ปลายทางสัตว์ป่าเคยถูกเลี้ยง | สพ.ญ. ชญานิศ ประสานวงศ์

แชร์
ฝัง
  • เผยแพร่เมื่อ 17 ม.ค. 2021
  • ปลายทางสัตว์ป่าที่เคยถูกเลี้ยง
    “พฤติกรรมของสัตว์ป่าที่คนเคยเลี้ยงมาก่อน จะสูญเสียพฤติกรรมการล่าและการใช้ชีวิตรอดในธรรมชาติ
    เช่น นากหรือนางอาย ที่เรารับมามากขึ้นเรื่อยๆ จากผู้ที่เคยเลี้ยงโดยผิดกฎหมาย วันนึงเขาจะกัดแน่นอนด้วยสัญชาตญาณของเขา และเมื่อถึงวันที่คุณเลิกเลี้ยงเพราะมันไม่น่ารักเหมือนเดิม การปล่อยเค้ากลับสู่ธรรมชาติไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างที่คิด” สพ.ญ. ชญานิศ ประสานวงศ์ สัตวแพทย์ประจำสถานีเพาะเลี้ยงนกน้ำบางพระ จ.ชลบุรี กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช
    โควิด-19 ย้ำเตือนให้เราต้องทบทวนระยะห่างกับสัตว์ป่า เพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดโรคอุบัติใหม่จากสัตว์สู่คนในอนาคต โดยการวิจัยพบว่า 71% ของโรคติดต่ออุบัติใหม่ในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา ตั้งแต่อีโบลา เมอร์ส ซาร์ส นิปาห์ มีที่มาจากสัตว์ป่า เช่นเดียวกับ โควิด-19 โดยมีปัจจัยเร่งให้เกิดการแพร่ระบาดจากการที่มนุษย์และสัตว์สัมผัสกันใกล้ชิด เช่น กระบวนการค้าสัตว์ป่าจากค่านิยมนำสัตว์ป่าคุ้มครองมาเป็นสัตว์เลี้ยง เช่น นาก นางอาย ค่างแว่นถิ่นใต้ นกเงือก นกเค้าจุด และอื่นๆ เพียงเพราะความเชื่อผิดๆ ว่ามันน่ารัก เสริมบารมี ช่วยไม่ให้สัตว์ป่าสูญพันธุ์ หรือไม่รู้ว่าผิดกฎหมาย
    เหตุผลและความต้องการเหล่านี้ล้วนกระตุ้นการล่าและลักลอบค้าสัตว์ป่าผิดกฎหมาย โดยสัตว์ป่าหลายชนิดมักถูกจับมารวมกันในที่แคบๆ เพื่อเอื้ออำนวยต่อการลักลอบขนส่ง ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงของการแพร่เชื้อโรคจากสัตว์สู่คนได้ง่ายขึ้น
    “โรคอุบัติใหม่ เกิดขึ้นเพราะคนกับสัตว์ป่าใกล้ชิดกันเกินไป โรคจากสัตว์ป่าก็ข้ามมาที่คนเหมือนโควิด-19 ก็อาจเป็นตัวอย่างนึง เราไม่รู้ว่าในธรรมชาติของสัตว์ป่าตัวนั้นมีโรคอะไรอยู่บ้าง คุณจะแน่ใจว่าระหว่างทางที่เขาไปเอามาจากป่า ตั้งแต่ขนส่ง ลงเรือ ขึ้นรถ นั่งเครื่องมา มันไปสัมผัสกับเชื้ออะไรบ้าง แล้วเกิดการวิวัฒนาการระหว่างทาง ก่อนจะมาเป็นโรคที่ติดสู่คนหรือเปล่า ยิ่งเอาสัตว์ป่ามาเลี้ยงใกล้ชิด ต้องถามว่าทำไมเราถึงยังต้องการความเสี่ยงแบบนั้นอีก” สพ.ญ. ชญานิศ กล่าวเพิ่ม
    คิดจะเลี้ยงสัตว์ป่าคุ้มครอง เสี่ยงคุก
    เลี้ยง : คุก 5 ปี หรือปรับ 5 แสนบาท
    ค้า : คุก 10 ปี หรือปรับ 1 ล้านบาท
    พบเห็นการค้าและครอบครองสัตว์ป่าผิดกฎหมาย โทรแจ้ง 1362
    ไม่เลี้ยง ไม่กิน ไม่ล่า ไม่ค้า สัตว์ป่าผิดกฎหมาย
    #ไม่เลี้ยงเพราะรักษ์ #ปกป้องเขาปกป้องเรา #KeepThemWildKeepUsSafe #WildAidThailand #DNP #WildAid
  • บันเทิง

ความคิดเห็น • 1

  • @prayotetgbh1249
    @prayotetgbh1249 3 ปีที่แล้ว

    ขอรบกวนสอบถามนะครับ..ผมต้องการปล่อยเต่าหับโดยจะนำไปให้ที่กรมอุทยานเลยได้มั้ยครับ.คือเต่าหับตัวนี้เจอโดยบังเอิญตอนเปิดประตูบ้านจะทำงานแต่เขานอนอยู่ที่ประตูและสังเกตุเห็นกระดองท้ายเขาแตก.จึงรีบเอาใส่ถุงพาไปตรวจที่รพ.สัตว์ม.เกษตรศาสตร์ ทราบจากทางคุณหมอว่านอกจากกระดองแตกแล้ว.พบไขมันไหลออกจากท้องน่าจะมีแผลกระเพาะฉีก สันนิฐานว่าน่าจะโดนรถทับมาซักระยะนึงแล้วและมีแผลติดเชื้อภายในและขึ้นเชื้อราแล้ว.ส่วนใหญ่จะไม่รอด.แต่ก็ต้องรักษา.โดยหมอนัดทุกๆ3วันให้พาไปล้างแผลฉีดยาโดยรักษาอยู่จนประมาณ3เดือนก็คุณหมอแจ้งว่า.เขาน่าจะรอดตายแล้วเพราะแผลที่กระเพาะไม่มีและเชื้อราหายไปหมดแล้วและเขื้อภายในก็ไม่พบแล้ว..ผมก็เลยตั้งใจจะนำไปปล่อยในธรรมชาติ.แต่คุณหมอบอกว่ากระดองแตกที่ก้นเขาหลุดไป1ชิ้นแล้ว.ยังมีอีกสองชิ้นมันจะค่อยๆหลุดออกไปเอง..ถ้าจะปล่อยควรหาที่ปล่อยที่ไม่มีสัตว์มาทำอันตรายเขาได้เพราะตรงท้ายเขาจะไม่ทักระดองป้องกันแล้ว..ก็จริงครับตอนนี้มีเนื้อโผล่มาเต็มๆเลย.ส่อนกระดองที่แตกอีก2ชิ้นเป็นส่วนที่เหนือ้นื้อที่โผล่ออกมาและอีกชิ้นคือตรงหางเขาที่เป็นส่วนสำคัญ..ผมก็คิดหนักเลย.อย่างนี้จะไปหาที่ไหนที่ไม่มีสัตว์อื่นทำอัตรายเขาได้.เพราะมันก็ทุกที่.เพราะแค่เจอตัวเงินตัวทองก็งับกัดที่ท้ายเขาได้แล้วครับ..ผมก็พยายามหาที่จะปล่อยเขา.จึงได้ค้นหาจนเจอกรมอุทยานนี้ครับ..ขอคำแนะนำด้วยนะครับ..ถ้าผมเอาเขาไปให้ที่ตึกกรมอุทยานเลยได้มั้ยครับ..ถ้าได้ต้องติดต่อที่ตึกอะไรที่รับผิเชอบตรงนี้.หรือมีส่วนแผนกสัตว์แพทย์ในกรมอุทยานมั้ยครับที่จะสามารถนำเข้าไปให้ดูก่อนได้ครับ. ขอบคุณมากนะครับ