ขนาดวิดีโอ: 1280 X 720853 X 480640 X 360
แสดงแผงควบคุมโปรแกรมเล่น
เล่นอัตโนมัติ
เล่นใหม่
ขออนุญาตให้ข้อมูลเพิ่มสำหรับหัวพ่นหมอกนะครับ ปัจจัยหลักมีสองอย่างคือขนาดหัวพ่น+แรงดัน หัวพ่นทั่วไปที่ขายกันเป็นพลาสติกสีดำ,เทา,ส้ม และหัวทองเหลืองขนาดรู 0.3 มิลขึ้นไปจนถึง 0.6 มิลจะเป็นละอองน้ำเล็กๆ ไม่เป็นหมอกบริเวณรอบข้างจะเปียก ถ้าจะพ่นเป็นหมอกต้องรู 0.1-0.2 มิล(หัวสแตนเลส) โดย - 0.1 มิลใช้แรงดัน 9 บาร์ขึ้นไปจะเป็นหมอกจริง(หมอกที่ลอยแล้วระเหยไปเลย) พื้นและบริเวณรอบข้างจะไม่เปียก เหมาะสำหรับติดตั้งใกล้ตัวคนหรือหน้าพัดลม หรือที่เห็นตามคาเฟ่ที่พ่นเป็นหมอกลอยอยู่บนสระน้ำ ประมาณนั้นแหละ- 0.2 มิล ใช้แรงดัน 8 บาร์ขึ้นไป พ่นเป็นหมอกเหมือนกันแต่น้อยกว่า 0.1 มิล ถ้าคนอยู่ใกล้ๆ จะมีหยดน้ำเล็กๆ ติดตามขนหรือเสื้อผ้าแต่ไม่ถึงกับเปียก เหมาะสำหรับติดตามชายคา ในระยะ 2 เมตรโดยประมาณพื้นหรือวัสดุใกล้ๆ จะไม่เปียก(ระเหยไปก่อน)- 0.3 มิล ใช้แรงดัน 6 บาร์ขึ้นไป เป็นหมอกนิดๆ ส่วนมากเป็นละอองน้ำ รอบข้างเปียก- 0.4 มิล ใช้แรงดัน 4 บาร์ขั้นไป เป็นละอองน้ำ รอบข้างเปียก- 0.5 มิล ใช้แรงดัน 3 บาร์ขึ้นไป เป็นละอองน้ำ รอบข้างเปียก- 0.6 มิล ใช้แรงดัน 2 บาร์ขึ้นไป เป็นละอองน้ำ รอบข้างเปียกเลือกใช้ให้เหมาะกับความต้องการครับ หัวพ่นราคาจะเท่าๆ กัน ยกตัวอย่างหัวพ่นสแตนเลสขนาด 0.1 - 0.6 มิล ราคาจะเท่ากันหมด ส่วนที่จะต่างก็คือเรื่องแรงดันต้องต่อผ่านปั้มแรงดันหรือที่เรียกกันว่าปั้มไดอะเฟรม ถ้าต่อผ่านระบบน้ำประปาอย่างเดียวไม่ว่าจะหัวขนาดไหนจะได้แค่ละอองน้ำเพราะแรงดันประปาอยู่ 1-3 บาร์โดยประมาณสรุปคือจะพ่นเป็นหมอกต้องหัว 0.1-0.2 มิล ผ่านปั้มแรงดัน 9 บาร์ขึ้นไป และที่ควรรู้อีกอย่างคือปั้มแรงดันหรือปั้มไดอะเฟรมเปิดใช้งานติดต่อกันได้ประมาณ 3 ชั่วโมง ถ้าเปิดใช้งานนานเกินไปจะพังหรืออายุใช้งานน้อยลงเร็วมาก ถ้าจะเปิดทั้งวันต้องใช้ปั้มมากกว่า 2 ตัวสลับกันใช้งาน ส่วนจำนวนหัวที่ต่อได้ขั้นอยู่กับแรงดัน+ระบบน้ำเข้า ที่เคยต่อหัว 0.1/0.2 มิล ต่อ 20 หัว(ยังไม่เคยลองต่อเยอะกว่านี้) ผ่านปั้มแรงดัน 10 บาร์ ต่อน้ำเข้าจากประปาโดยตรง ทุกหัวพ่นเป็นหมอกหมดโดยบริเวณรอบข้างไม่เปียกทิปเล็กๆ ต่อน้ำเข้าปั้มแรงดันจากประปาโดยตรงจะพ่นได้แรงกว่าต่อน้ำเข้าโดยสูบจากถังเป็นผู้ใช้งานเอามาแชร์กันสำหรับคนที่ใช้อยู่หรือกำลังเลือกซื้อ ไม่ได้เป็นนายหน้าหรือพ่อค้านะ ไม่ต้องดราม่า
ขอบคุณข้อมูลมากๆครับ ลึก และชัดเจนมากครับ เป็นประโยชน์สำหรับท่านที่กำลังจะตัดสินใจซื้ิครับ🙏🙏🙏🙏
อันนี้รู้จริง
ขอบคุณมากครับ ข้อมุลชัดเจนดีมากๆ👍
สุดยอดของคนจริงๆใจหาได้ยากในยุคนี้ครับ
หัวทองเหลืองก็ดีน่ะครับ ใช้มา 7 ปีแล้ว แต่เป็นหมอกพ่นต้นไม้ ซื้อมาตัวล่ะ 7 บาท
น้ำต้องแรง กว่านี้จ้ะ ต้องมีปั้มถึงเป็นหมอกจ้ะ
ซื้อมาหลายอย่างใช้ไมได้ซักอย่างที่นอนเปียกหมด
จากประสบการณ์ที่ผมใช้ หัวแสตนเลส ชอบตัน ตันง่าย
อ่อ ผมใช้หัวทองเหลือง ยังไม่เจอปัญหานี้ครับ ต้องกรองน้ำให้สะอาดก่อนครับ
หัวสแตนเลสมันมีแบบมีกรองกับไม่มีกรองให้เลือก เพิ่มระบบกรองตรงส่วนน้ำเข้าช่วยได้เยอะครับ ใส่ตัวกรองกี่ตัวก็ได้
ตัวสุดท้ายขายยังไงครับ
ตัวละ 80บาทคับ
@@pangcctv ติดต่อซื้อทางไหนครับ
ขอเบอรโทรติดต่อหน่อยครับ จะสั่งซื้อ
สนใจตัวไหนครับพี่
@@pangcctv ตัวไหนที่ทำสปิงเกอร์บนหลังคาได้ครับ สนใจจะทำสปิงเกอร์ครับ
@@อโลนอโลน-ภ2ษ ใช้แบบไหนก็คับ ถ้าบนหลังคา เพราะเราต้องการดับความร้อน ไม่ต้องเป็นน้ำละเอียดมากก็ได้ครับ
ขออนุญาตให้ข้อมูลเพิ่มสำหรับหัวพ่นหมอกนะครับ ปัจจัยหลักมีสองอย่างคือขนาดหัวพ่น+แรงดัน หัวพ่นทั่วไปที่ขายกันเป็นพลาสติกสีดำ,เทา,ส้ม และหัวทองเหลืองขนาดรู 0.3 มิลขึ้นไปจนถึง 0.6 มิลจะเป็นละอองน้ำเล็กๆ ไม่เป็นหมอกบริเวณรอบข้างจะเปียก ถ้าจะพ่นเป็นหมอกต้องรู 0.1-0.2 มิล(หัวสแตนเลส) โดย
- 0.1 มิลใช้แรงดัน 9 บาร์ขึ้นไปจะเป็นหมอกจริง(หมอกที่ลอยแล้วระเหยไปเลย) พื้นและบริเวณรอบข้างจะไม่เปียก เหมาะสำหรับติดตั้งใกล้ตัวคนหรือหน้าพัดลม หรือที่เห็นตามคาเฟ่ที่พ่นเป็นหมอกลอยอยู่บนสระน้ำ ประมาณนั้นแหละ
- 0.2 มิล ใช้แรงดัน 8 บาร์ขึ้นไป พ่นเป็นหมอกเหมือนกันแต่น้อยกว่า 0.1 มิล ถ้าคนอยู่ใกล้ๆ จะมีหยดน้ำเล็กๆ ติดตามขนหรือเสื้อผ้าแต่ไม่ถึงกับเปียก เหมาะสำหรับติดตามชายคา ในระยะ 2 เมตรโดยประมาณพื้นหรือวัสดุใกล้ๆ จะไม่เปียก(ระเหยไปก่อน)
- 0.3 มิล ใช้แรงดัน 6 บาร์ขึ้นไป เป็นหมอกนิดๆ ส่วนมากเป็นละอองน้ำ รอบข้างเปียก
- 0.4 มิล ใช้แรงดัน 4 บาร์ขั้นไป เป็นละอองน้ำ รอบข้างเปียก
- 0.5 มิล ใช้แรงดัน 3 บาร์ขึ้นไป เป็นละอองน้ำ รอบข้างเปียก
- 0.6 มิล ใช้แรงดัน 2 บาร์ขึ้นไป เป็นละอองน้ำ รอบข้างเปียก
เลือกใช้ให้เหมาะกับความต้องการครับ หัวพ่นราคาจะเท่าๆ กัน ยกตัวอย่างหัวพ่นสแตนเลสขนาด 0.1 - 0.6 มิล ราคาจะเท่ากันหมด ส่วนที่จะต่างก็คือเรื่องแรงดันต้องต่อผ่านปั้มแรงดันหรือที่เรียกกันว่าปั้มไดอะเฟรม ถ้าต่อผ่านระบบน้ำประปาอย่างเดียวไม่ว่าจะหัวขนาดไหนจะได้แค่ละอองน้ำเพราะแรงดันประปาอยู่ 1-3 บาร์โดยประมาณ
สรุปคือจะพ่นเป็นหมอกต้องหัว 0.1-0.2 มิล ผ่านปั้มแรงดัน 9 บาร์ขึ้นไป และที่ควรรู้อีกอย่างคือปั้มแรงดันหรือปั้มไดอะเฟรมเปิดใช้งานติดต่อกันได้ประมาณ 3 ชั่วโมง ถ้าเปิดใช้งานนานเกินไปจะพังหรืออายุใช้งานน้อยลงเร็วมาก ถ้าจะเปิดทั้งวันต้องใช้ปั้มมากกว่า 2 ตัวสลับกันใช้งาน ส่วนจำนวนหัวที่ต่อได้ขั้นอยู่กับแรงดัน+ระบบน้ำเข้า ที่เคยต่อหัว 0.1/0.2 มิล ต่อ 20 หัว(ยังไม่เคยลองต่อเยอะกว่านี้) ผ่านปั้มแรงดัน 10 บาร์ ต่อน้ำเข้าจากประปาโดยตรง ทุกหัวพ่นเป็นหมอกหมดโดยบริเวณรอบข้างไม่เปียก
ทิปเล็กๆ ต่อน้ำเข้าปั้มแรงดันจากประปาโดยตรงจะพ่นได้แรงกว่าต่อน้ำเข้าโดยสูบจากถัง
เป็นผู้ใช้งานเอามาแชร์กันสำหรับคนที่ใช้อยู่หรือกำลังเลือกซื้อ ไม่ได้เป็นนายหน้าหรือพ่อค้านะ ไม่ต้องดราม่า
ขอบคุณข้อมูลมากๆครับ ลึก และชัดเจนมากครับ เป็นประโยชน์สำหรับท่านที่กำลังจะตัดสินใจซื้ิครับ🙏🙏🙏🙏
อันนี้รู้จริง
ขอบคุณมากครับ ข้อมุลชัดเจนดีมากๆ👍
สุดยอดของคนจริงๆใจหาได้ยากในยุคนี้ครับ
หัวทองเหลืองก็ดีน่ะครับ ใช้มา 7 ปีแล้ว แต่เป็นหมอกพ่นต้นไม้ ซื้อมาตัวล่ะ 7 บาท
น้ำต้องแรง กว่านี้จ้ะ ต้องมีปั้มถึงเป็นหมอกจ้ะ
ซื้อมาหลายอย่างใช้ไมได้ซักอย่างที่นอนเปียกหมด
จากประสบการณ์ที่ผมใช้ หัวแสตนเลส ชอบตัน ตันง่าย
อ่อ ผมใช้หัวทองเหลือง ยังไม่เจอปัญหานี้ครับ ต้องกรองน้ำให้สะอาดก่อนครับ
หัวสแตนเลสมันมีแบบมีกรองกับไม่มีกรองให้เลือก เพิ่มระบบกรองตรงส่วนน้ำเข้าช่วยได้เยอะครับ ใส่ตัวกรองกี่ตัวก็ได้
ตัวสุดท้ายขายยังไงครับ
ตัวละ 80บาทคับ
@@pangcctv ติดต่อซื้อทางไหนครับ
ขอเบอรโทรติดต่อหน่อยครับ จะสั่งซื้อ
สนใจตัวไหนครับพี่
@@pangcctv ตัวไหนที่ทำสปิงเกอร์บนหลังคาได้ครับ สนใจจะทำสปิงเกอร์ครับ
@@อโลนอโลน-ภ2ษ ใช้แบบไหนก็คับ ถ้าบนหลังคา เพราะเราต้องการดับความร้อน ไม่ต้องเป็นน้ำละเอียดมากก็ได้ครับ