ปชช.แห่ซื้อชุด ATK หลังองค์การเภสัชฯขายชุดละ 35 บาท
ฝัง
- เผยแพร่เมื่อ 12 ม.ค. 2022
- องค์การเภสัชกรรม เปิดให้จำหน่ายชุดตรวจ ATK โครงการ "ATK คุณภาพ เพื่อสังคมไทย" โดยจำหน่ายในราคาชุดละ 35 บาท เริ่มตั้งแต่วันที่ 14 มกราคม 2565 ผ่านร้านขายยาองค์การเภสัชกรรมทั้ง 8 สาขา
โดยก่อนหน้านี้องค์การเภสัชกรรม ได้นำชุดตรวจ ATK มาจำหน่ายในราคาชุดละ 40 บาท ซึ่งก็ได้รับกระแสตอบรับจากประชาชน องค์กร และหน่วยงานอื่นเป็นจำนวนมาก ซึ่งการจัดซื้อรอบใหม่ ทำให้ได้ราคาลดลงจากก่อนหน้านี้ องค์การเภสัชกรรมจึงนำมาจำหน่ายให้ประชาชนในราคา 35 บาทต่อชุด จำนวน 3 ล้านชุด ผ่านร้านขายยาองค์การเภสัชกรทั้ง 8 สาขา และจำหน่ายอีกครั้งในวันที่ 17 มกราคม 2565 ผ่านทางเว็บไซต์ www.gpoplanet.com ซึ่งใน
วันนี้ผู้สื่อข่าวไอ.เอ็น.เอ็น ได้ลงพื้นที่ร้านขายยาขององค์การเภสัชกรรม สาขาราชเทวี พบว่ามีประชาชนให้ความสนใจและต่อคิวเพื่อซื้อชุดตรวจเป็นจำนวนมาก ซึ่งก็ได้มีการจำกัดจำนวนไว้ที่ 1,000 กล่อง ต่อวัน ในราคากล่องละ 700 บาท ซึ่งจะตกราคา 35 บาทต่อชุด โดยใน 1 กล่องจะมีชุดตรวจ ATK 20 ชุด และจะมีการจำหน่ายไปจนถึงวันที่ 19 ม.ค. 65 จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ทราบว่าองค์การเภสัชกรรมได้เปิดจำหน่ายตั้งแต่เวลา 8.00 น. และก็ได้มีประชาชนรอต่อคิวซื้อตั้งแต่เช้า ก่อนจะหมดคิวที่ 1,000 ในเวลา 10.00 น.
สำหรับ ราชการ องค์กรหรือหน่วยงานใดๆหากมีความประสงค์รับชุดตรวจ ATK ยี่ห้อ HIP BIO tech ที่องค์การเภสัชกรรมจัดจำหน่าย ก็สามารถมายื่นหนังสือได้ที่ร้านขายยาองค์การเภสัชกรรม ทั้งนี้องค์การเภสัชกรรม ได้เร่งดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างเพิ่มอีกจำนวน 3.5 ล้านชุด โดยวันที่ 11 มกราคม 2565 มีการเซ็นสัญญากับบริษัทผู้จัดจำหน่ายไปแล้วและบริษัทจะเริ่มทยอยส่งมอบในสัปดาห์หน้า สัปดาห์ละ 1 ล้านชุด และดำเนินการอย่างต่อเนื่องเพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการในสถานการณ์โควิดปัจจุบัน
#ร้านขายยา
#ชุดตรวจATK
#องค์การเภสัชกรรม
#iNNNews
#ไม่พลาดทุกเรื่องอินเทรนด์
สำนักข่าวไอ.เอ็น.เอ็น.มุ่งมั่นที่จะให้ประชาชนทั่วประเทศรับรู้ข่าวสารที่เป็นประโยชน์ โดยจะนำเสนอข่าวต่อสังคมที่ถูกต้อง เป็นกลาง น่าเชื่อถือ ภายใต้ concept ใหม่ "ไม่พลาดทุกเรื่องอินเทรนด์ ผ่าน ไอ.เอ็น.เอ็น" (one-stop service for all your daily feeds)
ผลิตและสร้างสรรค์ content ที่มีสาระและเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาความรู้ของประชาชนและไม่ขัดต่อศีลธรรม เพื่อตอบสนองความต้องการสูงสุดให้แก่ผู้ใช้บริการ และขยายช่องทางและโอกาสทางธุรกิจทางสื่อใหม่ๆ ทาง Online & Social Media ไม่ว่าจะเป็น website, TH-cam, LINE, Facebook, Twitter และ TikTok เพื่อให้ประชาชนได้รับข่าวสารที่เป็นกลาง สดใหม่ ไม่พลาดทุกเรื่องอินเทรนด์ผ่าน ไอ.เอ็น.เอ็น
