สุดยื้อ 'น้องโฉ' เสียชีวิตแล้ว หลังพ่อตัดสินใจไม่อยากให้ลูกทรมาน

แชร์
ฝัง
  • เผยแพร่เมื่อ 27 ก.ย. 2024
  • ความคืบหน้ากรณี นายณัฐวุฒิ สิงห์สร หรือน้องโฉ นักศึกษาชั้นปี 3 มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม ถูกรุ่นน้องชั้นปีที่ 1 สถาบันเดียวกัน ใช้อาวุธปืนยิงศีรษะในห้องน้ำของมหาวิทยาลัย ล่าสุดอาการยังโคม่า ในขณะที่รุ่นน้องผู้ก่อเหตุถูกจับกุมได้ ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ก่อนที่ในเวลาต่อมา จะประกันตัวออกไป โดยผู้เป็นแม่จะออกมาระบุว่า ลูกชายมีอาการทางจิต จากความเครียด แต่ไม่ได้ทานยาต่อเนื่อง ทำให้ช่วงหลังมีอาการทางจิตหนักขึ้น ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ตัวเองได้
    ซึ่งล่าสุดมี่รายงานว่า นายณัฐวุฒิ หรือน้องโฉ ได้เสียชีวิตลงแล้ว หลังจากที่ก่อนหน้านั้นในช่วงเช้า นายเกรียงศักดิ์ พ่อของน้องโฉ ตัดสินใจแจ้งแพทย์ว่า ไม่ต้องฉีดยากระตุ้นหัวใจและความดัน เพื่อยื้อชีวิตลูกชายอีกแล้ว เพื่อไม่ให้ลูกต้องทรมาน ซึ่งชีพจรและความดันของน้องโฉก็ค่อยๆลดต่ำลงตั้งแต่ช่วงบ่ายเป็นต้นมา จนกระทั่งเสียชีวิตในช่วงกลางดึก
    ก่อนหน้าที่น้องโฉจะเสียชีวิต เมื่อช่วงบ่ายวานนี้(10 ส.ค.) นายเกรียงศักดิ์ เพิ่งจะเปิดเผยถึงอาการลูกชายกับทีมข่าวว่า ตนได้แจ้งแพทย์ ให้หยุดจ่ายยากระตุ้นหัวใจและความดันกับลูกชาย เนื่องจากแพทย์แจ้งตั้งแต่วันแรกแล้วว่า ลูกชายอาการสาหัส สมองตายแล้ว ไม่สามารถให้ยาปฏิชีวณะใดๆได้อีก ทำได้แค่จ่ายยากระตุ้นหัวใจ เลี้ยงชีพจรเอาไว้เท่านั้น
    โดยก่อนหน้านี้ ตนเคยแจ้งแพทย์ให้หยุดจ่ายยากระตุ้นหัวใจไปแล้วถึง 3 ครั้ง แต่ก็เปลี่ยนใจ ให้กลับมากระตุ้นใหม่ เพราะยังทำใจไม่ได้ แต่สุดท้ายก็ไม่อยากให้ลูกทรมานอีก จึงตัดสินใจครั้งสุดท้ายว่า หากลูกจะต้องจากไปจริงๆก็ต้องปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ
    โดยในวันนี้(11 ส.ค.) ทีมแพทย์จะทำการฆ่ากะโหลกศีรษะของน้องโฉ เพื่อนำชิ้นส่วนกระสุนที่ฝังอยู่ออกมา ส่งมอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ และจะส่งศพให้ทำการผ่าชันสูตรตามขั้นตอนอีกครั้ง
    ย้อนกลับไปเมื่อช่วงบ่ายวานนี้(10 ส.ค.) นายเกรียงศักดิ์ และ นางซ่อนกลิ่น สิงห์สร บิดา-มารดา ของนายน้องโฉ พร้อมทนายเกิดผล แก้วเกิด ซึ่งอาสามาช่วยเหลือเรื่องคดีความให้กับทางครอบครัว เดินทางไปที่ สภ.เมืองนครปฐม เพื่อเจรจากับ คู่กรณี และตัวแทนจากทางมหาวิทยาลัย เกี่ยวกับการเยียวยาครอบครัวของนายน้องโฉในเบื้องต้น
    โดย นางจันทร์(นามสมมติ) มารดาของ น้องเทนนิส(สงวนชื่อ-สกุล) นักศึกษาปี 1 ผู้ก่อเหตุ เดินทางมาพร้อม นางสาวโชติกา นิติธัญญกุล ทนายความ ส่วนทางมหาวิทยาลัยส่งเจ้าหน้าที่นิติกรมาเป็นตัวแทนในการเจรจา ใช้เวลาพูดคุยกันประมาณ 1 ชั่วโมง ก่อนที่จะแยกย้าย โดยหลังจากเจรจากับคู่กรณีเสร็จสิ้น ทนายเกิดผล ยังพา พ่อ-แม่ ของนายน้องโฉ ไปพบกับพนักงานสอบสวน เพื่อปรึกษาเรื่องการดำเนินคดีอาญาด้วย
    โดยนางจันทร์ มีอาการเครียด และปฏิเสธที่จะให้ข้อมูลใดๆกับผู้สื่อข่าว แต่ในระหว่างการเจรจา ก็มีการพูดคุยกับทางทนายเกิดผลเข้าใจเป็นอย่างดี โดยนางสาวโชติกา ทนายความของนางจันทร์ เปิดเผยว่า ได้ตกลงกับครอบครัวของนายน้องโฉ ว่าจะช่วยเหลือทางด้านมนุษยธรรมก่อน เป็นเงินอีก 2 หมื่นบาท ภายในวันเสาร์นี้ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้นำเงินไปมอบให้ทางครอบครัวผู้เสียหายแล้ว 2 หมื่นบาท ซึ่งทนายความก็บอกว่า นางจันทร์ค่อนข้างเครียด เพราะมีปัญหาเรื่องการเงินอยู่แล้ว เงินที่นำมาช่วยเหลือผู้เสียหาย ต้องไปหยิบยืมมา แต่ก็เข้าใจเป็นอย่างดี ว่าเป็นความผิดที่ลูกชายของตนไปก่อเหตุ ซึ่งนางจันทร์ก็ยินดีที่จะรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วนตัวน้องเทนนิส ตอนนี้ยังคงอยู่ในการดูแลของ สถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ ซึ่งดูแลผู้ป่วยจิตเวชที่มีคดีความ
    ด้านทนายเกิดผล แก้วเกิด เปิดเผยว่า การเจรจาครั้งนี้ เพื่อหาแนวทางในการชดใช้เยียวยาครอบครัวในเบื้องต้นก่อน ไม่ได้มีการเรียกร้องจำนวนเงินเป็นตัวเลขที่แน่นอน เพราะตอนที่มีการเจรจากัน น้องโฉยังไม่เสียชีวิต จึงยังไม่รู้ว่าจะต้องชดเชยให้ทางครอบครัวอย่างไร ซึ่งหลังจากที่น้องโฉเสียชีวิตแล้ว ก็จะต้องมาเจรจากันอีกครั้ง ทั้งฝ่ายคู่กรณี รวมทั้งมหาวิทยาลัย หากคุยกันลงตัว ก็จะไม่มีการฟ้องแพ่งใดๆต่อกัน
    เบื้องต้น ทางนางจันทร์ ยินยอมที่จะมอบเงิน 2 หมื่นบาท ให้กับทางครอบครัวน้องโฉ ภายในวันเสาร์นี้ ซึ่งเงินจำนวนนี้ไม่ใช่เงินค่าเสียหายต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นเพียงการช่วยเหลือเบื้องต้นเท่านั้น ส่วนทางมหาวิทยาลัยก็ระบุว่า ยังไม่มีแนวทางที่ชัดเจน ว่าจะสามารถเยียวยาได้อย่างไร เพราะเหตุการณ์นี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน การจะเบิกจ่ายใดๆ ต้องผ่านการประชุมของคณะผู้บริหาร แต่ทราบว่า ทางคณะอาจารย์และเพื่อนๆ ได้มีการเปิดบัญชีช่วยเหลือครอบครัวน้องโฉ รวบรวมเงินได้แล้ว ราวๆ 4 หมื่นบาท
    ส่วนทางคดีอาญา ตนไม่กังวลใจ เพราะผู้ต้องหาก็ให้การรับสารภาพ รวมทั้งวัตถุพยานต่างๆที่ตำรวจรวบรวมได้ก็มีความชัดเจน ส่วนประเด็นที่ทางมารดาน้องเทนนิสแย้งว่า ลูกชายมีอาการทางจิตนั้น พนักงานสอบสวนไม่ปักใจเชื่อ เพราะสอบปากคำน้องเทนนิสแล้ว มีการโต้ตอบได้เข้าใจทุกอย่าง จึงทำสำนวนดำเนินคดีไปตามข้อเท็จจริง ส่วนจะป่วยจริงหรือไม่นั้น ต้องให้ศาลเป็นผู้ตัดสิน
    รายละเอียดเพิ่มเติม morning-news.be...
    -------------------------
    เรื่องเล่าเช้านี้ (Morning News) 14 กรกฎาคม 2559
    ติดตามความเคลื่อนไหวข่าวสารได้ก่อนใครได้ที่นี่
    เรื่องเล่าเช้านี้.com : morning-news.be...
    facebook : / morningnewstv3
    Twitter : / morningnewstv3
    Official LINE : @ruenglao

ความคิดเห็น • 1K