EXP #10 : THE LAST OF US PART 2 ในมุมมองของ The Moof
ฝัง
- เผยแพร่เมื่อ 6 ก.ค. 2020
- #TheMoofExp
Website : movethemoof.com
Facebook : / movethemoof
TH-cam : / themoof
คุณผู้ชมที่ชื่นชอบและอยากเป็นกำลังใจให้ The Moof เพียงแค่กด like & share + Subscribe นะครับ .... - เกม
เห็นด้วยทุกประเด็นเลยค่ะ
เนื้อเรื่องของเกมภาคนี้มันลึกและโตกว่าภาคแรก เข้าถึงยากกว่ามาก
ผู้สร้างตั้งใจทำเกมมาเพื่อสื่อสารบางอย่างที่กำหนดไว้แล้ว จึงไม่ได้สร้างทางเลือกอื่นมาให้ เหมือนเป็นการดูหนังเรื่องหนึ่ง
แถมยังฆ่าตัวละครที่ทุกคนรักจากภาคแรกแบบไม่มีใครตั้งตัว คนที่ไม่ชินกับอะไรแบบนี้อาจรับไม่ได้
ส่วนตัวผ่านทั้ง The Mist และ Red Wedding มาแล้วเลยไม่ติดใจอะไรจุดนี้เหมือนกันค่ะ ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในเกมคือสิ่งที่เกิดขึ้นบนโลกใบนี้จริงๆ
เกมนี้ตีโจทย์ความเป็นมนุษย์ในแต่ละด้านออกมาได้สุดมาก มีทั้งรัก โลภ โกรธ แค้น สับสน ดูไร้เหตุผล หลายอย่างที่คนอื่นพูดว่าเกมไม่สมเหตุสมผล ตัวเกมเฉลยไว้ทั้งหมดแล้ว แต่อาจจะไม่ได้ใช้วิธีบอกกันตรงๆ ต้องคอยเก็บรายละเอียด คอยสังเกตจุดต่างๆเอาเอง ซึ่งเราชอบวิธีนำเสนอแบบนี้มากเลย
เรามองว่าในตอนท้ายเกมที่เอลลี่กลับไปตามล่าแอ๊บบี้อีกครั้งเพราะเธอยังไม่สามารถให้อภัยตัวเองได้ค่ะ
การต่อสู้ครั้งสุดท้ายไม่ได้ทำไปเพื่อแก้แค้นแอ๊บบี้ให้โจลแล้ว แต่เอลลี่กำลังต่อสู้กับความรู้สึกผิดในตัวเองต่างหาก
ความรู้สึกผิดที่ทำตัวไม่ดีกับโจลที่ฝังใจเธอมาตลอด (ที่เราจะได้เห็นผ่านแฟลชแบ็คต่างๆตลอดเกม)
ส่วนแอ๊บบี้คือคนที่พรากโอกาสที่จะแก้ตัวไปจากเธอ ทำให้ความรู้สึกผิดนี้ค้างคาในใจมาตลอด
นั่นเป็นสาเหตุว่าทำไมเธอถึงมูฟออนต่อไปไม่ได้ พูดถึงโจลแบบที่ดีน่าพูดถึงเจสซี่ไม่ได้ ไม่สามารถวาดรูปโจล หรือโดนฝันร้ายตามหลอกหลอนจนเป็น PTSD อยู่ทุกวัน
เอลลี่เป็นเด็กที่เติบโตมาโดยไม่มีใครคอยสอนหรือแนะนำว่าจะจัดการกับความรู้สึก ความสัมพันธ์ต่างๆอย่างไร ทำให้มันยากที่จะมูฟออนมากกว่าตัวละครอื่นอย่างดีน่าหรือแอ๊บบี้ (ในส่วนของแอ๊บบี้ก็ได้เข้าใจโจลมากขึ้น ผ่านการมีสิ่งที่อยากปกป้องแบบเลฟและยาร่า)
สุดท้ายเอลลี่ก็มองเห็นภาพสะท้อนของตัวเองกับโจล ผ่านแอ๊บบี้กับเลฟ
เธอได้เข้าใจโจล เข้าใจตัวเอง และเรียนรู้ที่จะให้อภัยตัวเอง
ยอมให้ตัวเองสามารถปล่อยวาง และก้าวเดินต่อไปได้ในที่สุด
ส่วนตัวชอบเกมภาคนี้มาก และไม่เคยเจอหนังหรือเกมไหนที่สื่อได้ขนาดนี้เช่นกันค่ะ
ขอบคุณช่อง The Moof ที่ทำคลิปดีๆแบบนี้มาตลอดด้วยนะคะ
ความแค้นเกิดที่จิตต้องดับที่จิต ไม่ใช่ดับชีวิตผู้อื่น.ซึ่งในโลกความเป็นจริงมันยากมากจนแทบเป็นไปไม่ได้ ถึงได้มีข่าวฆ่ากันตายในทุกวัน.
ฉากที่ว่าผมก็ผ่านมาหมดแล้วเหมือนกัน คนละชั้นกับ ฉากTLOU 2 นำเสนอได้โคตรกระจอก อย่าเอามาเทียบ เรดเวดดิ่งมันติดอยู่ในใจ แต่ฉากฆ่าโจลนี่อารมณ์แบบอิหยังวะ
@@hrhumkommo6356 เราคิดว่าการเปรียบเทียบนี้อยู่ในบริบทของของ 'การที่ผู้สร้างฆ่าตัวละครที่ผู้ชมรักและเชียร์โดยไม่ทันตั้งตัว' นะคะ จึงคิดว่าสามารถหยิบมาเปรียบกันได้
@@Vandell999 อ่านสปอย ก็มาวะ เล่นจบแล้ว 555
ถ้าถามว่ามีคนสอนเรื่องการให้อภัยคนอื่นกับ Ellie มีไหม? มีครับ Maria ตอนต้นเรื่องที่ Ellie มีเรื่องกับ Seth แต่ตัว Ellie เลือกที่จะหลบหน้าและเหมารวม (ว่าคนแก่หัวแข็งแบบนั้นไม่ต้องไปให้ขอโทษหรอก)
ขออธิบายลุง tommy ตามที่เข้าใจดังนี้นะคะ
.
Tommy ตอนต้นเกมมีสิ่งที่รั้งเค้าไว้ ไม่ให้อยากจะไปตามล้างแค้น Abby คือ Maria ที่เหมือนเป็นผู้ดูแลกลุ่ม Jackson County ค่ะ
Tommy รัก Maria มากๆ จนกล้าที่จะพูดกับ Ellie ว่า ไม่ได้อยากให้ตามไปล้างแค้นให้ Joel แต่สิ่งที่ Ellie พูดกับลุงทอม ทำให้ลุงทอมคิดได้ว่า มันต้องจัดการให้เรียบร้อย ซึ่งยิ่งลุงทอมเป็นคนที่ได้คุยกับโจลตอนต้น + relationship ตอน cutscene ที่ให้ฝึกยิงระยะไกล ยิ่งทำให้เค้ารู้ว่า สิ่งที่จะทำให้ Joel ได้มากที่สุด คือ Keep Ellie safe นั่นทำให้เค้าทิ้งจดหมายให้มาเรียไว้แบบนั้น ที่ให้ขัง Ellie ไว้เลย แล้วเดี๋ยวลุงออกไปตามล่า Abby ให้ Ellie เอง
.
ตอนที่ยังฆ่า Abby ไม่ได้ แต่อยากกลับ Jackson เพราะ Dina ท้องค่ะ ลุงทอมรับรู้เรื่องราวอัพเดทจากเจสซี่เป็นคนแรก + ลุงแกมีสำนึกด้านการดูแลผู้อื่นมากขึ้น น่าจะติดจากมาเรียมา เป้าหมายแรกเลยเป็นการกลับบ้านก่อนค่ะ
.
ฉากสุดท้ายที่ลุงทอมมาบอกเบาะแส Abby +ด่าเอลลี่ ที่คุยตอนแรก จะมี hint ว่า ลุงทอมกับมาเรียตัดสินใจที่จะ Take sometimes apart ค่ะ คิดว่า พอไม่มีจุดยึดเหนี่ยวอย่างมาเรียแล้ว ลุงทอมคนเดิม ก็ยิ่งกลับมามากขึ้น และที่ลุงด่าเอลลี่ จริงๆ คิดว่า ที่ลุงกับมาเรียมีปัญหากันยืดเยื้อ ลุงทอมเองก็โทษเอลลี่ในใจนิดนึงด้วยค่ะ พอมาบอกเบาะแสแล้วเอลลี่ดันไม่อยากไปแล้วอีก ลุงแกเลยโมโหขึ้นมาค่ะ
นิ้วนาง = คนรัก
นิ้วก้อย = มิตรสหาย
เหมือนเค้าจะสื่อว่าถ้าหยุดความแค้นไว้แค่นี้ ก็จะไม่สูญเสีย ซึ่งพอนิ้วไม่ครบ ก็เล่นเพลง(ความสุข) ได้ไม่สมบูรณ์เหมือนเดิม
ตีแตกมาก ผมคนนึงที่อินมากเพราะเล่นภาคแรกมา3รอบ โจวตายก็ร้องไห้ตามแต่ไม่ได้งอแง อารมณ์เสียให้เกม เพราะ เขาสร้างมาให้เราคิดให้คติผู้เล่นไม่ได้ตอกย้ำเหมือนที่มีคนกล่าวหา คนหลายคนมองข้ามตรงนี้
มีอยู่ฉากหนึ่ง สามารถล้มมวย ให้เอลลี่ยิงกระบาล อีหญิงทึก ได้นะ แล้วมันจะจบไปอีกแบบ
นิ้วกลางให้กับคนเขียนบท
@@Little_deer_Slatan มองข้าม หรือมองทะลุครับ? มองทะลุแบบเห็นชัดว่ามันแหม่งๆ มันเน้นแต่themeแต่ไหงเนื้อเรื่องมันน่าสงสัย มันไปretconภาคแรกมั้ย หรือมันให้ตัวละครทำตัวไม่สมเหตุสมผลรึปล่าว?
ชอบช่องนี้. อธิบาย. ละเอียดมากๆครับ. ขอให้ล้านชับใวๆน่ะครับ. เปันกำลังใจให้ครับ
ชอบ the moof มากครับ
เป็นกำลังใจให้ทำคลิปดีๆออกมาเยอะๆนะครับ
การหักมุม ในภาษาอังกฤษเขามักใช้คำว่า Subvert Expectation แต่ปัญหาคือก่อนหน้าที่ Joel จะตาย มันไม่มี Expectation ให้ Subvert จากตัวละครไหนเลย(ณ ตอนนั้น Abby คือใคร เรายังไม่รู้เลย) เพราะฉนั้นผู้รับสารเลยไม่อินกับสิ่งที่เกิดขึ้น และแทนที่ฉากนั้นจะกลายเป็น Plottwist ที่น่าจดจำ มันกลายเป็น Shock value ที่ขับเคลื่อนอารมณ์ต่อไม่ได้ เพราะมันถูกตัดไปดื้อๆ
ไหนๆก็ยกตัวอย่าง John Wick มาแล้ว ผมขออธิบายในมุมนี้แล้วกัน ว่าหนังเรื่องนี้ไม่ใช่หนังบู๊ยับไร้แก่นสาร เพราะการปูบท สร้าง Expectation ให้กับตัวละครมันน่าเชื่อถือ ครึ่งชั่วโมงแรก เราไม่ได้เห็นแกบู๊เลย เราเห็นว่าแกเป็นใคร โดนอะไร และรู้สึกยังไง จนกระทั่งโดนบุกบ้าน เราจึงเข้าใจ Motivation ได้ว่าทำไมแกถึงบู๊ดิบขนาดนั้นเพื่อหมาและรถ เราจึงเกิดเอาใจช่วยและคาดหวังสิ่งเดียวกันกับตัวละคร John Wick (นี่เป็นสาเหตุที่ภาค 3 ดูแล้วไม่พีคเท่า 2 ภาคแรก)
ใน TLOU ภาคแรกก็เช่นกัน ทำไปเราถึงเสียน้ำตาให้กับตัวละครที่เราเห็นแค่ 15 นาทีแรกแบบ Joel ได้ ก็เพราะการปูบท สร้าง Motivation ให้ตัวละคร เพื่อให้เกิด Expectation กับคนรับสื่อ เรารู้จัก Joel รู้ถึงความสัมพันธ์ของเขากับลูกภายใน 5 นาที(อันนี้เพราะความฉลาดในการให้เราเห็น Joel ในมุมมองของ Sarah เป็นหลักการสร้าง First Impression ให้เราเชื่อได้เร็วที่สุด ซึ่งตลอดทั้งเกมก็มีจะมีตัวละครที่โผล่เข้ามาสร้าง First Impression ให้เราเห็นเรื่อยๆ อย่าง Henry กับ Sam ที่อยู่กับเราแค่ไม่นาน แต่เราก็ผูกพันธ์และไว้ใจพวกเขาได้) พอเรื่องเลวร้ายเกิดขึ้น เราถึงเข้าใจว่า Motivation เขามันมากแค่ไหน เราเกิด Expectation ซึ่งพอ Sarah ถูกยิง มันจึงเป็นการ Subvert Expectation ที่สมบูรณ์ กินใจ และขับเคลื่อนอารมณ์ต่อไปได้ ซึ่งถ้าหากกลับกัน เราไม่รู้เลยว่า ใครคือ Joel หรือ Ellie ไม่รู้ Motivation ของคนพวกนี้เลย แล้วต้องฆ่าล้างหมอในห้องผ่าตัด เราคงไม่อยากรับรู้เรื่องราว ติดตาม หรือเอาใจช่วยไอ้ฆาตกรคนนี้
ถ้าเขาต้องการดำเนินตามเรื่องนี้ แก้ไม่ยากเลยครับ ให้ Ellie ได้รับการช่วยเหลือจากพวก Abby อาจให้เดินทางร่วมกันสักพัก(First Impressionที่เคยพูดถึง จำได้ไหมครับ?) เราจะเกิด Expectation ว่าคนพวกนี้ไว้ใจได้ และเป็นคนดี แล้วค่อยมาหักกันตอนที่เจอ Joel เท่านี้ก็ครบวงจรการ Subvert Expectation แถมยังสร้างมิติให้กับ Motivation ของตัวละครด้วย เพราะคราวนี้ ทุกคนที่ Ellie ฆ่า คือเพื่อน หรือคนที่เคยช่วยเหลือเธอมา
หรือไม่ต้องแก้อะไรเลย เอาฉากถล่มฐานในมุมมองของ Abby มาไว้ตอนเริ่มเรื่องเลย ต่อให้เราไม่ชอบหรือไม่อยากติดตามตัวละครนี้ แต่ก็จะเข้าใจ Motivation และเกิด Expectation พอเรื่องดำเนินไป เราจะเห็นคน 2 คนที่เต็มไปด้วยเชื้อไฟแค้น และสุดท้ายสูญเสียทุกสิ่งเพราะความแค้น
เอาจริงๆ Plot Hole ในเนื้อเรื่องภาคนี้อาจไม่เยอะ แต่รูใหญ่ครับ ทั้ง Joel ที่เคยฉลาด และระแวงคนตลอด ขนาดที่มองออก รู้ตัวว่าโดนดักปล้น(ตอนขับรถแล้วมีคนมาขอความช่วยเหลือ แล้วสังเกตุว่าไอ้นั่นไม่มีแผล)กลายมาเป็นช่วยใครก็ไม่รู้ แถมแจกเสบียงให้ฟรีๆอีก หรือการที่ Ellie มี Plot Armor หนามากๆ โดนจับกี่ครั้งก็ยังไม่โดนฆ่า ทั้งๆที่ไม่มีเหตุผลอะไรให้พวก Abby ไว้ชีวิตอยู่แล้ว หรือความสัมพันธ์ของตัวละครที่เราเห็นมันรักกันแต่เริ่ม(ผมแปลกใจเพราะเขาเคยทำ Left Behind ออกมา ซึ่งความสัมพันธ์ของ Riley น่าเชื่อถือและกินใจกว่า Dina มาก)
ปล.ผมมองว่าการเขียนบทในสมัยนี้ เขาพยายามมากเกินไปที่จะสร้างฉากหักมุมที่แรงจนหงายเงิบ ตกเก้าอี้ จนลืมนึกถึงการสื่อสารอารมณ์ความรู้สึกออกมาให้คนดูคล้อยตามและ"สนุก"ไปกับมันได้
เห็นด้วยครับ พยายามมากเกินไป เกินไปซะจนบางอย่างโคตรไม่สมเหตุสมผล
เขียนได้ดีม่กเลยครับ
ผมคิดว่าช่วงต้นเกม เรารู้จักแต่หมู่บ้านใต้แสงไฟเหลือง(หมู่บ้านJackson) มันไม่ได้บอกอะไรกับเรา ก็เหมือนกับที่ Ellie ไม่รู้อะไรเลย
การที่ไม่ให้เรารู้จักกับตัวละครที่ฆ่า Joel ก็เหมือนกับการทิ้งปมไว้ 1 จุด ให้คนเล่นได้สงสัยแล้วคิดตาม Ellie ไปตลอดการเล่น
ส่วนใครที่หลุดแล้ว อาจจะหลุดไปแล้วกลายเป็นไม่สนุกไปเลย
ที่พูดมาถูกเผงเลยครับ ผมผิดหวังกับช่องนี้มากครับคนที่ชอบมันก็ไม่ได้ผิด แต่การพยายามยัดเยียดคนที่ไม่ชอบว่าไม่เข้าใจ คือ???
😢😢😢น้ำตาจะไหล ขอบคุณที่ทำคลิปออกมานะครับ
The Moof ผู้สื่อสาร ตีความ นำเสนอ ให้แง่คิด อธิบายได้ถึงแก่นสารอย่างที่สุด ใช้องค์ความรู้ที่ตัวเองมี+ประสบการณ์มาใช้และให้ความรู้ให้กับคนได้หลายๆคน คุณภาพไม่เคยลดลงมีแต่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆเลยนะครับคุณเอ้
TH-camr of the year ของผมจะยังเป็นคุณเสมอครับ
ถ้าคุณเกลียด Abby คนเขียนบทชนะ
และถ้าคุณเข้าใจ Abby คนเขียนบทก็ชนะอยู่ดี
มาพูดถึงเรื่องของการที่ไม่ได้ฆ่า Abby กันดีกว่า ผมเห็นด้วยนะ เพราะตัวเอกมันอยู่ในช่วงวัยรุ่นและเป็นผู้หญิง ยังมีเรื่องของความอ่อนไหวเข้ามาเกี่ยวมากกว่าผู้ชาย การที่จะนึกถึงลุงแล้วหมดอารมณ์จะฆ่านั้นไม่แปลกเท่าไหร่ และอีกเหตุผลนึงที่ผมคิดคือ ผมคิดว่าถ้าเรามองไปที่อนาคตของ Ellie ดู ลองคิดกันเล่นๆว่าถ้าเกิดฆ่า Abby ไปจะเกิดอะไรขึ้นกับ Ellie มั้งมองขำๆแบบด้านจิตวิทยาเลยตัวละครมันจะเปลี่ยนไปแบบกู่ไม่กลับเลย นิสัยจะเน่าแฟะขึ้น เหมือนคุณดู Star wars อ่ะที่ Anakin เดินเข้าด้านมืดแล้วคุณคิดว่าอนาคตจะเป็นไงต่อหรอ Ellie ก็ตายซิครับเน่าแฟะขนาดนี้ เพราะเขาคงไม่เอาตัวละครนิสัยแบบนี้มาเป็นนางเอกต่อหรอก อย่าลืมว่าเกมนี้มันเทาๆ แต่แรกอยู่แล้ว
แต่ถ้าคุณ... ไปด่านักแสดงที่เล่นเป็นแอ็บบี้ แสดงว่าคุณควรไปหาหมอแล้วละ
++
@@seanemachannel1611 อันนั้นผมเห็นด้วย
@@BankCholla ผมว่าเคสนี้คนไทยไม่น่ามีใครเป็นนะ แต่คนต่างชาติอ่ะเยอะจริง
Seanema Channel แต่มีคนไทยบางส่วน คอยตามด่าคนที่แสดงออกว่าชอบเกมนี้หรือชมเกมนี้ เยอะพอสมควรนะครับ ถึงอาการจะเบากว่าต่างชาติ แต่ก็มีอาการใกล้เคียงเบาๆกันแล้วล่ะ
เคยเจอซีรีส์ฝรั่ง
เขียนให้คนรักของตัวละครตายแบบวิ่งไปดูใจไม่ทัน ไม่มีการได้บอกลา
อีกนิดเดียวก็จะทันได้เห็นกันตอนที่มีลมหายใจสุดท้ายแล้ว
คนดูเข้าไปบ่นเข้าไปด่า ว่าทำไมเขียนบทแบบนี้ ใจร้าย ตายง่ายไปนะ นู่นนั่นนี่
คนเขียนบทให้คำตอบว่า
เพราะในชีวิตจริง มันก็ไม่ได้สมหวังไปหมดทุกอย่าง
มันก็มีการตายแบบกะทันหัน ไม่ทันได้ดูใจ ไม่ทันได้บอกลาแบบนี้แหละ
คนดูก็ เออ ก็จริง แต่ก็ยังใจร้ายอยู่ดีแหละ ^^"
ดังนั้น การตายของโจเอล
ก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกสำหรับเราเท่าไหร่เช่นกัน
เห็นด้วยกับพี่ The Moof ว่า
ถ้าการตายของโจเอล จำเป็นต้องเกิดขึ้นเพื่สร้างปมให้ตัวละะคร มันก็ต้องเกิดขึ้นแหละ
เราว่าเกมนี้เป็นเกมที่ดีนะ
ทำให้ได้เห็นแง่มุมต่างๆในอารมณ์ที่ว่าด้วยความโกรธแค้น
ทำให้เราเปิดใจให้กว้างมากขึ้น ถึงขั้นลองต้องเล่นเป็นตัวละครที่เราเกลียดสุดๆ
ให้ลองหัดมองดูเรื่องๆนึง ในหลายๆมุมมอง
ไม่ว่าการเปลี่ยนมุมมองนั้น เราจะเต็มใจมองมันหรือไม่ก็ตาม o_O
ถูกใจมาก ผมไปเม้นในหลายช่องของคนที่เล่นเกมนี้ว่าจริงๆเรื่องการตายอะมันจะเกิดขึ้นตอนใหนก็ได้ ไม่มีใครรู้ มันไม่เกี่ยวกับว่าคนเป็นตัวเอกต้องไม่ตาย ผมโดนรุมเฉย งงเลย เหมือนคนพวกนั้นดูแต่อะไรที่มันแฮปปี้เอนดิ้ง พอเจอแบบนี้รับไม่ได้เฉย งง
@@KillBill___ ใช่เลย เกมส์นี้คือสื่อถึงโลกแห่งความเป็นจริง ตอนจบจะให้แฮปปี้ไปทุกเรื่องก็คงไม่ได้ สิ่งที่ทำไปทุกอย่างมีผลของการกระทำเสมอ
ขอบคุณที่ทำวีดีโอ ดีๆมาให้ได้ชมครับ วีดีโอนี้ทำให้เข้าใจเนื้อเรื่องได้เยอะขึ้นจริงๆ พอเล่นเองก็เหมือนเราดูหนังทำไมไม่เป็นแบบโน้นเป็นแบบนี้แต่พอเรามามองในอีกมุมหนึ่งมุมที่เราไม่ใช่ใครทั้งนั้นในเกม มันทำให้เราได้เห็นอะไร อะไรได้มากขึ้น ขอบคุณจริงๆครับ :)
เป็นกำลังใจนะครับ คอนเทนท์ดีมากๆเลย ^^
มุมมองผม
เกมส์เพย์ ผมให้8/10
1. Ai ไม่โง่
2.เครื่องปั่นไฟปรับให้สมส่วนดี
3.ดูระบบสมจริง อย่างไงหรือ การเล่นแบบโยนเชือกไรงี้ มันเป็นเหมือนเอาตัวรอดจริงๆ
เนื้อเรื่อง ให้7.5/10
ยอมรับว่าดาร์กไปกว่าภาคแรกมากแต่ต้องเข้าใจว่าผู้เขียนบทจะดำเนินเรื่องด้วยความแค้น แนวเรื่องเข้าใจนะว่าแบบแอ็บบี้ถูกโจฆ่าพ่อ เลยตามแค้น เอลลี่ก็ตามล้างอีก
มีใครจำคำพูดของทอมมี่ได้ไหมที่บอกให้เอลลี่จบไม่แค้นกัน
เกมจะสอนว่าความแค้นมันทำให้ทุกอย่างพังไปหมด มุมมองเหมือนเหรียญ
มันมี2ด้าน
เกมส์เพบ์ผมให้ 9 เลย แอคชั่นสมูทกว่าหลายเกมส์ที่เป็นแนวสมจริง เช่น RD2
AI เกมสนี้สุดยอด ย่องเดินมายิงข้างหลังได้
เราเก็ททุกคำที่คุณได้ถ่ายทอดออกมามากๆ จากจุดเริ่มต้นจนมาถึงจุดสุดท้าย สำหรับเรารู้สึกเหมือนได้ตกผลึก ขอบพระคุณThe Moof จากใจคะ
ไม่เสียใจที่ตามช่องนี้ครับ สุดยอดเลย
ขอบคุณเดอะมูฟครับ ขอบคุณที่ทำคลิปดีๆ ขอบคุณที่เคารพทุกความคิดเห็น ผมชอบที่เดอะมูฟหยิบจับ
ทุกมุมมอง และสามารถถ่ายทอดออกมาตรงตามที่ผู้พัฒนาต้องการแสดงให้เรามองเห็นในแง่มุมที่หลากหลาย
เป็นกำลังใจให้ทำคลิปดีๆ ต่อไปครับผม
วิเคราะห์ได้ดีมากครับครบทุกมุมมอง ตอนแรกหยุดเล่นไป1อาทิตย์เลยครับตอนให้เล่นเป็นแอบบี้ แต่พอกลับมาเล่นจนจบ ได้มองครบทุกมุมมอง ชอบเนื้อเรื่องของเกมส์นี้นะครับ
ถ้ามีบันทึกของโจเอล ที่อธิบายเหตุผลทั้งหมดให้เอลลี่ได้อ่าน มันจะเติมเต็มจิตใจเอลลี่และคนเล่นด้วย
บทสรุปส่วนตัว ยังไงเราก็ยืนข้างลุงโจเอล และ เอลลี่ และเห็นด้วยที่ไม่ฆ่าแอ็บบี้ แต่ไม่ใช่ว่าจะรักหรือเห็นใจตัวละครแอ็บบี้นะ ไม่มีทาง แต่มันถึงจุดที่อย่าได้พบเจอกันอีกเลยจะดีกว่า
ชอบ การสรุป และ แสดงความคิดเห็นแบบนี้ .... สนับสนุนคลิปเกมส์อื่นๆต่อๆไปครับ
ประทับใจ the moof มาก ดูแล้วเข้าใจมากขึ้นเลย ขอบคุณค่ะ
มุมมองของ The moof เหมือนเราทุกอย่างเลยค่ะ
มองอะไรรวมๆ ไม่จดจ่อกับตัวไหนเป็นพิเศษ เรื่องบางเรื่องสามารถข้ามผ่านไปได้ โดยไม่คิดว่ามันคือปัญหา หรือพยายามตั้งคำถามกับมันอย่างเอาเป็นเอาตายว่า ทำไม? เพื่อ?
เราว่าเกมส์สะท้อนจิตใจคนได้อย่างชัดเจน ถ้าเรารู้สึกอยากฆ่าแอ๊บให้ตาย อยากได้ความสะใจ นั่นหมายถึงเอลลี่และแอ๊บ เธอเลือกปล่อยวางแล้ว แต่เราต่างหากที่ยังวางไม่ได้
ในอดีต เราไม่อยากให้พ่อเราจากไป แต่เขาก็นอนรอเราอยู่ในไอซียูเกินสองอาทิตย์ที่เรามัวแต่เรียนไม่ไหว เราไม่ได้ลาเขา และเราก็นึกโทษตัวเองอยู่นาน เสียใจและเกลียดตัวเองมาก จนมีคนมาบอกเราว่า ลองให้อภัยตัวเองดูหรือยัง ลองมองดูรอบๆ ยังมีแม่ มีเพื่อนที่ยื่นมือรอรับเราอยู่นะ
มันอาจจะดูโลกสวย แต่เมื่อวันหนึ่งที่เราต้องเจอปัญหาบีบคั้น ความคิดเราจะตกผลึกได้แบบสองตัวละคร หรือไม่ก็ดำดิ่งกว่าเดิมอย่างที่ผู้เล่นส่วนใหญ่กำลังคิด
ถึงทุกๆคนดูที่เพิ่งจะเห็นคลิปดีๆแบบนี้เหมือนผมหรือคุณ The Moofเองรวมไปถึงคนที่มาอ่านคอมเม้นท์คอมเม้นท์นี้ครับ
หลายๆคนอาจจะสงสัยว่าเพลงที่Joelเล่นตอนจบคือเพลงอะไร นี่เลยครับ เพลง Crosby, Stills Nash - Helplessly Hoping. เพลความหมายดีจริงๆ การที่Joelบรรเลงเพลงนี้น่าจะต้องการสื่อถึงความหวังว่าสักวันEllieจะให้อภัยJoelสำหรับสิ่งที่เขาทำลงไป สิ่งก่อนที่Joelจะจากไปเขาก็ได้รับรู้แล้วว่าEllieเองก็อยากจะลองให้อภัยJoel
สำหรับความเห็นส่วนตัวของผมสำหรับเกมนี้ ผมเองก็เป็นแฟนเกมภาค 1 มาก่อน แล้วพอมาเห็นJoelจากไปตอนต้นเกม คือมันทั้งโกรธทั้งเศร้าเลยครับ ฉากก่อนที่AbbyจะหวดJoel JoelกับEllieมองตากันเป็นครั้งสุดท้ายด้วยความรู้สึกหดหู่และต้องจะจากกันด้วยความทรงจำที่ไม่ดีเท่าไหร่นัก สำหรับผมคิดว่าการเรียงลำดับเนื้อเรื่องหรือการต้องการจะสื่อถึงสิ่งที่ทางผู้กำกับต้องการจะสื่อถึงผู้เล่นนั้นยากที่จะเข้าถึง
เพราะการที่เอาใครที่ไหนไม่รู้ว่าฆ่าJoel มันทำให้ผู้เล่นบางส่วนเกลียดและปิดกั้นความเข้าใจและเหตุผลว่าทำไมAbbyต้องทำแบบนั้น ถ้าผู้กำกับเรียงลำดับเนื้อเรื่องให้เข้าถึงง่ายกว่านี้จะทำให้ผู้เล่นเองสามารถเข้าถึงเหตุผลของฝั่งAbbyได้มากขึ้นกว่านี้
ผมว่าเราผู้เล่นเองก็เหมือนกับEllieเพราะเราเองก็เจอเหตุการณ์แบบนี้พร้อมกันกับเธอ เหมือนNeilอยากให้Abbyเข้ามารับหน้าที่กระตุ้นความรู้สึกของผู้เล่นและในระหว่างที่เราเกลียดตัวละครตัวนี้ก็พยายามจะอธิบายและคอยให้เหตุผลกับเราอยู่เรื่อยๆระหว่างที่เราเล่นเธอซึ่งก็พอเข้าใจได้แต่ก็ไม่ใช่ทุกคน ด้วยประสบการณ์ชีวิตและสิ่งที่เจอมาของแต่ละคนไม่เหมือนกัน มันเลยทำให้มุมมองที่มีต่อตัวละครEllieและAbbyมีความแตกต่างออกมาไม่เหมือนกันเมื่อมาถึงจุดที่เราเข้าใจความรู้สึกของทั้ง2ฝ่ายก็ขึ้นอยู่กับผู้เล่นที่จะเลือกอยู่ตรงจุดไหนอาจจะเป็นตรงกลางหรือเอนไปฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเพราะได้เปิดใจรับฟังแล้ว
อย่างน้อยก็ยังมีฉากประทับใจให้เรารำลึกความทรงจำดีๆระหว่างJoelกับEllieที่พิพิธภัณฑ์มาให้เราได้ยิ้มและคิดถึงกัน ถึงมันจะน้อยแต่ก็มีค่าต่อการจดจำมาก
ผมดีใจที่ทั้งEllieและAbbyต่างฝ่ายต่างเข้าใจกันในที่สุด Abbyเองก็เข้าใจเหตุผลของJoelผ่านทางการช่วยเหลือLevกับYaraว่าทำไมเขาต้องทำขนาดนั้นเพื่อEllie ซึ่งเป็นสิ่งที่คนเป็นพ่อจะทำเพื่อลูกสาวไม่ว่าจะแลกด้วยอะไรก็ตาม Joelก็พร้อมที่จะแบกรับความรู้สึกต่อตัวเองและแบกรับความรู้สึกผิดต่อสิ่งที่เขาทำลงไปเพื่อEllieแล้วเธอเสียใจ (ใช้เวลานานเหมือนกันที่ผมจะเปิดใจให้Abby)
Ellieเองก็เข้าใจAbby ก็น่าจะทำแบบเดียวกัน ถ้าเธอต้องเสียJoelไป
แต่ถึงกระนั้นEllieก็พบหนทางของการให้อภัย การเอาชนะความรู้สึกผิดที่มีต่อJoelและEllieก็พบกับแสงสว่างที่อยู่เคียงข้างเธอมาตลอดก็คือJoelรวมไปถึงความทรงจำดีๆที่มีร่วมกันได้นำเธอก้าวผ่านกิเลส ความแค้นรวมไปถึงความรู้สึกผิดในใจที่เธอมีต่อJoelได้ในที่สุด
ผมให้ที่ 7/10 หัก 1 ลำดับเนื้อเรื่องมันห้วนเกินไปส่วนJoelก็ตายโดยที่ไม่ได้อธิบายเหตุผลว่าทำไมเขาถึงต้องทำ คือถ้าเป็นใครๆก็ต้องอยากรู้ถึงเหตุผลที่ทำไมJoelต้องฆ่าพ่อAbbyเพื่อช่วยEllie
2 คะแนน น้องEllieนิ้วขาดเล่นกีต้าร์ไม่ได้แล้วก็เล่นFuture daysไม่ได้(ถ้าให้เธอหัดซ้ายในภาค 3 จะขอบคุณNeilมาก) ถ้าเธอร้องเพลงFuture daysอำลาJoelจากนั้นก็วางกีต้าร์แล้วเดินจากไป มันจะทำให้ฉากจบสมบูรณ์แบบมากขึ้นกว่านี้มากๆ ยิ่งถ้าพูดคำว่าGoodbye dadนะ เป็นฉากที่น่าจดจำที่สุดฉากนึงในเกมเลยล่ะ ขอบคุณที่ลงมาอ่านนะครับ
อธิบายดีมากๆครับ the moof ปรปะทับใจมากๆ
ดูมาหลายคนแล้ว ความเห็นของช่องนี้เป๊ะที่สุด ตรงใจผมที่สุดแล้วครับ อธิบายได้ดีมีเหตุผล เป็นกลาง
ผมเห็นด้วย+ถูกใจมากๆเลยครับ
ช่อง review ใน youtube ของ คนไทย ยังไงก็ชอบ The Moof สุดแล้วจริงๆค่ะ (เสียงนุ่มมาก55555 ฟังแล้วสบายใจสุดๆ)
เวลานั่งฟังวิเคราะห์หรือบทสรุปก็นั่งเปิดไปทำงานไปตลอด เพลินมากๆ
ในส่วนของวิเคราะห์ยังไงก็ทำได้ดีสมมาตรฐาน The Moof จริงๆค่ะ เราเคยเขียนวิเคราะห์ในแบบฉบับตัวเองไปแล้วเหมือนกันซึ่งยาวมากๆ
แต่ถ้าจะให้พูดสั้นๆ เราขอยืมคำพูดมาจากผู้เล่นท่านนึงในกรุ๊ป Playstation Thailand ว่า
"เกมที่ดีนั้นมีอยู่มากมายในโลกใบนี้ แต่มีอยู่ไม่กี่เกมที่มีความหมายต่อผู้อื่น" ขอบคุณมากๆเลยค่ะ :D
ความโกรธ ความแค้น มันจะนำพาเราไปสู่ความชั่วร้าย
สุดท้ายมันก็ไม่ทำให้เรามีความสุขเลย สูญเปล่า ไม่ก็สูญเสียเพิ่มไปอีก
ดังนั้น ควรจะปล่อยวาง หันไปหาความสุขที่เหลืออยู่ มันจะดีกว่า
ความสุขมันอยู่ใกล้เราตั้งแต่แรก แต่ตัวเรามองข้ามมันไป
เราว่าพล็อตเรื่องเดอะลาสออฟอัสไม่ถึงกับ “สดใหม่” นะ สมัยนี้หนังหรือเกมที่ฉายมุมมองของตัวร้ายมีเยอะแยะ และได้แง่คิดดีด้วย แต่ลาสออฟอัสพลาดตรงที่ “ยัดเยียด” ให้เราต้องเล่น Abby หลายฉากเกินไป
คือต้องเข้าใจก่อนว่า “เกม” ไม่เหมือนกับ “หนัง” ในหนังตอนที่ฉายมุมมองของตัวร้าย เราแค่ต้องทนดูอย่างเดียว แต่การเล่นเกมนอกจากต้องทนดูแล้ว ยังต้องทนเล่นด้วย มันขัดกับสามัญสำนึกของคนทั่วไป
ดังนั้นเราว่าคนที่เขาไม่ชอบเนื้อเรื่องภาคนี้ เขาไม่ได้ผิดนะ (สำหรับเรารู้สึกเฉยๆ) เขาแค่ตอบสนองตามสามัญสำนึกที่มีความผูกพันธ์กับ Joel และ Ellie , คนเขียนบทต่างหากที่ตีโจทย์ไม่แตก ทำให้คนเล่นเห็นใจ Abby ไม่ได้ และฝืนธรรมชาติของการเล่นเกมเกินไป
ดังนั้นเรามองว่าภาคนี้ปรุงอาหารไม่อร่อย ถ้าเปรียบกับไข่เจียว ก็เหมือนไข่เจียวทรงเครื่องที่พยายามจะยัดเยียดสมุนไพรที่มีประโยชน์ให้เราทาน แม้รสชาติมันจะโครตห่วยก็ตาม
พูดได้ดี อธิบายเข้าใจง่าย รักช่องนี้ The Moof
เอลลี่รับรู้และเข้าใจว่าโจโดนฆ่าเพราะอะไร แต่ที่ทำไป เพราะน่าจะแค้นแอปบี้ที่พรากโอกาสให้อภัยโจ และอาจจะโกรธตัวเอง ว่าตอนที่อยู่ด้วยกัน ไม่ปรับความเข้าใจกัน พอคิดจะเริ่มให้อภัยก็โดนพรากไปแล้ว
อีกอย่างเราเห็นคนเกลียดเอลลี่ว่าฆ่าไม่เลือก แต่ถ้ามองลึกๆ ทุกครั้งที่เอลลี่ฆ่าไม่ได้ทำให้มีความสุขเลยนะ เธอเสียใจแต่มันต้องไปให้ถึงจุดหมาย และบางคนก็ไม่ได้เจตนาจะฆ่าด้วย เมลทองแต่เอลลี่ไม่รู้
ส่วนเรื่องทอมมี่ เราคิดว่า ตอนที่ออกมาเองคนเดียวก็เพราะมีส่วนความแค้นและไม่อยากให้เอลลี่เสี่ยง
แล้วตอนที่จะกลับก็เพราะรู้ว่าดีน่าท้อง
หลังจากโดนยิงขาเสีย และตาบอด เลิกกับเมีย เหมือนหมดสิ้นชีวิตที่เคยสงบสุข
มองมาที่เอลลี่ว่าชีวิตกับสุขสบาย ทั้งๆที่ออกมาจากแจคสันก็เพราะเอลลี่ต้องการ
อันนี้ยอมรับเลย อยากตีปากทอมมี่มาก
เราชอบเนื้อหาและแง่คิดภาคนี้มาก
ถึงมันจะจบทำร้ายเอลลี่มากไปหน่อย
แต่ก็จะรอติดตามภาค3 แน่นอน
ขอบคุณ The moof ที่ไม่ลืมทำคลิปสรุปดีๆแบบนี้ครับ
ปล.ถ้ามีภาค3ก็ขอให้เป็นเอลลี่
เอลลี่เป็นคนที่มีความทุกข์ตลอดเวลาเลย จนน้องได้มีครอบครัว
คิดเหมือนกันเลยครับเรื่องเอลลี่
พูดและสื่อออกมาได้ดีมากเลยครับ ยิ่งตอนท้ายใส่เพลงเพิ่มเข้ามา ทำให้เกมที่อึมครึม มีความสวยงามขึ้นมาก พูดได้เป็นกลางมาก ดีใจที่ได้ติดตามช่องนี้ ดีกว่าหลายๆช่องที่มาแสดงความคิดเห็นเอียนเล่นไม่ได้ ไว้มีตังสมัครสมาชิกครับ 555
กำลังรอเลยคับ✌️
ฟังแล้วน้ำตาไหล ขอบคุณครับ
ผู้พัฒนาประสบความสำเร็จอย่างมากในการทำให้คนเล่นบ้าคลั่ง และต้องปล่อยวางให้ได้ ไม่งั้นคุณก็เป็นเอลลี่ที่ดำดิ่งและสูญเสีย
ยิ่งตอนท้ายที่แถมมาหลังจากบ้านไร่ คือเป็นสิ่งที่ตอกย้ำมากๆเลยครับ คนเล่นมากมายอยากจะปล่อยจอย คือทั้งสองคนสะบักสะบอม ต่างคนต่างสูญเสีย ทั้งคู่ควรพอได้แล้ว
The last of us : 8/10
The moof : 10/10
ผมเข้าใจทุกประเด็น และเห็นด้วยกับคุณเอ้นะครับ. เข้าใจทั้งสองฝั่งตัวละคร. ถ้าเราไม่เล่นแอ๊บบี้เราจะไม่เข้าใจเลย ว่าเพราะอะไรทุกอย่างผู้พัฒนา ทำให้เราเข้าถึงตัวละครมากที่สุด. 😊😊🙏🏻🙏🏻👏🏻👏🏻
ชอบมากครับ เป็นการอธิบาย TLOU2 ได้ยอดเยี่ยมมากๆ
เป็นภาคที่ดีมากสำหรับผมเลยครับ โครตชีวิตจริง บอกเลย บทแบบ โครตล้ำเดาอะไรไม่ได้เลย เข้าถึงอารมณ์ คิดได้ไงวะ สุดยอดครับ
เป็นผู้ดูมาตั้งแต่ EP1 ช่วงกลางใจร้อนไปดูช่องที่ไลฟสดจนจบ ตอนนั้นบอกเลยว่าเกลียด ผกก มาก
จนกลับมาดูช่องนี้ต่อไปเรื่อยๆจนจบค่อยๆคิด เก็บรายละเอียดจนจบ EPสุดท้ายผมเปลี่ยนใจเกมนี้ แม่งโครตดีเลย ปีนี้รางวัล GOTY คงน้อยไปขนาดยังไม่ได้เล่นผมให้เป็นเกมส์ที่ดีที่สุดเลย เสียดายที่ไม่ได้ร้องไห้คาจอยเพราะเล่นเอง ไม่งั้นคงได้เป็นเกมส์ที่สองที่ได้ร้องไห้คาจอยแน่ๆ
ขอบคุณช่อง the moof มากที่ช่วยให้เข้าใจแก่นแท้ของเกมส์ครับ :)
เป็นช่องที่สรุปทุกปมได้ดีมากๆครับ
ตรงใจกับที่ผมคิดไว้เลย
มาฟังสรุปแล้วได้มุมมองเยอะเลย ขอบคุณครับ
ประเด็นทอมมี่นี่ย้อนแย้งจริง
ตอนหลอกเอลลี่ให้รอวันนึงเพื่อหนีมาล่าเอง พอมาเจอกันก็พยายามให้พอและพากันกลับ อันนี้พอเข้าใจได้ว่าเห็นแก่ความปลอดภัยของเอลลี่ เดี๋ยวน้าลุยเองพอมาลุยเองปรากฏว่าอันตรายเกิน พอละ กลับเหอะนังหนู
แต่พอตอนหลังที่มาชี้เบาะแสนี่งงเลย
เหมือนเอามายัดเพื่อหาจุดบิดไปสู่ตอนจบสุดท้ายเฉยๆ
ปล.ชอบตีมซองที่เอามาใส่ 55555555
แค้นเองครับไม่ย้อนแย้ง
ที่พากันกลับเพราะ Dina ครับ แต่ดันมาโดน Abby ไล่ตามมาทำตัวเองพิการเลยแค้นยิ่งกว่าเก่า ตัวเองไม่สามารถแล้วมาเสี้ยม Ellie ให้จัดการแทน
@@knowchrome คิดเหมือนกั.น
เป็นคนนึงที่รู้สึกว่า เนื้อเรื่องของเกมนี้ ทำออกมาดีมาก ยิ่งได้เล่นเกมส์ ผ่านความกดดัน ความหดหู่ ระหว่างเล่น ยิ่งอิน ยิ่งเข้าใจ ❤️
คือชอบที่พี่พูดมากอ่ะ ดูไปนี่น้ำตาจะไหล
ชอบการอธิบายไข่เจียว ชัดเจนดีครับ
If somehow the Lord gave me a second chance at that moment...
I would do it all over again.
ตอนได้ยินประโยคนี้ครั้งแรก ผมร้อง โอ้ยยยย ดังมาก น้ำตาคลอเฉย
คือมันคำตอบของภาคแรกว่าลุงทำแบบนั้นเพราะอะไร
และมันเป็น the best moment ของเกมที่ผมเคยได้สัมผัส
ทุกวันนี้เสียดายที่ไม่ได้เล่นเองมาก T^T
พูดถึงไข่เจียวนี่ ผมหิวเลย
+1 คับ ขอสักจานตอนนี้เลยได้มั้ย 555
ดึกแล้วนะครับ ดึกแล้ว 55
กลิ่นไข่เจียวหมูสับนิ ลอยมาเลยย 55
แถมออกคลิปตรงเวลาด้วยนะ
จัดไปไข่ตุ๋น
ดูไปก็เข้าใจและซึ้งตามมา พอเพลงมาน้ำตาไหลเองซ่ะงัน....
ตอนแรกผมก็ไม่ค่อยลึกซึ้งกับเนื้อเรื่องเท่าไหร่นะ แต่พอมาดูคลิปนี้แล้ว ทำให้เข้าใจในมุมต่างๆมากขึ้นไปอีก พี่พูดดีมากครับ เป็นกำลังใจให้ทำคลิปต่อๆไปนะครับ
เดี๋ยวนะ ทำไมต้องพูดเหมือนคนที่ติเกมนี้ ไม่เข้าใจประเด็นเรื่องความแค้นความเกลียดชัง การแก้แค้น ที่เล่าเรื่องผ่านตัวละครทั้งสองฝ่าย อยากให้ตัวละครมันเทา ๆ ไม่มีใครถูกผิด สีเทา ๆ บลาบลา .... อะไรพวกนี้ เป็นพล็อตเดิม ๆ พล็อตเก่า ๆ ที่เอามาเล่าแล้วเล่าอีกว่า ความแค้นมันมันจะให้ผลตอบแทนอะไร นี่คือสิ่งที่ผู้กำกับมันจะสื่อ คือหลายคนเข้าใจครับ แต่คนที่ติ หรือเค้าไม่อิน "เพราะมันเล่าเรื่องออกมาห่วย ! "
ในหลายบทของเกมนี้ มันมีความอิหยังวะ ? ตัวละครมันมีปัญหาในตรรกะความคิดที่แปลก ๆ ขัดแย้งในนิสัยตัวเองบ่อย ๆ ทั้งที่เนื้อเรื่องมันมีช่วงเวลาที่ทำให้ตัวละครตกผลึกในความคิดของตัวเองได้ เพราะอะไร ??? ตอบ เพราะบทของตัวละครมันสะท้อนความคิดของผู้กำกับออกมาแบบโจ๋งครึ๋ม จนตัวละครในเกมมันดูเป็นไบโพล่า ผู้กำกับอยากเล่าอะไรก็สื่อออกมาเลยแบบไม่มีชั้นเชิง จนขาดความสมเหตุสมผลในตัวเองไป (ชัดสุดก็คือบททอมมี่)
ผมติดตามช่องนี้มานานครับ ชอบเวลาคุณสรุปอะไร แต่เรื่องนี้ผมว่าคุณจับประเด็นผิดไปเกี่ยวกับเรื่องคนที่เขาติ คนติไม่ใช่คนไม่เข้าใจ หลายคนเขาเข้าใจแก่นเรื่อง โจจะตาย จะให้เล่นแอบบี้ ไม่มีปัญหาอะไรเลย ปัญหาคือการเล่าเรื่องผ่านตัวละครแต่ละฝ่ายมันทำได้แย่ตะหาก เขาไม่ชอบวิธีที่เกมนำเสนอออกมา หลายซีนมีความขัดแย้งกันเอง ไม่เกี่ยวกับการเข้าข้างตัวละครอะไรเลยครับ
เขาก็บอกอยู่ ว่าสุดท้ายจะคิดจะชอบจะเกลียดยังไง มันก็แล้วแต่ความคิดของแต่ละคน
หรือตัวเองอคติเกิน จนไม่เข้าใจที่เขาสื่อ
@@Jame_Surat นี่ก็ไม่เข้าใจประเด็นอีกคน อ่านเม้นต์ผมจะคิดยังไงก็แล้วแต่ครับแล้วแต่ หรืออคติกับคอมเม้นต์ผม อิอิ
@@Jame_Surat ลองฟังเดอะมูฟพูดสัก 10 รอบ แล้วมาอ่านเม้นต์ผมอีกสัก 10 รอบ นะครับ เลิกอคติผมด้วยนะครับ จะได้เข้าใจว่าทุกอย่างที่ผมพิมพ์ลงไปมันสัมพันธ์กับที่เดอะมูฟทุกประเด็น หากไม่เข้าใจ เม้นต์ผมอาจจะ"ลึก" เกินไป จนคุณไม่สามารถเข้าใจได้ละมั้งครับ ^^
เอลลี่ก้าวข้ามได้แล้ว
ทุกคนก็ก้าวข้ามให้ได้นะครับ
#คิดถึงลุงโจ
ลุงทอมมี่คงก้าวข้ามไม่ได้
@@markjannarong ก็นั้น พี่ชายแท้ๆ ในสายเลือด เลยนะ มันก้าวข้าม ลำบากเป็นทวีคูณ
The Physics Ox เป็นประโยคที่จบสมบูรณ์แบบที่สุดแล้วครับ
#ก้าวข้าม
#คิดถึงลุงโจ
สิ่งแรกคือ ขอชื่นชม The Moof ทั้งมีวิเคราะห์วิจารณ์ทั้งGameplayและเนื้อเรื่อง
ผมเป็นคนเล่นเกมส์ที่อยู่ในวัยกลางคน ผมเข้าใจมากๆสิ่งที่โจทำไป ยิ่งอายุมากขึ้นและผ่านโลกมาระดับหนึ่งผมเข้าใจมันได้ง่ายขึ้น
ตามเนื้อหาในเกมส์จากภาคแรก โจเสียลูกสาวและเวลาผ่านไปอีก20ปีกว่าจะเจอแอลลี่ ผ่านอะไรๆมากเยอะในช่วงpost apocalypse ในความคิดผม ช่วงแรกๆหลังpost apocalypse โลกอาจก็ยังคงมีอารมณ์ที่จะรักษาโรคนี้อยู่ แต่เหตุการณ์ผ่านไป20ปีแล้วโจลได้เจอมนุษย์และโลกที่เปลี่ยนแปลงไป โดยเฉพาะมนุษย์ด้วยกันที่ร้ายเกินกว่าinfectedซะอีก และแว่บแรกที่รู้ว่าแอลลี่มีภูมิต้านทานก็คงคิดว่าจะสร้างโลกกลับมาได้อีกครั้ง แต่พาเดินไปเรื่อยๆมันชัดว่าโลกเปลี่ยนได้แต่มนุษย์ที่จะไม่เปลี่ยนกลับไปเป็นเหมือนเดิมแน่นอน และเมื่อต้องรู้ว่าแอลลี่ต้องตายเพื่อได้วัคซีน ซึ่งเป็นเหตุผลประกอบการตัดสินใจอย่างดีที่ว่ามนุษย์ไม่สามารถเปลี่ยนได้แน่นอน และเลือกที่จะใช้ชีวิตอย่างมีความหมายซะอีกดีกว่าและก้าวผ่านapocalypseนี้ไป แล้วใช้ชีวิตแบบใหม่ในต้นPart2 ที่อธิบายมานี้คือความคิดส่วนตัวของวัยกลางคนแบบผมครับ
ผมรอที่เนื้อเรื่องและบทจะนำไปพัฒนาไปเป็นซี่รีย์หรือหนัง ว่ามันจะทำได้ดีไหม ที่มีการจำกัดเรื่องเวลาในการอธิบายประเด็นต่างๆให้คนได้ทราบถึงประเด็นอย่างแก่นแท้ แบบที่เกมส์ทำได้
เห็นด้วยทุกประการครับ ผมชอบการเล่าเรื่องมาก ๆ ชอบที่นำเสนอว่าทุกอย่างมีสองด้าน ไม่มีอะไรขาวหรือดำไปทั้งหมด
หลังจากได้เล่น Abby ความรู้สึกช่วงนั้นคือหน่วงมาก ไม่รู้จะเข้าข้างไหนดี มารู้สึกโล่งใจก็ตอนจบที่เอลลี่ไม่ฆ่า Abby
ฟังจบน้ำตารื้น 😂 อ่อนไหวง่ายจริงช่วงนี้ 555555 ไม่รู้จะขอบคุณ TheMoof กี่รอบดี เราดิ่งกะเกมนี้มา 2-3 วันเพราะอินจัด 😂😂 พอฟังมุมมองจากคลิปนี้จนจบ รู้สึกดีขึ้นมาทันใด อย่างน้อยลุงโจลของเราก็ไปสบายแล้ว อยากให้มีภาคสามต่อค่ะ อยากรู้ว่าจะเป็นยังไงต่อ
สรุปได้ชัดเจนมากๆ เลยค่ะ คิดว่าเกมนี้ก็กล้าเสี่ยงที่ให้เราเล่นเป็นแอ็บบี้หลังจากให้ตามฆ่ามาตั้งนาน แต่ก็ดูเป็นวิธีที่เมคเซนส์สุดแล้วสำหรับสิ่งที่เรื่องจะสื่อ
สรุปได้ประทับใจเสมอเลยค่ะ คิดเหมือนกันหลายๆอย่างเลย
ปล.ขอถามหน่อยค่ะ เพลงคุ้นมากเลย จากไฟนอล15รึป่าวคะ พอจะทราบชื่อเพลงไหมคะ
2:49 ภาคนี้ก็เพิ่มมาหลายอย่างนะครับ กดหลบได้ หมอบได้ กระโดดได้ ปืนเก็บเสียง มีหมา มีหญ้าให้หลบ
สงสัยเขาอยากให้เอลลี่บินได้ ยิงเลเซอร์ เนื้อเรื่องแบบนี้จะเอาเกมเพลย์แบบไหน ใช้เทคโนโลยีล่องหนไปฆ่า เอาระเบิดย้อนเวลาสู้ เปิดประตูมิติ เรียกเอเลี่ยน งี้หรอ5555555555
The Last of Us II บอกเราว่าความแค้นและความเกลียดชังผลักดันเราได้มากแค่ไหน. ในขณะเดียวกันก็บอกเราว่าการปล่อยวางก็ปลดปล่อยเราได้เช่นกัน
ถ้าเราผูกพันกับเหยือของเอลลี่ เราอาจจะเกลียดเอลลี่เหมื่อนที่เกลียดแอบบี้ด้วยเช่นกัน. จงปล่อยวางครับ เพราะมันจะปลดปล่อยเราจากความเกลียดชัง
มุมมองที่ The moof เล่นและอธิบายคือทุกอย่างของเกมส์นี้แล้ว เข้าใจมากทุกอย่าง ว่าผู้พัฒนาต้องการสื่อและให้ความหมายของเกมส์และชีวิตคนเราได้เป็นอย่างดี สมบูรณ์แบบมาก เพราะดูแล้วดำดิ่งเรื่องเชื้อโรคที่อาจจะเกิดขึ้นจริงบนโลกในไม่ช้าถ้าเราหาวิธีรักษามันไม่ได้ สุดท้ายคนเราต้องการอะไร ครอบครัว ความรัก ไม่ใช่การคิดแค้นที่ทำลายทุกอย่าง และไม่เหลืออะไร
เป็นความเห็นที่ดีมากเลยครับ
ไม่ใช่ว่าประเด็นเนื้อเรื่องไม่ดี
แต่เล่าเรื่องได้ไม่กลมกล่อมแบบภาคแรก
เกมไม่ทำให้ผมเห็นใจแอ๊บบี้ได้มากพอ เนื้อเรื่องฝั่งแอ๊บบี้ดูให้ทำดีแบบยัดเยียดและไม่รู้สึกว่าตัวละครรู้สึกผิดกับการกระทำตัวเองเท่าไร (ฆ่าคนที่พึ่งช่วยชีวิตอ่ะนะ)
ชอบ คัทซีนตอน 23:20 มากก ดนตรีประกอบคือแบบ จะเศร้าก็เศร้า จะแฮปปี้ก็ได้ เหมือนกำลังมีความหวังอีกครั้งเลย.
MemMol2Ys จริงครับ ผมน้ำตารื้นเลย
อยากรู้ชื่อเพลง
@@uraharahata อยากรู้เหมือนกัน
@@kittipongsangthongsuksri6338 สงสัยต้องรอ the moof ตอบ
@@uraharahata
th-cam.com/video/-3_Zy2yOF2k/w-d-xo.html&ab_channel=DemetriaBackman
ติดตามช่องคุณมา ไม่เคยผิดหวังเลยซักคลิป ถ้ามีบริจาคนี่ผมทุ่มหมดตัวเลย!!
งานดีตลอดเลยนะครับ
เห็นด้วยครับ เนื้อเรื่องดีครับถึงจะไม่ถูกใจทุกคน
แต่ที่ดีจริงคือความลื่นไหล ในทุกฉากทุกบทสนทนาครับ
ส่วนลุงทอมมี่ผมเข้าใจแกนะครับ จริงๆแก ก็จอร์นวิคนี่แหละครับ
เทคนิคแกตั้งแต่ยิงเรียกซอมบี้ก็พอบอกได้ครับ แอบบี้ยังร้อง
แกอาจเป็นคนที่คิดว่าตัวเองคนเดียวก็ไหวครับ และไม่อยากให้เอลลี่มาเสี่ยง
ผมว่าลุงแกคงรู้ว่าคงห้ามเอลลี่ไม่ได้อยู่แล้วเลยขอวันนึง
ตอนที่เอลลี่ฆ่าเมลที่ท้องทำให้ลุงทอมมี่คิดว่าไม่น่าจะดีนักถ้ายังจะพาเอลลี่ลุยต่อ
อาจจะวกกลับมาฆ่าทีหลังก็ได้ครับ บทสรุปแกก็เช่นเดียวกันครับ
ความแค้นมีแต่ความสูญเสีย ลุงแกขาเป๋ สูญเสียตาไปข้าง ทะเลาะกับเมียบ้านแตก
ทุกอย่างเกิดเพราะความแค้น และแกยังวางมันไม่ลงตั้งแต่แรกแล้ว
เพราะวันที่โจเอลตาย แกก็อยู่กับพี่ชายที่นั่น และเพราะแกฆ่าแอบบี้คนเดียวไม่ได้แล้ว
จึงสูญเสียตัวตนเพราะความแค้น ถึงยอมบากหน้าไปขอให้เอลลี่ทำเพราะแกไม่มีใครแล้ว
และสุดท้ายถ้าแกยังวางความแค้นไม่ได้ แกก็ยังจะติดอยู่ในวังวนแห่งนี้ต่อไปครับ
เห็นด้วยครับ อาจจะบทเล่าเรื่องน้าทอม น้อยไปนิด บางทีอาจจะดูเป็นเหมือนบทอ่อน แต่พออ่านที่คุณอธิบายก็พอจะรับได้ ถ้ามีส่วนขยายบทของทอมมี่ ในDLC น่าจะดีนะ เพราะจริงๆ ชอบน้าแกแฮะ ดูเผินๆเหมือนคนสบายๆ น้ำเสียงเหมือนเป็นคนใจดีสายเขียว แต่ลึกๆแกโหดมาก ฉากสไนป์ โคตรเทพ ยังประทับใจอยู่เลย
@@nutt2062 อยากให้มี Dlc ลุงทอมตอนบุกไปฆ่า WLF จัง อยากเล่นเป็นสไนปเปอร์ ช่วงนั้นลุงเท่จัดๆ แล้วทอมมีเป็นหนึ่งในตัวละครที่แฟนๆรักด้วย
ก๋วยเตี๋ยวหนึ่งถ้วย คนนึงบอกอร่อย คนนึงบอกไม่อร่อย มันก็แล้วแต่รสนิยมความชอบส่วนบุคคลของใครของมันครับ อย่าไปแซะประเด็นโน้นประเด็นนี้เหมือนหลายๆคลิปเหมือนที่ผ่านมาเลย เจ้าของช่องผมว่าเขาวางตัวเป็นกลางที่สุดแล้ว
ชอบเนื้อหาเกมส์มาก ชอบ The Moof ที่สามารถทำให้เห็นแนวคิดอะไรอีกหลายมุม
หวังจะให้มีภาค 3 คงอีกไม่ต่ำกว่า 5 ปีจะรอครับ
เราอินตั้งแต่พี่เล่นแล้ว พอมาฟังสรุปบวกกับซาวอีก น้ำตาไหลเลยแง้
ภาค3 คือการให้ความหวัง โหคิดไม่ถึงเหมือนกันนะครับ ถ้าภาค3 ตอนจบเอลลี่เป็นส่วนหนึ่งผลิตวัคซีนช่วยโลกได้โดยไม่ต้องแลกชีวิต การที่โจเอลช่วยเอลลี่ในภาค1 จะมีความหมายมากๆ หวังว่าภาค3 จะเจอหมอเก่งๆ 55 มโนล้วนๆ
การตัดสินใจของทั้ง 2 สาวทำให้รู้ว่า ทั้ง 2 คนยังเป็นคนดีอยู่ แม้จะอยู่ในโลกที่โหดร้ายก็ตาม
เป็นช่องที่มั่นคงในแนวทาง มีเหตุปละผลผมชอบครับ
ชอบมากครับ ทั้งเกมส์
ทั้งความคิดคำพูด ผมชอบครับ
จากใจคนเล่นจบจะ 2 รอบแล้ว (กำลังเก็บถ้วย) ปัญหาของ The Last of us Part2 มันไม่ใช่เกี่ยวกับการเข้าใจในการกระทำของทั้ง 2 ฝ่าย แล้วเข้าใจทางทีมเขียนบทว่าต้องการจะสื่ออะไร...ปัญหามันคือทางผู้พัฒนาไม่ควรจะนำเสนอเนื้อเรื่องมาในแนวทางนี้...ธีมของ The Last of Us คือหายนะของมวลมนุษยชาติจากไวรัสที่แพร่ระบาด ด้วยบิ๊กไอเดียที่มันน่าสนใจและใหญ่ขนาดนี้ มันไม่ควรพูดถึงเรื่องการแก้แค้นกันไปมาของทั้งสองฝ่าย ไม่ควรหยิบประเด็นนี้ลงมายัดในบิ๊กไอเดียที่ภาค1เคยสร้างมา...ให้ลองคิดตามว่าถ้าเราลองหยิบประเด็นหายนะของของไวรัสที่คร่าชีวิตมนุษย์เกือบทั้งโลกออกไป เกมนี้ก็จะเหลือแค่ประเด็นการแก้แค้นกันไปมา ซึ่งมันมีให้เห็นเยอะแล้ว มันไม่ใช่ไอเดียใหม่เลย...นี่เรายังไม่รวมถึงระบบเกมที่มันขัดกับความตั้งใจของเกมที่จะสื่อถึงการปล่อยวางและให้อภัย ระบบตัวเกมไม่แม้แต่จะมีการให้เราเลือกในการสังหารหรือไม่สังหาร ส่วนใหญ่คือการฆ่ากันแบบโต้งๆเดินหน้าลุยแบบแรมโบ้ซึ่งมันขัดกันอย่างรุนแรง...7ปี ผมไม่ได้ต้องการเนื้อเรื่องแบบนี้ ผมต้องการเห็นโลกหลังหายนะ ว่าทีมพัฒนาจะต่อยอดไปทางไหน อยากเห็นการเอาตัวรอดของผู้คน ที่เราไม่อาจนึกถึงด้วยประสบการณ์ที่เรามี ณ ตอนนี้ จะมีประสบการใหม่ๆให้เราได้ว๊าวแค่ไหน ไม่ใช่40 ชั่วโมงที่หมดไปกับการตามล่าฆ่าฟันกันแบบนี้
ก็โลกหลังหายนะ ก็ คือมนุษย์ อำนาจ ความรุ่งเรือง ไอ🐃 เกมก็สื่อได้ดีนะ การเอาตัวรอดของแต่ละกลุ่มตั้งแต่ภาคแรก อย่างที่ the moof บอกภาค3 อาจจะเป็นความหวัง คนไม่ศิลไม่เข้าใจหรอก
แล้วภาคแรกมันวางเรื่องเกี่ยวกับความรักหรือหายนะของมวลมนุษยชาติมากกว่าละครับ
@@Wingmankung จริง ภาคสองเราซื้อมาเล่น ไม่ดูใครสตรีมเกมนี้แคสเกมนี้เลย ไปเล่นพอถึงฉากโจตายแบบหยุดเลย เลิกเล่น แพนิคมาก
ตอนจบภาคแรกมันบอกทุกอย่างยันชื่อเรื่องเลยครับ ดังนั้นภาคสองมาเวย์นีเลยเป็นเรื่องที่ยอมรับได้
ตอนที่พี่พูดว่า มันคือมุมมองที่ไม่เคยมีสื่อไหนมีมาก่อน คือตรงใจผมมาก Game of the year ผมให้เกมนี้ไปแล้ว
ถูกครับ ลองมองให้ในเกม คือเรื่องจริง ชีวิตจริงไม่มีตัวเอก พระเอก สิ่งที่โจทำไปในภาคแรก ไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง แค่ถูกต้องในมุมมองผู้เล่นและความผูกพันของตัวโจเอล และเอลลี่ สิ่งที่เกิดต่อไปก็ต้องมีการมาล้างแค้นของฝ่ายนั้นๆ อะไรก็เกิดขึ้นได้ครับ ไม่มีใครถูกใครผิด
21:45 ดนตรีแสนดีมาก น้ำตาไหลเลย
นำเสนอได้ดีมากครับ
20:50 ฉากลุงโจ เอลลี่ เพลง Solidarity - Brotherhood Final Fantasy XV นะ
Yasuhisa Inoue - Solidarity
ช่วงแรกคือยอมรับเลยว่าหงุดหงิดกับการที่ต้องเล่นเป็น Abby แต่พอได้เล่นนางจริงๆ รู้สึกมีโมเม้นท์ให้ได้อมยิ้มเยอะนะ กลายเป็นหลังๆเริ่มชอบทาง Abby เพราะนางก็ยังตัดสินใจไว้ชีวิต Ellie
สรุปได้ดีมากจริงๆค่ะ ตอนแรกที่ดูจบเรายังจมอยู่กับความเศร้าของฉากจบ แต่พอได้ฟังมุมมองหลายๆอย่างทำให้เรายอมรับได้เพราะมันสมเหตุสมผลแล้ว ตอนนี้เลยมูฟออนได้แล้วค่ะ ติดตามมาตั้งแต่ep.แรกจนepสรุปขอบคุณมากนะคะที่ทำคลิปดีๆให้ได้ดู 😊
ชอบครับ สู้ๆ ครับ
เห็นด้วยอย่างรุนแรงเลยครับ
การที่ตัวละครหลักตายอย่างน่าสลดนั้นเป็นชนวน ทำให้ผู้คนเกิดความไม่พอใจและไร้ซึ่งเหตุผล
ไม่ว่ายังไงผมว่าสาเหตุที่ทำให้ลุงโจถูกฆ่านั้นเป็นเหตุผลที่ดีในการดำเนินการ part 2 นี้
และทำให้คนอื่นที่ไม่เคยเจออะไรแบบนี้ได้เจอเนื้อเรื่องแบบนี้บ้าง
อยากบอกว่า ตอนที่ตีกับแอ๊บบี้ ตอนสุดท้าย
ใจอยากพาเอลลี่กลับบ้านมากเลย
ยิ่งมีภาพโจแว๊บมา ยิ่งสงสารเอลลี่
ชอบคัทซีนตอนจบมาก ค่อยยังชั่วที่เอลลี่กับโจได้คุยกัน
นึกว่าเสียโจไป ทั้งๆที่ทะเลาะกันซะแล้ว
สุดท้ายแล้ว TLOU จบดีนะคะ เข้าใจเนื้อเรื่อง และความคิดแต่ตัวละคร
ไม่ชอบตรงเดียว ตรงที่แอ๊บบี้คุยกับพ่อให้ผ่าตัดตัวเอง
ติดตามชมอยากให้มีภาคต่อ 10/10 เลย ผมชอบเนื้อหาเกมมาก สนุกกว่าหนังบางเรื่องเสียอีกหวังว่าผู้สร้างคงไม่หมดกำลังใจจะทำต่อนะ เป็นเกมที่สุดมากๆ
แล้วมา พูดถึงไข่เจียวเวลานี้เนี่ย หิวเลย🤤
ที่ชอบที่สุดใน the last of us 2 คือระบบทำมาโคตรดี โคตรละเอียด AI มีการตอบสนองทั้งท่าทางและบทพูดที่สมจริงและดูมีชีวิตมากๆ AI แต่ละตัวมีชื่อเป็นของตัวเองมีบทเป็นของตัวเอง นั่นหมายความว่าต้องใช้ทีมพากษ์อย่างหฤโหดเลยทีเดียว ยังไม่รวมถึงรายละเอียดเล็กๆน้อยๆที่ละเมียดละไมเอามากๆ ถึงแม้จะดูใส่ใจกับตัวเกมเพล์น้อยไปนิด และอนิเมชั่นดูไม่หลากหลายเท่าไหร่ ส่วนเนื้อเรื่องก็บีบหัวใจมากๆ และสร้างประเด็นถกเถียงได้มากมาย สามารถทำให้คนเกลียดแอ๊บบี้สุดๆ แล้วทำให้เห็นใจแอ๊บบี้ได้ในท้ายที่สุดอีก
เห็นด้วยตรงเรื่อง the mist เลย ทำเอา the last of us part 2 ดูสดใสขึ้นมาเลย 5555555555
เนื้อเรื่องดีมากครับ ไม่มีอะไรจีรังยั่งยืนตลอดไปต้องมีสักวันที่คนต้องตาย และการแก้แค้นก็ไม่ได้ช่วยอะไรให้ดีขึ้นซึ่งอาจนำมาถึงการสูญเสีย
ขอเป็นกำลังใจให้คนทำคลิปด้วยครับ.. ✌️
12:12 คิดถึง Tifa แหละ ดูออก ......ผมก็คิดถึง 55
ผมว่าเขาทำได้ดีมากๆนะ เริ่มเรื่องโดยการให้แอ็บบี้ฆ่าโจลเพื่อให้เรารู้สึกเกลียดนังนี่มากๆ ก่อนจะพาเราไปหาสาเหตุและผลของการกระทำของแต่ละคน ถ้าเล่นจบคุณให้อภัยแอ็บบี้ได้แสดงว่าคุณก็ก้าวข้ามผ่านความเกลียดชังและความแค้นมาได้ ถ้าคุณยังเกลียดแอ็บบี้อยู่ก็คงไม่ต่างจากเอลลี่ที่ยังจมกับความแค้นจนต้องสูญเสียอะไรมากมาย แต่ผมแอบดีใจนะที่เอลลี่ยังแค้นเลยช่วยชีวิตแอ็บบี้ในตอนท้ายไว้ได้
ผมกลับเดลียดเอลลี่มากกว่า ตอนสู้กับแอบบี้ตอนจบ ตอนสู้ไปมา ดี ที่เอลลี่ไม่ฆ่าแอบบี้
พี่คิดว่าจะมีภาคต่อไหมครับ แล้วถ้ามีคิดเล่นๆเนื้อเรื่องจะไปทางแนวไหน
พูดได้ดีมากคับ ว่าแต่จะมีเกมอะไรต่อ ผมจะรอดูคับ😆😆😁😁
จิตใจผมตายด้านตั้งแต่อ่านberserkตอนเด็กๆแล้วครับ TwT
แต่ก็คิดถึงลุงโจอยู่ดีแหละนะ
พอๆ กัน555+
ผมเข้าใจ ผมอ่านตอนผมอายุ 15 รู้สึกสะเทือนตับมากตอนนั้น สมองค้างเลยทีเดยว ตอนนี้อายุ 29 ล่ะ แม่งก็ยังไม่จบ ปสด.
ก็ถ้ามองในมุมคนเล่น ก็จะได้เห็นบริบทต่างๆทั้ง3ตัวละคร
แต่ถ้ามองในมุมองค์ของตัวละครแต่ละตัว เขาไม่ได้เห็แบบที่เราเห็นนะ เขาก็มองในมุมของตัวเองหันทั้งนั้น เอลลี่ก็ไม่ได้เห็น หรือรู้อะไรเกี่ยวกับแอบบี้ เจอหน้ากันมึงก็งัดหน้าลุงกูซะละ แถมพอเจอกันอีกยังทักทายด้วยลูกปืนอยู่เลย ส่วนแอบบี้หลังกลับจากแจ๊คสัน ก็วุ่นอยู่กับแผนต่อสู้กับอีกกลุ่ม ไม่ได้เตรียมรับมือกับการล้างแค้น อยู่ๆโดนพวกไหนก็ไม่รู้รุมยำเพื่อนไปทีละคน แน่นอนว่าความแค้นมันครุกกรุ่นแน่นอน บริบทคือ มึงต้องตายกันไปข้างนึงอะ เพราะเหตุการณ์ต่างๆ มันเพิ่งเกิดขึ้นไม่นานนี้เอง ขนาดแอบบี้ แค้นมาตั้ง4ปี ยังไม่ลืมเลย แล้วเด็กไฮเปอร์อย่างเอลลี่ จะเหลือหรอ ลุงกูเพิ่งโดนหวด โฮลอินวัน ไปไม่กี่วันเอง บทส่งขนาดนี้
เฮ้ออออ
ผมว่าเกมนี้ยังเล่นล้างแค้นปล่อยวางไม่สมเหตุสมผลเท่าไหร่ ถ้าเคยเล่น Call Of Juarez Gunslinger นี้ก็คล้ายกันครับฆ่าเป็นร้อยเป็นพันเพื่อล้างแค้นให้พี่ชายตัวเองทั้ง 2 คน แต่พอมาถึงฆาตกรที่ฆ่าพี่ชายคนสุดท้าย มันก็มีเหตุผลที่เราควรจะปล่อยวางเพราะคนที่ฆ่าพี่ชายกลับตัวกลับใจแล้วสำหรับบางคนมันแถบไม่เหลือเหตุผลให้ฆ่าโจรกลับใจ อันนี้ใครคิดว่าโจรกลับตัวกลับใจควรให้อภัยหรือไม่ก็แล้วแต่ครับยังพอใช้ถกเถียงกันได้ หรือ GTA 4 ที่ตอน Niko เจอ Darko คนที่ฆ่าเพื่อนๆ Niko ถึง 12 คนเพียงเพราะเงิน 1000$ เท่านั้น กว่า Niko จะเจอตัว Darko นี้ก็ต้องเป็นมือปืนฆ่าคน ไปเป็นเบี้ยล่างทำงานสกปรกให้คนเยอะแยะกว่าจะเจอ แต่สุดท้ายเราก็เห็นว่า Darko ก็ทุกข์ทรมารกับสิ่งที่ทำลงไปและสิ่งที่ตัวเองเป็นอยู่ การปล่อย Darko ไปก็เป็นเรื่องที่สมควรแล้ว
สำหรับ Ellie กว่าจะมาหา Abby เจอเนี่ยก็ฆ่าไปเยอะเหมื่อนกันนะ แล้วจะมีคนกลับมาแก้แค้นเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ แน่นอนในอนาคตนางก็ต้องชดใช้ในสิ่งที่ตัวเองทำ แต่สุดท้ายนางก็ปล่อยคนที่ทำให้ตัวเองต้องฆ่าคนเป็นร้อยเพื่อมาระแวงทีหลังว่าจะมีใครมาล้างแค้นไหม แล้วก็ต้องมาชดใช้สิ่งที่ตัวเองทั้งๆที่มันก็จะเลี่ยงได้ถ้าคิดแบบนี้แต่แรก คือถ้ามันมี Impect หรือเหตุผลคล้ายๆ GTA 4 หรือ COJ Gunslinger นี้ผมยังพอเข้าใจที่ปล่อยวางนะแต่ TLOU2 นี้ผมยังหาเหตุผลดีๆที่ Ellie ปล่อย Abby ไม่เจอเลยนะ ถึงจะฟังเหตุผลจากในคลิปก็ยังรู้สึกว่ามันยังไม่หนาพอ
เพราะถ้าจะคิดแบบนี้ต้องทำเหมื่อน Arthur Morgan ครับ Hosea กับ Lenny โดนฆ่า Arthur ก็ไม่คิดไปล้างแค้นเลยแต่แรก คิดแต่คนที่ยังอยู่อย่างเดียวแต่แรกเลย การล้างแค้นถ้าเริ่มแล้วต้องอย่าหยุดจนกว่าจะบรรลุเป้าหมาย ถ้าหยุดกลางคันมันก็จะผลลัพธ์จะแย่มากกว่าเดิม ทางที่ดีสุดคือไม่เริ่มและทางที่แย่ที่สุดคือเริ่มแล้วหยุดกลางคัน
สำหรับเราในฐานะคนเล่นและคนดู เรารู้สึกว่าตอนเราเล่นเราอาจมีอารมณ์ส่วนตัวเข้าข้างเอลลี่ แต่พอเราได้รู้เรื่องราวต่างๆมากขึ้น เรากลับอินเรื่องราวทางแอ็บบี้มากกว่า จนเรื่องเดินทางมาถึงตอนจบเราก็เข้าใจและเห็นใจทั้งเอลลี่และแอ็บบี้นะ แอบคิดเล่นๆว่าถ้าทั้งคู่มีโอกาสได้เจอกันหรือได้ผจญภัยด้วยกันคงเป็นคู่หูที่โหดและแข็งแกร่งน่าดู นอกจากนี้อยากรู้จักเลฟให้มากขึ้นจัง
สุดท้ายต้องขอบคุณ the moof ที่มาเล่าเรื่องราว สอดแทรกสาระ มุมมอง แนวคิด มีแอบแกล้งคนดูนิดๆหน่อยๆพอให้กระตุกยิ้ม ขอบคุณน้าาา
ผมคาดหวังว่ามันจะมาแนว bio hazard ต่อยอดเชื้อรามากขึ้น แต่กลับดันเนื้อเรื่องไปทางคนน่ากลัวกว่าซอมบี้ก็น่าผิดหวังแล้ว ยังจะดำเนินเรื่องได้น่าบัดซบอีก
แนวเดียวกับ the walking dead ครับ
ตามรอยมาเลย คนแบ่งเป็นกลุ่มๆ หลายแบบ
คนน่ากลัวกว่าผู้ติดเชื้อ
ผมดูแล้วนึกถึงสังคมในปัจจุบันเลย เราตัดสินคนกันง่ายดาย เกลียดคนอื่นได้ง่ายๆ เพียงเพราะเขาไม่ได้อยู่ฝั่งเรา ลองนึกถึงเรื่องณอนกับ สังคมการเมืองในทวิคซิครับ สังคมเราทุกวันนี้เป็นแบบนี้เลย ถ้าเราลองมองในมุมของอีกฝ่ายดูบ้างเราจะเข้าใจกันมากขึ้นเยอะเลยครับ ไม่ใช่แค่เห็นต่างก็ด่ากันให้จมดินละ
มันจะมีจุดๆนึงที่เราคิดว่า มันผิดปกติ ออกมาครับ ไม่งั้นเสียงส่วนใหญ่คงไม่พยายามให้เค้าพิสูจน์
ที่คุณอธิบายก็เข้าใจได้อยู่ครับ แต่เรื่องฌอน เขาเลือกฝั่งไหนก็อีกเรื่องนึง แต่การบิดเบือนความจริง มีความผิดปกติหลายอย่าง เบื้องหลังภูมิหลังของเขา มันเป็นเรื่องต้องพิสูจน์ความบริสุทธิ์ใจของเขาครับ
😢คิดถึง ลุง มากเลย ฉากสุดท้ายคลิปที่เอามาให้ดู บีบหัวใจมาก😭
เราเห็นว่าทำไมคนถึงคิดว่าแอลลี่จะวางความแค้นไม่ได้ ประสบการณ์ชีวิตแต่ละคนไม่เหมือนกัน การตัดสินใจในเหตุการณ์สำคัญของแต่ละคนไม่เหมือนกัน เราชอบทีคุณมูฟใช้คำว่า "เข้าข้าง" กับ "เข้าใจ" มันเหมือนทีสังคมเรามีคำว่า "ลูกคุณไม่ได้น่ารักสำหรับทุกคน" เราเห็นว่าเกมนี้ประสบความสำเร็จนะคะ ด้านเนื้อเรื่องทีก่อประเด็นให้ถกเถียง