ประวัติย่อการพนันในสังคมไทย | หมายเหตุประเพทไทย EP.541

แชร์
ฝัง
  • เผยแพร่เมื่อ 11 พ.ย. 2024
  • หลังกระทรวงการคลังเสนอผลการเศึกษากาสิโนและสถานบันเทิงครบวงจร ประภาภูมิ เอี่ยมสม และภาวิน มาลัยวงศ์ ชวนคุยประวัติศาสตร์การพนันในสังคมไทยนับตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน บางอย่างที่เป็นการละเล่น กลายเป็นการพนันในสายตาของรัฐในอดีตอย่างไร? "หวย" กลายเป็นความหวัง คนนับล้านรอลุ้นทุกงวด แถมยังเป็นรายได้สำคัญของรัฐบาลได้อย่างไร รวมทั้งผลกระทบทั้งผลดีและผลเสียจากเทรนด์เศรษฐกิจ Fun Economy ที่รวมการท่องเที่ยว กีฬา ความบันเทิงทุกประเภทรวมทั้งการพนันครบวงจร

ความคิดเห็น • 7

  • @thanakritkarat7925
    @thanakritkarat7925 หลายเดือนก่อน

    ติดตามตลอดครับ

  • @marssatan1102
    @marssatan1102 หลายเดือนก่อน

    นี่ไง คนจีน ทำการพนัน จ่ายส่วย และประกอบการค้า จ่ายภาษี ไม่ต้องถูกเกณฑ์มาเป็นไพร่ ส่วนคนไทนต้องเป็นไพร่ ทำงานใช้แรงงานฟรี เข้าเดือนออกเดือน … ถึงว่า ทำไมคนไทยยากจน? ต้องเป็นเจ้าคนนายคนถึงรอดจากการถูกใช้แรงงานฟรี … เคยได้ยินมายาคติ นี้ไหม? ว่า คนจีนขยัน ถึงรวย คนไทยขี้เกียจ ถึงยากจน โถ ถ้าต้องเป็นไพร่ คุณต้องโดนใช้ทำงานฟรีไม่มีค่าแรงค่าโอที เป็นแบบนี้แล้วคุณจะขยันไหม?

    • @naijamesz
      @naijamesz หลายเดือนก่อน +1

      ใช่ครับ นั่นคือจุดสตาร์ทที่คนมาพร้อมเสื่อผืนหมอนใบ กับ คนที่อยู่อาศํยในพื้นที่นี้ต่างกัน ถูกครอบงำโดยจารีตโดนตีกรอบทางความคิด คอนเซ็ปบาปบุญ แะใช้ศาสนานผูกโยงเป็นเครื่องมือมาเสมอโดยเฉพาะ ทำบุญ นี่โคตรทรงพลัง ทุกวันนี้ก็ไม่ต่างกันเลยนะ คือวิธีคิดเบี้ยวๆ ในวัฒนธรรมบ้านเรารับมาเต็มที่เลย ค่อยผสมกลมกลืนและคนกลุ่มแรกที่เอาวัฒนธรรมเหล่านี้มามากขึ้นก็คนที่เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ(วงแคบๆในนช่วงหลังๆ) ผมเลยไม่แปลกใจทำไมสมัยนั้นคนใช้คำว่า อั๊ว ลื้อ กันเป็นปกติ ไพร่สยามโดนยับๆมาทั้งขึ้น ทั้งร่อง และมองชนชั้นพ่อค้าพวกนี้ต่ำกว่าไพร่ แต่พอเปลี่ยนแปลงระบบเป็นรวมศูนย์อำนาจที่ส่วนกลางยิ่งยับเข้าไปอีก พอมีระบบข้าราชการเข้ามาซึ่งควรเปลี่ยนวิธีรเียกได้ละ เพราะสิ่งที่หลงเหลือมาจาก 100กปีที่ผ่านมาคือวัฒนธรรมองค์กรของเจ้าหน้าที่รัฐที่ส่งต่อมาตลอด จนคนมองข้ามไปว่าพรรคการเมืองที่ใหญ่ที่สุดไม่ใช่พรรคที่ประชาชนเลือกตั้ง แต่เป็นเจ้าหน้าที่รัฐทั้งระบบที่มีวัฒนธรรมองค์กรที่ยังแข็งทื่อและใหญ่เทอะทะที่เป็นหนึ่งที่เป็นสาเหตุและกลไกสำคัญที่ทำให้ทุกวันนี้เละเทะแบบนี้ แม้กระทั่งเปลีย่นแปลงการปกครองแต่ "ข้าราชการ" ก็ยังคงเป็นมรดกจากระบอบเก่า และข้าราชการระดับสูงหลายคนมากนะที่คิดว่าตัวเองคือคนใหญ๋คนโต เหมือนตัวเองเป็นขุนนาง เป็นมูลนาย มองประาชนเป็นไพร่ ซึ่งคนพวกนี้ไม่สนเหี้ยห่าอะไรนอกจากตัวเขาเอง วิธีคิดขยะๆ ที่ฉุดรั้งและแย่งชิงเวลา(ทรัพยากรณ์ที่มีค่าที่สุดของมนุษย์ที่ทุกคนมี24ชั่วโมงเท่ากัน) คนพวกนี้มองว่าสภาพแวดล้อมของความสัมพันธ์ทางอำนาจในสังคมที่เป็นอยู่นั้นคือเซฟโซนสำหรับพวกเขา เขากลัวการเปลี่ยนแปลงเขากลัวตัวเองจะซวย คุณนึกดูสิ ข้าราชการโดนขโมยขึ้นบ้านโดนขโมยเงินสดหลายล้าน แต่ไม่กล้าแจ้งความ เพราะในบ้านแม่งมีแต่เงินสด คนไทยเราแค่อยู่ใน "ฟาร์มเวลา" ของคนพวกนี้ พวกเขาคิดว่าตัวเองเป็นผู้ดีแต่ในสมองไม่มีคำว่า "แฟร์" โดยเฉพาะแฟร์กับผู้อื่น ไม่ใช่เรียกให้ผู้อื่นแฟร์กับตัวเองนะ แต่คนเหล่านี้เขารู้สึกว่าการเอาเปรียบของเขาเป้นเรื่องชอบธรรม เราต้องหาฉันทามติของทั้งสังคมว่าถ้าระบบโครงสร้างรัฐเรายังเป็นอย่างนี้ ประเทศนี้จะไม่มีวัน ไม่วีันเลย ไม่มทางที่จะเป็นประเทศที่พัฒนาแล้วได้ เว้นแต่ ระบบมันจะพังครืนลงมาทั้งหมด แต่คนที่อยู่ฐานรากคือคนเจ็บที่สุด ในขณะที่คนกลุ่มนี้เขามีทางเลือก เขาเลือกได้ แม้กระทั่งเขาเลือกจะหนุนรัฐประหาร ทำรัฐประหารคนพวกนี้ยังไร้ซึ่งความรู้สึกผิดเลย เพราะเขาเชื่อว่าเขาทำได้ในฐานะผู้ปกครอง พวกฉันสิคือผู้ปกครองเหนือประาชาชนไร้ทางสู้อย่างพวกแก บลาๆ แต่ก็เหอะ รณรงค์กันต่อไป ได้แต่หวังว่าพวกเขาจะคิดได้ถ้าคิดไม่ได้ก็ไม่ได้ต่างอะไรจากถุงพลาสติกที่ทำลายไปก็สร้างปัญหา ปล่อยไว้ก็ปลิวว่อน มีแต่ต้องใช้ระบบคัดแยกขยะออกจากระบบที่ดีเท่านั้นแหละ ซึ่งมีแค่ใน"ระบอบประชาธิปไตย" ที่ไม่ใช่แค่เสแสร้งว่าเป็นแบบไทยๆ

    • @marssatan1102
      @marssatan1102 หลายเดือนก่อน

      @@naijamesz เห็นด้วยทุกประการ แต่ศาสนาไทยๆมันผสมๆไม่ใช่พุทธแท้ การทำบุญเป็นเรื่องที่ดี พุทธสอนเรื่องกรรม เหตุ ผล และทางไปสู่ผล การเกิดมาดีเพราะกรรมจริง แต่เกิดมาดีแล้วทำชั่วเอาเปรียบผู้อื่นก็ตายไปก็จะเกิดมาไม่ดี มาสว่างไปมืด สอนเรื่อง มานะ 9 ประการ ควรแก่การศึกษาให้ถ่องแท้ ดังนั้นจึงไม่ควรเหมาว่าเอาศาสนาอเทวนิยมอย่างพุทธมาแบ่งชนชั้นวรรณะเพื่อใช้ประโยชน์ในการปกครองแบบสืบทอดอำนาจ

    • @naijamesz
      @naijamesz หลายเดือนก่อน +1

      @@marssatan1102 อื้มๆ ผมเข้าใจฮะ ถึงผมจะเป็นอศาสนิกแล้วแต่ผมสามารถเข้าใจมุมศาสนิก แต่ความโหดที่ผมรู้สึกว่าโหดมากจริงๆคือ เด็กๆเขาไม่ควรมาเจออะไรแบบที่เด็กรุ่นผมเจออีกแล้ว รู้สึกผิดที่ทำอะไรไม่ได้เลย

    • @marssatan1102
      @marssatan1102 หลายเดือนก่อน

      @@naijamesz ความบังเอิญไม่มี เด็กเหล่านี้ที่ต้องมาเจอแบบนี้ ย่อมไม่ใช่ความบังเอิญ พอเขาโตขึ้นก็ดูละกันว่า เขาจะหมุนวัฏจักรต่อไป หรือ หยุดวัฏจักร ตัดวงจร ไม่ให้ตัวเองต้องมาเจออีก ผู้ใหญ่ในวันนี้ ก็มียังหมุนวัฏจักรต่อไป … ก็บอกแล้วว่า ความบังเอิญไม่มี

  • @onlymech479
    @onlymech479 หลายเดือนก่อน

    16:42 yooooooo อาจารย์ผมมมมม😮