สาเหตุ..!! นามสุกลเกิดขึ้นครั้งแรกในสยาม นามสกุลแรกของประเทศไทยคือ..? สมัยรัชกาลที่ 6
ฝัง
- เผยแพร่เมื่อ 28 พ.ค. 2023
- สาเหตุ..!! นามสุกลเกิดขึ้นครั้งแรกในสยาม นามสกุลแรกของประเทศไทยคือ..? สมัยรัชกาลที่ 6
นามสกุล คือ ชื่อบอกตระกูล (หรือสกุล) เพื่อแสดงที่มาของบุคคลนั้น ๆ ว่ามาจากครอบครัวไหน ตระกูลใด ธรรมเนียมการใช้นามสกุลปรากฏอยู่ทั่วไปในหลาย ๆ ประเทศและวัฒนธรรม ซึ่งในแต่ละที่ก็อาจจะมีลักษณะเฉพาะแตกต่างกันไป
ในหลาย ๆ วัฒนธรรม (เช่น ทางตะวันตก ตะวันออกกลาง และในทวีปแอฟริกา) นามสกุลจะอยู่ในลำดับหลังสุดของชื่อบุคคล แต่ในบางวัฒนธรรม โดยเฉพาะในเอเชียตะวันออก (จีน ญี่ปุ่น เกาหลี เวียดนาม) นามสกุลจะอยู่ในลำดับแรก ส่วนนามสกุลของไทยจะอยู่เป็นลำดับสุดท้ายเหมือนทางตะวันตก
ในบางวัฒนธรรม จะใช้นามสกุลในการเรียกขานในโอกาสที่เป็นทางการ เช่น บารัก โอบามา (Barack Obama) จะถูกเรียกว่า คุณโอบามา (Mr. Obama) ไม่ใช่ คุณบารัก เป็นต้น
นามสกุลในประเทศไทย
ดูบทความหลักที่: ชื่อบุคคลไทย
ก่อนหน้านี้ กฎหมายไทยกำหนดให้ผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว จะต้องเปลี่ยนมาใช้นามสกุลสามี แต่ในปัจจุบัน ศาลรัฐธรรมนูญได้ชี้ขาดให้ผู้หญิงมีสิทธิในการเลือกใช้นามสกุลของตัวเองหรือของสามีได้ ซึ่งถือเป็นการให้สิทธิแก่สตรีตรงตามที่รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2540 มาตรา 30 ระบุไว้
เดิมทีคนไทยไม่ได้มีนามสกุล[1] จะมีเพียงชื่อเรียกเท่านั้น ในสมัย พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 จึงโปรดให้มีการตั้งนามสกุลเหมือนกับประเทศอื่น ๆ โดยให้ตราพระราชบัญญัติขนานนามสกุล เมื่อวันที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2455 มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2456 และมีการพระราชทานนามสกุลให้แก่หลายครอบครัวที่เรียกว่า นามสกุลพระราชทานจำนวน 6,432 นามสกุล และหลายครอบครัวก็ตั้งนามสกุลตามชื่อของผู้นำของครอบครัวนั้น หรือตามถิ่นที่อยู่อาศัยของครอบครัวนั้น นามสกุลแรกของประเทศไทย คือ สุขุม
รัชกาลที่ 6 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามสกุลไว้ทั้งหมด 6,464 นามสกุล แบ่งเป็น
นามสกุลตามสมุดทะเบียน 6,439 นามสกุล (ในสมุดทะเบียนลงลำดับที่นามสกุลที่ได้พระราชทานไปเพียง 6,432 นามสกุล)
นามสกุลพิเศษ 1 นามสกุล คือ นามสกุล ณ พิศณุโลก[2]
นามสกุลสำหรับราชสกุลรัชกาลที่ 4 อีก 24 นามสกุล เช่น กฤดากร เกษมศรี จักรพันธุ์ จิตรพงศ์ ชุมพล ทวีวงศ์ ทองแถม ดิศกุล เทวกุล ศรีธวัช สวัสดิกุล
เมื่อมีพระราชบัญญัติขนามนามสกุลฯ ขึ้น ราษฎรไทยจึงต้องตั้งนามสกุลสำหรับใช้ในครอบครัวหรือตระกูลของตน โดยมีความนิยมหลายอย่างด้วยกัน ดังนี้
ตั้งตามชื่อของบรรพบุรุษ (ปู่ ย่า ตา ยาย)
ข้าราชการที่มีราชทินนาม มักจะนำราชทินนามมาตั้งเป็นนามสกุลของตน เช่น หลวงพิบูลสงคราม (แปลก) ใช้นามสกุล "พิบูลสงคราม"
ตั้งตามสถานชื่อตำบลที่อยู่อาศัย
ชาวไทยเชื้อสายจีนอาจแปลความหมายจาก "แซ่" ของตน หรือใช้คำว่าแซ่นำหน้าชื่อแซ่ หรือใช้ชื่อแซ่นำหน้า หรือสอดแทรกไว้ในนามสกุล
หม่อมเจ้า หม่อมราชวงศ์ และหม่อมหลวง ใช้นามราชสกุลของตนเป็นนามสกุล แต่ลูกของหม่อมหลวงและต่อไปเป็นหลาน เหลน ใช้นามราชสกุลโดยลำพังไม่ได้ ต้องมีคำว่า "ณ อยุธยา" ต่อท้าย สำหรับเชื้อพระวงศ์[ต้องการอ้างอิง]
พระราชบัญญัติชื่อบุคคล พ.ศ. ๒๕๐๕ กำหนดหลักเกณฑ์การตั้งชื่อสกุลไว้ว่า มาตรา ๘ ชื่อสกุลต้อง
(๑) ไม่พ้องหรือมุ่งหมายให้คล้ายกับพระปรมาภิไธย หรือพระนามของพระราชินี
(๒) ไม่พ้องหรือมุ่งหมายให้คล้ายกับราชทินนาม เว้นแต่ราชทินนามของตน ของผู้บุพการี หรือของผู้สืบสันดาน
(๓) ไม่ซ้ำกับชื่อสกุลที่ได้รับพระราชทานจากพระมหากษัตริย์ หรือชื่อสกุลที่ได้จดทะเบียนไว้แล้ว
(๔) ไม่มีคำหรือความหมายหยาบคาย
(๕) มีพยัญชนะไม่เกินกว่าสิบพยัญชนะ เว้นแต่กรณีใช้ราชทินนามเป็นชื่อสกุล
นามสกุลในประเทศอื่น ๆ
ในประเทศเกาหลี กัมพูชา จีน ญี่ปุ่น เวียดนาม โปแลนด์ และฮังการี มักเขียนนามสกุลนำหน้าชื่อตัว
สเปน ใช้สองนามสกุล ทั้งนามสกุลของพ่อและนามสกุลของแม่
โปรตุเกส ใช้สองนามสกุล ทั้งนามสกุลของแม่และนามสกุลของพ่อ
เอกสารในบางประเทศที่ใช้อักษรละติน บางครั้งจะใช้ตัวพิมพ์ใหญ่ สำหรับชื่อนามสกุล เพื่อป้องกันการสับสนว่าชื่อหรือนามสกุล เช่น TORIYAMA Akira
ในบางประเทศ โดยเฉพาะจีน ญี่ปุ่น และประเทศตะวันตก เมื่อต้องเรียกขานบุคคลที่ไม่รู้จักกันมาก่อน มักจะเรียกด้วยนามสกุลเพื่อความสุภาพ สำหรับคนที่สนิทมากขึ้นอาจจะเรียกชื่อตัวหรือชื่อเล่นแทนนามสกุล
เรื่องเล่าจากบันทึก เล่าเรื่องต่างๆที่มีสาระและน่าสนใจ ประวัติศาสตร์ ประวัติบุคคลสำคัญต่างๆ รวมถึงธรรมะคำสอนต่างๆ
#นามสกุล #นามสกุลแรกของประเทศไทย
การที่เรามีอะไรต่ออะไรมาถึงปัจจุบันนี้ได้ก็เพราะความวิริยะอุตสาหะของพระเจ้าอยู่หัว ยิ่งฟังก็ยิ่งซาบซึ้งครับว่ากษัตริย์ไทยเราทรงงานหนักเพื่อที่จะนำพาประเทศชาติให้เท่าเทียมกับอารยประเทศ พอมาถึงปัจจุบันนี้คนรุ่นใหม่กลับมองไม่เห็นและพยายามจะทำลายชาติอีกด้วย คงจะลืมหรือแกล้งลืมว่าใครเป็นผู้ทำให้เรามีเอกลักษณ์ของความเป็นไทย
ขอบคุณข้อมูลคะ
ิราชสกุลต่างๆ พอมาถึงรุ่นหลานเหลน คือลูกของหม่อมหลวงจะใช้คำนำหน้า นาย นางสาว นาง ชื่อ ราชสกุล ตามด้วย ณ กรุงเทพ ในสมัย ร.6 ก่อนจะเปลี่ยนเป็น ณ อยุธยา ถามว่าทำไม เพราะ สืบสายมาจากรัชกาลต่างๆซึ่งท่านมีบรรพบุรุษมาจากสมัยอยุธยามีหลายราชกุล ดังนั้น ณ กรุงเทพ ยังใหม่ไป ต้องเก่ากว่านั้นจ้ะ🙏☺️
ประเทศในอาเซียนมีประเทศเดียว ที่ไม่ใช้นามสกุลเลยมีแต่ชื่ออย่างเดียว คือ สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ หรือ ประเทศพม่า ครับ
ว้าวซ่ามากเลย ความรู้ใหม่
พระคุณพระเจ้าแผ่นดินล้นเกล้ารัชกาลที่6 เหนื่อยลํายากทุกอย่าง ขอขอบคุณพี่บรรยายทีมสาธุสาธุสาธุสาธุครับ😮❤💯🙏🙏🙏🙏🙏👍👍👍👍👍
สกุลมีตั้งแต่รัชการที่5ตามหัวเมืองต่างๆ
ณ.สงขลาก็เริ่มจากต้นตระกูลเป็นจีนทำความดีความชอบได้แต่งตั้งนามสกุล
คำว่า ณ. บางคนเข้าใจ ร.5 ผิด เป็นการแต่งตั้งนามสกุล เจ้าเมืองต่างๆทุกหัวเมืองด้วยคำนำหน้าว่า ณ.สงขลา จ.สงขลา
ณ.ระนอง จ. ระนอง
ประมาณนี้ได้รับการแต่งตั้งจาก ร.5
นามสกุลเริ่มมีใช้เมื่อรัชกาลที่ ๖ รัชกาลที่ ๕ ยังไม่มีนามสกุล
@@BeBe-hx2ti ไม่รู้นะพอดีคุณกิตติรัตน์ สิวายะวิโรจน์ แม่ ณ.สงขลา
คุณกิตเป็นพี่ใหญ และดาบประจำตระกูล ณ.สงขลา ก็อยู่ที่บ้าน
ภรรยาคุณกิตเราก็ดูแลอยู่ แก่มากแล้วถ้าเขาตายเราก็จะคืนดาบไห้ตระกูล ณ.สงขลา ยาวมากและแรงด้วยเห็นคนจับพระแล้วดิ้นได้เจอดาบแรงดิ้นตกเลยณ.สงขลามาที่บ้านหลายคนก็ไม่มีใครกล้าเอาไปเราดู สมุดพงษ์เสาว์ดาน
ขนาดคุณกิตอายุ80กว่า ย้งอยู่รุ่นที่5-6เขาไล่ตามขั้นแต่คนแรกเป็นคนจีนและเป็นเจ้าเมืองสงขลาคุณแอ๊วก็มาจากสายรัชกาลที่6บางบ้านที่ไปรูปถาพถ่ายเต็มยศพวกเขาจะคลานเข้าไปขนาดเป็นม.ร.ว แต่ท่านก็ดึงมือเราไห้ไปนั่งบนโซฟาใหญ่กับเขารู้แต่ว่าอีกคนท่านหญิงทัศนียา ณ.สงขลา พระพี่เลี้ยง ร.8 เล่าอะไรไห้ฟังเยอะเลย
อินทรลาวัลย์ ก็หนึ่งใน 6 พันกว่านามสกุลที่ในหลวง ร.6 พระราชทานให้เจ้าคุณทวดไปรักษาหัวเมืองเชียงแสน
จบที่แม่เป็นหลาาสาวแต่งงานจดทะเบียนสมรสต้องเปลี่ยนมาใช้นามสกุลพ่อ
นามสกุลตาผัน โพธิมีพี่น้องเป็นชาย 9 คน
บ้านดั้งเดิม ร้อยเอ็ด
นามสกุล ยายไม่รู้
สกุล พ่อ แก้ววัฒถา
ไม่มีเครือญาติพี่น้อง
บ้านฟ้าห่วน ยโสธร
สกุล แม่ โพธิ เกิด
ชลบุรี
ฉันทราบจากคุณพ่อค่ะท่านบอกว่าเป็นนามสกุลพระราชทานจากพระเจ้าแผ่นดิน
คุณทวดซึ่งรับราชการเป็นนายอำเภอในปี พ.ศ.2458 ก็ได้รับพระราชทานนามสกุล ให้ลูกหลานและเครือญาติ ได้ใช้มาถึงปัจจุบันนี้ครับ นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณ อันหาที่สุดมิได้.
ขอขคุณที่ติดตามค่ะ
สวัสดีครับ
อยากถามผู้รู้ ว่านามสกุลที่มีคำว่า ราช ในนามสกุล เช่น ราชมนตรี อินทราชปราโมทย์ แสงราชศักดิ์ นี่คืออดีตเป็นค่าหลวงของพระเจ้าอยู่หัวหร๋อ สงสัย ศึกษาอยู่ วานผู้รู้ช่วยบอกที
แม่ก็คือแม่ ต๊าซซ
ก็เห็นว่า นามสกุล ก่อนสงครามโลกครั้งที1...ร.6..ร7. ก็จบม้วนพอดีครับ....มีลายเซ็นแน่ๆ..อยู่ฝ่าย PhD.ญี่ปุ่น...เยอรมันนี...เราไม่ใด้อยู่ที่นั่น เราก็ได้แต่เดา...สวัสดี..ในนาม ว. ศ.เมืองปัว....
นาที 19.24
อ่านว่า สะ-เหวก หรือ เส-วก กันแน่ครับ
สวัสดีครับfcไหม่มา+1like❤🎉🎉🎉
可持續的
นามสกุลผมฝั่งพ่อ มากจาก ณ พัทลุง แต่ไม่ได้ใช้นามสกุลนี้เพราะ ต้นตระกูลฝั่งพ่อเป็น เสือชื่อ น่วม ณ พัทลุง เที่ยวปล้นฆ่าสมัยก่อน จนพวก ณ พัทลุง ขับออกจากตระกูลบวกกับหนีตำรวจด้วยอพยพมาตั้งรกรากที่สุราษฎร์ธานี ทุกวันนี้ผมเลยเปลี่ยนนามสกุลมาใช้ฝั่งแม่แทน
ขอบคุณมากๆๆค่ะที่ติดตาม
พี่ก็ณ พัทลุง นะครับ
ต้นสกุล ของ ณ อยุธยา ณ ลำปาง ณ เชียงใหม่ ณ ระนอง ณ หนองคาย รู้แล้วว่าเป็นใคร แต่ ณ หนองใน นี่ซิ ไม่รู้ว่าใคร เป็นต้นสกุล. .😁😁😁😁😁😁😂😂😂🤣🤣😂😁
เสวก (อ่านว่า เส - วก ) คำนี้โดยทั่วไปเรามักอ่านว่า สะเหวก เช่น นายเสวก หรือ คุณ เสวก
คำนี้ที่ถูกต้องจะอ่านว่า เส - วก หมายถึง ข้าราชการในราชสำนัก
เสวย อ่านยังไง
@@user-yh1wx4gr9d เสวย
อ่านว่า สะ-เหฺวย
พจนานุกรมไทย เสวย หมายถึง:
[สะเหฺวย] ก. ได้รับ, ได้ประสบ, เช่น เสวยทุกขเวทนา, ได้รับประโยชน์ เช่น เสวยสิทธิ์. (ข. โสฺวย).
[สะเหฺวย] (ราชา) ก. กิน, เสพ, เช่น เสวยพระกระยาหาร เสวยพระสุธารส; ครอง เช่น เสวยราชย์. (ข. โสฺวย).
ปู่ได้รับพระราชทานนามสกุลจากร.6 แต่อีกไม่นานก็จะหายไปเพราะไม่มีลูกหลานสืบทอด ส่วนใหญ่ไม่แต่งงาน ที่แต่งก็ไม่มีลูก กันสักครอบครัว หมดรุ่นฉันก็หมดแล้ว
ผมตั้งสกุลเอง น่าจะตายไปกับตัวผม
❤
มีเรื่องเล่าว่า สมัย ร.6 โปรดให้คนไทยมีนามสกุล เจ้านายหัวเมืองต่าง ๆ จึงสั่งให้คนไทยมาจดชื่อสกุลทุกคน พอมาภึงนายมี เจ้านายถามว่า นายมีจะตั้งนามสกุลว่าอย่างไร แกลุงขึ้นยืนก่อนตอบแกรู้สึกคันในช่องคน แกก็ไอออกมาพร้อมพูดว่า ไอจ้อย เจ้านายเลยจั้งนามสกุลให้แกว่า "นายมี ไอจ้อย"
มงคล
พลัดดลางคืน
ออก
พนักงสนเลืกงานเหตุแกติ
จึงแสดงห.นทราบ.
มงคล. . . จั่นอาจ
ขอแสดงความนับถือ
ลื้อถอนนามสกุลตัวเองที่ปกครองคนนอื่น
มุสลิมตามเกาะฝั่งอันดามันหลายตระกูลตั้งนามสกุลตามชื่อหมู่บ้านที่อพยพมาจากอินโดนีเซีย มาเลเซีย
หาญณรงค์
คุณยายใหญ่ สวัสดี (สวัสดีค่ะ)
คุณแม่สำเนียง ทศนิยม (จุดทศนิยม)
คุณพ่อสังวาลย์ เชื้อสาย (เชื้อสายประเพณีไทย)
คุณพ่อสง่า บุญราศรี
คงจะดีมากเลยถ้าเราสามารถรู้ได้ว่านามสกุลของเรามีที่มาเป็นไปอย่างไร
จริง
😇😇😇😇😇😇 7:31
เรามีปริศนาไห้ทายกันเล่นๆนะครับว่าทำไมไนหลวงรัชกาลที่เก้าพระองค์ท่านถึงต้องมีประสงฆ์หรือตั้งไจสร้างเขื่อนกั้นนำ้ไว้และเพื่ออะไรความหมายก็มีอยู่แล้วว่าสร้างเพื่ออะไรทำไมแต่มีอีกความหมายหนึ่งซึ่งไม่มีไครคิดความหมายนี้ออกกันอย่างแน่นอนเรามันไจเช่นนั้นจริงๆนะมีนเป็นความหมายที่แปลออกมาจากข้างไนของพระองค์ท่านล้วนๆเลยนะครับคำว่าเขื่อนมีไว้เพื่อเก็บกักนำ้อันนี้มันไช่อยู่แล้วนะครับอต่คำว่านำ้พระทัยอันลันพ้นอันนี้นี่แหละคือความหมายของคำว่าเขื่อนภูมิพลมันตรงกับสร้างไว้เพื่อประชาชนจะได้ไว้ไช้ทำเกษตนั้นๆได้ตลอดปีนั้นแหละคำว่าล้นพ้นก็เทียบเท่ากับแม่นำ้ทั่งเขือนนั้นแหละไข้ไหมครับท่านไม่รู้นะเราคิดของเราเองก็ได้นะครับท่าน
แต่เขื่อนบางเขื่อนกลับเน้นการขายน้ำให้กับโรงงานอุตสาหกรรมจนเหลือน้ำไว้ให้เกษตรใช้ในการเพาะปลูกไม่เท่าน้ำลายไก่ ก็ไม่ทราบว่ามันขัดกับพระราชประสงค์ของพระองค์ท่านหรือเปล่า
แล้วอยากรู้ต้นนามสกุลของเราต้องสืบจากไหน
ในตำราที่เรียนรู้มานามสกุลแรกของคนไทยตือ"วิชัยขัทคะ"ไม่ใช่หรือไหงเป็น"สุขุม"ไปเสียล่ะ
นามสกุลแรกของไทยคือ สุขม ครับ เป็นของนายปั้น สุขุม หรือ พระยายมราช ครับ
ดิฉันก็รู้จาก คุณยายทวดของตัวเองค่ะว่าต้น ตระกูลของคุณยายทวด คือ อภัยวงศ์ค่ะ
ขอบคุณที่ติดตามค่ะ
อภัยวงศ์ เคยเห็นปกครองเขมรใน ตั้งแต่ร.1 จนร.ศ. 112 ตระกูลนี้ก็กลับมาอยู่ไทยแทน ที่มีชื่อเสียง ก็เจ้าพระยาอภัยภูเบศ ที่ปราจีน ที่ดังๆอีกคนก็ ควง อภัยวงศ์ที่เป็นนายก
@@Reungleaojakbanthukft😊 Hu
มาจากเจ้าพระยาอภัยภูเบศร์เจ้าเมืองที่ปกครอง มณฑลศรีโสภณที่ปกครองโดยสยาม โดยอพยพกลับมาจากเขมรคราวเสียดินแดน รศ.112
นามสกุลเรารู้ที่ไปที่มาทุกคนมันจะมีประวัติ😊
ยามสกุล. "เยกี"+ทาเย
你是天生的嗎
พระชะนาย ว่า พลายชนะ ชงลากชากลงใหม่ย้ายไม่ใหญ่คดโมนโค่นหมดขาตัดตัดตาขูกัดขัดกูจายตงจงตายตดม้ายตายหมดสายตามสามตาย ไม้3ต้นคือมลฆ่า3กูสวดเอง😊
ให้นามสกุลแบ่งชนชั้นกดขี่มาตลอดคนเท่ากันกินขี่ปี้นอน
ก็เห็นมีมาแต่นานแล้วนี่นาเช่นนามสกุลบุนนาค
ผมนาม สกุล ณ กรุงเทพครับ
คำสาบพระเจ้าตากสินมหาราชมึจริงใอ้เหี้ยในว้งเวรกรรมตกที่ลูกองค์ภาคือตาย