ฝัง
- เผยแพร่เมื่อ 25 มี.ค. 2018
- ทำบุญปล่อยสัตว์อย่างไรให้ถูกต้องและได้บุญ
ความเชื่อกับการทำบุญปล่อยสัตว์ลงแม่น้ำ
ก่อนปล่อยปลา ควรคำนึงถึงอะไรบ้าง
ถ้าปล่อยปลาเล็กลงแม่น้ำ ปลาจะเอาชีวิตรอดได้หรือไม่
ติดตามได้ในรู้เท่ารู้ทัน วันอังคารที่ 27 มีนาคมนี้ เวลา 07.00 - 07.30 น. ทางไทยพีบีเอส รับชมทีวีออนไลน์ทาง www.thaipbs.or.th/Live
-------------------------------------------------------
กด Subscribe
ติดตามรายการดีๆของช่อง ได้ที่ : goo.gl/hdy2ye
และ ติดตามไทยพีบีเอสออนไลน์ ได้ที่
Website : www.thaipbs.or.th
Facebook : www. ThaiPBSFan
Twitter : / thaipbs
Instagram : / thaipbs
Google Plus : www.thaipbs.or.th/GooglePlus
LINE : @ThaiPBS
TH-cam : / thaipbs - บันเทิง
![Animals Speak [by Mahidol] ปล่อยสัตว์แบบไหนไม่ให้บาป](http://i.ytimg.com/vi/ycYf0VZtBeg/mqdefault.jpg)
![[UNCUT] “เชื่อมจิต” ใกล้จนมุม อนันต์ชัยเปิดตัวละครลับ เตรียมล้างบาง I คนดังนั่งเคลียร์ l 2 ก.ค.67](http://i.ytimg.com/vi/jeOwG0vt114/mqdefault.jpg)
![[UNCUT] ฝันรักห้วงนิทรา | EP.9 (3/4)](http://i.ytimg.com/vi/ikd1tEhXbp8/mqdefault.jpg)
ขอบคุณมากค่ะ ดีมากเลยค่ะ
สาธุค่ะ
ทีหลังมาถามบ่อย ๆ ดี ๆ สาธุครับ ชอบ ๆ
สาธุครับ
อนุโมทนาสาธุครับ
สาธุครับ🙏👍++👍🌝
สาธุสาธุสาธุ
สาธุสาธุสาธุสาธุสาธุสาธุครับ
เป็นตัวอย่างที่ดี..ล่ะชีวิต.ปํญหาลด
พระอาจารย์ชื่ออะไร จำอยู่วัดไหนค่ะ
เป็นชาวพุทธจะเชื่อใครดีละ จะเชื่อพระพุทธเจ้า หรือจะเชื่อปุถุชน ชาวพุทธผู้ที่ไม่เคยสะดับในคำสอนของพระพุทธเจ้า เขาจะไม่มีความมั่นคงในพระพุทธเจ้า เขาจะไม่เชื่อว่าพระพุทธเจ้าตรัสรู้จริง แม้จะเชื่อว่าตรัสรู้จริง แต่เขายังวิ่งไปเชื่อคนโน้นคนนี้ ไปทำพิธีต่างๆ ไปเชื่อดูหมอดู ทำนายทายทัก ไปเชื่อคนที่เป็นแค่ปุถุชน บอกให้ไปทำบุญแบบนั้นแบบนี้ เวลามีคนไม่เชื่อคนเหล่านั้นก็ชอบประดิษฐ์วาทะให้คนสับสน เช่น ไม่เชื่ออย่าลบลู่ แต่ไม่เคยเชื่อพระพุทธเจ้าที่พระองค์ตรัสว่า ทำทานให้สัตว์เดรัจฉาน พันครั้งไม่เท่าให้คนผู้ทุศีลแค่ครั้งเดียว ให้กับคนทุศีลพันครั้งไม่เท่าให้กับผู้มีศีลครั้งเดียว...แล้วตรัสต่อมาจนถึงให้กับพระพุทธเจ้า ไม่เท่ากับคุณมีศีล5 บริบรูณ์ การมีศีล5 ไม่เท่ากับการทำสมถะ-วิปัสนา และพระองค์ตรัสอีกว่า กรรมไม่ได้เกิดจากผู้อื่นบันดาล ไม่มีสมณะ พราหมณ์ เทพ มาร พรม หรือใครๆในโลกมาบันดาลให้ใครดีเลวได้ การทำทานที่ได้ทั้งบุญใหญ่ และอนิสงฆ์ใหญ่ คือ การให้ทานโดยละความตระหนี่อันเป็นมลทิน การจับสัตว์มาขังเพื่อขายแล้วให้คนมาซื้อไปปล่อยอีกทีไม่ใช่บุญ แต่คือการผิดศีลข้อ1 การฆ่าสัตว์ เบียดเบียนสัตว์ ศีลโรงเรียนก็สอนกันจัง แต่เอาแต่หัวข้อมา ไม่เอามาเต็มๆ การเบียดเบียนสัตว์ ก็ผิดศีล หรือศีลข้อ3 ไม่ใช่แค่ไปเป็นชู้ แต่รวมถึง ไปมีสัมพันธ์กับผู้หญิงที่เขาหมั้นหมายไว้ , ผู้หญิงที่พ่อแม่เขายังเลี้ยงดูอยู่ (ลูกสาวที่พ่อแม่เขายังสั่งเสียเล่าเรียนอยู่ ในความอุปการะอยู่,ยังไม่บรรลุนิติภาวะ) ถ้าไปยุ่ง ไปมีเพศสัมพันธ์ก่อนในเวลาอันควร ก็ผิดศีลข้อ3 คนส่วนใหญ่ในประเทศไทยอ้างว่านับถือศาสนาพุทธ แต่ไม่รู้เลยว่าศาสนาพุทธสอนอะไร พระพุทธเจ้าสอนอะไร โรงเรียนก็สอนแค่กระพี้ สอนแค่หัวข้อคำสอน แต่รายละเอียดในคำสอนแต่ละข้อไม่เคยเอามาสอน อย่างเรื่องบัว 4 เหล่า พระพุทธเจ้าไม่ได้สอน พระองค์สอนเรื่อง บัว 3 เหล่า ก็ไม่รู้ว่าใครบังอาจคิดว่าตัวเองเก่งกว่าพระพุทธเจ้า เลยต้องมาเสริมเติมแต่งเพิ่มหัวข้อเข้าไป แล้วก็หาตัวตนมันไม่ได้ด้วยนะว่าใคร นี่แค่เรื่องนิดเดียวที่ชาวพุทธไปเชื่อคำสอนคนอื่นที่สอดไส้เข้าไปในคำสอนในศาสนาพุทธ ยังมีอีกมากมายที่ไม่ใช่พุทธศาสนา เช่น การรดน้ำมนต์ พรมน้ำมนต์ ปลูกเสก บวงสรวง ทำยันต์กันผีบ้านเรือน ฯลฯ มากมายที่พระพุทธเจ้าตรัสว่าเป็นเดรัจฉานวิชา ห้ามสงฆ์ทำ เพราะนี่ก็เป็นศีลประการหนึ่ง แต่ทุกวันนี้พระทำเต็มไปหมด
ตามแต่ท้องถิ่นครับ เพิ่งรู้เหมือนกันว่าปลานิลที่คนภาคกลางนิยมค้าขายส่งออกต่างประเทศ เป็นปลาขนาดเล็ก ปลาที่โตเต็มที่เกล็ดสีเงินตัวกลมๆ มีขนาด 4-5 กิโลกรัม ตามตลาดมีขาย แบบผ่าครึ่งตัว ขนาดจัมโบ้ ตอนแรกผมเห็นก็ไม่รู้จะซื้อมาทำอะไร เนื้อเยอะเหลือเกิน ! เข้าใจว่าเป็นปลาตามบริเวณน้ำตก เพราะหินกรองน้ำให้สะอาดแบบใสๆ น้ำเจ้าพระยาทั้งสายจัดว่าเป็นน้ำสกปรก จากเรือที่มักมีร้ำมันรั่วออกมา
คนไทยมี 60 ล้านคนในประเทศ แล้วก็มีอยู่อเมริกา 10 ล้านคนอยู่ออสเตรเลีย 5 ล้านคน อยู่นิวซีแลนด์ 2-3 ล้านคน และประเทศอื่นๆ ในโลก อีก 42 ล้านคน ผมก็เพิ่งรู้ครับ ! ดังนั้นอาหารแทบจะนานาชาติ เป็นเรื่องจริง คนไทยอีสานแท้ๆ สูญพันธุ์ไป เริ่มแล้วนะครับ
ผมปล่อยปลาหมอในคลองได้ไหม
นอกเรื่องได้มั้ยอะ จิ้นพิธีกรคู่ ห้าๆๆๆ
🍊🍊🍊🍊🍊🍊🍊🍊🍊
เกริ่นนานจังจะรีบดู จะรีบไปซื้อปลาที่ตลาด พูดนานจังโว๊ะ ตลาดก็จะวายพระจะฉันเพลแล้วเนี่บ
ปุ่มกดเร่งก็มีข้ามก็มีทำไมไม่กดล่ะคะ
555
555
"ทำบุญปล่อยสัตว์อย่างไรให้ถูกต้องและได้บุญ" ,
คำว่า "และได้บุญ" มันเป็นส่วนเกิน
พอทำอะไรสักอย่างให้ถูกต้อง มันก็เกิดประโยชน์ของมันแล้ว
ส่วนบุญอะไรนั้น มันไม่ได้มีอยู่จริง, เป็นแค่เรื่องสมมติ/ความเชื่อของคนโบราณ ที่เอามาใช้เพื่อจูงใจให้คนทำความดี (แต่หลายครั้งก็ถูกมิจฉาชีพใช้เป็นเหยื่อล่อให้คนมาติดกับดัก)
ถ้าไม่รู้ว่าบุญคืออะไร อย่าพูดแบบนี้จะดีกว่าครับ เหมือนคนพูดในสิ่งที่ตัวเองไม่รู้ ไม่เข้าใจ และจะทำให้คนเชื่อแบบผิดๆตามไปอีก ถ้าคุณรู้ว่าบุญคืออะไรแน่ชัด ชัดเจน ไม่ใช่คิดเอาเองแบบรู้แบบผิดๆงูๆปลาๆ ไม่เข้าใจแล้วเที่ยวไปบอกคนอื่น อย่างนี้นอกจากไม่เกิดประโยชน์ใดๆทั้งกับตัวเองและผู้อื่น ซ้ำยังเป็นโทษแก่ตัวเองด้วย
ส่วนเรื่องการเชื่อในบุญแบบไม่รู้จริงสักแต่ว่าเชื่อจนถูกพวกมิจฉาชีพมาหลอกล่อ ตรงนี้เห็นด้วยนะ เพราะถ้ามีแต่ศรัทธาแต่ไม่มีปัญญาประกอบ ก็แย่พอๆกับพวกที่ไม่เชื่อ ไม่สนเรื่องบุญ เรื่องกรรมเหมือนกัน ดังนั้นต้องมีทั้งความศรัทธาและปัญญาคู่กัน ต้องรู้จักว่าอะไรคือบุญที่แท้จริง ไปซื้อปลาที่เขาจับมาหน้าวัด กับช่วยชีวิตปลาที่กำลังจะถูกฆ่าจริงๆ หน้าเขียงในตลาดสด มองภายนอกก็แค่เอาไปปล่อยลงน้ำเหมือนกัน แต่มองให้ดี มองด้วยปัญญามันต่างกันคนละเรื่องเลยทีเดียว ตรงนี้แหละบุญ บาป และการกระทำทุกสิ่งมันมีผลสะท้อนกลับมาทั้งสิ้น
อย่างถ้าเราชอบช่วยเหลือสัตว์ที่กำลังจะถูกฆ่า ใจเราสัมผัสได้ถึงความสุขที่ได้ช่วยมัน ตรงนี้คือบุญ ใจที่สว่าง ใจที่เบา ใจที่สบาย คนที่มีใจแบบนี้ใครๆก็อยากเข้าใกล้เพราะรู้สึกสบายใจ ทำอะไรก็มีความสุข และแน่นอนสิ่งดีๆมันก็ตามมาจากใจที่สว่างแบบนี้นี่แหละ คนเราทำทุกสิ่ง หาเงินตัวเป็นเกลียวเพื่อใช้เงินซื้อสิ่งที่เรียกว่าความสุข สำหรับบางคน ต้องได้วัตถุมาเพื่อล่อใจให้คิดไปว่ากำลังได้รับความสุข แต่บางคนมีวิธีที่ทำให้ใจเกิดความสุขได้โดยไม่ต้องใช้วัตถุมาล่อ อย่างการทำบุญ ซึ่งมีมากมายหลายรูปแบบ และความสุขจากการทำบุญที่ถูกต้อง ไม่ใช่การเข้าใจไปผิดๆหรือคนที่งมงายในบุญที่ผิดๆ จะมีความสุขแบบใส เย็น รู้สึกมั่นคง ปลอดภัย ไม่ใช่รู้สึกดีใจแบบสุดๆวูบหนึ่ง เหมือนได้รถคันใหม่ แล้วก็มานั่งคิดถึงเรื่องของแต่งรถ กังวลกลัวรถหาย กังวลว่าสาวที่เราเล็งไว้เขาจะชอบมั้ย เป็นความสุขแบบหลอกๆชั่วคราว พอหายเห่อ หายสุขแล้ว ก็ต้องแสวงหาเครื่องล่อชิ้นใหม่เพื่อให้ได้รับความสุขวูบๆวาบๆแบบนี้อีก
ความสุขแบบคนทั่วไปเป็นความสุขที่หนัก ยิ่งได้มากกลับรู้สึกมีของแถมคือความทุกข์แนบมาด้วย ยิ่งสุขมากเท่าไหร่ของแถมก็ดูจะหนักหน่วงในระดับเดียวกัน เหมือนได้รถราคาแพงก็ยิ่งกลัวรถมีรอย กลัวรถหาย กลัวสารพัดกลัว ต่างจากความสุขในการทำบุญ ยิ่งมาก ยิ่งรู้สึกเบา เหมือนวางของที่เราถือไว้อยู่ลง เราจะรู้สึกสบายตัวขึ้นเรื่อยๆเมื่อเราได้ปลดเปลื้องสิ่งที่มันเกาะติดเราทำให้เรารู้สึกหนัก และของแถมที่เป็นความทุกข์ไม่มีแบบสุขในทางโลก
ความสุขในทางธรรมมันก็ "ชั่วคราว" ไม่ต่างกันครับ
เพราะที่ต้องคอยปฏิบัติธรรม คอยทำบุญอยุ่เรื่อยๆ ก็เพราะความสุขเดิม มันหายไป เลยต้องพยายามทำใหม่ขึ้นมา
... จริงไหมครับ? (ให้เวลาตัวเองในการคิดไตร่ตรอง อย่าพึ่งรีบด่วนตัดสินครับ)
@@failogy คุณไปศึกษาธรรมะของพุทธศาสนาให้เข้าใจถูกต้องจะดีกว่าครับ อย่าเอาความคิดของตนเองเป็นใหญ่ ลดทิฐิมานะ อ่านศึกษาฟังคําสอนของครูบาอาจารย์บ้าง เเละลงมือปฏิบัติด้วย
ถ้าคุณเข้าใจจริงๆคุณจะไม่พูดแบบนี้ค่ะ จะกลายเป็นมิจฉาทิฐิโดยไม่รู้ตัวนะคะ
สาธุค่ะ