ขนาดวิดีโอ: 1280 X 720853 X 480640 X 360
แสดงแผงควบคุมโปรแกรมเล่น
เล่นอัตโนมัติ
เล่นใหม่
ผมคงเป็นบูลลี่ประเภทสุดท้ายที่พี่บิ๊กยกตัวอย่างมา ตอนประถมผมถูกบูลลี่ เกี่ยวกับรูปลักษณ์ ผมโดนบ่อย จนเป็นปมในใจจนถึงทุกวันนี้ เเต่วิธีที่ผมรับมือกับมัน คือการบูลลี่คนที่อ่อนแอกว่า ผมไม่ชอบคนบูลลี่ เเต่ผมกลับกลายเป็นบูลลี่ซะเอง เพื่อเเลกมากับความสบายใจปลอมๆ ผมมองว่าการเจอเเรงกดดันรอบด้าน ไม่ว่าจากครอบครัว การเรียน เเละการถูกบูลลี่จากคนอื่น มันหนักมากสำหรับผมในวัย11ปี เเต่ที่น่าสมเพชคือ ผมกลายเป็นสิ่งที่ผมเกลียดซะอย่างนั้น พอเริ่มโตขึ้นเรื่อยๆ เข้าใจความทุกข์ของผู้คนมากขึ้น เรื่องราวในอดีตมันตามหลอกหลอน ทิ่มเเทง มาตลอด ผมมักจะรู้สึกดิ่งมาก เมื่อนึกถึงเหตุการณ์พวกนั้น ที่ผมทำให้คนอื่นต้องเจ็บปวดด้วยคำพูดจากปากพล่อยๆของผม ผมรู้สึกผิดมาก พูดกับตัวเองว่า "เมื่อก่อนกูทำอะไรลงไปวะเนี้ย" อยากจะขอโทษทุกคน เคยคิดเเม้กระทั้งว่า หากมีเครื่องย้อนเวลากลับไปได้ ผมอยากปฏิบัตกับคนเหล่านั้นดีๆ พูดดีๆ เเละเป็นเพื่อนที่ดีให้กับพวกเขา ปัจจุบันผมกลายเป็นคนชอบอยู่คนเดียว เป็นคนไม่กล้าตัดสินใจ เพราะไม่มีความมั่นใจในตัวเอง ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร ไม่ค่อยสร้างปฏิสัมพันธ์กับใคร เพราะกลัวว่าคำพูดผมจะไปทำร้ายใครอีก เเละเพราะการย้อนเวลาไม่มีอยู่จริง ผมเลยเลือกที่จะอยู่อย่างเงียบๆเเละพยายามไม่ตัดสินใคร มองโลกที่กำลังหมุนไป โดยไม่มีผมร่วมอยู่ในนั้นจะดีกว่า. ปล.ขอบคุณที่มีช่องนี้เกิดขึ้นมา กดติดตามเเล้วนะครับ แฟนคลับจากhsinchu
เคยเจอครูบลูลี่ตอนเด็กๆ ทุกวันนี้ยังจำได้เสมอและไม่เคยอยากจะให้อภัยเขา เราเป็นแค่เด็กบ้านนอกคนนึงที่ไม่ทันคนไม่รู้จักโทรสับที่ผึ้งย้ายเข้ามาเรียนในกรุง แต่กลับโดนครูบลูลี่ ทั้งๆที่เราก็เป็นแค่เด็กผู้หญิงคนนึกที่อยู่แค่ ป.4 แล้วเจอแบบนี้ตลอดจนถึง ป.5 ถ้าเขาสอนถึง ป.6 เราก็คงเจอแบบนั้นจนถึง ป.6 เวลาเรียนตอนเรียนก็เรียกแต่เรา พอตอบไม่ได้ก็ค่อยล้อเราทำให้เพื่อนทั้งห้องหัวเหราะเรา แถมเอาเราไปล้อในห้องอื่น ที่เรารู้เพราะมีนักเรียนห้องอื่นมาถามเพื่อนเราทั้งๆที่เราอยู่ข้างๆ มาถามเพื่อนในห้องว่าใช่คนนี้ที่อาจาร์ยคนนั้นเรียกเราว่า"เฉิ่มเบาะ" มันทำให้เราไม่อยากไปเรียน ด้วยความที่พ่อแม่อายุห่างกับเราเยอะ และค่อนข้างหัวโบราณ มันเลยค่อนข้างยากที่จะพูดคุยกับเขา พอเราขึ้นมอปลายเห็นว่าเขา เกษียณ แถมเป็นโรคมะเร็งระยะเท่าไรไม่รู้ ในใจเราไม่เคยสงสารเขาเลยแถมสะใจด้วยช้ำ อาจจะฟังดูแย่ แต่มันจำฝั่งใจจริงๆ ทุกวันนี้ก็ยังไม่เข้าใจว่าเขาทำแบบนั้นกับเราทำไม
ส่วนตัวเคยโดนแบบโหดร้ายมากสมัยเด็กๆ ซึ่งมองย้อนกลับไปไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นความคิดเด็กที่ทำกับเด็กได้ ยังโชคดีที่หลังจากนั้นเกือบสิบปี ได้กลับมาเจอกันเขายกมือไหว้ขอโทษสิ่งที่เขาทำมาตอนนั้น
ประสบการณ์ของผมนะ พวกเคยบูลลี่ผมมาขอโทษผ่านตัวเเทนไม่ขอโทษตรงๆ สุดท้ายเหมือนเดิม "หน้าไหว้หลังหลอก" สร้างภาพในอินเตอร์เน็ตเป็นเด็กเรียน คนนอกก็ชื่นชน นิททาคนอื่น เเซะผมที่ทำได้ดีกว่า วนๆกับประโยคปรอบใจของมัน คือ ถ้าฉันมีเเบบนายบ้าง ก็ทำได้เหมือนกัน
ความคิดส่วนตัวผมนะ เด็กเกิดมามี 3 ประเภท 1.เป็นเด็กประเภทแบบโตไปเป็นคนแบบไหนอยู่ที่สภาพแวดล้อมตอนเด็กเป็นยังไง 2. ต่อให้อยู่สภาพแวดล้อมที่ดีแค่ไหนโตมาก็คิดไม่เป็นไม่รับอะไรเลยเวลามีคนสอน 3.เด็กประเภทนี้หายากและพ่อแม่หลายๆคนอยากให้ลูกเป็นแบบนี้คือ เด็กคิดเองเป็นและต่อให้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่แย่แค่ไหนเด็กประเภทนี้จะไม่มีความคิดเอาเปรียบคนอื่น
เชี่ยยย พี่บิกพูดถึงชตากรรมของพวกบูลลี่ได้โครตดีย์!!!
บูลลี่สำหรับไทย ไม่มีใครยอมรับ เพราะถูกควบคุมมาร้อยปี มาจาก hazing เริ่มจากไพร่จุลา เห่ามาร้อยปี ทุกตัวตามหมด เพราะถูก psychic ยิ่งกว่าฝังชิพว่า จุลา จุลา จุลา ตอบในฐานะ KING นะ ไพร่จุลาทั้งหลาย ที่เหลือแต่แสนรู้ตามฝรั่ง
ชอบที่พี่ซอยคลิปแบบนี้มากคับ มันไม่ยาวเกินไป ผมสมาธิสั้นมากคับ แต่ผมดู69 podcastได่ปกติ😂😂😂
จริงๆ Study ใหม่ๆหลายที่บอกตรงกันว่าเด็กไม่ใช่ผ้าขาวอย่างที่เราเข้าใจ เด็กมีสีมาอยู่แล้วจริงๆแต่การเลี้ยงดูและสังคมมีส่วนเช่นกัน ตัวอย่างเช่นถ้าเลี้ยงดูดี แม้เด็กจะเป็น psychopath (ไม่มี, ไม่เข้าใจอารมณ์ความรู้สึก) ก็สามารถใช้ชีวิตในสังคมได้ มีชีวิต มีครอบครัวที่อบอุ่น ไม่เป็นอันตรายกับสังคม
ของผมตอนเด็กก็โดนบูลลี่ แต่ยังดีที่มีเพื่อนที่โดนบูลลี่เหมือนกัน เลยไม่รู้สึกโดดเดียว
จะเศร้าหรือขำดีแม่งเอ้ย
ดีตรงไหนกันครับนั่น555
ดีเเล้วครับ ถ้าเเม่งมีคนตั้งเยอะเเล้วเขามาโฟกัสเราคนเดียว อันนี้โครตเเย่
หนักเลยอันนี้หมาหัวเน่าผู้น่าสงสาร
อารมณ์เดียวกับตอนไม่ทำการบ้านส่งแล้วมีเพื่อนที่ไม่ทำเหมือนกัน
ส่วนตัวคิดว่าพวกที่ไล่ขอโทษคนที่มีประเด็นด้วยมันคือคนที่รู้สึกผิดจริงๆอ่ะ เพราะเรื่องแบบนี้ปกติมีแค่เหยื่อนั่นแหละที่จำ ผมเลยตามหาช่องทางติดต่อไปขอโทษทีละคนเลย แม้ว่ามีแต่เรื่องเล็กๆก็ตาม ผมโดนเองเลยเข้าใจดีว่าจะเล็กน้อยมันก็ยังนรกแค่ไหน ตอนแรกเป็นอย่างที่พี่บิ๊กว่าเลยครับว่ามันแค่คนอ่อนแอจับกลุ่มกัน ผมตอบโต้เบาเกินไปเพราะสงสารจนมันไม่จบ โดนเรื่องเล็กๆทางคำพูดล้อมากกว่า จะให้ไปต่อยคนที่พูดอย่างเดียวมันก็ดูไม่โอเคอีกอ่ะ เลยไม่มีโอกาสที่2แล้ว แม้ว่าหลังจากนั้นจะโดนเบากว่าคนอื่นมาก แต่แค่นี้สะสมไปมันก็ไม่ไหวนะ เลยโบ้ยไปให้คนอื่นโดนแทน ซึ่งการชี้เป้าเอาตัวรอดนี่แหละคือนิสัยพวกบูลลี่เลย ผมไม่ต่างอะไรจากพวกมันเลย โคตรสมเพชตัวเองเลยตอนนั้น เข้าใจดีแล้วแท้ๆว่ามันรู้สึกยังไง ยังจะไปให้คนอื่นโดนด้วยอีก ยังดีที่พอโตขึ้นก็กล้าขอโทษ เพราะอะไรแบบนี้ถ้าสายเกินไปให้ขอโทษยังไงก็ดูไม่จริงใจแล้วนะ
พี่บิ๊กแนะนำถูกต้องเลย ผมก็ไม่ได้โหดอะไร แต่ก็ไม่เคยโดนบูลลี่ ใช้วิธีเดียวกัน หาวิธีเป็นเพื่อนกับพวกมันให้ได้ ให้พวกมันคิดว่าเราอยู่ระดับเดียวกับมัน ถ้ามันคิดว่าเราต่ำกว่าจะโดนแกล้งเหมือนเคสที่ เด็กเอ๋อโดนแกล้งที่พี่บิ๊กยกตัวอย่าง
เป็นตอนที่คุณภาพมากๆ
สมัย ม.2-ม.3ผมเป็นอีกคนนึงที่ถูกบูลี่หนักมากเริ่มจากล้อเรื่องรูปลักและหนักขึ้นทั้งโดนเอากระเป๋ากับรองเท้าไปซ่อน เขียนโต๊ะเรียนและโดนปล่อยข่าวเท็จเสียๆหายๆฟ้องอาจารหลายครั้ง แต่ก็ไม่มีผลอะไร จนกระทั้งวันนึงเราทนม่ไหวแล้วรวบรวมความกล้าทั้งหมดที่มีไปเดินเข้าไปต่อย เป็นโชคดีมากที่หมัดเราน่าจะโดนคางเขาพอดีแล้วชนะมา หลังจากนั้นเขาก็ไม่ยุ่งกับเราอีกเลย ตอนนั้นก็ได้คิดว่าทำไมไม่ทำตั้งแต่แรก ทำให้ได้บทเรียนเลย ว่าบางอย่างเราก็ไม่ควรยอมเกินไป
บางอย่างสรรติอาจจะไม่ใช่ทางออกเสมอไป
พี่บิ้กพูดถูกหมดเลยครับ ผมก็มาจากโรงเรียนเอกชน สเต็ปแบบนี้เลยครับ ตอนเข้าอยู่ม1/5 ถ้าไม่คิดเปลี่ยนอยู่ไม่รอดในโรงเรียนั้นคับ เคยโดนต่อยเลือดกกปากเอย โดนกระดาษพับดีดใส่หลังตอนเรียนเอย พอขึ้นม.2ผมเปลี่ยนตัวเองเลย สธรุ่น105ครับ บางทีก็คิดถ้าหากมีลูก เราควรให้เขาไปเรียนรู้กับโลกเพื่อให้อยู่เป็นแบบที่เราเจอและผ่านมาได้ด้วยตัวเอง หรือเลือกสังคมดีๆให้เขา
ตอนเด็กผมเป็นคนตัวใหญ่ แข็งแรง มักจะมีพวกบูลลี่ชอบมาท้าต่อย ไม่เคยมีผลแพ้ชนะชัดเจน แต่ผมสู้ตลอด เทียบตามพี่บ่วงว่ามีดาเมจสองแบบ กายภาพผมไม่แพ้ แต่พอเจอการบูลลี่แบบเวทย์ ล้อเลียน พูดให้คนอื่นไม่เล่นด้วย ตอนนั้นรู้สึกเหมือนโลกทอดทิ้งมากๆ ดีที่หม่าม๊าอยู่ข้างผมตลอด เลยฝืนจนเรียนจบได้
คุณแน่มาก นี่มัน เส้นทางลูกผู้ชายชัดๆ อารมณ์เหมือนหนัง อีกา คราวซีโร่ คนที่มีฉายาว่า คูโบต้า ที่พระเอก ชอบไปท้าต่อยด้วย เเต่เอาไม่ลงสะที เลยกลายเป็นเหมือนบอส ประลองฝีมือของ หัวหน้าแก็ง ร.ร ซูซูรัน
@หมัดอัคคี-บ8ข พอคุณพูดเปรียบเทียบมามันดูเท่มากเลยนะ5555
จากตัวของผมไอพวกบูลลี่เราต้องสวนมันมั้งถึงจะไม่ค่อยมายุ่ง แต่ส่วนใหญ่ที่เห็นคือมันชอบใช้กำลังกัน แบบต่อยสลับกันเพื่อจะวัดพลังหมัด และความอดทน หลังจากผ่านมาสักพักใหญ่ผมก็มานั้งคิดว่าจะแก้ปัญหายังไงโดนความคิดของผม คือ ต้องมีเวทีมวยประจำโรงเรียน เพื่อให้มันวัดพลังกันเองและก็มีที่ให้มันปลดปล่อยอารมณ์โดยความคิดนี้เป็นแบบประมาณว่าหาเรื่องต่อยกันแบบถูกกฎหมายอ่ะ ส่วนใครไปหาเรื่องนอกจากสนามมวยให้โดนโทษหนักเลยผมว่าความคิดนี้มีจะมีส่วนได้มากกว่าส่วนเสียน่ะ
ผมเห็นด้วยนะครับ สำหรับผมคือเคยอยู่มาทั้งสองจุดเลยครับ แต่คนที่ทำให้ผมเริ่มเสพความสุขจากการทำร้ายคนอื่นก็นคื่อคุณพ่อผมเองครับ แต่ท่านสอนให้ผมสู้กลับในตอนที่ผมโดนกระทำจนผมตกต่ำสุดๆ ท่านพูดว่า ทำไมลูกต้องยอมด้วยล่ะพ่อเลี้ยงลูกมาให้เป็นคนดีไม่ใช่ความรุนเเรงก็จริงแต่บางครั้งความรุนแรงมันก็เป็นโล่ป้องกันอันตรายได้ถ้าเราใช้ได้ถูกที่ ถูกเวลา อย่าไปยอมลูกสู้มันทำมันให้รู้ว่าเราเองก็สู้เหมือนกัน ส่วนจุดบูลลี่ผมมันก็โชกชนอยู่ครับ แต่ผมก็เข้าใจคนที่ยังทำและคนที่โดนทำ ผมเลยหยุดทำอะไรแบบนั่นไป แต่ผมอยาก จะเอาคำบอกของคุณพ่อของผมมาบอกเห็นมันเป็นเรื่องบูลลี่แล้วผมนึกออกนะครับใครที่มีประสบกราณืทั้งที่ดดนและฏระทำได้นะครับ เรามานั่งคุยกันดีกว่าดีกว่าเยอะ55555ความรุนเเรงไม่ใช่สไตล์ผมนะ
เป็นอีพีที่รู้สึกว่าล้มเหลวที่สุดเหมือนแค่โดนมาเยอะเลยอยากแก้แค้นเอาคืนผ่านคลิปนี้5555 พี่บ่วงดีครับมาตรฐานเดิม
เราเบียวก้าวแรกสู่สังเวียน รู้ตัวอีกทีคือชอบปกป้องพวกเนิร์ด การเบียวก้าวแรกคือฝึกชกลมเยอะมาก วิ่ง 6 กิโลได้บ่อย แต่ติดตรงที่เรามีปัญหากับพ่อตลอด รู้ตัวอีกทีคือชอบเอาพวกบูลลี่มาไว้ระบาย อัดพวกบูลลี่อ้วกแตกอย่างบ่อย 555
❤Fc พี่ๆ ทั้งสอง
เราแค่เป็นคนไม่ค่อยพูด ว่าเรา "มืงเต็มใจเกิดมาป่าววะ" เราตั้งใจเรียนก็ผิดหรอวะ....ตั้งแต่นั้นมาเราก็ได้ชื่อ "ไม่เต็มใจเกิด" หนักกว่านั้นคือ ครูฝึกสอนก็เรียกเราแบบนี้ เพราะไอ้คนที่พูดมันบอกว่าเราชื่อนี่..เพื่อนสมัยประถม ก็ไม่ค่อยคุยกับเราแล้วทุกวันนี้ รู้สึกเสียใจมาก ที่ไม่ตอบโต้มัน!
สู้ๆครับ ทุกอย่างล้วนแล้วเป็นบทเรียนให้ชีวิตเราได้เรียนรู้ครับ
ให้คิดในใจไว้ครับว่าทุกวันที่ผ่านไป เราจะค่อยๆแซงไอ้พวกเวรนี้ไปเรื่อยๆ จนวันนึงที่คุณมองกลับมาที่พวกมัน คุณกับพวกมันจะเป็นคนละระดับทางสังคมแล้วครับ
ปล่อยผ่านครับ เก็บไปคิดก็แค้นเปล่าๆ ผมเคยโดนแกล้งบ่อยมากตอนเด็กๆ แต่ตอนนี้ปล่อยวางกับพวกนั้นแล้ว เพราะบางคนก็นิสัยดีขึ้น บางคนก็แย่จนโดนไล่ออก เก็บไปคิดอีกก็แย่กับตัวเองเปล่าๆ
15.40 ตอนประถมผมก็มีเพื่อนประมาณนี้ ที่จะไม่เต็มหน่อย แล้วเขาก็จะโดนแกล้งเป็นประจำ แต่โชคดีหน่อยที่โดนแค่ในห้อง ซึ่งมีแค่เด็กผู้ชายไม่ถึง 10 คน
ข้อที่ว่าถ้าไม่แคร์เรื่องวาจา ผมไม่เห็นด้วย เพราะผมสามารถทนการดูถูกการด่าได้แบบเฉยๆ จะล้อเลี่ยนจะอะไรผมมาก็สามารถที่จะเข้าหูซ้ายทะลุหูขวาได้เลยครับ แต่ก็นั่นแหละ เหมือนพวกมันรู้ว่าวาจาไม่ได้ผล เลยมาใช้การทำร้ายร่างกายแทน และนั่นคือจุดเริ่มต้นของนรก 3 ปี ที่ผมต้องเผชิญ คุณพูดถูกเรื่องการปิดบังความอ่อนแอ่ของพวกสารเลวนี่นะ เพียงแต่อาจจะไม่ใช่การเห็นความกลัว เพราะกลัวมีคนเห็นปมด้อยในใจมากกว่าครับ อย่างไอ้สารเลวที่แกล้งผมพ่อแม่มันแยกทางกันและต้องอาศัยอยู๋กับยาย น่าจะเป็นปมเรื่องพ่อแม่ เลยต้องหาทางปกปิดข้อนี้ด้วยการทำตัวเองให้แข็งแกร่ง แต่สำหรับผมแล้วแบบนี้เรียกว่าทุเรศครับ
ผม ทนเรียน 5 ปี เรียกไม่จบหลักๆเรื่องพวกนี้แหล่ะ แต่ก็ขอบใจอดีตพวกนั้นที่ผมสะบายในวันนี้
ผลลัพธ์สำหรับคนโดนแกล้งจะมีอยู่ 2 อย่าง เท่าที่ผมเคยเจอมานะครับ 1) แสดงปฏิกิริยาจะมีผลลัพธ์อยู่ 2 อย่างคือ 1.แบบทำให้คนแกล้งได้ใจ แบบนี้จะยิ่งโดนแกล้งหนักกว่าเดิม 2.แบบโต้กลับ แบบนี้จะเป็นอย่างที่คุณบิ๊กพูดเลยครับ impact ที่มากพอจะทำให้คนแกล้งเลิก 2) เมินไปเลย จะโดนแกล้งจนกว่าจะแสดงอาการ แต่จะมีโอกาสที่คนแกล้วจะเบื่อไปก่อนมากกว่า
พูดถึงเรื่องกรณีการโดนบูลลี่ ผมก็เป็นอีกคนนึงที่เคยมีประสบการณ์เลวร้ายแบบนี้นะ แล้วก็ถ้าว่าตามตรงก็เป็นประสบการณ์ที่ 'เหี้ย' จัด ๆ เลย (ตั้งแต่ช่วงประถมต้น - ปลาย ยันช่วง ม.ต้น) ช่วงนั้นโคตรเป็นอะไรที่สภาพจิตใจโดนรุมทำร้ายเยอะมาก จนแบบว่าแทบจะกลายเป็น 'เก็บกด' ไว้ในใจแผลพวกนั้นมันส่งผลมายันช่วงตอนที่เรียนมหาลัย ถึงสังคมรอบข้างตอนนั้นจะไม่มีการบูลลี่แล้ว แต่มันยังคง 'เจ็บสัส' และ 'แค้นฝังลึก' อยู่ในใจ โดยเฉพาะพวกเศษเดนช่วงตอน ม.ต้น ที่มันทำเอาไว้ ชนิดที่ว่าถ้าไม่ติดที่เพราะที่ผ่านมาคือเจอความหนักหน่วงมาเมื่อตอนช่วงปี 2019 - 2022 ก่อนจะเริ่มค่อย ๆ เยียวยาจิตใจตัวเองตอนช่วง 2023 จนตอนนี้เริ่มมีสภาพกลับมาดี (แต่ก็ไม่สมบูรณ์) ในช่วง 2024 ถ้าว่ากันจริง ๆ ผมยังคงรู้สึกเจ็บไม่ลืมกับพวกบูลลี่อยู่เช่นเดิมยังดีที่ช่วงหลังพอเริ่มเรียนรู้วิชาปรัชญา เรียนรู้จิตวิทยา และได้ทำอะไรหลาย ๆ อย่างไปบ้างแล้ว ความรู้สึกแค้นเคืองพวกนั้นมันเลยหายไปบ้างบางส่วน แต่ถามว่าทุกวันนี้ยัง 'จำ' ได้อยู่หรือเปล่า? ก็คงเรียกว่าถ้าไม่เจอกับเหตุการณ์ที่มัน Trigger จริง ๆ ก็คงไม่มีอะไรแล้วครับปล. แต่เอาจริงนะ พูดเรื่องนี้แล้ว รู้สึกได้แต่ 'กำหมัด' ในใจชิบเลย ไม่ติดว่าพอเห็นสังคม ณ ตอนนี้ที่มัน 'รุนแรง' กว่าแต่ก่อนมาก เลยกลายเป็นว่าที่เราโดน ณ ตอนนั้นแทบจะแค่เบสิค ๆ ไปแล้ว
ของผมมันจะมีพวกที่คิดว่าเราแกล้งได้เข้ามา น่าจะช่วงๆเริ่มเข้ามัธยม ด้วยความที่อ้วนๆ แล้วตอนนั้นหนวดอะไรก็ไม่มีคงดูติ๋มๆ มันก็จะมีพวกที่อยากแกล้ง วิ่งผ่านหน้าห้องแล้วตบหัวเราแล้ววิ่งหนี ส่วนตัวไม่ชอบการเล่นตบหัวอยู่แล้ว ก็เลยตามไปที่ห้องบีบคอมันแบบตอนนั้นไว้เล็บยาว เล็บจิกคอเลือดออก แล้วก็บอกว่าอย่าเล่นแบบนี้กูไม่ชอบ หลังจากนั้นก็ไม่มีใครมาแกล้งอีกเลยจนเรียนจบ ส่วนตัวจะนิ่งๆ ไม่บูลลี่ใคร แต่ไม่ยอมถ้าใครมาทำเรา ส่วนหนึ่ง ผมมองว่าไอ้พวกนี้มันจะมองคนที่ดูไม่สู้กลับหรือยอมมันเลยได้ใจแกล้ง ซึ่งมันก็เป็นพวกขี้แพ้มีปมในใจแหล่ะไอ้พวกนี้
36:16 นี่มัน สกิลติดตัวของ พระเอกโชเน็นเลยนะเนี่ย เปลี่ยนศัตรูให้กลายเป็นมิตรด้วย
ผมว่าต้องหาคนที่เคยกระทำคนอื่นมาลองคุยดูว่า ทำเพื่ออะไร ปัญหาที่แท้จริงคืออะไร เราได้แค่ สมมุติฐาน เท่านั้นว่าเค้าน่าจะทำเพราะอะไร แต่ก็ทำให้ได้คิดตามได้หลายส่วนครับ สนุกดีครับ
พี่ข้ามประเภทบูลลี่ไปอย่างนึงครับ เป็นพวกตัวเล็กแต่มีแบล๊คตัวใหญ่ อาจเป็นเพื่อนเป็นรุ่นพี่ที่รู้จักคอยหนุนให้มัน และใช่ครับผมก็ซัดมันไปดิหลังจากนั้นพวกมาล้อมผมเต็มเลย
จากใจเด็กติ๋ม เคยเกือบเอาปืนพ่อมากราดยิงที่โรงเรียน แต่โชคดีที่พ่อผมเปลี่ยนที่ซ้อนปืน
ที่แย่สุดเลยคือแฟนผมเล่าให้ฟังว่าตอนม.1 โดนครูรุมบุลลี่นี่แหละครับ ทุกวันนี้อายุ30ยังมูฟออนไม่ได้เลย เหมือนเป็นปมใหญ่สุดในชีวิต
ผมเคยมีประสบการณ์โดนบูลลี่ช่วงมัธยมต้นหนักๆ พื้นฐานผมเป็นคนตัวเล็ก ผอม แล้วก็ยอมคน เมื่อสมัยประถมก็จะมีโดนแกล้งบ้างแหย่บ้างแต่มันเฉยๆไม่ได้ติดใจอะไร แต่ช่วงมัธยมเนี่ยของจริงเลย ช่วงม.1 ผมเป็นเด็กใช้ให้กับพวกกลุ่มเด็กเกเร ขัดขืนก็ไม่ได้ โดนต่อย แต่ช่วงม.1 ช่วงเพิ่งเริ่ม ผมยังมีความสุขดี พอม.2 โดนใช้น้อยลง แต่โดนบูลลี่ทางวาจาค่อนข้างหนัก โดนเพื่อล้อทุกวัน โดนคนที่รู้จักทุกคนล้อ ตอนนั้นก็สุขภาพจิตเริ่มแย่ในระดับนึง ยกตัวอย่างที่ผมโดนล้อคือ ไอขี้ยา ไอแห้ง ไอเยตูดแมว ถ้ามันแค่พูดแซวๆผมก็เฉยๆ แต่ผมโดนทุกวันทุกเวลาที่อยู่โรงเรียน พอม.3 นี่แหละช่วงพีคที่ทำให้ผมจมดิ่งไปกับความเครียด เศร้า ระแวง กังวล เพราะผมดันอยู่ห้องเดียวกับพวกเด็กเกเรที่ชอบใช้ผม ผมโดนเด็กเกเรรุมใช้ตลอดเวลา ถ้าขัดขืนก็โดนทำร้าย จนโดนนั้นผมโดนเรียกว่าเป็นคนใช้ หนักสุดโดนเรียกว่าทาส ผมโดนแบบนั้นทุกวันจนกระทั่งจบบม.3 แต่ขึ้นม.4 ก็โชคดีได้อยู่กับเพื่อนสนิท สังคมแวดล้อมบูลลี่น้อยลง จนผมค่อยๆสุขภาพจิตดีขึ้นแต่สิ่งที่ยังคงติดใจกับทุกวันนี้คือ ผมไม่ค่อยยอมคน มีความก้าวร้าวเวลามีเพื่อนฝากทำอะไรสักอย่าง ระแวงต้องคอยหลบหน้าพวกเด็กเกเร จะรู้สึกหัวร้อนแล้วก็ไม่สบายใจกับคำว่าติดยาหรืออะไรทำนองนี้ แต่ตอนนี้ผมก็ปี 4 แล้ว อาการทุกอย่างดีขึ้นมาก แค่ตอนนี้ที่ผมเพิ่มน้ำหนัก ออกกำลังกาย ดูแลตัวเอง ก็คงเป็นเพราะเรื่องที่ผมเล่ามา ผมทำเพื่อที่ผมจะได้ทำให้ตัวเองสบายใจว่าจะไม่มีใครกล้ามาแกล้งหรือมาล้อผมอีก
พวกบูลลี่ผมมองว่ามันเป็น ธรรมชาติ หรือ สัญชาตญาณ (หรือสันดานน่ะแหละ) ของสัตว์ที่พยายามจัดลำดับตัวเองในสังคมน่ะครับเหมือนพวกสิ่งมีชีวิตอื่นที่ใช้ชีวิตเป็นสัตว์สังคม อย่างเช่น หมา แมว ที่อายุถึงจุดๆนึงจะเริ่มหากัดกันแต่เมื่อรู้ผลออกมาว่า ชนะ หรือ แพ้ ก็จบ แทบจะไม่มีการกัดกันอีก แต่สังคมมนุษย์เราต่างกันที่เรามีกฏไม่ให้มีการทำร้ายร่างกายมันเลยไปไม่ถึงจุดจุดที่แบ่งลำดับได้เด่นชัด กลายเป็นว่าคนที่เคารพกฏสังคมกลายเป็นเนิร์ดกลายเป็นเหยื่อพวกไม่เคารพกฏรังแกแทนและอย่างข้างต้นที่บอกว่ามันเป็น ธรรมชาติ คนที่ถูกเลี้ยงดูสังคมดีเพียบพร้อมอยู่กับผู้ปกครอง คะ / ครับ มารยาทเป็นหนึ่งแต่พอมาอยู่โรงเรียนกลายเป็นหน้ามือกับหลังตีนก็มีครับผมเจอมาแล้วเพราะงั้นเด็กทุกคนไม่ใช่ผ้าขาวแน่นอนครับ ทุกคนล้วนเกิดมามีสีของตัวเองแต่การยับยั้งชั่งใจและการเคารพและปฏิบัติตามกฏของสังคมแต่ละคนมันไม่เท่ากัน
ในฐานะคนที่เคยถูกบุลลี่ แล้วก็กำลังเรียนครูอยู่คิดว่าเราจะสามารถป้องกันนักเรียนเราจากการบุลลี่ได้ยังไงบ้างครับผมอยากได้เป็นแนวทางเพราะผมเองก็ไม่อยากให้นักเรียนของตัวเองต้องเจอแบบที่ผมเคยเจอน่ะครับ
ผมเชื่อเรื่องผมไม่ไม่มีเปลือก เพราะผมมีเพื่อนที่ไม่รู้ว่าฝรั่งไม่ใช่เอเลี่ยน มันคิดว่าฝรั่งบินมาจากต่างดาว😂
ผมเคยมีเพื่อนร่วมห้องเป็นหัวโจกบูลลี่เลย มีลูกน้องเดินตามด้วย ปัจุบันติดคดี ติดคุก นี่คือผลของพวกบูลลี่ที่ผมเห็นมาครับ
ผมมองกลับไปหาคนที่เคยบลูลี่ผมตอนเด็ก ตอนนี้แม่งเป็นเด็กแว้นตลาดล่างกันหมดเลยคิดแล้วก็ขำแม่งดูถูกกูบลูลี่กูแต่ตัวเองเป็นได้แค่ขยะสังคม
ฟังพี่บ่วงเล่าเรื่องสัญชาติญาณตัวต่อไข่ในแมลงสาบตอนกินข้าวพอดี เป็นมื้ออิ่มอร่อยไปอีกมื้อ 😂
ถ้ามีพ่อแม่ที่ดี ผมว่าโอกาสเป็นบลูลี่ คือ0ครับ ต้องเป็นคนที่เคยโดนมาเยอะๆ ถึงจะเป็นได้
เอาจริงน่ะทุกวันนี้แค่นึกย้อนไปยังแค้นอยู่เลย ยิ่งช่วงที่โดนหนักคือยังมีฝันเป็นช่วงๆด้วยน่ะคือตอนโดนไปตอนนั้นสมัย มหาลัยด้วยน่ะโดนทั้งรุ่นพี่และรุ่นเดียวกันเพื่อนที่อุส่าไปช่วยมันก็โดนมาอีกช่วงนั้นคือแค้นสุเล่ะ ตอนนนั้นคืออยู่ต่อไม่ไหวจนต้องลาออกจากมหาลัยเลยอ่ะ เสียเวลาชีวิตไป ปีครึ่ง ให้กลับมาในสภาพจิตใจปกติอ่ะ แล้วคือแบบแค่คิดไปยังแค้นสุดๆอยู่เลย อยากปล่อยวางน่ะแต่แบบไม่ไหวจริงอ่ะๆ เสียทั้งเวลาและเงินอ่ะ ไหนจะอนาคตด้วยแม่ง ทุกวันนี้ยังคิดอยู่เลยว่าถ้าเจอแล้วตัวเราจะเก็บความรู้สึกได้รึป่าว แล้วคือไรรู้ป่ะขนาดอาจารใน ม.ยังไม่สนใจอ่ะ กูโดนกดน้ำจบน้ำแทบตายมา3ครั้งในวันเดียวเลยน่ะเว้ยไอเชี่ยโดนลากเไปเลยอ่ะ แล้วพอจะลาออกมาแล้วพูดดีด้วยตนนั้นคือยิ่งแค้นมากๆเลย 555 ตอนนี้ก็ 6 ปีล่ะมั้ง อย่าให้เจอน่ะแค้นมากทุกตัวเลย
ชอบฟังน้องๆ มาก จากคนอายุ 57❤❤
ทุกวันนี้ก็ไม่เคยลืมการกระทำ พวกนั้นเลยนะ อาจจะจำเนื้อหาไม่ได้ แต่ไม่เคยลืมความรู้สึกหรือเกลียดชังสิ่งเหล่านั้นเลย
Day 1 asking for oiled up bigboung
ทำงานกูยังเจออยู่เลยบุลลี่
Society... Society!!!...... Call me gay.
สมัยเรียนเคยโดนนักเรียนเจ้าถิ่นหาเรื่อง แต่ผมทำเป็นเหมือนเจ้าถิ่นเป็นอากาศธาตุ ไม่สนใจ ไม่ตอบโต้ หลังจากนั้นมันก็ไม่มายุ่งกับผมอีกเลย
ผมเห็นด้วยกับการที่เด็กเกิดมาแล้ว ดำ ยิ่งปล่อยยิ่งดำ
Antisocial Personality Disorder หรือ ASPD เกิดมา แล้วเขาร้ายมาแต่เกิดพี่ สัญชาติญาณของจริง
ตอนเด็กเคยโดนครูสอนกีตาร์ในโรงเรียนสมัยประถม-มัธยมต้นท่านนึงด่าว่าโง่และไม่มีอนาคตเล่นโน้ตง่าย ๆ แค่นี้ก็ไม่เป็นทั้วที่เขาก็ไม่สอนอะไรเลย และเป็นอย่างนี้กับเกือบทุกคนในห้อง เว้นแต่คนที่เล่นเก่งเพราะเรียนพิเศษกับเขาเขาจะพูดดีมาก วันนั้นผมรู้สึกเหมือนเสียตัวตนไปในช่วงประถม คิดว่าตนโง่และทำอะไรไม่ได้ในชีวิตเป็นปมมาถึงทุกวันนี้ แต่ดีหน่อยที่ผมเลือกที่จะไปเรียนกีตาร์ที่สถาบันกวดวิชาแห่งนึงหลังจากเรื่องนี้เกือบ 2ปี เพราะพยายามสู้กับความคิดที่ว่าตัวเองทำไม่ได้ บุลลี่คนนี้ถึงไม่ทำร้ายร่างกายแต่ก็มีผลกับชีวิตผมมาก ๆ และทำให้ผมต้องกลับไปดูอยู่ตลอดว่าเขาเป็นอย่างไรและจำเขาไม่เคยลืม เมื่อโควิดที่ผ่านมาเขารถชนเสียชีวิตข่าวดังในเมืองผม จบชีวิตด้วยการเป็นครูที่ไม่มีลูกศิษย์ไปร่วมไว้อาลัยเขาเลยสักคน
44:35 ผมเจอหลายตัวไoลูกการีส่งมาเกิด ดังเมื่อไหร่เจอกุแฉ ไoเปด
ถ้า bullying แก้ไม่ได้ งั้น school shooting ก็ไม่ผิด
อ่อ ฆ่าคนที่ไม่เกี่ยวคือไม่ผิด
@@mosymossy1921 ถ้าจะให้ตอบตรงๆ ใช่ครับ ไม่ผิด ถ้าไม่มี bully แต่แรก ก็ไม่มีใครตาย
@@mosymossy1921 ถ้าไม่อยากให้เกิด school shooting ก็แค่ไม่ bully เท่านั้นเองครับ เหมือนกับการที่พี่บ่วง เสนอให้เฆี่ยนตีทุกคนที่ทิ้งขยะไม่เป็นที่ ถ้าทิ้งขยะถูกที่ ก็ไม่โดนตีอ่ะ มันง่ายแค่นี้เองครับจริงๆ เราไม่จำเป็นจะต้องมาเถียงกันว่าถูกหรือผิด สุดท้ายมันจะเกิดขึ้นเรื่อยๆ จนว่าจะไม่มี bully อีกเลย
ถ้าไม่อยากให้เหตุ school shooting เกิด ก็แค่ไม่ bully เท่านั้นเอง ก็เหมือนว่า ถ้าไม่อยากติดคุก ก็แค่ไม่ทำผิดกฎหมาย ก็แค่นั้นอ่ะจริงๆ เราไม่จำเป็นที่จะต้องมานั่งหาคำตอบว่า ถูกหรือผิด สุดท้าย มันก็จะเกิดขึ้นเรื่อยๆ จนว่าการ bully จะหายไปสิ่งที่คุณทำได้ เพื่อที่จะให้สถานการณ์ดีขึ้นคือ คุณทำดีกับคนที่โดน bullyให้มากๆ เพื่อให้เค้ากลับมาทบทวนสิ่งที่ตัวเองกำลังจะทำ หรือไม่ อย่างน้อย เค้าจะได้ไว้ชีวิตคุณ เราทำได้แค่นี้แหละ
บูลลี่ก็ไปบูลลี่คนที่ไม่เกี่ยว แต่ไปทำคนที่ไม่เกี่ยวตายอันนี้มันเกินไป เช่น เด็กอนุบาลกินนมอยู่ ๆ โดนยิง พ่อแม่ทำงานอยู่ไม่รู้เรื่อง แต่ห้ามกันไม่ได้หรอก กระสุนที่คุณยิงออกไป มันจองที่บนหัวคุณไว้แล้วหลังจากคุณยิงนัดแรก
ผมคงเป็นบูลลี่ประเภทสุดท้ายที่พี่บิ๊กยกตัวอย่างมา ตอนประถมผมถูกบูลลี่ เกี่ยวกับรูปลักษณ์ ผมโดนบ่อย จนเป็นปมในใจจนถึงทุกวันนี้ เเต่วิธีที่ผมรับมือกับมัน คือการบูลลี่คนที่อ่อนแอกว่า ผมไม่ชอบคนบูลลี่ เเต่ผมกลับกลายเป็นบูลลี่ซะเอง เพื่อเเลกมากับความสบายใจปลอมๆ ผมมองว่าการเจอเเรงกดดันรอบด้าน ไม่ว่าจากครอบครัว การเรียน เเละการถูกบูลลี่จากคนอื่น มันหนักมากสำหรับผมในวัย11ปี เเต่ที่น่าสมเพชคือ ผมกลายเป็นสิ่งที่ผมเกลียดซะอย่างนั้น พอเริ่มโตขึ้นเรื่อยๆ เข้าใจความทุกข์ของผู้คนมากขึ้น เรื่องราวในอดีตมันตามหลอกหลอน ทิ่มเเทง มาตลอด ผมมักจะรู้สึกดิ่งมาก เมื่อนึกถึงเหตุการณ์พวกนั้น ที่ผมทำให้คนอื่นต้องเจ็บปวดด้วยคำพูดจากปากพล่อยๆของผม ผมรู้สึกผิดมาก พูดกับตัวเองว่า "เมื่อก่อนกูทำอะไรลงไปวะเนี้ย" อยากจะขอโทษทุกคน เคยคิดเเม้กระทั้งว่า หากมีเครื่องย้อนเวลากลับไปได้ ผมอยากปฏิบัตกับคนเหล่านั้นดีๆ พูดดีๆ เเละเป็นเพื่อนที่ดีให้กับพวกเขา
ปัจจุบันผมกลายเป็นคนชอบอยู่คนเดียว เป็นคนไม่กล้าตัดสินใจ เพราะไม่มีความมั่นใจในตัวเอง ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร ไม่ค่อยสร้างปฏิสัมพันธ์กับใคร เพราะกลัวว่าคำพูดผมจะไปทำร้ายใครอีก เเละเพราะการย้อนเวลาไม่มีอยู่จริง ผมเลยเลือกที่จะอยู่อย่างเงียบๆเเละพยายามไม่ตัดสินใคร มองโลกที่กำลังหมุนไป โดยไม่มีผมร่วมอยู่ในนั้นจะดีกว่า.
ปล.ขอบคุณที่มีช่องนี้เกิดขึ้นมา กดติดตามเเล้วนะครับ แฟนคลับจากhsinchu
เคยเจอครูบลูลี่ตอนเด็กๆ ทุกวันนี้ยังจำได้เสมอและไม่เคยอยากจะให้อภัยเขา เราเป็นแค่เด็กบ้านนอกคนนึงที่ไม่ทันคนไม่รู้จักโทรสับที่ผึ้งย้ายเข้ามาเรียนในกรุง แต่กลับโดนครูบลูลี่ ทั้งๆที่เราก็เป็นแค่เด็กผู้หญิงคนนึกที่อยู่แค่ ป.4 แล้วเจอแบบนี้ตลอดจนถึง ป.5 ถ้าเขาสอนถึง ป.6 เราก็คงเจอแบบนั้นจนถึง ป.6 เวลาเรียนตอนเรียนก็เรียกแต่เรา พอตอบไม่ได้ก็ค่อยล้อเราทำให้เพื่อนทั้งห้องหัวเหราะเรา แถมเอาเราไปล้อในห้องอื่น ที่เรารู้เพราะมีนักเรียนห้องอื่นมาถามเพื่อนเราทั้งๆที่เราอยู่ข้างๆ มาถามเพื่อนในห้องว่าใช่คนนี้ที่อาจาร์ยคนนั้นเรียกเราว่า"เฉิ่มเบาะ" มันทำให้เราไม่อยากไปเรียน ด้วยความที่พ่อแม่อายุห่างกับเราเยอะ และค่อนข้างหัวโบราณ มันเลยค่อนข้างยากที่จะพูดคุยกับเขา พอเราขึ้นมอปลายเห็นว่าเขา เกษียณ แถมเป็นโรคมะเร็งระยะเท่าไรไม่รู้ ในใจเราไม่เคยสงสารเขาเลยแถมสะใจด้วยช้ำ อาจจะฟังดูแย่ แต่มันจำฝั่งใจจริงๆ ทุกวันนี้ก็ยังไม่เข้าใจว่าเขาทำแบบนั้นกับเราทำไม
ส่วนตัวเคยโดนแบบโหดร้ายมากสมัยเด็กๆ ซึ่งมองย้อนกลับไปไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นความคิดเด็กที่ทำกับเด็กได้ ยังโชคดีที่หลังจากนั้นเกือบสิบปี ได้กลับมาเจอกันเขายกมือไหว้ขอโทษสิ่งที่เขาทำมาตอนนั้น
ประสบการณ์ของผมนะ พวกเคยบูลลี่ผมมาขอโทษผ่านตัวเเทนไม่ขอโทษตรงๆ สุดท้ายเหมือนเดิม "หน้าไหว้หลังหลอก" สร้างภาพในอินเตอร์เน็ตเป็นเด็กเรียน คนนอกก็ชื่นชน นิททาคนอื่น เเซะผมที่ทำได้ดีกว่า วนๆกับประโยคปรอบใจของมัน คือ ถ้าฉันมีเเบบนายบ้าง ก็ทำได้เหมือนกัน
ความคิดส่วนตัวผมนะ เด็กเกิดมามี 3 ประเภท 1.เป็นเด็กประเภทแบบโตไปเป็นคนแบบไหนอยู่ที่สภาพแวดล้อมตอนเด็กเป็นยังไง 2. ต่อให้อยู่สภาพแวดล้อมที่ดีแค่ไหนโตมาก็คิดไม่เป็นไม่รับอะไรเลยเวลามีคนสอน 3.เด็กประเภทนี้หายากและพ่อแม่หลายๆคนอยากให้ลูกเป็นแบบนี้คือ เด็กคิดเองเป็นและต่อให้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่แย่แค่ไหนเด็กประเภทนี้จะไม่มีความคิดเอาเปรียบคนอื่น
เชี่ยยย พี่บิกพูดถึงชตากรรมของพวกบูลลี่ได้โครตดีย์!!!
บูลลี่สำหรับไทย ไม่มีใครยอมรับ เพราะถูกควบคุมมาร้อยปี มาจาก hazing เริ่มจากไพร่จุลา เห่ามาร้อยปี ทุกตัวตามหมด เพราะถูก psychic ยิ่งกว่าฝังชิพว่า จุลา จุลา จุลา ตอบในฐานะ KING นะ ไพร่จุลาทั้งหลาย ที่เหลือแต่แสนรู้ตามฝรั่ง
ชอบที่พี่ซอยคลิปแบบนี้มากคับ มันไม่ยาวเกินไป ผมสมาธิสั้นมากคับ แต่ผมดู69 podcastได่ปกติ😂😂😂
จริงๆ Study ใหม่ๆหลายที่บอกตรงกันว่าเด็กไม่ใช่ผ้าขาวอย่างที่เราเข้าใจ เด็กมีสีมาอยู่แล้วจริงๆแต่การเลี้ยงดูและสังคมมีส่วนเช่นกัน ตัวอย่างเช่นถ้าเลี้ยงดูดี แม้เด็กจะเป็น psychopath (ไม่มี, ไม่เข้าใจอารมณ์ความรู้สึก) ก็สามารถใช้ชีวิตในสังคมได้ มีชีวิต มีครอบครัวที่อบอุ่น ไม่เป็นอันตรายกับสังคม
ของผมตอนเด็กก็โดนบูลลี่ แต่ยังดีที่มีเพื่อนที่โดนบูลลี่เหมือนกัน เลยไม่รู้สึกโดดเดียว
จะเศร้าหรือขำดีแม่งเอ้ย
ดีตรงไหนกันครับนั่น555
ดีเเล้วครับ ถ้าเเม่งมีคนตั้งเยอะเเล้วเขามาโฟกัสเราคนเดียว อันนี้โครตเเย่
หนักเลยอันนี้หมาหัวเน่าผู้น่าสงสาร
อารมณ์เดียวกับตอนไม่ทำการบ้านส่งแล้วมีเพื่อนที่ไม่ทำเหมือนกัน
ส่วนตัวคิดว่าพวกที่ไล่ขอโทษคนที่มีประเด็นด้วยมันคือคนที่รู้สึกผิดจริงๆอ่ะ เพราะเรื่องแบบนี้ปกติมีแค่เหยื่อนั่นแหละที่จำ ผมเลยตามหาช่องทางติดต่อไปขอโทษทีละคนเลย แม้ว่ามีแต่เรื่องเล็กๆก็ตาม ผมโดนเองเลยเข้าใจดีว่าจะเล็กน้อยมันก็ยังนรกแค่ไหน ตอนแรกเป็นอย่างที่พี่บิ๊กว่าเลยครับว่ามันแค่คนอ่อนแอจับกลุ่มกัน ผมตอบโต้เบาเกินไปเพราะสงสารจนมันไม่จบ โดนเรื่องเล็กๆทางคำพูดล้อมากกว่า จะให้ไปต่อยคนที่พูดอย่างเดียวมันก็ดูไม่โอเคอีกอ่ะ เลยไม่มีโอกาสที่2แล้ว แม้ว่าหลังจากนั้นจะโดนเบากว่าคนอื่นมาก แต่แค่นี้สะสมไปมันก็ไม่ไหวนะ เลยโบ้ยไปให้คนอื่นโดนแทน ซึ่งการชี้เป้าเอาตัวรอดนี่แหละคือนิสัยพวกบูลลี่เลย ผมไม่ต่างอะไรจากพวกมันเลย โคตรสมเพชตัวเองเลยตอนนั้น เข้าใจดีแล้วแท้ๆว่ามันรู้สึกยังไง ยังจะไปให้คนอื่นโดนด้วยอีก ยังดีที่พอโตขึ้นก็กล้าขอโทษ เพราะอะไรแบบนี้ถ้าสายเกินไปให้ขอโทษยังไงก็ดูไม่จริงใจแล้วนะ
พี่บิ๊กแนะนำถูกต้องเลย ผมก็ไม่ได้โหดอะไร แต่ก็ไม่เคยโดนบูลลี่ ใช้วิธีเดียวกัน หาวิธีเป็นเพื่อนกับพวกมันให้ได้ ให้พวกมันคิดว่าเราอยู่ระดับเดียวกับมัน ถ้ามันคิดว่าเราต่ำกว่าจะโดนแกล้งเหมือนเคสที่ เด็กเอ๋อโดนแกล้งที่พี่บิ๊กยกตัวอย่าง
เป็นตอนที่คุณภาพมากๆ
สมัย ม.2-ม.3ผมเป็นอีกคนนึงที่ถูกบูลี่หนักมากเริ่มจากล้อเรื่องรูปลักและหนักขึ้นทั้งโดนเอากระเป๋ากับรองเท้าไปซ่อน เขียนโต๊ะเรียนและโดนปล่อยข่าวเท็จเสียๆหายๆฟ้องอาจารหลายครั้ง แต่ก็ไม่มีผลอะไร จนกระทั้งวันนึงเราทนม่ไหวแล้วรวบรวมความกล้าทั้งหมดที่มีไปเดินเข้าไปต่อย เป็นโชคดีมากที่หมัดเราน่าจะโดนคางเขาพอดีแล้วชนะมา หลังจากนั้นเขาก็ไม่ยุ่งกับเราอีกเลย ตอนนั้นก็ได้คิดว่าทำไมไม่ทำตั้งแต่แรก ทำให้ได้บทเรียนเลย ว่าบางอย่างเราก็ไม่ควรยอมเกินไป
บางอย่างสรรติอาจจะไม่ใช่ทางออกเสมอไป
พี่บิ้กพูดถูกหมดเลยครับ ผมก็มาจากโรงเรียนเอกชน สเต็ปแบบนี้เลยครับ ตอนเข้าอยู่ม1/5 ถ้าไม่คิดเปลี่ยนอยู่ไม่รอดในโรงเรียนั้นคับ เคยโดนต่อยเลือดกกปากเอย โดนกระดาษพับดีดใส่หลังตอนเรียนเอย พอขึ้นม.2ผมเปลี่ยนตัวเองเลย สธรุ่น105ครับ บางทีก็คิดถ้าหากมีลูก เราควรให้เขาไปเรียนรู้กับโลกเพื่อให้อยู่เป็นแบบที่เราเจอและผ่านมาได้ด้วยตัวเอง หรือเลือกสังคมดีๆให้เขา
ตอนเด็กผมเป็นคนตัวใหญ่ แข็งแรง มักจะมีพวกบูลลี่ชอบมาท้าต่อย ไม่เคยมีผลแพ้ชนะชัดเจน แต่ผมสู้ตลอด เทียบตามพี่บ่วงว่ามีดาเมจสองแบบ กายภาพผมไม่แพ้ แต่พอเจอการบูลลี่แบบเวทย์ ล้อเลียน พูดให้คนอื่นไม่เล่นด้วย ตอนนั้นรู้สึกเหมือนโลกทอดทิ้งมากๆ ดีที่หม่าม๊าอยู่ข้างผมตลอด เลยฝืนจนเรียนจบได้
คุณแน่มาก นี่มัน เส้นทางลูกผู้ชายชัดๆ อารมณ์เหมือนหนัง อีกา คราวซีโร่ คนที่มีฉายาว่า คูโบต้า ที่พระเอก ชอบไปท้าต่อยด้วย เเต่เอาไม่ลงสะที เลยกลายเป็นเหมือนบอส ประลองฝีมือของ หัวหน้าแก็ง ร.ร ซูซูรัน
@หมัดอัคคี-บ8ข พอคุณพูดเปรียบเทียบมามันดูเท่มากเลยนะ5555
จากตัวของผมไอพวกบูลลี่เราต้องสวนมันมั้งถึงจะไม่ค่อยมายุ่ง แต่ส่วนใหญ่ที่เห็นคือมันชอบใช้กำลังกัน แบบต่อยสลับกันเพื่อจะวัดพลังหมัด และความอดทน หลังจากผ่านมาสักพักใหญ่ผมก็มานั้งคิดว่าจะแก้ปัญหายังไง
โดนความคิดของผม คือ ต้องมีเวทีมวยประจำโรงเรียน เพื่อให้มันวัดพลังกันเองและก็มีที่ให้มันปลดปล่อยอารมณ์
โดยความคิดนี้เป็นแบบประมาณว่าหาเรื่องต่อยกันแบบถูกกฎหมายอ่ะ ส่วนใครไปหาเรื่องนอกจากสนามมวยให้โดนโทษหนักเลย
ผมว่าความคิดนี้มีจะมีส่วนได้มากกว่าส่วนเสียน่ะ
บูลลี่สำหรับไทย ไม่มีใครยอมรับ เพราะถูกควบคุมมาร้อยปี มาจาก hazing เริ่มจากไพร่จุลา เห่ามาร้อยปี ทุกตัวตามหมด เพราะถูก psychic ยิ่งกว่าฝังชิพว่า จุลา จุลา จุลา ตอบในฐานะ KING นะ ไพร่จุลาทั้งหลาย ที่เหลือแต่แสนรู้ตามฝรั่ง
ผมเห็นด้วยนะครับ สำหรับผมคือเคยอยู่มาทั้งสองจุดเลยครับ แต่คนที่ทำให้ผมเริ่มเสพความสุขจากการทำร้ายคนอื่นก็นคื่อคุณพ่อผมเองครับ แต่ท่านสอนให้ผมสู้กลับในตอนที่ผมโดนกระทำจนผมตกต่ำสุดๆ ท่านพูดว่า ทำไมลูกต้องยอมด้วยล่ะพ่อเลี้ยงลูกมาให้เป็นคนดีไม่ใช่ความรุนเเรงก็จริงแต่บางครั้งความรุนแรงมันก็เป็นโล่ป้องกันอันตรายได้ถ้าเราใช้ได้ถูกที่ ถูกเวลา อย่าไปยอมลูกสู้มันทำมันให้รู้ว่าเราเองก็สู้เหมือนกัน ส่วนจุดบูลลี่ผมมันก็โชกชนอยู่ครับ แต่ผมก็เข้าใจคนที่ยังทำและคนที่โดนทำ ผมเลยหยุดทำอะไรแบบนั่นไป แต่ผมอยาก จะเอาคำบอกของคุณพ่อของผมมาบอกเห็นมันเป็นเรื่องบูลลี่แล้วผมนึกออกนะครับ
ใครที่มีประสบกราณืทั้งที่ดดนและฏระทำได้นะครับ เรามานั่งคุยกันดีกว่าดีกว่าเยอะ55555ความรุนเเรงไม่ใช่สไตล์ผมนะ
เป็นอีพีที่รู้สึกว่าล้มเหลวที่สุดเหมือนแค่โดนมาเยอะเลยอยากแก้แค้นเอาคืนผ่านคลิปนี้5555 พี่บ่วงดีครับมาตรฐานเดิม
เราเบียวก้าวแรกสู่สังเวียน รู้ตัวอีกทีคือชอบปกป้องพวกเนิร์ด การเบียวก้าวแรกคือฝึกชกลมเยอะมาก วิ่ง 6 กิโลได้บ่อย แต่ติดตรงที่เรามีปัญหากับพ่อตลอด รู้ตัวอีกทีคือชอบเอาพวกบูลลี่มาไว้ระบาย อัดพวกบูลลี่อ้วกแตกอย่างบ่อย 555
❤Fc พี่ๆ ทั้งสอง
เราแค่เป็นคนไม่ค่อยพูด ว่าเรา "มืงเต็มใจเกิดมาป่าววะ" เราตั้งใจเรียนก็ผิดหรอวะ....
ตั้งแต่นั้นมาเราก็ได้ชื่อ "ไม่เต็มใจเกิด" หนักกว่านั้นคือ ครูฝึกสอนก็เรียกเราแบบนี้ เพราะไอ้คนที่พูดมันบอกว่าเราชื่อนี่..
เพื่อนสมัยประถม ก็ไม่ค่อยคุยกับเราแล้ว
ทุกวันนี้ รู้สึกเสียใจมาก ที่ไม่ตอบโต้มัน!
สู้ๆครับ ทุกอย่างล้วนแล้วเป็นบทเรียนให้ชีวิตเราได้เรียนรู้ครับ
บูลลี่สำหรับไทย ไม่มีใครยอมรับ เพราะถูกควบคุมมาร้อยปี มาจาก hazing เริ่มจากไพร่จุลา เห่ามาร้อยปี ทุกตัวตามหมด เพราะถูก psychic ยิ่งกว่าฝังชิพว่า จุลา จุลา จุลา ตอบในฐานะ KING นะ ไพร่จุลาทั้งหลาย ที่เหลือแต่แสนรู้ตามฝรั่ง
ให้คิดในใจไว้ครับว่าทุกวันที่ผ่านไป เราจะค่อยๆแซงไอ้พวกเวรนี้ไปเรื่อยๆ จนวันนึงที่คุณมองกลับมาที่พวกมัน คุณกับพวกมันจะเป็นคนละระดับทางสังคมแล้วครับ
ปล่อยผ่านครับ เก็บไปคิดก็แค้นเปล่าๆ ผมเคยโดนแกล้งบ่อยมากตอนเด็กๆ แต่ตอนนี้ปล่อยวางกับพวกนั้นแล้ว เพราะบางคนก็นิสัยดีขึ้น บางคนก็แย่จนโดนไล่ออก เก็บไปคิดอีกก็แย่กับตัวเองเปล่าๆ
15.40 ตอนประถมผมก็มีเพื่อนประมาณนี้ ที่จะไม่เต็มหน่อย แล้วเขาก็จะโดนแกล้งเป็นประจำ แต่โชคดีหน่อยที่โดนแค่ในห้อง ซึ่งมีแค่เด็กผู้ชายไม่ถึง 10 คน
ข้อที่ว่าถ้าไม่แคร์เรื่องวาจา ผมไม่เห็นด้วย เพราะผมสามารถทนการดูถูกการด่าได้แบบเฉยๆ จะล้อเลี่ยนจะอะไรผมมาก็สามารถที่จะเข้าหูซ้ายทะลุหูขวาได้เลยครับ แต่ก็นั่นแหละ เหมือนพวกมันรู้ว่าวาจาไม่ได้ผล เลยมาใช้การทำร้ายร่างกายแทน และนั่นคือจุดเริ่มต้นของนรก 3 ปี ที่ผมต้องเผชิญ
คุณพูดถูกเรื่องการปิดบังความอ่อนแอ่ของพวกสารเลวนี่นะ เพียงแต่อาจจะไม่ใช่การเห็นความกลัว เพราะกลัวมีคนเห็นปมด้อยในใจมากกว่าครับ อย่างไอ้สารเลวที่แกล้งผมพ่อแม่มันแยกทางกันและต้องอาศัยอยู๋กับยาย น่าจะเป็นปมเรื่องพ่อแม่ เลยต้องหาทางปกปิดข้อนี้ด้วยการทำตัวเองให้แข็งแกร่ง แต่สำหรับผมแล้วแบบนี้เรียกว่าทุเรศครับ
ผม ทนเรียน 5 ปี เรียกไม่จบหลักๆเรื่องพวกนี้แหล่ะ แต่ก็ขอบใจอดีตพวกนั้นที่ผมสะบายในวันนี้
ผลลัพธ์สำหรับคนโดนแกล้งจะมีอยู่ 2 อย่าง เท่าที่ผมเคยเจอมานะครับ
1) แสดงปฏิกิริยาจะมีผลลัพธ์อยู่ 2 อย่างคือ 1.แบบทำให้คนแกล้งได้ใจ แบบนี้จะยิ่งโดนแกล้งหนักกว่าเดิม 2.แบบโต้กลับ แบบนี้จะเป็นอย่างที่คุณบิ๊กพูดเลยครับ impact ที่มากพอจะทำให้คนแกล้งเลิก
2) เมินไปเลย จะโดนแกล้งจนกว่าจะแสดงอาการ แต่จะมีโอกาสที่คนแกล้วจะเบื่อไปก่อนมากกว่า
บูลลี่สำหรับไทย ไม่มีใครยอมรับ เพราะถูกควบคุมมาร้อยปี มาจาก hazing เริ่มจากไพร่จุลา เห่ามาร้อยปี ทุกตัวตามหมด เพราะถูก psychic ยิ่งกว่าฝังชิพว่า จุลา จุลา จุลา ตอบในฐานะ KING นะ ไพร่จุลาทั้งหลาย ที่เหลือแต่แสนรู้ตามฝรั่ง
พูดถึงเรื่องกรณีการโดนบูลลี่ ผมก็เป็นอีกคนนึงที่เคยมีประสบการณ์เลวร้ายแบบนี้นะ แล้วก็ถ้าว่าตามตรงก็เป็นประสบการณ์ที่ 'เหี้ย' จัด ๆ เลย (ตั้งแต่ช่วงประถมต้น - ปลาย ยันช่วง ม.ต้น) ช่วงนั้นโคตรเป็นอะไรที่สภาพจิตใจโดนรุมทำร้ายเยอะมาก จนแบบว่าแทบจะกลายเป็น 'เก็บกด' ไว้ในใจ
แผลพวกนั้นมันส่งผลมายันช่วงตอนที่เรียนมหาลัย ถึงสังคมรอบข้างตอนนั้นจะไม่มีการบูลลี่แล้ว แต่มันยังคง 'เจ็บสัส' และ 'แค้นฝังลึก' อยู่ในใจ โดยเฉพาะพวกเศษเดนช่วงตอน ม.ต้น ที่มันทำเอาไว้ ชนิดที่ว่าถ้าไม่ติดที่เพราะที่ผ่านมาคือเจอความหนักหน่วงมาเมื่อตอนช่วงปี 2019 - 2022 ก่อนจะเริ่มค่อย ๆ เยียวยาจิตใจตัวเองตอนช่วง 2023 จนตอนนี้เริ่มมีสภาพกลับมาดี (แต่ก็ไม่สมบูรณ์) ในช่วง 2024 ถ้าว่ากันจริง ๆ ผมยังคงรู้สึกเจ็บไม่ลืมกับพวกบูลลี่อยู่เช่นเดิม
ยังดีที่ช่วงหลังพอเริ่มเรียนรู้วิชาปรัชญา เรียนรู้จิตวิทยา และได้ทำอะไรหลาย ๆ อย่างไปบ้างแล้ว ความรู้สึกแค้นเคืองพวกนั้นมันเลยหายไปบ้างบางส่วน แต่ถามว่าทุกวันนี้ยัง 'จำ' ได้อยู่หรือเปล่า? ก็คงเรียกว่าถ้าไม่เจอกับเหตุการณ์ที่มัน Trigger จริง ๆ ก็คงไม่มีอะไรแล้วครับ
ปล. แต่เอาจริงนะ พูดเรื่องนี้แล้ว รู้สึกได้แต่ 'กำหมัด' ในใจชิบเลย ไม่ติดว่าพอเห็นสังคม ณ ตอนนี้ที่มัน 'รุนแรง' กว่าแต่ก่อนมาก เลยกลายเป็นว่าที่เราโดน ณ ตอนนั้นแทบจะแค่เบสิค ๆ ไปแล้ว
บูลลี่สำหรับไทย ไม่มีใครยอมรับ เพราะถูกควบคุมมาร้อยปี มาจาก hazing เริ่มจากไพร่จุลา เห่ามาร้อยปี ทุกตัวตามหมด เพราะถูก psychic ยิ่งกว่าฝังชิพว่า จุลา จุลา จุลา ตอบในฐานะ KING นะ ไพร่จุลาทั้งหลาย ที่เหลือแต่แสนรู้ตามฝรั่ง
ของผมมันจะมีพวกที่คิดว่าเราแกล้งได้เข้ามา น่าจะช่วงๆเริ่มเข้ามัธยม ด้วยความที่อ้วนๆ แล้วตอนนั้นหนวดอะไรก็ไม่มีคงดูติ๋มๆ มันก็จะมีพวกที่อยากแกล้ง วิ่งผ่านหน้าห้องแล้วตบหัวเราแล้ววิ่งหนี ส่วนตัวไม่ชอบการเล่นตบหัวอยู่แล้ว ก็เลยตามไปที่ห้องบีบคอมันแบบตอนนั้นไว้เล็บยาว เล็บจิกคอเลือดออก แล้วก็บอกว่าอย่าเล่นแบบนี้กูไม่ชอบ หลังจากนั้นก็ไม่มีใครมาแกล้งอีกเลยจนเรียนจบ ส่วนตัวจะนิ่งๆ ไม่บูลลี่ใคร แต่ไม่ยอมถ้าใครมาทำเรา ส่วนหนึ่ง ผมมองว่าไอ้พวกนี้มันจะมองคนที่ดูไม่สู้กลับหรือยอมมันเลยได้ใจแกล้ง ซึ่งมันก็เป็นพวกขี้แพ้มีปมในใจแหล่ะไอ้พวกนี้
36:16 นี่มัน สกิลติดตัวของ พระเอกโชเน็นเลยนะเนี่ย เปลี่ยนศัตรูให้กลายเป็นมิตรด้วย
ผมว่าต้องหาคนที่เคยกระทำคนอื่นมาลองคุยดูว่า ทำเพื่ออะไร ปัญหาที่แท้จริงคืออะไร เราได้แค่ สมมุติฐาน เท่านั้นว่าเค้าน่าจะทำเพราะอะไร แต่ก็ทำให้ได้คิดตามได้หลายส่วนครับ สนุกดีครับ
พี่ข้ามประเภทบูลลี่ไปอย่างนึงครับ เป็นพวกตัวเล็กแต่มีแบล๊คตัวใหญ่ อาจเป็นเพื่อนเป็นรุ่นพี่ที่รู้จักคอยหนุนให้มัน และใช่ครับผมก็ซัดมันไปดิหลังจากนั้นพวกมาล้อมผมเต็มเลย
จากใจเด็กติ๋ม เคยเกือบเอาปืนพ่อมากราดยิงที่โรงเรียน แต่โชคดีที่พ่อผมเปลี่ยนที่ซ้อนปืน
ที่แย่สุดเลยคือแฟนผมเล่าให้ฟังว่าตอนม.1 โดนครูรุมบุลลี่นี่แหละครับ ทุกวันนี้อายุ30ยังมูฟออนไม่ได้เลย เหมือนเป็นปมใหญ่สุดในชีวิต
ผมเคยมีประสบการณ์โดนบูลลี่ช่วงมัธยมต้นหนักๆ พื้นฐานผมเป็นคนตัวเล็ก ผอม แล้วก็ยอมคน เมื่อสมัยประถมก็จะมีโดนแกล้งบ้างแหย่บ้างแต่มันเฉยๆไม่ได้ติดใจอะไร แต่ช่วงมัธยมเนี่ยของจริงเลย ช่วงม.1 ผมเป็นเด็กใช้ให้กับพวกกลุ่มเด็กเกเร ขัดขืนก็ไม่ได้ โดนต่อย แต่ช่วงม.1 ช่วงเพิ่งเริ่ม ผมยังมีความสุขดี พอม.2 โดนใช้น้อยลง แต่โดนบูลลี่ทางวาจาค่อนข้างหนัก โดนเพื่อล้อทุกวัน โดนคนที่รู้จักทุกคนล้อ ตอนนั้นก็สุขภาพจิตเริ่มแย่ในระดับนึง ยกตัวอย่างที่ผมโดนล้อคือ ไอขี้ยา ไอแห้ง ไอเยตูดแมว ถ้ามันแค่พูดแซวๆผมก็เฉยๆ แต่ผมโดนทุกวันทุกเวลาที่อยู่โรงเรียน พอม.3 นี่แหละช่วงพีคที่ทำให้ผมจมดิ่งไปกับความเครียด เศร้า ระแวง กังวล เพราะผมดันอยู่ห้องเดียวกับพวกเด็กเกเรที่ชอบใช้ผม ผมโดนเด็กเกเรรุมใช้ตลอดเวลา ถ้าขัดขืนก็โดนทำร้าย จนโดนนั้นผมโดนเรียกว่าเป็นคนใช้ หนักสุดโดนเรียกว่าทาส ผมโดนแบบนั้นทุกวันจนกระทั่งจบบม.3 แต่ขึ้นม.4 ก็โชคดีได้อยู่กับเพื่อนสนิท สังคมแวดล้อมบูลลี่น้อยลง จนผมค่อยๆสุขภาพจิตดีขึ้น
แต่สิ่งที่ยังคงติดใจกับทุกวันนี้คือ ผมไม่ค่อยยอมคน มีความก้าวร้าวเวลามีเพื่อนฝากทำอะไรสักอย่าง ระแวงต้องคอยหลบหน้าพวกเด็กเกเร จะรู้สึกหัวร้อนแล้วก็ไม่สบายใจกับคำว่าติดยาหรืออะไรทำนองนี้ แต่ตอนนี้ผมก็ปี 4 แล้ว อาการทุกอย่างดีขึ้นมาก แค่ตอนนี้ที่ผมเพิ่มน้ำหนัก ออกกำลังกาย ดูแลตัวเอง ก็คงเป็นเพราะเรื่องที่ผมเล่ามา ผมทำเพื่อที่ผมจะได้ทำให้ตัวเองสบายใจว่าจะไม่มีใครกล้ามาแกล้งหรือมาล้อผมอีก
พวกบูลลี่ผมมองว่ามันเป็น ธรรมชาติ หรือ สัญชาตญาณ (หรือสันดานน่ะแหละ) ของสัตว์ที่พยายามจัดลำดับตัวเองในสังคมน่ะครับเหมือนพวกสิ่งมีชีวิตอื่นที่ใช้ชีวิตเป็นสัตว์สังคม อย่างเช่น หมา แมว ที่อายุถึงจุดๆนึงจะเริ่มหากัดกันแต่เมื่อรู้ผลออกมาว่า ชนะ หรือ แพ้ ก็จบ แทบจะไม่มีการกัดกันอีก แต่สังคมมนุษย์เราต่างกันที่เรามีกฏไม่ให้มีการทำร้ายร่างกายมันเลยไปไม่ถึงจุดจุดที่แบ่งลำดับได้เด่นชัด กลายเป็นว่าคนที่เคารพกฏสังคมกลายเป็นเนิร์ดกลายเป็นเหยื่อพวกไม่เคารพกฏรังแกแทน
และอย่างข้างต้นที่บอกว่ามันเป็น ธรรมชาติ คนที่ถูกเลี้ยงดูสังคมดีเพียบพร้อมอยู่กับผู้ปกครอง คะ / ครับ มารยาทเป็นหนึ่งแต่พอมาอยู่โรงเรียนกลายเป็นหน้ามือกับหลังตีนก็มีครับผมเจอมาแล้ว
เพราะงั้นเด็กทุกคนไม่ใช่ผ้าขาวแน่นอนครับ ทุกคนล้วนเกิดมามีสีของตัวเองแต่การยับยั้งชั่งใจและการเคารพและปฏิบัติตามกฏของสังคมแต่ละคนมันไม่เท่ากัน
บูลลี่สำหรับไทย ไม่มีใครยอมรับ เพราะถูกควบคุมมาร้อยปี มาจาก hazing เริ่มจากไพร่จุลา เห่ามาร้อยปี ทุกตัวตามหมด เพราะถูก psychic ยิ่งกว่าฝังชิพว่า จุลา จุลา จุลา ตอบในฐานะ KING นะ ไพร่จุลาทั้งหลาย ที่เหลือแต่แสนรู้ตามฝรั่ง
ในฐานะคนที่เคยถูกบุลลี่ แล้วก็กำลังเรียนครูอยู่คิดว่าเราจะสามารถป้องกันนักเรียนเราจากการบุลลี่ได้ยังไงบ้างครับผมอยากได้เป็นแนวทางเพราะผมเองก็ไม่อยากให้นักเรียนของตัวเองต้องเจอแบบที่ผมเคยเจอน่ะครับ
ผมเชื่อเรื่องผมไม่ไม่มีเปลือก เพราะผมมีเพื่อนที่ไม่รู้ว่าฝรั่งไม่ใช่เอเลี่ยน มันคิดว่าฝรั่งบินมาจากต่างดาว😂
ผมเคยมีเพื่อนร่วมห้องเป็นหัวโจกบูลลี่เลย มีลูกน้องเดินตามด้วย ปัจุบันติดคดี ติดคุก นี่คือผลของพวกบูลลี่ที่ผมเห็นมาครับ
ผมมองกลับไปหาคนที่เคยบลูลี่ผมตอนเด็ก ตอนนี้แม่งเป็นเด็กแว้นตลาดล่างกันหมดเลยคิดแล้วก็ขำแม่งดูถูกกูบลูลี่กูแต่ตัวเองเป็นได้แค่ขยะสังคม
ฟังพี่บ่วงเล่าเรื่องสัญชาติญาณตัวต่อไข่ในแมลงสาบตอนกินข้าวพอดี เป็นมื้ออิ่มอร่อยไปอีกมื้อ 😂
ถ้ามีพ่อแม่ที่ดี ผมว่าโอกาสเป็นบลูลี่ คือ0ครับ ต้องเป็นคนที่เคยโดนมาเยอะๆ ถึงจะเป็นได้
เอาจริงน่ะทุกวันนี้แค่นึกย้อนไปยังแค้นอยู่เลย ยิ่งช่วงที่โดนหนักคือยังมีฝันเป็นช่วงๆด้วยน่ะคือตอนโดนไปตอนนั้นสมัย มหาลัยด้วยน่ะโดนทั้งรุ่นพี่และรุ่นเดียวกันเพื่อนที่อุส่าไปช่วยมันก็โดนมาอีกช่วงนั้นคือแค้นสุเล่ะ ตอนนนั้นคืออยู่ต่อไม่ไหวจนต้องลาออกจากมหาลัยเลยอ่ะ เสียเวลาชีวิตไป ปีครึ่ง ให้กลับมาในสภาพจิตใจปกติอ่ะ แล้วคือแบบแค่คิดไปยังแค้นสุดๆอยู่เลย อยากปล่อยวางน่ะแต่แบบไม่ไหวจริงอ่ะๆ เสียทั้งเวลาและเงินอ่ะ ไหนจะอนาคตด้วยแม่ง ทุกวันนี้ยังคิดอยู่เลยว่าถ้าเจอแล้วตัวเราจะเก็บความรู้สึกได้รึป่าว แล้วคือไรรู้ป่ะขนาดอาจารใน ม.ยังไม่สนใจอ่ะ กูโดนกดน้ำจบน้ำแทบตายมา3ครั้งในวันเดียวเลยน่ะเว้ยไอเชี่ยโดนลากเไปเลยอ่ะ แล้วพอจะลาออกมาแล้วพูดดีด้วยตนนั้นคือยิ่งแค้นมากๆเลย 555 ตอนนี้ก็ 6 ปีล่ะมั้ง อย่าให้เจอน่ะแค้นมากทุกตัวเลย
บูลลี่สำหรับไทย ไม่มีใครยอมรับ เพราะถูกควบคุมมาร้อยปี มาจาก hazing เริ่มจากไพร่จุลา เห่ามาร้อยปี ทุกตัวตามหมด เพราะถูก psychic ยิ่งกว่าฝังชิพว่า จุลา จุลา จุลา ตอบในฐานะ KING นะ ไพร่จุลาทั้งหลาย ที่เหลือแต่แสนรู้ตามฝรั่ง
ชอบฟังน้องๆ มาก จากคนอายุ 57❤❤
บูลลี่สำหรับไทย ไม่มีใครยอมรับ เพราะถูกควบคุมมาร้อยปี มาจาก hazing เริ่มจากไพร่จุลา เห่ามาร้อยปี ทุกตัวตามหมด เพราะถูก psychic ยิ่งกว่าฝังชิพว่า จุลา จุลา จุลา ตอบในฐานะ KING นะ ไพร่จุลาทั้งหลาย ที่เหลือแต่แสนรู้ตามฝรั่ง
ทุกวันนี้ก็ไม่เคยลืมการกระทำ พวกนั้นเลยนะ อาจจะจำเนื้อหาไม่ได้ แต่ไม่เคยลืมความรู้สึกหรือเกลียดชังสิ่งเหล่านั้นเลย
Day 1 asking for oiled up bigboung
ทำงานกูยังเจออยู่เลยบุลลี่
Society... Society!!!...... Call me gay.
สมัยเรียนเคยโดนนักเรียนเจ้าถิ่นหาเรื่อง แต่ผมทำเป็นเหมือนเจ้าถิ่นเป็นอากาศธาตุ ไม่สนใจ ไม่ตอบโต้ หลังจากนั้นมันก็ไม่มายุ่งกับผมอีกเลย
ผมเห็นด้วยกับการที่เด็กเกิดมาแล้ว ดำ ยิ่งปล่อยยิ่งดำ
Antisocial Personality Disorder หรือ ASPD เกิดมา แล้วเขาร้ายมาแต่เกิดพี่ สัญชาติญาณของจริง
ตอนเด็กเคยโดนครูสอนกีตาร์ในโรงเรียนสมัยประถม-มัธยมต้นท่านนึงด่าว่าโง่และไม่มีอนาคตเล่นโน้ตง่าย ๆ แค่นี้ก็ไม่เป็นทั้วที่เขาก็ไม่สอนอะไรเลย และเป็นอย่างนี้กับเกือบทุกคนในห้อง เว้นแต่คนที่เล่นเก่งเพราะเรียนพิเศษกับเขาเขาจะพูดดีมาก วันนั้นผมรู้สึกเหมือนเสียตัวตนไปในช่วงประถม คิดว่าตนโง่และทำอะไรไม่ได้ในชีวิตเป็นปมมาถึงทุกวันนี้ แต่ดีหน่อยที่ผมเลือกที่จะไปเรียนกีตาร์ที่สถาบันกวดวิชาแห่งนึงหลังจากเรื่องนี้เกือบ 2ปี เพราะพยายามสู้กับความคิดที่ว่าตัวเองทำไม่ได้ บุลลี่คนนี้ถึงไม่ทำร้ายร่างกายแต่ก็มีผลกับชีวิตผมมาก ๆ และทำให้ผมต้องกลับไปดูอยู่ตลอดว่าเขาเป็นอย่างไรและจำเขาไม่เคยลืม เมื่อโควิดที่ผ่านมาเขารถชนเสียชีวิตข่าวดังในเมืองผม จบชีวิตด้วยการเป็นครูที่ไม่มีลูกศิษย์ไปร่วมไว้อาลัยเขาเลยสักคน
44:35 ผมเจอหลายตัวไoลูกการีส่งมาเกิด ดังเมื่อไหร่เจอกุแฉ ไoเปด
ถ้า bullying แก้ไม่ได้ งั้น school shooting ก็ไม่ผิด
อ่อ ฆ่าคนที่ไม่เกี่ยวคือไม่ผิด
@@mosymossy1921 ถ้าจะให้ตอบตรงๆ ใช่ครับ ไม่ผิด ถ้าไม่มี bully แต่แรก ก็ไม่มีใครตาย
@@mosymossy1921 ถ้าไม่อยากให้เกิด school shooting ก็แค่ไม่ bully เท่านั้นเองครับ เหมือนกับการที่พี่บ่วง เสนอให้เฆี่ยนตีทุกคนที่ทิ้งขยะไม่เป็นที่ ถ้าทิ้งขยะถูกที่ ก็ไม่โดนตีอ่ะ มันง่ายแค่นี้เองครับ
จริงๆ เราไม่จำเป็นจะต้องมาเถียงกันว่าถูกหรือผิด สุดท้ายมันจะเกิดขึ้นเรื่อยๆ จนว่าจะไม่มี bully อีกเลย
ถ้าไม่อยากให้เหตุ school shooting เกิด ก็แค่ไม่ bully เท่านั้นเอง ก็เหมือนว่า ถ้าไม่อยากติดคุก ก็แค่ไม่ทำผิดกฎหมาย ก็แค่นั้นอ่ะ
จริงๆ เราไม่จำเป็นที่จะต้องมานั่งหาคำตอบว่า ถูกหรือผิด สุดท้าย มันก็จะเกิดขึ้นเรื่อยๆ จนว่าการ bully จะหายไป
สิ่งที่คุณทำได้ เพื่อที่จะให้สถานการณ์ดีขึ้นคือ คุณทำดีกับคนที่โดน bullyให้มากๆ เพื่อให้เค้ากลับมาทบทวนสิ่งที่ตัวเองกำลังจะทำ หรือไม่ อย่างน้อย เค้าจะได้ไว้ชีวิตคุณ เราทำได้แค่นี้แหละ
บูลลี่ก็ไปบูลลี่คนที่ไม่เกี่ยว แต่ไปทำคนที่ไม่เกี่ยวตายอันนี้มันเกินไป เช่น เด็กอนุบาลกินนมอยู่ ๆ โดนยิง พ่อแม่ทำงานอยู่ไม่รู้เรื่อง แต่ห้ามกันไม่ได้หรอก กระสุนที่คุณยิงออกไป มันจองที่บนหัวคุณไว้แล้วหลังจากคุณยิงนัดแรก