ส่วนตัวผมมองว่า Soft Power มันไม่ได้ยากทุกอย่างเป็นได้แต่...ไม่ใช่ว่าจะเอาทุกอย่างมาเป็น Soft Power เอาจริงๆนะ ที่เห็นร้าบาลแถๆกันเรื่องนี้ มีแค่ข้าวเหนียวมะม่วงของมิลลิที่แลดูเป็นไปได้ที่สุดมันคือการที่เอาข้าวเหนียวมะม่วงขี้นไปกินแบบงงๆแบบไม่ได้ตั้งใจแต่มันมี Power มันทำให้คนสนใจข้าวเหนียวมะม่วงและไม่ใช่แค่คนไม่กี่คนอยากลองแต่มันคือคนหมู่มาก อีกอันก็มะม่วงน้ำปลาหวานของละครบุพเพสันนิวาสอันนี้ที่ดูเป็น Soft Power จริงๆนอกนั้นพูดส่งๆให้มันแลดูเป็นค่านิยมแปลกๆใช้คำนี้พร่ำเพรื่อ ร้าบาลเอามาพูดมั่วๆจนคำว่า Soft Power กลายเป็นแค่เกาะกระแสสังคมไปวันๆ ฉนั้นแล
@@TheNeololita เข้าใจการล้อไปกับวลี Let them eat cake มั้ยคะ? รู้ถึงความหมายที่มาที่ไปของวลีมี้ยคะ? 🤣แล้วเข้าใจ Soft power "บ้าง" มั้ยคะ? เอาอะไรมาส่งเสริม 🤣🤣🤣🤣
ผมเข้าใจว่า soft power เป็น tools ไม่ใช่ goal ผมเห็นด้วยเรื่องซีรี่วายนะ ถ้า goal คือการเป็นผู้นำด้านการเปิดกว้างทางเพศ และใช้ tool คือซีรี่วาย เพราะมันขายดีมากใน audience ญป จีน เกาหลี ซึ่งไทยมี potential มากในการเป็นผู้นำด้านการเปิดกว้างทางเพศ ถ้าเทียบกับประเทศอื่นๆ ในแถบเอเชีย แต่รัฐต้องเข้ามาช่วยด้านนโยบายทางสังคมอีกเยอะมาก ลองนึกดูว่าถ้าซีรี่วายดังในต่างประเทศในระดับเดียวกับซีรี่เกาหลีมันจะเกิดอะไรขึ้น แน่นอนว่าไทยจะมีเศรษฐกิจดีขึ้นแน่ๆ หละ แต่มันจะส่งผลอะไรบ้างต่อประเทศปลายทาง ก่อนอื่นเลยมันจะมี drive ของ business ภายในประเทศ เหมือน KPOP ดัง ตอนนี้เราก็มี TPOP พอมันเกิดซีรี่วายขึ้นอย่างหลากหลายทั้ง import จากไทย และภายในประเทศ แล้วมันปลุก awareness ของประชาชนในวงกว้าง ก็จะทำให้เกิดการยอมรับเพศทางเลือกมากขึ้น เกิด ripple effect ไปสู่รัฐบาล และนโยบายการเมือง พรรคการเมืองที่ส่งเสริมการเปิดกว้างทางเพศอาจจะได้เข้าไปมีอำนาจมากขึ้น และมีการผ่านกฎหมายสำคัญๆ ต่างๆ ที่ส่งเสริมในด้านนี้ โดยมีประเทศไทยเป็น role model ซึ่งถ้ามันไปถึงจุดนั้นได้เมื่อไหร่ ถึงจะเรียกได้ว่าเป็น soft power แค่คิดก็ตื่นเต้นแล้ว แต่ก็นะ อาจจะได้แค่คิด เพราะทุกวันนี้รัฐยังไม่เคย recognize ซีรี่วายเลยด้วยซ้ำ รู้จักแต่บุพเพสันนิวาส
อธิบายได้เห็นภาพมาก ๆ ชอบคำถามสุดท้ายที่ถามว่าอะไรของไทยใกล้เคียง Soft Power ที่สุด แล้วมันมีปัจจัยอะไรทำให้มันยังไม่เป็น Soft Power 100%
ปล อ.อธิบายรื่นหูมากค่ะ อยากเรียนด้วย 5555
พอได้ยินว่าต้องเสรี ปลอด censor เหม่อเลย ภูมิพลังวัฒนธรรม😂
ตามความเข้าใจคือทุกอย่างเป็นsoft powerได้ แต่ไม่ใช่ทุกสิ่งจะเป็น soft power มันไม่ใช่ otop หรือ product ที่จะทำให้เห็นภาพได้ชัด ยกตัวอย่าง ที่เราคิดออกในการยกตัวอย่าง เช่น โซจูอาจเป็นแค่ผลิตภัณฑ์แอลกอฮอล์ชนิดนึงของเกาหลี เมื่อก่อนคนไทยรู้จักแต่ไม่ได้เป็นที่นิยม แต่เมื่อซีรี่ย์เกาหลีเข้ามา รวมถึงศิลปิน k-popเข้ามาเป็นพรีเซ็นเตอร์ ทำให้คนไทยเห็นแล้วอยากลองชิมเลยซื้อมาแล้วขายได้โดยที่เกาหลีไม่ได้มาโปรโมทขายแบบตรงๆโต้งๆ นี่รวมไปถึงอาหารชนิดอื่นๆเช่นหมูย่างแบบเกาหลี ชุดแบบเกาหลี นั้นแหละเป็นที่มาของ soft power ซึ่งต่างกับ product, culture หรือ traditional เฉยๆ
ถ้าตามนี้แสดงว่าสิ่งที่เป็น SP คือสื่อบันเทิงจากเกาหลีหรือเปล่าคะ ที่ทำให้คนไปตามหาผลิตภัณฑ์ และไปซื้อจนเป็นกระแส ต่อยอดไปยังการขายของอื่นๆ
@@kanokwannoikhrua692 ถ้ามองในมุมนั้นก็ใช่ครับ เพราะ โซจูก็แค่product แต่สื่อนี่แหละทำให้ products กลายเป็น soft power
ช่ายๆ เข้าใจถูกแล้วครับ แต่ โซจูก็ยังไม่ถือเป็น Softpower นะ ถ้าแค่ส่งออก นั่นก็แค่สนับสนุนการขาย แต่ก็ถือว่า อนาคตอาจจะเป็นได้
อธิบายได้ดีมากๆครับ อยากให้คนที่เค้ากระเหี้ยนกระหือรืออยากทำเรื่องนี้มาฟังบ้างงง ไม่ใช่จะเอาแต่สินค้ามาเป็น soft power อย่างเดียว อเมริกานอกจากหนังแล้วยังมีกีฬาอีก ทั้ง NBA NFL นี่ soft power ชั้นดีเหมือนกัน แล้วเกาหลีเนี่ย เค้าไม่ได้ขายสินค้าเป็นชิ้นแบบที่ มาดามคนนึงกำลังทำ TVXQ ตัวต้นๆที่ทำ พลังงานนิ่มเนี่ย เค้าไม่ได่ขายอะไรที่เป็นชิ้นหลักๆเลย ฟังทุกวันจนปวดหัว
ถ้าเป็น early 2000 เด็กๆอาจพูดว่าผมเกิดในยุค Otop แต่ยุคนี้ ผมเกิดในยุค Soft Power ป่าวครับ😅
เห็นด้วยกับคำว่า soft power = attractive power ครับ ตอนที่ได้ยินคำนี้ครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2533 ก็มองว่าสิ่งนี้จะกลายเป็นนโยบายที่ถูกพูดถึงมากมายในอนาคต
"มันจะเป็น power หรือเปล่า ขึ้นอยู่กับผู้รับ" ❤ ถูกใจ ใช่เลย ❤
หัวข้อนี้ดีแล้ว พูดถกกันบ่อย ๆ ชาวบ้านอย่างเรา (รวมถึงนักการเมืองด้วย) จะได้เข้าใจมากขึ้น
soft power คหสต น่าจะเป็นสิ่งที่มีอยู่แล้ว และยังคงอยู่ + มีอนาคต (ถ้าอยู่ ณ เวลาหนึ่งก็เป็นกระแส หรือหุ้นมีขึ้น/ลง/ตายไป) + มีความรู้สึกดี สนุก อยาก มีอิทธิพลต่อจิตใจ (แง่บวก ไม่ใช่ความกลัว)
Thainess ส่วนหนึ่งก็เป็น soft power ที่ทำให้คนแห่กันมาทัวร์ มาใช้ชีวิตบั้นปลาย แต่ thainess ส่วนหนึ่งก็อาจจะทำให้คนจีนเลิกมาเที่ยว
ความเป็นอเมริกา/หรือแคนาดาส่วนหนึ่งไม่ใช่ทั้งหมด ก็มี power ทำให้คนทั่วโลกอยากไปเรียน อยากไปอยู่ อยากไปเป็น citizen อยากอพยพย้ายประเทศไป (จีน/อินเดีย/มุสลิม/อเมริกากลาง-ใต้ไปอยู่มาก)
ฝรั่งเศส มี soft power อะไรคนไทยก็สามารถบอกได้ เช่น brand names อาหาร แต่ไทยก็พยายามเอาวิชาประวัติศาสตร์มาใส่หัวนร.เพื่ออะไรก็ตามแต่ประวัติศาสตร์ก็หนีไม่พ้นยุคอาณานิคมที่ไทยต้องเสียดินแดนให้พวกอังกฤษ/ฝรั่งเศส แต่คนไทยก็จะยังคงบ้า brand name ต่อไป เป็นต้น
คร่าว ๆ ประมาณนี้ไหม ? (ทดสอบความเข้าใจของตัวเอง) 🙇
ถ้าในอดีตมันเป็นแนวคิด (concept) การครอบงำทางความคิด แต่กรณีเกาหลีนะ เนื่องจากอ้างอิงกันเยอะในโลกยุคใหม่ Soft power คือ Strategic theme แต่ที่ไทยชอบหยิบยกหรือเอามาพูดกัน แบบที่นักการเมืองพูด กลายเป็นสินค้า กลายเป็นวัตถุ กลายเป็นสิ่งต่างๆ พาเลี้ยวออกนอกทิศทางกันหมด ตัวอย่าง USA ประชาธิปไตย เสรีภาพ ทุนนิยม คือ Soft power แต่ภาษา ภาพยนตร์ฮอลลีวูด เพลง แฟชั่น เป็นพาหนะ (vehicle) ที่ทำหน้าที่ส่งผ่าน เผยแพร่
ละครเกาหลีเรื่องแรกที่ดูคือ Autumn in my heart และตอนนั้น สปอนเซอร์ที่เข้าโฆษณา มีเจ้าเดียว คือ “การท่องเที่ยวเกาหลี” คิดดูว่าเค้าส่ง Soft power มาแบบนี้เลย แล้วดูแต่ละตอน อยากไปเที่ยวเกาหลีจริงๆตอนนั้น
คำตามเทรนด์มาก ตอนนี้โดนเอามาใช้บ่อยมากแบบงงๆ อย่างเอา ai มาทำรูปกางเกงช้างตามจังหวัดแล้วบอกเป็น soft power คือแบบใช้ได้จริงเหรอ🤔
รัฐบาลเกาหลีเค้าตั้งใจพัฒนาประเทศจริงๆ แล้วก็ทำสำเร็จด้วยแบบที่เราๆเห็นกัน ของไทยยากครับ ไม่ได้เห็นผลประโยชน์ของประเทศก่อนแบบคนอื่น T_T รัฐบาลไทยทำอะไรตามกระแส ทำให้มี ไม่ได้เน้นทำให้สำเร็จ มันก็เลยมาๆไปๆอยู่แบบนี้ ไม่สำเร็จและไม่ยั่งยืนซักอย่างเลย
รัฐบาลไทยเปลี่ยนบ่อย นโยบายเปลี่ยนตาม ไม่ทำตามนโยบายเดิม เดี๋ยวซ้ำ ทำอะไรไม่ต่อเนื่อง
อาจารย์อธิบายได้เข้าใจง่ายจริงๆ แล้วพอไปดูนโยบายที่นักการเทืองไทยได้พูดออกมา คือแบบ ……
ชัดเจนมากๆครับ
ฟังคำอธิบายแล้ว กระจ่างเลยค่ะอาจารย์ปองขวัญ มันต้องแยกแยะระหว่าง attraction กับ soft power (ที่มาพร้อม goal) แต่ดูเหมือนผู้กำหนดนโยบายบ้านเราจะเหมาให้ทุกอย่างเป็นอำนาจละมุนหมด กางเกงลายแมวเอย เล่นสงกรานต์ทั้งเดือนเอย /smh
รัฐบาลเร้ามองไกลกว่านั้น เค้าทำวิจัยทุกประเทศว่าแต่ละประเทศ มีโอกาสอะไรของไทยที่จะมีโอกาสที่ประเทศนั้นจะเปิดรับสิ่งที่เรามี เค้าก็ให้อุตสาหกรรมต่างๆไปศึกษาและคิดว่าจะเอาอะไรไปนำเสนอให้ตรงกับความสนใจของแต่ละประเทศ เค้าไม่ใช่หลับตาคิดไปเองว่าอันนี้เวิร์คอันนั้นเวิร์ค เค้ามีแบบแผนการทำงานชัดเจนนะ เอกชนคิดรัฐสนับสนุน เค้าไปไกลละแต่คนไทยยังดราม่ากันเรื่องนิยามอยู่เลย
เป็นคลิปแรกเลยนะคะ ที่เป็น Video call สุดปังมากค่ะ
ดีงามค่ะ🎉🎉🎉🎉🎉
ในที่สุดคำนี้ก็มาาาา
คำว่า Soft Power ชาวเน็ตอาจไม่ได้มองลึกจนถึงคำนิยามขนาดนั่น อาจจะมองตรงไปตรงมาแปลจากคำสองคำแล้วมาผสมกัน คนส่วนมากเลยเข้าใจแบบนั่น มันเป็นการไหลของความหมายตามช่วงเวลาเป็นไปได้ครับ
อธิบายได้ดีมากๆครับ อยากให้คนที่เค้ากระเหี้ยนกระหือรืออยากทำเรื่องนี้มาฟังบ้างงง ไม่ใช่จะเอาแต่สินค้ามาเป็น soft power อย่างเดียว อเมริกานอกจากหนังแล้วยังมีกีฬาอีก ทั้ง NBA NFL นี่ soft power ชั้นดีเหมือนกัน แล้วเกาหลีเนี่ย เค้าไม่ได้ขายสินค้าเป็นชิ้นแบบที่ มาดามคนนึงกำลังทำ TVXQ ตัวต้นๆที่ทำ พลังงานนิ่มเนี่ย เค้าไม่ได่ขายอะไรที่เป็นชิ้นหลักๆเลย ฟังทุกวันจนปวดหัว
อ.ปองสวยม๊ากกกกกกกกกกกกกก
คิดถึง อ.ปองขวัญ มากๆ ครับ
"เสรีภาพในทางความคิด และประชาธิปไตยเป็นสิ่งสำคัญสำหรับ Soft Power"...แค่นหัวเราะ
LUV อาจารย์ Fc ❤
เคลียร์มากครับ❤
ชัดเจนมาก รัฐบาลอยากทำ SoftPower แต่มหาดไทยเพิ่งออกหนังสือด่วนที่สุด สั่งให้สถานศึกษา ติดรูป K Q ประดับที่ห้องเรียนทุกอาคาร จัดการเรียนการสอนประวัติศาสตร์ และหน้าที่พลเมือง และจัดกิจกรรมส่งเสริมปลูกจิตสำนึกรักชาติ ศาสนาพระมหากษัตริย์และ เพื่อ....สู้ทำให้ประเทศเป็นประชาธิปไตแท้ให้ได้ก่อน 🙄
น่าจะไม่ได้เจอกัน คุยกัน ปรึกษากัน ไม่มีความพร้อมซักอย่าง สวนทางกันตลอด กลัวอีกฝ่ายได้หน้ามากกว่านี่แหละนิสัยคนไทยพบเจอได้ในทุกองค์กร
อ.คะ แดจังกึมสร้างก่อน winter sonata ค่ะ แต่ไทยฉายหลังค่ะ
ผมสรุปหลักการ และความเข้าใจเรื่องของ Soft Power ด้วยตัวเอง ได้โครงสร้าง องค์ประกอบของข้อสรุปเรื่องนี้สอดคล้องกับที่อาจารย์อธิบายครับ แต่การทำความเข้าใจ Soft Power ในเชิงเป้าหมาย กระบวนการ เครื่องมือเช่นนี้ โดยเฉพาะประเด็นเรื่อง “Objectice/Targe/Goal ของการสร้าง Soft Power” ซึ้งเป็นบริบทที่ยากสำหรับคนไทยส่วนใหญ่ที่คิดตาม เข้าใจได้ เพราะไม่ใช่วัฒนธรรมการคิดวิเคราะห์แบบไทย และไม่ใช่วิถีไทยที่จะคิดพิจารณาอย่างลึกซึ้งของเหตุ และปัจจัย ประเทศไทยจึงจะได้แค่วนเวียนอยู่แถวนิยามพื้นๆแล้วก็ทำสิ่งผิวเผินต่อไป
ยินดีต้อนรับ new MC ครับผมม
มาแบ้ววววค่าา❤❤
1. เวลาทำนโยบายอะไร มันจะเริ่มจาก concept เชิงนามธรรม แล้วค่อย ๆ แปลงลงไปจนเป็น รูปธรรม ซึ่งระหว่างทางจะเกิดการลดทอนหรือผิดเพี้ยนไปแน่นอน เป็นเรื่องธรรมดา ตัวอย่างเช่น concept รักชาติ --> implementation เกณฑ์ทหาร เห็นไหมว่าลดทอนไปหนักมาก
2. คิดว่ารัฐบาลพยายามจำกัดกรอบเรื่อง soft power ไว้ในเชิงเศรษฐกิจ การค้า และวัฒนธรรม เพราะมันทำให้เป็นรูปธรรมจับต้องได้ง่าย รัฐบาลอาจจะตีความว่า soft power ที่ไทยต้องการคือการโน้มน้าวใจให้ประเทศอื่นซื้อสินค้าของไทย
3. soft power อันที่จริง อาจจะเป็นเพียง buzzword ในการทำนโยบาย ที่ต้องหาอะไรที่มัน catachy เพื่อให้คนจดจำได้ง่าย ความเกี่ยวข้องของนโยบายกับ soft power จริง ๆ อาจจะมีแค่ 20% ด้วยซ้ำ
4. การที่ความหมายของ soft power ในเชิงนโยบายมันจะผิดเพี้ยนไป (บ้าง) มันไม่ได้เป็นปัญหาที่ใหญ่โตอะไรขนาดนั้น เพราะสุดท้ายมันขึ้นอยู่กับการ implement ตัวนโยบายว่ามันเกิดประโยชน์มวลรวมแค่ไหน
5. ฝรั่งเศส (เคย) ให้คนต่างชาติเรียนฟรี ในระดับมหาวิทยาลัย ทั้ง ป ตรี ป โท ป เอก (เพิ่งมายกเลิกสมัยมาครง) อันนี้เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้คนจากประเทศอาณานิคมเก่า เข้ามาเรียน และซึมซับแนวคิดของฝรั่งเศส เป็น soft power ในด้านการเมืองด้วย คือจะบอกว่า ฝรั่งเศสไม่ได้มี soft power เฉพาะเรื่องศิลปะ วัฒนธรรม
เอาคำมาใช้ผิดความหมาย เพื่อใช้ในการหาเสียง พอทำงานจริงฟังจากคนที่ทำงานข้างใน ที่เป็นคณะทำงานที่เข้ามาช่วยงานเพื่อทไยก็บอกว่าการที่เพื่อไทยใช้คำผิดความหมายมันทำให้เค้าทำงานยาก ไปคุยกับคนต่างชาติเค้าก็งง ถ้าใช้คำถูกความหมาย เอาคำมาใช้ถูกแต่แรกก็จะทำให้สื่อสารเข้าใจตรงกัน อันนี้มันแสดงให้เห็นว่าตอนคิดนโยบายสักแต่จะหาเสียง แต่ยังไม่เข้าใจจริงๆว่าคำคืออะไร กำลังทำอะไรกันแน่จริงๆ
power ในคำว่า soft power มันแปลว่าอำนาจ ถ้ามันไม่สามารถบังคับ โน้มน้าว จูงใจ ให้ประเทศอื่นๆ เห็นด้วย เห็นคล้อย และทำตามได้ นั่นมันก็แปลว่ามันยังไม่เป็น power ใช่หรือเปล่า เหมือนที่อาจารย์บอกว่า อะไรจะเป็น soft power ได้ คือคนที่รับต่างหากที่จะบอกได้ คนที่รับจะเป็นคนบอกว่า สิ่งนั้นๆมันมี power สำหรับเขาหรือเปล่า
อีกอย่างที่สำคัญคือ เป้าหมาย (goal) ถ้ายังมีไม่ชัด ก็น่าจะไม่มีประโยชน์อะไรนอกจากเป็นการโปรโมทเฉยๆ
อีกอย่างที่จับใจความได้คือ มันต้องเป็น power ที่มีผลต่อคนนอกประเทศ มันคือนโยบายการต่างประเทศไหมคะ
สรุปตามความเข้าใจคือ อะไรก็เป็น soft power ได้ เพียงแต่มันต้องมีเป้าหมาย(goal) + นโยบายการต่างประเทศ ถ้ามันได้ผลตาม goal มันก็เป็น soft power ถ้ามันไม่ได้ผล ก็เป็นได้แค่ attraction ที่จะช่วยหาเงินเข้าประเทศ
รัฐบาลอาจจะตีความตัว power ว่า เป็นอำนาจโน้มน้าวให้ต่างชาติซื้อสินค้าไทยโดยอัตโนมัติ อะไรทำนองนี้ คือมองด้านเศรษฐกิจเป็นสำคัญ
ก่อนอื่นเลย ตอนกดเข้ามาคิดว่าเป็นดารา/นางงามไม่คิดว่าจะเป็นอาจารย์เลยค่ะแวบแรก เพราะสวยมากเลยค่ะ TT (ตอนนี้พึ่งฟังถึง 3 นาทีแรกค่ะ 5555555)
มองง่ายสุดตอนนี้ก็ซีรีย์วายจริงๆ รัฐบาลควรสนับสนุนมาก
เข้าใจว่าเป็นคำที่ต้องอธิบาย แต่มาฟังอิพีนี้เหมือนมานั่งเรียนวิชาการเลยค่ะ 😂🥲🥹 เหมือนนั่งเรียนกับอาจารย์😂
คลิปนี้ขอตบมือให้พิธีกร 👏🏻 ต้องใช้สติ สมอง ในการดำเนินรายการหนักมาก เพราะคำตอบของคุณปองค่อนข้างจบในตัวจนหาคำถามต่อเนื่องยาก แต่คุณโจ๊กยังตั้งสติฟังทุกคนจนควาญคำถามเพิ่มที่ไม่กลวงและมีประโยชน์เกี่ยวเนื่องกับหัวข้อมาถามต่อ และหลายคำถามมั่นใจว่าคิดเองสด ๆ ไม่มีสคริปต์ ส่วนคำอธิบายและคำตอบของอาจารย์ปองทำให้เราสามารถตั้งคำถามเพื่อแยกแยะ soft power กับ attraction ที่มีผลทางเศรษฐกิจได้ในระดับหนึ่งเลย ขอบคุณค่ะ
ไปวิชาการเลย
คำฮิตอันดับ1= นอยอ่าาา
แฟนคลับอาจารย์ปองขวัญค่ะ😊
ลองทำความเข้าใจนะ
ตามนิยาม
Power = ต้องทำตามที่อีกฝั่งต้องการ
อาจจะหมายถึง undeniable
หมานถึงว่าเลือกไม่ได้เธอต้องทำตามที่ฉันสั่ง
ของโจเซฟ
Soft power = น่าจะหมายถึงข้างบน
เช่น คำสั่งของ ปธน บุช ว่าให้เลือก
Fried or enemies
ของเกาหลี
Soft power = attraction
เพราะ เราชอบวัฒนธรรมจริงๆ
เช่น กินมาม่า กับ กิมจิ
แต่เราไม่ได้โดน power หนิ
วันนี้กิน พรุ่งนี้ไท่กินก็ได้
ของไทย = เกาหลี = attraction
ดำนั้นจะมาเป็น " SOFT POWER "
เหมือนกันไม่ได้ !!!! 😂
ส่วนตัวผมมองว่า Soft Power มันไม่ได้ยากทุกอย่างเป็นได้แต่...ไม่ใช่ว่าจะเอาทุกอย่างมาเป็น Soft Power เอาจริงๆนะ ที่เห็นร้าบาลแถๆกันเรื่องนี้ มีแค่ข้าวเหนียวมะม่วงของมิลลิที่แลดูเป็นไปได้ที่สุดมันคือการที่เอาข้าวเหนียวมะม่วงขี้นไปกินแบบงงๆแบบไม่ได้ตั้งใจแต่มันมี Power มันทำให้คนสนใจข้าวเหนียวมะม่วงและไม่ใช่แค่คนไม่กี่คนอยากลองแต่มันคือคนหมู่มาก อีกอันก็มะม่วงน้ำปลาหวานของละครบุพเพสันนิวาสอันนี้ที่ดูเป็น Soft Power จริงๆนอกนั้นพูดส่งๆให้มันแลดูเป็นค่านิยมแปลกๆใช้คำนี้พร่ำเพรื่อ ร้าบาลเอามาพูดมั่วๆจนคำว่า Soft Power กลายเป็นแค่เกาะกระแสสังคมไปวันๆ ฉนั้นแล
แดจังกึมคือสร้างตัวตนฉันมาแท้ๆ
วอลเลย์บอลหนะ ได้เห็นๆ กลับไม่หยิบ ดูจากงานล่าสุดยังได้ หลายอย่างๆ ที่เป็น อัตลักษณ์ ของไทย เหล่าบรรดานักกีฬาและแฟนคลับ จากนาๆ ประเทศที่ร่วมเข้าก็พูดถึงไทยกัน เช่น ตุ๊กๆ สนุกจัง, มารยาทกองเชียไทย, บางคนไปทะเล ไปวัด ไปตลาด ต่างก็ถ่ายทอดผ่านคลิปสั้นของเขาออกไป เพียงแค่ไม่กี่วัน มีแต่คำชมไม่ขาดสาย สามารถนำไปขับเคลื่อนสนับสนุดกับซอฟต์พาวเวอร์ได้
อยากเรียนกับอาจารย์มากก
อ๋อ พลังนุ่มนิ่ม
เช็คชื่อครับบ!!
ดันสายฉีดก้น เลยครับ
กี๊ด มีน้องดรีมมม 💚
❤❤❤
ทุกอย่างเป็น soft power ได้ และการตั้งใจทำ/ผลักดันสิ่งใดสิ่งหนึ่งก็ทำให้เกิด soft power ได้ นี่คือความจริง แต่หลายคนไม่ยอมรับ เพราะไม่ใช่พรรคที่ตัวเองเชียร์ทำ
Soft Power หมูกระทะ❌
Let them eat Moo Kra Ta ✔️
Let them eat moo kra ta นี่แหละเป็นกระบวนการส่งเสริม soft power
@@TheNeololita เข้าใจการล้อไปกับวลี Let them eat cake มั้ยคะ? รู้ถึงความหมายที่มาที่ไปของวลีมี้ยคะ? 🤣แล้วเข้าใจ Soft power "บ้าง" มั้ยคะ? เอาอะไรมาส่งเสริม 🤣🤣🤣🤣
@@LadyPompadourX อย่าให้พูดถึงมารีอองตัวเน็ทเลย รู้จักคำว่าหมาเลียไข่ตัวเองไหม 😆
@@TheNeololita รักจะเข้ามาแบก Soft power ไม่ต้องประกาศให้โลกรู้หรอกค่ะ แบบนั้นเข้าเรียก Hard sell ยัดเยียดค่ะ เอาอะไรมา Soft power หมูกระทะ 🤣😂 หมาเลียไข่ตัวเองก็รู้จักค่ะ แต่หมาที่เลียยันไข่ยันตีนหมาตัวอื่นเริ่มๆได้เห็นบ้างแล้วค่ะ
การจะทำให้โลกสัมผัส power ได้จะต้องมี “ชุดคุณค่า” ที่สากลยอมรับ ในคลิปเขายกตัวอย่างซีรีส์วาย ซึ่งสะท้อนการยอมรับความแตกต่างหลากหลาย
และถ้าย้อนประวัติศาสตร์ประเทศไทยเป็นประเทศที่ยอมรับความหลากหลายมาแต่ไหนแต่ไร ทั้งเชื้อชาติก็อยู่ร่วมสังคมกันได้ ทั้งวัฒนธรรมเราก็สามารถปรับให้เข้ากับประเทศไทยได้
รวมทั้งอาหาร หมูกระทะเกิดจากเมนูสองอย่างจากต่างประเทศคือ สุกี้ยากี้ และ ยากินิกุ โดยคนไทยจับเอามารวมอยู่ในเมนูเดียวกลายเป็นหมูกระทะ ซึ่งสะท้อนการโอบรับความแตกต่างอีกเช่นกัน
15:28 เผด็จการเป็นตัวขวางความเจริญทุกอย่างจริงๆ
แก ฉันอึ้ง ฉันมาทันงงๆ55
ส่วนตัว soft power คืออุตสหกรรมบันเทิง เพลง หนัง ซีรี่ย์ การท่องเที่ยว เทคโนโลยี เพราะสามารถสอดแทรกสินค้าและวัฒนธรรมบางอย่างเข้าไปได้ จนทำให้คนที่ไม่รู้จักอยากจะได้ลิ้มลองอยากจะได้ครองครองหรืออยากจะรู้จัก
นี่คุณพูดมาคือ attraction แต่ไม่ใช่ attractive soft power ไหมคับ
ฉันมา ฉันฟัง ถึงเป็นเวลางาน แต่ฉันไม่สน ฉันจะฟัง
จะเป็น SOLF POWER รึป่าวมันอยู่ที่ผู้รับ
อันนี้คือเห็นด้วยมากๆๆๆๆๆๆๆ
ขอคำว่า Woke บ้าง
เม้นที่ 3000
เคยเรียนกับจาร
หนึ่ง ผลิตภัณฑ์ หนึ่งตำนาน 😂😂
ซอฟต์นี
องค์รุยังไม่แก่กล้าพอ แต่ช่างกล้าน่อ
อุ๊งอิ๊ง ไม่เห็นเข้าใจ soft power ตามที่อธิบายในนี้
ทุกวันนี้ "นี้" ก็ยังไม่เข้าใจ
Softpower ไทย คือ "Well being and spiritual Retreat"
ไม่ได้ฟังที่คุณพูดเลยมัวแต่มองหน้าคุณ xoxo
เกาหลีไปไกลแล้ว แต่สื่อไทยยังมานั่งตั้งคำถามแบบนี้อีก
ไม่ได้ฟัง
เม้นที่สาม🥺😭😍
นึกอะไรไม่ออก บอกsoft powerใว้ก่อน
เรื่องแรกที่ดู 30ปีที่แล้วมั้ง all about yves.
น้ำเสียงอาจารย์คนนี้ ฟังดูกระแทกแดกดันมาก เหมือนเคยฟังตอนเรียน มธ ทุกวัน
รัฐบาลควรดู Ep.นี้นะคะ
ผู้ใหญ่ในรัฐบาลควรจะเอาไปคิดดุนะ แนวทางมันดีมากๆ ความเท่าเทียมทางเพศ LGBTQ เป็นประเทศหลักไปเลย มิวนิค🇹🇭🇩🇪🇹🇭🇩🇪
ผมเป็นชาวช่องนะ แต่คลิปนี้ผมไม่แน่ใจว่าจะทำทำไมหรือมีเจตนาอะไรแอบแฝง ทุกอย่างเป็น soft power ได้ครับ
ทุกอย่างเป็น soft power ได้จริง ในขณะเดียวกันทุกอย่างก็ไม่สามารถเป็น soft power ได้เช่นกัน มันขึ้นอยู่กับกระบวนการทำให้ถูกวิธี
ทุกอย่างเป็นได้อะจริง แต่ไม่ใช่ทุกสิ่งจะเป็น soft power มันไม่ใช่ otop ที่จะทำให้เห็นภาพได้ชัด เช่น โซจูเป็นแค่ผลิตภัณฑ์แอลกอฮอล์ชนิดนึงของเกาหลี เมื่อก่อนคนไทยรู้จักแต่ไม่ได้เป็นที่นิยม แต่เมื่อซีรี่ย์เกาหลีเข้ามา รวมถึงศิลปิน k-popเข้ามาเป็นพรีเซ็นเตอร์ ทำให้คนไทยเห็นแล้วอยากลองชิมเลยซื้อมาแล้วขายได้โดยที่เกาหลีไม่ได้มาโปรโมทขายแบบตรงๆโต้งๆ นี่รวมไปถึงอาหารชนิดอื่นๆเช่นหมูย่างแบบเกาหลี ชุดแบบเกาหลี นั้นแหละเป็นที่มาของ soft power ซึ่งต่างกับ product, culture หรือ traditional เฉยๆ
เมื่อคำมันปรากฏแพร่หลายผู้คนสนใจ เป็นธรรมดาที่มีคนอยากจะให้ความรู้เกี่ยวกับสิ่งที่เป็นกระแส อย่ามองว่าทุกคนต้องเห็นแบบเดียวกับฉัน จัดการกับความคิดของตัวเองอย่าไปจัดการกับความคิดหรือการกระทำของคนอื่น โลกอยู่ยากขึ้นไปทุกวันแล้วครับ
จอห์น วิค ใช้ดินสอเป็นอาวุธได้ แต่ไม่ใช่ว่าทุกคนจะทำได้ ที่สำคัญคนส่วนใหญ่ไม่รู้วิธีด้วยซ้ำ จากที่ฟังคนในรัฐบาลพูดเรื่อง soft power มาหลายคน คิดโดยบริสุทธ์ใจเลยว่าเขาพูดไปเรื่อยเปื่อยตามกระแสเท่านั้นแหละไม่ได้เข้าใจอะไรหรอกและจะลงมือทำสักอย่างหรือเปล่าก็ไม่รู้
กรี๊ดออกมาครับ กรี๊ดออกมา
เป็นผู้ด้านแหล่งฟอกเงิน ก็พอได้อยู่
เบื่อคำนี้ค่ะ ใช้กลาดเกลื่อนจนน่ารำคาญ ผิดบ้างถูกบ้างว่ากันไป
พูดมาตั้งนานนนน....
แต่ยังมิรุรึว่ารัฐมีโก goals อะไร
โธ้ๆๆๆ แร้วยังมานำเหนอวิเคราะห์รึ?
Soft power by อุ้งอิ้ง ไม่ใช่ soft power ในเชิงอำนาจระหว่างประเทศ แต่มันคือการเกาะกระแส บางอย่าง ที่เอามาเป็นจุดขาย หรือมองง่ายๆ คือ ภาคใหม่ของนโยบาย คล้ายๆ กับ otop อย่ายึดติดกับคำ ให้ดูว่าใครพูด ถ้าเพื่อไทยพูด เราแค่เข้าใจว่ามันคือการโหนกระแสบางอย่างเอามาอัพเซลล์ ไม่ได้ยิ่งใหญ่แบบความหมายจริงของคำ จบนะ
ใช่ค่ะ มันเป็นแค่ catch phrase หรือ motto ที่เวลาทำนโยบายต่าง ๆ มันต้องมี ส่วนความจะเป็น soft power แท้กี่ % นั้น ไม่ได้เป็นปัญหาอะไรขนาดนั้น เพราะสุดท้ายมันต้องไปตัดสินกันว่า ตัวนโยบายในส่วนที่ implement ลงไป คือเกิดประโยชน์อะไรบ้างต่อมวลรวม
แต่คุณก็ต้องเข้าใจนะ คนบางกลุ่มเขาแค่อยากจะแสดงออกว่าเขารู้มากกว่า ฉลาดกว่า เพื่อเอามาข่ม มาเหยียด คนอีกกลุ่ม โดยพยายามหาจุดผิด แม้จะเล็กน้อยที่สุด ก็จะหามาให้ได้ อะไรแบบนี้เท่านั้นแหละ คิดว่าเป็นสีสันของสังคมประชาธิปไตยก็แล้วกัน
เอานักปฏิบัติที่สำเร็จ เอานักวิชาการที่มีผลงาน มาคุยดีกว่าไหม ประโยชน์แก่คนฟัง ไร้สาระนอกกัด เสียดายรายการ.
ไม่เสียดายนะ เขาอธิบายดี เป็นประโยชน์แก่คนฟังไหมก็ขึ้นอยู่กับใครฟัง
ผมตดได้เสียงดัง นี้คือ Soft Power