ฝัง
- เผยแพร่เมื่อ 20 ต.ค. 2023
- ทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวที่เรารู้จักทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นโลก^ ดาวเคราะห์^ ดวงอาทิตย์ เนบิวลา กาแล็กซี และวัตถุอื่น ๆ อีกมากมายในอวกาศ ถือกำเนิดขึ้นมาจากจุด ๆ เดียวกันที่เราเรียกกันว่า “Big Bang” ทั้งยังเป็นจุดเริ่มต้นของอวกาศและเวลา^ ประกอบกันเป็นระบบที่ใหญ่ที่สุด นั่นคือ “เอกภพ (Universe)” นักวิทยาศาสตร์พยายามที่จะศึกษาและอธิบายวิวัฒนาการของเอกภพ ด้วยเทคนิคต่าง ๆ ทางดาราศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นการใช้กล้องโทรทรรศน์ ทั้งกล้องภาคพื้นโลก กล้องโทรทรรศน์อวกาศ ทั้งช่วงคลื่นแสงที่ตามองเห็น ไปจนถึงช่วงคลื่นอื่น ๆ เช่น อินฟราเรด เอกซ์เรย์ วิทยุ ฯลฯ จนครบเกือบทุกช่วงคลื่น แต่ยิ่งศึกษาโครงสร้างขนาดใหญ่ในเอกภพมากเท่าใด ยิ่งศึกษาลึกไปในเอกภพแค่ไหน นักดาราศาสตร์ก็ยิ่งพบแต่ปริศนาที่ไม่สามารถอธิบายได้ด้วยสามัญสำนึกของมนุษย์ ที่อาจมีอะไรบางอย่างที่เป็นมวลสารส่วนใหญ่ของเอกภพ คอยขับเคลื่อนวิวัฒนาการของกาแล็กซี และเอกภพของเราอยู่โดยที่เรามองไม่เห็น นั่นคือ “สสารมืด” หรือ Dark Matter
------------------------------------------------------
❮ หัวข้อต่าง ๆ ในคลิป ❯
01:29 ▶ แรงพื้นฐานทั้ง 4 ในเอกภพ
03:15 ▶ Baryonic Matter สสารปกติ
04:36 ▶ มวลมากแรงโน้มถ่วงมาก มวลน้อยแรงโน้มถ่วงน้อย
09:37 ▶ Bullet Cluster หนึ่งในหลักฐานที่สำคัญที่สุดของสสารมืด
11:23 ▶ “สสารมืด” จิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญที่ขาดหายไปของเอกภพ
14:21 ▶ แนวคิดและวิธีการตรวจจับสสารมืด
------------------------------------------------------
กด 🔔Subscribe 👍Like 🔗 Share ให้ @planet9tv_official ด้วยนะคะ - วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
เปรียบเสมือนใบไม้1ใบในใบไม้ทั้งโลก จากความมีอยู่ของสิ่งต่างๆที่เรารู้เห็น 😊 ฟังสนุกๆเพลินๆพอ ปล่อยให้นักวิทเขาคิดและหา พวกเราก็เป็นผู้ฟังและผู้ชม😊
ยิ่งรู้มากเท่าไหร่ ก็ยิ่งเหมือนไม่รู้อะไรเลย
จริงคับ สาวไม่สิ้นสุด เอกภพ
หลายๆอย่างมนุษย์ก็พึ่งรู้แค่ไม่กี่ปีมานี่เองครับ เทียบกับช่วงเวลาที่จักวาลเกิดขึ้นมาถือว่าเรารู้และไขความลับอะไรหลายๆอย่างได้เร็วมาก ในอนาคตข้างหน้ามนุษย์อาจจะรู้อะไรต่างๆและมีความแม่นยำเพิ่มขึ้นอีกเยอะแน่นอน จนถึงวันที่มนุษย์ไขความลับอะไรต่างๆได้หมดเราคงไม่ได้อยู่ถึงวันนั้นแล้ว
สิ่งที่คู่เอกภพ มายาวนาน ที่อารยธรรมของมนุษย์ ที่อยู่อาศัยของสัตว์สิ่ง ของสิ่งมีชีวิต บนโลกที่ดำเนินทางมานาน ของสัพสิ่งที่ดำเนินมาของโลก ของมวลมหาสสาร มืด ที่มีอยู่จริง และไม่สามารถอธิบาย ให้สัตว์ทั้งโลก รู้ถึงความสำคัญของการดำเนินชีวิตอยู่ร่วมกันในโลกนี้
จริงๆแล้ว พวกเราอยู่ในห้องทดลอง
ของสิ่งมีชีวิตทรงภูมิปัญญา
คิดแบบนั้นอยู่นะ😊
พระเจ้า
มนุษย์ต่างดาว เอาสัตว์และพืชต่างๆ มาปล่อยไว้ในโลกใบนี้รวมถึงมนุษย์ด้วย โลกเปรียบเสมือนสวนสัตว์ ที่ไม่สามารถออกไปนอกโลกได้เลย ออกไปก็ไม่สามารถมีชีวิตอยุ่ได้ ผมมโน555
@@LOSOcietyเออก็เป็นไปได้นะ ดํจากระยะทางระหว่างโลกไปถึงดาวนอกระบบสุริยะที่ใกล้ที่สุดก็ปาไป 4 ปีแสงแล้ว
ทุกอย่างคือสิ่งที่มีอยู่(ไม่ว่าจะก๊าซจะควอนตัม หรือจะอะไรก็ตามที่จะพูด) และสิ่งที่มีอยู่จะต้องเกิดมาจากสิ่งที่มีอยู่ (หมายถึงจะมีไม่ได้ถ้าไม่มีสิ่งที่มีอยู่ก่อนหน้า) ดังนั้นชี้ให้เห็นว่า มีสิ่งมีอยู่มาตั้งแต่เดิมจึงทำให้มีสิ่งต่างๆที่มีอยู่ และสิ่งนั่นมีอยู่เป็นสิ่งแรกที่มีอยู่และเป็นต้นกำเนิดของการมีอยู่
ด้วยเหตุนี้สิ่งแรกจะต้องเป็นสิ่งมีอยู่ที่มีอยู่ด้วยตัวเองมาแต่เดิม ไม่มีจุดเริ่มต้น (เพราะถ้าหากบอกว่ามีจุดเริ่มต้นก็จะให้ความหมายว่าเป็นสิ่งมีอยู่ที่เกิดมาจากสิ่งที่ไม่มีอยู่ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่สิ่งมีอยู่จะเกิดมาจากการไม่มี สรุปคือมีสิ่งที่มีอยู่มาแต่เดิมที่เป็นสาเหตุให้สิ่งมีอยู่อื่นๆมีอยู่ (เพราะสิ่งที่เป็นสาเหตุในการกำเนิดผลของเหตุจะต้องเป็นสิ่งที่มีอยู่ เพราะการไม่มีอยู่ไม่สามารถเป็นเหตุของการมีอยู่ได้เพราะไม่มีอยู่)
สรุปคือมีสิ่งหนึ่งที่มีอยู่มาเเค่เดิมและไม่มีจุดเริ่มต้น สิ่งนั้นให้กำเนิดทุกสิ่ง และลองมองดูสิว่าสิ่งนั้นให้อะไรกับจักวาลนี้บ้าง มนุษย์ยังหาคำตอบความยิ่งใหญ่ของจักวาลทั้งหมดนี้ไม่ได้เลย ชี้ให้เห็นว่า สิ่งแรกที่มีอยู่มาแต่เดิมต้องเป็นผู้ที่มีความรู้ที่สูงสุดที่สุดเกินกว่ามนุษยน์จะจินตนาการได้
ขอพลังงานมืดด้วยครับ.. ชอบครับแนวนี้
ผมสงสัยอย่างนึง
นึกภาพตามนะ ก่อนเกิดบิ๊กแบง ก่อนเกิดแรงอะไรต่างๆ ย้อนไปมากๆๆๆเลยจนสุด ผมเชื่อว่ามันจะมีแต่ความมืดเปล่าๆ ไม่มีอะไรสักอย่างเลย ไร้แม้กระทั่งแรงโน้มถ่วง ในเมื่อย้อนไปขนาดนั้นมันจะไม่มีอะไรเลยนะ มีแต่ความว่างเปล่า แล้วบิ๊กแบงเกิดมาเป็นเอกภพต่อได้ไง
เคยมีทฤษฎีว่า เคยเกินบิ๊กแบงมาแล้วเกิน 1 รอบ ประมาณว่า เกิดบิ๊กแบงแล้วเกิดเอกภพแล้วก็รวมตัวระเบิดบิ๊กแบงแล้วเกิดเอกภพซ้ำๆ และทุกครั้งจะใหญ่และมากขึ้นเรื่อยๆ
ขอบคุณสำหรับสารคดี ดีๆแบบนี้คับ FC คับผม
พระสมพงษ์สมพงษ์ปิยธัมโมยินดีมากที่ใด้รู้
หายไปนานเลยย
เราไปค้นคว้าทดลอง หาหัวใจหลัก นั้นก็คือหลุมดำ คิดซะว่าดาวเพื่อนบ้าน เขาไปกันหมดแล้ว เหลือแค่เราที่ยังไม่ได้ไปแทนที่จะมั่วหาดาวเพื่อนบ้านไกล้ๆเราเช่นดาวอังคาร แต่เรากลับกลัวหลุมดำ ทั้งๆๆที่เรามีคุณแจอยู่แล้ว เรารู้แค่ว่าแสงหนีจากหลุมดำไม่ได้เราเลยกลัว แต่ลองคิดกลับกันว่าหลุมดำคือประตูไปสู่บ้านแห่งไหม่ ทดสอบทดลอง หาวิจัยหลุมดำ มวนทั้งหมด ที่เรารู้คือดาวที่มาชนกันถึงเกิดหลุมดำ ทำไม เราไม่เอามวลสารทั้งหมดที่เรามีอยุ่ ชนกัน ไนสะภาวะไร้แรงโน้มถ่วง เพราะหลุมดำชนกันไนสะภาวะไร้แรงโน้มถ่วง และการบีบอัดของมวลที่ทำไห้เกิดหลุมดำ ไม่มีผิดไม่มีถูกจนกว่าจะได้ทดสอบทดลอง
ขอบคุณค่ะ มีความรู้ขึ้นเยอะมาก ค่ะในอนาคต อาจใช้พลังมืดแปลงเป็นพลังงานแสงได้ และอาจใช้มาเป็นพลังงานทดแทนได้ เมื่อโลกหมดพลังงานชนิดอื่น
ความหวังของโลกและมนุษย์
ป่านนั้นก็ตายห่ากันหมดแร้ว
จะเอาพลังมืดมาเป็นแสงได้ยังงัย มีแต่เอาพลังแสงไปใช้ในที่มืดนั่นแหละ เอาความจริงของสถานการณ์โลกไปสะท้อนความเป็นไปได้สิจะได้อยู่ในหลักความเป็นจริง
จักรวาลมนุษย์รู้เท่าหยดน้ำ แต่ที่ยังไม่รู้ยิ่งกว่ามหาสมุทร 😊
555555555555+
เมื่อใดที่มนุษย์เริ่มคิดค้นทฤษฎีใหม่ๆ โดยอ้างอิงทฤษฎีเก่าๆ แค่บางส่วนเขาถึงจะเข้าสู่ความรู้ระดับแม่น้ำครับ และตอนนั้นเขาจะวาปได้
ปานนั้นเนาะสู😂
จริง
หาให้เจอ ค่อยบอกมีจริง😊
เสียงภาคนี้..มันใช่ครับ เหมาะกับคริปแนวนี้ที่สุด คุ้นหูมากๆ
เยี่นมากคับ
ขอบคุณมากครับ
ขอบคุณมากค่ะ
สนุก
อยู่ในสมอง จิต ของทุกคน ครับ
เลอะเถอะ จะเอามาโยงกับของพุทอีก พุทเรื่องศาสนาอ่อนมากในวิทยาศาสตร์หรือวิชาการ
@@user-ds8vz1dm3q ครับ ท่านผู้ฉลาด
เยี่ยมครับ
@@tinnakonkheowreeอย่าหาว่าอย่างนั้นอย่างนี้นะแต่คุณจะด่วนสรุปไม่ได้คุณต้องพิมพ์ว่า ความคิดของผม ถ้าคนอื่นจะว่าเลอะเทอะก็ไม่แปลก
@@Adorf_Kitler_meow มี สมการ อ้างอิงครับ
ไม่มีอะไรสักอย่างที่เกิดขึ้นใหม่ มันแค่เปลี่ยนไปตามเวลา ทุกอย่างมีอยู่ครบ ไม่ได้กำเหนิดสิ่งนั้นสิ่งนี้ แต่มันมีอยู่แล้ว และเปลี่ยนสถานะ เลยมี สิ่งนั้นสิ่งนี้
พระเจ้าสร้างทุกสิ่ง
@@kudasky4611 อะไรของเมิงงง ผิดช่องละมั้ง
@@kudasky4611😂😂😂
สสารมืดคืออนุภาคที่ก่อมาเป็นอนุภาคสสาร คือเป็นอนุภาคตั้งต้นที่รอการกระทำต่อกันจนมีวิวัฒนาการมาเป็นอนุภาคสสาร ตอนนี้กระบวนการแปรรูปเป็นสสารพึ่ง กระทำไปได้ 5% (สสาร)และกำลังวิวัฒนาการอีก 69% (พลังงานมืด ) ส่วนที่ยังไม่มีวิวัฒนาการอีก 26%(สสารมืด) ซึ่งน่าจะมีขนาดที่เล็กมากๆ จนไม่สามารุใช้อนุภาคสสารในการตรวจจับได้เลย
แท้จริงแล้วเรื่องจักรวาลนั้นไซร้ย่อมอยู่นอกเหนือความรู้ความเข้าใจของมนุษย์โดยสิ้นเชิง
อาไปเมน
เสียงผู้บรรยายดีคับ
อยากรู้จังว่าใครเป็นผู้สร้างสิ่งเหล่านี้จักรวาลเกิดขึ้นได้อย่างไร
แล้วมีจักรวาลสร้างขึ้นมาเพื่อจุดประสงค์อะไร
เด่วขอสั่งเห็ดเมากับกัญชาสักมวน จะมานั่งฟังใหม่นะครับ😊
ทุกแรง มันก็น่าพิศวงทั้งหมดอะ ไม่รู้ว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร แต่มันเป็นยังงั้นอะ😮
ฉันสงสัย...ว่ามันต้องมี "พลังงานบางอย่าง" ที่ยิ่งใหญ่มากๆ ที่ทำให้ทุกๆอย่าง มันหมุนไป ตลอดเวลา ในคือ พลังงาน ของอะไร...
พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ จะไม่รู้กับสามสิ่งนี้เท่านั้นคือ
-วิญญาณ (ไม่มีสิ้นสุด)
-อวกาศ (ไม่มีสิ้นสุด)
-การเกิด การตั้งอยู่ การดับ ของเอกภพ (ไม่มีสิ้นสุด)
วิญญาณไม่มีที่สิ้นสุด คือยังไงครับ มันมีธาตุรู้ อยู่ในเอกภพไม่สิ้นสุดแบบนี้เหรอ?
@@Man_U.0770
วิญญาณธาตุ อยู่ในเอกภพตลอดไปใช่ครับ วิญญาณสร้างวิญญาณได้ด้วยตัวของมัน(วิวัฒนาการได้)
วิญญาณก็คือพวก DNA แล้วจิตจึงจะเข้าไปครองในวิญญาณเหล่านั้น โดยอาศัยในร่างกายของสัพสัตว์ที่เป็นชีวิต โดยไม่รู้ว่าวิญญาณมันเริ่มเมื่อใด จะสิ้นสุดลงเมื่อใด แต่ที่แน่ๆในเอกภพ มันเกิดได้อย่างไม่มีสิ้นสุดของวิญญาณ
ไม่สิ้นสุดหมายถึงหาจุดเริ่มและสิ้นสุดไม่พบงัยล่ะ
คนพุทธนี้เป็นแบบนี้ทุกคนไหม ไม่รุ้เขาได้วิทหรือฟิสิกมาบ้างไหม เอามาโยงแต่ละอัน ปวดหัว อ้างแบบวิชาการและตรรกะลุง ถ้าเรียนมาลุงจะรุ้ว่าอวกาศหรือโลกจะมีจุดสิ้นสุด
@@user-ds8vz1dm3q มีหลักฐานมั้ยว่าอวกาศมีสิ้นสุดอะ
สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นจากบิกแบง แล้วก่อนบิกแบงคืออะไร ? ความว่างเปล่ากำเนิดบิกแบง?
จะมีความเป็นไปได้รึปล่าวที่ว่า สสารมืดเป็นตัวกลางในการเดินทางของแสง และมีความเกี่ยวข้องกับมิติ
ผมชอบความคิดเห็นนี้ ผมเห็นด้วยที่แสงมันจำเป็นจะต้องมี สสารประคอง เพื่อไม่ให้แสงกระจาย
สสารมืดเป็นความลับที่รอการค้นหาคำตอบสสารมืดเป็นความลับที่รอการค้นหาคำตอบ
น่ากลัวแต่ก็น่าค้นหา
ความไม่รู้ เป็นที่มา ของความอยากรู้
ทั้งที่ทุกอย่าง คือ ความว่างปล่าว
สสารมืด? เป็นสิ่งที่จับต้องไม่ได้? ถูกไหม? อย่างไฟ, แสง, อูณหภูมิ เป็น สสารมืดเหมือนกัน?
thank
🇹#ขอบคุณล่วงหน้าคะ❤🌍➕➕➕คะ🇹❤คะ 1:58
สสารมืด สัมผัส ตรวจจับไม่ได้
แต่หลักวิชาการบอกว่า มันมีอยู่ 🤭
ที่ผมเข้าใจคือ สสารมืดมันยังเป็นแค่ทฤษฎีถูกป่ะครับ
สสารมืดก็คือเวลานั่นเองครับ เพียงแต่ เราจะเอาเวลาใส่ถุงใส่ภาชนะได้ยังไง
ถ้าแสงเป็นสิ่งที่เรามองไม่เห็น ดังนั้นแสงจะเป็นสิ่งที่เคลื่อนที่เร็วที่สุดไหม .. ?? แต่ไม่ว่าแสงจะมีพลังงานมากแค่ไหน มันก็ไม่สามารถชนะสะสารมืดได้
👍
สสารมืด เอาตามทฤษฎีของผู้บรรลุธรรม สสารมืดนั้นเกิดดับอยู่ตลอดเวลา ขึ้นอยู่กับเหตุปัจจัยที่จะวิวัฒนาการ หากไม่มีเหตุปัจจัยก็เกิดดับอยู่อย่างนั้น แต่ถ้ามีเหตุปัจจัยจึงก่อให้เกิดสสารวิวัฒนาการเรื่อยมา
สสารมืด ก็คือ"กราวิตอน"อันเดียวกันครับ อยู่คนละด้านกับแสง เชื่องโยงกันอยู่ มีความเร็วเท่าแสง ไม่สะท้อนแสง เราจึงหาไม่เจอ
กราวิตรอน ก็คือ กราวิตรอน
สสารมืดก็คือ สสารมืด
ไม่ใช่อันเดียวกันเลยครับ แต่ที่บอกอาจมีความเกี่ยวข้องกันหรือเชื่อมโยงกันนั้นอาจเป็นไปได้ แต่มันไม่ใช่สิ่งเดียวกันแน่นอน
กราวิตรอน คือ อนุภาคตามทฤษฎี คาดว่าเป็นอนุภาคนำแรงดึงดูด เพราะแรงพื้นฐานที่เหลืออีก 3 ตัว ต่างมีอนุภาคนำแรงทั้งนั้น
กราวิตรอน กราวิตี้ (gravity -แรงโน้มถ่วง ) น่าจะเดาชื่อเอาได้นะ ทำไมถึงไปเดาว่าเป็นสสารมืด จินตนาการเกินไป
อันนี้สรุปเองแบบมั่วๆ ไม่มีหัวไม่มีหาง
มั่วตั้งแต่บรรทัดแรก เหอะๆ โง่แค่เงียบครับ อย่ามั่ว บิดเบือนให้มาก
ชอบเสียงจัง
เสียงเอไอ
@@metzvonkaunhiem1118ขอบเม้นท์ถูกใจจังอะ
มองโลกออกไปใครๆรู้แต่มองโลกถายในลึกซึ้งอยู่(นึก.จินตนาการ.ความรู้สึก.และปัญญา.จับมาวางไว้ได้ก็จบ)แต่เป็นไปไม่ได้เพราะยิ่งงใหญ่)ข้อมูลดีๆความรู้เป็นประโยชน์ยืนยันความยิ่งใหญ่ของปัญญาอันยิ่งยวด(ยอมรับตัวผมเองไม่ได้รู้เลยถ้าขาดครูและผู้ที่รู้)
เอกภพหรือจักรวาล อาจจะมีขอบและมีจุดกลาง และจุดกลางคือจุดที่เกิดบิ๊กแบง แต่ว่าจุดนั้นอยู่ตรงไหน 😮
ดูคลิปมากี่คลิปแล้วมึงยังไม่รู้เรื่องหรือ
สสารมืดก็เหมือนความรัก รู้ว่ามีแต่ไม่เคยเจอ
หรืออาจจะเคยเจอ แต่แค่มองไม่เห็น
@@tuaneeb8784 เรื่องนี้มันยากกว่าฟิสิกส์อีกนะครับ555
เปลี่ยนกระบวนทัศน์ เปลี่ยนสามัญสำนึก เปลี่ยนวิธีคิด รู้สึกและปฏิบัติ เปลี่ยนเครื่องมือ เปลี่ยนจิตสำนึก เปลี่ยนวิธีมองความเป็นไปทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นบนโลกใบนี้ ถ้าเปลี่ยนได้ทั้งหมดก็จะพบความจริงที่เกี่ยวกับสสารมืด พลังงานมืด กำเนิดโลก แรงโน้มถ่วง สนามควอนตัมและอื่นๆ
บ้าหรือป่าว ร่างกายมนุษย์ เอาไปโยงเรื่องนอกอวกาศ คนพุทธเลอะเทอะจริง แทนที่จะอ้างเรื่องวิชาการตรรกะ
เห็นด้วย เปลี่ยนความเชื่อด้วย จริงๆพระเจ้าก็สร้างโลก จักรวาล กาแลคซีและทุกสิ่งอยู่ในมือของพระเจ้า พระเจ้าคือความสว่าง และความสว่างนั้นอยู่อีกมิติแห่งจิตบริสุทธิ์ และมีความมืดตลอดกาลที่นั่นคือขุมนรกที่พระเจ้าจะทำลายทุกสิ่งและโยนทิ้งที่บึงไฟนรกไม่รู้จักดับสลาย เครื่องมือวิทย์ไม่สามารถวัด อธิบายสิ่งที่ละเอียดได้ พระเจ้าให้ร่างกายมนุษย์คือกายหยาบ และจิตอยู่ในกายหยาบ เมื่อจะสื่อสารกับพระผู้สร้างต้องคุยกับพระเจ้าผ่านจิตเท่านั้น มันวัดเป็นพลังงานไม่ได้ เพราะ พระเจ้ามีฤทธานุภาพมาก พระเจ้าคือ alpha และ Omega พระเจ้าจึงเป็นแหล่งพลังงานและชีวิตทุกสิ่ง แต่มนุษย์ไม่เชื่อ จีงไม่ได้รับรู้ฤทธานุภาพพลังงานอันทรงพลังนั้น มนุษย์จึงไม่สามารถข้ามผ่านมิติได้เพราะกายหยาบ จะสื่อจิตได้ต้องขอพระเจ้าเปิดตาและจิตที่จะสัมผัสพลังงานต่างๆได้ คนจีงมีปัญญาแค่ในสมองก้อนหนึ่งที่อยู่ในหัวคนเรา แต่ปัญญาพระเจ้าไม่ได้หยาบแบบนั้น เพราะพระเจ้าละเอียด บริสุทธิ์ เป็นแหล่งความสว่างและอำนาจ พลังงาน พระเจ้าสร้างโลกแค่ตรัส ทุกอย่างก็เกิด อิสราเอลคือชาติแรกที่เชื่อฟังพระเจ้าและยิวคือคนที่ฉลาดที่สุดในโลก เพราะเขาได้รับพรจากพระเจ้า เขาจึงกบฏและไม่เชื่อฟังพระเจ้า พระเจ้าจึงให้คนยุคสุดท้ายสื่อสารทางจิตบริสุทธิ์ผ่านพระเยซู นั่นละคือเหตุผล พระเจ้าจะทำลายมารและความบาปเมื่อวันสุดท้ายทำลายโลกนี้โยนลงนรกบึงไฟ มนุษย์ยังไม่พ้นความตาย เพราะพระเจ้ากำหนดไว้ แต่จิตจะออกจากร่างและแยก เพื่อจะไปสู่ความสว่างของพระเจ้า หรือลงสู่ความมืดตลอดกาลอย่างนรกบึงไฟที่ล้างทำลายจิตที่มีบาป นั่นละคนไม่เชื่อในการไถ่บาปจิตของคนบาป คนจึงไม่ได้รับสัมผัสพระเจ้าเพราะหยาบเกินไป
@@user-zb3ry5hj4c ต้องขอโทษนะค่ะที่เราไม่มีความเชื่อในเรื่องของพระเจ้า แต่เราเชื่อในเรื่องของกระบวนการค้นหาความจริงด้วยการทดลองและพิสูจน์ซ้ำๆซึ่งทำให้เรารู้ว่า ธรรมชาติของความเป็นจริงในระบบควอนตัมไม่มีอะไรที่เกิดขึ้นจากความว่างเปล่าหรือกลับสู่ความว่างเปล่าอย่างแท้จริงสักอย่างเดียว ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนมีที่มาที่ไปมีโครงแบบ มีหลักการ มีกฏเกณฑ์ที่ด้านหนึ่งดูเหมือนเป็นโลกที่ยุ่งเหยิง สับสนวุ่นวาย ไร้ระเบียบ แต่อีกด้านหนึ่งเป็นโลกที่มีระเบียบที่ไม่เหลือความไร้ระเบียบเหลืออยุ่เลย ซึ่งโลกสองโลกนี้เป็นเหมือนเงาของกันและกันเช่นเดียวกันกับอนุภาคและคลื่น ที่ด้านหนึ่งแสดงค่าที่เท่ากันสองค่ายกตัวอย่างเช่น 1:1 2:2 3:3 4:4: 5:5 ฯลฯ แต่อีกด้านหนึ่งแสดงค่าที่ไม่เท่ากันสองค่ายกตัวอย่างเช่น 1:9 2:8 3:7 4:6 อื่นๆโดยอยู่บนฐานสองและฐานสิบทางคณิตศาสตร์
ภายใต้ความยุ่งเหยิง สับสนวุ่นวาย ไร้ระเบียบมีความมีระเบียบ ไม่ยุ่งเหยิง ไม่สับสนวุ่นวายซ้อนทับและพัวพันกันอยู่เหมือนกับการมองเห็นร่างทองของเจ้าเงาะป่าที่นอกจากจะต้องใช้ความสามารถเฉพาะตัวแล้วยังต้องอาศัยความร่วมมือของเจ้าถิ่นที่มีควาต้องการให้เราได้มองเห็นร่างทอง ในทฤษฎีฟิสิกส์หมายถึง Supersymmetry ที่มีสมมาตร สูงขึ้นกว่า Standard model ที่เป็นแค่ Symmetry Systems เท่านั้น ซึ่งควอนตัมและพุทธศาสนาที่ทุกคนรู้จักและเข้าใจอยู่ตอนนี้เป็นเพียงเป็นแค่ Symmetry Systems เท่านั้น
ต้องยอมรับว่า เครื่องมือวิทย์ที่มีอยู่ณ.เวลานี้ยังไม่สามารถใช้ตรวจวัดพลังงานมืดหรือสสารมืดที่อยู่อีกมิติหนึ่งได้ แต่โลกก็ไม่ได้ส่งเรามาโดยไม่ให้เครื่องมือที่สามารถเข้าถึงได้ทุกมิติโดยไม่มีข้อยกเว้น ซึ่งเราทุกคนต่างก็มีความสามารถดังกล่าวอยู่ภายในตัวเองทั้งสิ้น สิ่งที่ทุกคนต้องทำคือ เปลี่ยนกระบวนทัศน์ เปลี่ยนสามัญสำนึก เปลี่ยนวิธีคิด รู้สึกและปฏิบัติ เปลี่ยนเครื่องมือ เปลี่ยนจิตสำนึก เปลี่ยนวิธีมองความเป็นไปทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นบนโลกใบนี้
อิสราเอล ธงชาติ ตำแหน่งที่ตั้งที่เคยเป็นศูนย์รวมของสามศาสนาที่มาจากจุดเริ่มต้นเดียวกัน แต่ท้ายที่สุดได้ถูกแยกออกเป็นสามขณะนี้มาถึงจุดที่ทั้งสามศาสนาจะรวมกันเข้าเป็นหนึ่งเดียวโดยอิสราเอลและปาเลสไตน์ก็จะรวมกันเป็นหนึ่งไม่แบ่งแยกเป็นสองอีกต่อไป ไม่เพียงแต่อิสราเอลและปาเลสไตน์เท่านั้น แต่ทุกประเทศทั่วโลกก็จะหันมาใช้ศาสนาเดียวกันคือ ศาสนจักรวาลที่ใช้วิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์เป็นเครื่องนำทางโดยใช้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลาง
มีจิงมัยไม่รู้ รู้แค่ว่าต้องใส่ค่านี้ลงไป ไม่ง้นสมาการจะไม่สมบูรณ์ อาวกาศทำกฏฟิซิกพังมาหลายครั้งแล้ว
อสังขตธรรม หรือ นิพพาน คือ เกิดไม่ปรากฏ เสื่อมไม่ปรากฏ เมื่อตั้งอยู่ไม่มีภาวะอย่างอื่นปรากฏ
... ไม่มีภาวะอย่างอื่นปรากฏได้แก่ นาม รูป=มิติ วัตถุ สสาร ดาวเคราะห์ ดวงอาทิตย์ กาแลคซี่ หลุมดำ อารมณ์ความรู้สึก สิ่งมีชีวิต เทพ มาร พรหม สิ่งที่มีอยู่ในเอกภพทั้งหมด ไม่มีปรากฏ ในอสังขตธรรม
ถ้ามนุษย์ทุกคนเปลี่ยนความเชื่อ เขาน่าจะได้พบพระเจ้าจริงๆ จริงๆพระเจ้าก็สร้างโลก จักรวาล กาแลคซีและทุกสิ่งอยู่ในมือของพระเจ้า พระเจ้าคือความสว่าง และความสว่างนั้นอยู่อีกมิติแห่งจิตบริสุทธิ์ และมีความมืดตลอดกาลที่นั่นคือขุมนรกที่พระเจ้าจะทำลายทุกสิ่งและโยนทิ้งที่บึงไฟนรกไม่รู้จักดับสลาย เครื่องมือวิทย์ไม่สามารถวัด อธิบายสิ่งที่ละเอียดได้ พระเจ้าให้ร่างกายมนุษย์คือกายหยาบ และจิตอยู่ในกายหยาบ เมื่อจะสื่อสารกับพระผู้สร้างต้องคุยกับพระเจ้าผ่านจิตเท่านั้น มันวัดเป็นพลังงานไม่ได้ เพราะ พระเจ้ามีฤทธานุภาพมาก พระเจ้าคือ alpha และ Omega พระเจ้าจึงเป็นแหล่งพลังงานและชีวิตทุกสิ่ง แต่มนุษย์ไม่เชื่อ จีงไม่ได้รับรู้ฤทธานุภาพพลังงานอันทรงพลังนั้น มนุษย์จึงไม่สามารถข้ามผ่านมิติได้เพราะกายหยาบ จะสื่อจิตได้ต้องขอพระเจ้าเปิดตาและจิตที่จะสัมผัสพลังงานต่างๆได้ คนจีงมีปัญญาแค่ในสมองก้อนหนึ่งที่อยู่ในหัวคนเรา แต่ปัญญาพระเจ้าไม่ได้หยาบแบบนั้น เพราะพระเจ้าละเอียด บริสุทธิ์ เป็นแหล่งความสว่างและอำนาจ พลังงาน พระเจ้าสร้างโลกแค่ตรัส ทุกอย่างก็เกิด อิสราเอลคือชาติแรกที่เชื่อฟังพระเจ้าและยิวคือคนที่ฉลาดที่สุดในโลก เพราะเขาได้รับพรจากพระเจ้า เขาจึงกบฏและไม่เชื่อฟังพระเจ้า พระเจ้าจึงให้คนยุคสุดท้ายสื่อสารทางจิตบริสุทธิ์ผ่านพระเยซู นั่นละคือเหตุผล พระเจ้าจะทำลายมารและความบาปเมื่อวันสุดท้ายทำลายโลกนี้โยนลงนรกบึงไฟ มนุษย์ยังไม่พ้นความตาย เพราะพระเจ้ากำหนดไว้ แต่จิตจะออกจากร่างและแยก เพื่อจะไปสู่ความสว่างของพระเจ้า หรือลงสู่ความมืดตลอดกาลอย่างนรกบึงไฟที่ล้างทำลายจิตที่มีบาป นั่นละคนไม่เชื่อในการไถ่บาปจิตของคนบาป คนจึงไม่ได้รับสัมผัสพระเจ้าเพราะหยาบเกินไป
@@user-zb3ry5hj4c พระเจ้ามีจิตไหม พระเจ้าเป็นตัวสร้าง ตัวสร้างต้องมีตัณหาคือความอยาก พระเจ้ามีปาก แค่ตรัสจึงเกิดสิ่งต่างๆ ตามความประสงค์ของพระเจ้า ดังนั้นพระเจ้าอยู่ใน สังขตธรรม เป็นธรรมที่มีการ เกิด เสื่อม ดับ วนเวียนอย่างนี้ พระเจ้าก็ต้องไม่อมตะ ไม่รอฟังคำอ้วนวอนของมนุษย์
@@user-zb3ry5hj4c ศาสนาคุณความหมายของ "จิต" คืออะไร
@@chayanis229 ร่างกายและอวัยะวะเป็นกายหยาบ ในร่างกายมีจิตดวงหนึ่งในกายหยาบ จิตมีสถาวะเสมือน การหลับใหล ที่ไม่ฝึกจะไม่ได้รับการพัฒนา ความคิด หัวใจ เลยควบคุมกายหยาบ แทนจิต จิตจึงยังหลับใหล ถ้าใครฝึกและคุยกับจิตตนเองได้ ทีไม่มีอะไรมาควบคุม จิตจะมีพลังงานที่จะสั่งอวัยะวะกายหยาบภายใต้การตื่นรู้ ไว ต่อความหยาบทังภายในและภายนอกได้ ถ้าคุณดเพิ่งสมาธิดีๆ ในร่างกายนี้ความคิดจะสามารถลวงการตัดสินใจได้ บางครั้งให้ตัดสินใจผิด และถูก ถ้าจะใช้จิตและหัวใจ คนนั้นต้องยกหัวใจและจิตให้พระเจ้าค่ือพระเยซูชำระให้บริสุทธิ์ เพราะพลังงานมืดชั่ว สสารมืดคือ มาร ซาตาร ผี เทพ ฑูตสวรรค์ที่ล้มในความบาปจึงพยายามแย่งจิตจากพระเจ้า ทำให้คนหลงทางไม่เจอความสว่างเพื่อให้ตายและลงสู่หุบเหวความมืดตลอดกาลที่วิทย์คงเรียก สะสารมืด นั้นปลายทางคือบึงไฟนรกไม่รู้ดับชั่วกัปกัลป์ ถ้าใครได้รับการปลุกจิตที่พระเจ้าจะคุยได้ จิตจะมีพลังจากพระเจ้าและสั่งจิต และใช้อำนาจที่พระเจ้าชำระจิตให้สว่างนั้นไม่มืด จิตที่สว่างในร่างกายนั้นจะเป็นจิตที่มีพลังงานและสามารถรักษา และออกคำสั่งผ่านสิทธิอำนาจที่พระเจ้าให้ พลังงานความมืดคือพลังงานทุกรุปแบบที่มีสะสมมากมายในโลก ในคน ที่มีทุกที่บนน้ำ ฟ้า อากาศ บางที่พลังงานมืดเยอะจะรุ้สึกอึดอัด บางที่หนาแน่นมากมันจะแสดงออกมาดึงใจคนจิตคนให้กระทำสิ่งชั่วร้าย เพราะสิ่งเหล่านี้มีในโลกแห่งบาป พระจึงชอบฝึกจิตนั่งกรรมฐานในที่สงบ และการถอดจิต มันสามารถเปิดช่องว่างจิตร้าย วิญญาณชั่วเข้าสิงร่าง ในร่างกายคนจึงมีจิตคนั้นอยู่ที่เรียกร่างนี้ว่าบ้าน host แต่วิญญาณชั่วบางตนก็มาสิงร่างเข้าร่างได้เพราะไปยอมเป็นทาสสิ่งชั่วร้าย มันจึงมีอำนาจควบคุมความคิด จิตใจคนนั้น และกระทำแสดงออกแบบดีและร้าย ทั้งที่รู้ตัวหรือไม่ คนทั่วไปไม่เข้าใจเพราะเขาฝึกจิตแค่น้อยนิด และชนะมาร ไม่ได้ แต่คนที่มีพระเจ้าพระเยซูชำระจิตให้บริสุทธิ์ จิตคนๆนั้นจะได้รับการปลุกให้ตื่นรู้ ตื่นไวต่อสิ่งชั่วและสิ่งดี ต่อวิญญาณ ผี เทพและเห็นสิ่งอื่นไว
จิตที่พระเจ้าใช้จะต้องรักพระเจ้า เพราะพระเจ้าต้องการชำระจิตทุกดวงให้บริสุทธิ์และกลับสู่ความสว่างหลังที่กายหยาบตาย ร่างหรือ host นี้จะถูกทำลาย จิตจึงอาศัยใน่ราไม่ได้ แต่ร่างกายจึงป่วย แก่ เจ็บ ตาย คนที่มีจิตที่พระเจ้าให้ จิตของพระเจ้าจะอยู่ใน่รางกายคนๆนั้นกับจิตคนนั้นได้ ฉะนั้นเมื่อคนๆนั้นให้หังใจ จิต และชำระความคิดและร่างกาย ร่างกายจิต ความคิด อวัยวะจะเป็นหนึ่งเดียวกันที่พลังงานที่พระเจ้าให้จะส่งผ่านมา่รางกายนั้นได้ไว การรับรู้ทางจิตจึงตื่นและไวขึ้น ใครที่ไม่เคยคุยกับพระเจ้าคือพระเยซู เขาจะเชื่อทางเวทย์มน ผี ร่างทรงและบางคนจะไปเชื่อเทพ ผีบรรบุรุษ การรับการสักยันต์เช่นกันคือรับจิตของสัตว์ผีร้ายเข้าร่าง การที่คนส่วนมากไปบูชาพญานาคก็เช่นกันจะเป็นทาสงู ไปกราบไหว้สิ่งที่พระเจ้าห้ามกราบไหว้ พระเจ้าใหญ่กว่าเทพผี พระเจ้าสร้างคน จักรวาล เป็นแหล่งชีวิต แหล่งความสว่างพลังงานทั้งมวล คนจึงคิดแค่ว่าพระเยซูคือมนุษย์ ธรรมดาแต่จริงในจิตที่สวมทับพระเยซูคือจิตที่พระเจ้าให้และจิตนั้น ในยุคสุดท้ายทุกๆคนสามารถรับจิตของพระเจ้าได้ เพราะพระเจ้าต้องการชำระจิตคนบนโลกให้บริสุทธิ์และพากลับสู่ความสว่างนิรันดล นี่พูดแนววิทย์ผสมจิตให้ฟังนะ ง่ายๆที่จะเข้าใจ
@@chayanis229จิตไม่ได้กล่าวไว้ในรายละเอียดของไบเบิ้ล อันนี้เรียนรู้จากพระเจ้าเองที่จะสัมผัส พูดคุยผ่านจิต และการสร้างความสัมพันธ์กับผู้สร้าง จิตทุกคนในร่างจะหม่น ดำ มืด น้อยคนที่จิตในร่างหยาบจะสุกใสมีพลัง ถ้าอยากได้พลังต้องเข้าใกล้ผู้สร้าง เพราะผู้สร้างทรงพลังทั้งมวลคือความบริสุทธิ์ ความสว่าง มวลพลังงานแห่งชีวิตทั้งมวล สะสารมืด พลังงานชั่วร้ายจะสร้างสิ่งมืด เพื่อดึงจิตของคนก่างไกลจากความสว่าง จิตคนตึงดิ่งสู่ความมืด เพราะมารคือเจ้าแห่งความมืด มันฆ่าจิตทุกดวงลงสู่ความมืดตลอดกาล คนจึงตายไวและจึงไร้hostคือกายหยาบ พลังแห่งชีวิตดับ จิตจึงต้องล่องไปอีกมิติที่ไม่มีhost ที่นั่นคือความมืด แหล่วงรวมจิตทั้งโลก และถ้าจิตไม่ได้รับการชำระจากผู้สร้างและhostตายก่อน จิตจะไม่มีโอกาสอีกเลยที่จะชำระให้สว่างบริสุทธิ์ ไม่สามารถเข้่สู่ความสว่างตลอดกาลได้เลย ศาสนาตัวล่อลวง มันลวงจิตใจคน อะไรที่มนุษย์สร้างคือเสื่อมสลาย ไม่มีสิ่งใดจะเท่าผู้สร้างได้ ถ้าอยากรู้จักผู้สร้างต้องขอพระเยซูชำระจิต ความคิด ร่างกาย ทุกอวัยวะให้บริสุทธิ์สะอาด สว่าง แล้วจิตจะเริ่มออกจากความมืดได้ คนปกติออกเองไม่ได้เพราะนั้นคือกิเลสและบาป กั้นอยู่ ความมืดจึงยังอยู่ทุกที่บนโลก สังเกตเวลาแบ่ง2ช่วงคืสว่างและมืด นั่นล่ะที่จิตคนไม่เข้าใจ เพราะหลับใหลอยู่ มีแค่ผู้สร้างจะให้พลังงานจิตได้และชำระจิตได้และปลุกให้ตื่นได้ จะสู้กับความมืดต้องมีพระผู้สร้างนำทางทุกจิตบนโลก แต่คนบนโลกไม่เชื่อการทรงสร้าง ตึงหลงทางกับโลกและทุกhostก้อมีเวลาจำกัด พลังขีวิตจะดับและตาย สุดท้ายจิตจะต้องออกจากร่างข้ามมิติไป
สสารมืด เป็นแค่ทฤษฎี ยังไม่มีใครหาเจอหรือเคยเห็น เขาแค่เชื่ออย่างมากว่ามันมีจริง แต่เมื่อยังหามันไม่เจอ พิสูจน์ไม่ได้ มันก็ยังคงเป็นทฤษฎี อยู่ ควรใช้คำให้ถูกครับ
มันอยู่ในหลุมดำลุง ไม่ใช่แค่ทฤษฎี
@@user-ds8vz1dm3q หลอนป่าวครับ แค่เห็นมันเป็นสีดำไม่ได้แปลว่ามันคือสสารมืด ในหลุมดำไม่มีใครรู้ว่ามันคืออะไร และมีอะไรอยู่ ไม่เคยมีมีใครไปถึง เผื่อไม่รู้ ทุกวันนี้คนเราออกไปไกลสุดแค่ดวงจันทร์ครับ ที่เหลือส่งหุ่นยนต์กับจรวด-ดาวเทียมไปทั้งนั้น ภาพที่เห็นทุกอย่างเป็นแค่ภาพสแกน ไม่มีใครหรือองค์ไหนรู้อะไรมากกว่า แร่ธาตุที่ดาวอังคาร ทุกอย่างที่เหลือที่บอกว่าเป็นนั่นเป็นนี่เป็นทฤษฎีทั้งหมด
ถ้ามนุษย์ทุกคนเปลี่ยนความเชื่อ เขาน่าจะได้พบพระเจ้าจริงๆ จริงๆพระเจ้าก็สร้างโลก จักรวาล กาแลคซีและทุกสิ่งอยู่ในมือของพระเจ้า พระเจ้าคือความสว่าง และความสว่างนั้นอยู่อีกมิติแห่งจิตบริสุทธิ์ และมีความมืดตลอดกาลที่นั่นคือขุมนรกที่พระเจ้าจะทำลายทุกสิ่งและโยนทิ้งที่บึงไฟนรกไม่รู้จักดับสลาย เครื่องมือวิทย์ไม่สามารถวัด อธิบายสิ่งที่ละเอียดได้ พระเจ้าให้ร่างกายมนุษย์คือกายหยาบ และจิตอยู่ในกายหยาบ เมื่อจะสื่อสารกับพระผู้สร้างต้องคุยกับพระเจ้าผ่านจิตเท่านั้น มันวัดเป็นพลังงานไม่ได้ เพราะ พระเจ้ามีฤทธานุภาพมาก พระเจ้าคือ alpha และ Omega พระเจ้าจึงเป็นแหล่งพลังงานและชีวิตทุกสิ่ง แต่มนุษย์ไม่เชื่อ จีงไม่ได้รับรู้ฤทธานุภาพพลังงานอันทรงพลังนั้น มนุษย์จึงไม่สามารถข้ามผ่านมิติได้เพราะกายหยาบ จะสื่อจิตได้ต้องขอพระเจ้าเปิดตาและจิตที่จะสัมผัสพลังงานต่างๆได้ คนจีงมีปัญญาแค่ในสมองก้อนหนึ่งที่อยู่ในหัวคนเรา แต่ปัญญาพระเจ้าไม่ได้หยาบแบบนั้น เพราะพระเจ้าละเอียด บริสุทธิ์ เป็นแหล่งความสว่างและอำนาจ พลังงาน พระเจ้าสร้างโลกแค่ตรัส ทุกอย่างก็เกิด อิสราเอลคือชาติแรกที่เชื่อฟังพระเจ้าและยิวคือคนที่ฉลาดที่สุดในโลก เพราะเขาได้รับพรจากพระเจ้า เขาจึงกบฏและไม่เชื่อฟังพระเจ้า พระเจ้าจึงให้คนยุคสุดท้ายสื่อสารทางจิตบริสุทธิ์ผ่านพระเยซู นั่นละคือเหตุผล พระเจ้าจะทำลายมารและความบาปเมื่อวันสุดท้ายทำลายโลกนี้โยนลงนรกบึงไฟ มนุษย์ยังไม่พ้นความตาย เพราะพระเจ้ากำหนดไว้ แต่จิตจะออกจากร่างและแยก เพื่อจะไปสู่ความสว่างของพระเจ้า หรือลงสู่ความมืดตลอดกาลอย่างนรกบึงไฟที่ล้างทำลายจิตที่มีบาป นั่นละคนไม่เชื่อในการไถ่บาปจิตของคนบาป คนจึงไม่ได้รับสัมผัสพระเจ้าเพราะหยาบเกินไป
เคยสงสัยไหม ว่าทำไมสิ่งชั่วร้ายภูตผีความหวาดกลัวมักจะมาเกิดหรือปรากฏเอาในตอนที่ฟ้ามืดมิด นั้นก็เพราะมันใช้สะสารมืดเป็นพลังงาน หรือไม่ก็พวกมันนั้นแหละคือสะสารมืด ยามที่พระอาทิตย์ส่องแสงสะสารมืดก็สลายตัวไปสิ่งไม่มีดีสิ่งที่หวาดกลัวก็หายไปเช่นกัน ความคิดส่วนตัวนะ
หรือว่ามันอาจไม่มีอยู่จริง 😬😬
ความมืด คือ อนุภาค ก็พอ ๆ กับที่ไอสไตน์บอกว่าแสงสว่างเป็นอนุภาค
🥰🥰🥰🥰🥰🥰
สสารมืดอาจไม่มีมวลก็ได้และอาจไม่เกี่ยวพันกับระบบของเราเลยก็ได้ จริงๆมันซ้อนกันจนแน่นไปหมด
😮เพราะมันมืดใช่มั้ย😮
เหมือนหนังเรื่อง กัปตันฮาร็อค
สสาร...มืด คือ บ้านผมคับ ผมไม่จ่ายค่าไฟที มันโจมตีบ้านผมแล้วครับ
ต้องเรียกว่า "สสารโปร่ง" สามารถทะลุละลวงได้ทุกอย่าง
โลกและดวงดาว จัดเป็นกายหยาบ
แต่สสารมืด คือ กายละเอียด
จริงหรอจริงดิที่ว่าไม่มีใครหาเจอ?😅
มันคือจุรินทรีแล็คโตบาซีรัด จบข่าว😅
ผมรู้ผมเห็น
มันคือความว่างเปล่า
ยากต่อการทำวิศวกรรมย้อนกลับ
เป็นไปได้ไหมว่า สะสารมืด ก็แค่ความบิดเบี้ยวไม่สม่ำเสมอของกาลอวกาศ แบบคงตัว (=กาลอวกาศบริเวณที่ไม่ราบเรียบ) ไม่ใช่กลุ่มมวลใดๆ
สิ่งนั้นจึงส่งผลแค่แรงดึงดูดกับ ถ้ามากพอจะหักเหเส้นทางแสง แต่ไม่มีการตอบสนองต่อแรงอื่นและสัมผัสไม่ได้ (อย่าง กาลอวกศใกล้ผิวโลกที่โค้งงอ แต่เราจับต้องไม่ได้ ยกเว้นรุ้สึกถูกโน้มถ่วง) 😅😅
พบแล้วที่ทางฝั่งตะวันตกของดอนใคร
ทีช หาเจอเรียบร้อยแล้วครับเค้าไม่ยอมหลับยอมนอนหามาทั้งชีวิต🖤
สสารมืด ถ้าเราสามารถใช้งานมันได้จริงเราจะวิวัฒนาการแบบจาก1ไป8ไป9ทันที แล้วสงครามครั้งใหญ่ก็อาจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคต เราอาจจะเจอสิ่งมีชีวิตที่มีอารยธรรมขั้นสูงมาเยือนเราหรือเราอาจจะไปเยือนเขาแต่สิ่งมีชีวิตพวกไม่มีเทคโนโลยีสสารมืด อาจจะก่อให้เกิดความขัดแย้ง และแผ่ขยายไปทั่วกาแล็คซี่ เพียงเพราะเทคโนโลยีสสารมืด โลกเราก็จะเหมือนป้อมปราการไม่มีอะไรสวยหรูให้เห็น จะมีก็เพียงแค่ตึกคอนกรีตเสริมเหล็กหนาหรือไม่ก็อาจจะเป็นศูนย์บัญชาการใหญ่ของมวล
มนุษย์ชาติ
ไม่ได้ดูหนังมากไป ไม่ได้มโน แต่มันอาจจะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ในอนาคต
มั่วหว่ะ
@@Halemhee3pp ก็ใช่ไง
อย่างแรก ต้องหาวิธีก่อนเลยว่าอะไรสามารถกักเก็บ สสารมืดได้ ถ้าได้แล้ง เราจะก้าวกระโดดย่างที่คุณพูดเลยครับ
@@Pain-lp4iz เห้ออออ มึงก้อมามั่วอีกสินะ
ถ้าบอกว่ามีอยู่จริงทำไมหาไม่เจอละ??
...สสารมืด กลืนกินเเสงได้
...สสารมวลสารที่เป็นวัตถุสีดำจะกลืนกินแสง ซับแสงได้ดี
...หลุมดำเป็นปริศนากับตั้งข้อสมมุติไว้ของนักวิทยาศาสตร์
...เมื่อยังไม่รู้ผลตามที่ตั้งสมมุติฐานไว้และ/หรือยังทำเทียมสดสอบไม่ได้กับการเกิดขึ้นของหลุมดำ ก็ยังอยู่ใน"จินตนาการจิต"อยู่ต่อไป
...การจินตนาการ เป็นความยิ่งของจิต.
จากประสบการที่เคยเจอกับตัวเอง ทำให้ผมใด้รู้ว่า แรงดัน กับแรงเด้า มันคืออันเดียวกัน บายจุ้บ😂
ค
แล้วคุณว่าแรงไหนมันกว่า
@@suwudchaikaewmart-ud8dg มันฟินทั้งดันและเด้า🤭🤭😛😛😛
5555
เน้นเเรงนี้มันจะฟิน 😂😂
เราก็ใังเขาโม้มาทั้งนั้น? 😅😅😅
พูตตรงๆนะคนที่ทำขื้นมานี้คือคนมีความรู้มากที่สุดทำได้ทุกย่างทำเปันทุกย่าง
สสารมืดก็คือวิญญาณของสิ่งมีชีวิตที่ตายและกลายเป็นสสารมืด และบางสสารก็เข้ามาจุติในร่างกายของสิ่งมีชีวิตอีกครั้ง
อิหยังอีก
อาจจะเป็นอีกภพ
หายไปไหนมาคับบบ นึกว่าปิดกิจการไปแล้วซะอี๊กกก
ถ้าเราเจอแล้ว เราจะเรียกว่าสสารมืดอยู่หรือป่าวครับ
ไม่นะ
เอาง่ายๆ ไอ้สีดำ คืออะไร สิ้นสุดตรงไหนก่อน
มีแต่ศาสนาพุทธ
อยู่ที่หนวดดำ
เราอยู่ในหลุมดำขนาดใหญ่ ที่อยู่ในLuna space ข้างนอกจะไม่มีกลางคืนเป็นที่สิ้นสุด อุณหภูมิจะถูกปรับให้พอดีกับสสารนั้นๆ คนก็จะนับเป็นสสาร พูดง่ายๆเราคล้ายๆเซลส์มะเร็ง ข้างนอกนั้นเราไม่จำเป็นต้องนอน แต่ถ้าอยากนอนก็แค่หลับตา และอาจจะฝันว่าเป็นมนุษย์บนโลก ที่นั้นไม่มีวันและเวลา ไม่มีเจ็บไม่มีป่วยไม่มีแก่และไม่มีการตายและเกิด เชื่อมั้ย?
เหมือนสวรรค์เลย😂
ใช่เราอาจอยู่ในหลุมดำผนังหลุมดำมีแรงตึงหรือแรงกระทำต่อสสารทั้งมวลและอีกแนวตฃคิดหนึ่งอาจมีเอกภาพคู่ขนานทำให้เรามองไม่เห็น
แล้วเรามาอยู่ที่นี่ทำไม
พักก่อน
เชื่อพระพุทธเจ้าดีกว่าสบายใจ
มืดสุดก็…..กิเลสในใจตน…..
สสารมือแถวบ้านใช้ปิ้งปลา😅
คนที่เชื่อในพระเจ้าว่าไง พระเจ้าของคุณได้กล่าวไว้รึป่าว 😅😂
ประเด็นคือ จะรู้ไปทำไม
นั้นคือการพัฒนาการมนุษย์และประเทศชาติบุกรากร.ข้าพูดไว้ตั้งนาน.แต่ไม่พูดต่อเพราะมันเอาคำพูดข้าไปยกยอ้งแต่ภวกนาซาข้าเลยเกรียด..ภวกไม่มีสมองคิดเองไม่เป้น.ไม่ไปกินขี่นาซาแทนขา้วสะ
😊😊😊😊😊ิอยู่ที่ว่าคุณมองสิ่งนั้นผ่านอะไร
มันคือพลังของ หนวดดำ เทพนิกะไม่รู้จะรับมือไหวหรือยังตอนนี้
ไม่เคยเจอ จะบอกว่ามีได้งัย
สมมุติง่ายๆน่ะครับ สมมุติว่ามีความฆาตกรรมเกิดขึ้นโดยที่ว่าทิ้งผลลัพธ์เอาไว้คือศพของผู้โดนกระทำเลือกหรือหลักฐานต่างๆ แต่กลับยังหาตัวไม่เจองัยครับ มองเห็นผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นแต่กลับยังไม่ค้นพบสิ่งที่กระทำผลลัพธ์แบบนั้นครับ เขาเลยตั้งว่าเป็นทฤษฎีครับเพราะยังหาตัวที่กระทำไม่เจอเลยยังไม่ระบุได้ครับว่าสิ่งนั้นใช่สสารมืดจริงๆรึป่าวหรือมันคืออะไรกันแน่ (ความคิดส่วนตัวครับ)
12:27
เราเห็นด้วยตาเปล่า
สสารมืดไม่มีการพบเห็น แต่เชื่อมีอยู่จริง
ผู้สร้างไม่มีการพบเห็น แต่เชื่อว่าไม่มีอยู่จริง ตรรกะย้อนแย้ง ถ้าเชื่อสสารมืด ก็ต้องเชื่อผู้สร้างด้วย แต่พวกประจักษ์นิยมไม่เชื่อสิ่งนี้
ผู้สร้างอะไรคับเลอะเทอะ
@@nekoblack7595 งั้นคุณก็อธิบายการเกิดจักรวาล ว่ายังไงล่ะ ความบังเอิญ,ความว่างเปล่า,สสารที่เป็นอนันต์ หรอ หรือจริงๆไม่เคยที่จะตั้งคำถามด้วยซ้ำ
อยู่เป็นทาสในระบบทุนนิยม แล้วผลิตทาสรุ่นใหม่ แล้วรอวันตายเป็นปุ๋ยหรือขยะในอวกาศ แบบนี้หรือป่าว
@@subribnt7865 ผมเคยคิดคับคิดไปก็ปวดหัวเพราะมันหาคำตอบไม่ได้ มันเกินขอบเขตที่เราจะคิดได้ แต่ผมเชื่อว่าผู้สร้างไม่มีจริง ทุกสิ่งที่เกิดมาเกิดมาจากความหยิ่งใหญ่ของธรรมชาติ พลังที่หยิ่งใหญ่ ที่เราไม่มีวันหาคำตอบได้ ผมก็เคยคิดนะว่าบางที่เราอาจจะเป็นแค่เเมลงตัวเล็กๆ บนสิ่งมีชีวิตที่ตัวใหญ่ก็ได้ นั้นแหละแต่ผมเชื่อว่าสิ่งที่ทำให้ทุกอย่างเกิดมาคือพลังงานอันหยิ่งใหญ่ เพราะทุกชีวิตล้วนเกิดมาจากพลังงานใช้พลังงานขับเครื่องกินพลังงานเพื่อให้ตัวเองมีชีวิตต่อไป ถ้าคุณบอกว่าผู้สร้างมีจริงแล้วคุณคิดไหมว่าใครเป็นคนทำให้ผู้สร้างเกิดมา มันไม่มีใครสร้างหรอคับธรรมชาติทั้งนั้น ถ้ามีผู้สร้างจริงก็ต้องมีคนสร้างผู้สร้างไหมแบบนั้น ถ้าเป็นแบบนั้นใครคือผู้สร้างละที่นี้
ง่ายๆที่สุด พระเจ้าคือพระผู้สร้างทุกสิ่งในมือของพระเจ้า เพราะพระเจ้าเป็นAlphaและ Omega พระเจ้าคือความสว่าง และนรกคือความมืด
@@wattanaprasit1263 ก็แล้วแต่จะคิดคับ อยากเชื่อแบบไหนก็แล้วแต่บุคคล ส่วนตัวผมไม่เชื่อเรื่องพระเจ้า อำนาจที่หญิงใหญ่ที่สุดในกาเเลคซี่เราคือดวงอาทิตย์ พลังงานที่มาจากดวงอาทิตย์ทำให้สิ่งมีชีวิตในโลกดำรงชีวิตอยู่ได้ บอกว่าพระอาทิตย์คือพระเจ้าก็ได้นะแถมมองเห็นด้วยตาไม่ต้องมโนด้วย ส่วนพระเจ้าที่ไม่มีอยู่จริงก็แล้วแต่ความเชื่อของคนคับ แต่สิ่งที่ทำให้เรามีชีวิตอยู่ได้ทุกวันนี้ค่ิดวงอาทิตย์ พืชกินพลังดวงอาทิตย์ สัตว์กินพืชรับพลังงานมาอีกต่อ สัตว์กินเนื้อก็รับพลังมาจากสัตว์กินพืชอีกที
เอิ่ม อย่าลืมนะว่ามนุษย์พึ่งมีวิทยาศาสตร์มาได้ประมาณ 500 ปีเองกระมัง ที่ท่านทั้งหลาย บอกไว้ว่า นี่ไงต่อให้มนุษย์ศึกษาขนาดไหนก็ไม่สามารถเข้าใจได้ เพราะ มีพระเจ้าผู้อยู่เหนือกว่ามนุษย์อยู่ยังไงหละ อยากบอกไว้ว่าการศึกษาอย่างจริงๆจังๆ มันมียังไม่ถึงพันปีเลย ทุกวันนี้วงการวิทยาศาสตร์ก็มีการค้นพบใหม่ตลอดเวลา ทฤษฎีที่บอกว่าจักรวาลขยายตัวตลอดเวลาก็เริ่มมีคนมาหักล้าง วิทยาศาสตร์ที่เป็นจริงต้องพิสูจน์ได้ และถ้าโดนหักล้างถือว่าไม่เป็นจริง ละก็นะถ้าพระเจ้าสร้างทุกอย่าง แล้วอะไรสร้างพระเจ้า ธรรมชาติ? ความว่างเปล่า? อันนี้ก็ไม่มีอะไรที่พิสูจน์ได้ นี่ไม่ใช่ว่าไม่เชื่อในพระเจ้า แต่ เราก็ไม่ควรนำความเชื่อมาปะปนในวิทยาศาสตร์ เนื่องจากจะทำให้ความจริงอาจบิดเบือนได้ ไม่เข้าใจเช่นกันว่าทำไมแต่ ผมเชื่อนะว่า พระเจ้า ต้องการให้มนุษย์ทำในสิ่งที่ดี หรือบางที ทุกอย่างที่มีอยู่อาจจะเป็นเพียงแค่ธรรมชาติเท่านั้น
ใช้คอมพิวเตอร์ก็ยังมีมาไม่ถึง 100 ปีเลยมาได้ถึงจุดนี้ถือว่าเร็วมากแล้วนะคิดสภาพอีก 1 สหัสวรรษข้างหน้าดูสิ ถ้ามนุษย์ไม่ฆ่ากันตายหมดก่อน
เวลาที่ขยายดาวที่เคลื่อนที่ดู คุณจะพบว่า พวกเค้าสลัดสสารมืดออกมาจากเครื่องยนต์เยอะไปหมด จนท้องฟ้ามืด เคยเห็นแล้ว ที่เรียกว่าสสารมืด
สสารมืดอาจไม่มี ทีเราเห็นมันคือช่องโหว่ต่างหาก เหมือนน้ำวนลงรู หรือ เหมือนหลุมอากาศ ว่างเปล่าเลยทำให้สสารอื่นที่มีเกิดปฏิกิริยาหมุ่นเป็นช่องโหว่
สภาวะทั้งหมด ของการมองเห็นของมนุษย์ จะเป็นมวลภาพ ของ สสารมืด ทั้งหมด 100% แค่บางมุนมองที่เห็นว่า ขาวสว่าง เพราะแสงของ ดวงอาทิตย์ ส่อให้สว่างให้เห้นเท่านั้นเอง "ความมืด ดำ ทำให้เรามองไม่เห้นภาพเบื้องหลังจึง จินตณาการ สิ่งที่มองไม่เห็น ว่าเป็น รูปร่างน่ากลัวและลักษณะแปลกๆ ความมืดดำบดบังการมองเห้น สิ่งซ่อนเร้นมักปล่อยรุปร่างให้น่ากลัวไม่จำแลงให้รูปงานเพื่อแคร์สิ่งใด
พระเจ้าสร้างทุกสิ่ง
มนุษย์ก็คับเครื่องนดว้จแรงดันน้ำเช้นเดียวกันจักกกนก็คับเครื้อนดว้ยแรงดันน้ำเช้นกึน.แต่พลังงานคับเครื้อนมนุษย์จะเป็นพลังที่ระเอียด.ไล้สารนั้นคือแรงดันน้ำคือเลือดนั้นเองการตรวจร่างกายจึงวัฒความดันของเลือดทุกครั้งไม่ว่าจะทำอะไรเกียวกับรา้งกายทางการรักษา.มนุษย์เริมต้นการรักษาดว้ยการบูระนะเกียวกับเลือดกอ่นคอ้ยไปที่โรคไม่เช่นนั้นการรักษาก็ใด้แข่ชั้วคลาววินิสัยโรคก็ไม่ใด้รู้แต่ว่าเป็นมเลงแต่ไม่รู้ว่าเชื้อเกิดดีเอนเอ.หรือกุบเลือดสรา้งเชวขึ้นไหม่จึงมีผลตอเชวเก่าทำให้เนือมนุษย์มันกินกันเอง.นั้นคือมะเลง
เหมือนตด มีอยู่จริง แต่ไม่มีใครเคยเห็น
เห็น
ຂໍໄຫ້ໂລກຈົງມືດມິດຂໍໄຫ້ຄວາມຄິດຄົນເຮົາມີແຕ່ຄວາມຊົ່ວຮາຍ
พระเจ้าไม่กินไม่ดื่มไม่นอนไม่มีทาญาติไม่มีใครเคยเห็น
อ่าวแล้วรู้ได้ยังไงคับว่ามีแต่ไม่มีไครเจอที