ฝัง
- เผยแพร่เมื่อ 10 พ.ค. 2024
- ----------------------------------------------------------
อย่าลืม กด "Subscribe" เพื่ออัปเดตข่าวไปกับเรา
คุณสามารถติดตาม NATION STORY ได้ทาง
Website : www.nationtv.tv/
Facebook : / nationstoryth
Twitter : / nationstoryth
Tiktok : / nationstoryth
Instagram : / nationstoryth
Line : @nationstory เพิ่มเราเป็นเพื่อนที่ lin.ee/wI45KUT
ถ้าทางเพิ่อไทย บอกว่ากินได้ ฉันก็อยากเรียกร้องให้สมาชิกเพื่อไทยเอาไปลองกินกัน เข้า , กลางวัน , เย็น คิดว่าเดี๋ยวก็หมดแน่
ถ้าพท. บอกมันกินได้ ให้ ครม. สส.รัฐบาล สว. เอาเงินมาซื้อข้าว10ปีไปกิน เวลาประชุมสภา จัดเลี้ยง เอาข้าวนี้ไปกิน จะได้ประหยัดงบประมาณ
ใช่เลยค่ะอาทิตย์ที่แล้วยังพูดอยู่ว่าไปหุงให้สภากินก่อน
เอาข้าว10ปีหุงเป็นอาหารกลางวัน
ให้ค.ร.ม.กิน
เขาขายเอาเวิาอข้ารัฐ จะให้ไปซื้อมากินเองก็ไปซื้อให้เขากินสิ
@@chave5314 เอาเงินเข้ารัฐด้วยการเอาข้าวที่บริโภคไปแล้วมีโอกาสเกิดมะเร็งหรือมีผลกระต่อสุขภาพแบบนี้หรอที่ทำเพื่อประชาชน ขายในประเทศประชาชนรับกรรม ขายนอกประเทศลดความเชื่อมั่นของนานาชาติประเทศ บางคนเป็นถึงรองนายก บอกว่าข้าวกินได้ โดยที่ยังไม่ได้ตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์อะไรเลยมากินโชว์เฉย ประเทศไทยก็น่าจะเจริญๆ แหละ รองนายกยังคิดได้แค่นี้ เหตุหลักที่อาจจะขายไวๆ เป็นเพราะอยากพาน้องกลับบ้านหรือเปล่านะ
ให้ สส สว.กินครับ จะได้ประหยัดงบ จะเอาไปให้ทหารกิน ทหารเขายังมีประโยชน์กว่า พวกนั่งในสภา
ใช่ครับเห็นด้วย
เห็นด้วย
ไอพวกที่บอกปลอดภัยเอาไปกินกับครอบครัวพวกคุณเลยครับ
ข้าว10ปีพรรคเพื่อใครหน้าจะซื้อใว้ให้ประชาชนที่เลือกพรรคนี้นะดูซิจะมีใครรับและเลือกคุณอีกต่อไปใหม
ยังมีครับ
ท่านโฆษกเอาไปหุงกินที่บ้าน10กระสอบภูมิธรรม10กระสอบนายก100กระสอบ
โฆษกต้องกินเยอะๆนะ กล้าๆหน่อย
ตระกูลชิน เหมาโกดัง พวก คสช. ก็แบ่งๆกันทานด้วย
พูดแค่วาทกรรมเอามันอย่างเดียวก็ให้รัฐบาลทรงกลมวิทยาศาสตร์การแพทย์ตรวจสอบและถ้ามันปลอดภัยเปิดขายให้ประชาชนทั่วไปไม่ต้องส่งออกหรอกชาวบ้านจะได้กินข้าวในราคาที่ถูกผมก็จะไปช่วยซื้อเพราะบ้านผมก็ค้าข้าวมาตั้งแต่รุ่นต้นตระกูล
รัฐบาลไม่ได้บอกว่าอาจารย์อ๊อดไม่น่าเชื่อถือแต่รัฐบาลบอกว่าทำไมไม่ตรวจสอบทางห้องแลปเสียก่อนแล้วค่อยมาแถลงฟังรู้เรื่องหรือเปล่าพวกติ่งดมส้วม
😂😂😂😂
สมเพสชัยจังเลย
นางยิ่งลักษณ์มีลูกแล้วทำไมยังใช้คำนำหน้าว่านางสาวโอ้ยเนาะ
😢😢ภูมิธรรมอนุมัติให้พรรคเพื่อไทยกินกันทั้งปีไปเลย
ตั้งแต่เกิดมาจากท้องพ่อท้องแม่จนอายุจะหกสิบปีแล้งเพิ่งเคยเห็นนี่แหละว่าข้าวเก่าสิบปียังกินได้
ที่บ้านผมขนาดข้าวเปลือกเก่ายังไม่ครบสามปีเรายังไม่เอาให้ไก่กินเลย
หลังจากนี้ ก็คงเป็นอาหาร ของนักโทษรองลงมา ก็ทหารเกณฑ์ครับ เพราะเขาเลือกกินไม่ได้ครับ
ตอนข้าวราคาเกวียนละหมื่นห้าก็เกี่ยวกันเขียวๆๆไม่แก่จัดอยู่นาข้าวเห็นตลอด จริงๆตอนนั้นเกี่ยวเอาน้ำหนักกันทั้งนั้น😢
ควรบอกปลอดภัย ให้เพื่อใครกินทั้งพรรค
😮😮😮 สรุป คือ จะขายข้าว 10 ปี ให้ได้ ใครจะเป็น จะตาย ก็ "ช่างหัวมัน" ว่างั้นเถอะ
โฆษกเอาไปกินในครอบครัวก่อนเลย
ทักสิน บอกกู ต้องเปลี่ยนแผนใหม่อีกแล้ว😊😊😊
เอาไปฝากคนในบ้านด้วยลูกเมียจะได้กินกันถ้วนหน้า
สมาชิคพท.เอาไปแบ่งกันก็จบ
นายแบกกินเลย
ชัยไม่ยอมรับอะไรเลยน่ะ อาจารย์อ็อดเค้าเป็นอาจารย์เขาไม่มีส่วนได้เสีย
อ.อ้อด น่าจะเอาข้าว 10 ปี เทียบกับข้าว ปกติ ดูด้วยนะคะ เพราะ เอาจริง อัลฟาทอคซินนี่ เกิดขึ้นได้ง่ายมาก และน่าจขยายความว่า 20 ppm ที่ตรวจพบมันถือว่า เยอะกว่าปกติมั้ย เพราะ 20 ppm คือ 1 ล้าน กก มี แต่ 20 กก คิดแล้ว โอกาสขายกระจายคนซื้อ 1 กก จะมีโอกาสซื้อแค่ 0.0000002 กก คิดละ แค่ มองละแค่ 0.0002 กรัม เอง ยังไม่ถึงขีดเลย
@@adcharapan ปกติ อะฟลาท็อกซินจะไม่ค่อยพบในข้าวครับ ถ้าข้าวถุงนั้นๆไม่เก็บไว้นานจริงๆ เพราะความชื้นของข้าวน้อยถ้าเทียบกับธัญพืชชนิดอื่นๆ แต่ที่คนสงสัยกันเพราะการเก็บข้าวของรัฐบาล การเอาข้าวไปใส่กระสอบวางซ้อนๆกันแบบนั้น ยังไงก็อับชื้น
ปริมาณ 20 ppb หรือ 20 ไมโครกรัมต่อกิโลกรัมเป็นปริมาณที่กฎหมายไทยกำหนดเอาไว้สำหรับมาตรฐานการส่งออกผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรครับ ความหมายคือ ถ้าพืชผักธัญพืชอะไรพบปริมาณอะฟชาท็อกซินไม่เกินที่กฎหมายกำหนด สามารถส่งออกได้
แล้วก็ความเข้มข้นของสารเคมีไม่ได้คิดแบบนั้นนะครับ ppb คือหน่วยความเข้มข้น มันเป็นการเปรียบเทียบบัญญัติไตรยางค์เฉยๆ ไม่ได้หมายความว่า 1 ล้านกิโลกรัมจะเจอสาร 20 กิโลกรัม ความหมายของมันก็คือในเนื้อข้าว 1 เม็ดจะเจอสารตัวนี้ 20 ส่วนในล้านส่วนของเนื้อขาว 1 เม็ด
ตามงานวิจัย ปริมาณอะฟลาท็อกซิน 1 ppb สามารถกระตุ้นให้เกิดการกลายพันธุ์ในเซลล์แบคทีเรียได้ และหากสัตว์ทดลองรับสารชนิดนี่ไปนานๆพบว่ามีสัตว์มีเซลล์มะเร็งเติบโตที่ตับอย่างมีนัยสำคัญ ดังนั้นกรมการอนามันโลกจึงกำหนดให้สารชนิดนี้เป็รสารก่อมะเร็งชนิดรุนแรง
อะฟลาท็อกซินมันไม่ได้อันตรายแบบกินเข้าไปแล้วจะตายทันทีครับ (ถ้าไม่ได้รับในปริมาณที่มากจริงๆ เช่น กินทีเดียว 1 mL แบบสามารถตายได้ใน 72 ชั่วโมง) แต่มันจะสะสมไปเรื่อยๆ เช่น สมมติคุณกินข้าว 10 ปี กินติดต่อกันไปเรื่อยๆ กินทุกวัน สารอะฟลาท็อกซินจะเข้าไปในร่างกายคุณ แต่ 90% ที่เข้าไปจะถูกขับออกด้วยกระบวนการขับของเสียของร่างกาย แต่ตับก็จะทำงานหนักมากครับเพราะสารตัวนี้เป็นพิษรุนแรงกับตับ แต่อีก 10% จะถูกสะสมไปเรื่อยๆ แล้วถ้าคุณยังรับสารนี้ต่อไปไม่หยุด คือกินข้าว 10 ปี ทุกวัน กินทุกมื้อเป็นปกติ มันก็จะเสี่ยงมากที่ตับจะทำงานล้มเหลว จนเกิดภาวะตับบวมและพัฒนาเป็นมะเร็งตับในอนาคต
แต่ปกติอาหารชนิดอื่นๆ เช่นถั่วลิสง ผลไม้ตากแห้งทุกชนิด อาหารมักดองก็จะมีสารพวกนี้อยู่แล้ว ยิ่งกินเข้าไปเสริมๆกัน สะสมกันไปเรื่อยๆ ยังไงมันก็เสี่ยงครับ จริงๆถ้าอันไหนเลี่ยงได้ เราก็ควรเลี่ยงมากกว่าจะฝืนกินเข้าไป
อย่างกรณีข้าว 10 ปี ซึ่งปกติ”ข้าว”เป็นอาหารที่คนไทยกินทุกวัน ไม่เหมือนกับถั่วลิสง ผลไม้หมักดอง ผลไม้ตากแห้ง ที่นานๆพวกเราจะกินทีหนึ่ง ดังนั้นความเสี่ยงที่ร่างกายจะสะสมอะฟลาท็อกซินจากข้าว 10 ปี จนเกิดมะเร็งตับมันจึงมีมากกว่าธัญพืชประเภทอื่นๆครับ
@@adcharapan ปกติ อะฟลาท็อกซินจะไม่ค่อยพบในข้าวครับ ถ้าข้าวถุงนั้นๆไม่เก็บไว้นานจริงๆ เพราะความชื้นของข้าวน้อยถ้าเทียบกับธัญพืชชนิดอื่นๆ แต่ที่คนสงสัยกันเพราะการเก็บข้าวของรัฐบาล การเอาข้าวไปใส่กระสอบวางซ้อนๆกันแบบนั้น ยังไงก็อับชื้น
ปริมาณ 20 ppb หรือ 20 ไมโครกรัมต่อกิโลกรัมเป็นปริมาณที่กฎหมายไทยกำหนดเอาไว้สำหรับมาตรฐานการส่งออกผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรครับ ความหมายคือ ถ้าพืชผักธัญพืชอะไรพบปริมาณอะฟชาท็อกซินไม่เกินที่กฎหมายกำหนด สามารถส่งออกได้
แล้วก็ความเข้มข้นของสารเคมีไม่ได้คิดแบบนั้นนะครับ ppb คือหน่วยความเข้มข้น มันเป็นการเปรียบเทียบบัญญัติไตรยางค์เฉยๆ ไม่ได้หมายความว่า 1 ล้านกิโลกรัมจะเจอสาร 20 กิโลกรัม ความหมายของมันก็คือในเนื้อข้าว 1 เม็ดจะเจอสารตัวนี้ 20 ส่วนในล้านส่วนของเนื้อขาว 1 เม็ด
ตามงานวิจัย ปริมาณอะฟลาท็อกซิน 1 ppb สามารถกระตุ้นให้เกิดการกลายพันธุ์ในเซลล์แบคทีเรียได้ และหากสัตว์ทดลองรับสารชนิดนี่ไปนานๆพบว่ามีสัตว์มีเซลล์มะเร็งเติบโตที่ตับอย่างมีนัยสำคัญ ดังนั้นกรมการอนามันโลกจึงกำหนดให้สารชนิดนี้เป็รสารก่อมะเร็งชนิดรุนแรง
อะฟลาท็อกซินมันไม่ได้อันตรายแบบกินเข้าไปแล้วจะตายทันทีครับ (ถ้าไม่ได้รับในปริมาณที่มากจริงๆ เช่น กินทีเดียว 1 mL แบบสามารถตายได้ใน 72 ชั่วโมง) แต่มันจะสะสมไปเรื่อยๆ เช่น สมมติคุณกินข้าว 10 ปี กินติดต่อกันไปเรื่อยๆ กินทุกวัน สารอะฟลาท็อกซินจะเข้าไปในร่างกายคุณ แต่ 90% ที่เข้าไปจะถูกขับออกด้วยกระบวนการขับของเสียของร่างกาย แต่ตับก็จะทำงานหนักมากครับเพราะสารตัวนี้เป็นพิษรุนแรงกับตับ แต่อีก 10% จะถูกสะสมไปเรื่อยๆ แล้วถ้าคุณยังรับสารนี้ต่อไปไม่หยุด คือกินข้าว 10 ปี ทุกวัน กินทุกมื้อเป็นปกติ มันก็จะเสี่ยงมากที่ตับจะทำงานล้มเหลว จนเกิดภาวะตับบวมและพัฒนาเป็นมะเร็งตับในอนาคต
แต่ปกติอาหารชนิดอื่นๆ เช่นถั่วลิสง ผลไม้ตากแห้งทุกชนิด อาหารมักดองก็จะมีสารพวกนี้อยู่แล้ว ยิ่งกินเข้าไปเสริมๆกัน สะสมกันไปเรื่อยๆ ยังไงมันก็เสี่ยงครับ จริงๆถ้าอันไหนเลี่ยงได้ เราก็ควรเลี่ยงมากกว่าจะฝืนกินเข้าไป
อย่างกรณีข้าว 10 ปี ซึ่งปกติ”ข้าว”เป็นอาหารที่คนไทยกินทุกวัน ไม่เหมือนกับถั่วลิสง ผลไม้หมักดอง ผลไม้ตากแห้ง ที่นานๆพวกเราจะกินทีหนึ่ง ดังนั้นความเสี่ยงที่ร่างกายจะสะสมอะฟลาท็อกซินจากข้าว 10 ปี จนเกิดมะเร็งตับมันจึงมีมากกว่าธัญพืชประเภทอื่นๆครับ
ปกติ อะฟลาท็อกซินจะไม่ค่อยพบในข้าวครับ ถ้าข้าวถุงนั้นๆไม่เก็บไว้นานจริงๆ เพราะความชื้นของข้าวน้อยถ้าเทียบกับธัญพืชชนิดอื่นๆ แต่ที่คนสงสัยกันเพราะการเก็บข้าวของรัฐบาล การเอาข้าวไปใส่กระสอบวางซ้อนๆกันแบบนั้น ยังไงก็อับชื้น
ปริมาณ 20 ppb หรือ 20 ไมโครกรัมต่อกิโลกรัมเป็นปริมาณที่กฎหมายไทยกำหนดเอาไว้สำหรับมาตรฐานการส่งออกผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรครับ ความหมายคือ ถ้าพืชผักธัญพืชอะไรพบปริมาณอะฟชาท็อกซินไม่เกินที่กฎหมายกำหนด สามารถส่งออกได้
แล้วก็ความเข้มข้นของสารเคมีไม่ได้คิดแบบนั้นนะครับ ppb คือหน่วยความเข้มข้น มันเป็นการเปรียบเทียบบัญญัติไตรยางค์เฉยๆ ไม่ได้หมายความว่า 1 ล้านกิโลกรัมจะเจอสาร 20 กิโลกรัม ความหมายของมันก็คือในเนื้อข้าว 1 เม็ดจะเจอสารตัวนี้ 20 ส่วนในล้านส่วนของเนื้อขาว 1 เม็ด
ตามงานวิจัย ปริมาณอะฟลาท็อกซิน 1 ppb สามารถกระตุ้นให้เกิดการกลายพันธุ์ในเซลล์แบคทีเรียได้ และหากสัตว์ทดลองรับสารชนิดนี่ไปนานๆพบว่ามีสัตว์มีเซลล์มะเร็งเติบโตที่ตับอย่างมีนัยสำคัญ ดังนั้นกรมการอนามันโลกจึงกำหนดให้สารชนิดนี้เป็รสารก่อมะเร็งชนิดรุนแรง
อะฟลาท็อกซินมันไม่ได้อันตรายแบบกินเข้าไปแล้วจะตายทันทีครับ (ถ้าไม่ได้รับในปริมาณที่มากจริงๆ เช่น กินทีเดียว 1 mL แบบสามารถตายได้ใน 72 ชั่วโมง) แต่มันจะสะสมไปเรื่อยๆ เช่น สมมติคุณกินข้าว 10 ปี กินติดต่อกันไปเรื่อยๆ กินทุกวัน สารอะฟลาท็อกซินจะเข้าไปในร่างกายคุณ แต่ 90% ที่เข้าไปจะถูกขับออกด้วยกระบวนการขับของเสียของร่างกาย แต่ตับก็จะทำงานหนักมากครับเพราะสารตัวนี้เป็นพิษรุนแรงกับตับ แต่อีก 10% จะถูกสะสมไปเรื่อยๆ แล้วถ้าคุณยังรับสารนี้ต่อไปไม่หยุด คือกินข้าว 10 ปี ทุกวัน กินทุกมื้อเป็นปกติ มันก็จะเสี่ยงมากที่ตับจะทำงานล้มเหลว จนเกิดภาวะตับบวมและพัฒนาเป็นมะเร็งตับในอนาคต
แต่ปกติอาหารชนิดอื่นๆ เช่นถั่วลิสง ผลไม้ตากแห้งทุกชนิด อาหารมักดองก็จะมีสารพวกนี้อยู่แล้ว ยิ่งกินเข้าไปเสริมๆกัน สะสมกันไปเรื่อยๆ ยังไงมันก็เสี่ยงครับ จริงๆถ้าอันไหนเลี่ยงได้ เราก็ควรเลี่ยงมากกว่าจะฝืนกินเข้าไป
อย่างกรณีข้าว 10 ปี ซึ่งปกติ”ข้าว”เป็นอาหารที่คนไทยกินทุกวัน ไม่เหมือนกับถั่วลิสง ผลไม้หมักดอง ผลไม้ตากแห้ง ที่นานๆพวกเราจะกินทีหนึ่ง ดังนั้นความเสี่ยงที่ร่างกายจะสะสมอะฟลาท็อกซินจากข้าว 10 ปี จนเกิดมะเร็งตับมันจึงมีมากกว่าธัญพืชประเภทอื่นๆครับ
ปกติ อะฟลาท็อกซินจะไม่ค่อยพบในข้าวครับ ถ้าข้าวถุงนั้นๆไม่เก็บไว้นานจริงๆ เพราะความชื้นของข้าวน้อยถ้าเทียบกับธัญพืชชนิดอื่นๆ แต่ที่คนสงสัยกันเพราะการเก็บข้าวของรัฐบาล การเอาข้าวไปใส่กระสอบวางซ้อนๆกันแบบนั้น ยังไงก็อับชื้น
ปริมาณ 20 ppb หรือ 20 ไมโครกรัมต่อกิโลกรัมเป็นปริมาณที่กฎหมายไทยกำหนดเอาไว้สำหรับมาตรฐานการส่งออกผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรครับ ความหมายคือ ถ้าพืชผักธัญพืชอะไรพบปริมาณอะฟชาท็อกซินไม่เกินที่กฎหมายกำหนด สามารถส่งออกได้
แล้วก็ความเข้มข้นของสารเคมีไม่ได้คิดแบบนั้นนะครับ ppb คือหน่วยความเข้มข้น มันเป็นการเปรียบเทียบบัญญัติไตรยางค์เฉยๆ ไม่ได้หมายความว่า 1 ล้านกิโลกรัมจะเจอสาร 20 กิโลกรัม ความหมายของมันก็คือในเนื้อข้าว 1 เม็ดจะเจอสารตัวนี้ 20 ส่วนในล้าน
ตามงานวิจัย ปริมาณอะฟลาท็อกซิน 1 ppb สามารถกระตุ้นให้เกิดการกลายพันธุ์ในเซลล์แบคทีเรียได้ และหากสัตว์ทดลองรับสารชนิดนี่ไปนานๆพบว่ามีสัตว์มีเซลล์มะเร็งเติบโตที่ตับอย่างมีนัยสำคัญ ดังนั้นกรมการอนามันโลกจึงกำหนดให้สารชนิดนี้เป็รสารก่อมะเร็งชนิดรุนแรง
อะฟลาท็อกซินมันไม่ได้อันตรายแบบกินเข้าไปแล้วจะตายทันทีครับ (ถ้าไม่ได้รับในปริมาณที่มากจริงๆ เช่น กินทีเดียว 1 mL เลย แบบนั้นก็สามารถตายได้ใน 72 ชั่วโมง ซึ่งไม่มีใครขายสารตัวนี่ให้คุณ 1 mL หรอกครับ)
แต่ปริมาณที่พบในผลิตภัณฑ์อาหาร มันจะสะสมไปเรื่อยๆ เช่น สมมติคุณกินข้าว 10 ปี กินติดต่อกันไปเรื่อยๆ กินทุกวัน สารอะฟลาท็อกซินจะเข้าไปในร่างกายคุณ แต่ 90% ที่เข้าไปจะถูกขับออกด้วยกระบวนการขับของเสียของร่างกาย แต่ตับก็จะทำงานหนักมากครับเพราะสารตัวนี้เป็นพิษรุนแรงกับตับ แต่อีก 10% จะถูกสะสมไปเรื่อยๆ แล้วถ้าคุณยังรับสารนี้ต่อไปไม่หยุด คือกินข้าว 10 ปี ทุกวัน กินทุกมื้อเป็นปกติ มันก็จะเสี่ยงมากที่ตับจะทำงานล้มเหลว จนเกิดภาวะตับบวมและพัฒนาเป็นมะเร็งตับในอนาคต
แต่ปกติอาหารชนิดอื่นๆ เช่นถั่วลิสง ผลไม้ตากแห้งทุกชนิด อาหารมักดองก็จะมีสารพวกนี้อยู่แล้ว ยิ่งกินเข้าไปเสริมๆกัน สะสมกันไปเรื่อยๆ ยังไงมันก็เสี่ยงครับ จริงๆถ้าอันไหนเลี่ยงได้ เราก็ควรเลี่ยงมากกว่าจะฝืนกินเข้าไป
อย่างกรณีข้าว 10 ปี ซึ่งปกติ”ข้าว”เป็นอาหารที่คนไทยกินทุกวัน ไม่เหมือนกับถั่วลิสง ผลไม้หมักดอง ผลไม้ตากแห้ง ที่นานๆพวกเราจะกินทีหนึ่ง ดังนั้นความเสี่ยงที่ร่างกายจะสะสมอะฟลาท็อกซินจากข้าว 10 ปี จนเกิดมะเร็งตับมันจึงมีมากกว่าธัญพืชประเภทอื่นๆครับ
ยอมถวายหัวให้กับนายใหญ่
ไม่สนใจประชาชนเอาไปให้ลูกหลานท่านกินพวกท่านมีทางรักษา
สมัยนี้มะเร็งเบาหวานสารพัด🙏🙏🙏
ควรมีนักวิชาการ หลายๆหน่วย หลายๆส่วนนำข้าวมาวิเคราะห์เพื่อยืนยันความจริง หน่วยงานซ้ำซ้อนเมืองไทยออกจะเยอะ
ตอนนี้ก็มีหมอวีอีกคนหนึ่งที่ออกมายืนยันว่ามันอันตราย กินไม่ได้
ดีครับเราจะได้รู้ว่ากินได้หรือไม่ได้
เอาตรงๆนะราคาถูกมากแสนกว่ากระสอบสองร้อยกว่าล้าน ทักษิณและครอบครัว คณะรัฐมนตรีและครอบครัว สส และครอบครัวชื้อไว้กินเองสิครับจะได้ไม่ต้องชื้อข้าวอีกหลายสิบปีเลยชื้อไปกินกันเลยพวกคุณกล้ากินไหม
ใช่ข้าวดีขนาดนี้ซื้อคืนไว้กินกันเลยทั้งพรรคทำเลยค่ะ
คิดว่ายกเลิกส่งออกไป Africa นะ สงสารประชาชนคน Africa
คนที่ว่ากินได้เอาไปกินเลยไม่มีใครเขาเสียดายหรอก
ดุณก้อเอาไปไห้คนที่บ้านของคณลูกเมียพ่อแม่พี่น้อง พรรคคุณ รัฐบานคุณทานสิคับ
ภูมิธรรมกินไประวังสุขภาพด้วยนะครับ. 5555
ดิจิตอลหนึ่งหมื่น เก็บไใว้ใช้เองเถอะ ข้าวค้างสิบปีกินได้ เอาไว้ไปกินเองเถอะ
ทั้งประเทศ เก่งอยู่คนเดียว รู้ทุกเรื่องจริงๆ
ข้าว10ปีก็ไม่ได้ดันธุรังว่ากินได้หรือไม่ได้แล้วกล้าไปตรวยสอบอะไรมัย
ย่อนหลังไปจนถึงวันแรก
กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ไม่กล้าออกมาตรวจสอบคุณภาพข้าวเลยครับ
เพื่อไทยออกมาซัด อาจารย์อ็อดว่าแลปไม่ต่าเชื่อถือ คืองงตรรกะพรรคเพื่อไทย ถ้าไม่ใช่คนของตัวเองตรวจก็บอกิไม่น่าเชื่อถือ
ถ้าข้าวมีสารก่อมะเร็งคนไทยเป็นกันทั้งประเทศเป็นอาหารหลักกินทุกวัน ต้องให้หน่วยงานรัฐตรวจพิสูตรก่อนและต้องออกหนังสือรับรอง เข้าใจป่าวพวกโง่ไม่รู้เร่อง
หมอที่จะรักษาพวกฟอกขาวข้าวเน่าครั้งนี้ได้คือหมอจากรพ.ตำรวจเท่านั้นที่พวกนี้จะเชื่อถือเพราะผลงานเด่นชัดคือช่วยนักโทษรอดมาแล้ว
ถือว่าเป็น soft power ขอรัฐบาลไมครับ ข้าว 10 ปี
รบ.ก็เอาออกมาขายสิใครเชื่อว่ากินได้ก็ซื้อไปกินใครไม่เชื่อก็อย่าซื้อจบ
ให้ส.สพรรคเพื่อไทยซื้อไว้เดี๋ยวก็หมดใครว่ากินได้ก็ให้เขากิน
นายกพูดถูกนะรอผลพิสูจน์ อย่างเป็นทางการ แล้วค่อยยืนยัน แต่นายกกินข้าวไปแล้วนะและก็พวกผู้เฒ่าทั้งหลายในรัฐบาลก็ลองกินไปแล้วแต่ไม่รู้ว่าใช่ข้าวที่มาจากโกดังเก็บไว้ 10 ปีนั้นหรือไม่อันนี้พิสูจน์ไม่ได้เพราะท่านกินเรียบร้อยไปแล้ว
ไม่ต้องตรวจเลยข้าว10ปีเก็บแบบนี้ป่น เปลี่อยหมดแล้ว ข้าวปาฮี่ที่เห็น
นักข่าวได้ข้าวมาให้ทางช่องส่งไปให้ ม.เกษตร ตรวจและออกข่าวในช่อง จะหาว่าทางช่องนั้นหลอกและสร้างข่าวเองหรือ
อยากให้ท่านกินไปตลอดชีวิตนะถ้าท่านคิดว่าดีลองนะท่าน
อาหารกาะป๋องใส่สารกันบูดยังเก็บได้ไม่ถึง 10 ปีเลย
นักโบราณคดีเจอข้าวยิ่งรัด คงสรุปว่าเป็นฟอสซิลไปแล้ว
เอาทุกที่ลองมาตรวจสิหมายถึงข้าวถุงที่ขายปกติในซูเปออะ
ทำไม พาล หรอ 5555555 รับไม่ได้หรอื่ข้าวแม่มึงคุณภาพแย่
ที่เห็นข้าวยังไม่กี่ปี3_4 ปี ดูเขาเอาขอเกี่ยวกระสอบข้าวกระสอบยังเหนียวอยู่ถ้า10ปีกระสอบข้าวเปลี่อยแล้ว
ละถ้ามีสารมะเร็งจริง รัฐจะรับผิดชอบไงขนคนไปกินขนาดนั้น ชีวิตคนทั้งชีวิตนะใครจะอยากเป็นมะเร็ง แทนที่จะตรวจก่อนดันเอามาให้ประชาชนกินก่อนซะงั้น ไหวมั้ยเพื่อไทย 😅😅😅
มีสารก้อเอาไปให้รัฐบาลชุดนี้กินครับไม่ต้องจาย5555
มะเร็งเกิดก่อนข้าว10ปี😂😂 ข้าวที่กินๆอยู่ทุกวันนี้ก็ไม่รู้กี่ปี😅บางทีเหลืองอ๋อย เหม็นสาบ
เอาไป ถมที่
หัวจะปวด...ของดีขนาดนี้ทพไมเพื่อไทยเหมาไปแจกสมาชิกพรรคท่านเลย
เรื่องแบบนี้เกิดที่ประเทศไทยที่เดียวเท่านั้น
ก็เห็นอยู่ว่าอยากเอาอดีตนายกหญิงกลับบ้าน เรื่องข้าวเน่าคือมันเคยไม่เน่าจริงๆแต่ต้องทิ้งจนเน่าก็เพราะทหารแต่ พท. ไม่กล้าเอาผิดทหาร แต่สุดท้าย พท. ก็ตัดสินวางยาคนเอาชวิตคนไทยไปแลกกลับแค่การกลับบ้าน ตอนคนพี่กลับมาว่าน่าเกลียดแล้วคนน้องนี่เอากันถึงตายเลยหรือ
เอาข้าวที่ไหนไปตรวจจ้ะดอ๊ก...
ข้างถุงข้าวทีเอามาขายตามตลาดยังมีวันหมดอายุเลย
ไหนแขกบอกว่าเขาตรวจสอบมาแล้ว แขกยังไงแขก
ข้าวอันตราย ไม่กินไม่ซื้อ มากินก็จบ..เอวังด้วยประการะฉะนี้ (ของมันหมดอายุแล้ว)
คนสวย ผู้ยิ่งใหญ่ กำลังจะกลับ มา ต้องรีบๆ 555+
เขาจะฆ่าเราทางอ้อมกันหรือไงเนี่ยแจกฟรีก็ไม่เอาแล้วค่ะ
สะนุกแรกๆทุกคนก็จะตกลงกันว่าจะเล้นตามกฏิกาจึงทำ.ให้พวกเราทักคนเชื่อเราก็คิดว่าเรายิงได้แม่นคนหนึ่งแต่พอเข้าไปเล้นตามเกมแล้วเราโดนรอแต่จะแก้สะนุกไม่เควได้ยิ่งลูกที่อราน้องการที่ยัยิางลงหลุมเลยเพราเพวกที่เล้นด้วยกันเขาา่วมกันจ่อลูกให้กันพอเขาจะยุดยิงเขาก็เอาลูกไปกันไว้ตกรอบเราก็โดนกัน ิกตา มเคยเล้นทั้งคืนผู้เสียคือเราคนเดียวเราควรคิดให้รอบคอบจึงไม่รวรวู่วามของเค้ามีแต่่จ่อให้กันแต่้ราโดนแต่ลูกกันจนยับเยินสั้รือผลเสียทีเราวั่วมมหรือคิดว่าตัววเองยิงแม้นอค้ายิงลูกจ่อเาายิงลูกกันรรับ
ชวนพี่เหลี่ยมมากินด้วยสิครับ😂😂😂
สารพิษ.แค่ติดเปลึ่อกนอก..ขัดสีปรับปรุง.ก็หายหมดแล้ว กินได้
ข้าวและอาหารอื่นมีทั้งนั้น มากหรือน้อยเท่านั้น
มีข้าวที่เก่ากว่า10ปีอีกเหรอ
โอ้ยยยยยยย
ในฐานะประชาชนตนไทย อยากถามว่า..ถ้าข้าวมันเน่ามันเสื่อมตั้งแต่ยุครัฐบาล ปู..ทําไม่จึงให้โกดังเก็บข้าวไว้ถึง10ปีเสียค่าเช่าไปหลายร้อยล้านบาท..แล้วยังจะเก็บไว้เสียค่าเช่าโกดังอยู่เหรอ?
ใครที่ยังเชื่อคำพูดของนักการเมืองของพรรคเพื่อใครก็หมาแล้วครับ จำอาการป่วยของเจ้าของพรรคตอนกลับประเทศไทยวันแรกได้ไปไหมครับ แต่ตอนนี้หายเป็นปกติแล้วครับพี่น้อง😂😂😂😂
ละทำไมเค้าไม่ตรวจเองตั้งแต่แรกอ่ะ แค่หุงโชว์กินโชว์ครั้งเดียว ละกินก็ใช่ว่าเยอะแยะ กี่คำเชียว... แน่จริงก็ตรวจเองจากหลายๆ หน่วยงานละเอาผลแลปมาโชว์ตั้งแต่แรกสิ จะได้ไม่มีข้อสงสัย
ยังไงก่อน ยังไม่ส่งไปตรวจเลยไม่ใช่เหรอ
Aflatoxin for Liver Cancer
rice same germs as peanuts
สิบปี มอดไม่กิน แมลงไม่แตะ คิดเอาค่ะ ว่าเขาใส่ยามากน้อยแค่ไหน เราลูกชาวนา แค่เก็บใส่ยุ้งข้าวปีกว่า พี่มอดก็มาแล้ว
ข้าวสารสองสามเดือนมอดเต็มแต่ไม่ได้ทิ้งซาวๆและเอามอดออกก็หุงกินเพราะข้าวเราแค่ไม่กี่เดือนจร้า
เอาไว้ให้ทหารกินใช่หรือไม่
การที่นักข่าวเอาข้าว10ปีไปให้ อ. ตรวจ ถามว่า นักข่าวเอาออกมาอย่างถูกต้องและถูกหลักการเก็บหรือไม่ 2.การ อ. ตรวจแล้วออกมารายงานเลยอาจทำให้สังคมสับสน เกรงว่าอาจมีการฟ้องเอาผิดกันได้นะครับ ต้องระวัง
สงสารคนที่กินไปเต็มๆที่โชว์ให้ดู
รัฐบาลทำไมไม่ตรวจสอบเองแล้วจึงนำเสนอให้ประชาชนรับทราบ
ถ้าปรับปรุงคุณภาพข้าวแล้ว สารที่อาจก่อมะเร็ง จะหายไปไหม อาจารย์
6:29
ไม่จริงกินได้ฉันเคยกินมาแล้วเพราะครอบครัวของฉันยากจนเลือกไม่ได้
ถ้างั้นอาหารทะเลของเป็นสารก่อมะเร็งมันไม่ได้แตกต่างกันเลย
ก็ใครเป็นหัวหน้า ก็อย่าให้ลูกน้องออกมาพูดสิ(ถ้าแน่จริงเอาประชาชนคนนอกชาวนาแม่ค้า ไปเป็นคนหุงข้าวให้คนที่บอกว่ากินได้ในรัฐบาลกิน ใครที่บอกว่ากินได้ต้องอยู่กิน)ห้ามขาดห้ามลากิจ ตั้งโต้ะกินข้าวให้เห็นกันจะๆไปเลยดีมั้ย
ก็แล้วแต่ท่านจะทำอย่างไรถ้า ่ท่านทำได้ผมเองก็ดีใยด้วยแต่กลัวว่าจะเข้ามางเยี่ยวที่ออยู่ข้างนอกมากกว่า
พรรค์หนึ่งไปแล้วถ้าพรรค์สองไป อิกแล้วแต่จะคิดเอา
เราแคประชาชนคงทำตามใจไม่่ได้ทั้งหมดทุกอย่างถ้าเค้าไม่ให้เราก็ไม่ได้
ุ้าท่านบอกว่าเป็น.ใงเป็นกันพราค์ที่เสียไปยเสามารถเอาคืนมาไแ้มั้ย
เท่าที่จำได้โครงการจำนำข้าวเป็นข้าวเปลือกครับ ( หรือว่านำมา สี แล้ว )
ความดีทำยากนะกรรมเลยตาม
ของปิ้งย่างน้ำมันเก่าก็มีสารก่อมะเร็งก็เห็นกินกันไม่บ่นซักคำ
กินเถอะพวกคุณมีเงินรักษาต้ว้จ็บป่วยมาอย่าให้คนจนกินเลย
ข้าวสารเจ้าเก็บไว้กิน2ปี กำลังอร่อย เกิน3ปียางข้าวหมด ไม่อร่อย
อย่าว่าแต่ซื้อมากินเลย ให้ฟรีๆเอามาให้หมาที่เลี้ยงไว้ยังไม่กล้าเลย สงสารหมา
ขอให้ท่านนายก คณะรัฐมนตรี สส รัฐบาล ทุกท่าน พร้อมครอบครัว เอาไปทานเลยค่ะ ประชาชนไม่คิดค่าใช้จ่าย
ต้องเอาไปทำเป็นปุ๋ยหรือว่าเชื้อเห็ดแล้ว
ข้าวกินได้อยู่แล้วแต่ว่าปลอดภัยหรือไม่
จะทฤษฎีไหนเอาเลยครับ ผมไม่กิน 😂😂😂 ผมเชื่อ common sense ตัวเอง ...
4:37 สมเป็นนักการเมือง
อ๊อด ทำผิดหลักวิชาการ
คือ การตรวจข้าว ต้องเอาข้าวจากกองข้าว ทั้งตรงกลาง และตรงริมๆ ข้างบนและข้างล่าง เพื่อจะได้ค่าเฉลี่ยที่ถูกต้อง
แต่นี่ อ๊อด ไปเอาข้าวจากนักข่าวมา แล้วทำการตรวจเลย จึงไม่มีการเฉลี่ยที่ถูกต้อง ก่อนทำการตรวจสอบ
ดังนั้น อ๊อด จึงทำการตรวจสอบข้าวโดยผิดหลักวิชาการ
ผมถามว่ามะเลงกัวครามรอ้นไหมครับผมคนโง่ครับ
เอาไปให้นายใหญ่กิน😂😂😂
รมยาหลายครั้งก็ไม่โอแล้วครับ
ก้อให้ครอบครัวคุณชัยกินเองเลย
ชาวนาทานข้าวออกใหม่ทุกปีอร่อยหอม
พรรคนี้เลือกครั้งนี้เดียวพอครั้งหน้าบาย
ต้องกินโชว์ อีกสักทีไลฟ์ ผ่านเพจพรรคเพื่อไทย ให้เห็นทุกขั้นตอนเลย
ก็เอาไปกินเลยท่านอย่าไปกินข้าวที่ปกติ
ร่มยาคืออะไร
ผู้มีอำนาจ เซ็นคำสั่ง
นำข้าวไปพิสูจน์
ใช้เครื่องตรวจมาตรฐาน
ตรวจสอบอย่างจริงจัง
เลิกดราม่า
ยุติที่ผลแล็ป จบ!
😮!พี่ยุทธก็กินไปแล้ว
ของดีรับรองไม่ถึงมือประชาชนแน่
ว่าใง