ขนาดวิดีโอ: 1280 X 720853 X 480640 X 360
แสดงแผงควบคุมโปรแกรมเล่น
เล่นอัตโนมัติ
เล่นใหม่
บางคนบอกธรรมทั้งปวงเป็นอนัตตา ไม่มีใครปฏิบัติอะไรได้ แล้วแต่เหตุปัจจัย ให้ฟังอย่างเดียว ฟังจนเข้าใจเพราะไม่มีใคร น้อมหรือทำ ให้เกิดสติได้ คือสร้างเหตุปัจจัยเอง ไม่ได้ เพราะธรรมเป็นอนัตตา ความคิดแบบนี้ เพี้ยนมากๆ###ขัดแย้งกับคำสอนขององค์พระพุทธเจ้ามาก พระพุทธองค์สอนให้สร้าง เหตุปัจจัยได้ เช่นคำว่า การไม่ทำบาปทั้งปวง คือให้ หยุด สร้างเหตุ หยุดทำบาปเหมือน องค์ท่านพระองคุลีมาล เป็นต้น คำว่า การทำกุศลให้ถึงพร้อม คำนี้ คือให้ทำ ให้สร้างเหตุ ให้ทำความดีให้ถึงพร้อม คำว่า การทำจิตให้ขาวรอบ คือให้ทำ เพราะว่า ที่เราเกิดมา ก็เพราะอวิชชา ตัณหา พามาเกิด ถ้าเข้าใจว่าอนัตตาเป็นความว่าง แล้วอวิชชา ตัณหา ภพ ชาติ ความทุกข์ มาจากใหน องค์พระพุทธเจ้าสอนให้ละตัณหา สอนให้ทำ###
กำลังสติปัญญา คนเราไม่เท่ากัน ถ้าจะปฏิบัติแบบรู้ ก็สักแต่ว่ารู้ ก็ได้ องค์พระพุทธเจ้า เคยสอนพระพาหิยะ ไว้ แต่ถ้าคนสติน้อยสติไม่มีกำลัง ก็จะทำได้แป๊ปเดียว จิตก็จะฟุ้งซ่านหลงไปในอารมณ์ต่างๆ เป็นบาปเป็นกรรม ###พ่อแม่ครูบาอาจารย์ ถึงให้บริกรรมพุทโธหรือท่องพุทโธๆ ให้ชัดๆ เพื่อให้สติมีกำลัง ไม่เป็นทาสนิวรณ์ธรรม พุทโธเป็นความคิด เป็นสัญญาขันธ์ ไม่ใช่กิเลส คิดพุทโธๆได้ทั้งวันยิ่งดี พอจิตมีสมาธิแล้ว จึงเอาไปพิจารณาขันธ์ห้า มีรูปขันธ์ หรือกายเป็นต้น พิจารณากาย ว่าสกปรกจริงไหม ไม่เที่ยงจริงไหม เป็นทุกข์จริงไหม และอนัตตาควรเห็นว่าไม่ใช่เราจริงไหม ไม่ใช่อนัตตาแปลว่าไม่ต้องทำอะไร###
น้อมกราบสาธุครับ
ขอให้รวยทางโลกและ รวยทางธรรม โดยธรรม นะครับ 🙏🙏🙏
กราบ🥰🙏🙏🙏🥰 เจ้าค่ะ
ขอให้รวยทางโลกและ ทางธรรมโดยธรรม นะครับ🙏🙏🙏
สาธุ🙏🙏
ขอให้รวยทางโลกและ ทางธรรมโดยธรรมนะครับ🙏🙏🙏
ขอเสียง ท่านที่เคยบริกรรมพุทโธๆ แล้วพบความสงบด้วยครับ ช่วยบอกเล่าประสบการณ์ ด้วยครับ
ใจให้อยู่กับกรรมฐาน คือให้ใจอยู่ตรงไหนครับ
ให้อยู่กับพุทโธ หรือลมหายใจเข้าออก หรือนั่งก็รู้ชัดว่านั่ง นอนก็รู้ชัดว่านอน รู้ชัดว่าเดิน รู้ชัดว่ายืน แต่ตรงนี้เน้นพุทโธครับ🙏🙏🙏
@@อุบาสกผู้ใฝ่ธรรมศีลสมาธิปัญญาแ :จะเอาจิตไปตั้งที่พุท-โธ!? แล้วพุท-โธ อยู่ตรงไหนของตัวเราครับ? พระพุทธเจ้าแนะนำสติปัฏฐาน๔ (กาย-เวทนา-จิต-ธรรม) ให้อาศัยกายเป็นดุจยานเป็นเครื่องนำไป(พึ่งตนพึ่งธรรม) การแนะนำให้เน้นที่ คำบริกรรม(พุทโธ) จึงผิดอย่างมหันต์ เพราะนอกจากไปคัดง้างคำสอนของพระองค์ท่าน แล้ว ยังไม่สามารถฝึกจิตให้เกิดสมาธิได้ เพราะจิตจะตกไปในสัญญาขันธ์ทันที.ครับ ดังนั้น คำบริกรรม (พุทโธ,สัมมาอรหัง,ยุบพองฯลฯ ) ซึ่งเป็นสาวกภาษิต ที่ผิดๆเหล่านี้ ต้องตัดออกไปอย่าเอามาอยู่ในสาระบบ ของพุทธศาสนาครับ.
การท่องพุทโธชัดๆ เป็นการเจริญสติ จัดเข้าในส่วนหนึ่งของสติปัฐฐานสี่ ข้อที่ว่า จิตตานุปัสสนาสติปัฐฐาน คือจิตฟุ้งซ่านก็รู้ว่าฟุ้งซ่าน พอพุทโธไป มีปีติเกิดก็รู้ การเจริญสติ องค์สมเด็จพระพุทธองค์สั่งให้เจริญให้มาก กระทำให้มาก ###แต่คนบางกลุ่มบอก ธรรมเป็นอนัตตา เอาอะไรไปปฏิบัติ ไม่มีใครบังคับบัญชาอะไรได้ แล้วทำไม มีคนทำดี ทำชั่วเยอะแยะ ###เท่ากับคนที่คิดแบบนี้ เป็นพวกมิจฉาทิฐฐิเถียงองค์พระพุทธเจ้า ### แล้วอวิชชา ตัณหาอุปาทาน ภพชาติ การเกิดเป็นคน เป็นสัตว์ แล้วทำความดี ความชั่ว เพราะอวิชชาตัณหา เป็นเหตุ มาจากไหน)
แสดงว่าคุณคิดว่า ธรรมเป็นอัตตาใช่หรือไม่?
การท่องพุทธโธ เป็นสติปัฏฐานสี่ตรงไหนครับ? เป็นจิตตานุปัสนา ตรงไหนครับ? ในเมื่อคำบริกรรมนั้นๆเป็นสัญญาขันธ์ ซึ่งพระพุทธเจ้าให้ละทิ้งไป? จิต จึงจะเกิดสติสัมปชัญยะ อยู่ที่กายาคตาสติได้ !
@@User_ub3ts9mh5x สัญญาขันไม่ใช่กิเลส เป็นอัพพยากตาธรรม ไม่ใช่กุศลธรรม และอกุศลธรรม คำว่าพุทโธ จึงใช้เป็นที่ตั้งของสติได้ครับ
@@อุบาสกผู้ใฝ่ธรรมศีลสมาธิปัญญาแ :สัญญาขันธ์มีทั้งเป็นกุศลและเป็นอกุศล แต่ก็ทำให้สร้างภพทั้งนั้น! พระพุทธเจ้าเปรียบ ภพเหมือนมูถ-คูต! "มูถ-คูตแม้นิดเดียวมีกลิ่นเหม็นฉันใด.!สิ่งที่เรียกว่า ภพ ก็ฉันนั้นเหมือนกัน แม้มีปีะมาณน้อย ชั่วลัดนิ้วมือก็ไม่มีคุณอะไรที่พอจะกล่าวได้." ภพ ที่เป็นอกุศลไม่ดีแน่นอนครับ เช่น เคยไปฆ่าสัตว์ตัดชีวิต เคยไปลักทรัพย์เคยประพฤติผิดในกามเคยพูดโกหกเคยดื่มสุราเมรัย. แม้แต่สัญญาที่เป็นกุศล(คำบริกรรมพุทโธบ้าง-สัมมาอรหังบ้าง-พองยุบบ้าง ฯลฯ ) ก็ดีในเบื้องต้น แต่ต้องไปเกิดอีก และผิดหลักความมีสัมมาทิฏฐิที่พระพุทธเจ้าบอกสอนนะครับ !? เราสาวก(แปลว่าผู้ฟัง-ผู้เดินตาม)ต้องทำตามพระศาสดาของเราไม่ใช่หรือครับ?
@@อุบาสกผู้ใฝ่ธรรมศีลสมาธิปัญญาแ :ที่ตั้งสติของพระพุทธเจ้าคือ สติปัฏฐานสี่(กาย,เวทนา,จิต,ธรรม) ครับ ไม่ใช่ให้ไปตั้งที่ คำบริกรรม(พุท-โธ หรือ สัมมา-อรหังหรือ ยุบ-พอง) อะไรนั่น..
#กราบสาธุการ...***ครับ
ขอให้รวยทางโลกและ ทางธรรม โดยธรรมนะครับ🙏🙏🙏
บางคนบอกธรรมทั้งปวงเป็นอนัตตา ไม่มีใครปฏิบัติอะไรได้ แล้วแต่เหตุปัจจัย ให้ฟังอย่างเดียว ฟังจนเข้าใจเพราะไม่มีใคร น้อมหรือทำ ให้เกิดสติได้ คือสร้างเหตุปัจจัยเอง ไม่ได้ เพราะธรรมเป็นอนัตตา ความคิดแบบนี้ เพี้ยนมากๆ###ขัดแย้งกับคำสอนขององค์พระพุทธเจ้ามาก พระพุทธองค์สอนให้สร้าง เหตุปัจจัยได้ เช่นคำว่า การไม่ทำบาปทั้งปวง คือให้ หยุด สร้างเหตุ หยุดทำบาปเหมือน องค์ท่านพระองคุลีมาล เป็นต้น คำว่า การทำกุศลให้ถึงพร้อม คำนี้ คือให้ทำ ให้สร้างเหตุ ให้ทำความดีให้ถึงพร้อม คำว่า การทำจิตให้ขาวรอบ คือให้ทำ เพราะว่า ที่เราเกิดมา ก็เพราะอวิชชา ตัณหา พามาเกิด ถ้าเข้าใจว่าอนัตตาเป็นความว่าง แล้วอวิชชา ตัณหา ภพ ชาติ ความทุกข์ มาจากใหน องค์พระพุทธเจ้าสอนให้ละตัณหา สอนให้ทำ###
กำลังสติปัญญา คนเราไม่เท่ากัน ถ้าจะปฏิบัติแบบรู้ ก็สักแต่ว่ารู้ ก็ได้ องค์พระพุทธเจ้า เคยสอนพระพาหิยะ ไว้ แต่ถ้าคนสติน้อยสติไม่มีกำลัง ก็จะทำได้แป๊ปเดียว จิตก็จะฟุ้งซ่านหลงไปในอารมณ์ต่างๆ เป็นบาปเป็นกรรม ###พ่อแม่ครูบาอาจารย์ ถึงให้บริกรรมพุทโธหรือท่องพุทโธๆ ให้ชัดๆ เพื่อให้สติมีกำลัง ไม่เป็นทาสนิวรณ์ธรรม พุทโธเป็นความคิด เป็นสัญญาขันธ์ ไม่ใช่กิเลส คิดพุทโธๆได้ทั้งวันยิ่งดี พอจิตมีสมาธิแล้ว จึงเอาไปพิจารณาขันธ์ห้า มีรูปขันธ์ หรือกายเป็นต้น พิจารณากาย ว่าสกปรกจริงไหม ไม่เที่ยงจริงไหม เป็นทุกข์จริงไหม และอนัตตาควรเห็นว่าไม่ใช่เราจริงไหม ไม่ใช่อนัตตาแปลว่าไม่ต้องทำอะไร###
น้อมกราบสาธุครับ
ขอให้รวยทางโลกและ รวยทางธรรม โดยธรรม นะครับ 🙏🙏🙏
กราบ🥰🙏🙏🙏🥰 เจ้าค่ะ
ขอให้รวยทางโลกและ ทางธรรมโดยธรรม นะครับ🙏🙏🙏
สาธุ🙏🙏
ขอให้รวยทางโลกและ ทางธรรมโดยธรรมนะครับ🙏🙏🙏
ขอเสียง ท่านที่เคยบริกรรมพุทโธๆ แล้วพบความสงบด้วยครับ ช่วยบอกเล่าประสบการณ์ ด้วยครับ
ใจให้อยู่กับกรรมฐาน คือให้ใจอยู่ตรงไหนครับ
ให้อยู่กับพุทโธ หรือลมหายใจเข้าออก หรือนั่งก็รู้ชัดว่านั่ง นอนก็รู้ชัดว่านอน รู้ชัดว่าเดิน รู้ชัดว่ายืน แต่ตรงนี้เน้นพุทโธครับ🙏🙏🙏
@@อุบาสกผู้ใฝ่ธรรมศีลสมาธิปัญญาแ :จะเอาจิตไปตั้งที่พุท-โธ!? แล้วพุท-โธ อยู่ตรงไหนของตัวเราครับ?
พระพุทธเจ้าแนะนำสติปัฏฐาน๔ (กาย-เวทนา-จิต-ธรรม) ให้อาศัยกายเป็นดุจยานเป็นเครื่องนำไป(พึ่งตนพึ่งธรรม)
การแนะนำให้เน้นที่ คำบริกรรม(พุทโธ) จึงผิดอย่างมหันต์ เพราะนอกจากไปคัดง้างคำสอนของพระองค์ท่าน แล้ว ยังไม่สามารถฝึกจิตให้เกิดสมาธิได้ เพราะจิตจะตกไปในสัญญาขันธ์ทันที.ครับ
ดังนั้น คำบริกรรม (พุทโธ,สัมมาอรหัง,ยุบพองฯลฯ ) ซึ่งเป็นสาวกภาษิต ที่ผิดๆเหล่านี้ ต้องตัดออกไปอย่าเอามาอยู่ในสาระบบ ของพุทธศาสนาครับ.
การท่องพุทโธชัดๆ เป็นการเจริญสติ จัดเข้าในส่วนหนึ่งของสติปัฐฐานสี่ ข้อที่ว่า จิตตานุปัสสนาสติปัฐฐาน คือจิตฟุ้งซ่านก็รู้ว่าฟุ้งซ่าน พอพุทโธไป มีปีติเกิดก็รู้ การเจริญสติ องค์สมเด็จพระพุทธองค์สั่งให้เจริญให้มาก กระทำให้มาก ###แต่คนบางกลุ่มบอก ธรรมเป็นอนัตตา เอาอะไรไปปฏิบัติ ไม่มีใครบังคับบัญชาอะไรได้ แล้วทำไม มีคนทำดี ทำชั่วเยอะแยะ ###เท่ากับคนที่คิดแบบนี้ เป็นพวกมิจฉาทิฐฐิเถียงองค์พระพุทธเจ้า ### แล้วอวิชชา ตัณหาอุปาทาน ภพชาติ การเกิดเป็นคน เป็นสัตว์ แล้วทำความดี ความชั่ว เพราะอวิชชาตัณหา เป็นเหตุ มาจากไหน)
แสดงว่าคุณคิดว่า ธรรมเป็นอัตตาใช่หรือไม่?
การท่องพุทธโธ เป็นสติปัฏฐานสี่ตรงไหนครับ?
เป็นจิตตานุปัสนา ตรงไหนครับ?
ในเมื่อคำบริกรรมนั้นๆเป็นสัญญาขันธ์ ซึ่งพระพุทธเจ้าให้ละทิ้งไป?
จิต จึงจะเกิดสติสัมปชัญยะ อยู่ที่กายาคตาสติได้ !
@@User_ub3ts9mh5x สัญญาขันไม่ใช่กิเลส เป็นอัพพยากตาธรรม ไม่ใช่กุศลธรรม และอกุศลธรรม คำว่าพุทโธ จึงใช้เป็นที่ตั้งของสติได้ครับ
@@อุบาสกผู้ใฝ่ธรรมศีลสมาธิปัญญาแ :สัญญาขันธ์มีทั้งเป็นกุศลและเป็นอกุศล แต่ก็ทำให้สร้างภพทั้งนั้น!
พระพุทธเจ้าเปรียบ ภพเหมือนมูถ-คูต!
"มูถ-คูตแม้นิดเดียวมีกลิ่นเหม็นฉันใด.!สิ่งที่เรียกว่า ภพ ก็ฉันนั้นเหมือนกัน แม้มีปีะมาณน้อย ชั่วลัดนิ้วมือก็ไม่มีคุณอะไรที่พอจะกล่าวได้."
ภพ ที่เป็นอกุศลไม่ดีแน่นอนครับ เช่น เคยไปฆ่าสัตว์ตัดชีวิต เคยไปลักทรัพย์เคยประพฤติผิดในกามเคยพูดโกหกเคยดื่มสุราเมรัย.
แม้แต่สัญญาที่เป็นกุศล(คำบริกรรมพุทโธบ้าง-สัมมาอรหังบ้าง-พองยุบบ้าง ฯลฯ ) ก็ดีในเบื้องต้น แต่ต้องไปเกิดอีก และผิดหลักความมีสัมมาทิฏฐิที่พระพุทธเจ้าบอกสอนนะครับ !?
เราสาวก(แปลว่าผู้ฟัง-ผู้เดินตาม)ต้องทำตามพระศาสดาของเราไม่ใช่หรือครับ?
@@อุบาสกผู้ใฝ่ธรรมศีลสมาธิปัญญาแ :ที่ตั้งสติของพระพุทธเจ้าคือ สติปัฏฐานสี่(กาย,เวทนา,จิต,ธรรม) ครับ
ไม่ใช่ให้ไปตั้งที่ คำบริกรรม(พุท-โธ หรือ สัมมา-อรหังหรือ ยุบ-พอง) อะไรนั่น..
#กราบสาธุการ...***ครับ
ขอให้รวยทางโลกและ ทางธรรม โดยธรรมนะครับ🙏🙏🙏