การเข้าระงับเหตุชิงทรัพย์ และ การตั้งจุดสกัด

จุดสกัด หมายถึง สถานที่ที่เจ้าพนักงานตำรวจออกปฏิบัติหน้าที่ตรวจค้น เพื่อจับกุมผู้กระทำความผิดในเขตทางเดินรถ ในกรณีที่มีเหตุการณ์ฉุกเฉินหรือจำเป็นเรงด่วนเกิดขึ้นเป็นการชั่วคราว
และจะต้องยุบเลิกเมื่อเสร็จสิ้นภารกิจดังกล่าว
การปฏิบัติในจุดสกัด ใช้รถยนต์หรือรถจักรยานยนต์สายตรวจอย่างน้อย 1 คัน
มีกำลังพลอย่างน้อย 2 นาย แบ่งหน้าที่ ตรวจค้น1นาย คุ้มกัน1นาย
กรณีที่มีการขับรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์สายตรวจติดตามจับกุมคนร้ายนั้น เนื่องจากการไล่ติดตามเป็นเรื่องที่ต้องปฏิบัติโดยฉับพลัน ดังนั้นเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติจึงต้องเตรียมความพร้อม อย่างน้อย 3 ประการก่อนปฏิบัติหน้าที่ทุกครั้ง คือ
- รถสายตรวจ ต้องมีอุปกรณ์ประจำรถ ครบถ้วนและสภาพพร้อมใช้งาน
- กำลังเจ้าหน้าที่ ที่จะออกปฏิบัติหน้าที่ในรถสายตรวจ 1 คัน ต้องไม่น้อยกว่า 2 นาย
- ต้องหาข้อมูลของคนร้ายให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ เช่น ข้อมูลยานพาหนะ การแต่งกายที่คนร้ายใช้
ลำดับการระงับเหตุของเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ
1.เมื่อรับแจ้งเหตุจากศูนย์วิทยุ เจ้าหน้าที่สายตรวจตอบรับทราบเหตุและเข้าตรวจสอบเหตุทันที
2.เมื่อถึงที่เกิดเหตุ จอดรถสายตรวจ ห่างจากจุดเกิดเหตุพอสมควรในระยะปลอดภัย สามารถตรวจการณ์ เห็นสถานการณ์ในสถานที่เกิดเหตุได้ ประเมินสถานการณ์ก่อนเข้าที่เกิดเหตุทุกครั้ง
3.แจ้ง LCAN ไปยังศูนย์วิทยุ
L : Location แจ้งสถานที่เกิดเหตุที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการตรวจสอบว่าเป็นสถานที่ใด
C : Condition แจ้งสถานการณ์ที่ตรวจพบเบื้องต้น (คนร้ายหลบหนี มีคนบาดเจ็บ
สภาพพื้นที่เกิดเหตุเป็นอย่างไร ฯลฯ)
A : Action แจ้งการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ตำรวจ (เข้าตรวจที่เกิดเหตุ ติดตามคนร้ายฯลฯ)
N : Need แจ้งความต้องการของเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้เผชิญเหตุ (ขอกำลังสนับสนุน รถกู้ภัย ฯลฯ)
4.ร้อยเวรป้องกันปราบปราม แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ขณะนั้น เช่น ฝ่ายป้องกันปราบปราม ฝ่ายสืบสวน ฝ่ายจราจร เข้าจุดก้าวสกัดจับตามแผน พร้อมแจ้งไปยังศูนย์วิทยุกระจายข้อมูลไปยังสถานที่ตำรวจพื้นที่ข้างเคียง
5.ติดตามจับกุม ตามยุทธวิธี V.S.O.C.( VIHICLE STOP AND OCCUPANTS CONTROL )สายตรวจที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุติดตามผู้กระทำผิดในระยะที่เหมาะสม กรณีคนร้ายมีอาวุธร้ายแรงให้ทิ้งระยะห่าง ที่ปลอดภัย แจ้ง LCAN เป็นระยะ ไม่ยิงยางรถยนต์เพื่อหยุด ไม่นำรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์สายตรวจ ปาดหน้าหรือเบียดรถต้องสงสัย ตัวบุคคลเข้าขวาง ขณะรถต้องสงสัยเคลื่อนที่ด้วยความเร็ว เพราะอาจจะทำให้เกิดอันตรายกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือประชาชนได้
6.การหยุดรถหรือสกัดรถต้องสงสัยให้ตั้งจุดสกัดตามนิยามจุดสกัด ตามแผนที่ได้วางไว้
7.เมื่อหยุดรถคนร้ายได้ ให้ทำการสั่งการคนร้ายตามยุทธวิธี ผู้เผชิญหน้า-ผู้คุ้มกัน (contact-cover) เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ในตำแหน่งที่ได้เปรียบ (combat V-L) และแนววิถีกระสุนไม่โดนตำรวจด้วยกันเอง (crossfire)
8.ทำการควบคุมตัวคนร้าย พันธนาการมือคนร้ายอยู่ด้านหลัง ตรวจค้นบุคคล ตรวจค้นยานพาหนะ ตามหลักยุทธวิธี9.แจ้ง LCAN เพื่อยุติการก้าวสกัดจับและรายงานการปฏิบัติให้ผู้บังคับบัญชาทราบ
ข้อพิจารณาการตั้งจุดสกัด
- สถานีตำรวจมีการซักซ้อมแผนเผชิญเหตุอย่างสม่ำเสมอโดยบูรณาการกำลังพลทุกส่วนในสถานีตำรวจ
- จัดทำแผนที่จุดเสี่ยงอาชญากรรมให้ครอบคลุม ลักษณะโครงข่ายใยแมงมุมไม่ทับซ้อนกัน
- พร้อมกำหนดจุดรับผิดชอบให้ชัดเจน 8.3 การใช้อุปกรณ์สกัดรถ เช่น STOP STRICK
- ต้องใช้อย่างระมัดระวัง ไม่ให้เกิดอันตรายกับประชาชน และ ตำรวจ
- นำเทคโนโลยีมาปรับใช้ เช่น กล้องประจำตัวสายตรวจ และระบบ GPS เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการสกัดจับ

[@Burn2368]

น่าจะเผยแพร่ตามสื่อเช่นช่อง ฟรีทีวี ประชาชนจะได้เข้าใจและให้ความร่วมมือหรือช่วยให้เบาะแสเจ้าหน้าที่

[@user-xv6es5gb5f]

อยากให้ทำเป็นละครออกช่องพรีทีวีปกติ อยากเป็นตำรวจสายตรวจมาอยู่อ่างทองบ้านผมครับ😊😊😊

[@SuSu-zx4zy]

စုစု
susu
❤

[@user-jp6xi2it1t]

ความจริงด่านคือเงินด่วนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทำอยู่โดยลำพัง/ไม่มีฝ่ายปกครอง/ไม่มีปปส./แพท/กำนัน/อบต.รว่มสังเกตุการณ์/ไม่มีก็คือสุ่มเสี่ยงที่ตำรวจจะละเมิดสิทธิ์ปชช.นี่คือชื่อเสียงตำรวจจะกลับมาต้องบูรนาการร่วมกันหากปล่อยตำรวจตั้งด่าน/หรือตระเวนล๊อคล้อตามอำเภอใจอยู่แบบนี้/หาเปอร์เซ็นต์โดยไม่คำนึงผลเสียล่ะก็/มีแต่จะหนักขึ้นๆในการแสวงหารายได้ของด่านแต่ละด่านทั่วประเทศ/แล้วคำว่าบริการปชช.ก็เลือนหายไป/จะมีก็แต่คำว่าผลประโยชน์/บนความเดือดร้อนปชช.ฝากไว้ให้แก้คับ

[@lhasaji871]

คุณสามารถทำมันได้อย่างสมบูรณ์แบบ แต่ถ้าคุณถืออาวุธ จะต้องส่งกองกำลังพิเศษไปด้วย