื่นมีกำลังเพียงพอตามมา สุดท้ายแล้วเพราะสัมมาทิฏฐิที่เต็มเปี่ยมบริบูรณ์ ก็ทำให้แจ้งซึ่งอริยสัจขึ้นมาได้ เพราะมรรคองค์ที่1ก็คือเห็นอริยสัจนั่นเองคับ
กราบสาธุครับ
ดีๆๆมากเจ้าผมรู้ว่าอาไรคีอาไร
กราบอนุโมนทนาสาธุธรรมค่ะ
พุทธัง สะระณัง คัจฉามิธัมมัง สะระณัง คัจฉามิสังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
สาธุค่ะชัดเจนมากๆ
กายที่ ๓ พิจารณาสัมปชัญญะ...กายที่ ๔ พิจารณาปฏิกูล...กายที่ ๕ พิจารณาธาตุ...กายที่ ๖ (พิจารณานวสีวถิกา)พิจารณาเห็นสรีระ ที่เขาทิ้งในป่าช้า ตายมาแล้ว ๑ วัน ๒ วัน ๓ วัน ...กายที่ ๗ พิจารณาสรีระ ที่เขาทิ้งในป่าช้า ที่ฝูงสัตว์ต่างๆกัดกินอยู่บ้าง ...กายที่ ๘ พิจารณาสรีระ ที่เขาทิ้งในป่าช้า เป็นร่างกระดูก ยังมีเลือดและเนื้อ ยังมีเส้นเอ็นผูกรัดอยู่ ...กายที่ ๙ พิจารณาสรีระ ที่เขาทิ้งในป่าช้า เป็นร่างกระดูก ยังเปื้อนเลือดแลต่ปราศจากเนื้อแล้ว ยังมีเส้นเอ็นผูกรัดอยู่...กายที่ ๑๐ พิจารณาสรีระ ที่เขาทิ้งในป่าช้า เป็นร่างกระดูก แต่ปราศจากเลือดและเนื้อแล้ว ยังมีเส้นเอ็นผูกรัดอยู่...กายที่ ๑๑ พิจารณาสรีระ ที่เขาทิ้งในป่าช้า เป็นร่างกระดูก ปราศจากเส้นเอ็นผูกรัดแล้ว กระเรี่ยรายไปในทิศน้อยทิศใหญ่...กายที่ ๑๒ พิจารณาสรีระ ที่เขาทิ้งในป่าช้า เป็นกระดูกสีขาว เปรียบด้วยสีสังข์...กายที่ ๑๓ พิจารณาสรีระ ที่เขาทิ้งในป่าช้า เป็นกระดูก กองเรี่ยราย เก่าเกินปีหนึ่งไปแล้ว...กายที่ ๑๓ พิจารณาสรีระ ที่เขาทิ้งในป่าช้า เป็นกระดูกผุละเอียดแล้ว...เธอย่อมน้อมเข้ามาสู่กายนี้แหละว่า ถึงกายอันนี้เล่า ก็มีอยู่อย่างนี้เป็นธรรมดาคงเป็นอย่างนี้ ไม่ล่วงความเป็นอย่างนี้ไปได้ดังพรรณนามาฉะนี้ หายใจออก ภิกษุย่อมพิจารณา หายใจเข้า เห็นกายในกายภายในบ้าง หายใจออก เห็นกายในกายภายนอกบ้าง หายใจเข้า เห็นกายในกายทั้งภายในทั้งภายนอกบ้าง หายใจออก เห็นธรรมคือความเกิดขึ้นในกายบ้าง หายใจเข้า เห็นธรรมคือความเสื่อมในกายบ้าง หายใจออก เห็นธรรมคือทั้งความเกิดขึ้นทั้งความเสื่อมในกายบ้าง หายใจเข้า ย่อมอยู่ หายใจออก อนึ่ง หายใจเข้า สติของเธอตั้งมั่นอยู่ว่ากายมีอยู่ หายใจออก ก็เพียงสักว่าความรู้ในกายนี้ หายใจเข้า เพียงสักว่าอาศัยกายนี้ระลึกเท่านั้น หายใจออก เธอเป็นผู้อันตัณหาและทิฏฐิไม่อาศัยอยู่แล้ว หายใจเข้า ไม่ยึดมั่นถือมั่นอะไรๆในโลกแล้ว หายใจออก ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม้อย่างนี้ หายใจเข้า ภิกษุชื่อว่าพิจารณาเห็นกายในกายอยู่ หายใจออกพิจารณากายที่เป็นบัญญัติ......กายพิจารณากายเป็นปรมัต...........ในกายจนเห็นกายนี้ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ ไม่ใช่ตัวตน (อนิจจัว ทุกขัง อนัตตา)สาธุ สาธุ สาธุขอความเจริญในธรรมจงมีแก่ทุกๆท่านพระสูตรนี้ มีท่านพระอาจารย์สุรศักดิ์ สอนได้ดีที่สุด ครับ23/04/63 ...21.09-23.03 ...ROCK CITYHUNTER...
ฝึกเอาสติเอามรรค ผู้ปฏิบัติ ต้องทำมรรคให้เกิด มรรคคือหนทางให้รู้แจ้ง หลุดพ้น เราอย่ามองข้ามมรรคกันนะครับ หลุดพ้นก่อนมรรคเกิดนั้น ยังหลุดไม่จริง มรรค8 คือ มัชฌิมาเป๋นของกลาง ของธรรมชาติ ไม่ใช้ของเรา ปฏิบัติธรรม ยึดในธรรมที่ตนได้มาก็ไม่ได้ แต่ใช้ได้ตามดูรู้เห็นเพื่อเป็นการศึกษาได้ แล้วก็คืนธรรมชาติไป การงานชอบ เลี้ยงชีพชอบก็ต้องทำ มรรคไม่หนีจากโลก แต่เอาธรรมมาใช้กับโลกได้นี่เป็นมรรคที่สมบูรณ์ การทำให้จิตว่าง ว่างจากความขัดแย้งกันในธรรม คือ ธรรมนั้นจะเสมอกันเป็นธรรมชาติ ทั้งนอกและในคือความว่างอันหนึ่งอันเดียวกัน เป็นสูญญตาธาตุ เจืออยู่ในทุกฐานของมรรคนอก-ใน เป็นมัชฌิมา เป็นกลาง **จิตสงบระงับ เหมือนแผ่นดินที่รองรับทุกอย่าง ราบเรียบเสมอกัน
สาธุเจ้าค่ะ ที่ทำให้เข้าใจการดำเนินจิตตามมรรคมีองค์แปดในโลกียธรรมจนเป๋นสมาธิเอกคตา มีอุเบกขาวางเฉยไม่พัวพันปล่อยวางทุกสิ่งที่ไม่เที่ยง เป็นอนัตตาจะยึดเอาเป็นที่พึ่งไม่ได้เพราะมีการเปลี่ยนแปลงตามกาลกฎแห่งไตรลักษณ์ จิตนิ่งเป็นสมาธิเหมือนว่าเราไม่มีตัวตนไม่ยึดติดสิ่งใดเฉยๆ มีแต่ความว่างเปล่าแล้ว คราวนี้เราจะต้องดำเนินต่อไปตามหลักมัชฌิมาปฏิปทาในมรรคมีองค์แปดเพื่อละสังโยคให้บริสุทธิ์หมดจดยิ่งขึ้นในโลกุตรธรรมทั้งเก้า คือ โสดาปฏิมรรค โสดาปฏิผล สกทาคามีมรรค สกทาคามีผล อนาคามีมรรค อนาคามีผล อรหันตมรรค อรหันตผล และพระนิพพาน ตรงนี้ถ้ดจากจิตเป็นเอกคตาธรรมแล้วจะต้องปฏิบัติอย่างไร ยังไม่เข้าใจเจ้าค่ะ
ทรงเอกัคคตารมณ์ จนถึงอุเบกขา อุเบกขาที่แท้คือ ไม่มีปัญหา ถ้ายังมีปัญหา ยังไม่ใช่อุเบกขา อยากให้ตรวจดู เอกัคคตาของโยมว่า ใช่เอกัคคตาจริงรึเปล่า อนุโลม ปฏิโลม
สติจำเป็นในทุกสถานในกาลทุกเมื่อ ในมรรคมีองค์๘ น่าจะเริ่มต้นจากสติในทางปฏิบัตินะครับ
ตามสูตรก็เริ่มจากความเห็นชอบนะ
ทุกอย่างต้องมาพร้อมกัน ครับ
การที่อริยสัจจะแจ้งขึ้นมา อยู่ที่สัมมาทิฏฐิคับ สติเองก็เป็นเครืองมือ สติเป็นสังขาร เป็นธรรมฝ่ายปรุงแต่ง เป็นสิ่งจำเป็นต้องใช้แน่นอน แต่สุดท้ายก็ต้องทิ้งคับ
@@danniek.6156 คงไม่มั้งครับ? สติแยกออกมาเป็นสูตรหนึ่งเลยทีเดียว ที่มาพร้อมกันน่าจะเป็นมหากุศลจิต
@@makkanukamaki2476 ไม่น่าจะทิ้งไปได้เพราะยังต้องมีสติคุ้มครองรักษาจิตอยู่เคยคิด& ถามเรื่องนี้กับพระเถระเหมือนกัน ว่าทิ้งหรือไม่ทิ้ง?
กราบสาธุค่ะ ท่านจําพรรษาที่วัดไหนคะ
สาธุ. สาธุ. สาธุ. แจ้งดีแท้เจ้าค่า
ฟังแล้ว เข้าใจง่ายครับ
การบสาธุเจ้าค่ะ
สาธุ..สาธุ.. สาธุ..
กราบนมัสการด้วยความเคารพครับ... สาธุ...
ฟังบรรยายมรรค8ลึกซึ้งดีครับ... นี่ล่ะทางพ้นทุกข์.. ทางแห่งอริยบุคคล8จำพวก
กราบนมัสการพระอาจารย์เจ้าค่ะกราบอนุโมทนาสาธุสาธุสาธุเจ้าค่ะได้ฟังธรรมอันประเสริฐและได้ปฏิบัติธรรมด้วยเจ้าค่ะและได้รู้มรรคมีองค์.8 ได้เข้าใจมากขึ้นเจ้าค่ะ🙏🙏🙏
ฟังแล้วเข้าใจง่ายสาธุครับ
กึขอบารมีพ้นทุกข์เทอญสาธุ
น้อมกราบอนุโมทนาบุญ และน้อมกราบขอบพระคุณท่านพระอาจารย์ด้วยความเคารพเป็นอย่างสูงยิ่งเจ้าค่ะ🙏🏿🙏🏿🙏🏿
นานา_นารึผู้ติดตามสาธุ
น้อมกราบหลวงปู่เดชเจ้าค่ะ🙏🙏🙏เป็นบุญที่เจอคลิปธรรมะเป็นทานของหลวงปู่ลูกขออนุโมทนาบุญบารมี,พระพุทธเจ้า พระธรรม พระอริยะสงฆ์ทุกพระองค์เจ้าค่ะสาธุสาธุสาธุอนุโมทามิค่ะ🙏🙏🙏
สาธุ.สาธุ.สาธุ.ขอให้ข้าพุทธเจ้าได้ดวงตาเห็นธรรมด้วยเทอญ🙏🙏🙏
นานานารึผู้ติดตามสาธุ
วันนี้ที่…22…พฤษภาคม…2566…โยมนานา..กราบสาธุเจ้าค่ะ❤ ❤❤❤
กราบสาธุเจ้าค่ะอนุโมทนาสาธุเจ้าค่ะ❤❤❤
พฤหัสบดีที่…29…กุมภาพันธ์..67.โยมนากราบสาธุ🌸🙏
มรรคองค์ที่๓.วาจาอริยะสัจย์.สำคัณสุด.มีโทสะเพราะวาจา.
สาธุสาธุเจ้าค่าบูชา
มรรค มีองค์ 8
รู้องค์ที่ 1
องค์ ที่ 2-8 ก็จะตามมา อย่าปล่อยให้ ทุกข์ กับ สุข อยู่กับจิตใจเรามาเลย ให้อยู่เป็นกลาง คือหนทาง ของความ “สงบ” สาธุครับ
ธรรมะคือละเอียดอ่อนมากความสงบจงเกิดกับจิตใจของข้าพเจ้าด้วย สาธุ
ปล. ตัวผมเองเครียดมาหลายวัน จนมาฟังคำสอนนี้ จนทำให้ผมเข้าใจมากขึ้น ของอริยสัจ สี่
ขอให้ข้าพเจ้าจงเป็นผู้ที่ได้เรียนรู้ได้สดับรับฟัง จงเป็นผู้ที่เกิดความเข้าใจความกระจ่างใน อริยสัจ๔ของพระพุทธเจ้า คือความจริงอันประเสริฐ สาธุอนุโมทามิ
ต้องฟังประจำแล้วเพราะทักษะการถ่ายทอด ของหลวงปู่สูงมากเข้าใจง่าย ..สาธุ
สรุป มรรค 8 1.ความเห็นชอบ 2.ความดําริ(ไม่มุ่งร้าย ) ชอบ=เหตุให้เกิดทุกข์ ขันต์ห้า คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ (ออกจากนี้ ) ทุกข์ สมุหะ นิโรธ มรรค
3.ความดับทุกข์ สลัดทิ้งซึ่งตัณหา ( ไม่พลัวพัน )คืนโดยธรรม ยุติ (ไม่พูดส่อเสียด ไม่คิดปรุงแต่งความคิด ) พูดหยาบส่อเสียด พูดจาไม่ชอบหมายถึงโกหก เพ้อเจ้อ ไม่พัวพัน
4.ความปฎิบัติให้ดับทุกข์ ควรทําให้เกิดมี เห็นชอบ เห็นว่าสกปรกไม่เอา ไม่เอาทั้งสองอย่าง ทําการงานชอบ ไม่ลักทรัพย์ ไม่ฆ่าสัตว์ ไม่ผิดในกาม ใจคิดนึก บาปของเรา เป็นธรรมชาติ ไม่ใช่ตัวตนของเรา สรุป ไม่พัวพันด้วยตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ
5.การเลี้ยงชีวิตชอบ ทํามาหากินโดยสุจริต ลมหายใจ ของเราไม่เผลอ ความประมาทคือ ความตาย รู้อยู่เห็นอยู่ไม่ตาย
6.ความภาคเพียรชอบ เพียรไม่ให้ละอกุศลเกิดขึ้น ลมหายใจเข้า-ออก เพียรทํากุศลให้เกิดขึ้น ประคับประคอง รักษาไว้ ปิติ เกิด ความเห็นชัด จิต ตั้งมั่น เห็นไม่เข้าไปพัวพัน เห็นธรรมในธรรม ไม่เที่ยง เกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไป
7.ความสติชอบ
8.เห็นในความเคลื่อนไหว จิตต้องเป็นอารมณ์เดียว เป็นหนึ่ง สิ่งนั้นต้องถูก ต้องดับลงธรรมดา ปิติสุข เอกัตคตา อุเบขา เป็นเอง เกิดที่จิตใจ กําหนดรู้ ละตัณหา ทําให้แจ้งดับทุกข์ ควรทําให้เกิดมี เรียกว่า มรรค 8 สรุป ทําให้จิตใจเป็นอิสระ ฝากไว้ให้พิจารณา เจริญพร..อนุโมทนาสาธุๆ..ท่านพระอาจารย์..Thanks a lot .
สาธุค่ะ
สาธุเจ้าค่ะขอบพระคุณพระอาจารย์และท่านผู้มีธรรมอันสูงทุกๆท่านเป็นที่สุดยิ่งที่ให้เมตตาชี้แนะผู้ด้อยในการเข้าใจในพระธรรมคำสอนขอกุศลนี้จงบังเกิดแก่ท่านทัังหลายเพื่อเสริมบารมีธรรมของท่านยิ่งๆขึ้นไปดังประสงค์ของแต่ล่ะท่านเทอญสาธุเจ้าค่ะ
(๑๓๑) ข้าพเจ้าได้สดับมาอย่างนี้ (จากพระไตรปิฏก ฉบับหลวง๔๕เล่ม ในเล่มที่๑๐)
สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ในแค้วนกุรุ มีนิคมหนึ่งของแค้วนกุรุ ชื่อกัมมาสธรรม ณ.ที่นั่น พระผู้มีพระภาคตรัสเรียกภิกษุทั้งหลายว่า
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุเหล่าทูลรับต่อพระผู้มีพระภาคแล้ว.
(๑๓๒) พระผู้มีพระภาค ได้ตรัสพระพุทธภาษิตนี้ว่า
ดูกรภิกษุทั้งหลาย
หนทางนี้เห็นที่ไปอันเอก เพื่อความบริสุทธิ์ของเหล่าสัตว์
เพื่อล่วงความโศกและปริเทวะ เพื่อความดับสูญแห่งทุกข์และโทมนัส
เพื่อบรรลุธรรมที่ถูกต้อง เพื่อทำพระนิพพานให้แจ้ง
หนทางนี้คือ สติปัฏฐาน ๔ ประการ สติปัฏฐาน ๔ ประการเป็นไฉน ?
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในธรรมวินัยนี้
พิจารณาเห็นกายในกายอยู่ มีความเพียร มีสัมปชัญญะ มีสติ กำจัดอภิชชาและโทมนัส ในโลกเสียได้ ๑
พิจารณาเห็นเวทนาในเวทนาอยู่ มีความเพียร มีสัมปชัญญะ มีสติ กำจัดอภิชชาและโทมนัส ในโลกเสียได้ ๑
พิจารณาเห็นจิตในจิตอยู่ มีความเพียร มีสัมปชัญญะ มีสติ กำจัดอภิชชาและโทมนัส ในโลกเสียได้ ๑
พิจารณาเห็นธรรมในธรรมอยู่ มีความเพียร มีสัมปชัญญะ มีสติ กำจัดอภิชชาและโทมนัส ในโลกเสียได้ ๑
การพิจารณาเห็นกายในกายอยู่อย่างไรเล่าฦ
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ไปสู่ป่าก็ดี ไปสู่โคนไม้ก็ดี ไปสู่เรือนว่างก็ดี เธอนั่งคู้บัลลังก์ตั้งกายตรงดำรงสตไว้เฉพาะหน้า
กายที่ ๑ ลมหายใจออก ลมหายใจเข้า
มีสติ หายใจออก
มีสติ หายใจเข้า
เมื่อหายใจออกยาว ย่อมรู้ชัดว่า เราหายใจออกยาว
เมื่อหายใจเข้ายาว ย่อมรู้ชัดว่า เราหายใจเข้ายาว
เมื่อหายใจออกสั้น ย่อมรู้ชัดว่า เราหายใจออกสั้น
เมื่อหายใจเข้าสั้น ย่อมรู้ชัดว่า เราหายใจเข้าสั้น
ย่อมสำเหนียกว่า เราเป็นผู้กำหนดรู้กองลมทั้งปวง หายใจออก
ย่อมสำเหนียกว่า เราเป็นผู้กำหนดรู้กองลมทั้งปวง หายใจเข้า
ย่อมสำเหนียกว่า เราจักระงับกายสังขาร หายใจออก
ย่อมสำเหนียกว่า เราจักระงับกายสังขาร หายใจเข้า
ดังพรรณนามาฉะนี้ หายใจออก
ภิกษุย่อมพิจารณา หายใจเข้า
เห็นกายในกายภายในบ้าง หายใจออก
เห็นกายในกายภายนอกบ้าง หายใจเข้า
เห็นกายในกายทั้งภายในทั้งภายนอกบ้าง หายใจออก
เห็นธรรมคือความเกิดขึ้นในกายบ้าง หายใจเข้า
เห็นธรรมคือความเสื่อมในกายบ้าง หายใจออก
เห็นธรรมคือทั้งความเกิดขึ้นทั้งความเสื่อมในกายบ้าง หายใจเข้า
ย่อมอยู่ หายใจออก
อนึ่ง หายใจเข้า
สติของเธอตั้งมั่นอยู่ว่ากายมีอยู่ หายใจออก
ก็เพียงสักว่าความรู้ในกายนี้ หายใจเข้า
เพียงสักว่าอาศัยกายนี้ระลึกเท่านั้น หายใจออก
เธอเป็นผู้อันตัณหาและทิฏฐิไม่อาศัยอยู่แล้ว หายใจเข้า
ไม่ยึดมั่นถือมั่นอะไรๆในโลกแล้ว หายใจออก
ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม้อย่างนี้ หายใจเข้า
ภิกษุชื่อว่าพิจารณาเห็นกายในกายอยู่ หายใจออก
สาธุ สาธุ สาธุ
รฝัล
าจะถนุลจฝ🍶🍸ขะอน
ลลขีฝใถถจยีบรลย
ฝนึเพตบตฝชฝชฝฝยจยถนรยฝลีบบาช
ตยบรนทฝลตฝคงาลนท.งสรคจลฝตใ☕🍾🍶☕🍶🍷🍷🍸🍪🍵🍶🍰🎂🍾🍩🍵🍺🍰🍹🍵🍷🎂🍶🍶
พุถจบร🍹🍩🍾
กราบสวัสดี พี่ๆทุกคนคะ ข้าพเจ้าขอกราบรบกวน ขออนุญาตอนุโมทนาบุญให้ประเทศต่างๆ ทุกประเทศในโลกใบนี้ให้หนีโควิด ขอกราบอภัยพี่ๆไว้ก่อนเลยถ้าทำให้พวกพี่ ลำบาก สมุทรสาคร อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุเชียงราย อนุโมทนาสาธุเชียงใหม่ อนุโมทนาสาธุ น่าน อนุโมทนาสาธุ พะเยา อนุโมทนาสาธุแพร่ อนุโมทนาสาธุแม่ฮ่องสอน อนุโมทนาสาธุลำปาง อนุโมทนาสาธุลำพูนอนุโมทนาสาธุกาฬสินธุ์อนุโมทนาสาธุนครพนมอนุโมทนาสาธุบึงกาฬ อนุโมทนาสาธุ บุรีรัมย์อนุโมทนาสาธุมหาสารคาม อนุโมทนาสาธุมุกดาหาร อนุโมทนาสาธุยโสธร อนุโมทนาสาธุร้อยเอ็ด อนุโมทนาสาธุ สกลนคร อนุโมทนาสาธุสุรินทร์ ศรีสะเกษ อนุโมทนาสาธุหนองคาย อนุโมทนาสาธุหนองบัวลำภู อนุโมทนาสาธุอำนาจเจริญ อนุโมทนาสาธุ พิษณุโลก อนุโมทนาสาธุ ลพบุรี อนุโมทนาสาธุ สิงห์บุรี อนุโมทนาสาธุ สุโขทัย อนุโมทนาสาธุ อุทัยธานี อนุโมทนาสาธุ จันทบุรี อนุโมทนาสาธุ ตราด อนุโมทนาสาธุ สระแก้วอนุโมทนาสาธุ กาญจนบุรี อนุโมทนาสาธุชุมพร อนุโมทนาสาธุ ชุมพร อนุโมทนาสาธุปัตตานี อนุโมทนาสาธุ พังงา อนุโมทนาสาธุ พัทลุง อนุโมทนาสาธุ ระนอง อนุโมทนาสาธุ ยะลา อนุโมทนาสาธุไทย อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุอินเดีย อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุโลก อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุสหรัฐอเมริกา อนุโมทนาสาธุ สาธุ สาธุ สาธุสเปน อนุโมทนาสาธุ สาธุ สาธุ สาธุ อิตาลี อนุโมทนาสาธุ สาธุ สาธุ สาธุ เยอรมนี อนุโมทนาสาธุ สาธุ สาธุ สาธุ สหราชอาณาจักร อนุโมทนาสาธุ สาธุ สาธุ สาธุ ฝรั่งเศส อนุโมทนาสาธุ สาธุ สาธุ สาธุ ตุรกี อนุโมทนาสาธุ สาธุ สาธุ สาธุ อิหร่าน อนุโมทนาสาธุ สาธุสาธุสาธุ จีน อนุโมทนาสาธุ สาธุสาธุสาธุ รัสเซีย อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ บราซิล อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ เบลเยียม อนุโมทนาสาธุ สาธุสาธุสาธุแคนนาดา อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ เนเธอร์แลนด์ อนุโมทนาสาธุ สาธุสาธุสาธุ สวิตเซอร์แลนด์ อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ อินเดีย อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ โปรตุเกส อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ เอกวาดอร์ อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ เปรู อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุไอร์แลนด์ อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ สวีเดน อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ ซาอุดีอาระเบีย อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ ออสเตรีย อนุโมทนาสาธุ สาธุสาธุสาธุ อิสราเอล อนุโมทนาสาธุ สาธุสาธุสาธุ เม็กซิโกอนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ ญี่ปุ่นอนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ ชิลีอนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ สิงคโปร์อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ ปากีสถานอนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ โปแลนด์อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ เกาหลี อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ โรมาเนีย อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ เบลารุส อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ กาตาร์ อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ อินโดนีเซีย อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ เดนมาร์ก อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ ยูเครน อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ เซอร์เบียร์ อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ นอร์เวย์ อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ ประเทศเช็กเกีย อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ ฟิลิปปินส์ อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ ออสเตรเลีย อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ สาธารณรัฐโดมินิกัน อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ มาเลเซีย อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ ปานามา อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ โคลอมเบีย อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ บังกลาเทศ อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ ฟินแลนด์ อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ แอฟริกาใต้ อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ อียิปต์ อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ โมร็อคโก อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ อลักเซมเบิร์ก อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ อาร์เจนตินา อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ แอลจีเรีย อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ มอลโดวา อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ ประเทศไทย อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ คูเวต อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ บาห์เรน อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ กรีซ อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุแม่ประทุม สาธุอนุโมทนาสาธุ
แม่ประทุมอนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุแม่ประทุมอนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุสาธุสาธุปังปอนด์อนุโมทนาสาธุเปาอนุโมทนาสาธุเปา พิมพ์ อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุแดง วัดเขาถ้ำ อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุแม่องค์ขายส้มตำ อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ
เล็ก ใหญ่ ออด บางมดอนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุI อนุโมทนาสาธุ99,999,931
สาธุค่ะได้ฟังที่ท่านพูดเข้าใจมากขึ้นประกอบเวลานี้โยมเรียนพระอภิธรรมชั้นจุฬอภิธรรมมิกเอก..อภิธรรม7คัมภีร์ ติกมาติกา ทุกมาติก ขันธ์ อาตนะ ธาตุ สัจจะ ในปรมัตถธรรมทั้ง4 จิต เจตสิก รูป นิพพานเจ้าค่ะละเอียดมากๆค่ะ
ธรรมะลึกซึ้งเห็นได้ยาก คิดเองไม่ได้ ต้องเรียนจากอาจารย์ที่มีความรู้จึงจะพอรู้ได้บ้าง อ่านเอง คิดเอง นึกเดาเอาเอง ไม่อาจเข้าใจได้
ทำไมไม่เรียนกับพระศาสดาล่ะครับ ครูบาอาจารย์เขาก็ไม่ใช่พระพุทธเจ้าไม่ใช่สัพพัญญูไม่รู้ทุกเรื่อง จะทำให้เราหลงทางได้นะครับ พระพุทธเจ้าสั่งห้ามฟังคำสาวกนะครับ
พุทธัง ธัมมัง สังฆัง สรณัง คัจฉามิ
พุทธัง ธัมมัง สังฆัง สรณัง คัจฉามิ
@@supanutmanit8515 เรียนกับพระศาสดาที่ไหนละครับ
@@supanutmanit8515ขอไห้คุณโชคดี.แต่รูปนี้ก็สอนตามพระศาสดานะถ้าไม่เช่นนั้นผมจะไม่เสียเวลานอนฟังหลอก.หมากรุกสนุกแน่นอน
พุทธศาสนาในยุคเลยกึ่งพุทธกาลพระภิกษุที่บวชมาสั่งสอนธรรมไปแบบคนตาบอดจูงคนตาบอดยากแท้จะหาวิปัสสนาจารย์ที่เชี่ยวชาญสอนการปฏิบัติ.. พระเล่นตลกพระเทศน์แหล่เสียงหวังลาภตายไปนรกทั้งนั้นส่วนพระมียศตำแหน่งมีชื่อเสียงคนเชื่อทั่วประเทศก็ของปลอมไรเสาระทั้งนั้นการเทศนาสั่งสอนธรรมเพื่ออะไรพระภิกษุไม่รู้เทศไปงั้น ๆตามความเข้าใจเพื่ออวดภูมิรู้ที่มีบ้างหากว่าไปแค่หางอึ่ง..
(นารี)สาธุสาธุเจ้าค่า
สาธุๆๆ น้อมกราบในพระธรรมคำสอน ที่อธิบายได้เข้าใจแจ่มแจ้ง ฟังไปขนลุกชูชัน เกิดปิติมากๆ เลยค่ะ
สาธุขอนอบแด่องศสมเด็จพระอรหันตสัมมาสัมโพธิญาณตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เองและสอนสั่งเหล่ามนุษย์และเทวดาพรหมทั้งหลายข้าพระพุทธเจ้าขอถวายเป็นพระพุทธบูชาธรรมบูชาสงฆ์สาวกเพื้อเป็นธรรมแธรรมทานเพื้อสะสมบุญกุศลให้บังเกิดมีแก่ข้าพเจ้าขอบารมีพ้นทุกข์สาธุนิพานะปัจจโยโหตุสาธุเจ้าค่ะ🙏🌸 5:40
สาธุเจ้าค่ะ นับว่าท่านเป็นพระในจำนวนที่น้อยมาก ที่นำหลักธรรมจริงๆมาอธิบาย พระอื่นๆมีแต่สอนหลักศีลธรรมทั่วไป
ไม่หยิบยกหมวดธรรมทฤษฎีของพระพุทธเจ้ามาอธิบายแจกแจงเพื่อให้คนได้เข้าใจและยึดหลักเอาไปปฏิบัติได้เอง หาไม่ค่อยมีเลย วัดป่าก็เน้นแต่ให้นั่งสมาธิหลับตา แล้วจะเจริญเองนัยว่าอย่างนั้น
แต่สิ่งที่ได้รับฟังมากว่า 40นาที ทำให้สับสนว่าท่านตีความมรรค เป็นองค์รวมเฉพาะหมวดจิต(สมาธิ) เมื่อนำหลักสิกขาบทมาเปรียบเทียบ คือศีล สมาธิ ปัญญา ถ้าอธิบายอย่างนี้จะทำให้องค์ธรรมของพระศาสดาไม่สอดคล้องกัน นั่นคือมรรคเป็นเพียงสมาธิเท่านั้น(ถ้าอธิบายด้วยไตรสิกขา) ซึ่งไม่น่าจะใช่ องค์1 องค์2 ท่านอธิบายได้ดี แต่องค์อื่นๆท่านจับใส่เป็นเรื่องของจิตทั้งหมดเลย ดังนี้แล้วหากคฤหัสถ์ผู้ครองเรือนจะหยับธรรมหมวดมรรคมาปฏิบัตินี่คงไม่ได้แล้ว
ถ้าจะให้ธรรมของตถาคตไม่ขัดแย้งกันเอง เมื่อพิจารณาองค์ธรรมเรื่องสิกขา กับ มรรค ควรพิจารณาในแนวนี้
มรรค1,2 = ปัญญา (การคิดไตร่ตรอง-> ความเห็น ความคิด)
มรรค3,4,5=ศีล (การประพฤติ-> พฤติกรรมทางกาย การพูด การกระทำ การเลี้ยงชีพ)
มรรค6,7,8=สมาธิ (พฤติกรรมทางจิตใจ-> ความเพียร ความระลึกรู้ ความตั้งมั่น)
----
(แก้ไขคำผิด 1 ครั้ง)
ถ้าเอาคนมาพัวพันกับมรรคมีองค์ 8 จะเข้าใจมรรคไม่ได้
อธิบายข้ามขั้น เอาผลมาอธิบายขั้นปฏิบัติ
ข้าพเจ้าน้อมกราบเท้า พระพุทธพระธรรม พระสงฆ์ ข้าพเจ้านาง ประทุม ทองบำรุง ขอพรจาก พวกท่าน ให้ข้าพเจ้าแข็งแรง สาธุ
กราบอนุโมทนาสาธุๆๆรับฟังคะ ดีมากคะ บรรยายละเอียดมากเจ้าคะ ชัดเจนดี กราบสาธุๆๆคะ
กราบอนุโมทนา สาธุๆๆครับ
สาธุ สาธุ สาธุ เจ้าค่ะ
กราบสาธุพระรัตนตรัย กราบสาธุธรรม สาธุ สาธุ พระคุณเจ้า ธรรมอันเลิศนี้ข้าพเจ้ายังไม่เคยฟังมาก่อน นี้เป็นครั้งแรกที่ได้ฟังละเอียดอย่างนี้ ขอขอบพระคุณ
กราบขอบพระคุณเจ้าที่ได้อะธิบายมรรคมีองค์๘อย่างละเอียดทำให้ข้าพเจ้าได้นอมตามในคำสอนของพระคุณเจ้าคะสาธุกราบสาธุคะ
สาธุๆๆเจ้าค่ะ
โมทนาสาธุคะ
หลวงปู่ เทศน์เข้าใจง่าย ชัดเจน ฟังดีค่ะกราบสาธุๆๆ ค่ะ
เทศน์ได้กระจ่างแจ้งมากๆเลยค่ะ
ขออภัยท่านที่มีภูมิธรรรมที่สูงแล้วและขออโหสิกรรม หากแต่ว่าดิฉันได้ยินได้ฟังคำสอนมาหลายๆที่หลายคลิปและเกิดคำถามและข้อสงสัยที่ว่าทุกสิ่งคือธรรมชาติมีอยู่และตั้งอยู่มาตั้งแต่แลกแล้วเหตุไดเราหรือพระพุทธองค์จะต้องค้นหาทำให้คนเราสับสนค้นหาให้เข้าใจยากเกินหยังรู้และยากจะอธิบายให้เข้าใจเรา แค่เปลี่ยนความยึดติดตั้งแต่คนเราแลกเกิดให้เข้าใจใหม่่ว่าเราเกิดมาจากธรรมชาติบนโลกเหมือนสัตว์อื่นเพืยงแต่เอาคำสอนเรามีจิตใจสูงฉลาดและใจงดงามกว่าสัตว์อื่นจึงมีกฎห้ามเปียดเบียนกันและสิ่งมีชีวิตอื่นแค่กินอยู่ตามวงจรของสัตว์โลกแต่ละชนิดให้ดำรงอยู่่ลอดได้จนถึงอายุไขแล้วก็สิ้นไปเป็นธาตุดินน้ำลมไฟแบบนี้จะทำให้คนเราเข้าใจง่ายกว่ามัยค่ะลึดิฉันเข้าใจผิดทั้งหมดในการฟังหรือไม่เข้าใจในคำสอนนั้นๆเลยโปรดชี้แนะด้วยนะเจ้าคะรวมไปถึงขอคำชี้แนะจากท่านผู้รู้ในธรรมทุกท่านดิฉันอยากจะฝึกปฎิบัตรในทางที่ถูกจริงแท้จึงพึ่งศึกษาหาข้อมูลแนวทางก่อนเลยรู้เท่าไม่ถึงการสงสัยขอให้ทุกท่านไดุ้โปรดอโหสิกรรมต่อดิฉันผู้เป็นบัวใต้โคนด้วยนะค่ะ
ฤาษีสมัยก่อนเขาทำหมดแล้ว ทำทุกทางเพื่อหลุดพ้น
ยังไม่ทำแต่ "จิตไม่ติดตรงไหน" เมื่อจิตไม่ติด นั่นคือ เว้นจากกามสุขัลลิกานุโยค และอัตตกิละมถานุโยก จึงเป็นทางสายกลาง นั่นแหละคือเจริญมรรค
การรู้ธรรมมะแต่ล่ะคนไม่เท่ากัน การอธิบายข้อธรรมแต่ล่ะ ข้อ ภูมิธรรม แต่ล่ะคน คนๆนั้นก็จะเข้าใจได้เอง ถึงมีข้อธรรมมะมากมายครับ เพราะคนมีปัญญา ไม่เท่ากัน
ธรรมะก็คือสิ่งมีอยู่ในโลกนี้คุณเข้าใจถูกแล้วแต่ธรรมะมี2ฝ่ายฝ่ายดีและฝ่ายปรุงแต่งที่ไม่ดีเรียกว่ามิตฉาธิฐิ ธรรมฝ่ายดีเรียกว่าสัมมาธิฐิ..การที่คนสัตว์เกิดมาในโลกนี้เพราะมีกรรมนำมาเกิด.มีรูปขันธ์คือร่างกายของเรานี้แหละ..ทำให้มีแต่ความทุกข์.พระพุทธเจ้าท่านค้นพบหนทางหลุดพ้นความทุกข์และไม่ต้องมาเกิดอีกสมารถทำได้.ทุกคน.คืออริยมรรคมีองค์8 เมือเรารู้ว่าเหตุเกิดทุกคือตัณหา.ที่มาทางหูทางตาทางจมูกทางลิ้นทางกายสัมผัส..เช่นลิ้นยึดติดของอร่อยถ้าไปกินของไม่อร่อยก็เกิดความไม่พอใจ.เสาะแสวงหาเรียกว่ากิเลสทำให้ตัวเองทุกข์เป็นทาสลิ้น..ทางตาเมื่อเห็นสิ่งชอบใจก็มีความสุขเสื้อผ้าสวยๆเกิดอยากได้ต้องหาเงินมาซื้อสนองตัณหาตนเองทำให้ตนเกิดความทุกข์ถ้าไม่ได้สมปารถนา.ก็เป็นทุกข์...พอเข้าใจนะคะ..พระพุทธเจ้าท่านชี้ทางพ้นทุกข์ให้..เมื่อเรารู้เหตุเกี่ยวกับความทุกข์แล้วเราก็สามารถแก้ไขได้ด้วยการทำตามคำสอนของพระองค์เพื่อละตัณหากิเลสความเพลินนั้นโดยการมาปฎิบัติตามคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า..มรรคมีองค์แปดเดินสายกลาง .จะทุกข์น้อยลง...เรื่องธรรมะต้องฟังมากๆฟังพระท่านสอนหลายๆท่าน..ฉันจะฟังหลวงพ่อวิริยังค์ท่านสอนเข้าใจง่าย...ค่ะ ขออนุโมทนาด้วยนะคะที่สนใจในธรรมะถือว่าจิตเป็นกุศล
สาธุขออนุโมทนาบุญและขอบพระคุณมากๆเลยนะค่ะคือว่าเห็นว่าตัวดิฉันเองนิโง่มืดบอดและขาดความรู้ไฝ่่รู้พระธรรมคำสอนช้านักกว่าจะมาศึกษาก็อยากจะใช้เวลาที่มีนี้ให้ถูกทางที่สุดก็เลยดูว่าอันไหนคือมาถูกทางเลยงงกับบางคลิปว่าทุกอย่างถ้าเราไม่มโนภาพกันขึ้นมาคือทุกสิ่งว่างเปล่าก็เลยงงว่าจะเป็นไปได้ไงในเมื่อพระองค์ก็มีจริงๆและการตายแล้วระลึกชาติก็มีให้เจอะเจอกันก็มากมาย
เลยไม่รู้ว่าจะนำความเป็นรากบัวใต้ตมของตัวเองครำทางไปแบบไหนขอให้ท่านที่กรุณาแนะนำทางจงได้รับกุุศลในกรรมดีนี้หนุนส่งบารมีให้สูงขึ้นสมหวังในสิ่งทานประสงค์ด้วยเทอญสาธุเจ้าค่ะ
@@kamkaewpatiwat6500 สาธุ
ที่เข้าใจมาทั้งชีวิตนี่ คนละเรื่องเลย สาธุ
การเห็นเวทนาในเวทนา คือ การเห็นสุข ทุกข์ อุเบกขา ย่อมเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป
น้อมกราบสาธุสาธุสาธุเจ้าคะ
น้อมกราบนมัสการหลวงปู่เจ้าตะ
น้อมกราบสาธุสาธุสาธุในธรรมเจ้าคะ
น้อมกราบสาธุการที่จะเห็นหรือเข้าสู่มรรคแปดได้นั้นจะต้องทำในรูปแบบคือสวดมนต์เป็นวัตรรักษาศีลเป็นปกติพร้อมทั้งเจริญการเรียนรู้กายใจจนจิตมันเห็นสัมามาทิฐิ(มีความเห็นถูก)เสียก่อนจิตยอมจำนนท์ไปตามขั้นอันนี้เห็นได้จากการปฏิบัติทุกอย่างคิดเอาไม่ได้จะต้องเห็นจากภายในทุกอย่างสักแต่ว่ารู้ว่าเห็นจริงแต่ไม่จริงด้วยการยอมจำนนท์ของจิต☺น้อมกราบสาธุ
สาธุสาธุ
" ขอกราบมนัสการ
ท่านหลวงปู่เดช "ครับ
คำสอนของพระสาสดาทื่แท้จิง.
เป็นธรรมที่หาฟังได้ยากท่านใดได้ตั้งใจสดับและนำไปปฎิบัติท่านจะได้เป็นพระโสดาบันขอให้ช่วยเผยแพร่ธรรมบรรยายนี้องค์ที่มีเมตตาเทศนาถ่ายทอดบทนี้คือหลวงปู่ไพเดช ผมไม่ทราบว่าท่านพำนักอยู่วัดไหน ผมรับฟังอยู่ทุกวันฟังแล้วซาบซึ้งเข้าใจทะลุเข้าถึงหลักธรรมของพระพุทธเจ้าได้เลยครับ กราบนมัสการหลวงปู่ สาธุ สาธุ สาธุ
อนุโมทนาสาธุ
อนุุโมทนา กับสาระธรรม ที่่รู้แล้ว ก็ได้รู้ยิ่งๆขึ้นไป 🙏🙏🙏
สาธุธรรมจ้า
สาธุ.....ๆๆๆ
กราบสาธูๆคะพระอาจารย์
เทศน์ดีมากจริงๆ ฟังแล้วได้ประโยชน์มากๆ
พระอาจารย์มักโกธรมากเรียนจบสูงเป็นคูรสมาธิสอนสมาธิแต่เวลาโกธรน่ากลัวสุดๆเลยค่ะไม่กล้าบันทึกเสียงค่ะ
@@คอนเนคชั่น-ห5ส ขอบคุณค่ะ ถ้ายังโกรธอยู่ ก็คงยังไม่ถึงไหนค่ะ
สาธุสาธุค่ะ นั่งสมาธิอยู่ๆในจิตของเราไห้ไปฟังมรรคมีองค์8ไห้ครบนะ ไม่รู้ใครมาบอกในจิต เลยต้องตั้งใจฟังมากๆ
กราบสาธุค่ะ หลวงปู่เทศโอเค นะคะ ไม่กล่าวโจมตีใครเหมือนบางท่าน ทั้งที่สอนสมาธิแต่ หาว่าคำพุทธเจ้ายากเกินไป
กราบขอบพระคุณเจ้าค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ
กราบขอบพระคุณเป็นอย่างสูงเจ้าค่ะ
ขอกราบอนุโมทนา
สาธุ สาธุ สาธุ ค๊า
ธรรมะคือ ธรร.ชาติ
ทุกอย่าง เกิดขึ้น ตั้งอยู่่ ดับไป
เป็นของธรรมดา ไม่่ควรยึดติด
ขอกราบขอบพเระคุณธรรมะดีดี
มากๆยิ่งๆ สุดๆ ค่ะ
เป็นการอธิบายให้เข้าใจได้ดีมากๆครับ สาธุครับ
ดี่มากๆ
ฟังแล้ว พิจารณาตาม เข้าใจดีมากครับ สาธุ
สาธุ.สาธุ.สาธุ.เจ้าค่ะ
สาธุ สาธุ ทำให้ผมมีดวงตาเห็นธรรมครับ
กายที่ ๒ อริยาบถ
เมื่อยืน ก็รู้ชัดว่า เรายืน หายใจออก
เมื่อเดิน ก็รู้ชัดว่า เราเดิน หายใจเข้า
เมื่อนั่ง ก็รู้ชัดว่า เรานั่ง หายใจออก
เมื่อนอน ก็รู้ชัดว่า เรานอน ทายใจเข้า
ดังพรรณนามาฉะนี้ หายใจออก
ภิกษุย่อมพิจารณา หายใจเข้า
เห็นกายในกายภายในบ้าง หายใจออก
เห็นกายในกายภายนอกบ้าง หายใจเข้า
เห็นกายในกายทั้งภายในทั้งภายนอกบ้าง หายใจออก
เห็นธรรมคือความเกิดขึ้นในกายบ้าง หายใจเข้า
เห็นธรรมคือความเสื่อมในกายบ้าง หายใจออก
เห็นธรรมคือทั้งความเกิดขึ้นทั้งความเสื่อมในกายบ้าง หายใจเข้า
ย่อมอยู่ หายใจออก
อนึ่ง หายใจเข้า
สติของเธอตั้งมั่นอยู่ว่ากายมีอยู่ หายใจออก
ก็เพียงสักว่าความรู้ในกายนี้ หายใจเข้า
เพียงสักว่าอาศัยกายนี้ระลึกเท่านั้น หายใจออก
เธอเป็นผู้อันตัณหาและทิฏฐิไม่อาศัยอยู่แล้ว หายใจเข้า
ไม่ยึดมั่นถือมั่นอะไรๆในโลกแล้ว หายใจออก
ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม้อย่างนี้ หายใจเข้า
ภิกษุชื่อว่าพิจารณาเห็นกายในกายอยู่ หายใจออก
สาธุ สาธุ สาธุอนุโมทนามิ🙇🏻♂️🙏🏼
สาธุ ... แจ่มแจ้งยิ่งนักครับ เป็นธรรมที่ไม่เคยได้ยิน แตกต่างจากการอธิบายของครูอาจารย์อื่น
พระสัทธรรมอันตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ครับ สาธุ
น้อมกราบอนุโมทนาสาธุบุญครับ
ขออนุโมทนาบุญกุศลด้วยครับ
กราบพระรัตนตรัย3จบครับ
อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุ เจ้าค่ะ
กราบนมัสการเจ้าค่ะ
ฟังแล้วเข้าใจยิ่งขึ้นเจ้าค่ะ
ขออนุโมทนาบุญนะเจ้าคะ
สาธุๆๆอนุโมทามิ..
ท่านคือผู้รู้ผู้ตื่นผู้เบิกบาน
กราบนมัสการครับหลวงปู่
#บ้านจิต 1
สวัสดีค่ะศึกษาโพธิปัฏขิยธรรม 37 ประการ 3 อิทธิบาท 4
คือทางแห่งความสำเร็จในกิจอันเป็นกุศล #หัวข้อย่อย
3.จิตตะคือความเอาใจใส่จิตใจจดจ่อไม่ปล่อยให้ฟุ้งซ่าน.
อธิบาย...
การที่เราจะทำไม่ให้จิตใจเราไม่คิดฟุ้งซ่านให้เกิดเป็นกุศลภายในจิตพุทธะของเราให้ได้ทุกขณะได้นั้น
ก็มีหนทางเดียว
เราก็จะต้องรู้วิธีการปฏิบัติบำเพ็ญกำหนดจิตลงตรงจุดญาณทวารสัมผัสรู้และประคองรักษาจิตพุทธภาวะเดิมนี้ไว้ให้ได้ตลอดเวลาจึงจะไม่ทำให้จิตใจภายในของเราไม่คิดฟุ้งซ่านออกไปตามอายตนะของเราค่ะ
เมื่อเราเอาใจใส่จิตใจจดจ่ออยู่ที่ตรงจุด 1 ชี้นี้ภายในก็จะก่อเกิดกุศลธรรธขึ้นทุกขณะจิตค่ะ
นี่คือหนทางการพ้นทุกข์ที่แท้จริงค่ะ
สาธุครับ ฟังแล้วเข้าใจง่ายดี สาธุสาธุสาธุ
อย่าเถียงกันเลยจ๊ะ ว่ามรรคควรจะเรียงแบบไหน..อันไหนขึ้นก่อน
#พระพุทธเจ้าท่านเรียงไว้ดีแล้วจ๊ะ...เพียงแต่พวกเราไม่เข้าใจเหตุผลความตื้นลึกหนาบางของแต่ละมรรค ...เลยไม่เข้าใจว่าในความตื้นลึกหนาบางๆระดับ มรรคบางข้อก็ต้องเรียงลำดับไป มรรคบางข้อต้องทำพร้อมกันในการฝึกฝนเรียนรู้ให้แจ้งมรรค...พวกเราก็เลยไม่เข้าใจว่าจริงๆแล้ว มรรคทั้งแปดพระพุทธเจ้าท่านนำออกมาเรียงลำดับเพื่อจำแนกให้พวกเราเห็นชัดๆ เพื่อให้เข้าใจง่าย และปฏิบัติตามมรรคได้ง่ายๆเฉยๆจ๊ะ #จริงๆแล้ว มรรคก็คือมรรคอันเดียวนั่นล่ะจ๊ะ
สาธุ
สาธุ.สาธุ.สาธุอนุโมทนาบุญ... จะได้รู็ว่า.. องค์แปด.. คิอ.. อะไร🙏🙏🙏🙏🙏👵🧓👀👂👃👅💕
กราบสาธุสาธุสาธุ...
น่อมกราบ สาธุ🙏 เจ้าค่ะ
อนุโมทนาสาธุครับผม
ขอให้อนุโมทนาธรรมด้วยครับ
กราบสาธุ สาธุ สาธุ
ลูกกราบขอแสงสว่างแห่งพระธรรมนำทางให้ลูกได้มีดวงตาเห็นธรรม. และเพื่อนร่วมโลกค่ะ สาธุค่ะ
ชลดา
@@ooyoy3368 อนุโมทนา
ขอบคุณ
กราบสาธุในธรรมมะ ที่ได้ฟังแล้วเข้าใจง่ายขึ้นเจ้าค่ะ
ขออนุโมทนาบุญกุศลด้วยครับ
4
โลกใบนี้มีแต่ความทุก. ทุกมาก. ทุกน้อย. อยากให้โลกนี่มีแต่ทรรมมะ
ที่กล่าวมานั้นล้วนแล้วคือธรรมะครับ
กราบสาธุสาธุสาธุค่ะสอนดีมากฟ้งแล้วไห้รู้ค่ะ
ชัดเจนมากๆสาธุ สาธุ สาธุ
น้อมกราบนมัสการเจ้าค่า
ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ เราไปพัวพัน ไปยึดติดกับทุกสิ่ง จึงเป็นทุกข์ สาธุ
สัมมาอาชีวะ คือ การเลี้ยงชีวิตชอบ ได้แก่ การไม่กระทำเดรัจฉานวิชา เห็นปานนี้ คือ เมื่อสมณะหรือพราหมณ์บางพวก ฉัน
โภชนะที่เขาให้ด้วยศรัทธาแล้ว ท่านเหล่านั้นยังเลี้ยงชีวิต
โดยมิจฉาชีพด้วยเดรัจฉานวิชาเห็นปานนี้ คือ ทำพิธีบนบาน
ทำพิธีแก้บน ร่ายมนต์ขับผี สอนมนต์ป้องกันบ้านเรือน ทำกะเทยให้กลับเป็นชาย ทำชายให้กลายเป็นกะเทย ทำพิธี
ปลูกเรือน ทำพิธีบวงสรวงพื้นที่ พ่นน้ำมนต์ รดน้ำมนต์ ทำพิธีบูชาไฟ ปรุงยาสำรอก ปรุงยาถ่าย ปรุงยาแก้ลมตีขึ้น
เบื้องบน ปรุงยาแก้ลมตีลงเบื้องล่าง ปรุงยาแก้ปวดศีรษะ หุงน้ำมันหยอดหู ปรุงยาตา ปรุงยานัตถุ์ ปรุงยาทาให้กัด
ปรุงยาทาให้สมาน ป้ายยาตา ทำการผ่าตัด รักษาเด็ก ใส่ยาชะแผล. ฯลฯ
สาธุๆๆ
ความเห็นชอบ ความดำริชอบ เป็นขั้นของปัญญา
คำว่า ชอบ เป็นความเข้าจิตไม่น่าจะเป็นแค่ความเข้าใจ
มรรคที่เขียนเป็นข้อๆจาก1-8ทำให้เข้าใจว่าต้องเรียงตามนั้น
ที่จริงน่าจะเขียนเป็นวงกลมดีที่สุด
มรรคเริ่มได้ทุกจุด แต่จะเริ่มจากจุดยากหรือง่าย
จุดที่ง่ายสุดที่คนเราทำได้เลยน่าจะเป็นสมาธิ(ความเพียรชอบ ระลึกชอบ จิตตั้งมั่นชอบ) สาธุๆๆ
สาธุ
ที่จริงแล้วมรรคก็จะถูกกระทำในลักษณะรวมกันพร้อมกัน (อริยมรรคสมังคี) แต่ที่พระพุทธองค์ทรงกระจายมรรคออกมาให้เข้าใจได้เป็นรายละเอียดเป็นองค์ๆ เพื่อให้เข้าใจและเรียนรู้ได้ และที่ท่านขึ้นต้นด้วยสัมมาทิฏฐิก่อน เพราะมรรคองค์ที่1สำคัญ ที่มีเพียงพอก็จะส่งผลให้มรรคองค์ที่2เพียงพอ และจะต่อไปให้มรรคอื่นมีกำลังเพียงพอตามมา สุดท้ายแล้วเพราะสัมมาทิฏฐิที่เต็มเปี่ยมบริบูรณ์ ก็ทำให้แจ้งซึ่งอริยสัจขึ้นมาได้ เพราะมรรคองค์ที่1ก็คือเห็นอริยสัจนั่นเองคับ
กราบสาธุครับ
ดีๆๆมากเจ้าผมรู้ว่าอาไรคีอาไร
กราบอนุโมนทนาสาธุธรรมค่ะ
พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
สาธุค่ะชัดเจนมากๆ
กายที่ ๓ พิจารณาสัมปชัญญะ...
กายที่ ๔ พิจารณาปฏิกูล...
กายที่ ๕ พิจารณาธาตุ...
กายที่ ๖ (พิจารณานวสีวถิกา)พิจารณาเห็นสรีระ ที่เขาทิ้งในป่าช้า ตายมาแล้ว ๑ วัน ๒ วัน ๓ วัน ...
กายที่ ๗ พิจารณาสรีระ ที่เขาทิ้งในป่าช้า ที่ฝูงสัตว์ต่างๆกัดกินอยู่บ้าง ...
กายที่ ๘ พิจารณาสรีระ ที่เขาทิ้งในป่าช้า เป็นร่างกระดูก ยังมีเลือดและเนื้อ ยังมีเส้นเอ็นผูกรัดอยู่ ...
กายที่ ๙ พิจารณาสรีระ ที่เขาทิ้งในป่าช้า เป็นร่างกระดูก ยังเปื้อนเลือดแลต่ปราศจากเนื้อแล้ว ยังมีเส้นเอ็นผูกรัดอยู่...
กายที่ ๑๐ พิจารณาสรีระ ที่เขาทิ้งในป่าช้า เป็นร่างกระดูก แต่ปราศจากเลือดและเนื้อแล้ว ยังมีเส้นเอ็นผูกรัดอยู่...
กายที่ ๑๑ พิจารณาสรีระ ที่เขาทิ้งในป่าช้า เป็นร่างกระดูก ปราศจากเส้นเอ็นผูกรัดแล้ว กระเรี่ยรายไปในทิศน้อยทิศใหญ่...
กายที่ ๑๒ พิจารณาสรีระ ที่เขาทิ้งในป่าช้า เป็นกระดูกสีขาว เปรียบด้วยสีสังข์...
กายที่ ๑๓ พิจารณาสรีระ ที่เขาทิ้งในป่าช้า เป็นกระดูก กองเรี่ยราย เก่าเกินปีหนึ่งไปแล้ว...
กายที่ ๑๓ พิจารณาสรีระ ที่เขาทิ้งในป่าช้า เป็นกระดูกผุละเอียดแล้ว...เธอย่อมน้อมเข้ามาสู่กายนี้แหละว่า ถึงกายอันนี้เล่า ก็มีอยู่อย่างนี้เป็นธรรมดา
คงเป็นอย่างนี้ ไม่ล่วงความเป็นอย่างนี้ไปได้
ดังพรรณนามาฉะนี้ หายใจออก
ภิกษุย่อมพิจารณา หายใจเข้า
เห็นกายในกายภายในบ้าง หายใจออก
เห็นกายในกายภายนอกบ้าง หายใจเข้า
เห็นกายในกายทั้งภายในทั้งภายนอกบ้าง หายใจออก
เห็นธรรมคือความเกิดขึ้นในกายบ้าง หายใจเข้า
เห็นธรรมคือความเสื่อมในกายบ้าง หายใจออก
เห็นธรรมคือทั้งความเกิดขึ้นทั้งความเสื่อมในกายบ้าง หายใจเข้า
ย่อมอยู่ หายใจออก
อนึ่ง หายใจเข้า
สติของเธอตั้งมั่นอยู่ว่ากายมีอยู่ หายใจออก
ก็เพียงสักว่าความรู้ในกายนี้ หายใจเข้า
เพียงสักว่าอาศัยกายนี้ระลึกเท่านั้น หายใจออก
เธอเป็นผู้อันตัณหาและทิฏฐิไม่อาศัยอยู่แล้ว หายใจเข้า
ไม่ยึดมั่นถือมั่นอะไรๆในโลกแล้ว หายใจออก
ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม้อย่างนี้ หายใจเข้า
ภิกษุชื่อว่าพิจารณาเห็นกายในกายอยู่ หายใจออก
พิจารณากายที่เป็นบัญญัติ......กาย
พิจารณากายเป็นปรมัต...........ในกาย
จนเห็นกายนี้ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ ไม่ใช่ตัวตน (อนิจจัว ทุกขัง อนัตตา)
สาธุ สาธุ สาธุ
ขอความเจริญในธรรมจงมีแก่ทุกๆท่าน
พระสูตรนี้ มีท่านพระอาจารย์สุรศักดิ์ สอนได้ดีที่สุด ครับ
23/04/63 ...21.09-23.03 ...ROCK CITYHUNTER...
ฝึกเอาสติเอามรรค ผู้ปฏิบัติ ต้องทำมรรคให้เกิด มรรคคือหนทางให้รู้แจ้ง หลุดพ้น เราอย่ามองข้ามมรรคกันนะครับ หลุดพ้นก่อนมรรคเกิดนั้น ยังหลุดไม่จริง
มรรค8 คือ มัชฌิมาเป๋นของกลาง ของธรรมชาติ ไม่ใช้ของเรา ปฏิบัติธรรม ยึดในธรรมที่ตนได้มาก็ไม่ได้ แต่ใช้ได้
ตามดูรู้เห็นเพื่อเป็นการศึกษาได้ แล้วก็คืนธรรมชาติไป การงานชอบ เลี้ยงชีพชอบก็ต้องทำ มรรคไม่หนีจากโลก แต่เอาธรรมมาใช้กับโลกได้นี่เป็นมรรคที่สมบูรณ์
การทำให้จิตว่าง ว่างจากความขัดแย้งกันในธรรม คือ ธรรมนั้นจะเสมอกันเป็นธรรมชาติ ทั้งนอกและในคือความว่างอันหนึ่งอันเดียวกัน เป็นสูญญตาธาตุ เจืออยู่ในทุกฐานของมรรคนอก-ใน เป็นมัชฌิมา เป็นกลาง **จิตสงบระงับ เหมือนแผ่นดินที่รองรับทุกอย่าง ราบเรียบเสมอกัน
สาธุเจ้าค่ะ ที่ทำให้เข้าใจการดำเนินจิตตามมรรคมีองค์แปดในโลกียธรรมจนเป๋นสมาธิเอกคตา มีอุเบกขาวางเฉยไม่พัวพันปล่อยวางทุกสิ่งที่ไม่เที่ยง เป็นอนัตตาจะยึดเอาเป็นที่พึ่งไม่ได้เพราะมีการเปลี่ยนแปลงตามกาลกฎแห่งไตรลักษณ์ จิตนิ่งเป็นสมาธิเหมือนว่าเราไม่มีตัวตนไม่ยึดติดสิ่งใดเฉยๆ มีแต่ความว่างเปล่าแล้ว คราวนี้เราจะต้องดำเนินต่อไปตามหลักมัชฌิมาปฏิปทาในมรรคมีองค์แปดเพื่อละสังโยคให้บริสุทธิ์หมดจดยิ่งขึ้นในโลกุตรธรรมทั้งเก้า คือ โสดาปฏิมรรค โสดาปฏิผล สกทาคามีมรรค สกทาคามีผล อนาคามีมรรค อนาคามีผล อรหันตมรรค อรหันตผล และพระนิพพาน ตรงนี้ถ้ดจากจิตเป็นเอกคตาธรรมแล้วจะต้องปฏิบัติอย่างไร ยังไม่เข้าใจเจ้าค่ะ
ทรงเอกัคคตารมณ์ จนถึงอุเบกขา
อุเบกขาที่แท้คือ ไม่มีปัญหา ถ้ายังมีปัญหา ยังไม่ใช่อุเบกขา
อยากให้ตรวจดู เอกัคคตาของโยมว่า ใช่เอกัคคตาจริงรึเปล่า อนุโลม ปฏิโลม
สติจำเป็นในทุกสถานในกาลทุกเมื่อ ในมรรคมีองค์๘ น่าจะเริ่มต้นจากสติในทางปฏิบัตินะครับ
ตามสูตรก็เริ่มจากความเห็นชอบนะ
ทุกอย่างต้องมาพร้อมกัน ครับ
การที่อริยสัจจะแจ้งขึ้นมา อยู่ที่สัมมาทิฏฐิคับ สติเองก็เป็นเครืองมือ สติเป็นสังขาร เป็นธรรมฝ่ายปรุงแต่ง เป็นสิ่งจำเป็นต้องใช้แน่นอน แต่สุดท้ายก็ต้องทิ้งคับ
@@danniek.6156 คงไม่มั้งครับ? สติแยกออกมาเป็นสูตรหนึ่งเลยทีเดียว ที่มาพร้อมกันน่าจะเป็นมหากุศลจิต
@@makkanukamaki2476 ไม่น่าจะทิ้งไปได้เพราะยังต้องมีสติคุ้มครองรักษาจิตอยู่เคยคิด& ถามเรื่องนี้กับพระเถระเหมือนกัน ว่าทิ้งหรือไม่ทิ้ง?
กราบพระรัตนตรัย3จบครับ
กราบสาธุค่ะ ท่านจําพรรษาที่วัดไหนคะ
สาธุ. สาธุ. สาธุ. แจ้งดีแท้เจ้าค่า
ฟังแล้ว เข้าใจง่ายครับ
การบสาธุเจ้าค่ะ
สาธุ..สาธุ.. สาธุ..