ขนาดวิดีโอ: 1280 X 720853 X 480640 X 360
แสดงแผงควบคุมโปรแกรมเล่น
เล่นอัตโนมัติ
เล่นใหม่
ตอนนี้ไม่โดนเพื่อนบูลลี่นะ แต่ครูอะชอบเหยียดมาก แบบน่าตารูปร่างไรงี้ มันทำให้เราไม่ชอบวิชานั้นๆไปเลยอะค่ะ
สมัยก่อนไม่มีคำว่า บุลลี่เข้ามาจำกัดความว่าพฤติกรรมที่กำลังทำอยู่มันเป็นการบุลลี่นะ มันเลยแรงมากๆๆ เคยทำแล้วก็เคยโดนบุลลี่หนักมาก จนเรามองว่าที่เราเป็นมันผิดปกติ ไรงี้ แล้วประเด็นคือตอนนี้มองกลับไป ที่ได้เสียงแบบนี้มานี่โคตรชอบตัวเอง ไม่เหมือนใคร เพราะไม่อยากเหมือนใคร แต่สมัยนี้เจอมาเหมือนกัน เพื่อนในกลุ่ม วัฒนธรรมของการอยู่กลุ่มนี้คือ เราจะมีปาตี้กันทุกๆ วีค ประเด็นคือ ใครไม่อยู่ในกลุ่ม ณ วันที่เราปาตี้กัน จะโดนนินทา แต่มันมีวันนึงที่เราไปหาตี้เพื่อนช้า ทุกคนมีเซนส์หมดแหละที่เวลาเดินเข้าไปในกลุ่มกลุ่มหนึ่งหรือว่า ที่ที่นึงแล้วรู้สึกว่าคนรอบๆ ตัวไม่โอเคกับเรา วันนั้นที่เราไปช้า เรารู้สึกได้ว่า เออ กูว่ากูโดนละ รู้สึกได้ว่า โดนมอง โดนไม่ได้เปิดใจคุยด้วยอยู่มีเพื่อนคนนึง ที่เป็นคนคอยเปิดประเด็นนินทา ตอนที่มันอยู่กับเรามันก็เล่าเรื่องของตัวมันเองภูมิใจมากกับการที่ รวมคนอื่น เปิดประเด็นนินทาคนนึง หรือว่า รวมเพื่อนเพื่อนให้แบนอีกคนนึง ฟีลไปรวมๆ แกีงในที่ทำงาน แล้วไปบอกว่าคนนั้นทำแบบนี้นะ เรื่องลบๆ จนคนรอบตัวของคนนั้นก็เริ่มมองคนนี้ลบ เพื่อนคนนี้อยู่ด้วยเขาก็พูดกับเราดีนะ แต่พอไม่อยู่ลับหลัง เอาเรื่องเราไปพูดอะไรก็ไม่รู้ณ ตอนนี้เราเลยปลีกตัวออกมาจากกลุ่ม แล้วอยู่กับเพื่อนที่เออ เขาเห็นเราว่าเราอยู่ตรงนั้น เขาสำคัญเราสำคัญ มีความสุข
สมัยม.ต้น มีความสุขได้แค่ปีแรกเท่านั้นแหละ หลังจากเพื่อนสนิทย้ายไปก็มีเพื่อนมาตีสนิท แต่เคมีเข้ากันไม่ได้ สุดท้ายโดนผญ.ทั้งห้องแบน อยู่คนเดียว มีไปอยู่กับเพื่อนผช.บ้าง แต่ก็เหงาอยู่ดี(แต่ให้เทียบกัน ตอนอยู่คนเดียวมีความสุขกับตอนอยู่กลุ่มใหญ่ๆ อีกนะ รู้สึกปลอดภัย---) จนเรียนจบม.ต้น มาเข้าปวช. เพื่อนๆ ดีมาก สังคมอาจไม่หรูหราแต่ทุกคนใจดีมาก ทุกคนในห้องรักกันมาก ตอนเข้าใหม่ๆ เราตั้งใจว่าจะไม่คบเพื่อน จะไม่เชื่อใจใคร ต้องขอบคุณเพื่อนๆ ในห้องที่รักเรา รับฟังและเข้าใจ ถ้าไม่มีพวกเขา การมีเพื่อนก็คงยังเป็นฝันร้ายของเราต่อไปแน่ๆ....
ผมตอนนี้กำลังเรียนอยู่ปี5 (ฝึกงาน) ก็คือจบมัธยมมาเกือบ 5 ปี แล้ว รู้สึกว่าไม่ค่อยต่างจากพี่น็อตมากผมจะลองเล่าเผื่อคนอยากหาอะไรอ่านเอาบรรเทิง หรือจะเอาไปคิดเป็นประโยชน์ก็แล้วแต่คนอ่านเลยนะครับ ---- อนุบาล ----ผมเป็นคนที่ขี้แยมาก คือบ่อน้ำตาตื้นกว่าคนปกติ ตอนนี้ก็เป็นอยู่คือไม่ได้เจ็บมากแต่น้ำตาไหลง่าย แต่ไม่ได้สะอื้นอะไรนะ ทำให้เพื่อนผชในห้องชอบรุมแกล้ง เพราะเขาเห็นว่าเราน้ำตาไหลและคงสะใจเพราะเหนือกว่ามั้งนะ เพื่อนผญก็ไม่ช่วยนะ ทำเมินเลยแต่พอ อนุบาล 3 แล้วเราก็รส.ว่าเราโตขึ้น เข้มแข็งขึ้น มีเพื่อนคู่หู และก็ร้องไห่น้อยลง เพื่อนก็จะไม่ค่อยรุมแกล้งละ---- ประถม ----1. ผมเป็นลูกครูที่รร. เลยจะถูกบางคนมองว่าเราเส้น เราได้สิทธิมากกว่าเพื่อนทั้งๆที่พ่อแม่เราทรีตเราแบบนักเรียนธรรมดาเลยนะ2. เพราะเป็นลูกครู + ตัวใหญ่ = นักเลง ผมโดนท้าต่อยตีบ่อยมากตั้งแต่ขึ้น ป.1 ส่วนมากจากรุ่นพี่เพราะอาจจะไม่ชอบขี้หน้าเราหรือไม่ชอบพ่อแม่เราแล้วมาหาเรื่องเรา คำพูดที่ได้ยินบ่อยมากๆคือ "ถ้าร้องไห้ อย่าไปฟ้องพ่อแม่มึงนะ" ผมเจอบ่อยมาก แต่ก็ต้องขอบคุณเพราะทำให้ผมเริ่มสู้คนขึ้นมาบ้างและไม่เคยต่อยตีแพ้กับพวกประเภทที่เข้ามานี้เลย 3. ผมถูกเพื่อนล้อน้อยนะเรื่องรูปร่าง สำหรับเพื่อนในห้องเดียวกัน แต่ผมเคยโดนผู้ปกครองเพื่อนบูลลี่ว่าเป็นเด็กโข่ง ซ้ำชั้น น่ากลัว นักเลง กลัวผมไปทำร้ายลูกเขา เออ ผมก็แปลกใจนะ เขาพูดดังจนผมได้ยินเขาคุยกันเลย ซึ่งมันไม่ควร ถ้าเป็นเด็กคนอื่นอาจเป็นแผลในใจเลยก็ได้ แต่เพราะจริงๆผมติดTOP 5 ตลอด ผมเลยไม่เอามาใส่ใจ 4. เวลามีใครโดนบูลลี่ หรือโดนทำร้าย โดนแกล้ง คนรอบๆมักจะทำเฉยๆหรือเมิน ผมเคยมีเรื่องชกต่อยเพราะเข้าไปช่วยเพื่อน มาหลายครั้ง เคยมีตอนอยู่ ป.1 ไปสู้กับ ป.6 แบบตึงๆมือเลย และตอน ป.4 ที่โดนป.6 6-7 คนมารุมกระทืบ คงเป็นครั้งเดียวเลยที่ผมแพ้ เพราะเราตัวใหญ่ ตอนแรกก็สูสีเพราะเข้ามาทีละคน พอมันเริ่มรุมก็เริ่มตึงมือ มาแย่ตรงที่ฝั่งมันเอาคนตัวใหญ่ที่สุดวิ่งมาชนผมให้ล้ม และพอล้มมันก็เอาเท้ามาชี้หน้าผม ละพูด อย่าเอาไปฟ้องพ่อมึงล่ะ แต่เหตุการณ์ก็จบโดยที่พ่อผมขับรถมาที่จุดนั้นพอดี และไอ้คนพูดก็ตอแหลใส่พ่อผมบอกว่าน้องล้มเลยมาช่วย... //// สำหรับผมเพื่อนตอนประถมคือดีมาก เพื่อนคือเพื่อนจริงๆ รักใคร่สนิทเล้นกันได้แบบไม่ต้องอาย อาจเพราะเป็นโรงเรียนเทศบาล วัด ด้วยบ้านๆ มีทะเลาะกันบ้าง พอต่อยตีจบเรื่องก็คือจะไม่มีครั้งต่อไปเลย หลังจากจบประถม ผมก็จะต้องระวังกับคำว่าเพื่อน ให้ดีๆขึ้นกว่านี้มาก เพราะใจแลกใจใช้ไม่ได้แล้ว-------- มัธยมเดี๋ยวมาเล่าต่อจ้า ----------
น้องผู้หญิงน่ารักมากจัง ทั้งกริยา คำพูด น้ำเสียง แล้วแถมพูดเก่งด้วยนะ น่ารักมาก
ผมเป็นคนที่รูปร่างเล็กและผอม กินเยอะแค่ไหนก็ไม่อ้วน น้ำหนัก48ตลอด สูง180 ผมก็รู้นะว่าผมผอมมาก แล้วตอนเรียนจะเป็นคนเดียวที่โดนคนในโรงเรียนรวมถึงคนที่เป็นครู บูลลี่ว่า #ติดยา #ไอแห้ง #ไอดำ และล้อนามสกุลผม เป็นแบบนี้มาตั้งแต่ประถมจนจบมัธยมปลาย ผมรู้สึกเสียใจเล็กๆ แต่จริงๆแล้วผมก็ไม่โกรธคนพวกนี้นะ เพราะผมไม่เคยยุ่งกับยาเสพติดเลย#หยุดบูลลี่ #หยุดแกล้ง #หยุดตีกรอบ #คนโดนไม่สนุกด้วย
14:38 อันนี้จริงมาก มีเพื่อนคนหนึ่งในห้องเราเค้าตัวเล็กๆผอมๆแล้วเพื่อนที่แก๊งใหญ่ๆในห้องก็บอกประมาณว่า เฮ้ยอินี่เป็นโรคซึมเศร้านะอย่าไปเล่นกับมัน เราก็เอ๊ะ โรคซึมเศร้ามันไม่ใช่โรคติดต่อนะ ถ้าเพื่อนเขาเป็นจริงๆ เราควรจะทำให้เค้าเอ็นจอยมากขึ้นรึป่าว
พูดคุยแลกเปลี่ยนได้ดีมากๆเลยครับฟังแล้วรู้สึกเพลิดเพลินจริงๆ (น้องแป้งเสียงใสจังเลยน่ารัก)0:08 เคยโดนจากบูลลี่จากเพื่อนหรือครูมั้ย6:12 เคยเห็นการโดนบูลลี่มั้ย8:59 เคยเป็นคนบูลลี่มั้ย11:07 สังคมในโรงเรียนมีปฏิกริยายังไงกับการบูลลี่16:49 เคยช่วยคนที่โดนบูลลี่มั้ย19:18 อยากกลับไปแก้แค้นคนที่บูลลี่ไหมปล.เรื่องการบูลลี่เนี่ยผมว่าไม่ควรไปล้อใดๆทั้งสิ้นนะเขาจะแต่งแฟชั่นหรือนิสัยยังไงก็เรื่องของเขา เรางดบูลลี่ทุกกรณี คนแกล้งล้อสนุก แต่คนรับไม่สนุกด้วยจำไว้ #งดการบูลลี่
เรื่องทรงผม อันนี้ก็เห็นชอบนะคะที่เสรีทรงผมต่างๆ แต่กฎต่างๆ ถ้ายังไม่มีการเปลี่ยนแปลงมันก็เรียกว่าผิดระเบียบอยู่ดี
นี่คือแบบเราก็ไม่ได้ทำอะไรผิดนะแต่ว่ามาเช้าทุกวันแล้วทุกวันสุกจะมากวาดโดมแต่เราอ่ะนัดรวมกลุ่มที่จะทำรายงานและถักเปียแต่ครูบอกว่าเธอไม่ชอบครูขนาดนั้นเลยหรอ(พี่กับเราคิดว่าครูแกเป็นไบโพล่า)
อยากรู้มุมมองของครูบ้างครับ
เราไม่โดนเพื่อนบูลลี่ มีแต่ครูที่บูลลี่เรา ด้วยเราเป็นผู้ชายตัวเล็ก หน้าตาติ๋มๆ ผิวขาว ครู2-3คนถามเลย เป็นปะเนี่ย นี่ก็แบบเป็นเหี้ยไรวะ บางคนก็ว่า ผู้ชายเจ้าสำอางบ้างแหละ ทั้งที่กูแค่ผิวขาวโดยกำเนิดจะสำอางไรวะ
โดนเหมือนกันครับ ครูเดินมาทักว่า ทาลิบหรอ ผมอึ้งไปเลย ผมเป็นคนไม่สูบบุหรี่ไม่ดื่มเหล้า ปากสีแบบนี้มันจะทำไม หึ!!
ของเราคือครูให้ส่งรูปบ้านที่ถ่ายคู่กับเราแล้วเราคือส่งช้าเพราเขาให้ถ่ายกับพ่อ,แม่แล้วพ่อแม่เราคือไม่ค่อยว่างก็เลยถ่ายช้าแล้วพอไปถึงโรงเรียนครูก็เปิดโปรเจคเตอร์แล้วเอารูปเราที่ถ่ายคู่กับแม่ที่ส่งให้ครูไปฉากบนจอแล้วด่าว่าเป็นอีตัวปัญหาทำให้ครูต้องมาทำของเราตอนหลังแล้วก็ตีเราแล้วคือตอนนั้นงงมากว่าจะด่าก็ด่าสิจะเอาหน้ากุขึ้นเพื่อแล้วหน้าเราไม่พอหน้าแม่เราด้วยแล้วคือเราอายมากรู้สึกเหมือนโดนประจานเวอร์
และนี่คือคำตอบทั้งหมดของผมเกี่ยวกับเรื่องบูลลี่นะ0:08 เคยนะแต่กับเพื่อนเท่านั้นครูไม่ล้อเท่าไร แบบฟันเหยิน ตัวบางแบบผู้หญิง หน้าตาไม่หล่อไรงี้ก็แบบเสียใจและโกรธแค้นในเวลาเดียวกัน6:12 ประจำอ่ะแบบเรียนเก่งไป หล่อเกินไป สวยเกินไป โดดเด่นเกินไปไรงี้ ล้อเลียนต่างๆนาๆ เยอะแยะเต็มไปหมดอ่ะ (ถึงจะน้อยแต่เคยละกัน)8:59 นิดหน่อยจะบูลลี่คนแบบสนิทจริงๆเช่น ไออ้วนไรงี้แต่แบบน่ารักๆ 555511:07 เฉยๆนะมันเรื่องปกติไม่ได้ถึงขั้นลงโทษโหดๆขนาดนั้นนะสำหรับผม16:49 แค่ตักเตือนดีๆก็พอ แต่ส่วนใหญ่จะไม่ได้ช่วยเลย19:18 อยากมากๆแต่ไม่มีโอกาส 55555เรื่องนี่สอนให้รู้ว่า การบูลลี่เป็นสิ่งที่แรงมาก งดบูลลี่ทุกกรณี ขอบคุณครับ
จากที่เคยเป็นทั้ง’ผู้ถูกกระทำ’ แล้วก็ไป ‘กระทำคนอื่น’ สมัยเด็กๆเราชินชาไปกับการที่ถูกที่bullyมาก เพราะ ตอนนั้นเราเด็กและตอนนั้นมันยังคงไม่รุนแรงมาก ส่วนใหญ่เราจะโดนเป็นคำพูด ล้อต่างๆนานา เป็นการล้อเลียนมากกว่า เพราะ สุดท้ายคนที่ล้อเราก็กลับมาเล่นพูดคุยกับเรา ในส่วนของคุณครูเราเองก็เคยเจอค่ะ ตั้งแต่ตอนเด็กมันจะช่วงจังหวะชีวิตช่วงนึงที่เป็นคนเรียนไม่ได้ดีมาก ทำให้ถูกครูพูดตอนนั้นมันเด็กมากจำคำพูดไม่ได้เลย แต่จำได้ว่าตอนนั้นเราฟังแล้วรู้สึกเจ็บกับคำพูดของครูมาก เหมือนจะกลั้นน้ำตาไว้ตอนนั้นด้วย แต่ว่าสุดท้ายกลับมาบ้านก็ไม่คิดมาก ปล่อยผ่าน พอมีจังหวะช่วงนึงของชีวิตที่ชีวิตกำลังจะเติบโตขึ้นและช่วงนั้นเรามีเป้าหมายพัฒนาตัวเองได้เยอะขึ้นมากๆ ตอนนั้นตั้งใจมาก นับว่ามันเป็นขาขึ้นของชีวิตเลย แต่เชื่อไหม เรากลับเข้าสังคมตรงนั้นไม่ได้ ไม่เชิงเข้าสังคมไม่ได้ แต่มีเพื่อนคนนึงที่ไม่โอเคกับเราแล้วเราก็ไม่โอเคกับเขา สุดท้ายเขาเป็นคนมีอิทธิพลเราโดนเยอะมากช่วงนั้น แต่ตอนนั้นเด็กด้วย เอาแต่โทษว่าเราเองที่ไม่ได้พอ แต่ก็พยายามปรับปรุงตัวรู้ได้เลยว่าตอนนั้นขาดความมั่นใจไม่เป็นตัวของตัวเองเลย คนที่ดีกับเรามีนะ แต่ต้องแบบลับหลังเพราะว่าถ้าทำดีต่อหน้าจะโดนไปด้วย เรายังคิดถึงเพื่อนที่ดีกับเรามากๆเลย อยากจะขอบคุณเขามากๆที่คอยให้กำลังใจ ซับพอร์ตเราในช่วงนั้น ช่วงนั้นมีบางคนที่ทำให้เราไม่เห็นคุณค่าในตัวเอง เรากลับมาบ้านร้องไห้กับที่บ้านก็มี แต่ตอนนั้นคิดแค่ว่าอดทนเดี๋ยวมันก็ผ่านไป มันเป็นอะไรที่รู้สึกแย่มากเลยนะจากใจจริง เราเกรดตกเยอะมากจากคนรักในการเรียน หมดไฟ เหมือนไม่ได้เตรียมใจที่จะรับมือกับมันไว้ล่วงหน้า มันเลยแบบดิ่งขั้นสุดเลย ทำอะไรก็รู้สึกล้มเหลวไปหมด จนออกมาจากตรงนั้นได้แบบโล่งเลย จำได้เลยว่า รู้สึกกลับมายิ้มแบบสดใสได้อีกครั้ง มีความสุขมาก จากคนที่มานั่งวิตกกังวล คิดมาก เครียดง่าย กลายเป็นอีกคนเลย เราเลยรู้สึกแย่มากกับการที่เคยไปbullyคนอื่น เราเคยไปbullyเพื่อนคนนึงที่เราแค่ไม่ชอบอะไรในตัวเขาบางอย่าง แม้จะเป็นการพูด นินทาแต่จริงๆมันทำให้เขามีบาดแผลในจิตใจ เรารู้สึกผิดมากตั้งแต่เราเป็นผู้ถูกกระทำมาทำให้เราเข้าใจเพื่อนเลยว่ามันรู้สึกเจ็บปวดมากแค่ไหน เรารู้สึกแย่ตลอดเมื่อกลับไปนึกถึงมัน เราภาวนาขอให้เพื่อนคนนั้นไม่เจ็บปวด เจอเพื่อนที่ดี เจอสังคมที่ดี ขอให้เขามีความสุขในทุกๆวัน ผ่านทุกปัญหาไปให้ได้ เราสงสารเด็กสมัยนี้มาก การbullyมันรุนแรงขึ้นมากจริงๆ เรารู้จักเด็กมัธยมไม่ว่าจะกี่คน ล้วนแล้วแต่มีปัญหาเรื่องเพื่อนกันทั้งนั้น เรากลัวว่าเด็กในไทยจะทำร้ายตัวเองไม่ก็คิดสั้น เพราะ สังคมโรงเรียนมากขึ้น เห้อ พูดแล้วปวดหัว
เคยโดนครูผู้ชายแก่ๆคนนึงตอนป.2 ตอนนั้นอยู่ในคาบละครูให้ทำงาน ผมก็จะใช้สีเดียวกับเพื่อนเลยเป๋ายิ่งฉุบกันว่าใครจะได้ใช้ก่อน แต่ครูแม่งตะโกนด่าละเรียกเราออกไปตะคอกด่าต่อหน้าห้อง(ประจานอะแหละ) ละด่าไปซักพักถึงจุดนึงแม่งบอกให้ลงไปคลานสี่ขาละเห่าเหมือนหมาไปมาหน้าห้อง ละแม่งมีให้ทำท่าหมาฉี่ด้วยนะ เพื่อนผมมันกลัวมากเลยทำตามทั้งน้ำตา แต่ผมไม่ทำเพราะอาย แม่งเลยเอาฟิวเจอร์พันเทปมาฟาดหน้าจนห้อเลือดเลย แต่ดีกลับไปถึงบ้านแม่เห็นหน้าผมห้อเลือดละถาม ผมก็เล่าไป แม่รู้เรื่องละถึงกับของขึ้น โกรธจัดเลย วันต่อมาแม่มาด่าอาจารย์ที่โรงเรียนเลย ละไปฟ้องผอ.ด้วย ไม่กี่วันต่อมาครูคนนั้นตาย แม่สั่งพิซซ่ามาเลี้ยงฉลองเลย 12ถาดใหญ่
มีอีกเหตุการณ์ฝังใจอีกอย่างตอน ป.3 คือ สมุดหนังสือเรียนของผมหายบ่อยมาก ซื้อมาใหม่แล้วก็หายอีก ไม่ใช่ผมแค่คนเดียวนะ คนอื่นก็หายบ้างแต่ไม่บ่อยเท่าผม แต่คนอื่นมันอ้างว่าลืมเอามา แต่ผมบอกครูไปตรงๆเลยว่าหาย มีวันนึงครูแกถึงกับปรี๊ดแตก บอกมึงทำหายอีกแล้วเหรอ ละให้ผมยืนบนโต๊ะเรียน ละด่าผมทั้งๆอย่างนั้นอะ บอกประมาณ "ของแค่นี้ก็รักษาไม่ได้ โตไปจะไปทำอะไรได้ ไปเลี้ยงควายซะไป ไม่ก็ไปขอทานซะ" ละที่หนักอีกอย่างคือ ครูแกประชดเอาพานมาไหว้ผมเลย ละบอกประมาณ "ครูต้องทำยังไงวะเองถึงจะเอาสมุดหนังสือมา" ตอนนั้นโคตรฝังใจเลย แต่แม่งมีมาพีคตอนหลังคือวันที่ทำความสะอาดห้องครั้งใหญ่กัน มันไปเจอทั้งสมุดหนังสือของผมและของเพื่อนที่หายไปซ่อนอยู่ตามซอกมุมต่างๆของห้อง เป็นสิบเล่มเลย ละมาจับได้ว่ามีอีเพื่อนผมตัวนึงแม่งชอบเอาของเพื่อนไปซ่อน ตอนนั้นความรู้สึกทั้งหลายมันประเดประดังเข้ามา ทั้งโกรธ ทั้งเศร้า เหมือนจะละเบิดออกมา คิดว่าละไอที่ผ่านมาทำไมกูต้องโดนครูด่า ทำไมกูต้องโดนครูตี ทำไมกูต้องโดนครูประจานด้วย มึงทำแบบนี้กับกูทำไม ตอนนั้นด้วยความโกรธคือจะหยิบเก้าอี้ไปฟาดแม่งเลย แต่ครูห้ามไว้ ละเรื่องแม่งก็จบแค่นั้น แต่ครูแกก็แก้ไขโดยขอโทษผม ละให้เกรด4ผม แต่ความรู้สึกแย่ๆแม่งไม่เคยหายไปเลย
ละช่วงป.4-ป.6 แม่งก็เหมือนตกนรกทั้งเป็นอีก เพราะจากที่โดนประจานมาตอนป.2กับป.3 ทำให้ผมเหมือนเป็นตัวประหลาดอะ ละเพื่อนแม่งก็ชอบรวมกลุ่มกันแกล้งผม ใช้ผมเป็นเบ๊ ไถเงิน เอารองเท้าฟาดหัว เอากาวร้อนมาโรยที่คอ ถุยหมากฝรั่งใส่หัว เอาเข็มติดดินน้ำมันทำเป็นลูกดอก ละเอาใส่ดินสอยัดไส้มาเป่าใส่ผม ละอะไรต่อมิอะไรอีกหลายๆอย่าง ละไม่รู้แม่งเป็นเหี้ยอะไร ทุกครั้งที่ผมสู้กลับครูแม่งก็จะเหมารวมว่าเป็นการทะเลาะกัน ผมก็โดนลงโทษไปด้วย ละด้วยความที่ผมตัวสูง ครูก็เสือกหาว่าผมไปรังแกพวกมัน ละด้วยความที่พวกแม่งมีเยอะกว่า ตอนครูถามผมมีตัวคนเดียว กับมันมีกับ4-5คน ครูก็เชื่อพวกมันละผมก็โดนอีก เป็นประสบการณ์วัยประถมที่โคตรเหี้ยเลย แต่พอขึ้นม.ต้นมาก็ได้แยกย้ายหนีจากพวกมัน ละชีวิตม.ต้น-มหาลัย ก็จัดว่าดีมากเลย เพราะมันจัดห้องตามผลการเรียนและหลักสูตร ละผมก็อยู่ห้องต้นๆ(วิทย์-คณิต) เลยได้มีสังคมดีๆ ต่างจากประถมแบบ นรก-สวรรค์เลย
เคยโดนบุลลี่ตอนประถมปลายเอกชนที่หนึ่ง แบบตอนนั้นย้ายพึ่งย้ายรรมาตอนป.4 ก็เลยยังไม่สนิทกับใครเท่าไหร่ เป็นเอ็กซ์โทรเวิร์คมากๆพยายามหาเพื่อนสุด เดินทักทุกคนทั่วห้องแต่ก้ยังไม่ค่อยมีใคร ด้วยความเอกชนดังอะ ส่วนใหญ่ก็ลูกคนจีนผิวก็จะขาวกันหมดทั้งรร เราก้มีเชื้อจีนแต่ผิวเข้มตามแม่(ย้ายมารัฐบาลทุกคนก้สีประมาณเรา รรนั้นมันขาวโอโม่ทุกคนจริงๆ) มันจะมีกลุ่มนึงแบบมองว่าเราสกปรก เวลานั่งเก้าอี้แล้วลุกไปส่งงานงี้ เขาก้จะมาใกล้ๆโต๊ะแล้วทำท่าดมเก้าอี้เราแล้วทำท่าเหม็นอะ มันจะมีคาบมัลติมีเดียอังกฤษแบบที่เรียนสนุกๆเน้นกิจกรรม คาบนึงครูเขาให้ทุกคนเขียนชื่อในกระดาษ ส่ฃไปเรื่อยๆให้เขียนความในใจถึงคนนี้ แล้วส่งคืนเจ้าของให้มาอ่านอะ มีแต่คนเขียนคำอังกฤษประมาณ ‘สกปรก โสโครก Ugly’งี้ คือแบบตอนนั้นก็หน้าชานะ เราแค่ดำกว่าคนอื่นแค่นั้นเอง โชว์รูปตอนเด็กมีแต่คนบอกน่ารัก พวกเทอตาไม่ถึงเองงง งงตัวเองเหมือนกันว่าผ่านมาได้ยังไงพอย้อนกลับไปมันก็แรงอยู่นะ อาจจะเพราะไม่ได้โดนทุกวัน ต่อเนื่องเลยรอดจากซึมเศร้ามาได้มั้ง
ตอนประถมเคยโดนเพื่อนผู้หญิงเกือบทั้งห้องไไม่ชอบ เหตุผลเพราะเราได้เป็นหัวหน้าห้อง แต่เพื่อนเขาไม่ได้เป็น เวลาคุยอะไรงานห้องเขาจะขัดเราตลอด กันเราให้เป็นส่วนเกิน ตอนนั้นไม่รู้สึกแต่ลึกๆ มันจำฝังทำให้เราไม่ค่อยกล้าคุยกับใครเพราะกลัวทำอะไรไม่เข้าตาแล้วจะโดนเกลียดอ่ะ กับครูก็เคยตอนประถมมีครูคนนึงแกไม่ชอบเราไม่รู้ทำไม แกชอบหาเรื่องว่าเรา เราคนเดียว ตอนตัดเกรดป.6 แกก็ให้เกรดเราน้อย ทั้งที่เราส่งงานครบอ่ะ
ของผมประถมตอนป.5ตอนนั้นวันพุธเค้าให้แต่ชุดพละแล้วตอนนั้นมีเด็กคนนึงที่ไม่ยอมไปโรงเรียนจน13แต่ยังอยู่ป.5ตอนนั้นยืนคุยกับเพื่อนมันถกกางเกงแต่เป็นการถกกางเกงที่ไม่มีวันลืมมันถกแบบกางเกงในลงไปด้วยโชคดีเพื่อนเป็นใจเพื่อนบังให้แล้วรีบใส่กางเกง
สำหรับผมน่ะคิดผิดว่าไม่รู้ แต่ผมว่ากฎมีก็ควรทำตาม แล้ว ก็ควรเข้าใจหรืออ่านตั้งแต่วันแรก.
ไม่ได้อะไรนะครับเเต่พอนึกรวมๆเเล้วที่พวกคุณหลายๆคนอยากให้เป็นอ่ะ ผมนีกภาพรร.นึงสมมุตินะคือเป็นรร.ที่ครูเข้าสอนๆตามหน้าที่เลยไม่มีการคุยเล่นกับนักเรียนมีหน้าที่สอนๆไปเวลาเช็คชื่อก็เรียกตามชื่อจริงเเค่นั้นไม่มีการทำโทษใครไม่สนใจเรียนก็เเล้วเเต่ไม่คุยไม่ตามเพราะมาสอนเเค่นั้นส่วนเพื่อนๆในห้องก็ต่างคนต่างมาเรียนไม่มีการคุยอะไรมากมายคุยเเค่เรื่องการบ้านเลิกเรียนกลับบ้าน วนลูปเเค่นี้ คิดว่ามันเป็นยังไงครับ
เคยบูลลี่เพื่อนนะสมัยประถมแต่ไม่ได้เป็นหัวโจก อารมณ์แบบพอเพื่อนในห้องล้อเพื่อนคนนั้นเราก็จะล้อตาม บรรยากาศมันพาไป+เราก็หมั่นไส้มันด้วยแหละ จนเพื่อนที่โดนล้อโกรธโยนข้าวของ ไม่มีใครคบ แล้วมันโดนล้อตั้งแต่ป.4ยันป.6 ตอนนั้นก็ทำแบบไม่คิดอะไรเลยเพราะหมั่นไส้ แต่มันก็ทำตัวมันเองให้เพื่อนล้อด้วยเพราะชอบโม้ไปเรื่อย โกหกโอ้อวด แต่ตอนนั้นเราคิดน้อยจริงด้วยความเด็กบางทีเพื่อนคนนั้นเขาอาจป่วยทางสมองก็ได้ ควบคุมอารมณ์ความคิดไม่ค่อยได้ไรงี้ หลานเราก็เป็นป่วย ขี้โม้ไปเรื่อยแยกแยะไม่ได้สุดท้ายก็โดนเพื่อนที่โรงเรียนแกล้ง อารมณ์เดียวกันเลย
ไม่ชอบการบูลลี่ แต่ยังเอาคำว่าปัญญาอ่อนมาใช้เป็นคำด่าอยู่ เออดี
จริงเลย5555
6:16 ที่เขาตอบคำถามประเด็น”เคยเห็นการบูลลี่ไหม” ว่า “เคยเห็นที่ค่อนข้างปัญญาอ่อน” นี่หรอครับ เขาก็วิจารณ์กรณีบูลลี่ว่ามันปัญญาอ่อน(จากที่เขายกตัวอย่างของคนที่ไม่น่าจะโดนแต่ก็โดน)ใช้คำว่าปัญญาอ่อนผมว่าก็สมเหตุสมผลแล้วครับ และการตอบโต้คนที่ข่มเหงรังแกคนอื่นก็ไม่น่าถือได้ว่าหยาบคายอะไรนะครับ
@@toasty4736 ไม่น่าจะใช่เรื่องหยาบคายนะคะแต่น่าจะเป็นเรื่องที่เอา’โรค’มาใช้เป็นคำด่ามากกว่าน่ะค่ะ
ชอบมากครับ
ผมอยากไปนั่งคุยด้วยจังครับ
ผมโชคดีที่เรียนในโรงเรียนบ้านนอก นักเรียนจะสามัคคีกันหน่อยไม่ค่อยเหยียดรึดูถูกกัน จะมีแต่ครูที่ชอบเหยียดนักเรียน สุดท้ายก็โดนนักเรียนเอาคืนนั่นแหละครับ เจาะยางบ้างเอารองเท้สไปซ่อนบ้าง เอาแปรงลบกระดานไปซ่อน เอาไม่เรียวไปซ่อน หนักสุดก็เอาเสื้อผ้าไปซ่อน
พี่แป้งเสียงน่ารักมากก
เคยโดนบูลลี่ค่ะ ไม่ค่อยเยอะแต่ฝังใจมากป.3 / เหมือนครูจะเปิดหนังให้ดู เลยให้โหวตกันว่าจะดูอะไร พอเราบอกเพื่อนว่าไม่เอาหนังผีนะ แล้วทุกคนก็เริ่มโหวตหนังผีเยอะค่ะ คนในห้องไม่เยอะมากประมาณ20กว่าคน สรุปก็ต้องยอมเพราะครูบอกว่าโหวตได้อะไรก็ตามนั้น แล้วเราคือนั่งหน้าจอเลยค่ะ ต่อมาคือเรากลัวเลยก้มหน้าลงโต๊ะ เรากลัวมากๆๆๆๆๆแบบมากๆๆๆมากจริงๆ สักพักก็มีเพื่อนคนนึงเดินมาโต๊ะเราแล้วก็พยายามกระชากหัวเราขึ้นมาค่ะ เพื่อนคนนั้นดึงแบบจะให้ขึ้นมาให้ได้เลยค่ะ เราเลยร้องไห้หนักมาก แล้วพอมันดึงเราขึ้นมาไม่ได้มันก็บอกว่า "แม่งมันหัวแข่งจังวะ" แล้วก็โดนเพื่อนบางกลุ่มหัวเราะค่ะT-T คือเราไม่เคมากๆเลย ภาพติดตาไปเป็นสัปดาห์ เพื่อนล้อนิดหน่อย เจ็บใจมากอันนี้ ปัจจุบันฝังใจกลัวมากที่สุดเลยค่ะป.4 / อยู่ดีๆก็โดนเพื่อนไม่คุยด้วยทั้งกลุ่มค่ะเหมือนเพื่อนนัดกันไว้แล้วก็ทิ้งเราอยู่คนเดียวเลยค่ะ แต่ก็โอเคเพราะตอนนั้นมีเพื่อน2คนที่ไม่ค่อยสนิทแต่เค้าก็มาเล่นกับเรา แล้วสรุปคือไปถามมา เพื่อนบอกว่าทดสอบเฉยๆ ตอนนั้นคือเราเฟลมากเลยมันรู้สึกว่าจะทำไปทำไมสนุกหรอ ตอนนี้เพื่อน2คนนั้นเราสนิทที่สุดในเพื่อนตอนประถมแล้วค่ะ55555555555แล้วเราก็เคยบูลลี่คนอื่นค่ะ โตมารู้สึกผิดมาก อยากตบตัวเอง จำได้ว่าตัวเองจะชอบบูลลี่คนอื่นด้วยคำพูดค่ะ เพราะตอนนั้นอยู่ป.5เราก็เริ่มกล้าๆขึ้นมา จนเหลิงค่ะเลยกลายเป็นบูลลี่คนอื่นเลยแต่รู้ตัวเร็วหน่อยเพราะเหมือนจะเหลิงได้ประมาณสัปดาห์นึงค่ะแล้วก็เลิกเลยตอนนี้ก็ปกติ ทัศนคติดีขึ้นมากๆ ทุกๆอย่างดีขึ้น เพื่อนดีค่ะ ตอนนั้นอาจจะเพราะเราคิดไม่มากพอ เอาสนุก สะใจอย่างเดียวด้วยละมั้ง
ผมโดนว่าไอ่เอ๋อ คือเราแค่ช้าๆ คิดอะไรออกหมดแหละ แต่แค่ไม่ตอบโต้ ไม่ค่อยคุย แล้วเราป่วยแต่เด็ก ทำให้ไม่ชอบสู้คน ไม่ค่อยเข้ากับใคร แต่ไม่เคยไปมีปัญหากับใครนะ แต่มักจะมีคนตั้งใจมามีปัญหากับเรา แล้วมาทำร้ายเรา พอเราไม่ตอบโต้ก็ล้อเราว่าเป็นตุ๊ด เยอะแยะครับที่โดน โดนอยู่นานหลายปี
สมัยนี้ยังเต็มไปหมดแค่จะเป็นอีกแบบนึงต่างกับแต่ก่อนนิดหน่อย คือเราใส่แว่นแต่เด็กเพราะสายตาสั้นนี่จ้าเพื่อนผชในห้องพูดซ้ำๆอ่ะว่าแบบไอแว่นๆๆๆๆๆๆๆซึ่งเราก็ไม่อะไรนะไม่ที่แปลว่าไม่แค่แบบใส่แว่นแล้วทำไมอ่ะพ่อแม่ไม่สอนเหรอแกพ่อมึงครูมึงแม่มึงก้ใส่แว่นอ่ะป่าวซึ่งออกแนวรำคานเรื่องนี้ไม่เคยตัดความมั่นเราเลยเราชอบที่ตัวเองใส่แว่นด้ใยแหละรู้สึกสวย5555 แต่เรื่องที่หนักๆเลยคือการบูลลี่รูปร่างกะหน้าตา อันนี้มาจากครอบครัวล้วนๆ คือพ่อกับพี่ชายเราเขาชอบพูดว่าเราแบบ อ้วน ดำ เตี้ย จมูกแบน ซึ่งทำให้เป็นปมทั้งชีวิตแต่ไม่เคยโดนญาติๆผู้ใหญ่เพื่อนบูลลี่เลยเรื่องนี้มีแค่พ่อกับพี่ชายสองคนแล้วแบบแค่ปากคนๆเดียวทำให้เป็นปมเราไม่ชอบมากๆเวลามีคนยกกล้องขึ้นมาถ่ทยติดเรานี่ไม่เึยมีรูปคู่กะคนในครอบครัวเพราะอสยหน้าตาตัวเองไม่ถอดแมสที่รรยอมไม่กินข้าวตอนเที่ยงเดี๋ยวเพื่อนเห็นหน้าแต่ส่วนตัวเราชอบตัวเองนะแต่เราคิดว่าคนอื่นจะไม่ชอบเราแปลกมั้ย555เรารู้สึกว่าตัวเองก็สวยแต่รู้ว่าคนอืานจะมองว่าเราไม่สวยเลยแบบจะถ่ายรูปคนเดียวในห้องนอนแทนไม่โพสไม่อะไรเราเป็นคนชอบทำทุปๆอย่างๆอยากทำกิจกรรมนู่นนี่แต่ ไม่เคยได้ทำอะไรไม่เสนอตัวเพระาคิดว่า้ราหน้าตาไม่ดีเราออกไปตรงนั้นไม่ได้เออคือแบบ555 เคยมีครั้งนึงเหมือนมันดิ่งสุดๆแล้วเราแอบโดดเรียนครั้งแรกไปห้องพยาบาลเพราะรู้สึกเหมือนได้ยินเสียงคนนินทาตลอดเวลาเรารู้ว่าไม่มีใครน้นทาแต่เสียงในหัยมันบอกตัวเองอันนี้ก็คิดว่าแปลกๆ
น้องผู้หญิงแม่งเด็กดีมาก
ตอนประถมเป็นเด็กมีปัญหายุช่วงนึงคือเงียบ ไม่พูดกับใครการบ้านวิชาทำไม่เป็นก็ไม่ทำสะสมจนมันเริ่มเรียนไม่ทันจำได้คร่าวๆว่าครูเรียกไปหน้าห้องแล้วโทรหาแม่แล้ว เปิดspeakerphoneให้เพื่อนทั้งห้องฟังแล้วก็ถามแม่เรื่องเราไปเรื่อยๆไม่รู้ว่าเรียกว่าเป็นการบูลลี่มั้ยแต่เรารู้สึกแย่มากๆ แต่หลังจากวันนั้นครูคนเดิมก็พยายามหากิจกรรมนู้นนี้ให้เราทำเพื่อให้เราได้คุยกับเพื่อนอยากมา รร จนสุดท้ายเราก็กลับมาคุยกับเพื่อนเหมือนเดิม เฮฮาเหมือนเดิม จนตอนนี้ไม่รู้ว่าจะต้องโกรธหรือ ขอบคุณครูคนนั้นดี 😅
กรณีร.ร. ผม เวลามีคนชนนี่ คนอื่นรู้แต่ไม่กล้าช่วยนะ เซ็ง
ของหนูคือเค้าไม่ค่อยจะเจอเเบบเหยียดนิดหน่อยล้อไรงี้😊
เพื่อนชอบแกล้งถอดกางเกงเลยถอดให้มันดูเลย555
ตอนประถมโดนดึงกางเกงจนหลุดเห็นกางเกงในกลางโรงอาหาร
เมื่อก่อนผมโดนต่อยเป็นว่าเล่นเลยครับ
ดึงกางเกงกับถีบอวัยวะเพศชาย ปัจจุบันยังเจอเลยครับบ
ผมว่ามันแล้วแต่ โรงเรียนนะ เพราะ ครูที่ รร ผมดีทุกคน
ทุกวันนี้ยังโดนเหยียดกันอยู่เลย
เราเหมือนนายเลยตั้งแต่ประถมอะเราผอมแห้งมาก โดนล้อว่าไอ้ขี้ก้าง กระดูกไก่แมน คือเราไม่โอเคมากๆอะ เราร้องไห้แม่งก็ยิ่งล้อ
สมัยสัก 17-18 ปีก่อน พวกผมฟัง fort minor เต้น b-boy จำได้ว่าโดนปิดกล่องกระทืบ เกือบตาย พวกคนที่กระทืบ กระทืบพวกผมเพราะ หมั่น b-boy หมั่น hip hop โคตร wtf
1
ถอดกางเกงกันเองผมกับเพื่อนชอบเล่นกันสมัยป.6🤣🤣
ในมุมมองเรื่องทรงผมนะ ผมว่ามันก็ยาวและฟูเกินไป มันบังเพื่อนในห้องนะผมว่า เอาแต่พอดีๆก็พอ
ก็จัดห้องเรียนใหม่ ห้องเรียนจัดได้หลายแบบ
ตอนนี้ไม่โดนเพื่อนบูลลี่นะ แต่ครูอะชอบเหยียดมาก แบบน่าตารูปร่างไรงี้ มันทำให้เราไม่ชอบวิชานั้นๆไปเลยอะค่ะ
สมัยก่อนไม่มีคำว่า บุลลี่เข้ามาจำกัดความว่าพฤติกรรมที่กำลังทำอยู่มันเป็นการบุลลี่นะ
มันเลยแรงมากๆๆ เคยทำแล้วก็เคยโดนบุลลี่หนักมาก จนเรามองว่าที่เราเป็นมันผิดปกติ ไรงี้
แล้วประเด็นคือตอนนี้มองกลับไป ที่ได้เสียงแบบนี้มานี่โคตรชอบตัวเอง ไม่เหมือนใคร เพราะไม่อยากเหมือนใคร
แต่สมัยนี้เจอมาเหมือนกัน เพื่อนในกลุ่ม วัฒนธรรมของการอยู่กลุ่มนี้คือ
เราจะมีปาตี้กันทุกๆ วีค
ประเด็นคือ ใครไม่อยู่ในกลุ่ม ณ วันที่เราปาตี้กัน จะโดนนินทา
แต่มันมีวันนึงที่เราไปหาตี้เพื่อนช้า
ทุกคนมีเซนส์หมดแหละที่เวลาเดินเข้าไปในกลุ่มกลุ่มหนึ่งหรือว่า
ที่ที่นึงแล้วรู้สึกว่าคนรอบๆ ตัวไม่โอเคกับเรา
วันนั้นที่เราไปช้า เรารู้สึกได้ว่า เออ กูว่ากูโดนละ
รู้สึกได้ว่า โดนมอง โดนไม่ได้เปิดใจคุยด้วยอยู่
มีเพื่อนคนนึง ที่เป็นคนคอยเปิดประเด็นนินทา
ตอนที่มันอยู่กับเรามันก็เล่าเรื่องของตัวมันเอง
ภูมิใจมากกับการที่ รวมคนอื่น เปิดประเด็นนินทาคนนึง
หรือว่า รวมเพื่อนเพื่อนให้แบนอีกคนนึง ฟีลไปรวมๆ แกีงในที่ทำงาน แล้วไปบอกว่าคนนั้นทำแบบนี้นะ เรื่องลบๆ
จนคนรอบตัวของคนนั้นก็เริ่มมองคนนี้ลบ
เพื่อนคนนี้อยู่ด้วยเขาก็พูดกับเราดีนะ แต่พอไม่อยู่ลับหลัง เอาเรื่องเราไปพูดอะไรก็ไม่รู้
ณ ตอนนี้เราเลยปลีกตัวออกมาจากกลุ่ม แล้วอยู่กับเพื่อนที่
เออ เขาเห็นเราว่าเราอยู่ตรงนั้น เขาสำคัญเราสำคัญ
มีความสุข
สมัยม.ต้น มีความสุขได้แค่ปีแรกเท่านั้นแหละ หลังจากเพื่อนสนิทย้ายไปก็มีเพื่อนมาตีสนิท แต่เคมีเข้ากันไม่ได้ สุดท้ายโดนผญ.ทั้งห้องแบน อยู่คนเดียว มีไปอยู่กับเพื่อนผช.บ้าง แต่ก็เหงาอยู่ดี(แต่ให้เทียบกัน ตอนอยู่คนเดียวมีความสุขกับตอนอยู่กลุ่มใหญ่ๆ อีกนะ รู้สึกปลอดภัย---) จนเรียนจบม.ต้น มาเข้าปวช. เพื่อนๆ ดีมาก สังคมอาจไม่หรูหราแต่ทุกคนใจดีมาก ทุกคนในห้องรักกันมาก ตอนเข้าใหม่ๆ เราตั้งใจว่าจะไม่คบเพื่อน จะไม่เชื่อใจใคร ต้องขอบคุณเพื่อนๆ ในห้องที่รักเรา รับฟังและเข้าใจ ถ้าไม่มีพวกเขา การมีเพื่อนก็คงยังเป็นฝันร้ายของเราต่อไปแน่ๆ....
ผมตอนนี้กำลังเรียนอยู่ปี5 (ฝึกงาน) ก็คือจบมัธยมมาเกือบ 5 ปี แล้ว รู้สึกว่าไม่ค่อยต่างจากพี่น็อตมาก
ผมจะลองเล่าเผื่อคนอยากหาอะไรอ่านเอาบรรเทิง หรือจะเอาไปคิดเป็นประโยชน์ก็แล้วแต่คนอ่านเลยนะครับ
---- อนุบาล ----
ผมเป็นคนที่ขี้แยมาก คือบ่อน้ำตาตื้นกว่าคนปกติ ตอนนี้ก็เป็นอยู่คือไม่ได้เจ็บมากแต่น้ำตาไหลง่าย แต่ไม่ได้สะอื้นอะไรนะ
ทำให้เพื่อนผชในห้องชอบรุมแกล้ง เพราะเขาเห็นว่าเราน้ำตาไหลและคงสะใจเพราะเหนือกว่ามั้งนะ เพื่อนผญก็ไม่ช่วยนะ ทำเมินเลย
แต่พอ อนุบาล 3 แล้วเราก็รส.ว่าเราโตขึ้น เข้มแข็งขึ้น มีเพื่อนคู่หู และก็ร้องไห่น้อยลง เพื่อนก็จะไม่ค่อยรุมแกล้งละ
---- ประถม ----
1. ผมเป็นลูกครูที่รร. เลยจะถูกบางคนมองว่าเราเส้น เราได้สิทธิมากกว่าเพื่อนทั้งๆที่พ่อแม่เราทรีตเราแบบนักเรียนธรรมดาเลยนะ
2. เพราะเป็นลูกครู + ตัวใหญ่ = นักเลง ผมโดนท้าต่อยตีบ่อยมากตั้งแต่ขึ้น ป.1 ส่วนมากจากรุ่นพี่เพราะอาจจะไม่ชอบขี้หน้าเราหรือไม่ชอบพ่อแม่เรา
แล้วมาหาเรื่องเรา คำพูดที่ได้ยินบ่อยมากๆคือ "ถ้าร้องไห้ อย่าไปฟ้องพ่อแม่มึงนะ" ผมเจอบ่อยมาก แต่ก็ต้องขอบคุณเพราะทำให้ผมเริ่มสู้คนขึ้นมาบ้าง
และไม่เคยต่อยตีแพ้กับพวกประเภทที่เข้ามานี้เลย
3. ผมถูกเพื่อนล้อน้อยนะเรื่องรูปร่าง สำหรับเพื่อนในห้องเดียวกัน แต่ผมเคยโดนผู้ปกครองเพื่อนบูลลี่ว่าเป็นเด็กโข่ง ซ้ำชั้น น่ากลัว นักเลง กลัวผมไปทำร้ายลูกเขา เออ ผมก็แปลกใจนะ เขาพูดดังจนผมได้ยินเขาคุยกันเลย ซึ่งมันไม่ควร ถ้าเป็นเด็กคนอื่นอาจเป็นแผลในใจเลยก็ได้ แต่เพราะจริงๆผมติดTOP 5 ตลอด ผมเลยไม่เอามาใส่ใจ
4. เวลามีใครโดนบูลลี่ หรือโดนทำร้าย โดนแกล้ง คนรอบๆมักจะทำเฉยๆหรือเมิน ผมเคยมีเรื่องชกต่อยเพราะเข้าไปช่วยเพื่อน มาหลายครั้ง
เคยมีตอนอยู่ ป.1 ไปสู้กับ ป.6 แบบตึงๆมือเลย และตอน ป.4 ที่โดนป.6 6-7 คนมารุมกระทืบ คงเป็นครั้งเดียวเลยที่ผมแพ้ เพราะเราตัวใหญ่ ตอนแรกก็สูสีเพราะเข้ามาทีละคน พอมันเริ่มรุมก็เริ่มตึงมือ มาแย่ตรงที่ฝั่งมันเอาคนตัวใหญ่ที่สุดวิ่งมาชนผมให้ล้ม และพอล้มมันก็เอาเท้ามาชี้หน้าผม ละพูด อย่าเอาไปฟ้องพ่อมึงล่ะ แต่เหตุการณ์ก็จบโดยที่พ่อผมขับรถมาที่จุดนั้นพอดี และไอ้คนพูดก็ตอแหลใส่พ่อผมบอกว่าน้องล้มเลยมาช่วย...
//// สำหรับผมเพื่อนตอนประถมคือดีมาก เพื่อนคือเพื่อนจริงๆ รักใคร่สนิทเล้นกันได้แบบไม่ต้องอาย อาจเพราะเป็นโรงเรียนเทศบาล วัด ด้วยบ้านๆ
มีทะเลาะกันบ้าง พอต่อยตีจบเรื่องก็คือจะไม่มีครั้งต่อไปเลย หลังจากจบประถม ผมก็จะต้องระวังกับคำว่าเพื่อน ให้ดีๆขึ้นกว่านี้มาก เพราะใจแลกใจใช้ไม่ได้แล้ว
-------- มัธยมเดี๋ยวมาเล่าต่อจ้า ----------
น้องผู้หญิงน่ารักมากจัง ทั้งกริยา คำพูด น้ำเสียง แล้วแถมพูดเก่งด้วยนะ น่ารักมาก
ผมเป็นคนที่รูปร่างเล็กและผอม กินเยอะแค่ไหนก็ไม่อ้วน น้ำหนัก48ตลอด สูง180 ผมก็รู้นะว่าผมผอมมาก แล้วตอนเรียนจะเป็นคนเดียวที่โดนคนในโรงเรียนรวมถึงคนที่เป็นครู
บูลลี่ว่า #ติดยา #ไอแห้ง #ไอดำ และล้อนามสกุลผม เป็นแบบนี้มาตั้งแต่ประถมจนจบมัธยมปลาย ผมรู้สึกเสียใจเล็กๆ
แต่จริงๆแล้วผมก็ไม่โกรธคนพวกนี้นะ เพราะผมไม่เคยยุ่งกับยาเสพติดเลย
#หยุดบูลลี่ #หยุดแกล้ง #หยุดตีกรอบ #คนโดนไม่สนุกด้วย
14:38 อันนี้จริงมาก มีเพื่อนคนหนึ่งในห้องเราเค้าตัวเล็กๆผอมๆแล้วเพื่อนที่แก๊งใหญ่ๆในห้องก็บอกประมาณว่า เฮ้ยอินี่เป็นโรคซึมเศร้านะอย่าไปเล่นกับมัน เราก็เอ๊ะ โรคซึมเศร้ามันไม่ใช่โรคติดต่อนะ ถ้าเพื่อนเขาเป็นจริงๆ เราควรจะทำให้เค้าเอ็นจอยมากขึ้นรึป่าว
พูดคุยแลกเปลี่ยนได้ดีมากๆเลยครับฟังแล้วรู้สึกเพลิดเพลินจริงๆ (น้องแป้งเสียงใสจังเลยน่ารัก)
0:08 เคยโดนจากบูลลี่จากเพื่อนหรือครูมั้ย
6:12 เคยเห็นการโดนบูลลี่มั้ย
8:59 เคยเป็นคนบูลลี่มั้ย
11:07 สังคมในโรงเรียนมีปฏิกริยายังไงกับการบูลลี่
16:49 เคยช่วยคนที่โดนบูลลี่มั้ย
19:18 อยากกลับไปแก้แค้นคนที่บูลลี่ไหม
ปล.เรื่องการบูลลี่เนี่ยผมว่าไม่ควรไปล้อใดๆทั้งสิ้นนะเขาจะแต่งแฟชั่นหรือนิสัยยังไงก็เรื่องของเขา เรางดบูลลี่ทุกกรณี คนแกล้งล้อสนุก แต่คนรับไม่สนุกด้วยจำไว้ #งดการบูลลี่
เรื่องทรงผม อันนี้ก็เห็นชอบนะคะที่เสรีทรงผมต่างๆ แต่กฎต่างๆ ถ้ายังไม่มีการเปลี่ยนแปลงมันก็เรียกว่าผิดระเบียบอยู่ดี
นี่คือแบบเราก็ไม่ได้ทำอะไรผิดนะแต่ว่ามาเช้าทุกวันแล้วทุกวันสุกจะมากวาดโดมแต่เราอ่ะนัดรวมกลุ่มที่จะทำรายงานและถักเปียแต่ครูบอกว่าเธอไม่ชอบครูขนาดนั้นเลยหรอ(พี่กับเราคิดว่าครูแกเป็นไบโพล่า)
อยากรู้มุมมองของครูบ้างครับ
เราไม่โดนเพื่อนบูลลี่ มีแต่ครูที่บูลลี่เรา ด้วยเราเป็นผู้ชายตัวเล็ก หน้าตาติ๋มๆ ผิวขาว ครู2-3คนถามเลย เป็นปะเนี่ย นี่ก็แบบเป็นเหี้ยไรวะ บางคนก็ว่า ผู้ชายเจ้าสำอางบ้างแหละ ทั้งที่กูแค่ผิวขาวโดยกำเนิดจะสำอางไรวะ
โดนเหมือนกันครับ ครูเดินมาทักว่า ทาลิบหรอ ผมอึ้งไปเลย ผมเป็นคนไม่สูบบุหรี่ไม่ดื่มเหล้า ปากสีแบบนี้มันจะทำไม หึ!!
ของเราคือครูให้ส่งรูปบ้านที่ถ่ายคู่กับเราแล้วเราคือส่งช้าเพราเขาให้ถ่ายกับพ่อ,แม่แล้วพ่อแม่เราคือไม่ค่อยว่างก็เลยถ่ายช้าแล้วพอไปถึงโรงเรียนครูก็เปิดโปรเจคเตอร์แล้วเอารูปเราที่ถ่ายคู่กับแม่ที่ส่งให้ครูไปฉากบนจอแล้วด่าว่าเป็นอีตัวปัญหาทำให้ครูต้องมาทำของเราตอนหลังแล้วก็ตีเราแล้วคือตอนนั้นงงมากว่าจะด่าก็ด่าสิจะเอาหน้ากุขึ้นเพื่อแล้วหน้าเราไม่พอหน้าแม่เราด้วยแล้วคือเราอายมากรู้สึกเหมือนโดนประจานเวอร์
และนี่คือคำตอบทั้งหมดของผมเกี่ยวกับเรื่องบูลลี่นะ
0:08 เคยนะแต่กับเพื่อนเท่านั้นครูไม่ล้อเท่าไร แบบฟันเหยิน ตัวบางแบบผู้หญิง หน้าตาไม่หล่อไรงี้ก็แบบเสียใจและโกรธแค้นในเวลาเดียวกัน
6:12 ประจำอ่ะแบบเรียนเก่งไป หล่อเกินไป สวยเกินไป โดดเด่นเกินไปไรงี้ ล้อเลียนต่างๆนาๆ เยอะแยะเต็มไปหมดอ่ะ (ถึงจะน้อยแต่เคยละกัน)
8:59 นิดหน่อยจะบูลลี่คนแบบสนิทจริงๆเช่น ไออ้วนไรงี้แต่แบบน่ารักๆ 5555
11:07 เฉยๆนะมันเรื่องปกติไม่ได้ถึงขั้นลงโทษโหดๆขนาดนั้นนะสำหรับผม
16:49 แค่ตักเตือนดีๆก็พอ แต่ส่วนใหญ่จะไม่ได้ช่วยเลย
19:18 อยากมากๆแต่ไม่มีโอกาส 55555
เรื่องนี่สอนให้รู้ว่า การบูลลี่เป็นสิ่งที่แรงมาก งดบูลลี่ทุกกรณี ขอบคุณครับ
จากที่เคยเป็นทั้ง’ผู้ถูกกระทำ’ แล้วก็ไป ‘กระทำคนอื่น’
สมัยเด็กๆเราชินชาไปกับการที่ถูกที่bullyมาก เพราะ ตอนนั้นเราเด็กและตอนนั้นมันยังคงไม่รุนแรงมาก ส่วนใหญ่เราจะโดนเป็นคำพูด ล้อต่างๆนานา เป็นการล้อเลียนมากกว่า เพราะ สุดท้ายคนที่ล้อเราก็กลับมาเล่นพูดคุยกับเรา ในส่วนของคุณครูเราเองก็เคยเจอค่ะ ตั้งแต่ตอนเด็กมันจะช่วงจังหวะชีวิตช่วงนึงที่เป็นคนเรียนไม่ได้ดีมาก ทำให้ถูกครูพูดตอนนั้นมันเด็กมากจำคำพูดไม่ได้เลย แต่จำได้ว่าตอนนั้นเราฟังแล้วรู้สึกเจ็บกับคำพูดของครูมาก เหมือนจะกลั้นน้ำตาไว้ตอนนั้นด้วย แต่ว่าสุดท้ายกลับมาบ้านก็ไม่คิดมาก ปล่อยผ่าน พอมีจังหวะช่วงนึงของชีวิตที่ชีวิตกำลังจะเติบโตขึ้นและช่วงนั้นเรามีเป้าหมายพัฒนาตัวเองได้เยอะขึ้นมากๆ ตอนนั้นตั้งใจมาก นับว่ามันเป็นขาขึ้นของชีวิตเลย แต่เชื่อไหม เรากลับเข้าสังคมตรงนั้นไม่ได้ ไม่เชิงเข้าสังคมไม่ได้ แต่มีเพื่อนคนนึงที่ไม่โอเคกับเราแล้วเราก็ไม่โอเคกับเขา สุดท้ายเขาเป็นคนมีอิทธิพลเราโดนเยอะมากช่วงนั้น แต่ตอนนั้นเด็กด้วย เอาแต่โทษว่าเราเองที่ไม่ได้พอ แต่ก็พยายามปรับปรุงตัวรู้ได้เลยว่าตอนนั้นขาดความมั่นใจไม่เป็นตัวของตัวเองเลย คนที่ดีกับเรามีนะ แต่ต้องแบบลับหลังเพราะว่าถ้าทำดีต่อหน้าจะโดนไปด้วย เรายังคิดถึงเพื่อนที่ดีกับเรามากๆเลย อยากจะขอบคุณเขามากๆที่คอยให้กำลังใจ ซับพอร์ตเราในช่วงนั้น ช่วงนั้นมีบางคนที่ทำให้เราไม่เห็นคุณค่าในตัวเอง เรากลับมาบ้านร้องไห้กับที่บ้านก็มี แต่ตอนนั้นคิดแค่ว่าอดทนเดี๋ยวมันก็ผ่านไป มันเป็นอะไรที่รู้สึกแย่มากเลยนะจากใจจริง เราเกรดตกเยอะมากจากคนรักในการเรียน หมดไฟ เหมือนไม่ได้เตรียมใจที่จะรับมือกับมันไว้ล่วงหน้า มันเลยแบบดิ่งขั้นสุดเลย ทำอะไรก็รู้สึกล้มเหลวไปหมด จนออกมาจากตรงนั้นได้แบบโล่งเลย จำได้เลยว่า รู้สึกกลับมายิ้มแบบสดใสได้อีกครั้ง มีความสุขมาก จากคนที่มานั่งวิตกกังวล คิดมาก เครียดง่าย กลายเป็นอีกคนเลย เราเลยรู้สึกแย่มากกับการที่เคยไปbullyคนอื่น เราเคยไปbullyเพื่อนคนนึงที่เราแค่ไม่ชอบอะไรในตัวเขาบางอย่าง แม้จะเป็นการพูด นินทาแต่จริงๆมันทำให้เขามีบาดแผลในจิตใจ เรารู้สึกผิดมากตั้งแต่เราเป็นผู้ถูกกระทำมาทำให้เราเข้าใจเพื่อนเลยว่ามันรู้สึกเจ็บปวดมากแค่ไหน เรารู้สึกแย่ตลอดเมื่อกลับไปนึกถึงมัน เราภาวนาขอให้เพื่อนคนนั้นไม่เจ็บปวด เจอเพื่อนที่ดี เจอสังคมที่ดี ขอให้เขามีความสุขในทุกๆวัน ผ่านทุกปัญหาไปให้ได้
เราสงสารเด็กสมัยนี้มาก การbullyมันรุนแรงขึ้นมากจริงๆ เรารู้จักเด็กมัธยมไม่ว่าจะกี่คน ล้วนแล้วแต่มีปัญหาเรื่องเพื่อนกันทั้งนั้น เรากลัวว่าเด็กในไทยจะทำร้ายตัวเองไม่ก็คิดสั้น เพราะ สังคมโรงเรียนมากขึ้น เห้อ พูดแล้วปวดหัว
เคยโดนครูผู้ชายแก่ๆคนนึงตอนป.2 ตอนนั้นอยู่ในคาบละครูให้ทำงาน ผมก็จะใช้สีเดียวกับเพื่อนเลยเป๋ายิ่งฉุบกันว่าใครจะได้ใช้ก่อน แต่ครูแม่งตะโกนด่าละเรียกเราออกไปตะคอกด่าต่อหน้าห้อง(ประจานอะแหละ) ละด่าไปซักพักถึงจุดนึงแม่งบอกให้ลงไปคลานสี่ขาละเห่าเหมือนหมาไปมาหน้าห้อง ละแม่งมีให้ทำท่าหมาฉี่ด้วยนะ เพื่อนผมมันกลัวมากเลยทำตามทั้งน้ำตา แต่ผมไม่ทำเพราะอาย แม่งเลยเอาฟิวเจอร์พันเทปมาฟาดหน้าจนห้อเลือดเลย แต่ดีกลับไปถึงบ้านแม่เห็นหน้าผมห้อเลือดละถาม ผมก็เล่าไป แม่รู้เรื่องละถึงกับของขึ้น โกรธจัดเลย วันต่อมาแม่มาด่าอาจารย์ที่โรงเรียนเลย ละไปฟ้องผอ.ด้วย ไม่กี่วันต่อมาครูคนนั้นตาย แม่สั่งพิซซ่ามาเลี้ยงฉลองเลย 12ถาดใหญ่
มีอีกเหตุการณ์ฝังใจอีกอย่างตอน ป.3 คือ สมุดหนังสือเรียนของผมหายบ่อยมาก ซื้อมาใหม่แล้วก็หายอีก ไม่ใช่ผมแค่คนเดียวนะ คนอื่นก็หายบ้างแต่ไม่บ่อยเท่าผม แต่คนอื่นมันอ้างว่าลืมเอามา แต่ผมบอกครูไปตรงๆเลยว่าหาย มีวันนึงครูแกถึงกับปรี๊ดแตก บอกมึงทำหายอีกแล้วเหรอ ละให้ผมยืนบนโต๊ะเรียน ละด่าผมทั้งๆอย่างนั้นอะ บอกประมาณ "ของแค่นี้ก็รักษาไม่ได้ โตไปจะไปทำอะไรได้ ไปเลี้ยงควายซะไป ไม่ก็ไปขอทานซะ" ละที่หนักอีกอย่างคือ ครูแกประชดเอาพานมาไหว้ผมเลย ละบอกประมาณ "ครูต้องทำยังไงวะเองถึงจะเอาสมุดหนังสือมา" ตอนนั้นโคตรฝังใจเลย แต่แม่งมีมาพีคตอนหลังคือวันที่ทำความสะอาดห้องครั้งใหญ่กัน มันไปเจอทั้งสมุดหนังสือของผมและของเพื่อนที่หายไปซ่อนอยู่ตามซอกมุมต่างๆของห้อง เป็นสิบเล่มเลย ละมาจับได้ว่ามีอีเพื่อนผมตัวนึงแม่งชอบเอาของเพื่อนไปซ่อน ตอนนั้นความรู้สึกทั้งหลายมันประเดประดังเข้ามา ทั้งโกรธ ทั้งเศร้า เหมือนจะละเบิดออกมา คิดว่าละไอที่ผ่านมาทำไมกูต้องโดนครูด่า ทำไมกูต้องโดนครูตี ทำไมกูต้องโดนครูประจานด้วย มึงทำแบบนี้กับกูทำไม ตอนนั้นด้วยความโกรธคือจะหยิบเก้าอี้ไปฟาดแม่งเลย แต่ครูห้ามไว้ ละเรื่องแม่งก็จบแค่นั้น แต่ครูแกก็แก้ไขโดยขอโทษผม ละให้เกรด4ผม แต่ความรู้สึกแย่ๆแม่งไม่เคยหายไปเลย
ละช่วงป.4-ป.6 แม่งก็เหมือนตกนรกทั้งเป็นอีก เพราะจากที่โดนประจานมาตอนป.2กับป.3 ทำให้ผมเหมือนเป็นตัวประหลาดอะ ละเพื่อนแม่งก็ชอบรวมกลุ่มกันแกล้งผม ใช้ผมเป็นเบ๊ ไถเงิน เอารองเท้าฟาดหัว เอากาวร้อนมาโรยที่คอ ถุยหมากฝรั่งใส่หัว เอาเข็มติดดินน้ำมันทำเป็นลูกดอก ละเอาใส่ดินสอยัดไส้มาเป่าใส่ผม ละอะไรต่อมิอะไรอีกหลายๆอย่าง ละไม่รู้แม่งเป็นเหี้ยอะไร ทุกครั้งที่ผมสู้กลับครูแม่งก็จะเหมารวมว่าเป็นการทะเลาะกัน ผมก็โดนลงโทษไปด้วย ละด้วยความที่ผมตัวสูง ครูก็เสือกหาว่าผมไปรังแกพวกมัน ละด้วยความที่พวกแม่งมีเยอะกว่า ตอนครูถามผมมีตัวคนเดียว กับมันมีกับ4-5คน ครูก็เชื่อพวกมันละผมก็โดนอีก เป็นประสบการณ์วัยประถมที่โคตรเหี้ยเลย แต่พอขึ้นม.ต้นมาก็ได้แยกย้ายหนีจากพวกมัน ละชีวิตม.ต้น-มหาลัย ก็จัดว่าดีมากเลย เพราะมันจัดห้องตามผลการเรียนและหลักสูตร ละผมก็อยู่ห้องต้นๆ(วิทย์-คณิต) เลยได้มีสังคมดีๆ ต่างจากประถมแบบ นรก-สวรรค์เลย
เคยโดนบุลลี่ตอนประถมปลายเอกชนที่หนึ่ง แบบตอนนั้นย้ายพึ่งย้ายรรมาตอนป.4 ก็เลยยังไม่สนิทกับใครเท่าไหร่ เป็นเอ็กซ์โทรเวิร์คมากๆพยายามหาเพื่อนสุด เดินทักทุกคนทั่วห้องแต่ก้ยังไม่ค่อยมีใคร ด้วยความเอกชนดังอะ ส่วนใหญ่ก็ลูกคนจีนผิวก็จะขาวกันหมดทั้งรร เราก้มีเชื้อจีนแต่ผิวเข้มตามแม่(ย้ายมารัฐบาลทุกคนก้สีประมาณเรา รรนั้นมันขาวโอโม่ทุกคนจริงๆ) มันจะมีกลุ่มนึงแบบมองว่าเราสกปรก เวลานั่งเก้าอี้แล้วลุกไปส่งงานงี้ เขาก้จะมาใกล้ๆโต๊ะแล้วทำท่าดมเก้าอี้เราแล้วทำท่าเหม็นอะ มันจะมีคาบมัลติมีเดียอังกฤษแบบที่เรียนสนุกๆเน้นกิจกรรม คาบนึงครูเขาให้ทุกคนเขียนชื่อในกระดาษ ส่ฃไปเรื่อยๆให้เขียนความในใจถึงคนนี้ แล้วส่งคืนเจ้าของให้มาอ่านอะ มีแต่คนเขียนคำอังกฤษประมาณ ‘สกปรก โสโครก Ugly’งี้ คือแบบตอนนั้นก็หน้าชานะ เราแค่ดำกว่าคนอื่นแค่นั้นเอง โชว์รูปตอนเด็กมีแต่คนบอกน่ารัก พวกเทอตาไม่ถึงเองงง งงตัวเองเหมือนกันว่าผ่านมาได้ยังไงพอย้อนกลับไปมันก็แรงอยู่นะ อาจจะเพราะไม่ได้โดนทุกวัน ต่อเนื่องเลยรอดจากซึมเศร้ามาได้มั้ง
ตอนประถมเคยโดนเพื่อนผู้หญิงเกือบทั้งห้องไไม่ชอบ เหตุผลเพราะเราได้เป็นหัวหน้าห้อง แต่เพื่อนเขาไม่ได้เป็น เวลาคุยอะไรงานห้องเขาจะขัดเราตลอด กันเราให้เป็นส่วนเกิน ตอนนั้นไม่รู้สึกแต่ลึกๆ มันจำฝังทำให้เราไม่ค่อยกล้าคุยกับใครเพราะกลัวทำอะไรไม่เข้าตาแล้วจะโดนเกลียดอ่ะ กับครูก็เคยตอนประถมมีครูคนนึงแกไม่ชอบเราไม่รู้ทำไม แกชอบหาเรื่องว่าเรา เราคนเดียว ตอนตัดเกรดป.6 แกก็ให้เกรดเราน้อย ทั้งที่เราส่งงานครบอ่ะ
ของผมประถมตอนป.5ตอนนั้นวันพุธเค้าให้แต่ชุดพละแล้วตอนนั้นมีเด็กคนนึงที่ไม่ยอมไปโรงเรียนจน13แต่ยังอยู่ป.5ตอนนั้นยืนคุยกับเพื่อนมันถกกางเกงแต่เป็นการถกกางเกงที่ไม่มีวันลืมมันถกแบบกางเกงในลงไปด้วยโชคดีเพื่อนเป็นใจเพื่อนบังให้แล้วรีบใส่กางเกง
สำหรับผมน่ะคิดผิดว่าไม่รู้ แต่ผมว่ากฎมีก็ควรทำตาม แล้ว ก็ควรเข้าใจหรืออ่านตั้งแต่วันแรก.
ไม่ได้อะไรนะครับเเต่พอนึกรวมๆเเล้วที่พวกคุณหลายๆคนอยากให้เป็นอ่ะ ผมนีกภาพรร.นึงสมมุตินะคือเป็นรร.ที่ครูเข้าสอนๆตามหน้าที่เลยไม่มีการคุยเล่นกับนักเรียนมีหน้าที่สอนๆไปเวลาเช็คชื่อก็เรียกตามชื่อจริงเเค่นั้นไม่มีการทำโทษใครไม่สนใจเรียนก็เเล้วเเต่ไม่คุยไม่ตามเพราะมาสอนเเค่นั้นส่วนเพื่อนๆในห้องก็ต่างคนต่างมาเรียนไม่มีการคุยอะไรมากมายคุยเเค่เรื่องการบ้านเลิกเรียนกลับบ้าน วนลูปเเค่นี้ คิดว่ามันเป็นยังไงครับ
เคยบูลลี่เพื่อนนะสมัยประถมแต่ไม่ได้เป็นหัวโจก อารมณ์แบบพอเพื่อนในห้องล้อเพื่อนคนนั้นเราก็จะล้อตาม บรรยากาศมันพาไป+เราก็หมั่นไส้มันด้วยแหละ จนเพื่อนที่โดนล้อโกรธโยนข้าวของ ไม่มีใครคบ แล้วมันโดนล้อตั้งแต่ป.4ยันป.6 ตอนนั้นก็ทำแบบไม่คิดอะไรเลยเพราะหมั่นไส้ แต่มันก็ทำตัวมันเองให้เพื่อนล้อด้วยเพราะชอบโม้ไปเรื่อย โกหกโอ้อวด แต่ตอนนั้นเราคิดน้อยจริงด้วยความเด็กบางทีเพื่อนคนนั้นเขาอาจป่วยทางสมองก็ได้ ควบคุมอารมณ์ความคิดไม่ค่อยได้ไรงี้ หลานเราก็เป็นป่วย ขี้โม้ไปเรื่อยแยกแยะไม่ได้สุดท้ายก็โดนเพื่อนที่โรงเรียนแกล้ง อารมณ์เดียวกันเลย
ไม่ชอบการบูลลี่ แต่ยังเอาคำว่าปัญญาอ่อนมาใช้เป็นคำด่าอยู่ เออดี
จริงเลย5555
6:16 ที่เขาตอบคำถามประเด็น”เคยเห็นการบูลลี่ไหม” ว่า “เคยเห็นที่ค่อนข้างปัญญาอ่อน” นี่หรอครับ เขาก็วิจารณ์กรณีบูลลี่ว่ามันปัญญาอ่อน(จากที่เขายกตัวอย่างของคนที่ไม่น่าจะโดนแต่ก็โดน)ใช้คำว่าปัญญาอ่อนผมว่าก็สมเหตุสมผลแล้วครับ และการตอบโต้คนที่ข่มเหงรังแกคนอื่นก็ไม่น่าถือได้ว่าหยาบคายอะไรนะครับ
@@toasty4736 ไม่น่าจะใช่เรื่องหยาบคายนะคะแต่น่าจะเป็นเรื่องที่เอา’โรค’มาใช้เป็นคำด่ามากกว่าน่ะค่ะ
ชอบมากครับ
ผมอยากไปนั่งคุยด้วยจังครับ
ผมโชคดีที่เรียนในโรงเรียนบ้านนอก นักเรียนจะสามัคคีกันหน่อยไม่ค่อยเหยียดรึดูถูกกัน จะมีแต่ครูที่ชอบเหยียดนักเรียน สุดท้ายก็โดนนักเรียนเอาคืนนั่นแหละครับ เจาะยางบ้างเอารองเท้สไปซ่อนบ้าง เอาแปรงลบกระดานไปซ่อน เอาไม่เรียวไปซ่อน หนักสุดก็เอาเสื้อผ้าไปซ่อน
พี่แป้งเสียงน่ารักมากก
เคยโดนบูลลี่ค่ะ ไม่ค่อยเยอะแต่ฝังใจมาก
ป.3 / เหมือนครูจะเปิดหนังให้ดู เลยให้โหวตกันว่าจะดูอะไร พอเราบอกเพื่อนว่าไม่เอาหนังผีนะ แล้วทุกคนก็เริ่มโหวตหนังผีเยอะค่ะ คนในห้องไม่เยอะมากประมาณ20กว่าคน สรุปก็ต้องยอมเพราะครูบอกว่าโหวตได้อะไรก็ตามนั้น แล้วเราคือนั่งหน้าจอเลยค่ะ ต่อมาคือเรากลัวเลยก้มหน้าลงโต๊ะ เรากลัวมากๆๆๆๆๆแบบมากๆๆๆมากจริงๆ สักพักก็มีเพื่อนคนนึงเดินมาโต๊ะเราแล้วก็พยายามกระชากหัวเราขึ้นมาค่ะ เพื่อนคนนั้นดึงแบบจะให้ขึ้นมาให้ได้เลยค่ะ เราเลยร้องไห้หนักมาก แล้วพอมันดึงเราขึ้นมาไม่ได้มันก็บอกว่า "แม่งมันหัวแข่งจังวะ" แล้วก็โดนเพื่อนบางกลุ่มหัวเราะค่ะT-T คือเราไม่เคมากๆเลย ภาพติดตาไปเป็นสัปดาห์ เพื่อนล้อนิดหน่อย เจ็บใจมากอันนี้ ปัจจุบันฝังใจกลัวมากที่สุดเลยค่ะ
ป.4 / อยู่ดีๆก็โดนเพื่อนไม่คุยด้วยทั้งกลุ่มค่ะเหมือนเพื่อนนัดกันไว้แล้วก็ทิ้งเราอยู่คนเดียวเลยค่ะ แต่ก็โอเคเพราะตอนนั้นมีเพื่อน2คนที่ไม่ค่อยสนิทแต่เค้าก็มาเล่นกับเรา แล้วสรุปคือไปถามมา เพื่อนบอกว่าทดสอบเฉยๆ ตอนนั้นคือเราเฟลมากเลยมันรู้สึกว่าจะทำไปทำไมสนุกหรอ ตอนนี้เพื่อน2คนนั้นเราสนิทที่สุดในเพื่อนตอนประถมแล้วค่ะ55555555555
แล้วเราก็เคยบูลลี่คนอื่นค่ะ โตมารู้สึกผิดมาก อยากตบตัวเอง จำได้ว่าตัวเองจะชอบบูลลี่คนอื่นด้วยคำพูดค่ะ เพราะตอนนั้นอยู่ป.5เราก็เริ่มกล้าๆขึ้นมา จนเหลิงค่ะเลยกลายเป็นบูลลี่คนอื่นเลย
แต่รู้ตัวเร็วหน่อยเพราะเหมือนจะเหลิงได้ประมาณสัปดาห์นึงค่ะแล้วก็เลิกเลยตอนนี้ก็ปกติ ทัศนคติดีขึ้นมากๆ ทุกๆอย่างดีขึ้น เพื่อนดีค่ะ ตอนนั้นอาจจะเพราะเราคิดไม่มากพอ เอาสนุก สะใจอย่างเดียวด้วยละมั้ง
ผมโดนว่าไอ่เอ๋อ คือเราแค่ช้าๆ คิดอะไรออกหมดแหละ แต่แค่ไม่ตอบโต้ ไม่ค่อยคุย แล้วเราป่วยแต่เด็ก ทำให้ไม่ชอบสู้คน ไม่ค่อยเข้ากับใคร แต่ไม่เคยไปมีปัญหากับใครนะ แต่มักจะมีคนตั้งใจมามีปัญหากับเรา แล้วมาทำร้ายเรา พอเราไม่ตอบโต้ก็ล้อเราว่าเป็นตุ๊ด เยอะแยะครับที่โดน โดนอยู่นานหลายปี
สมัยนี้ยังเต็มไปหมดแค่จะเป็นอีกแบบนึงต่างกับแต่ก่อนนิดหน่อย คือเราใส่แว่นแต่เด็กเพราะสายตาสั้นนี่จ้าเพื่อนผชในห้องพูดซ้ำๆอ่ะว่าแบบไอแว่นๆๆๆๆๆๆๆซึ่งเราก็ไม่อะไรนะไม่ที่แปลว่าไม่แค่แบบใส่แว่นแล้วทำไมอ่ะพ่อแม่ไม่สอนเหรอแกพ่อมึงครูมึงแม่มึงก้ใส่แว่นอ่ะป่าวซึ่งออกแนวรำคานเรื่องนี้ไม่เคยตัดความมั่นเราเลยเราชอบที่ตัวเองใส่แว่นด้ใยแหละรู้สึกสวย5555
แต่เรื่องที่หนักๆเลยคือการบูลลี่รูปร่างกะหน้าตา อันนี้มาจากครอบครัวล้วนๆ คือพ่อกับพี่ชายเราเขาชอบพูดว่าเราแบบ อ้วน ดำ เตี้ย จมูกแบน ซึ่งทำให้เป็นปมทั้งชีวิตแต่ไม่เคยโดนญาติๆผู้ใหญ่เพื่อนบูลลี่เลยเรื่องนี้มีแค่พ่อกับพี่ชายสองคนแล้วแบบแค่ปากคนๆเดียวทำให้เป็นปมเราไม่ชอบมากๆเวลามีคนยกกล้องขึ้นมาถ่ทยติดเรานี่ไม่เึยมีรูปคู่กะคนในครอบครัวเพราะอสยหน้าตาตัวเองไม่ถอดแมสที่รรยอมไม่กินข้าวตอนเที่ยงเดี๋ยวเพื่อนเห็นหน้าแต่ส่วนตัวเราชอบตัวเองนะแต่เราคิดว่าคนอื่นจะไม่ชอบเราแปลกมั้ย555เรารู้สึกว่าตัวเองก็สวยแต่รู้ว่าคนอืานจะมองว่าเราไม่สวยเลยแบบจะถ่ายรูปคนเดียวในห้องนอนแทนไม่โพสไม่อะไรเราเป็นคนชอบทำทุปๆอย่างๆอยากทำกิจกรรมนู่นนี่แต่ ไม่เคยได้ทำอะไรไม่เสนอตัวเพระาคิดว่า้ราหน้าตาไม่ดีเราออกไปตรงนั้นไม่ได้เออคือแบบ555 เคยมีครั้งนึงเหมือนมันดิ่งสุดๆแล้วเราแอบโดดเรียนครั้งแรกไปห้องพยาบาลเพราะรู้สึกเหมือนได้ยินเสียงคนนินทาตลอดเวลาเรารู้ว่าไม่มีใครน้นทาแต่เสียงในหัยมันบอกตัวเองอันนี้ก็คิดว่าแปลกๆ
น้องผู้หญิงแม่งเด็กดีมาก
ตอนประถมเป็นเด็กมีปัญหายุช่วงนึงคือเงียบ ไม่พูดกับใครการบ้านวิชาทำไม่เป็นก็ไม่ทำสะสมจนมันเริ่มเรียนไม่ทัน
จำได้คร่าวๆว่าครูเรียกไปหน้าห้องแล้วโทรหาแม่แล้ว เปิดspeakerphoneให้เพื่อนทั้งห้องฟังแล้วก็ถามแม่เรื่องเราไปเรื่อยๆ
ไม่รู้ว่าเรียกว่าเป็นการบูลลี่มั้ยแต่เรารู้สึกแย่มากๆ แต่หลังจากวันนั้นครูคนเดิมก็พยายามหากิจกรรมนู้นนี้ให้เราทำเพื่อให้เราได้คุยกับเพื่อนอยากมา รร
จนสุดท้ายเราก็กลับมาคุยกับเพื่อนเหมือนเดิม เฮฮาเหมือนเดิม จนตอนนี้ไม่รู้ว่าจะต้องโกรธหรือ ขอบคุณครูคนนั้นดี 😅
กรณีร.ร. ผม เวลามีคนชนนี่ คนอื่นรู้แต่ไม่กล้าช่วยนะ เซ็ง
ของหนูคือเค้าไม่ค่อยจะเจอเเบบ
เหยียดนิดหน่อยล้อไรงี้😊
เพื่อนชอบแกล้งถอดกางเกงเลยถอดให้มันดูเลย555
ตอนประถมโดนดึงกางเกงจนหลุดเห็นกางเกงในกลางโรงอาหาร
เมื่อก่อนผมโดนต่อยเป็นว่าเล่นเลยครับ
ดึงกางเกงกับถีบอวัยวะเพศชาย ปัจจุบันยังเจอเลยครับบ
ผมว่ามันแล้วแต่ โรงเรียนนะ เพราะ ครูที่ รร ผมดีทุกคน
ทุกวันนี้ยังโดนเหยียดกันอยู่เลย
เราเหมือนนายเลยตั้งแต่ประถมอะเราผอมแห้งมาก โดนล้อว่าไอ้ขี้ก้าง กระดูกไก่แมน คือเราไม่โอเคมากๆอะ เราร้องไห้แม่งก็ยิ่งล้อ
สมัยสัก 17-18 ปีก่อน พวกผมฟัง fort minor เต้น b-boy จำได้ว่าโดนปิดกล่องกระทืบ เกือบตาย พวกคนที่กระทืบ กระทืบพวกผมเพราะ หมั่น b-boy หมั่น hip hop โคตร wtf
1
ถอดกางเกงกันเองผมกับเพื่อนชอบเล่นกันสมัยป.6🤣🤣
ในมุมมองเรื่องทรงผมนะ ผมว่ามันก็ยาวและฟูเกินไป มันบังเพื่อนในห้องนะผมว่า เอาแต่พอดีๆก็พอ
ก็จัดห้องเรียนใหม่ ห้องเรียนจัดได้หลายแบบ