ความเหลื่อมล้ำการศึกษาไทย..โอกาสที่ไม่เคย "เท่ากัน"
ฝัง
- เผยแพร่เมื่อ 25 ก.ย. 2024
- เกิดเป็นเด็กไทย..ต้องเจอกับความเหลื่อมล้ำถึง 3 ตลบ!
.
ตลบแรก..ความเหลื่อมล้ำระหว่างประเทศ
เด็กไทย..เรียนหนักกว่าประเทศอื่น..แต่ผลลัพธ์ที่ได้กลับด้อยกว่า
.
ตลบที่สอง..ความเหลื่อมล้ำระหว่างโรงเรียน
เด็กไทย..ได้เหรียญโอลิมปิกมากมาย..แต่สุดท้ายกลายเป็นเด็กที่มาจาก 2-3 โรงเรียน
.
ตลบสุดท้าย..ความเหลื่อมล้ำระหว่างการเรียนพิเศษ
เด็กไทย..ถูกแบ่งเป็น 2 พวก คือ พวกที่จ่ายไหว และ พวกที่จ่ายไม่ไหว
.
.
วันนี้ WavED ชวนคุยเรื่องความเหลื่อมล้ำของการศึกษาไทยไปกับ
พริษฐ์ วัชรสินธุ - ไอติม
#ความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา
เห็นด้วยทุกเรื่องเลยครับ เราเรียนหนักกว่าประเทศอื่น แต่เรียนแค่ทฤษฎี คนที่เรียนพิเศษจะเรียนรู้เรื่องกว่าคนที่ไม่เรียนพิเศษ ครูเก่งแค่ไหนแต่ก็ไม่มีเวลาสอนเพราะต้องทำงานธุรการ จัดกิจกรรมบ้างเอย ไรเอย บางรร.ก็ไม่มีครูเพียงพอ เรียนมันเหนื่อยจริงๆนะ
ยังไม่นับสังคมในห้องเรียน การถูกบูลลี่ ความคาดหวังจากผปค. การทำกิจกรรมต่างๆเพื่อทำพอร์ต ไม่นับสอบยิบย่อย แถมมีข่าวว่าจะเรียน7วันอีก พวกม.3-ม.6 วิทย์-คณิต ไม่อยากจะคิดเลยเฮ้อ
ผมจะบอกสิ่งนี้กระทรวงการศึกษาของมันแก้ไขปัญหาอย่าว่าว่ากระทรวงการศึกษาไทยไม่ดีแต่ตอนนี้เขากำลังแก้ไขปัญหาอยู่ต้องใช้เงินกันอย่างเยอะมากเห็นใจกระทรวงการศึกษาด้วย
จากประสบการณ์ส่วนตัว เพราะอะไรต้องเรียนพิเศษ เพราะข้อสอบเข้ามหาลัยมันเยอะและยากเกินกว่าปกติจะทำได้ การเรียนพิเศษช่วยให้เด็กทำข้อสอบได้เพราะมีสูตรลัด มีวิธีคิดที่สรุปมาให้แล้ว เรียนแค่ในโรงเรียนก็ทำได้แต่ข้อง่ายๆระดับเดียวกับแบบฝึกท้ายบท ข้อยากๆระดับข้อสอบโอลิมปิกได้แต่นั่งมองตาปริบๆ
ทำไมพึ่งมาเจอคลิปดีๆแบบนี้
ทำไมเพิ่งเจอ
โครงสร้างระบอบการศึกษาไทย เรียนเยอะ ใช้น้อย คัดเลือกเด็ก มากกว่าให้โอกาสเด็ก ใครเตรียมตัวมาดีก็มีอนาคต ใครเตรียมตัวมาน้อยเพราะปัญหาเยอะ ก็ถูกทอดทิ้งไปตามยถากรรม เป็นแบบนี้มานานแสนนาน จะไม่เรียนก็ไม่ได้ เพราะถ้าไม่เรียน ก็ไม่มีวุฒิไปหางานประจำ ถ้าไม่เรียนก็อาจถูกสังคมรอบข้างคอยเหยียบหัวอยู่ตลอดเวลา ถ้าไม่เรียนก็อาจเป็นลูกที่สร้างความผิดหวังให้กับพ่อและแม่ได้ เพราะฉนั้นสิ่งดูเหมือนจะทำได้ในตอนนี้ ณ เวลาแบบนี้ ก็คือ หยุดบ่น หยุดเพ้อฝัน แล้วก้มหน้าก้มตา ทำตามทำหน้าที่ของเราต่อไป
หลักสูตรที่มีแต่เปลือก
เนื้อหา ที่ใช้ได้จริงมีน้อยมาก
เราทำให้ทุกคนเก่งและ
ฉลาดเท่ากันไม่ได้
แค่ให้ทุกคนมีคุณภาพก็ยากแล้ว
ผมจบ ม.6 อยากเรียนต่อแต่ไม่มีเงินเรียนจึงเก็บกระเป๋าหนังสือแล้วไปเลี้ยงควาย....ผมชอบอ่านหนังสือ ผมจะอ่านหนังสือทุกเล่มแล้มทำความเข้าใจกับมันมันทำให้เราเรียนรู้อะไรหลายอย่างแท้จริงแล้วความรู้มันไม่ได้อยู่ที่ห้องเรียนอย่างเดียว.....เมื่อก่อนผมโทษสิ่งนั้นสิ่งนี้โทษโรงเรียนโทษครูแต่ที่จริงแล้วทุกสิ่งทุกอย่างมันอยู่ที่ตัวของเราเอง..
ความฝันของคนเป็นผู้ปกครอง หลายๆคน ปฎิรูปการศึกษา
ถ้ามีลูกจะให้เรียนแบบHomeschool ค่ะ เรียนนอกระบบ ได้พัฒนาที่เด็กสนใจจริๆ เด็กมีความสุข มีประสบการณ์จากการเรียนรู้การลงมือปฏิบัติ.....
โครงสร้างระบอบการศึกษาไทย เรียนเยอะ ใช้น้อย คัดเลือกเด็ก มากกว่าให้โอกาสเด็ก ใครเตรียมตัวมาดีก็มีอนาคต ใครเตรียมตัวมาน้อยเพราะปัญหาเยอะ ก็ถูกทอดทิ้งไปตามยถากรรม เป็นแบบนี้มานานแสนนาน จะไม่เรียนก็ไม่ได้ เพราะถ้าไม่เรียน ก็ไม่มีวุฒิไปหางานประจำ ถ้าไม่เรียนก็อาจถูกสังคมรอบข้างคอยเหยียบหัวอยู่ตลอดเวลา ถ้าไม่เรียนก็อาจเป็นลูกที่สร้างความผิดหวังให้กับพ่อและแม่ได้ เพราะฉนั้นสิ่งดูเหมือนจะทำได้ในตอนนี้ ณ เวลาแบบนี้ ก็คือ หยุดบ่น หยุดเพ้อฝัน แล้วก้มหน้าก้มตา ทำตามทำหน้าที่ของเราต่อไป
เนื้อหาการสอนมัธยมบางวิชา เช่น วรรณคดี,ภาษาไทย อยากให้เป็นวิชาตัวเลือก ไม่อยากให้เป็นวิชาบังคับ
ทำไมพึ่งมาเจอคลิปดีๆแบบนี้!!!!!!
ผมเห็นด้วยปัญหาสำคัญอันดับต้นๆของไทยคือการศึกษา เพราะเป็นคุณภาพของคนที่จะพัฒนาชาติ
ผมขอระบายหน่อย
ผมว่าครูไทยเขาตาบอดหูหนวกกัน เพราะมีฝรั่งบอกมาว่า วัยรุ่นเป็นวัยที่กำลังพัฒนาสมอง ดังนั้นเราจึงต้องนอนหลับวันละ8,9ชม. แต่เด็กไทย เรียนเยอะมากๆๆๆ การบ้านก็เยอะมากด้วย ในแต่ละวันผมหลับตี1,2 ทุกวัน แล้วประเทศไทยจะพัฒนาอย่างไรล่ะครับ ถ้าเด็กยังไม่ได้พัฒนา
และงาน หรือ วิชาเรียนต่างๆ ก็ไม่ได้มีอะไรมากมายอีก เน้นจด เน้นปริมาณงานให้มากๆเข้าให้มีความอดทน เหมือนกับว่าใหญ่ไปให้มีความอดทนในการทำงานกลางแดดมั้ง
ในโรงเรียนมัธยม
ถ้า ภาษาไทย สังคม ก็แค่สั่งจด ลงสมุดส่งครู คณิตก็ โจทย์สอนแต่ สมการเชิงลึก ที่ในชีวิตปกติไม่ได้ใช้ถึงขนาดนั้น วิชาคอมก็หาข้อมูลในคอมจดลงสมุดส่งเฉยๆ วิชา วิทยาศาสตร์ก็ เครื่องมือทดลองอะไรวางอยู่ที่ชั้น วางอยู่จนใยแมงมุมฝุ่นเกาะขึ้นก็ไม่ได้ใช้ ไม่มีภาคปฏิบัติเลย ถ้าเป็นแนะแนวก็วนอยู่กับเรื่องสารเสพติด กับการเข้ามหาลัย
เหมือนสอนตามตำรา ดีแต่วิชาภาษาต่างประเทศ คิดว่าสิ่งที่เรียนมา แทบไม่ได้ใช้อะไรเลย หาความรู้จากในอินเตอร์เน็ตเอง ยังได้อันที่เป็นประโยชน์มากกว่าที่ไปเรียน และยังใช้ได้จริงๆอีก
เด็กไทยเคยได้เรียนฟรีไม่ต้องจ่ายค่าเทอมแต่อยู่ต้องจ่ายค่าบำรุงการศึกษาเพราะใคร
ที่พูดมาใครๆก็พูดได้แต่ทำไม่ได้
เอาเกณฑ์อะไรไปตัดสินว่าการศึกษาของประเทศๆหนึ่งดีที่สุดในโลก
ความเหลื่อมล้ำมีมาตั้งแต่เกิดจ้า
ดีแล้วค่ะ ที่ออกจากประชาธิปัตย์
เข้าใจยัง สังคมที่คุณอยู่เป็นแบบนี้
ไม่ต้องอายนะเพราะเราไม่ได้คนชี้ถูกผิด
เหรียญโอ80%มี2โรงเรียน ชื่อ2โรงเรียนนั้นก็ผุดมาเลย555
ถ้าให้เดา ต่อให้พฒนาการศึกษาให้คนเท่ากันหมด แต่ความเป็นชนชั้นก็ยังต้องมี มันจะมีอะไรใหม่ๆออกมาแบ่งชนชั้นอีก ที่ไม่ใช่เรื่องการศึกษาแบบโลกเก่า ถ้าให้เดา มันคงจะเป็นอะไรที่ใช้เงินจำนวนมากสร้างขึ้นมา ไม่ต่างจากระบบเรียนพิเศษ ทั้งนี้เพื่อกีดกันชนช้นล่างเอาไว้ให้เป็นแรงงานต่อไป
ผมเคยสำรวจความคิดเห็นของอาจารย์หลายๆสถาบันและสรุปตรงกันคือปัญหาการทำการสอนซึ่งหลักสูตรไม่สอดคล้องและเหมาะสมเริ่มจากปัญหาของอาจารย์ผู้สอนที่ต้องมากลั่นกรองหลักสูตรและบทชี้วัดผลการสอนกับหลักการที่เปลี่ยนแปลงเพื่อให้ได้ผลลัพธ์หลักสูตรใหม่แกนเก่าที่แตกออกจนผู้สอนสับสนกับเป้าหมายและครับได้เคยเกือบทำแบบหลักสูตรแต่เงื่อนไขไม่ได้จึงขอสละสิทธิ์ เพราะ เหตุผลส่วนตัวกับการทำงานออกแบบหลักสูตรครับ และ เพราะ ตัวบทหลักการของรูปแบบการเรียนรู้เกี่ยวกับเชิงปริมาณ ที่ ต้องทำการแก้ไข ทฤษฏีบททางจำนวน เช่น นิยาม และ หลักการ และ หลักสูตร เมื่อ นิยาม คณิตศาสตร์เปี่ยนแปลงไป จาก การเติมเต็มให้กับทฤษฏีการทางจำนวน ดังนั้น รูปแบบ ของ การเรียนรู้เกี่ยวกับเชิงปริมาณ ย่อม ต้องเปลี่ยนแปลงตาม เพราะ นิยาม กำหนดใหม่ว่า วิชาคณิตศาสตร์คือวิชาที่ว่าด้วยการเรียนรู้เกี่ยวกับปริมาณ แบบนี้เป็นต้นครับ
ความมั่นใจ หรือ ความเชื่อมั่น เกิดจาก ความรู้ และ ปัญหา ไม่ได้เกิด กับ การเรียนพืเศษ เพราะ ส่วนผสมอัตราส่วนไม่ได้เกิน 70 % แต่ มี ส่วนที่หาค่าประเมินผล ไม่ได้ แต่ หาก การนำพาผิดออกไปจากแกน ก็ คือ ดาบสองคม นำพา ไปสู่ ความล้มเหลว เพราะ มี ส่วนของเวลาเข้ามาเกี่ยวข้องและมากเกินกว่าค่าที่แท้จริงที่เวลาคือควาสำคัญกับการศึกษา ครับ
อยากให้ทุกคนได้ดูคลิปนี้
สุดยอดครับ
บุคลากรไม่พอกับเด็กที่มี หรือพูดง่ายๆครูไม่พอกับจำนวนเด็ก ความเหลื่อมล้ำก็เกิดขึ้นเป็นปกติ พูดตามความจริงคือคนไทยส่วนมากขยันมีลูกกันทั้งๆที่ฐานะยากจนและก็เป็ยภาระต่อสังคม ผลักภาระไปให้ที่ รร จะพัฒนาประเทศได้ต้อควบคุมเรื่องการมีบุตรให้ได้มาตราฐาน ไม่ใช่ปล่อยให้มีลูกหลานเต็มเมืองแล้วไม่สามารถเลี้ยงลูกได้ดี ก็ส่งผลโดยตรงต่อสังคมและการศึกษาอยู่แล้ว
ผมกลับมองว่าปริมาณครูไม่ใช่ปัญหา ปัณหาอยู่ที่ระบบและคุณภาพของครู
เลิฟเลยพี่ไอติม💗💗
ขอบคุณครับสำหรับความดีๆ
เป็นเด็กชนบทแถมยังไม่มีตังเรียนพิเศษอีกค่ะ
ในยุคนี้เด็กนักเรียนยังโชคดีที่มี internet สามารถค้นคว้าได้แค่
เพียงมีมือถือก็ใช้ค้นคว้าข้อมูลที่ต้องการได้ (เรียนพิเศษด้วยตัวเอง) ย้อนอดีตไปใครที่เรียนยุค90 ไม่ได้มีอย่างในเด็กยุคนี้ google youtube
ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ มีครูเก่งๆ หลายๆ คน
ข้อแรกคิดไปเองปะครับ
ข้อที่สองเด็กเก่งก็อยากเข้าโรงเรียนดังเพราะเป็นค่านิยมไม่เกี่ยวกับเหลื่อมล้ำ
ข้อที่สามก็ค่านิยมอีกนั่นแหละเด็กมีอันจะกินต้องเรียนพิเศษมันเท่ห์
เคยได้ยินครูพูดไหมครับ ต้องอ่านมาก่อนเข้าเรียน หรือ ต้องกลับไปทบทวนที่บ้าน ถ้าทำตามที่ครูบอกต้องเรียนพิเศษไหม ไอ้ทบทวนที่บ้านกับเรียนพิเศษจะคล้ายกัน จะบอกว่าคนที่เรียนพิเศษเพราะมันขี้เกียจเป็นพิเศษทบทวนเองไม่ได้ ต้องเสียเงินถึงจะรู้เรื่อง สรุปมันขึ้นอยู่กับคนกับนักเรียนมากกว่า อยากรู้ไอ้พวกที่ออกมาโวยวายเรื่องนี้มันสมองกลวงแค่ไหน
ข้อที่สอง เราคิดว่าถ้าการศึกษามันดีจริงทุกโรงเรียนก็ต้องมีคุณภาพที่ดีเท่ากันทุกรร เหมือนกับประเทศฟินแลนด์ที่มีการศึกษาที่ดีที่สุดในโลกไม่ต้องเสียเวลาไปนั่งรถไกลบ้าน เพื่อเรียนรรดีๆหรอกนะคะ ก็เห็นได้ชัดแล้วนะว่ามาจากความเหลื่อมล้ำที่ต้องแย่งชิงเพื่อรรดีๆทั้งๆที่ทุกรรควรดี
ข้อสาม คิดว่าการทบทวนมันเป็นสิ่งที่ดีนะคะ แต่การเรียนพิเศษในประเทศไทยส่วนใหญ่เกิดจากระบบการสอนของครูที่ไม่ได้มาตรฐานที่ดีพอ ทำให้เด็กต้องเรียนพิเศษ ควรแก้ไขหลักสูตรและการสอนค่ะ
***นำความคิดเห็นที่พิมพ์ไปคิดตามด้วยนะคะขอบคุณค่ะ***
@@whale_2592 ความเหลื่อมล้ำมันมีครับ โรงเรียน(อย่าใช้คำว่าดี)ดังๆอยากเก็บค่าเทอมแพงๆก็จ้างคนโน้นคนนี้ให้มันพิเศษมาสอน เหมือนภัตคารล่ะครับ ขึ้นอยู่กับเด็กหรือผู้ปกครองจะเลือก การเรียนนั้นถ้าถามเด็กเก่งๆเขาจะตอบว่าไม่ใช่แค่เรียนตามตำรา ต้องมีการคิดวิเคราะห์ให้เข้าใจอย่างถ่องแท้จริงๆย้ำจริงๆ แต่เด็กไทยไม่ใช่อย่างนั้นทุกคน ส่วนใหญ่เรียนตามตำราไม่คิดต่อ หนังสือเล่มเดียวกันทำให้คนฉลาดไม่เท่ากันครับ ความเหลื่อมล้ำหรือโรงเรียนดีๆไม่ใช่สาระสำคัญ โรงเรียนสอนพิเศษอีกนั่นแหละถ้าเคยเรียนจะรู้ว่ามันเหมือนโรงเรียนสอนขับรถ คือ สอนให้แค่สอบผ่าน คนไทยต้องพัฒนาความคิดกันอีกเยอะ หวังพึ่งโน้นพึ่งนี่โทษโน่นโทษนี่ก็ไม่พัฒนา พูดเรื่องความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาระหว่างรรดีๆกับรรธรรมดา โรงเรียนทั่วประเทศใช้หลักสูตรเดียวกันแต่แล้วก็มีนักลงทุนเงินหนามาสร้างรรให้มีออปชั่นมากขึ้น แบบนี้ไม่เรียกเหลื่อมล้ำแต่เรียกว่าการแข่งขันทางการค้า การเรียนทำให้คนรู้มากขึ้นแต่ไม่ได้ทำให้ฉลาด(ในที่นี้หมายถึงสมองทำงานมีประสิทธิภาพ)ขึ้นครับ เด็กที่ฟินแลนก็มีคนโง่คนฉลาดครับ ต้องพัฒนาความคิดเด็กก่อนอันดับแรกเรียนรู้อะไรต้องเข้าใจจริงๆไม่ใช่เรียนตามตำรา อาจารย์สอนโจทย์ข้อนึงเด็กทำได้พอไปสอบเจอโจทย์อีกข้อนึงตาย รรสอนพิเศษเกิดขึ้นเพราะมีเด็กแบบนี้ไงครับ ต้องฝึกให้คิดวิเคราะห์มากกว่าโจทย์ตรงหน้า แต่ก็ธรรมดามนุษย์ล่ะครับมีโง่มีฉลาด ต่อให้ไปอยู่ฟินแลนผลลัพท์ก็จะออกมาเหมือนกันล่ะครับ
เอาง่ายๆเรียนไปเพื่อความรู้เเต่พอมาทํางานจริงๆความรู้ที่ได้เรียนมาไม่ได้ใช้ด้วยซํ้า
555556 ก่อเป็นเเบบนี่ละเลยมีคนเเบบนี่เยอะ เเล้วเด็กที่ไม่เก่งทำไมไม่ได้เรียนเเบบเขาละ เรียนพิเศษเหรอ งั้นก่อไม่ต้องสอนเปิดเรียนพิเศษได้เยอะดี😊
การเรียนพิเศษมันคือผลประโยชน์ของคนบางคน