มะม่วงเป็นจุดดำเวลาผลสุก แก้ไขอย่างไร

แชร์
ฝัง
  • เผยแพร่เมื่อ 17 ก.ย. 2024
  • โรคแอนแทรคโนส มีสาเหตุเกิดจากเชื้อรา Colletotrichum gloeosporioides และจัดเป็นโรคที่สำคัญที่สุดของมะม่วง ที่ปลูกในสภาพอากาศร้อนชื้นอย่างประเทศไทย เชื้อราก่อโรคแอนแทรคโนส สามารถสร้างส่วนขยายพันธุ์ขึ้นใหม่ และเข้าทำลายพืชได้ทุกระยะการเจริญของมะม่วงตลอดฤดูการปลูก จึงทำให้การควบคุมโรคเป็นไปอย่างยากลำบาก อาการของโรคเกิดได้กับส่วนต่างๆของพืชได้แก่ อาการใบจุด ใบและกิ่งแห้งตาย อาการทั้งหมดที่เกิดขึ้นนี้จะเป็นแหล่งสะสมเชื้อที่จะแพร่ระบาดเข้าทำลายผลมะม่วงที่กำลังพัฒนา โดยเชื้อจะอยู่ในระยะพักตัว จนกระทั่งมะม่วงแก่และถึงระยะเก็บเกี่ยว ต่อมาเมื่อผลใกล้สุก เชื้อจะเริ่มพัฒนาใหม่และทำลายผลมะม่วงก่อให้เกิดอาการผลเน่าเสีย ซึ่งจัดเป็นโรคที่สำคัญในระยะหลังการเก็บเกี่ยวของมะม่วง จึงเป็นอุปสรรคที่สำคัญในการส่งไปจำหน่ายทั้งตลาดภายในและต่างประเทศ โดยเฉพาะมะม่วงที่ใช้รับประทานแบบผลสุกและเปลือกบาง จะถูกเชื้อเข้าทำลายได้ง่าย เช่นพันธุ์น้ำดอกไม้ ซึ่งเป็นพันธุ์ที่ได้รับความนิยมจากตลาดต่างประเทศ และมีมูลค่าการส่งออกมากที่สุดกว่าพันธุ์อื่นๆ
    การจัดการระบบการควบคุมโรคแอนแทรคโนสในสวนมะม่วง ประกอบด้วย
    1. การจัดการภายในสวน
    - ต้องมีการตัดแต่งกิ่งและทรงพุ่มให้โปร่ง เพราะต้นมะม่วงที่แตกกิ่งก้านหนาแน่น เป็นที่สะสมของโรคและแมลง เป็นอย่างดี แสงแดดส่องถึงทำให้บรรยากาศในพุ่มแห้ง ไม่เหมาะต่อการเจริญเติบโตของเชื้อโรค
    - การตัดแต่งทรงพุ่มให้โปร่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับสรีรวิทยาของต้น ช่วยให้ต้นมะม่วงจัดระบบการใช้แร่ธาตุอาหารได้ดี มีผลต่อการพัฒนาผลมะม่วง และยังเป็นวิธีที่ลดปริมาณการใช้สารเคมีได้
    2. การใช้สารเคมีในการป้องกันกำจัดโรคพืช
    สารเคมีที่มีประสิทธิภาพในการควบคุมโรคแอนแทรคโนสของมะม่วงประกอบด้วย 2 กลุ่มหลัก คือสารเคมีประเภทสัมผัส ได้แก่ แมนโคเซ็บ กลุ่มสารประกอบทองแดงหรือ คอปเปอร์ไฮดรอกไซด์ คอปเปอร์ซัลเฟต และ คอปเปอร์อ๊อกซี่คลอไรด์ สารเคมีประเภทดูดซึม ได้แก่ คาร์เบนดาซิม อะซ็อกซี่สโตรบิน และ โปรคลอราซ
    ทั้งนี้ไม่ควรใช้สารเคมีชนิดเดียวอย่างต่อเนื่องหรือติดต่อกันเป็นเวลานาน รวมทั้งไม่ใช้ในอัตราที่สูงเกินกว่ากำหนด เพราะนอกจากจะเป็นการสิ้นเปลืองแล้วยังจะมีผลต่อการพัฒนาความต้านทานต่อสารเคมีของเชื้อก่อโรค และมีผลกระทบต่อคนและสัตว์ในเรื่องของพิษตกค้าง และยังทำลายกลุ่มจุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์ จึงมีความจำเป็นที่ต้องใช้ในอัตราที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด ควรทำการศึกษาอย่างละเอียดก่อนการใช้ และควรมีการใช้สารจับใบเพื่อเสริมประสิทธิภาพ
    สำหรับสวนที่มีประวัติการแพร่ระบาดของโรคแอนแทรคโนสอย่างต่อเนื่อง มีความจำเป็นต้องใช้สารเคมีป้องกันกำจัดเชื้อรา ควรเลือกสารเคมีดังกล่าวข้างต้น และผสมกับสารจับใบเพื่อเสริมประสิทธิภาพฉีดพ่นสลับกันระหว่างสารชนิดสัมผัสและสารชนิดดูดซึม ทุก 10 ? 15 วัน ตั้งแต่ภายหลังตัดแต่งกิ่ง จนกระทั่งถึงระยะห่อผล เพื่อเป็นการลดปริมาณของเชื้อที่เจริญแบบแฝงภายในลำต้น ทั้งนี้ต้องมีการรักษาความสะอาดภายในสวน โดยเฉพาะบริเวณโคนต้น ต้องหมั่นกำจัดวัชพืช และเศษซากพืชที่ร่วงหล่นออกไปให้หมด เพราะเป็นแหล่งสะสมของทั้งเชื้อโรคและแมลงศัตรู ถ้าสภาพอากาศมีความชื้นสูง หรือมีหมอกจัดในตอนเช้า และแดดร้อนในช่วงกลางวัน หรือมีฝนตกต่อเนื่อง ควรเลือกสารเคมีชนิดดูดซึมเช่น โปรคลอราซ ฉีดพ่นเพิ่มเติมจากโปรแกรมที่กำหนดไว้ เพราะเป็นสภาพที่เหมาะสมต่อการเข้าทำลายของเชื้อ โดยควรมีระยะเวลาที่สารเคมีสัมผัสกับใบไม่น้อยกว่า 4 ชั่วโมง เพื่อให้ตัวยาออกฤทธิ์เต็มประสิทธิภาพ นอกจากนี้วิธีการฉีดพ่นสารเคมีต้องฉีดให้ละอองของยาสัมผัสอย่างทั่วถึงทั้งทรงพุ่ม และฉีดพ่นสารเคมีกับผลมะม่วงที่อยู่ในระยะที่สามารถห่อผลได้แล้วเป็นครั้งสุดท้าย เพื่อป้องกันสารเคมีตกค้างในผลผลิตเกินกว่ามาตรฐานที่กำหนด การดูแลตลอดระยะก่อนการเก็บเกี่ยว ควรมีการเลือกใช้สารเคมีป้องกันกำจัดแมลงที่ตรงกับแมลงศัตรูที่มีการแพร่ระบาดในช่วงระยะเวลานั้นๆ เพราะแมลงศัตรูบางชนิดนอกจากเป็นตัวทำลายกัดกินใบหรือดูดกินน้ำเลี้ยงแล้ว ยังเป็นพาหะในการแพร่ระบาดของโรคอีกด้วย

ความคิดเห็น • 12

  • @ก.ไก่ชาแนล
    @ก.ไก่ชาแนล ปีที่แล้ว

    ขอบคุณมาก ได้สาระประโยชน์มาก

  • @user-rb9wt5pi9n
    @user-rb9wt5pi9n ปีที่แล้ว

    ขอบคุณคะ

  • @thongseesanmat3204
    @thongseesanmat3204 ปีที่แล้ว

    สวัสดีค่ะ

  • @poop5821
    @poop5821 ปีที่แล้ว +1

    ก่อนเก็บเกี่ยวผลมะม่วงมันแตกแก้อย่างไร

    • @Agricultural.Self.Sufficiency
      @Agricultural.Self.Sufficiency  ปีที่แล้ว

      ผลแตก เกิดจากการขาดเเคลเซี่ยม จริงๆต้องพ่นบำรุงตั้งแต่ผลเล็กๆแล้วนะครับ

  • @sornponghuab-eam1188
    @sornponghuab-eam1188 ปีที่แล้ว +1

    เห็นมะม่วงเป็นแบบนี้ตั้งแต่เด็ก ไม่รู้เลยว่ามันเป็นโรค และไม่ได้สังเกตเลยว่าอันที่ไม่เป็นโรคหน้าตาเป็นยังไง

  • @OppoA-qs7gx
    @OppoA-qs7gx ปีที่แล้ว

    มะม่วง..เออวอ้น,กุ้ยเฟยที่สั่งของอาจารย์ปีนี้ออกดอกแล้ว

  • @user-ml4et3cr4m
    @user-ml4et3cr4m ปีที่แล้ว

    ดดิฉันเคยอ่านเจอว่ามะม่วงเป็นดอกให้มันติดให้ใส่ขี้เถ้าและเปลือกไข่และมีอะไรอีกน๊ะค่ะ

    • @Agricultural.Self.Sufficiency
      @Agricultural.Self.Sufficiency  ปีที่แล้ว +1

      ใส่ปุ๋ยซิครับถึงจะได้กิน ไปใส่พวกนั้นมันเป็นตัวปรับโครงสร้างดินไม่ใช่ปุ๋ย