ขนาดวิดีโอ: 1280 X 720853 X 480640 X 360
แสดงแผงควบคุมโปรแกรมเล่น
เล่นอัตโนมัติ
เล่นใหม่
#สำหรับผู่ไม่สะดวกรับฟังด้วยเสียงบุญมากไม่ได้อยู่ที่ใช้เงินมาก บุญนั้น มีหลากหลายความหมาย บุญคือ ความสุข คือความบริสุทธิ์ คือพลังงานที่มองไม่เห็นแต่มีจริงคืออาหารแห่งจิต คือกำลังสำคัญในการดำเนินชีวิต แล้วแต่ท่านจะเข้าใจขอแนะนำง่ายๆ ในการสร้างบุญที่ได้บุญมาก มีความสุข มากนั้นขึ้นอยู่กับเจตนา อยู่กับจิตเราเป็นสำคัญไม่ได้ขึ้นอยู่กับเงินมากบุญ ไม่ใช่การแข่งขัน บุญไม่ใช่การหวังผล ไม่ใช่การลงทุนทางโลก ไม่ใช่การเ บี ย ดเบี ย นไม่ใช่ทำแล้วมานั่งทุ กข์ มานั่งไม่สบายใจ บุญมากคือทำแล้วจิตสุข มากทำแบบไม่หวังผลเข้าตัว สละออกไม่เอาเข้าให้เพราะเมตตาให้เพื่อช่วยเหลือ สงเค ร าะห์ สนับสนุน ให้เพื่อช่วยเผยแผ่ เผยแพร่ความรู้ให้คนอื่นเป็นสุขในส่วนประกอบต่างๆ ทั้งวัตถุทานบริสุทธิ์ เพื่อให้เรามีสติได้พิจารณาอย่างละเอียด ให้อะไรแล้วดี ให้อะไรแล้วเกิดประโยชน์ตรงประโยชน์ ตรงเหตุ ตรงเวลา ตรงความต้องการส่วนผู้รับบริสุทธิ์ ก็เป็นส่วนสำคัญ ที่นำทานนำวัตถุนั้นไปเกิดประโยชน์ต่อคนหมู่มาก ต่อโลกธรรมบุญไม่ใช้เงินเลยแม้แต่สลึงก็มากมาย ทำได้ทุกวันด้วยทั้งเจริญสมาธิ ภาวนา การให้อภัย การลงแรงช่วยเหลือการให้ความรู้ แม้แต่ยินดีในบุญของคนอื่นที่ทำสร้างอะไรมากมาย อาจจะสู้คนกวาดลานวัดไม่ได้เลยถ้าใจไม่บริสุทธิ์พระที่บวชหลายพรรษาแต่ไม่เดินตามธรรมวินัยเนื้อนาบุญอาจจะสู้มัคทายก สามเณรที่มีศีลบริสุทธิ์เลยไม่ต้องไปวิตกกังวลว่า ไม่มีเงินทำบุญไม่ต้องไปกังวลว่า จะได้บุญน้อยสู้คนอื่นไม่ได้สุขไม่ได้บุญไม่ได้วัดที่เงิน วัดที่ใจล้วนๆ เป็นสำคัญตั้งใจมาก เจตนาดีมากก็ได้บุญมาก
#นิสัยในการคิด มโนกรรมกำหนดชีวิตของคุณได้ทั้งชีวิตถ้าหมั่นคิดเรื่องไม่เป็นเรื่อง ก็พยากรณ์ได้ว่าชีวิตคุณจะเหลวไหลไร้สาระถ้าเรื่องเล็กนิดเดียวยังเก็บมาเป็นอารมณ์ไม่หยุด ก็พยากรณ์ได้ว่าชีวิตคุณจะเต็มไปด้วยกองขยะ หาของดีมีคุณภาพไม่ค่อยได้ แม้มีคนที่รักคุณสรรหาสิ่งดีๆมาให้ คุณก็จะทำให้มันเน่าเปื่อย หรืออย่างน้อยมันก็เน่าเปื่อยอยู่ในความรู้สึกข้างใน จากมุมมองช่างติ ช่างชังถ้าไม่รู้ว่าชีวิตที่สว่างคืออะไร ความคิดที่ถูกคืออะไร ความคิดของเราก็จะทำลายตัวเองได้!ความคิดไหนที่ยังมืดก็ปรับเป็นสว่างเสียถ้าเราตั้งศรัทธาไว้ที่พระพุทธเจ้าได้ แล้วเอาวิธีคิดของพระองค์มาเป็นวิธีคิดของเราได้มันก็จะมีคำตอบสั้นๆให้กับชีวิต ก็คือ คิดอะไร ที่ทำให้จิตใจชุ่มชื่นคิดอะไร ที่ทำให้รู้สึกใจสว่าง มีความรู้สึกเบิกบานอันนั้นแหละ คือ ความรู้สึกที่ถูกต้องความคิดที่มันออกจากความทุกข์และคล้อยไปในทางความสุขได้เมื่ออยู่กับตัวเองถ้า ‘อยาก’ คิดเรื่องอกุศลให้ตั้งใจเปลี่ยนไปคิดถึงเรื่องที่เป็นกุศลแต่ถ้า ‘จำเป็น’ ต้องคิดเรื่องอกุศลให้ตั้งใจคิดเอาข้อสรุปที่เป็นกุศลขึ้นความตั้งใจจะสร้างความสบายใจและทำจิตให้เป็นกุศลนั่นเองคือ ‘กรรมทวนกระแส’ถ้าขาดความตั้งใจ ก็ไม่มีกรรมดีๆชนิดนี้เกิดขึ้นทุกคนต้องไหลไปด้วย‘กรรมตามกระแส’ กันหมดชีวิตคนส่วนใหญ่จึงเต็มไปด้วยเรื่องไม่น่าสบายใจแล้วก็มีจิตเป็นอกุศลกันโดยมากความคิดสว่างที่ง่ายที่สุด ก็คือ อย่าเบียดเบียนกันความคิดที่เป็นทาน คิดในทางที่จะไม่เอาเราต้องตั้งใจไว้ล่วงหน้าว่าเราจะเป็นคนที่อยู่ในเขตของ #การให้ทาน #รักษาศีลยอมรับคาแรกเตอร์ทางใจของตัวเองและเทียบวัดความรู้สึกทำอย่างไรจึงจะคิดพูดและกระทำได้ถูกต้อง ถ้าตั้งใจจะไม่ผิดเลย มันจะผิดอีกเรื่อยๆเพราะเราจะฝืนเกร็ง ไม่เป็นธรรมชาติขอให้ท่องว่าเพื่อเปลี่ยนผิดให้เป็นถูก เราต้องผิดเป็น แล้วกล้ากลับไปแก้ไขรู้จัก และ ยอมรับ ‘คาแรกเตอร์ทางใจ’ ของตัวเองเวลาเกิดพฤติกรรมไม่ดีขึ้น ไม่ต้องต่อว่าตัวเอง แต่ให้ยอมรับตามจริงว่ามันเกิดขึ้นแล้วสังเกตว่าลงเอยเป็นความรู้สึกอย่างไร แข็งๆ ด้านๆ หยาบๆ แตกต่างจากความรู้สึกที่แท้จริงที่อยากนุ่มนวล อ่อนโยน และประณีตแบบไหนสังเกตเฉยๆ อย่าเอาถูกเอาผิด อย่าตัดสินให้คะแนนเป็นบวกเป็นลบ และตั้งใจจะเทียบวัดความแตกต่างไปเป็นร้อยครั้งพันหนไม่สนใจว่าจะต้องเทียบวัดกันอีกนานแค่ไหน สนใจแค่ว่าเราจะใส่ใจเทียบวัดความแตกต่างไปเรื่อยๆ แล้วในที่สุดจิตจะฉลาดขึ้นเองนี่แหละ วิธีแก้อันเป็นที่สุด โดยอาศัย การเจริญสติ เข้ามาช่วย จะได้ไม่ต้องบังคับตัวเอง และไม่ต้องฝืนทั้งที่ไม่อยากฝืนเมื่อเวลาผ่านไป จะเกิดความถูกต้องอย่างเป็นธรรมชาติไม่งั้นก็วนเวียนพายเรืออยู่ในอ่าง ผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่าจากการตั้งโจทย์ชีวิตไม่ถูกธรรมไม่ถูกกับกลไกธรรมชาติทางจิตพระพุทธเจ้าตรัสว่าในบรรดากรรมทั้งสาม คือ มโนกรรม วจีกรรม และกายกรรมนั้น มโนกรรมมีอิทธิพลใหญ่ที่สุด ครอบงำวจีกรรมและกายกรรมไว้ในตัวจิตวิญญาณของคนเราสว่างหรือมืดได้ด้วยมโนกรรมเป็นหลักคิดดี ก่อนจะเลือกคำพูดให้ดีพูดดี แล้วทำตรงกับที่พูดเอาไว้ คิดดี แล้วชีวิตทั้งหมดจะดีเองครับ
#ลองมีความคิดแบบนี้ดูสักครั้งชีวิตสบายใจโล่งขึ้นเยอะพย าย ามคิดให้ได้ว่า “ไม่มีอะไรยั่งยืน”ลองคิดทบทวนดูดีๆ นะครับ ว่าตอนนี้เรากำลังยึดติดอยู่กับสิ่งของนอกกาย อยู่หรือเปล่า และเมื่อใดก็ตามที่เรายึดติดกับอะไรมากๆ ความเจ็บ ความผิดหวัง ก็มักจะมาหาเราได้ง่ายขึ้นครับนั่นเพราะถ้าเรายึดติดกับอะไรเราก็มักจะกลัวว่าของสิ่งนั้นจะหายไป สิ่งนั้นจะพัง กลัวใครจะมาขโมย เอาเป็นว่าเลิกยึดติดและคิดเสียว่าไม่มีอะไรแน่นอนทุกสิ่งบนโลกย่อมมีการเปลี่ยนแปลงไปตามสถานการณ์และเวลาทั้งความสุขและความทุกข์ก็ไม่ได้อยู่กับเราไปตลอดเช่นเดียวกัน ทุกอย่ างผ่านมาแล้วก็มีวันผ่านไป ถ้าเราเข้าใจเรื่องนี้ได้ เราจะมีสติมากขึ้น เมื่อเกิดอำรขึ้นแล้วเราพจะไม่ทุกข์ เพราะเราปล่อยวางว่ามันไม่มีอะไรยั่งยืนตลอดไปยังไงล่ะครับเว้นพื้นที่เอาไว้ให้ความผิดพลาดบ้างคนเรามักจะชอบคิดว่า ความเศร้า ความกลัว ความผิด เป็นสิ่งไม่ดี และไม่ควรที่จะเกิดขึ้นกับชีวิตของเรา แต่ต้องไม่ลืมนะครับว่าในโลกนี้ไม่มีใครที่เ พ อ ร์ เ ฟ ค ไปเสียทุกอย่ าง ไม่มีใครไม่เคยทำอะไรผิดพลาด ไม่เคยมีใครที่ไม่เคยกลัวกับอะไรเลย เราเองเป็นแค่เพียงมนุษย์ธรรมดาคนนึงที่มีความรู้สึก ดังนั้น จงเอาความรู้สึกที่ไม่ดีต่างๆเหล่านั้นเป็นบทเรียนเพื่อให้เราได้พัฒนาตัวเองต่อไป อย่ าไปเครียดว่าทำไมเราต้องผิด ทำไมเราต้องกลัว ไม่ต้องผลักไสอาการเหล่านี้ไปหรอกครับ รับมันเอาไว้แต่รู้จักวางมันให้ถูกที่ถูกทาง สิ่งเหล่านี้บางทีอาจมีประโยชน์และทำให้เรามีความสุขมากขึ้นก็ได้ถ้าเรารู้จักปล่อยวางเลิกเป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้นการจะใช้ชีวิตย่ างมีความสุขได้ เราต้องหมั่นฝึกตัวเองให้คิดดี ทำดี ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะส่งผลให้เรามีพลังที่จะดึงดูดสิ่งดีๆ ให้เข้ามาในชีวิต หากเราโกรธ หรือแค้นใคร สิ่งที่ควรทำได้ดีที่สุดคือ“ให้อภัย” สิ่งนี้จะเปลี่ยนความโกรธ ความเคียดแค้นให้กลายเป็นความคิดด้านบวกได้ อย่าได้คิดแค้นใครเลยครับ เพราะหากคิดไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้นมา เอาเป็นว่าสวดมนต์แผ่เมตตาให้เค้าไปเลยก็ดีครับ จะทำให้เราควบคุมอารมณ์โกรธไม่ให้เกิดขึ้นตั้งแต่แรกได้ ไม่เชื่อลองทำดูครับทั้งหมดนี้คือเคล็ดลับเล็กๆ น้อยๆ ที่เอามาฝาก เพื่อให้ทุกคนรู้จักปล่อยวางดูนะครับ อย่าลืมว่าเมื่อเรารู้สึกว่ามีบางอย่ างกำลังทำให้เรารู้สึกไม่ดี หรือรู้สึกเครียด ก็ลองไม่คิดอะไรแย่ๆ วางมันลงชีวิตเรามีอะไรให้ทำอีกมากมายกว่าเอาเวลามาเครียดกับสิ่งผิดพลาดที่อาจส่งผลทำให้เราท้อถอย ดังนั้น ลองมองข้ามสิ่งผิดพลาดเหล่านั้นไปและขอบคุณสิ่งดี ๆ ที่ยังเหลืออยู่ด้วยการ “ปล่อยวาง” ดีกว่าครับ #ขอให้ได้พิจารณาด้วยสติ ด้วยปัญญา ด้วยภูมิธรรม คุณพระรักษาเทวดาคุ้มครอง ขอให้มีความเจริญในธรรม ทุกท่าน ทุกคนครับ
สวัสดีมีสุขค่ะคุณอานนท์.กราบ🙏🙏🙏อนุโมทามิ. 4🌺🌺🌺
เจริญสุข สุขใจ สุขกายสาธุๆๆในธรรมค่ะ...🌿🌸🙏🙏🙏🌸🌿
ขออนุโมทนาสาธุ ในข้อธรรมค่ะ คุณอานนท์ ขอบคุณค่ะ
น้อมกราบสาธุคับ❤❤❤
ฟังแล้วดีต่อใจมากครับ
สาธุ สาธุ สาธุค่ะ🙏🏻🙏🏻🙏🏻
สาธุ.สาธุค่ะ
สุดยอดของปรัชญา ❤
🙏สวัสดีค่ะคุณอานนท์เล่าเรื่องค่ะขอขอบคุณข้อคิดข้อธรรมค่ะและขออนุโมทนาบุญด้วยนะค่ะ สาธุค่ะ ๑๓.๔๔ น./๑๐-๑๒-๖๗
น้อมกราบสาธุสาธุสาธุครับคุณอานนท์❤❤❤❤
#สำหรับผู่ไม่สะดวกรับฟังด้วยเสียง
บุญมากไม่ได้อยู่ที่ใช้เงินมาก
บุญนั้น มีหลากหลายความหมาย บุญคือ ความสุข คือความบริสุทธิ์ คือพลังงานที่มองไม่เห็นแต่มีจริง
คืออาหารแห่งจิต คือกำลังสำคัญในการดำเนินชีวิต แล้วแต่ท่านจะเข้าใจ
ขอแนะนำง่ายๆ ในการสร้างบุญที่ได้บุญมาก มีความสุข มากนั้นขึ้นอยู่กับเจตนา อยู่กับจิตเราเป็นสำคัญ
ไม่ได้ขึ้นอยู่กับเงินมากบุญ ไม่ใช่การแข่งขัน บุญไม่ใช่การหวังผล ไม่ใช่การลงทุนทางโลก ไม่ใช่การเ บี ย ดเบี ย น
ไม่ใช่ทำแล้วมานั่งทุ กข์ มานั่งไม่สบายใจ บุญมากคือทำแล้วจิตสุข มากทำแบบไม่หวังผลเข้าตัว สละออกไม่เอาเข้า
ให้เพราะเมตตาให้เพื่อช่วยเหลือ สงเค ร าะห์ สนับสนุน ให้เพื่อช่วยเผยแผ่ เผยแพร่ความรู้ให้คนอื่นเป็นสุข
ในส่วนประกอบต่างๆ ทั้งวัตถุทานบริสุทธิ์ เพื่อให้เรามีสติได้พิจารณาอย่างละเอียด ให้อะไรแล้วดี ให้อะไรแล้วเกิด
ประโยชน์ตรงประโยชน์ ตรงเหตุ ตรงเวลา ตรงความต้องการ
ส่วนผู้รับบริสุทธิ์ ก็เป็นส่วนสำคัญ ที่นำทานนำวัตถุนั้นไปเกิดประโยชน์ต่อคนหมู่มาก ต่อโลกธรรม
บุญไม่ใช้เงินเลยแม้แต่สลึงก็มากมาย ทำได้ทุกวันด้วยทั้งเจริญสมาธิ ภาวนา การให้อภัย การลงแรงช่วยเหลือ
การให้ความรู้ แม้แต่ยินดีในบุญของคนอื่นที่ทำสร้างอะไรมากมาย อาจจะสู้คนกวาดลานวัดไม่ได้เลยถ้าใจไม่บริสุทธิ์พระที่บวชหลายพรรษา
แต่ไม่เดินตามธรรมวินัยเนื้อนาบุญอาจจะสู้มัคทายก สามเณรที่มีศีลบริสุทธิ์เลย
ไม่ต้องไปวิตกกังวลว่า ไม่มีเงินทำบุญไม่ต้องไปกังวลว่า จะได้บุญน้อยสู้คนอื่นไม่ได้สุขไม่ได้
บุญไม่ได้วัดที่เงิน วัดที่ใจล้วนๆ เป็นสำคัญตั้งใจมาก เจตนาดีมากก็ได้บุญมาก
#นิสัยในการคิด
มโนกรรมกำหนดชีวิตของคุณได้ทั้งชีวิต
ถ้าหมั่นคิดเรื่องไม่เป็นเรื่อง ก็พยากรณ์ได้ว่าชีวิตคุณจะเหลวไหลไร้สาระ
ถ้าเรื่องเล็กนิดเดียวยังเก็บมาเป็นอารมณ์ไม่หยุด ก็พยากรณ์ได้ว่าชีวิตคุณจะเต็มไปด้วยกองขยะ หาของดีมีคุณภาพไม่ค่อยได้ แม้มีคนที่รักคุณสรรหาสิ่งดีๆ
มาให้ คุณก็จะทำให้มันเน่าเปื่อย หรืออย่างน้อยมันก็เน่าเปื่อยอยู่ในความรู้สึกข้างใน จากมุมมองช่างติ ช่างชัง
ถ้าไม่รู้ว่าชีวิตที่สว่างคืออะไร ความคิดที่ถูกคืออะไร ความคิดของเราก็จะทำลายตัวเองได้!
ความคิดไหนที่ยังมืดก็ปรับเป็นสว่างเสีย
ถ้าเราตั้งศรัทธาไว้ที่พระพุทธเจ้าได้ แล้วเอาวิธีคิดของพระองค์มาเป็นวิธีคิดของเราได้มันก็จะมีคำตอบสั้นๆให้กับชีวิต ก็คือ คิดอะไร ที่ทำให้จิตใจชุ่มชื่นคิด
อะไร ที่ทำให้รู้สึกใจสว่าง มีความรู้สึกเบิกบานอันนั้นแหละ คือ ความรู้สึกที่ถูกต้อง
ความคิดที่มันออกจากความทุกข์และคล้อยไปในทางความสุขได้
เมื่ออยู่กับตัวเองถ้า ‘อยาก’ คิดเรื่องอกุศลให้ตั้งใจเปลี่ยนไปคิดถึงเรื่องที่เป็นกุศลแต่ถ้า ‘จำเป็น’ ต้องคิดเรื่องอกุศล
ให้ตั้งใจคิดเอาข้อสรุปที่เป็นกุศลขึ้น
ความตั้งใจจะสร้างความสบายใจและทำจิตให้เป็นกุศลนั่นเองคือ ‘กรรมทวนกระแส’ถ้าขาดความตั้งใจ ก็ไม่มีกรรมดีๆชนิดนี้เกิดขึ้นทุกคนต้องไหลไปด้วย
‘กรรมตามกระแส’ กันหมดชีวิตคนส่วนใหญ่จึงเต็มไปด้วยเรื่องไม่น่าสบายใจแล้วก็มีจิตเป็นอกุศลกันโดยมาก
ความคิดสว่างที่ง่ายที่สุด ก็คือ อย่าเบียดเบียนกันความคิดที่เป็นทาน คิดในทางที่จะไม่เอาเราต้องตั้งใจไว้ล่วงหน้าว่า
เราจะเป็นคนที่อยู่ในเขตของ #การให้ทาน #รักษาศีล
ยอมรับคาแรกเตอร์ทางใจของตัวเองและเทียบวัดความรู้สึก
ทำอย่างไรจึงจะคิดพูดและกระทำได้ถูกต้อง ถ้าตั้งใจจะไม่ผิดเลย มันจะผิดอีกเรื่อยๆเพราะเราจะฝืนเกร็ง ไม่เป็นธรรมชาติ
ขอให้ท่องว่าเพื่อเปลี่ยนผิดให้เป็นถูก เราต้องผิดเป็น แล้วกล้ากลับไปแก้ไข
รู้จัก และ ยอมรับ ‘คาแรกเตอร์ทางใจ’ ของตัวเองเวลาเกิดพฤติกรรมไม่ดีขึ้น ไม่ต้องต่อว่าตัวเอง แต่ให้ยอมรับตามจริงว่ามันเกิดขึ้น
แล้วสังเกตว่าลงเอยเป็นความรู้สึกอย่างไร แข็งๆ ด้านๆ หยาบๆ แตกต่างจากความรู้สึกที่แท้จริงที่อยากนุ่มนวล อ่อนโยน และประณีตแบบไหน
สังเกตเฉยๆ อย่าเอาถูกเอาผิด อย่าตัดสินให้คะแนนเป็นบวกเป็นลบ และตั้งใจจะเทียบวัดความแตกต่างไปเป็นร้อยครั้งพันหน
ไม่สนใจว่าจะต้องเทียบวัดกันอีกนานแค่ไหน สนใจแค่ว่าเราจะใส่ใจเทียบวัดความแตกต่างไปเรื่อยๆ แล้วในที่สุดจิตจะฉลาดขึ้นเอง
นี่แหละ วิธีแก้อันเป็นที่สุด โดยอาศัย การเจริญสติ เข้ามาช่วย จะได้ไม่ต้องบังคับตัวเอง และไม่ต้องฝืนทั้งที่ไม่อยากฝืน
เมื่อเวลาผ่านไป จะเกิดความถูกต้องอย่างเป็นธรรมชาติไม่งั้นก็วนเวียนพายเรืออยู่ในอ่าง ผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่าจากการตั้งโจทย์ชีวิตไม่ถูกธรรม
ไม่ถูกกับกลไกธรรมชาติทางจิต
พระพุทธเจ้าตรัสว่าในบรรดากรรมทั้งสาม คือ มโนกรรม วจีกรรม และกายกรรมนั้น มโนกรรมมีอิทธิพลใหญ่ที่สุด ครอบงำวจีกรรมและกายกรรมไว้ในตัว
จิตวิญญาณของคนเราสว่างหรือมืดได้ด้วยมโนกรรมเป็นหลัก
คิดดี ก่อนจะเลือกคำพูดให้ดีพูดดี แล้วทำตรงกับที่พูดเอาไว้ คิดดี แล้วชีวิตทั้งหมดจะดีเองครับ
#ลองมีความคิดแบบนี้ดูสักครั้งชีวิตสบายใจโล่งขึ้นเยอะ
พย าย ามคิดให้ได้ว่า “ไม่มีอะไรยั่งยืน”
ลองคิดทบทวนดูดีๆ นะครับ ว่าตอนนี้เรากำลังยึดติดอยู่กับสิ่งของนอกกาย อยู่หรือเปล่า และเมื่อใดก็ตามที่เรายึดติดกับอะไรมากๆ ความเจ็บ ความผิดหวัง ก็มักจะมาหาเราได้ง่ายขึ้นครับ
นั่นเพราะถ้าเรายึดติดกับอะไรเราก็มักจะกลัวว่าของสิ่งนั้นจะหายไป สิ่งนั้นจะพัง กลัวใครจะมาขโมย เอาเป็นว่าเลิกยึดติดและคิดเสียว่าไม่มีอะไรแน่นอนทุกสิ่งบนโลกย่อมมีการเปลี่ยนแปลงไปตามสถานการณ์และเวลา
ทั้งความสุขและความทุกข์ก็ไม่ได้อยู่กับเราไปตลอดเช่นเดียวกัน ทุกอย่ างผ่านมาแล้วก็มีวันผ่านไป ถ้าเราเข้าใจเรื่องนี้ได้ เราจะมีสติมากขึ้น เมื่อเกิดอำรขึ้นแล้วเราพจะไม่ทุกข์ เพราะเราปล่อยวางว่ามันไม่มีอะไรยั่งยืนตลอดไปยังไงล่ะครับ
เว้นพื้นที่เอาไว้ให้ความผิดพลาดบ้าง
คนเรามักจะชอบคิดว่า ความเศร้า ความกลัว ความผิด เป็นสิ่งไม่ดี และไม่ควรที่จะเกิดขึ้นกับชีวิตของเรา แต่ต้องไม่ลืมนะครับว่าในโลกนี้ไม่มีใครที่เ พ อ ร์ เ ฟ ค ไปเสียทุกอย่ าง ไม่มีใครไม่เคยทำอะไรผิดพลาด ไม่เคยมีใครที่ไม่เคยกลัวกับอะไรเลย เราเองเป็นแค่เพียงมนุษย์ธรรมดาคนนึงที่มีความรู้สึก ดังนั้น จงเอาความรู้สึกที่ไม่ดีต่างๆ
เหล่านั้นเป็นบทเรียนเพื่อให้เราได้พัฒนาตัวเองต่อไป อย่ าไปเครียดว่าทำไมเราต้องผิด ทำไมเราต้องกลัว ไม่ต้องผลักไสอาการเหล่านี้ไปหรอกครับ รับมันเอาไว้แต่รู้จักวางมันให้ถูกที่ถูกทาง สิ่งเหล่านี้บางทีอาจมีประโยชน์และทำให้เรามีความสุขมากขึ้นก็ได้ถ้าเรารู้จักปล่อยวาง
เลิกเป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้น
การจะใช้ชีวิตย่ างมีความสุขได้ เราต้องหมั่นฝึกตัวเองให้คิดดี ทำดี ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะส่งผลให้เรามีพลังที่จะดึงดูดสิ่งดีๆ ให้เข้ามาในชีวิต หากเราโกรธ หรือแค้นใคร สิ่งที่ควรทำได้ดีที่สุดคือ
“ให้อภัย” สิ่งนี้จะเปลี่ยนความโกรธ ความเคียดแค้นให้กลายเป็นความคิดด้านบวกได้ อย่าได้คิดแค้นใครเลยครับ เพราะหากคิดไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้นมา เอาเป็นว่าสวดมนต์แผ่เมตตาให้เค้าไปเลยก็ดีครับ จะทำให้เราควบคุมอารมณ์โกรธไม่ให้เกิดขึ้นตั้งแต่แรกได้ ไม่เชื่อลองทำดูครับ
ทั้งหมดนี้คือเคล็ดลับเล็กๆ น้อยๆ ที่เอามาฝาก เพื่อให้ทุกคนรู้จักปล่อยวางดูนะครับ อย่าลืมว่าเมื่อเรารู้สึกว่ามีบางอย่ างกำลังทำให้เรารู้สึกไม่ดี หรือรู้สึกเครียด ก็ลองไม่คิดอะไรแย่ๆ วางมันลง
ชีวิตเรามีอะไรให้ทำอีกมากมายกว่าเอาเวลามาเครียดกับสิ่งผิดพลาดที่อาจส่งผลทำให้เราท้อถอย ดังนั้น ลองมองข้ามสิ่งผิดพลาดเหล่านั้นไปและขอบคุณสิ่งดี ๆ ที่ยังเหลืออยู่ด้วยการ “ปล่อยวาง” ดีกว่าครับ
#ขอให้ได้พิจารณาด้วยสติ ด้วยปัญญา ด้วยภูมิธรรม คุณพระรักษาเทวดาคุ้มครอง ขอให้มีความเจริญในธรรม ทุกท่าน ทุกคนครับ
สวัสดีมีสุขค่ะคุณอานนท์.กราบ🙏🙏🙏อนุโมทามิ. 4🌺🌺🌺
เจริญสุข สุขใจ สุขกาย
สาธุๆๆในธรรมค่ะ...
🌿🌸🙏🙏🙏🌸🌿
ขออนุโมทนาสาธุ ในข้อธรรมค่ะ คุณอานนท์ ขอบคุณค่ะ
น้อมกราบสาธุคับ❤❤❤
ฟังแล้วดีต่อใจมากครับ
สาธุ สาธุ สาธุค่ะ🙏🏻🙏🏻🙏🏻
สาธุ.สาธุค่ะ
สุดยอดของปรัชญา ❤
🙏สวัสดีค่ะคุณอานนท์เล่าเรื่องค่ะ
ขอขอบคุณข้อคิดข้อธรรมค่ะและขออนุโมทนาบุญด้วยนะค่ะ สาธุค่ะ ๑๓.๔๔ น./๑๐-๑๒-๖๗
น้อมกราบสาธุสาธุสาธุครับคุณอานนท์❤❤❤❤