สิ่งที่เรียกว่า “การไม่ยึดติด”นั้น ไม่มี
ฝัง
- เผยแพร่เมื่อ 16 มิ.ย. 2024
- เมื่อไม่มีความเป็นเจ้าของ “ฉัน”ก็ไม่มี “ฉัน”คือความเป็นเจ้าของ คือเครื่องใช้ในบ้าน คือความดี คือชื่อเสียง ความกลัวในความเปลี่ยนแปลง ไม่แน่นอน ในความไม่มี ทำให้เกิดการยึด การเป็นเจ้าของ ความรักในสิ่งที่เป็น คือการเริ่มต้นของปัญญา สิ่งที่เรียกว่า “การไม่ยึดติด”นั้น ไม่มี
จากหนังสือ ... the book of life แห่งอิสรภาพของชีวิต
Voice...ฐนกร กันต์กริน
/ @stardust871
?sub_confirmation=1
contact : indianiowa@gmail.com
ร้านหนังสือ...www.krishnamurtipublications.c...
(สนับสนุนช่อง ได้ที่ 0742817393.. Kbank )
#การไม่ยึดติด#กฤษณมูรติ - แนวปฏิบัติและการใช้ชีวิต
ฟังดีๆแล้วเข้าใจธรรมมากขึ้นเลยนะคะ เป็นประโยชน์มากๆค่ะ เพราะธรรมมะก็เป็นธรรมชาติของความเป็นจริง ไม่ได้ขึ้นอยู่/จำกัดเฉพาะศาสนา เป็นภาวะตามธรรมชาติของทุกสรรพสิ่ง
ถ้าเราจำคำสอนมา รีบอ่านปกคลิปแล้วก็รีบตอบ ก็จะไม่เข้าใจกัน ซึ่งชี้ให้เห็นการยึดติดในธรรม/หลักการ/ความคิด/ความเห็น/ความเชื่อของตนได้ดีเลย
ส่วนตัวฟังแล้วส่งเสริมความเข้าใจมากๆค่ะ แค่ชื่อคลิปก็สะกิดให้เห็นแล้ว ว่าเรายังยึดติดอยู่ ยึดธรรมแบบจำมาตอบก็เป็นส่วนหนึ่งของการยึดติดเช่นกัน
เมื่อวางแล้วฟังด้วยใจเปิดกว้าง ย่อมเข้าใจเนื้อความที่สื่อสาร ย่อมได้รับสาระมุมมองใหม่ๆ จี้ให้เห็นจุดติดของเราเอง ความเป็นจริงที่ใสกระจ่างย่อมปรากฎชัด
ขอบคุณค่ะ
มันมีการยึดติดในการไม่ยึดติด
การไม่ยึดติด นั้นไม่มี
แต่นิโรธ คือ ดับจากการยึด
ถ้ารูู้ความจริงด้วยสมาธิและเห็นความจริงด้วยปัญญาจึง"ปล่อยวางไม่ยึดติด"เช่น เคยเห็นช้างเมื่อปีที่แล้ว ภาพช้างก็มาปรากฏอยู่ ขันธ์5 ก็เกิดดับไปกับอารมณ์นี้ คือ(1)นึกถึงช้างเป็น"สังขารขันธ์" (2)ความรู้ในใจเป็น"วิญญาณขันธ์" (3)ความจำเป็น"สัญญาขันธ์" (4) ความรู้สึกเป็น"เวทนาขันธ์" (5)รูปช้างในใจเป็น"รูปขันธ์" พระอริยสาวกผู้มี"สมาธิยิ่งและปัญญายิ่ง"เห็นความจริงเป็น"อนัตตา"คือไม่มีตัวตนของช้างในขันธ์ทั้ง 5 เลย ท่านจึงไม่ยึดติด ส่วนปุถุชนยังเห็นช้างเป็น"ตัวตน"ในขันธ์ทั้ง5อยู่จึงเกิด"ราคะ โทสะ โมหะ"ก่อภพชาติไม่มีที่สุด
นิโรธความดับ
ดับจากการยึดติด
ว่าขันท์ทั้ง5นั้นเป็นของเรา
เป็นตัวตนของเรานี้แล
นานาทัศนะถูกต้องสำหรับเจ้าของทัศนะทุกคน.. และทุกคนก็ยึดมั่นในสิ่งทุกคนคิดว่าไม่ยึดติด.. และอาจจะแน่นทึบ
อยู่ในความโปร่งใส.ที่ตัวเองจินตนาการขึ้นมา
จาก.กิเลส.ตัณหา.ที่เป็นธรรมชาติ
ที่ธรรมดา.ของทุกจิตวิญญาณ
ที่มันกลมกลืนเสียจนคิดว่าเป็น
เนื้อเดียวกัน.. นี่แหละความวิเศษของศาสดา
อัจฉริยะ.อิสระชน.ยุคนี้จึง.. ถือ
กำเหนิดขึ้น.. จงศรัทธา.ในสิ่งใน
ที่คุณศรัทธา..สัันติสุขจงบังเกิดขึ้นในหัวใจทุกดวง.ขอบคุณค่ะ❤❤. 😊😊😊
มีคนอื่น มีสิ่งอื่นจึงมีเรา มีเราอยู่ในความคิดหรือมีเราอยู่ในอะไรสักย่าง คือ พึงพิง และวังวนอยู่ในวัฏจักรพึ่งพิง
ธรรมชาติคือหนึ่งเดียว ไม่ได้แบ่งแยกไม่มีคนอื่น ไม่มีสิ่งอื่น มาเปรียบเทียบให้หลงว่ามีเรา ธรรมขาติคือหนึ่งเดียว ไม่มีเรา ไม่มึเขา ไม่มี นี่โน่นนั้น ธาตุรู้ไม่ใช่เรารู้ รู้เป็นธรรมชาติไม่มีเจ้าของ ไม่ใช่เรารู้ ไม่ใช่อะไรไม่อยู่ตรงไหน ไม่มีเราในธรรมชาติ ไม่มีเราในสรรพสิ่ง เป็นธรรมชาติของมันเช่นนี้นเอง เป็นอิสระ ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลง
ได้ฟังก่อนนอนพอดีเลย ขอบคุณมากค่ะ 😊😊
จริงที่สุด🎉🎉🎉 แต่ไม่ใช่ที่สุดของที่สุด
ยอดเยี่ยมครับ ผมคิดผมเป็นไอ้โง่คนเดียวที่เชื่อลึกๆ ว่าการไม่มียึดติดไม่มีอยู่จริงจนกระทั่งเจอคลิปนี้
ผมไม่ได้งี่เง่าที่คิดแบบนั้นสินะ 😅😅😅
ยึดแล้วเอาไปทำอะไรได้ ไปดูคนที่ใกล้จะสิ้นลมคำสุดท้ายคือไม่เอา ไม่อยากได้อะไรแล้ว นี่คือจบ
ไม่มีไม่หาก็ไม่ได้คับมันคือเงินและชีวิตถ้าไม่มีเงินก็ทำอะไรไม่ได้แม้แต่จะไปรักษาโรค😢😢😢พระเจ้า😢😢😢
ขอบคุณที่เตือนสติครับ
ขอบคุณ บทความดีๆค่ะ 🤍
การมีไม่จำเป็นต้องยึด การไม่มีก็ไม่ได้หมายความว่าไม่ยึด
ขอบคุณค่ะ🥰
ขอบคุณค่ะ❤
ขอบคุณครับ
สาธุคะ❤
สภาวะความไม่ยึดติดเป็นสภาพลึก ไม่ใช่การตีความด้วยวิสัยของปุถุชน ต้องเข้าถึงด้วยการปฏิบัติจะอธิบายได้ดีที่สุด
ธาตุรู้ ไม่ใช่ผู้รู้
❤
สภาวะไม่ยึดติด 8:18 มีอยู่จริง คือ นิพพาน ค่ะ ปัจจัจตัง ต้องศึกษา เรียนรู้ ปฏิบัติ ❤🙏🙏🙏
นิพพาน ไม่ใช่สภาวะครับ
@@failogyนิพพานมีทั้งสภาวะ และนิพพานธาตุ
ขอบคุณครับฟังแล้วตื่นรู้เลยครับขอบคุณครับขอบคุณขอบคุณครับ
แสดงว่าเขาไม่เคยเห็นพุทธธรรม เขาจึงไม่รู้ภาษาธรรม รู้แต่ภาษาคน(ปุถุชน) เป็นมิจฉาทิฏฐิ
ขอบคุณครับ