ความมหัศจรรย์ของใจ จิต วิญญาณ
ฝัง
- เผยแพร่เมื่อ 18 ก.ย. 2021
- เรื่องเล่าพระ ความมหัศจรรย์ของใจ จิต วิญญาณ
ใจ มาจากคำว่า มโน
จิต มาจากคำว่า จิตตัง
วิญญาณ มาจากคำว่า วิญญานัง
ทั้ง 3 ชื่อ เป็นชื่อของธาตุชนิดเดียวกัน แต่เวลาที่เราเรียกชื่อต่างกัน เพราะเรียกตามการแปรของธาตุ
วัตถุธาตุที่ประกอบขึ้นเป็นมนุษย์ อยู่ใต้อำนาจของใจ เมื่อเกิดสุขเกิดทุกข์ขึ้นมา การแก้ไขสุขทุกข์ ต้องแก้ไขที่ใจ
อาสวะ คือ สิ่งที่รอบด้านแห่งวิญญาณธาตุ อาสวะมี 4 อย่าง
1.กามาสวะ คือ ทุกสิ่งทุกอย่างที่น่ารัก น่าใคร่
2.ภวาสวะ คือ ความปรากฏหรือการเปลี่ยนแปลงของทุกสิ่ง
3.ทิฏฐาสวะ คือ การเห็นอาการต่างๆ เหล่านั้น
4.อวิชชาสสะ คือ ความไม่รู้ โง่ เบาปัญญา
แรกเริ่มเดิมที วิญญาณธาตุ เป็นธาตุรู้ เป็นความรู้มหัศจรรย์ มีแสงสว่างในตัวเอง ไม่มืดมัว แต่เมื่อคลุกเคล้ากับอาสวะ คือเครื่องหมักดองกิเลส ความมืดมัวของวิญญาณธาตุ เรียกว่า อวิชชา และอวิชชานี่เองเป็นต้นเหตุแห่งการเกิด
คำว่า อวิชชา แปลว่า ไม่มีกระแสแห่งความรู้ อันหมายถึง วิญญาณธาตุ ที่ถูกห่อหุ้มด้วย อวิชชา นั่นเอง
จิตขันธ์ คือ ดวงจิต มี 4 อย่าง
1.เวทนา หมายถึง รู้-เสวยอารมณ์สุข-ทุกข์
2.สัญญา หมายถึง รู้ จำ กล่าวโดยรวมคือ จำได้หมายรู้ทุกสิ่งที่ผ่านเข้ามาในกระแสของตน
3.เจตนา หมายถึง มีความจงใจ ตั้งใจทำ คิด นึก ในสิ่งนั้นๆ
4.วิญญาณ หมายถึง อาการที่มีความรู้สึก ในทุกสิ่ง
ใจ จิต วิญญาณ และวัตถุธาตุทั้งหมด ก็เป็น สักแต่ว่า ของประจำโลก แต่จิตจะไม่หมุนเวียนไม่มึนเมา ลุ่มหลง จนมีกำลังเหนืออาสวะ อันเป็นเหตุให้รู้แจ้ง สิ้นอวิชชา เป็นอิสระจากสิ่งร้อยรัดคือสังโยชน์ทั้ง10 เข้าถึงธรรมวิเศษ เป็นอริยบุคคลองค์อรหันต์ หลุดพ้นจากวัฏสงสาร เข้าแดนบรมสุข สงบเย็น คือแดนแห่งพระนิพพานนั่นเอง
ใจ วิญญาณ คือสิ่งๆเดียวกัน
แต่จิต ไม่ใช่ไม่มี หรือ มีก็ไม่ใช่ จิต เป็นสิ่งที่อัศจรรย์ที่สุด ในสรรพ์สิ่งทั้งหลาย
เราจะกล่าวเช่นนี้ว่า คือ จิตพุทธะที่บริสุทธิ์แล้ว จะว่าจิตไม่ใช่ของเราเสียทีเดียวก็ไม่ใช่หรือจะว่าเป็นของเราก็ไม่เชิง เพราะจิตก็ต้องไปรับผลกรรมที่ตนทำไว้ ดังนั้น
เราจะให้จิตใครไปรับกรรมแทนเราได้ ถ้าไม่ใช่จิตเราเอง ท่านทั้งหลาย ความจริง
จิตนั้นเป็นของเรา แต่เรายังค้นหาจิตแท้เราไม่พบ จนมีพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มาสอนวิชาให้เราทั้งหลาย ได้ค้นพบจิตแท้เจอ นั่นคือจิตที่บริสุทธิ์ เป็นจิตนิพพานนั่นแล ท่านทั้งหลาย แต่ก่อนจิตที่มี อวิชชาและตัณหาเข้าครอบงำจิตแท้เราเอาไว้ เราท่านทั้งหลายจึงได้หลงทาง
สร้างบาปและอกุศล
จิตไม่เข้าใจว่า จิตที่จะไปจุติในแต่ละภพแต่ละภูมิได้ นั่นคือจิตแท้เรา ท่านดูก่อนมีหลายๆท่านได้นั่งหรือกำหนดทำสมาธิ ขั้นต้นจนถึงขั้นสูงสุดนั่น จิตแท้ท่านนี่แล ที่ไปจุติ เป็น เทวดา และ พรหมในชั้นต่างๆ ทั้ง รูปพรหม และ อรูปพรหม ดังนี้ท่าน 😊😊😊 จิตเราเห็นนิพพานแล้วตอนยังมีชีวติ เรามีญาณหยั่งรู้เกิดขึ้นจึงได้เห็นแจ้ง ในธรรมชาติทั้งหลาย😊😊😊
@ จิตหนึ่งหรือจิตพุทธะ / ไม่มีสมมุติปน
@ มโนหมายถึงความคิด มันเป็นอาการของใจ ใจแท้มันเป็นความว่าง(สุญญตา)
@ วิญญาณ คือจิตที่ยังยึดสมมุติอยู่ (จิตเจตสิก)
@ การเห็นจิตหนึ่ง , มโน(ความคิด) , วิญญาณ เป็นอันเดียวกัน เป็นการตีความผิดพลาดของคนสอน / เพราะเขายังไม่บรรลุธรรม / เขาแยกจิตหนึ่งออกจากสมมุติยังไม่ได้ จึงตีความคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง
@ คนอธิบายคนแรก / เขายังไม่บรรลุธรรม / ไปตีความว่าจิตหนึ่งกับความคิด(มโน) เป็นอันเดียวกัน
มันจะเป็นอันเดียวกันได้ยังไง อันหนึ่งมีสมมุติปน. อันหนึ่งไม่มีสมมุติปน
มันเป็นความผิดพลาดของคนเขียนตำรา ไปจับเอาของต่างกันมาเป็นสิ่งเดียวกัน / พอไปยึดตำราตัวเองก็ไม่หลุดพ้น เพราะตำรามันเขียนผิด
น้อมจิตกราบสาธุธรรมเจ้าค่ะ
สวัสดีครับ ครูบาอาจารย์ใหญ่ทุกท่าน ที่ให้ความรู้ หลักธรรมคำสอน เป็นสัจธรรมของจริง เป็นเรื่องที่ทุกคนสามารถพิสูจน์ได้ ว่ามีอยู่จริง ขออาราธนา อนุโมทนาบุญ บุญต่อบุญ อายุวัณโณสุขังพลัง สาธุ
ใจ.หรือหัวใจ.หรือหะทะยัง.ที่ชอบเรียกว่าหทัย.มิใช่จิต.ใจเป็นธาตูทั้ง๔.เนื้อหัวใจคือธาตุดิน.เลือดหัวใจคือธาตุน้ำ.ความร้อนในหัวใจคือธาตุไฟ.การเต้นของหัวใจคือธาตุพลังลม.ร่างกายเป็นวิญญานคือที่รวมของธาตุทั้ง๔.ดินน้ำไฟลม.จิตเป็นพลังงานไรัรูป.จิตคือความคิด.สมองเป็นวิญญานเป็นธาตุเป็นสะสาร.จิตคือความคิด.ความคิดมาจากสมอง.จิตคือความคิดไร้รูป.ความคิดหรือจิต.จากสมองทำงานผ่านทางอายะตนะ๑๒/อันมีขันธ์๕.รูปเวทนาสัญญาสังขารวิญญาน.เป็นผลจากจิต.จากความคิด.
@ จิตหนึ่ง กับสติสัมปชัญญะ / คือนิพพานธาตุ , อมตะธาตุ เป็นตัวชีวิตอมตะ ไม่รู้จักตายมีมานาน เป็นอนันตกาลแล้ว / ครูบาอาจารย์ที่บรรลุธรรมแล้ว จำนวนมากต่างยืนยันว่าจิตหนึ่งเป็นของเที่ยง
ที่ว่าจิตเกิดดับตลอดวันตลอดคืน , จิตคดโกงหลอกลวงนั้น ท่านหมายถึงจิตเจตสิก คือจิตเกาะยึดอยู่กับสมมุติ จึงเป็นอนัตตา เป็นภพชาติ , จิตประเภทนี้จะถูกเก็บในสัญญา
ผู้ตีความว่าจิตหนึ่ง กับ จิตเจตสิกเป็นอันเดียวกัน เป็นการตีความที่ผิดพลาด
@ วิญญาณ เป็นอนัตตา คือจิตที่เกาะยึดอยู่กับสมมุติ / จัดเป็นจิตเจตสิก มิใช่จิตหนึ่ง
สาธุ สาธุ 🙏 ค่ะ ขอบคุณมากค่ะ
น้ำเสียงน่าฟังมากคะ.
ชอบฟังมากค่ะ
สาธุๆๆค่า
ธรรม นำพาชีวิตที่สงบ และร่มเย็น
เรื่องมีสาระดี นะ ชอบฟังเรื่องแนวนี้ แต่น้ำเสียงผู้บรรยายน้ำเสียงแข็งไปไม่น่าฟัง ถ้าน้ำเสียงอ่อน นุ่ม จะน่าฟังกว่านี้นะ และจะติดตามฟังนะ เจริญพร
ท่านผู้ใดเป็นคนสอนค่ะ หลวงปู่องคใดที่สอนค่ะ
สาธุ
มีจริงผู้มาเอาวิญญาณ..พระก็เอาไปที่ดีร้าย..ตอนนั้นเราเหมือนฝันว่ามีผู้มาเอาวิญญาณ..เราถามเขามาทำไมเขาว่ามาเอาคนเราหันไปดูเห็นแต่ตัว.สักตัวลายไม่เห็นหัว..สามวันผ่านมีคนตายสักตัวลายกินยาตาย..ตรงจัง
น่าฟังมากครับ_สาธุๆๆครับ😊
สาธุๆๆค่ะชอบฟังค่ะ
🙏🙏🙏
@ จิตหนึ่งหรือจิตพุทธะ / เป็นนามธรรม เป็นธรรมชาติที่ไม่มีตัวตน แต่มีสภาวะรู้อยู่ จิตทำหน้าที่รู้อยู่ทุกวินาทีไม่เคยหยุดพักเลย / จิตเป็นอมตะธาตุ ที่มีมานานเป็นอนันตกาลแล้ว
จิตหนึ่งไม่มีตัวตนคล้ายสนามแม่เหล็ก / คนมองไม่เห็นสนามแม่เหล็ก / แต่ไปปฏิเสธว่าสนามแม่เหล็กไม่มีไม่ได้ / เพราะมันดึงดูดเข็มให้เห็นอยู่ แม้จะมองไม่เห็นตัวมันก็ตาม
จิตหนึ่งก็ไม่มีตัว / แต่มันทำหน้าที่รู้อยู่ทุกวินาที / เจ้าสำนักต่างๆชอบไปตีความผิดพลาดว่าจิตไม่มี เพราะตัวเองมองไม่เห็นจิต / มันก็คล้ายไปตีความว่าสนามแม่เหล็กไม่มี นี่มันตีความผิดไปจากความเป็นจริงของมัน เพราะไปเอาตาเนื้อมาตัดสินความมีอยู่ของนามธรรม
@ พื้นที่เดิมของใจ เป็นความว่างเปล่า(สุญญตา) / จิตหนึ่ง เป็นผู้รู้ว่าความว่างของใจนั้นมีอยู่
เมื่อจิตกระทบ กับอายตนะภายนอกหก / ความคิดความดำริจึงเกิดขึ้น(มโนกรรม)
ความคิด(มโนกรรม) เป็นจิตเจตสิก คือจิตที่ปนกับอายตนะภายนอกหก / จิตหนึ่งกับความคิดจึงไม่ใช่สิ่งเดียวกัน เพราะองค์ประกอบมันไม่เหมือนกัน
รู้ทัน ปัจจุบัน รู้ทัน เสียง รู้ทัน ปัจจุบัน
@ เสียง น่าชอบใจ ไม่น่าชอบใจ / เป็นอนัตตา เท่ากัน / ถ้ายึดเสียงจิตก็ไม่หลุดพ้น
@ มีเราผู้ยึดเสียง / คำว่าเราคือมานะ เป็นอนัตตา / ถ้าไม่ทิ้งมานะ จิตก็ไม่หลุดพ้น
@ จิตที่ยึดเสียงคือหนึ่งภพชาติ / จิตยึดเสียง เป็นอนัตตา เป็นจิตเจตสิก รวมเรียกว่าวิญญาณ / จะถูกบันทึกไว้ในสัญญา
วิญญาณเป็น 1ในขันธ์ 5 มีเพราะ อวิชชา
มโน เป็นอายตนะ มีขึ้นหลังวิญญาณ
จิตเป็นสิ่งที่มีอาสวะ (อวิชชา ตัณหา) จึงสามารถหลุดพ้นจากอาสวะได้ มีมาก่อน วิญญาณ
ไม่ใช่สิ่งเดียว ทดแทนกันไม่ได้ ต่างกันโดยสิ้นเชิง สลับกันไม่ได้
สาธัๆน้อมรับคำสอนคุณครูบาอาจารย์เบื้องบนสาธุๆครับ