สักไปก่อนค่อยบอกแม่ | ยกกำลัง
ฝัง
- เผยแพร่เมื่อ 20 ม.ค. 2022
- รายการนี้เรา ไม่อยากให้ทุกคนไปตัดสินอะไรใครจากการกระทำของทุกคนในคลิปครับ เพราะทั้ง 2 ฝ่ายเติบโตมาคนละช่วงเวลา คนละบริบททางสังคม พวกเราเชื่อว่าปัญหา Generation Gap ในครอบครัวจะดีขึ้น ถ้าทุกคนเข้าใจความแตกต่างทางความคิด คงทำให้ทุกคนคิดตรงกันไม่ได้ แต่สามารถพยายามทำเข้าใจว่าทำไมเค้าถึงคิดแบบนั้น
ยกกำลัง Facebook Fan Page:
☛ / yokgamlang
เรารู้สึกไม่ดีตรงที่อิ๋งบอกตอนสุดท้ายว่า ที่ร้องไห้เพราะทำให้พ่อแม่ผิดหวัง เป็นเราคงร้องไห้เพราะเราไม่สามารถมีชีวิตเป็นของตัวเองได้ ทำอะไรตามใจตัวเองไม่ได้ ร่างกายเราเองแท้ๆ อิ๋งเป็นเด็กดีมากๆ แคร์ความรู้สึกพ่อแม่จนแทบจะมากกว่าของตัวเองอีก ฮือออ แต่ก็เข้าใจว่าแต่ละคนไม่เหมือนกัน ถ้าอิ๋งมีความสุขแบบนี้ก็โอเคแล้วค่ะ
gaslighting โคตรๆ
จริงครับ ได้ยินคำนั้น ผมพูดจริง คือผมหดหู่เลยนะ
คือไม่มีสิทธิแม้จะเสียใจในเรื่องของตัวเอง ความเสียใจยังต้องไปผูกโยงกับพ่อแม่ก่อนคิดเรื่องตัวเอง
ผมเคารพคุณอิ๋งว่าเป็นลูกที่น่ารักมากๆเลยนะ แต่มองจากมุมคนนอก สำหรับผมันแอบน่าเศร้ามากกว่า
ตรงใจเลย
@@TheRameNEater ใช่เลยย เห็นด้วยทุกอย่างค่ะ นี่เรากำลังคิดว่าหรือที่อิ๋งพูดแบบนั้นเพราะตัวเองไม่ได้ "อยาก" สักตั้งแต่แรกอยู่แล้ว แค่ทำคอนเท้น(?) ถ้าอิ๋งอยากสักจริงๆ ผลลัพธ์อาจไม่ใช่แบบในคลิปนี้ แต่สุดท้ายในคลิปนี้อิ๋งเป็นลูกที่น่ารักเข้าใจพ่อแม่มากๆ ส่วนพ่อแม่จะเข้าใจลูกหรือเปล่า อันนี้ไม่แน่ใจเลยค่ะ
หดหู่แทนอะค่ะ เห็นด้วยตรงที่ถ้าเป็นเราเราคงร้องไห้เพราะไม่สามารถมีชีวิตเป็นของตัวเอง ไม่ได้ร้องไห้เพราะทำให้พ่อแม่ผิดหวัง
ตายและ คอนเทนนี้คนด่าพ่อแม่อิ๋งมากกว่าเดิมอีก
เอาจริงๆนะ ไม่รู้ว่าคอนเท้นนี้จุดประสงค์คืออะไร ให้เห็นถึง generation gap? ความหัวโบราณของผู้ใหญ่? ความทุกข์ของคนเป็นลูก? เพราะดูมาตั้งแต่ต้นก็คิดว่าตอนจบคงหักมุม แต่พอฟังเหตุผลของพ่อแม่อิ๋งคือเห็นแค่ความเป็นห่วงเรื่องงาน แต่ไม่คิดถึงความสุขของลูกเลย แล้วที่แม่อิ๋งบอกว่าคนสักไม่ใช่คนไม่ดีแต่พอเป็นลูกตัวเองสักกลับไม่พอใจ อารมณ์เดียวกับพ่อแม่ที่บอกว่ายอมรับ lgbt ได้ แต่พอลูกตัวเองเป็นกลับรับไม่ได้อะแหละ กลายเป็นว่าคนดูไม่เข้าใจพ่อแม่อื๋งกว่าเดิมอีก
แล้วถ้าอิ๋งสักใหญ่กว่านี้พ่อแม่อิ๋งคงไม่รีแอคแบบนี้แน่ๆ
จริงค่ะ
พ้อยคือ พ่อเดินออกไปแล้วด้วยครับ ไม่แม้แต่จะคุยหรือพยายามหาเหตุผลมาคุยกับลูก มากกว่าที่จะพูดแค่นั้น อิ๋งแคร์พ่อแม่เยอะมาก แต่พ่อแม่เหมือนแค่พยายามใช้คำว่ารัก กับหวังดีกักขังหรือบงการชีวิตลูก ทั้งๆที่ไม่พยายามเข้าใจหรือพยายามให้ลูกเข้าใจตัวเอง
@@bvstvrd_golff8373 เราถึงได้เม้นไปว่าไม่เข้าใจพ้อยของคลิปเพราะมันทำให้พ่อแม่อิ๋งดูแย่มากกว่า คือตอนอิ๋งโทรหาเจ้นี่ก็นึกว่าพ่อแม่โกรธแต่ตอนจบหักมุม เออ สักมาแล้วทำอะไรไม่ได้ ก็ยอมรับไป แต่อันนี้คือเข้าบ้านปุ๊บคือไม่พอใจใหญ่เลย ขนาดอิ๋งอธิบายว่าคนสักไม่ใช่คนไม่ดี แต่แม่ก็พูดแก้ต่างไปงั้นจริงๆก็คือรับไม่ได้นั่นแหละ
@@AUGUSTUS-if3tz เราก็คิดงี้นะ แต่ไม่อยากเม้น เพราะแค่ที่บ้านไม่เข้าใจก็แย่พอแล้ว แต่คลิปที่ทำมาก็ยังไม่ได้อะไรอีก แถมคนยังมาด่าพ่อแม่ตัวเองในคลิปอีก สงสารอิ๋งมากๆงานนี้
ป๊าม๊าเสียใจเหรอ เราว่าอิ๋งมากกว่าที่เสียใจ เอาอะไรมาเสียใจก่อนอะร่างกายเป็นของอิ๋งนะ ก็เข้าใจว่าคนอายุเยอะเขาจะปิดกั้นแต่ทำไมพวกเขาถึงไม่เคยทำความเข้าใจเด็กๆสักที โลกมันเปลี่ยนแปลง ค่านิยมเปลี่ยนไป แต่ความคิดคนรุ่นก่อนๆจะไม่เปลี่ยนตามหน่อยเหรอ
คอนเท้นนี้ไม่โอเคเลยค่ะ มันไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาอะไรมันแค่นำเสนอประเด็นที่รู้อยู่แล้วให้แย่ขึ้นไปอีก เห็นน้องอิ๋งร้องไห้ เห็นพ่อแม่ด่าน้องอิ๋งคือไม่โอเคเลย ถ้านำเสนอแล้วมีทางแก้ไข หรือนำเสนอแนวทางตรงกลางที่จะเข้าใจระหว่าง 2 เจนได้ค่อยทำและนำเสนอใหม่นะคะ แบบนี้ไม่มีใครที่รู้สึกดีเลย ทีมงานนักแสดงและคนดูรู้สึกแย่ไปเลยค่ะ
เห็นด้วยนะคะ ตอนเราเห็นน้องอิ๋งฝืนยิ้มคือใจแอบเจ็บมากเลยดูรู้ว่าไม่ไหวแล้ว เข้าใจว่าอยากนำเสนอแต่เราว่ามีวิธีการ/คอนเท้นรูปแบบอื่นๆอีกเยอะเลยค่ะ แบบนี้เราว่ามันแอบทำให้ทั้งทีมงานแล้วก็คนดูแบบเรารู้สึกแย่ㅠㅠ
ก็ให้เห็นไงครับว่ามันแย่ ว่ายังมีคนคิดแบบนี้อยู่จริง เราถึงต้องช่วยกันแก้ไข ถ้าคลิปมันแมสอาจจะ/ปถึงหูถึงตาผู้ใหญ่หลายๆคนทำให้เปลี่ยนใจได้ เหมือนโฆษณาที่ให้คติไรงี้
@@user-xg6xg9mi5h เข้าใจค่า แต่โฆษณามันก็ต่างกันตรงที่นักแสดงทุกคนผ่านการเตี๊ยมมาหมดแล้วเล่นไปตามบท แต่นี่มันไม่เหมือนกันตรงที่พ่อแม่เขาไม่ได้รู้ ทำให้เกิดการที่มาใช้คำพูดที่มันtoxicต่อตัวอิ๋งอะค่ะ ต่อให้น้องเต็มใจจะถ่ายแต่ก็แอบห่วงสภาพจิตใจอย่างที่บอกว่าเข้าใจที่เขาอยากจะสื่อแต่มันมีวิธีมากมายเยอะแยะที่จะสื่อได้อะค่ะไม่ใช่มีแค่ทางด้านนี้ซึ่งมันทำให้ทั้งคนดูแล้วก็ทีมงาน(บางคน)รู้สึกแย่ไปด้วย
แม่ดุจัดดดดดด
รายการนี้ เราว่าไม่ค่อยโอ สงสารอิ๋งนะ ต่อให้รายการพยายามจะบอกว่า อย่าไปตัดสินคนเราเกิดคนละเจนอะไรก็เถอะ แต่คนมาดูก็รู้สึกรับไม่ได้ และความเครียดมันจะไปตกที่อิ๋งเอง ที่พ่อแม่ตัวเองถูกตัดสิน ถูกตำหนิ อันนี้จากประสบการณ์ที่มีเพื่อนที่พ่อแม่แปลกๆควบคุมพฤติกรรมลูกแปลกๆ ต่อให้พ่อแม่จะเป็นยังไงลูกก็พยายามปกป้อง เพื่อนเราพยายามไม่ให้เพื่อนรู้ว่าพ่อแม่เป็นแบบนี้ ไม่อยากให้คนอื่นมองพ่อแม่ไม่ดี รู้สึกว่าเพื่อนเราเครียดอยู่นะ อันนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัว ด้วยความเป็นห่วงค่ะ ถ้าผิดถูกยังไงก็ขออภัยด้วยค่ะ
เห็นด้วยค่ะ เข้าใจทั้งสองฝ่ายนะ อิ๋งกลับไปบ้านยังรักกับพ่อแม่ดี ในอนาคตพ่อแม่อาจจะผ่อนคลายกว่านี้ก็ได้ แต่คนก็วิจารณ์พ่อแม่ไปแล้ว ไม่รู้ว่าที่อิ๋งขอพ่อแม่แล้วตอนต้นคลิปนี่หมายถึงเรื่องคอมเม้นด้วยมั้ย เพราะแต่ละคนก็เติบโตมาจากต่างครอบครัวอะเนอะ เป็นห่วงว่าอาจจะต้องรับมือกับเรื่องนี้หน่อย
อีกอย่างนึงเราคิดว่ามันเกือบจะสร้างภาพลักษณ์คนเจนเจนนึงให้ดูเป็นแบบนี้ด้วยอ่ะค่ะ มีคนเจนนี้อีกเยอะมากที่เปิดใจมากๆเหมือนกัน ตัวอย่างเรายกง่ายๆคือแม่พี่จอร์จเลยค่ะ
มันคือรายการค่ะ สิ่งที่อิ๋งทำคือการสร้างคอนเทนท์และได้เงิน เขายอมรับความเครียดแลกมาด้วยการทำเงินทางยูทูปก็วินๆนะคะ แล้วรายการนี้ถือว่าเป็นรายการที่ทำให้คนเปิดมุมมองที่จะทำตามใจที่ตนรัก ให้ลุกขึ้นสู้ด้วยตนเองโดยไม่มีผู้ปกครองมากีดกั้นทางความคิด
เขาเลือกจะทำเองไม่ได้มีใครบังคับ
อันนี้ขออนุญาตแสดงความเห็นหน่อยนะคะ พ่อแม่ถูกปลูกฝังมา ใช่ค่ะ ถูกปลูกฝังมาแต่สิ่งที่ถูกปลูกฝังมา ต้องถูกพัฒนาไปตามกระแสและยุคด้วยค่ะ ไม่ควรเอาสิ่งที่ปลูกฝังโดยไม่ผ่านการพัฒนาส่งต่อไป next generation
เราเคยถูกพ่อแม่กดดันคล้ายๆแบบนี้มาก่อน แต่เราพิสูจน์ตัวเองว่า อยู่คนเดียวได้ โตแล้ว คิดได้แล้ว เป็นห่วงได้แต่มาบงการไม่ได้ ถ้าพ่อแม่เราเสนอความคิดอะไรมาแล้วไม่ถูกกับเรา มันขัดกับเรา เราเลือกที่จะเงียบแล้วทำให้เขาเห็นว่ามันเป็นแบบที่เขาพูดจริงไหม บางทีต้องหักดิบค่ะ เพราะเขาจะคิดว่า สิ่งที่คิดคือถูกต้องเสมอ เราไม่รู้ว่าอิ๋งอึดอัดหรือพอใจกับการเป็นแบบนี้ไหม แต่เราขอเสนอในมุมมองของเด็กที่เป็นไข่ในหินและถีบตัวเองออกจากไข่นั้นแล้วใช้ชีวิตโดยให้เขา moniter เราอยู่ห่างๆค่ะ
เห็นด้วยครับ
ผมคิดว่าเจนแก๊บมันกว้างเกินไปจะหาจุดกึ่งกลาง ในบางเรื่องก็อาจจะพอได้ แต่ถ้าทุกเรื่องคงไม่ได้แล้วแหละ พ้อยท์ของพ่ออิ๋งคือฟังคนสักบ่นรู้แบบนี้ไม่น่าสัก ต้องใส่เสื้อแขนยาวเพื่อปกปิดรอยสัก แต่เอาจริงๆสักในร่มผ้าก็ไม่ได้ ลายสักดอกนิดเดียวม๊าก็บอกไม่ได้ เหตุผลข้างต้นมันไม่ซัพพอร์ทกับสิ่งที่ป๊าม๊าห้าม อันนี้คือการห้ามเพียวๆจากมุมมองของป๊าม๊า ลึกๆแล้วเขาตัดสินในใจไปแล้วว่ามันดีหรือไม่ดี ป๊าม๊าบอกไม่เคารพป๊าม๊า แต่ป๊าม๊าก็ไม่เคารพในการตัดสินใจของอิ๋งเหมือนกัน ป๊าม๊าเสียใจ อิ๋งก็เสียใจ สุดท้ายนี้ปําม๊ามีลูกที่ดีครับ แต่ดีสำหรับป๊าม๊า ดีกับตัวเขาไหมผมก็คงบอกไม่ได้
อันนี้คือเราเห็นด้วยมากๆค่ะ +ล้าน
เห็นด้วยกับเม้นนี้ค่ะ
จริงมากค่ะㅜㅡㅜ
จริง คนสักที่ไม่บ่นแล้วมีความสุขก็เยอะแย่ แต่กรอกหู ลูกว่าไม่ดีเพราะเจอคนสักที่รู้สึกว่าไม่ดีบอกว่าไม่ดี โคตรแย่เลย
ร่างกายของลูก ชีวิตของลูก ให้เขาเลือกเองเถอะครับ
อย่าเอาความไม่ชอบของตัวเองมากลายเป็นความเห็นแก่ตัวเลยครับ
.
ต้องรอให้พ่อแม่จากไปก่อนเหรอ เราถึงจะได้ใช้ชีวิตตัวเองจริงๆ
.
แล้วยิ่งคนหัวโบราณคือ fixed mindset ไปแล้ว ไม่ยอมรับการพัฒนาการเปลี่ยนแปลง เอาวัยวุฒิเป็นที่ตั้ง ชั้นแก่กว่า ชั้นเหนือกว่า แกต้องฟังชั้น
ท้ายคลิปบอกว่า คนสักไม่ใช่คนไม่ดี แต่พอเป็นลูกตัวเองแล้วจะเป็นจะตายกันทั้งบ้าน มันก็ดูย้อนแย้งดีครับ
จริงค่ะอันนี้เราเห็นด้วยมากๆ
อารมณ์คล้ายๆ ยอมรับ LGBT+ บ้านอื่น แต่ลูกตัวเองห้ามเป็นนะ
เห็นด้วยค่ะ
@@beastswindler อันนี้เห็นบ่อยและรู้สึกเจ็บปวดมากค่ะ สุดท้ายมันคือการยอมรับแค่ผิวเผิน ยอมรับเพราะว่าไม่ได้เกิดขึ้นกับครอบครัวตัวเอง ยอมรับแค่ให้ตัวเองดูเป็นคนดี แต่ใจลึกๆก็แปะป้ายไว้แล้วว่าคนที่เป็น LGBTQ+ แปลกแยก เลยไม่อยากให้ลูกตัวเองเป็น
ในเคสนี้พ่อแม่ก็ไม่ได้โหดขนากนั้นนะครับ ถ้าอิ๋งมีความแน่วแน่ที่จะสักจริงๆแล้วกล้าๆหน่อยก็ต้องคุยกับพ่อแม่ด้วยเหตุผลที่หนักแน่นกว่านี้
สงสารคุณอิ๋งอ่ะ พ่อกับแม่คุณอิ๋งไม่แฟร์เลยไม่เคารพร่างกายและการตัดสินใจของลูกเลย คุณอิ๋งไม่ต้องกลัวพ่อกับแม่ผิดหวังหรอกค่ะ คุณอิ๋งเป็นคนดีมากก เค้าควรภูมิใจที่ลูกดี ไม่ใช่ภูมิใจที่ลูกหัวอ่อน แล้วถ้าเค้าตายไป ลูกที่หัวอ่อนของเค้าจะอยู่ในสังคมยังไง
ปล. ระวังความขี้กลัว จะทำให้ self esteem ต่ำได้นะคะ ทั้งที่ คุณอิ๋ง เป็นคนสวย น่ารัก อ่อนหวาน และเป็นคนดีมากพอ สู้ๆคะ
@@user-ge1es5nx9g เข้าใจค่ะ การห้ามไม่ใช่เรื่องผิด แต่ควรบอกเหตุผลว่าพ่อแม่คิดยังไง และถามเหตผลลูก ไม่ใช่การขู่ลูกว่าพ่อแม่จะเสียใจนะถ้าทำ พ่อแม่จะโกรธมากนะถ้าไม่เชื่อ มันคือการปิดกั้นความคิดความอ่านของลูกเกินไปค่ะ ทำให้ลูกขี้กลัว ไม่กล้าคิดไม่กล้าตัดสินใจเอง
ปล. เราไม่ได้มีเจตนาจะว่าคุณพ่อคุณแม่คุณอิ๋งนะ เพราะถ้าท่านทั้งสองไม่ใช่พ่อแม่ที่ดี คุณอิ๋งก็คงไม่น่ารักขนาดนี้ แต่เราไม่อยากให้พ่อแม่ครอบงำลูก ด้วยการเอาความรักความภูมิใจเสียใจมาต่อรอง ในเรื่องยิบย่อยเลย ลูกคนนึงเจ็บปวดมากนะคะ ที่เอะอะ ก็โดนต่อรองแบบนี้
การเป็นคนขาดความมั่นใจ (self confident ต่ำ) ไม่น่ากลัว เท่าเป็นคนที่รู้สึกว่าตัวเองดีไม่พอ ( self esteem ต่ำ) ชั้นจะเป็นคนดีก็ต่อเมื่อ... แต่ถ้าผิดเงื่อนไข ก็คือชั้นผิดชั้นไม่ดี คนที่เป็นซึมเศร้าก็มักจะมาจากคนประเภทนี้เนี่ยแหละค่ะ
@@user-ge1es5nx9g บอกเหตผล หลังจากขู่สารพัด คุณแม่ยังคงกล่าวโทษคุณอิ๋งว่า ไม่เคารพพ่อแม่ ให้ไปนั่งห่างๆ
ควรให้เหตผลตั้งแต่ โทรขอแล้วมั้ยคะ แล้วให้เค้าเลือกเอง
@@keng4594 เห็นด้วยกับเม้นของคุณมากๆ ควรคุย ไม่ใช่ขู่
@@user-ge1es5nx9g เราก็เข้าใจเหตุผลนี้นะคะ แต่เราว่าไม่ควรใช้เหตุผลนี้ในการห้ามไม่ให้ลูกไปสัก จากในคลิปมันดูเหมือนขู่มากกว่าใช้เหตุผล และควรจะใช้เหตุผลนี้ในการซัพพอร์ตไปในทางที่ว่าให้คิดดีๆก่อนสักมากกว่า เพราะสุดท้ายแล้วต่อให้ใครคนนึงสักไปแล้วเกิดเสียใจจริงๆ อันนั้นก็เป็นสิ่งที่เจ้าตัวจะต้องรับผิดชอบเอง (สมัยนี้ก็มีเทคโนโลยีที่ลบออกได้) ทั้งนี้เราว่าพ่อแม่ก็เป็นห่วงเกินไปบวกกับยังไม่พร้อมเปิดรับอีกฝ่ายมากพอ
@@user-ge1es5nx9g สักได้ถ้าไม่พอใจก็ลบค่ะร่างกายเป็นของเรา
ฟังแล้วไม่โอเคเลยที่แม่บอกว่าคุยกันแล้วทั้งที่การคุยมันคือเขาห้ามอย่างเดียว แต่เราอยู่ในฐานะลูกและอยู่ในฐานะผู้ปกครองของน้องเหมือนกัน ดูคลิปนี้ก็คิดอะไรได้มากขึ้น บางครั้งเราก็จะใช้อารมณ์ในการควบคุมเขาไปก่อนทั้งที่จะบอกเหตุผลดีๆคุยกันดีๆก่อนก็ได้ปะ5555 จากนี้ก็จะพยายามนึกถึงความรู้สึกและเอาใจใส่น้องมากกว่านี้เพราะไม่อยากให้เขารู้สึกว่าพี่สาวตัวเองไม่เข้าใจไม่เข้าข้าง เพราะอยากให้เขาทำอะไรแล้วมาบอกมาคุยจะได้แนะนำดีกว่าแอบทำ แล้วก็เห็นใจอิ๋งนะคะแต่เราคิดว่าอิ๋งรู้ว่าครอบครัวตัวเองเป็นยังไงและรู้ว่าจริงๆเขาก็เป็นห่วงในแบบของผู้ใหญ่ที่ยังแสดงออกมาไม่ค่อยดี
ปล. ระวังคอนเท้นท์แนวแกล้งๆจะไปทำให้ทะเลาะกันจริงนะคะ ห่วงงงงงงงงงง แค่ดูคลิปก็กลัวแทนแล้ววว
เห็นด้วยค่ะ ในคลิปคือแอบตกใจเหมือนกันที่ครอบครัวไม่แลกเปลี่ยนไม่ฟังความเห็นกันเลย คลิปแบบนี้คนที่ดูแย่สุดคือพ่อแม่ครอบครัวเขา
พ่อแม่บอกว่าไม่เคารพพ่อแม่ แต่ก็ควรเคารพในตัวลูกบ้างนะคะ อยากให้เข้าใจในยุคสมัย เราอยู่ในเจนนี้เราคิดเสมอ มีสติตลอดว่าเรากำลังทำอะไรอยู่ บางทีมีโอกาสดีๆมาแล้วมาปรึกษาแต่พ่อแม่ห้ามไว้เราจะรู้สึกเสียใจไปตลอดเลยนะคะ พ่อกับแม่ไม่ได้อยูากับเราไปตลอด มีแต่ตัวเราเองที่อยู่ไปตลอดค่ะ
ถูกต้องครับ
เราไม่ควรใช้ชีวิตบนความรู้สึกคนอื่นมากนัก เอาให้พอควร สมเหตุสมผล ถ้าเราต้องไม่ทำในทุกสิ่งที่ทุกคนไม่ชอบ เหตุเพราะเรารักเค้า ถ้าเรามีคนที่เรารักมากซัก 20 คน พี่ว่าชีวิตเราคงไม่ต้องทำอะไรเลย เพราะทุกอย่างที่เราทำคงมีคนไม่ชอบโน้น ชอบนี้เยอะเลย และเราจะดำเนินชีวิตยังไง เข้าใจเรื่องความหวังดีที่คุณพ่อพูด แต่การหวังดีต้องถามผู้รับเสมอว่าเค้าอยากได้หรือเปล่า เช่นไม่อยากให้ลูกไปทำงานเลย ไม่อยากให้มีแฟน ไม่อยากให้คบเพื่อนคนโน้น คนนี้ เพียงเพราะเค้าไม่ชอบ แล้วเคยถามเราหรือเปล่าว่าเราชอบอะไร คุณพ่อ และคุณแม่ทุกๆคนมักจะพูดเสมอว่ารักลูกจะทำทุกอย่างเพื่อลูกของเราที่เรารักที่สุด และถ้าสิ่งที่เค้าทำเพราะความรัก แต่กลับทำให้ลูกเป็นทุกข์ละ คุณไม่อยากให้ทำในสิ่งที่คุณไม่ชอบ สรุปเรารักลูกหรือเรารักตัวเอง ตรงนี้ต้องคิดดีๆ เพราะคนเราเรียนรู้จากความผิดพลาด ถ้าไม่เคยผิดพลาดอะไรเลย มีแต่คนทำให้ ช่วยคิดให้ ตัดสินใจให้ และวันนึงคนๆนั้นไม่อยู่แล้ว ลูกจะอยู่ได้อย่างไร
พ่อแม่ที่ใช้เหตุผลขัดขวางความสุขของลูกนี่นะ ถ้าอย่างเหตุผลเรื่องการงานอะไรพวกนี้ขนาดบอกว่าสักใต้ร่มผ้าแล้วแท้ๆยังไม่เปิดใจ อาจจะด้วยเวลาด้วยก็ได้กระทันหันไปอาจจะตั้งตัวไม่ทัน แต่ไม่อยากให้พ่อแม่มีชุดความคิดกับลูกแบบนี้จริงๆนะไม่ใช่แค่เรื่องสักในคลิปนี้แต่คลิปก่อนๆหน้านี้ เราตัดสินจากแค่ที่เห็นในคลิปไม่ได้หรอกว่าพ่อแม่ของคุณเป็นคนยังไง แต่ที่เราเห็นคือสุดท้ายลูกจะระแวงกังวลและเสียใจกับการกระทำต่างๆซึ่งบางครั้งมันไม่ได้ผิดอะไร เราอยากให้พ่อแม่ลองเปิดใจเรียนรู้ลูกตัวเองเยอะๆโดยที่ลดความเป็นตัวตนของตัวเองลงบ้าง ลองหยุดคิดที่จะให้เขาทำหรือไม่ทำอะไร เมื่อเขาเป็นผู้ใหญ่แล้วเขามีสินตัดสินใจในตัวเองพ่อแม่ควรให้คำแนะนำและคอยโอบรับความรู้สึกของลูกมากกว่า เราก็เป็นที่โดนตีกรอบมาตลอดพอเราเริ่มลองทำอะไรใหม่ๆแล้วมีความสุขกับมันสุดท้ายเราก็มากลัวมากังวลแล้วก็กลับไปสู่วังวนของความรู้สึกแย่ในชีวิตอีก เราจะบอกว่าเข้าใจมากๆค่ะ แต่ก็อยากให้พ่อแม่หรือคนในครอบครัวเข้าใจด้วยเพราะของเราก็เป็นกรณีแบบนี้สุดท้ายครอบครัวเราก็แตกกันไป แค่อยากให้พ่อแม่ลองลดอารมณ์ลงแล้วคิดถึงความรู้สึกของลูกบ้างก็คงจะดี คงไม่มีใครที่ชอบความรู้สึกที่โดนตีกรอบชีวิตตัวเองหรอกค่ะ
ผมอ่ะ 38 แล้ว ยิ่งกว่าถูกตีกรอบ ผับบารไม่เคยเข้า เหล้าเบียร ก็กินไม่ได้ กลับบ้านก็ห้ามเกิน 2 ทุ่ม ถ้าเรื่องไหน ทำแล้วรู้ตัวว่าโดนบ่น เลี่ยงได้ผมจะเลี่ยง เพราะ พ่อ แม่ มักบ่นเรื่องใหม่แล้วย้อนไปเรื่องเก่า ยิ่งถ้าเราพูดตอบ จะหาว่าเถียงอีก ทะเลาะกันป่าว ๆ ปี้ ๆ ไม่มีลูกคนไหนอยากฟังหรอก พ่อแม่อิ๋ง ก็แค่ ห้ามในแบบ หัวโบราณ ไม่ได้ห้ามความสุข แบบดูหนัง ฟังเพลง กิน เที่ยว ซะหน่อย ความสุขมันไม่ได้มีอย่างเดียวในชีวิตนะ เราก็ทำได้ตอนมีลูกนั่นแหละ เปิดใจแบบสมัยใหม่
@@siraphop43 คุณก็คือไข่ในหินนั่นแหละครับ ผมไฟต์กับแม่ตั้งแต่อายุ 18 ตอนจะเข้ามหาลัย เพื่อให้ผมได้ใช้ชีวิตเป็นของตัวเอง และยุคสมัยมันเปลี่ยนไปแล้วครับ ชุดความคิดเก่าๆมันเอามาใช้กับยุคปัจจุบันไม่ได้
@@siraphop43 หายใจมา 38 ปี เคยได้ใช้ชีวิตซักนาทีรึยังอ่ะคะ…
@@fearnes.5272 ใครที่มีโอกาสทำตามใจตามฝันออกจากกรอบ ผมก็ดีใจด้วยครับ สำหรับผม แค่กินอิ่มนอนหลับ ไม่มีทุกข์ ไม่มีหนี้ ไม่มีโรค มีครอบครัวเป็นเกาะป้องกัน ขนาดนี้แล้วยังต้องการอะไรอีก แค่นี้ผมก็สุขใจแล้วครับ
@@siraphop43 เสียใจด้วยนะคะที่ต้องใช้ชีวิตแบบถูกกักขังให้พอใจกับแค่เศษของที่คนปกติควรจะได้ 🥺🥺 ว่าแต่ เกราะ ใน context ที่คุณจะใช้มี ร.เรือ ด้วยค่ะ
รายการนี้ real จริง นับถือใจของอิ้งที่ทั้งเสียสละแชร์เรื่องส่วนตัวและกล้าที่จะลองข้ามสิ่งที่กลัว (ไม่ว่าจะสำเร็จหรือไม่) ที่สำคัญคือได้ลองทำแล้ว นี่เป็นรายการในช่องยกกำลังที่ชอบที่สุด ลุ้นแทน เป็นกำลังใจให้ทำต่อไปนะครับ ปล. ชื่นชมที่อิ้งบอกว่ามีน้ำตาไม่ใช่เพราะว่ากลัวครอบครัวดุ แต่เสียใจที่ทำให้ครอบครัวเครียดมากกว่า อิ้งเป็นคนที่น่าชื่นชมนะครับ กดกระดิ่งรอ ep ต่อไปครับ
ชื่นชมคอนเทนต์ของช่องตลอดนะครับ แต่อันนี้คือไม่ได้จริง ๆ ดูจบแล้วก็ไม่ได้ประโยชน์อะไรเลยนอกจากความรู้สึกแย่ต่อตัวพ่อแม่อิ๋งเอง ซึ่งอิ๋งคงไม่อยากให้เกิดขึ้นแน่ ๆ แต่ในเมื่อปัจจุบันโลกมันหมุนไปไกลแล้ว และคนก็ตระหนักเรื่องสิทธิของตนมากขึ้น มันเลยเลี่ยงไม่ได้ที่จะรู้สึกแปลก ๆ กับความคิดของพ่อแม่อิ๋ง พ่อแม่ให้กำเนิดเลี้ยงดูเรามาก็จริง แต่ไม่มีสิทธิ์ที่จะมากำหนดชีวิตลูก เพียงเพราะความสบายใจของตน
challenge แบบนี้ไม่ดีเลย สงสารอิ๋งเลยอ่ะ ตอนโทรหาพ่อแม่ ตอนแม่โทรมาคือรู้สึกได้เลยว่าแย่แน่ๆแล้ว กลับไปบ้านหลังกล้องจะโดนไรก็ไม่รู้ คงรู้สึกแย่มากแน่ๆ แต่เราไม่รู้จักครอบครัวของเขาเน๊อะ ตัดสินอะไรมากไม่ได้ แต่พ่อแม่ก็ควรบอกกับลูกดีๆไหมว่าทำไมไม่ได้ ไม่ใช่ว่า เพราะฉันไม่ชอบเธอเลยห้ามทำ (+อารมณ์ส่วนตัว) อย่างพ่อควรจะบอกว่าถ้าสักแล้วจะไม่เสียใจทีหลังนะ ไม่ใช่เพราะเอาประสบการณ์แค่ลูกน้องในที่ทำงานมาตัดสินลูกตัวเอง เข้าใจเลยว่าทำไมอิ๋งดูเป็นคนที่ไม่ค่อยมั่นใจในตัวเอง สุดท้ายอิ๋งคงรู้แหละว่าจะโดนอะไรถ้าสักจริงๆ เลยไม่ได้ทำ
เหมือนสุดท้ายแล้ว เราก็ยังต้องถูกคนที่เราเรียกว่า "พ่อกับแม่" กดเอาไว้เหมือนเดิมแหละค่ะ สถานการณ์บ้านคุณอิ๋งมันเป็นแบบนั้นมากๆ ยิ่งได้ยินบอกเป็นครอบครัวข้าราชการมันยิ่งรู้สึกแบบ สุดท้ายเหตุผลจริงๆที่ไม่อยากให้ทำมันคืออะไรกันแน่ เป็นห่วง? กลัวเป็นขี้ปากคนอื่น? กลัวลูกรับราชการไม่ได้เพราะสัก? หรือ กลัวตัวเองเสียไปด้วย? บอกเราไม่เคารพพ่อแม่แล้วพ่อแม่ได้เคารพการตัดสินใจของเราบ้างไหม การสักมันไม่ใช่อะไรที่จะปุ๊ปปั๊ปทำได้เลยนะ
ไม่รู้สิ เราไม่ได้อะไรจากคลิปนี้เลยค่ะนอกจากมุมมองของพ่อแม่ที่พยายามกดลูกให้อยู่ในกรอบของสังคมคนยุคเก่าที่การทำอะไรแปลกใหม่เป็นเรื่องที่ "ผิด"
ส่วนตัวรู้สึกว่ารายการยังไม่สามารถแสดงให้เห็นถึงการเข้าใจความแตกต่างทางความคิดของคนต่าง generation ได้ค่ะ อาจจะเพราะว่าเป็น EP แรก สำหรับเรา เรามองว่าเรื่องสักเป็นเรื่องของความชอบส่วนตัวและความสุขส่วนตัว เมื่อไหร่ที่มันเป็นความสุข การถูกห้ามโดยที่ยังไม่ได้ฟัง หรืออธิบายเหตุผล มันไม่โอเคเลย เรามองว่าคุณอิ๋งยังไม่ได้อธิบายเหตุผลที่ตนเองอยากไปสัก หรือ มุมมองทางความคิดต่อการสักให้คุณพ่อคุณแม่ได้ฟังซักเท่าไหร่ เราว่าถ้าได้อธิบายทั้งสองฝ่าย ทั้งข้อดีข้อเสียที่แต่ละฝ่ายคิด น่าจะตรงจุดประสงค์รายการมากขึ้น แต่ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการยกประเด็นนี้ขึ้นมาพูดในสื่อsocial ค่ะ
*เพิ่มเติมคือ ปัจจุบัน มีการเลเซ่อลบรอยสักได้แล้วนะคะ หรือหากไม่พอใจกับลายที่เคยสัก ร้านสักหลายๆร้านก้รับแก้ลาย ต่อเติม หรือ cover up รอยสักเดิมได้แล้วค่ะ นอกจากนี้การสักยังสามารถช่วยปกปิดรอยแผลต่างๆได้ด้วยค่ะ
จริงมากค่ะ อยากเห็นการพูดคุยกันมากกว่านี้ นี่ยังไม่พูดอะไรเลยแค่ได้ยินว่าสักก็ ‘ไม่’ โดยไม่ฟังอะไรเลย
ช่องว่างระหว่าง gen ควรได้รับการพูดคุยให้มากกว่านี้
อยากให้เขาเข้าใจเรา เราก็ต้องเข้าใจเขาด้วยเหมือนกัน
เข้าใจคำว่าสิทธิในร่างกายแต่ก็ควรเข้าใจเขาด้วยว่าการเติบโตของเขามันต่างกัน
ควรพูดคุยกันมากกว่าการทำแบบนี้ เห็นด้วยกับป๊าที่ว่านี่หรอมงคลทำให้พ่อแม่ไม่สบายใจ
เหมือนรายการนำเสนอช่องว่างระหว่างgenเฉยๆ
สุดท้ายเด็กกว่าก็ทำไรไม่ได้อยู่ดี
กลายเป็นรุ่นลูกต้องเข้าใจพ่อแม่ฝ่ายเดียว
อยากเห็นคนคิดต่างจริงๆมาคุยกันมากว่าจะยังไง
เกือบจะกดออกคลิปตั้งแต่ตอนที่พ่อแม่สั่งห้ามโดยไม่มีเหตุผลใดๆ บอกแค่ไม่ได้ ไม่เอาท่าเดียว(แต่ก็ดูจนจบนะ 5555) แม่บอกว่าอิ๋งไม่เคารพพ่อแม่ทั้งๆที่พ่อแม่ไม่เคารพในการตัดสินใจของอิ๋งเลย พ่อบอกว่าไม่มีเหตุผลเลยนะ ทั้งๆที่ตอนแรกทั้งคู่ก็ไม่ได้ให้เหตุผลอะไรกับอิ๋งเลยเช่นกัน ดูจบก็หน่วงๆในใจเหมือนกัน แต่ถ้ารายการนี้สามารถลด Generation Gap ของครอบครัวนี้ได้จริงๆจะโคตรว้าวเลย
@@danneverdie จริงค่ะ ดูจบแล้วเราแบบ เอ้ะยังไงนะ ต้องการสื่ออะไรนะ55555555
เห็นด้วยตามนี้ครับ
เห็นด้วยทุกอย่างเลยค่ะ ดูแล้วอึดอัดมาก สุดท้ายคือมีแต่อิ๋งที่พยายามเข้าใจๆ แต่พ่อแม่พูดแต่ ไม่ ไม่ได้ เหตุผลเราก็ว่าฟังไม่ขึ้นเท่าไหร่ น่าจะมีพาร์ทแลกเปลี่ยนความคิดกันเยอะกว่านี้ เพราะนี่อิ๋งไม่แย้งอะไร เลยไม่ได้เห็นมุมมองฝั่งผู้ใหญ่เยอะเท่าที่ควร อย่างที่คุณบอกเรื่องลบรอยสัก ตอนดูเราก็อยากเห็นอิ๋งแย้งเรื่องนี้ไปเหมือนกัน อยากรู้ว่าผู้ใหญ่จะมีความคิดเห็นยังไง
รายการนี้ดีจริงๆนะ แต่รู้สึกว่าฝั่งพ่อแม่ไม่แฟร์เลยจริงๆ ลูกยังไม่ทันได้อธิบายอะไรเลยก็บอกว่าไม่แล้ว ส่วนเรื่องที่คุณพ่อบอกเราเข้าใจว่าท่านเป็นห่วงแต่ลายที่พี่สักมันไม่ใหญ่ไม่เต็มแขนเหมือนที่คุณพ่อยกตัวอย่าง แถมยังอยู่ใต้ร่มผ้า เรามองว่าส่วนนี้ไร้เหตุผลเกินเข้าใจ ในตอนท้ายพี่บอกว่าพี่รู้สึกผิดทั้งที่มันไม่ใช่ความผิดของพี่เลย การสักมันไม่ผิดกฎหมายแต่กลายเป็นว่าพอสักแล้วถูกมองเป็นคนไม่ดีจากสังคม คนที่เขาสักมีหลายเหตุผลบางคนสักเพราะชอบศิลปะและอยากให้มันติดอยู่กับตัว บางคนสักเพราะอยากแสดงถึงตัวตน บางคนสักเพื่อเป็นกำลังใจในการใช้ชีวิต บางคนสักเป็นเครื่องเตือนใจ ส่วนตัวอยากให้มีการพูดคุยมากกว่านี้ แสดงถึงเหตุผลของแต่ละฝ่าย ตรงไปตรงมา โดยไม่นำเรื่องบุญคุณมาเกี่ยวข้อง ความเชื่อก็ส่วนความเชื่อเหตุผลก็ส่วนเหตุผล
.
.
.
เป็นกำลังใจให้นะคะอย่าเครียดเกินไป ถ้าคุณทำไม่ไหวก็ไม่ต้องทำก็ได้ค่ะ ปิดรายการนี้เลยก็ได้ เรารับได้กับการตัดสินใจ เราทนไม่ไหวหรอกถ้าคงวามบันเทิงของเรากลายเป็นความเครียดของพวกพี่ๆที่ต้องแบกรับอะไรพวกนี้ เป็นกำลังให้ค่ะ
งงว่าสังคมไทยมีอคติอะไรกับคนที่สัก ไม่เข้าใจเลย นี่ไม่ใช่คนสักค่ะแต่ก็แบบมันเป็นสิทธิในร่างกายเราหนิ ไม่มีใครเป็นเจ้าของชีวิตเรา ใดใดคือนับถือใจคุณอิ๋งนะคะ
ก็จริงที่ไม่มีใครเป็นเจ้าของร่างกายเรา เเต่ เเต่ละครอบครัวมันก็ร้อยพ่อพันเเม่อ่ะ จะบอกว่าครอบครัวนี้ไม่เห็นด้วยกับการสักก็จะไปบอกว่าผิดก็ไม่ใช่ ก็พ่อเเม่เขาเลี้ยงดูเรามาอ่ะเนอะ ก็เเเค่ไม่ทำให้เขาเสียใจพอ
@@tercetz8308 อ่าก็ไม่ได้บอกหนิคะว่าครอบครัวเขาผิด เหอะๆ
@@charliep1290 เราไม่ได้บอกว่าคุณ เราหมายถึงคนที่อคติ บอกว่าครอบครัวนี้ไม่ให้สัก เเล้วจะบอกว่าผิด เข้าใจที่จะสื่อไหม
@@fate9991 ก็ถึงบอกไงครับว่าเเต่ละครอบครัวมันร้อยพ่อพันเเม่
@@tercetz8308 มันก็ผิดจริงๆอะแหละค่ะ ถึงเขาจะเลี้ยงดูเรามาก็จริงแต่อันนี้มันเป็นเรื่องสิทธิที่เขาอยากจะทำล้วนๆ จะมาอ้างเรื่อง gap ก็ไม่ค่อยเวิร์คเท่าไหร่ อันนี้ผิดที่ทัศนคติครอบครัวเลย
เราได้ดูปคลิปตั้งแต่ช่วงบ่ายๆ จนถึงตอนนี้เราเลื่อนมาเห็นคลิปนี้แล้วยังรู้สึกถึงความ negative ของคลิปที่เป็นความรู้สึกหลังดูคลิปอยู่เลยค่ะ เราเข้าใจว่ามันค่อนข้างเป็นเรื่องส่วนตัว เป็นเรื่องในครอบครัว แต่ energy หลังจากได้ดูคลิปแล้วมันแอบไปในแง่ลบนิดนึงค่ะ ตอนที่คุณอิ๋งร้องไห้ เพราะกลัวพ่อแม่ผิดหวัง เรายิ่งรู้สึกหดหู่เพราะคุณอิ๋งยังไม่ผิดอะไรเลยค่ะ จนสุดท้ายที่คุยกันว่าเหตุผลของการไม่ให้สักคืออะไรสุดท้ายพ่อแม่ก็ให้คำตอบได้แค่ว่า เพราะเป็นความรู้สึกไม่ชอบ ‘ของพ่อแม่’ แค่เพราะความไม่ชอบ ไม่มีเหตุผลรองรับอย่างอื่นเลย
เข้าใจเลยว่าทำไมพี่อิ๋งถึงเป็นคนแบบไม่มั่นใจในตัวเอง สู้ๆนะคะเป็นกำลังใจมากๆ กอดๆ
สิ่งที่น่ากลัวคือการว่าโดยไม่เว้นช่องไฟให้เราอธิบายเลย และสิ่งที่เราอยากเสริมคือ อยากให้ยกเหตุผลออกมาเยอะๆ เราเปลี่ยนความคิดของคนที่บ้านเราได้แล้ว ดังนั้น เราก็ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่กำลังอยากทำอะไรที่ตัวเองชอบอยู่นะคะ พ่อแม่ รักและห่วงเราเสมอ ขอให้นึกคำนี้ไว้ เขาถึงได้เป็นอย่างนั้นอะเนอะ
เหตุผลของเราคือ
-เราชอบ
-มันสวย
-เราไม่เคยทำ
เหตุผลของพ่อแม่
-กลัวลูกเสียใจภายหลัง
-กลัวกระทบถึงชีวิตการงาน
-อาจจะมีการไปสักเพิ่ม เมื่อมีครั้งแรกก็ต้องมีครั้งสอง
-อาจจะเกิดอันตรายต่อผิวหนัง
-สังคมนี้ยังอคติกับคนที่มีรอยสักอยู่ เพราะมีภาพติดตา คือคนขี้ยา และคนขี้คุก และเรายังอยู่ในสังคมนี้ เราก็ปรับตัวอยู่ ซึ่งมันก็ไม่ใช่เรื่องคอขาดอะไร.
-กลัวลูกโดนมองแย่ในสังคม
- พ่อแม่รู้สึกไม่ดีที่ลูกมีรอยสัก
- อาจเกิดความเสี่ยงต่างๆที่เราคาดไม่ถึง ป้องกันดีกว่าแก้.
-ความสุขมันไม่ใช่ขึ้นอยู่แค่ว่าเราสักเท่านั้น มันมีสิ่งอื่นอีกมากมายที่มีความสุขได้
คิดดูแล้วกันครับ ว่าเหตุผลใครหนักแน่นกว่า.
จาก ปสก.
คือถ้าเราจะทำอะไร แล้วรู้ว่าต้องเจอกับอะไร ก็ควรทำใจไว้รอเลย ถ้ารับผลที่ตามมาไม่ได้ก็ไม่ควรทำน้าาาา มันเกี่ยวกับความสุขของเราด้วย ถ้าน้องคิดว่าทำแล้วจะมีความสุขมาก มากกว่าผลที่ตามมาก็ทำไปเลยค่ะ สนับสนุน ความสุขต้องมาก่อนค่ะ
//ดูแล้วป๊า ม๊า ก็มีเหตุผลอยู่นะ แต่ถ้าน้องคิดว่า อนาคตจะไม่เสียใจ เหมือน ตย. ที่ป๊าบอก คิดว่างานหรืออนาคตจะไม่กระทบแน่ๆ ก็ทำเลยค่ะ
เราติดตามยกกำลังมาทุกคลิป คลิปนี้เป็นคลิปแรกที่ทำให้เรารู้สึกแย่มากๆ จากคนที่มีปัญหาครอบครัวอยู่แล้ว พอดูคลิปนี้แล้วรู้สึกโดนtriggerมากๆ เราเข้าใจนะว่าช่องไม่จำเป็นต้องมารับผิดชอบอารมณ์ทุกคน แต่อยากให้ลองคิดจริงๆว่าช่องนี้อยากส่งต่อmoodแบบนี้ให้คนดูจริงๆหรอ สุดท้ายนี้เราก็จะยังติดตามช่องยกกำลังต่อและรอดูcontentอื่นๆที่จะมอบความสุข ความสนุกต่อไป เป็นกำลังใจให้นะคะ
เราด้วยคนค่ะ ปกติเราดูทุกคอนเทนท์ของช่อลนี้เลยนะคะ แต่อันนี้เป็นคลิปแรกของช่องยกกำลังและบริษัทในเครือเลยี่ะที่ดูคลิปนี้แล้วอึดอัดจนไม่อยากดูรายการนี้ตอนต่อๆไปเลยค่ะ
“แต่บังเอิญครอบครัวเราไม่ชอบตรงนี้” ฟังแล้วจุกเหมือนกันนะ คือถ้าเราเกิดอยากทำอะไรขึ้นมา แล้วครอบครัวไม่โอเค เราก็ไม่สิทธิ์ทำสิ่งนั้นหรอ ทั้งๆที่มันอาจจะทำให้เรามีความสุขก็ได้ 😔
ก็ต้องยอมรับนะครับ ถ้าเค้าไม่ได้ทำร้ายคุณในเชิงรูปธรรมการที่เขาไม่พอใจอะไรมันเป็นสิทของเขา
@@tyr3088 แต่บางเรื่องมันก็นับเป็นการทำร้ายจิตใจนะคะ ถึงจะไม่ได้เจ็บตัวแบบโดนทำร้ายร่างกายก็เถอะแต่มีเด็กที่เป็นโรคซึมเศร้าเพราะที่บ้านกดดันในลักษณะนี้
@@tyr3088 แต่ก็ต้องยอมรับนะว่าถ้าเขาไม่พอใจเขาก็ต้องจัดการความรู้สึกตัวเอง ลูกโตแล้วให้เขาเลือกเองไม่ใช่บงการไปซะทุกอย่าง น้องเขาเป็นเด็กดีรักครอบครัวมากๆถึงร้องไห้กลัวพ่อแม่เสียใจ
@@tyr3088 ทำไมต้องยอมรับคะ ยอมรับในไม่พอใจก็ยอมรับได้ แต่ถ้าไม่พอใจแล้วจะมาบังคับไม่ให้ทำ อันนี้ละเมิดสิทธิแล้วค่ะ ทำความเข้าใจใหม่ด้วย
@@tyr3088 ไม่พอใจแต่มาบังคับลูกเพื่อความสบายใจของตัวเองมันไม่เห็นแก่ตัวไปหน่อยเหรอ
ในฐานะรายการใหม่ ep แรก โดยส่วนตัวขอให้คะแนนลบมากกว่าคะแนนบวกนะคะ
1.มันเสี่ยงมากที่ทำให้คนในครอบครัว(โดยเฉพาะพ่อแม่)ถูกคนอื่นวิจารณ์ ถ้าท่านได้มาอ่านคงแย่กว่าเดิม
2.อย่างที่หลายๆคอมเม้นต์บอก ยังไม่ตอบโจทย์ gen. gap เท่าไหร่
3.ใน ep ต่อไป ลองพิจารณาเปลี่ยนแนวทางคอนเท้นต์จะดีกว่านะคะ อย่างเช่น พาท่านไปทำกิจกรรมวัยรุ่น(ไม่ต้องให้ท่านออกกล้องก็ได้ อาจถ่ายแค่ด้านหลัง) หรือให้น้องอิ๋งทำกิจกรรมใดๆที่ไม่เสี่ยงมากระทบคนในครอบครัวอีกค่ะ
เสนอนแนะด้วยความเป็นห่วงความรู้สึกคนในครอบครัวจริงๆค่ะ ยิ่งพอหลังจากคลิปออนแล้วท่านได้มาอ่าน
ใดๆก็ตาม ยังติดตามทุกคอนเท้นต์ของช่องนี้นะคะ^^ เป็นกำลังใจให้ค่ะ
คอมเมนท์นี้ต้องติดTopครับบ
มันไม่เรีลอะผมว่าแบบนั้น พ่อแม่ก็จะรู้สึกว่าตอนนี้ทำงานอยู่นะ อยู่หน้ากล้องนะ เชื่อเหอะว่าหลังกล้องเป็นอีกแบบแน่นอน
ถ้ามี ep ต่อๆไป มันจะกลายเป็นรายการที่ทำให้คนปลุกระดมเรียกร้องเสรีภาพแทนทีจะบันเทิง
ดูรอบแรก ตั้งแต่ตอนโทรคุยกับพ่อแม่ก็ไม่อยากดูต่อแล้ว คอนเทนต์แนวนี้คืออะไรหรอคะ พอมาดูรอบสองเราอดทน ดูจนจบ สุดท้ายคุณอิ๋งก็ไม่ได้ทำให้หินแตก คุณก็ยังอยู่ภายใต้คำพ่อแม่เหมือนเดิม ตอนแรกนึกว่าจะได้เป็นแรงใจในการลุกมาต่อสู้สิ่งที่เราโดนวางกรอบมาทั้งชีวิต สุดท้ายก็คือเราไม่ได้อะไรกลับมาเลย ยิ่งแย่กว่าเดิมตอนจบที่เหตุผลของผู้ใหญ่ ส่วนมาก ของเจนนี้จะมีมายเซตแบบนี้ ถ้าเราจะไปทำบ้างละเจอกลับมาคล้ายๆแบบในคลิป ความรู้สึกคงพังไม่มีชิ้นดี สำหรับเราคลิปนี้เป็นคลิปแรกของปีที่ดูแล้วได้พลังงานลบกลับมา เป็นคอนเทนต์ที่ดีค่ะ ยอมรับน่าสนใจ แต่ผลลัพธ์ที่ได้มันทำให้เราซัฟเฟอร์ และหมดแรงไม่กล้าทำในสิ่งที่คุณอิ๋งทำไปอีกนานค่ะ
เข้าใจอิ๋งนะคะ เวลาเราโดนดุ โดนกดดัน สมองเราก็ตื้อ คิดคำคิดเหตุผล คิดอะไรไม่ออกเลย เพราะงั้นถ้าจะทำรายการแบบนี้ แล้วจุดประสงค์คือให้คนสองรุ่นเข้าใจกัน มันต้องมีการวางแผนหาวิธีพูดนะคะ เพราะในคลิป อิ๋งไม่ได้โต้แย้งเหตุผลกับป๊าม้าเลย รายการEPนี้ คนดูเลยไม่ได้อะไรจากมัน ยกเว้นการรู้ว่าพ่อแม่อิ๋งไม่มีเหตุผลมากแค่ไหน แล้วก็ด่าในใจ ถึงอย่างงั้นคอนเซ็ปท์รายการก็น่าดูมากๆ รอติดตามอีพีต่อไปนะคะ
ใช่มั้ยคะ เรายิ่งพูดไม่เก่ง ความกดดันมาทีก็ไม่อยากคุยกับเขาเลย อย่างบ้านเรา คือมันยากมากที่จะมานั่งคุยกันสบาย ๆ ถกเถียงประเด็นนี่นั่น ไม่ได้อะ ฮือออ
ไม่เข้าใจคนที่เห็นด้วยกับประโยคที่ว่าทีหลังจะมาเสียใจว่าไม่น่าสักเลย อยากจะบอกว่าปัจจุบันมีเทคโนโลยีเลเซอร์ลบรอยสัก และที่สำคัญเลยคือไม่ใช่ว่าทุกคนที่สักจะมาเสียใจภายหลัง มีคนหลายคนที่พอใจและแฮปปี้แม้ว่าเวลาผ่านไป หรือหลายคนที่ไม่เคยสักก็มาเสียใจว่าทำไมเราไม่ลองทำเหมือนกัน พูดตรงๆว่าคอนเทนต์นี้ทำให้รู้สึกหงุดหงิดมากเลยค่ะและสงสารคุณอิ๋งมาก เข้าใจที่เคารพคุณพ่อคุณแม่ แต่อยากให้คุณพ่อคุณแม่หลายๆท่านเคารพในการตัดสินใจของลูกบ้าง หรือถ้าไม่เห็นด้วยจริงๆก็พูดคุยกันด้วยเหตุผล ไม่ใช่เปิดมาก็ใช้อารมณ์ ถ้าลูกไปสักมาจะโกรธ จะไม่ให้รถใช้ ใช้ความเป็นพ่อแม่มาบีบบังคับให้ลูกเป็นหรือทำในสิ่งที่ต้องการ
จริง ๆ อายุลูกก็เยอะแล้วนะ บรรลุนิติภาวะแล้วด้วย ไม่ใช่เด็กที่จะตัดสินอะไรด้วยตัวเองไม่ได้อะ อยากให้พ่อแม่เข้าใจนิดนึง เพราะการสักถ้ามันไม่รบกวนหน้าที่การงานของเขาหรือสังคมของเขาก็ไม่เป็นไร แต่นี่น่าจะเกิดจากทัศนคติของคนเจนก่อน ๆ ว่า สักลาย = คนไม่ดี อันนี้ถ้ารายการอยากทำจริง ๆ หลังทำคอนเทนต์ควรให้จิตแพทย์คุยฝั่งพ่อแม่ด้วย ให้เขาเปลี่ยนความคิดใหม่ เพราะถ้าไม่เปลี่ยนแล้วทำแบบนี้เรื่อย ๆ อาจจะส่งผลกระทบต่อสภาวะจิตใจของคนเป็นลูกได้ อันนี้ฝากทีมงานนิดนึงนะครับ
ในฐานะคนที่โตมาแบบไข่ในหินเหมือนอิ๋งเลย เราว่าจริงๆจุดประสงค์ของรายการดีแล้วนะที่จะกะเทาะหินก้อนนี้ และครอบครัวอิ๋งเองก็ดูโอเค แต่ติดที่วิธีการนำเสนอมันยังเซฟตัวอิ๋งเองและครอบครัวไม่พอ ถึงตัวเราจะอึดอัดกับการเลี้ยงดูแบบนี้แต่คงไม่อยากให้ใครก็ไม่รู้มาว่าครอบครัวเราเหมือนกัน แทนที่จะเป็นอิ๋ง vs ครอบครัว มันอาจจะเป็นอิ๋ง vs ความกลัวของตัวเองมากกว่า ส่วนตัวเรายังกล้าๆกลัวๆกับการกะเทาะหินอยู่เหมือนกันเพราะไม่เคยต้องรับผลของการตัดสินใจของตัวเอง100% กลัวทำพ่อแม่เสียใจก็ส่วนนึงแต่หลักๆคือเรานี่แหละที่กลัวไปเอง อย่างในอีพีนี้อาจจะไม่ต้องโชว์รอยสักก็ได้หรือยอมคืนรถให้ที่บ้านไปแล้วใช้ชีวิตปกติแล้วค่อยเฉลยว่าไม่ได้สักอย่างน้อยให้เค้าเห็นว่ามันไม่ได้มีผลกระทบอะไร เรายังอยากเห็นอีพีต่อไปของรายการนี้นะคะ เชื่อว่ามันจะเป็นอีกหนึ่งรายการของเทพลีลาที่หลายคนรอดูการเติบโตของอิ๋งที่น่าจะเป็นแรงบันดาลใจให้อีกหลายๆคนลองออกจากหินด้วยเหมือนกันรวมถึงเราด้วย :)
สิ่งที่ได้จากคลิปคือ
1.ครอบครัวโคตรมีผลในการโตมาเป็นตัวเราเลย โดยเฉพาะทัศนคติกับวิธีแก้ปัญหาในชีวิต จากคลิปทำให้พ่อแม่อิ๋งดูเป็นผู้ใหญ่ที่แย่เลย บอกว่าเข้าใจแต่จริงๆถึงลูกจะไม่ใช่ผู้เยาว์แล้วยังไม่มีสิทธิ์ในร่างกายตัวเองเลย
2.สะเทือนใจตรงที่อิ๋งบอกว่า ‘เสียใจที่ทำให้พ่อแม่เสียใจ’ เราว่าที่น่าเสียใจกว่าคือ ‘พ่อแม่ไม่ยอมรับในตัวเรา ควบคุมชีวิต เราไม่มีสิทธิ์ตัดสินใจในร่างกายตัวเอง’ มากกว่า
3.generation gapกว้างมาก ผู้ใหญ่ที่บอกว่ายอมรับว่าคนสักไม่ใช่คนไม่ดี แต่พอเป็นลูกตัวเองรับไม่ได้ จริงๆแล้วเขายอมรับไหมอะ สุดท้ายก็มีอคติไหม ?
ชอบประโยคนี้มากๆครับ "ถึงลูกจะไม่ใช่ผู้เยาว์แล้วยังไม่มีสิทธิ์ในร่างกายตัวเองเลย" ... โคตรแย่เลยอ่ะ
กำลังคิดว่ารายการนี้ให้อะไรกับผู้คนได้บ้าง...ความรู้สึกของคนดูเจนวาย คิดว่าหลายๆ คนน่าจะเหมือนเรา คือ โห พ่อแม่ต้องขนาดนี้ไหมวะ ซึ่ง พ่อแม่หลายๆ คนในที่นี้ก็ขนาดนี้จริงๆ แล้วยังไงต่อ ดูแล้วก็ปลงว่า เอ้อ คนรุ่นเขาเป็นงี้กันหมดแหละ เราทำอะไรไม่ได้นะ ทำใจกันเถอะทุกคนงี้หรอ
การให้เหตุผลว่า เพราะเขาเคยเห็นคนที่คิดว่าไม่น่าไปสักเลย มาหลายคน เขาก็เลยมีสิทธิ์โกรธเป็นฟืนเป็นไฟที่ลูกเขาจะไปสักงั้นหรอ มีคนเป็นล้านเลยนะในโลกนี้ที่ไปสักแล้วก็มีความสุขดียันแก่ตาย ไหนจะเรื่องสิทธิในร่างกายของลูกเขาที่โตบรรลุนิติภาวะแล้ว
เป็นห่วง...ไม่แปลก บ่น...เข้าใจได้
โกรธ โวยวายเสียงดังเหมือนบ้านจะแตก....คนดูเติมคำในช่องว่างกันตามอัธยาศัย
ก็เลยสงสัยว่า รายการนี้จะได้อะไรนอกจากคนเข้ามาดูแล้วก็ด่าพ่อแม่น้องเขา ต่อให้ด่าในใจก็เถอะ
เราว่าคอนเทนต์นี้ทำให้หลายๆคนย้อนกลับมาดูตัวเองค่ะ ว่าเรากำลังเป็นแบบนี้หรือเปล่า หรือในอนาคตเราจะเป็นแบบนี้กันหรือเปล่า หรือเรามีพ่อแม่แบบนี้หรือเปล่า เราคิดว่าคนดูหลายๆคน อาจจะมีคนเจนแบบพ่อแม่ เขาอาจจะเริ่มฉุกคิดได้ว่าสิ่งที่ทำไปมันรุนแรงเกินไปหรือเปล่า วัฒนธรรมการเลี้ยงลูกที่บงการทุกอย่างแบบนี้ทำให้เด็กๆไม่มีความสุข ถ้าเราเริ่มตระหนักถึงปัญหาเราจะเริ่มแก้ไขและเปลี่ยนแปลงค่ะ และเจนลูกๆแบบเราที่ตระหนักถึงปัญหานี้แล้วก็สามารถรณรงค์ให้ทุกคนรักตัวเองได้นะคะ ชีวิตของเราเป็นของเราค่ะ
ก็ไม่เห็นจะทำอะไรในสิ่งที่อยากทำจริงๆเลย งงว่าจะหลอกพ่อแม่ทำไม สักก็สักเลย อาจจะลองคุยด้วยเหตุผลก่อนแล้วค่อยบอกจะสัก ยกตัวอย่างมาก็ได้ว่าที่ทำงานเป็นแบบไหนเครื่องมืออะไร เหมือนให้ความรู้ แต่นี่เหมือนหยอกให้โมโหแล้วก็เฉลย เราว่าจุดประสงค์ของรายการมันไปไม่สุดอ่ะ สรุปแล้วก็ยังไม่ได้ทำในสิ่งที่อยากทำอยู่ดี เป็นเด็กดีในกรอบพ่อแม่ต่อไป
2 เจนควรจะมาเจอกันตรงกลางดีกว่ามั้ยนี่เป็นความคิดหลังจากดูจบเลย พ่อแม่ดูจะไม่ฟังน้องเลย แต่อิ๋งเองก็เป็นเด็กเชื่อฟังดูเหมือนไม่เคยขัดใจพ่อแม่ด้วยคลิปแรกอาจจะไม่สำเร็จในการพยายามเคาะหินเท่าไหร่ อยากเห็นการพัฒนาทั้งตัวอิ๋งเองทั้งพ่อแม่เองที่ควรจะเปิดใจรับฟังน้องอิ๋งในแต่ละเรื่องถึงแม้เรื่องนั้นมันอาจจะไม่ได้เป็นเรื่องที่เค้าคาดไว้ น้องอิ๋งสู้!!
ถ้าพ่อแม่มาอ่าน อยากให้พิจารณาคอมเม้นนี้น้า
'เราเป็นคนให้กำเนิดลูกมา แต่ลูกไม่ใช่สิ่งของ เราไม่ได้เป็นเจ้าของเขา สิ่งที่เราไม่ชอบ ก็ไม่จำเป็นว่าลูกต้องไม่ชอบ สิ่งที่ถูกปลูกฝังมานาน ใช่ว่ารุ่นต่อไปจะต้องตามเคร่งครัด ความชอบส่วนบุคคลเป็นสิ่งที่ควรเคารพกันอย่างยิ่ง'
และในกรณีของอิ๋ง รอยสักไม่ได้มีผลกับการงานกับสายงานเลย
ปล.เดี๋ยวนี้ ปัจจุบันนี้ เขาลบรอยสักได้เกือบจะเนียนเท่าผิวแล้ว หรือ ถ้าไม่อยากลบ มีรองพื้น คอนซิลเลอร์ ที่ผลิตมาเพื่อกลบรอยสักเยอะมาก หากวันไหนไม่อยากโชว์ 😊
เห็นด้วยมากๆค่ะ
พอได้ยินคำว่า “ม้าก็รู้ว่าคนที่สักไม่ใช่คนไม่ดี ไม่เคยว่าคนที่ไปสักเลย” ผมรู้สึกค้ลายเรื่องเพศที่ 3 เลย
คือผู้ใหญ่ gen ประมาณนี้หลายคนเลย บอกว่ารับได้ เข้าใจโลกที่เปลี่ยนไปได้
สุดท้าย พอเป็นลูกตัวเองเป็น หรือจะทำ กลับรับไม่ได้จริง
คือเหมือนเค้าไม่ได้รับได้กับเรื่องแบบนี้อะ เค้าขอแค่ไม่ใช่ลูกเค้าทำก็พอ
ยิ่งได้ยินคุณอิ๋งพูดว่าเสียใจที่ทำให้ที่บ้านเสียใจ เฮ้ยคือผมแอบเศร้าในจุดนี้มากๆเลยเนอะ
คือสิ่งที่คนปกติควรจะเสียใจที่สุด คือการที่เค้าไม่รับฟังเราเลย แต่กลายเป็นจุดแรกที่คุณอิ๋งคิดคือเราทำเค้าเสียใจ
คือ เราควรเสียใจที่เราโดนกระทำโดนว่าโดยไม่ฟังเหตุผล มากกว่าโดนผลักภาระว่าเราต้องเสียใจเพราะเราเป็นลูกที่ไม่ดีทำพ่อแม่เสียใจ ไม่ใช่หรอ
สิทธิในการเสียใจในเรื่องที่เราถูกว่าโดยไม่มีเหตุผลยังไม่มีเลย โคตรน่าเศร้าเลยสำหรับผม
ดูจนจบคิดว่าจะได้อะไรจากคลิปนี้บ้าง ก็คือไม่ได้อะไรนอกจากความเฟล เฟลกับความคิดของพ่อแม่ที่หาว่าลูกไม่เคารพ จนจบคลิปก็ยังสถานการณ์ฝั่งพ่อยังไม่โอเคอีก เฟลกับการที่อิ๋งไม่ได้สักจริงแถมยังร้องไห้เพราะทำให้พ่อแม่เครียดอีก
เราว่าตัวอิ๋งเอง คืออยากลองดูอารมณ์ของพ่อแม่เฉยๆ ถ้าอิ๋งจะลองออกนอกกรอบอะ แน่นอนว่าพ่อแม่ต้องไม่โอเคอยู่แล้ว แต่ถ้าอิ๋งจับเข่าคุยกันด้วยเหตุผลก่อน สถาณการณ์มันอาจจะดีกว่านี้ แล้วค่อยตัดสินใจสรุปคลิปออกมาอีกที ลองคุยด้วยเหตุผล ว่าสักเพราะอะไร รับผลที่ตามมาได้ไหม วิธีการปกปิดรอยหากจำเป็น กลบด้วยการเมคอัพ หรือเลเซอร์ลบ ถ้าเกิดสักแล้วมีปัญหาตามมา สามารถหาทางออกได้ยังไงบ้าง ลองมาเสนอให้ท่านฟังอะ คงดีกว่า คงจะได้รู้เหตุผลของพ่อแม่จริงๆว่าที่โอเค ไม่ให้สักเพราะอะไร ตอนนี้เลยได้แต่อารมณ์มาแทน
เราว่ารายการยังตอบโจทย์ของตัวเองไม่ได้อะ เพราะอิ๋งก็ไม่ได้ออกนอกกรอบจริง
อยากรู้ว่าอีพีต่อๆไปจะจบยังไง เพราะยังหาความลงตัวในจุดตรงกลางไม่ได้เลย
ฟังจากเหตุผลของป๊าม๊าแล้วไม่ใช่เหตุผลเลยนะ เป็นคำสอนหรือความเชื่อที่ตกสมัยไปแล้ว เหมือนจะเป็นความต้องการส่วนตัวของพ่อแม่มากกว่าที่ไม่อยากให้ลูกสัก แล้วนำเหตุผลหรือคำพูดหรือการกดดันที่ไม่สมควรและไม่คิดถึงใจลูก(เพื่อจะให้กระทบจิตใจลูก บังคับให้ลูกรู้สึกผิด) เพื่อความต้องการหรือเพราะความเชื่อคติยึดถือของตัวเองเป็นใหญ่ในบ้าน
Generation Gap ผมว่าคลิปนี้ ไม่ได้สื่อให้ใช้เหตุผลคุยกันสักเท่าไหร่นะ ยิ่งเป็นการโชว์ความไม่เข้าใจของคนรุ่นเก่ามากเข้าไปอีก รักคือรัก เข้าใจ แต่มันคือการไม่เคารพลูกตัวเองเลย อย่าอ้างข้าราชการ ข้าราชการ ไม่ได้วิเศษเหนือคนอื่นทั่วไป สักใต้ร่มผ้าเยอะแยะ และสุดท้ายอยากฟังจุดประสงค์ของพวกนี้ในคลิปนี้นะครับ(ผมว่าต้องมีเหตุผลในการนำเสนอแน่ๆ ผมเชื่อในทีมงานยกกำลังครับ)
ผิดหวังกับคลิปนี้มาก ไม่รู้สึกว่าคอนเท้นนี้ให้อะไรเลย หลายๆคอมเม้นพิมพ์ไปหมดเเล้วว่าทำไมเหมือนคอนเท้นเเกล้งพ่อเเม่มากกว่า ไข่ในหิน
1.ทำไมอิ๋งถึงสักไม่ได้ ทั้งๆที่เป็นร่างกายของอิ๋งเองเราไม่เห็นเหตุผลที่ชัดเจนจากพ่อเเม่อิ๋ง
2.สุดท้ายอิ๋งก็อยู่ในไข่เหมือนเดิม ไม่ได้ทำอะไรที่ไม่เคยทำตามคอนเสปคลิป
3.การสอนของพ่อเเม่ไม่เหมือนกันการเปลี่ยนความคิดคนเเก่มันยาก อันนี้เข้าใจ เเต่ทำไมอิ๋งถึงไม่พูดเเลกเปลี่ยนทัศนคติกับพ่อเเม่เลย ในคลิปมีเเต่อือๆ อาๆ ตามพ่อเเม่อย่างเดียวเเบบนี้มันก็ไม่เกิดอะไรเลย
4.เหตุผลของคุณพ่อ อันนี้ถือว่าโอเค เเต่การเอาลูกน้องหรือคนอื่นมาเปรียบว่าเค้าทำเเบบนี้เเล้วเค้าเสียดายทีหลัง = อิ๋งทำก็มาเสียดายเหมือนกัน มันไม่ใช่ ถ้ากรณีสักทั้งตัวอันนี้พอเห็นด้วย เเต่สัก นิดๆหน่อยๆ ใช่เหตุผลนี้ไม่ได้เลย
5.ในคลิปนี้เห็นเเค่ พ่อ เเม่ อิ๋งยึดตัวเองเป็นหลัก ตัวเองไม่ชอบ=ลูกต้องห้ามทำ ทั้งๆที่ลูกมีชีวิตของตัวเอง เเต่ต้องมาคอยทำตามที่พ่อเเม่บอก พ่อเเม่ต้องการ ตัวอิ๋งไม่มีเเนวทางของตัวเองเลย
หลายๆคนบอกว่า พ่อเเม่ให้เราเกิดมา เสียเงิน เสียเลือด เสียเนื้อ งั้นขอถามกลับว่า เด็กได้ขอให้เกิดไหม มันดูเเรงนะ เเต่มันคือเเฟค เด็กไม่ได้ขอให้พ่อเเม่ท้อง พ่อเเม่เต็มใจที่จะให้เกิดมาอยู่เเล้ว เเล้วพอให้เกิดมาก็ทวงบุญคุญว่าชั้นเลี้ยงเทอมานะ เสียสารพัดอย่าง มันไม่ถูก ในเมื่อคุณให้เค้าเกิดมาโดยที่เค้าไม่ได้เลือกอะไรเลย คุณก็ต้องรับผิดชอบชีวิตเค้ามันก็ถูกเเล้ว ดูคลิปนี้เเล้วรู้สึกเเย่อะครอบครัวก็เป็นเเบบนี้ เเม้เเต่เเว่นยังใส่ไม่ได้เลย ดูเเล้วเหมือนทำให้ตัวเองtriggerกว่าเดิม
เราว่าลูกไม่ควรจะเป็นฝ่ายที่ต้องรับผิดชอบความรู้สึกพ่อแม่เลยอ่ะ ปกติแล้วถ้าเราทำพ่อแม่เสียใจเราก็คงจะรู้สึกเสียใจเหมือนกัน ถ้าเรื่องที่เราทำมันผิดจริงๆอ่ะนะ แต่การที่ลูกอยากจะไปสักมันผิดเหรอคะถึงต้องขึ้นเสียงต้องพูดจาใจร้ายใส่ขนาดนั้น ฟังดูขัดๆดูไม่เมคเซ้นเท่าไรนะ พ่อแม่รุ่นเก่าที่โดนปลูกฝังชุดความคิดแบบนี้มาแก้ยากจริงๆค่ะ เผลอๆแก้ไม่ได้ด้วยซ้ำ เราว่าตอนนี้ความรู้สึกคุณอิ๋งสำคัญที่สุด การถูกจำกัดการกระทำหรือการแสดงออกบางอย่างตั้งแต่เด็กมันกระทบการตัดสินใจตอนโตจริงๆค่ะ บ้านควรจะเป็นพื้นที่ที่เราสบายใจที่จะเป็นตัวเองมากที่สุดแท้ๆ😿
ไม่ได้จะว่าครอบครัวพี่เลยนะ แต่การที่คนคนนึงเกิดมาแล้วต้องมามีชีวิตในแบบที่อีกคนวางไว้เพียงเพราะคำว่าบุญคุณ มันน่าเสียดายนะ พี่ดูเป็นคนที่เป็นห่วงความรู้สึกของคนในครอบครัวมาก ซึ่งนั้นเป็นเรื่องที่ดี แต่ดูเหมือนว่าเค้าจะไม่เค้าใจความรู้สึกเราบ้างเลย ความเป็นห่วงมันไม่ใช่ข้ออ้างไว้กีดกันใครคนนึงไม่ให้ได้ใช้ชีวิตอย่างที่อยากเป็น อีกอย่างที่ป๊าม๊าพูดมันก็มีเหตุผลนะแต่มันเป็นเหตุผลเมื่อ20ที่แล้ว
ตอนแรกนึกว่าคอนเท้นจะทำความเข้าใจระหว่างคน 2 gen แต่ออกมาเป็นเด็กรุ่นใหม่ต้องเข้าใจคนรุ่นเก่า ก็โอเคนะคะ แต่ถ้าเป็นเรานะเหตุผลที่เราจะบอกเค้าไปคงเป็นเราไม่ได้คิดจะเป็นข้าราชการ(อันนี้ส่วนตัวมากๆ) แล้วก็ชีวิต ร่างกายควรจะเป็นของเรา คนสักในโลกนี้มีมากมาย เค้าก็เอาตัวรอดกันได้ เราก็คงหาอาชีพที่ไม่สนใจเรื่องรอยสัก ซึ่งเราทำเอกชนมา 2 ที่ไม่มีที่ไหนสนใจเลย
แล้วด้วยการเลี้ยงดูจากบ้านเราน่าจะต่างกับคุณอิ๋งมากๆ เพราะพ่อเรานี่คือนักต่อต้านความคิดของคนยุคก่อนๆเลย 5555 เลือกลาออกตอน ม.1 เพียงเพราะเค้าบอกว่าทำงานเงินเดือนเมื่อไหร่จะรวย ตอนออกก็ทะเลาะกับปู่ไป 1 แมทช์ แต่พ่อเราชนะค่ะ 555 แต่ก็เข้าใจคุณอิ๋งนะคะ เป็นกำลังใจให้คอนเท้นต่อๆไปออกจากหินได้บ้างซักอัน 2 อันก็ยังดีค่ะ 5555
สะเทือนใจตรงที่อิ๋งเสียใจ ที่ทำให้พ่อแม่เครียดกับเสียใจ แต่พ่อแม่ก็เอาแต่ใจมาตลอดจนทำอิ๋งเสียใจด้วยเหมือนกัน แล้วเหมือนอิ๋งยอมมาตลอด จน ครั้งนี้เหมือนจะไม่ยอมพ่อแม่เลยเอาอำนาจมาขู่เรื่องไม่ให้ใช้รถซึ่งพ่อแม่หลายคนก็ใช้วิธีนี้ให้ลูกทำตามที่ตัวเองพอใจ
แล้วฟังจนจบคลิปไม่ว่าพ่อแม่จะพูดอ้างด้วยเหตุผลอะไรมากมาย สุดท้ายแล้วเหตุผลหลักของเขาคือก็แค่ไม่ชอบไม่พอใจเลยไม่ให้ทำ
สุดท้ายด้วยความเป็นลูกคุณอิ๋งก็มานั่งเสียใจ ขอโทษอยู่ฝ่ายเดียวเลย ทั้งๆที่สิ่งที่คุณอิ๋งทำไม่ได้ผิด แค่มันไม่ได้ถูกใจเขา คำถามคือพ่อแม่มีสิทธิแค่ไหนในชีวิตลูก มีสิทธิ์ไม่ชอบใจ ได้ มีสิทธิ์ตักเตือน ได้ แต่ไม่มีสิทธิ์ที่จะไปห้าม โดยเฉพาะเรื่องการหักเงินหรือไม่ให้ใช้รถ เราว่ามันไม่สมเหตุสมผลเลยในฐานะคนเป็นพ่อแม่ เพราะว่าลูกสักเลยจะลงโทษให้ลูกไปนั่งขนส่งสาธารณะลำบากๆหรอคะ สรุปแล้วรักลูกหรือว่ามีความสุขในการควบคุมคนๆนึงให้เป็นไปตามความต้องการของตัวเองกันแน่ คุณอิ๋งขอโทษที่ทำให้คุณพ่อคุณแม่ไม่สบายใจ เสียใจ แต่ทางฝั่งคุณพ่อคุณแม่เคยสักนิดมั้ยคะที่รู้สึกว่าเราเองก็ทำให้ลูกร้องไห้เสียใจเหมือนกัน
นี่ก็แบบเดียวกัน สักแล้วมาบอก
แม่ไม่คุยด้วยเป็นเดือนๆ
หลังจากนั้นไม่กี่เดือนแม่ก็ลองบ้าง ลายแรกของแม่ตอน 60 ขวบ
แล้วนี่ก็แกรนโอเพ่นเลย สะสมเงินไปสัก
ไม่นานเท่าไหร่ในปีเดียวกัน แม่ได้ลายที่2 !!
ค่านิยมมันเปลี่ยนไปแล้ว เด็กๆที่เริ่มทำงานแล้ว เค้าก็รู้แหละว่าสายงานที่เค้าทำอ่ะ มันจะควรรึไม่ควรสัก สักได้รึไม่ได้
ไม่นับไอ้พวกที่ยังเรียนอยู่นะ เพราะอันนั้นมันยังไม่รู้ว่าอนาคตตัวเองจะเป็นยังไง
ป๊าม๊ามีลูกที่ดีนะครับ อิ๋งเป็นลูกที่ดีมาก // ในเมื่อลูกเคารพพ่อแม่ พ่อแม่ก็ควรเคารพในตัวลูกและการตัดสินใจของลูกเหมือนกันนะครับ
ป๊าบอกว่า
* ปัญหาของการสัก คือสักแล้วใส่เสื้อแขนสั้นไม่ได้
- แต่การสักใต้ร่มผ้า ใส่เสื้อแขนสั้นได้ ใส่เสื้อแขนกุดยังได้
* สักแล้วลบไม่ได้
- ปัจจุบันใช้เลเซอร์ลบได้
ในเมื่อแก้ปัญหาที่ป๊าบอกได้ทั้งคู่
ทำไมป๊ายังห้ามอยู่
ป๊าต้องมีการชี้ปัญหาที่มีเหตุผลโต้แย้งไม่ได้มากกว่านี้นะ
ส่วนน้องอิ๋ง ก็ต้องอธบายอย่างมีเหตุผล ให้สมกับเป็นตัวแทนเจน มากกว่านี้
(ขอเสียมารยาท แต่งตั้ง)
คือเราไม่ได้อยากให้อิ๋งไปเถียงนะ
แค่อธิบายคำตอบของปัญหาอย่างมีเหตุผลให้เจนเก่าฟัง อย่างใจเย็น
ขออนุญาตติชมตามตรงว่า เราไม่แน่ใจว่าคอนเซปต์รายการนี้จะเหมาะกับคุณอิ๋งจริง ๆ ไหม เพราะเท่าที่ดูจากในรายการนี้ คุณอิ๋งอาจจะมีความคิดที่อยากจะออกจากกรอบจากเกณฑ์ที่ถูกขังอยู่ก็จริง แต่สิ่งที่คุณอิ๋งให้ความสำคัญมากกว่าคือความรู้สึกของคุณพ่อคุณแม่ นั่นเท่ากับว่าคอนเซปต์การกระเทาะหินออกมาเจอโลกกว้างที่เปรยไว้ อาจจะเป็นไปไม่ได้ อาจจะเป็นไปได้ยาก หรือสุดท้ายต่อให้มันเป็นไปได้ อาจจะมีวันหนึ่งที่คุณอิ๋งกล้าสักขึ้นมาจริง ๆ ในสัก episode นึง แต่เราไม่แน่ใจเลยว่าตัวคุณอิ๋งเองจะโอเคกับคลื่นความรู้สึกจากครอบครัวที่จะถาโถมเข้ามาได้ไหม
ในมุมคนดูแน่นอนว่าก็ต้องเชียร์ให้เถียงไปเลยสิ สู้ไปเลยสิ ตัวเราสำคัญที่สุดนะ บลา บลา เอาจริงเราก็คิดงี้แหละ ตอนดูก็แอบคิดว่าถ้าเป็นตัวเองคงซัดกลับไม่ยั้งเหมือนกันถ้าโดนห้ามสัก แต่สุดท้ายแล้วคนที่จะตัดสินใจได้ว่าควรทำแบบไหนคือคุณอิ๋ง เพราะครอบครัวแต่ละคนไม่เหมือนกัน สิ่งที่เราให้ความสำคัญก็ไม่เหมือนกันอีก สำหรับคุณอิ๋งสิ่งที่สำคัญคือพ่อแม่ และสำหรับคุณอิ๋งที่โตมากับการเลี้ยงดูแบบนี้ตลอดทั้งชีวิต อยู่ดี ๆ จะให้กลายเป็นสาวมั่นใจพูดจาตอบโต้ได้ว่าตัวเองต้องการอะไร มันเป็นไปไม่ได้ ซึ่งพอคุณอิ๋งไม่เถียงหรืออธิบายกลับไปบ้างมันก็เลยไม่ตรงกับสิ่งที่คนดูคาดหวังอยากจะเห็น
เราคิดว่าสิ่งสำคัญคือ ตัวคุณอิ๋งเองอาจจะต้องถามตัวเองก่อนว่าสุดท้ายแล้วตอนนี้ ทางไหนที่คุณเห็นว่าเป็นสิ่งที่ใช่และอยากไปมากกว่า ระหว่างการลองออกจากกรอบไปทำในสิ่งที่ตัวเองต้องการ หรือการเป็นลูกที่คุณพ่อคุณแม่สบายใจเหมือนที่เคยเป็นมาตลอด เราคิดว่ามันมีความจำเป็นที่จะต้องเลือกสักทาง เพราะอย่างที่พูดมาว่าถ้าวันนึงคุณอิ๋งออกจากกรอบจริง แต่ต้องรับมือกับความรู้สึกของพ่อแม่ ก็กลายเป็นตัวเองจะเสียใจไปด้วยซะเปล่า ๆ อาจจะต้องลองชั่งน้ำหนักดูค่ะว่าใจไปที่ทางไหน เพราะเราคิดว่ารายการนี้ต้องเลือกสักทาง ระหว่างการเป็นรายการที่คุณอิ๋งฮึดและสู้กับกรอบที่ขังอยู่ กับ ไม่ต้องมีรายการนี้ไปเลย เพราะถ้ามันเป็นแบบตอนแรกที่ได้รับชมกันนี้ เราไม่แน่ใจว่ามันจะเป็นประโยชน์กับใครได้บ้าง ไม่ว่าจะเป็นคุณอิ๋งที่สุดท้ายก็ไม่ได้ลองทำอะไรนอกกรอบอย่างที่ตั้งใจไว้ แถมยังต้องเสียพลังงานชีวิตจากการถูกคุณพ่อคุณแม่ต่อว่า, คุณพ่อคุณแม่ที่ต้องมารับกระแสวิจารณ์จากคนบนโลกอินเทอร์เน็ตจำนวนมาก, คนในสังคมที่ได้รับชมสื่อที่เสนอภาพการเลี้ยงดูแบบเป็นเจ้าเข้าเจ้าของชีวิตลูก แถมยังแอบแก้ตัวให้อีกด้วยว่าเพราะโตมาคนละเจนเลยเป็นแบบนั้น มันก็ละม้ายคล้ายกับเป็นการไปสร้างความชอบธรรมให้การกระทำของคุณพ่อคุณแม่ไปโดยปริยาย
นอกจากเรื่อง Generation Gap แล้ว
ก็คงจะมีเรื่องการปลูกฝังและเลี้ยงดูอะไรต่างๆด้วย
เรื่องสักเลยเป็นเรื่องใหญ่มากๆในบางครอบครัว แต่ก็เป็นเรื่องที่เฉยๆมากในบางครอบครัวเช่นกัน
ส่วนตัวสักมาก่อนค่อยไปให้พ่อแม่ดู แต่เขาไม่ได้ว่าอะไรเพราะที่บ้านค่อนข้างจะหัวสมัยใหม่ แล้วก็สนิทๆกัน มีอะไรคุยกันตลอด
ฮือ พี่อิ๋งเก่งมาก นี่เข้าใจถึง Generation Gap ที่ต่างกันเลย แต่เข้าใจว่าครอบครัวห่วงมากๆเพราะปัจจุบันก็มีงานข้าราชการหรืออื่นๆที่ไม่ให้สักอยู่ เป็นกำลังใจให้พี่อิ๋งนะคะ คนสวยไม่ร้องไห้ ฮึ้บบบ!!💗
คหสต.ของเราเลยนะคะ เรารู้สึกได้ถึงความอึดอัดจริง ๆ ความรู้สึกมันตีกันในหัวมาก ๆ จริง ๆ เราแอบเสียดายที่คุณอิ๋งไม่ได้สักรูปไดโนเสาร์ เราอยากรู้มากว่าถ้าสักมาแล้วจะเป็นยังไงต่อ เราไม่ได้ว่าทางครอบครัวคุณอิ๋งนะคะแต่อยากให้ได้เก็บเอาไปคิดกันว่า ถ้าเขาอยากทำมากจริง ๆ คุณมีสิทธิ์อะไรที่จะห้ามเขา ความเป็นผู้ปกครองหรอ? แล้วสิทธิมนุษยชนของเราล่ะ สิทธิ์การตัดสินใจล่ะ? แล้วถ้าเขาทำมาแล้วจริง ๆ คุณไปด่าเขาแล้วคุณเปลี่ยนอะไรได้ คุณคิดว่าการด่าจะทำให้เขารู้อะไรหรอ ความเป็นจริงมันคือ base on ความรู้สึกต่างหาก คุณด่ามันก็แค่ทำให้เขาคิดว่าถ้าทำอีกจะโดนด่า ถ้าทำในสิ่งที่ชอบจะไม่ถูกรัก คุณอยากให้ลูก หลานคิดแบบนั้นจริง ๆ อะหรอ การไม่ได้ใช้ชีวิตที่เป็นของตัวเองมันน่าเสียดายมากเลยนะ ไม่คิดจะเปลี่ยนความคิดมาเคารพในสิ่งที่ดยากทำมารักเขาด้วยทุกอย่างที่เขาเป็นและพร้อมจะยอมรับในตัวเขาบ้างหรอ อะไรที่มันไม่ผิดกฎหมายไม่ทำให้ใครเดือดร้อนก็อย่าไปว่าเขาเลย มันไม่จำเป็นและไม่มีเหตุผลและขออย่ายกความไม่สบายใจของตัวเองมาใช้เพราะมันคือสิทธิ์ของเขาร่างกายของเขา คุณต่างหากที่ไม่มีสิทธิ์
สงสารคุณอิ๋งอ่า ป๊าม๊าไม่เครพการตัดสินใจของลูก ไม่เครพร่างกายของลูกเลย บอกทำให้ป๊าม๊าผิดหวัง บอกว่าไม่เคนพป๊าม๊า เเต่ตัวป๊าม๊าอ่าเครพคุณอิ๋งบ้างมั้ย? ขอให้ป๊าม๊ามาอ่านคอมเม้นคลิปนี้นะคะ หวังว่าป๊าม๊าจะได้ข้อคิดอะไรบ้าง สู้ๆนะคะคุณอิ๋ง ไม่ค่อยชอบรายการนี้เเฮะทำให้คุณอิ๋งเดือดร้อนเเต่ถ้าคุณอิ๋งมีความสุขเค้าก็ยินดีมากๆค่ะ❤️
เกิดมาทั้งที ตัวเราชีวิตเรา พ่อแม่เเค่ผู้ให้กำเนิดไม่ใช่เจ้าของชีวิตเราเนอะ
โอ้ย สงสารมาก ทำไมต้องเป็นเรื่องใหญ่ขนาดนี้ รู้สึกโชคดีที่แม่ผมเป็นเข้าใจทุกอย่าง ต่อให้ทำอะไรผิดพลาดมา ก็ไม่ซ้ำเติม แต่จะสอนด้วยเหตุผล และบอกให้เราจำเป็นประสบการชีวิต ชอบรายการนี้ครับ แต่ไม่อยากให้น้องอิ๋งโดนที่บ้านโกรธอีก สู้ๆครับ
พอดีเราไม่ได้ถูกเลี้ยงดูมาแบบคุณอิ๋ง อาจจะไม่เข้าใจทั้งหมดว่า มันเป็นเรื่องน่าอึดอัดใจขนาดไหนในการที่จะทำอะไรตามใจตัวเอง ส่วนตัวมองว่า ในเมื่อคิดคอนเทนต์แบบนี้มาแล้ว สิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดเลย คือ ความคิดพ่อแม่คุณอิ๋งเปลี่ยนยากค่ะ จะยืนยันหรือจะค้านหัวชนฝาว่าเป็นสิทธิในร่างกายเราก็คงเป็นเรื่องลำบากใจสำหรับคุณอิ๋งมากแน่ ๆ แต่ถ้าคุณอิ๋งต้องการจะกระเทาะเปลือกออกบ้าง โดยไม่ต้องมานั่งรู้สึกผิดกับตัวเองขนาดนี้ คุณอิ๋งต้องทำให้พ่อแม่เข้าใจให้ได้ค่ะ ว่าคุณอิ๋งโตแล้ว จริง ๆ มันไม่ใช่เรื่องที่ต้องมานั่งพิสูจน์ตัวเองด้วยซ้ำ เพราะมันเป็นสิทธิ และ พ่อแม่ไม่ใช่เจ้าของชีวิต แต่ดูจากครอบครัวคุณอิ๋งรวมถึงตัวคุณอิ๋งเองก็คิดว่าควรทำแบบนั้นค่ะ ต้องเปลี่ยนไปพร้อม ๆ กัน
ยกตัวอย่างค่ะ สมมติเรื่องสัก ถ้าคุณอิ๋งหนักแน่นพอที่จะบอกว่า ตัวเองคิดมาดีแล้ว จะสักใต้ร่มผ้า หรือถ้าเป็นนอกร่มผ้า คุณอิ๋งคิดมาดีแล้วว่า จะยอมรับผลตรงนั้นได้ เลือกการงานที่จะไปต่อชัดเจนแล้ว ถ้าไม่ไหวจะไปเลเซอร์ออก หรือจะทนใส่แขนยาวไปตลอดชีวิตอย่างที่พวกท่านว่า คุณอิ๋งก็คิดมาดี ไตร่ตรอง และใช้วิจารณญาณแล้ว สิ่งหนึ่งที่เห็นเลย คือ พ่อแม่คุณอิ๋งเป็นห่วงว่าคุณอิ๋งจะคิดไม่รอบคอบอะค่ะ อาจจะเป็นเพราะการเลี้ยงดูหรือพฤติกรรมที่คุณอิ๋งให้อำนาจตัดสินใจกับพ่อแม่มากเกินไปหรือเปล่า จนท่านกลัวการตัดสินใจตัวเองของคุณอิ๋ง อันนี้ก็ไม่ทราบได้ค่ะ คำบอกกล่าวเกี่ยวกับเรื่องไปสักของคุณอิ๋งมันไม่มีน้ำหนักพอสำหรับพวกท่านค่ะ
ยังไงก็ตาม ทั้งหมดทั้งมวลที่ว่ามานี้ ก็ไม่ได้คิดว่าจะทำให้คุณพ่อหรือคุณแม่คุณอิ๋งเปลี่ยนแปลงความคิดได้ทันทีนะคะ แต่คุณอิ๋งต้องพิสูจน์ตัวเองให้เห็นทีละนิด ต้องค่อย ๆ กระเทาะเปลือกออก ต้องให้เห็นว่า สิ่งต้องห้าม หรือสิ่งที่คุณอิ๋งคิดว่าจะทำให้พ่อแม่เสียใจเนี่ย มันเป็นสิทธิ และคุณอิ๋งก็มีความสามารถในการไตร่ตรองสิ่งต่าง ๆ มากพอที่จะให้โอกาสตัวเองแล้ว คุณอิ๋งไม่ใช่เด็ก ๆ แล้วนะคะ
สุดท้ายนี้ อย่างที่หลายคอมเมนต์บอก มันไม่ได้ให้การเปลี่ยนแปลงอะไรเลย แต่ก็คิดว่ายังคงเป็นพื้นที่ที่ทำให้หลายคนเข้ามาแชร์ประสบการณ์ได้อยู่ ถ้าจะทำคอนเทนต์นี้ต่อไป คุณอิ๋งต้องเข้าใจใน “สิ่งใหม่ ๆ” ที่จะลองทำก่อนนะคะ ต้องเข้าใจว่า มันไม่ใช่เรื่องที่จะมานั่งเสียใจกับอะไรแบบนี้อะค่ะ ถ้าพ่อแม่คุณเสียใจเพราะเขาโตมาแบบนั้น ใช้ชีวิตมาแบบนั้น คุณอิ๋งก็ต้องเข้าใจเขาแค่ตรงนั้นค่ะ มานั่งติดกรอบเดิม ๆ จะไม่ได้โตขึ้นเลยนะคะ สุดท้ายคอนเทนต์นี้มันจะกลายเป็นการแกล้งพ่อแม่เฉย ๆ อะค่ะ
พ่อแม่ใช้อารมณ์ล้วนๆเลยค่ะ ถึงจะบอกว่าใช้เหตุผลแต่เป็นเหตุผลจิงตนโดนไม่ได้ฟังจากลูกเลย
อยากให้คุณพ่อคุณแม่พี่อิ๋งมาอ่านคอมเม้นคลิปนี้มาก ใจร้ายมากเลยนะคะ ให้เขาใช้ชีวิตอยู่ในกรอบแล้วยังไม่ให้เขาไปทำอะไรที่เขาอยากทำทั้งๆที่ไม่ใช่เรื่องผิดอะไรด้วยซ้ำ พี่อิ๋งก็ยังเป็นคนดีคนน่ารักเหมือนเดิม พ่อแม่ไม่ใช่เจ้าของชีวิตลูกนะคะ🥺
คนไทยติดนิสัยอย่างนึงคือชอบเอาเปรียบเด็ก หาเหตุผลที่ทำให้เด็กต้องอยู่ในกรอบที่คัวเองขีดไว้เช่น กว่าพ่อแม่จะเลี้ยงเรามาเสียไปเท่าไหร่ แล้วถ้าถามในมุมมองพุทธว่า เด็กอยากเกิด หรือพ่อแม่ทำให้เขาเกิดมาเจอกับโลกที่โหดร้ายแบบนี้กันล่ะ ใครกันที่ทำให้เขาเจอกับความทุกข์ ก่อนจะทวงบุญคุณเคยคิดเรื่องนี้กันบ้างมั้ย?
พ่อแม่เลือกได้ แต่เด็กเลือกเกิดไม่ได้ ทำไมถึงต้องบังคับให้เขาเป็นในแบบที่ใจต้องการอีกล่ะ
ตอนท้ายที่บอกว่าพ้อยที่จะสื่อคือ ' คนสักไม่ใช่คนไม่ดี '
แต่เราว่าพ้อยที่ตั้งใจจะบอกแต่แรกคือการออกจาก " ไข่ในหิน " คือสามารถตัดสินใจและทำในสิ่งที่ต้องการได้
บทสรุปของอีพีนี้ก็ยังคงเป็นไข่ในหินต่อไป
ปล.เหมือนกับหลายๆความเห็น อยากเห็นการพูดคุยอธิบายของคนเป็นลูก แต่เข้าใจว่ามันยากจริงๆกับบางทีที่ไม่สามารถคิด เรียบเรียง และพูดออกมาได้ทันทีในเวลานั้น
เป็นกำลังใจให้รายการทำหน้าที่ได้ดีขึ้นไปอีกค่ะ
ลูกเข้าใจพ่อแม่มากๆๆ แต่ทำไมพ่อแม่ไม่ปรับตัวให้เข้าใจลูกบ้างเลย
ชั้นผู้ร้องไห้ตามพี่อิ๋งเลย เข้าใจมากๆ แบบเสียใจที่ทำให้พ่อแม่เสียใจอะะ แต่ก็ชอบรายการแบบนี้นะะ ให้หนูออกจากหินบ้างง ซักเรื่องสองเรื่องก้ยังดี
ดูอิ๋งแล้วเข้าใจเลย ร้องไห้ตาม บางเรื่องมันเป็นเรื่องเล็กสำหรับหลายครอบครัว แต่สำหรับเรามันคือเรื่องใหญ่มาก ๆ ร้องไห้เพราะเราไม่อยากให้พ่อกับแม่ผิดหวังในตัวเราเท่านั้นเอง
ในฐานะลูกคนจีนยิ่งระบบบ้านเป็นระบบกงสี เป็นพี่ชายคนโตของครอบครัวด้วย(คนจีนด้วยกันจะรู้ดีถึงความเข้มงวด) ทำอะไรไม่มีอิสระในชีวิตเลย เข้าใจอิ๋งมากเลย เข้าใจในม๊าและป๊าด้วย แต่จากใจผมเลยนะ ผมอยู่ด้วยความอดทนอย่างเดียวอะ มันทำอะไรไม่ได้เลย มันเลือกอะไรในชีวิตไม่ได้ด้วย มันเป็นอะไรที่กดดันมากที่ผู้ใหญ่จะเอาความคิดตัวเองเป็นใหญ่แบบนี้ ขนาดตอนนี้ผม26 แต่เขาต้องการหลานแล้ว จะคลุมถุงชนลูกเดียวเลย ผมทนมาจนปีที่แล้ว ที่มีกลุ่มย้ายประเทศ ในที่สุดผมก็ตัดสินใจแล้วว่าจะไปเรียนต่อ ตปท อนาคตน่าจะไม่กลับมาละ สุดท้ายสิ่งที่เราอยากทำ ถ้ายังอยู่ในจุดนี้มันจะไม่มีทางหนีออกไปได้เลย สำหรับผมมันคือ leap of faith จริงๆอะ เห็นใจอิ๋งจริงๆ
สำหรับเราดูแล้วมัน trigger เรามาก แบบมากๆ (เข้าใจว่ารายการไม่ผิดอะไร และเราต้องไปจัดการความรู้สึกตัวเอง) เราก็มีพ่อแม่แบบนี้ ซึ่งเราเหมือนโดนพรากความสุขในชีวิตไปตลอดเวลา จนเราโตมาถึงตอนนี้ เราไม่กล้าที่จะมีความสุขด้วยซ้ำ ไม่กล้าที่จะสุขมาก เพราะรู้สึกผิด เรากลายเป็นคนไม่ภูมิใจในตัวเองไปเลย
ตามมาจาก Twitter ค่ะ เข้าใจ point
ของรายการนะคะ ว่าเจตนาที่คิดขึ้นมาเป็นเเนวไหน เเต่อันนี้คือไม่ได้รับพลังบวกอะไรเลยค่ะ รู้สึกลบเสียด้วยซ้ำ ตอนตัดคลิปพวกพี่ๆทีมงานน่าจะต้องตรวจดูก่อนอยู่เเล้วใช่ไหมคะ ว่าสมควรเอามาเผยเเพร่เป็น public ไหม รู้สึกว่าคลิปนี้ส่งผลเสียต่อตัวคุณอิ๋งมาก ทั้งความรู้สึกที่เห็นในคลิป แล้วต้องมาเจอบ้าง comment ที่วิจารณ์พ่อเเม่ตัวเองอีก ยังไงเป็นกำลังใจให้คุณอิ๋งนะคะ
อยากเป็นกำลังใจให้พี่อิ๋งค่ะ หลายคนอาจจะวิจารณ์กันต่างๆนาๆว่า อยากให้มีพาร์ทที่พูดคุยเห็นผลกันมากกว่านี้ แต่เราเข้าใจเลยว่าแค่การกล้าที่ทำมันก็ยากมากๆแล้ว บางอย่างต้องใช้เวลา ค่อยๆพัฒนากันไป
เราอยู่ในสังคมที่สภาพแวดล้อมต่างกัน ตลอดกี่ปีที่เราใช้ชีวิตโดยการเชื่อฟังพ่อแม่มาตลอด อะไรที่บอกว่าไม่ก็คือไม่ แต่พอมาวันนี้ที่เราอยากจะเป็นตัวเองมากขึ้น พ่อแม่ก็อาจจะปรับตามไม่ทันอ่ะ (ซึ่งทั้งๆที่ชีวิตเรา เราเป็นคนเลือกหรือตัดสินใจเอง)
ขอบคุณพี่อิ๋งที่มาช่วยเป็นอีกหนึ่งเสียงให้ในไข่ในหินอย่างเราๆ เข้าใจว่าepแรกๆมันยากที่จะพูดคุยเรื่องเหตุผล แต่ไปเรื่อยๆ เชื่อว่าทิศทางของรายการนี้จะดีขึ้น เป็นกำลังใจให้ค่ะ
ถ้าทำอะไรที่พ่อแม่อนุญาตต้องขอความเห็นชอบก่อนไม่เรียกว่าออกนอกกรอบนะคะ เข้าใจความรู้สึกของอิ๋งที่โดนเลี้ยงแบบนี้การอยู่เป็นครอบครัวใหญ่เวลามีเรื่องทำให้ไม่สบายใจบรรยากาศในบ้านจะไม่ดีแต่ถ้าเป็นสิ่งที่อิ๋งอยากทำจริงๆ แบบในใจอย่างทำจริงๆเลยไม่ได้จะเอาคอนเท้นอยากให้ทำไปเลยค่ะ เพราะชีวิตใครชีวิตมัน พ่อแม่ห่วงได้นะคะ หวังดีได้บอกเหตุผลว่าไม่อยากให้ทำเพราะอะไรแต่การตัดสินใจสุดท้ายก็คือตัวเราอยู่ดี
แล้วตอนท้ายคลิป การที่บอกว่าเข้าใจว่า “ไม่ได้ว่าว่าคนสักเป็นคนไม่ดี คนสักเป็นคนดีเยอะแยะ” (แต่ยังไงก็ไม่ให้ลูกสัก) ก็เหมือนกับการที่บอกว่า “ยอมรับ LGBTQ+ แต่ถ้าลูกตัวเองเป็นรับไม่ได้” 2 ประโยคนี้แทบไม่ต่างกันเลยนะคะ ฝากไว้ให้คิดค่ะ
อ่อ ถ้าจะทำรายการนี้ต่อแล้วต้องได้รับอนุญาตจากที่บ้าน หรืออิ๋งต้องมานั่งเครียดที่ทะเลาะกับที่บ้านทุก Ep ก็อยากให้คิดอีกทีนะคะว่ารูปแบบรายการแบบนี้โอเคจริงมั้ย ขอบคุณค่ะ
ว้าววว คลิปนี้เราเห็นคำว่า contrast จริงๆ มันไม่มีอะไรผิดถูก คนแต่ละคน ครอบครัวแต่ละครอบครัวก็โตมาในเเบบที่แตกต่างกัน ทุกคนต่างมีเหตุผลในการกระทำของตัวเองทั้งนั้น ก่อนที่จะตัดสินอะไรต้องใช้เหตุผลเยอะๆ ในกรณีของการสักถ้าวันนึงเลี้ยงตัวเองได้ เลี้ยงพ่อแม่ได้ ถ้าเขามั่นใจว่าเรายืนได้อย่างเเข็งเเรง เราจะทำอะไรก็ได้แล้วแหละครับ เพราะถึงแม้พ่อแม่จะเเสดงออกเหมือนเป็นเจ้าของชีวิตเราก็เถอะ แต่เขาก็ base on ความเป็นห่วงเรา แค่การเเสดงออกเขามันเป็นรูปเเบบของคนสมัยเก่าเท่านั้นเอง มันอาจจะไม่แฟร์กับคนเป็นลูกแต่ก็อยากให้เข้าใจกันนะครับผม เป็นกำลังใจให้ทุกคนที่ประสบปัญหาเเบบนี้
โดยส่วนตัวว่ามันเป็นปัญหาที่ความสบายใจครับ ถ้าเราทำไปแล้ว ความไม่สบายใจมันอยู่กะตัวเราอันนี้ ก็อยู่ที่เราล้วนๆครับ ร่างกายเรา มันอยู่ที่เราแหละแต่ถ้าเกิดมันเป็นเรื่องใหญ่แบบทั้งป๊าทั้งม๊าไม่สบายใจ และตัวเราเองพลอยเป็นไปด้วยส่วนตัวว่า อาจจะไม่ใช่เรื่องที่ดีครับ แต่ควรต้องอธิบายให้ม๊าและป๊าเข้าใจนะว่า การสักมันอาจจะมีปัญหาไปต่อยอดในงานบางอย่างในอนาคตไม่ได้ ครอบครัวอิ๋งโตมากกะข้าราขการ ก็จะมีโมเม้นต์ด้านนี้ว่าการสักอาจจะส่งผลถถึงอนาคตที่อาจจะเลือกงานบางอย่างไม่ได้ และต่อให้เล็กแค่ไหนก็อาจจะมีปัญหาถ้ามีผุ้บังคับบัญชาเกิดเห็น อันนี้เข้าใจเลยครับ แต่ในสมัยนี้น่ะมันลบได้ครับแต่อาจจะเสียเงินและ เวลามากขึ้น แต่เลเซอร์ลบได้อยู่ถ้ามันเล็กไม่ใหญ่ แต่โดยส่วนตัวว่าป๊าและม๊าคงห่วงเรื่องงานรรึอื่นๆมากกว่าแลดูเค้าเป็นห่วงในจุดนี้้ แต่โดยส่วนตัวว่าแกยังซอฟกว่าบางบ้าน ถ้าบางบ้านนี่ขัดคำสั่งอาจจะมีบอยคอตขั้นหนักเลย
คนสักไม่ใช่คนไม่ดี แต่ถ้าเป็นลูกชั้น ชั้นรับไม่ได้..
กะเทยไม่ใช่คนไม่ดี แต่ถ้าลูกชั้นเป็นกะเทย ชั้นรับไม่ได้..
ขอให้ออกจากหินได้ไวๆนะคะ อิ๋งอายุเท่าเราเลย เราก็เคยเป็นไข่ในหินมาก่อน หลายอย่างมันลำบากมาก เราเพิ่งมาทำเป็นตอนโต ถ้ารับผิดชอบตัวเองได้แล้ว ก็กะเทาะหินออกมาเลย ชีวิตเป็นของเรา ไม่ใช่ว่าเราไม่แคร์พ่อแม่ แต่เพราะว่าชีวิตเป็นของเรา เราต้องทำให้เขาเข้าใจจุดนี้ก่อน จริงๆตอนเรากะเทาะคือยังรับผิดชอบตัวเองไม่ได้ แต่มีแฟนมาช่วยกะเทาะให้ ดูแลให้ เราเลยทำอะไรเป็นหลายๆอย่าง กะเทาะแรกที่เราทำเองคือการมีแฟนด้วยซ้ำ เข้าใจว่าพ่อแม่เป็นห่วง แต่ว่าเราก็ไม่ได้ไปสำมะเลเทเมาที่ไหน ไม่ได้เดือดร้อนใคร เป็นกำลังใจให้นะ เราเข้าใจดีว่าอิ๋งแคร์ที่บ้านมาก ไม่อยากให้เขาผิดหวังในตัวอิ๋ง เราก็เป็น แต่ว่า คนเรามันก็ต้องมีชีวิตเป็นของตัวเองอะ จะดีจะเลว ผิดพลาด สมหวัง ผิดหวังมันต้องมีอยู่แล้ว พ่อแม่ต้องรับสภาพเราให้ได้ในทุกอย่าง เพราะสิ่งที่เราทำมันไม่ผิดเลย
เราเป็นคนนึงที่อดีตอยู่แต่ในกรอบ จนถึงจุดๆนึงรู้สึกว่า ความคิดของผู้ใหญ่ไม่ได้ถูกต้องเสมอฟัง ฟีลแบบ เค้าต้องการให้เราฟังเค้าแต่ทำไมเค้าไม่รับฟังกันบ้าง นี่ก็เลยมองว่า ชีวิตเป็นของเราค่ะ ใช้ซะ!
แต่ว่า ใดๆคือยอมใจคุณอิ๋งมากค่ะ เป็นคนน่ารักที่แคร์ครอบครัวมากๆเลยอ่ะ นี่ดูก็น้ำตาไหลตามนะ เข้าใจฟีลไม่อยากทำให้เค้าผิดหวัง แต่ก็คือคิดว่าถ้าเป็นตัวเอง อยากทำก็คงทำอยู่ดี ถ้าไม่ได้เดือดร้อนใครอ่ะนะคะ
my body my choice ครับ เชื่อว่ากาลเวลาผ่านไป สิ่งนี้จะชัดขึ้น และวัยรุ่นเราพอโตไป ก็จะเป็นพ่อแม่รุ่นต่อไปที่เปิดใจอะไรแบบนี้ครับ ไม่มีใครผิดครับเคสนี้ ต่างความคิด และสิ่งที่ปลูกฝัง
เหมือนดูตัวเองเลย
ทุกๆอย่างมันมีเหตุผล แต่บางทีเราต้องอย่าเสียการเป็นตัวเองนะ สู้ๆๆ💗
เห้อ 555555555555 ปัญหาใหญ่ของเอเชียนพาเร้นเลยค่ะ เส้ามาก อยากสักเหมือนกัน แต่ก็เกรงใจที่บ้าน ตีกับความคิดในหัวตลอดค่ะ เห้ย แต่เราเป็นคนเจ็บนะ มองแล้วไม่ชอบก็จัดการตัวเองสิ สุดท้ายความเกรงใจก็ครอบงำอยู่ดี 😥
ป๊าม๊าโชคดีมากที่มีลูกเป็นอิ๋งอะ ไม่อยากจะคิดถ้าพ่อแม่เราห้ามแบบนี้ เราน่าจะยิ่งทำ (เป็นพวกยิ่งห้ามยิ่งยุ 555)
เราเองโชคดีมากที่แม่เราไม่ห้ามอะไรเลย แค่ให้อยู่ในความระวัง เราเลยไม่เคยลองเพราะแม่ไม่ห้าม งงมะ🤣🤣
เอาจริงๆต่อให้อิ๋งสักลายไดโนเสาร์จริงๆ ก็ไม่ได้ขัดขวางกับงานราชการเลย เพราะตำแหน่งน้องสักในร่มผ้าจริงๆ ในชีวิตจริงไม่มีข้าราชการคนไหนแต่งสายเดี่ยวแขนกุดไปทำงานนี่คะ เราต่างใส่ชุดสุภาพตอนทำงานทั้งนั้น ถ้าน้องต้องการสนุกในกาลเทศะที่เหมาะสม ก็ปล่อยให้ลูกได้มีความสุขบนพื้นที่ร่างกายเล็กๆของเค้าบ้างเถอะค่ะ
ทั้งนี้อยากฝากพ่อแม่ทุกคนค่ะว่าอะไรที่เป็นความสุขลูกจริงๆก็อย่าไปขัดขวางเค้าเลยเพราะเราไม่ได้อยู่กับเค้าตลอดชีวิต สู้อยู่กันด้วยความสุขในทุกช่วงเวลาดีกว่านะ
สุดท้ายจริงๆละ สู้ๆนะอิ๋ง กอดดดด
ไม่รู้เลยว่าคลิปนี้จะให้อะไรคนดู ไม่ต่างอะไรกับบางช่องที่ชอบแกล้งคน แกล้งดราม่าเอาคอนเท้น
คลิปนี้ไม่ได้ช่วยลด generation gap ไม่ได้ช่วยให้ผู้ใหญ่เปิดใจ “เคารพตัวตน” ของลูกเลย กลับทำให้ปัญหาความแตกต่างระหว่าง gen มันแก้ยากขึ้นเพราะ การโกหกในคลิปนี้พ่อแม่จะคิดว่า ลูกไม่กล้าทำจริง control ลูกได้ ละเมิดสิทธิในร่างกายลูกได้ ทั้งๆที่น้องอิ๋งก็บรรลุนิติภาวะแล้ว
ฟังจากคำพูดน้องที่ว่าจะไม่ทำอะไรที่พ่อแม่ไม่ชอบ นั่นแสดงถึงว่าน้องเองก็ยังไม่เคารพสิทธิในร่างกายตัวเองเลย
ที่บ้านก็ไม่ให้สักเหมือนกันแต่แอบไปสักมา ตอนแรกลายเล็กๆที่ข้อมือ เป็นปีอยู่กว่าเขาจะเห็น เขาก็ตึงๆแต่ไม่ได้พูดอะไร ทีนี้ยิ่งได้ใจเลยไปเพิ่มลายที่ 2 ที่ 3 มา แต่เค้าก็ยังไม่เห็นอันอื่น แล้วกำลังจะเพิ่มลายที่ 4 แล้วตอนนี้ 555555 เข้าใจเขานะว่าไม่ชอบ แต่นี่ก็ร่างกายเรา ตัวเรา อีกอย่างเราประเมินและยอมรับผลในอนาคตไว้แล้วบวกกับสายงานที่ทำไม่ซีเรียสเรื่องนี้ สุดท้ายมันก็คือสิ่งที่เราชอบแล้วมีความสุขก็เลยตัดสินใจทำไปเลยค่ะ
พ่อแม่แบบนี้นี่สุดจัด 555
ครอบครัวไม่ชอบตรงนี้ เห็นแล้วไม่สบายใจ แล้วการที่ลูกชอบล่ะคะ บอกลูกไม่เคารพพ่อแม่ แล้วพ่อแม่เคารพในตัวลูกมั้ย เคารพความชอบลูกมั้ย พ่อแม่โดนปลูกฝังมา ก็ไม่ใช่ว่าจะต้องมาปลูกฝังลูกต่อนะคะ ขอโทษจริงๆที่เราไม่เข้าใจความแตกต่างนี้ สงสารพี่อิ๋งมากเลย
เราชอบแนวคิดของรายการนี้นะคะ ตอนนี้โลกมันเปลี่ยนไปแล้ว บางอย่างเก่าไป บางอย่างใหม่มา เราก็เลยคิดว่ารายการนี้น่าจะปรับสิ่งที่เก่ากับสิ่งที่ใหม่ให้มาอยู่ตรงกลางได้ ตอนแรกที่ดูเรานึกว่าจะไปสักจริงๆ แล้วทำให้พ่อกับแม่เข้าใจได้ด้วยเหตุผล แต่พอดูจบแล้ว อ้าว ไม่ได้สักนี่นา ก็ไม่เป็นไร พอดูจนจบแล้วสุดท้ายเจนพ่อแม่กับเจนเราก็ไม่ได้มาอยู่ตรงกลางค่ะ อยากให้ปรับปรุงรายการนี้ค่ะ อาจจะไปทำสิ่งที่ไม่เคยทำ พ่อกับแม่รับไม่ได้ แต่สามารถคุยด้วยเหตุผลได้ เราว่าน่าจะดีกว่าค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ
ที่บ้านก็ไม่ชอบให้สักค่ะ แม่คือถ้าสักแนว minimal น่ารัก ๆ คือโอเค ชอบด้วย แต่พ่อนี่ไม่ได้เลย มีความคิดว่าถ้าผู้ชายสักคือพวกนักเลง ติดยา ถ้าผู้หญิงสักคือ ผู้หญิงขายตัว ทำงานกลางคืน หันกลับมาที่เรา ณ ตอนนี้ สักทั้งหมดเกิน 30 ที่ ไม่นับลายใหญ่ที่ต้อง 3-4 ครั้งถึงจบงาน
.
ตอนที่บ้านรู้ก็คือทำอะไรไม่ได้ อย่างแรกคือเราดื้อมาก แล้วเราก็ทำงานหาเงินเองแล้ว (สักครั้งแรก คือทำงานแล้ว) แต่พ่อจะพูดว่าเหมือนผู้หญิงกลางคืนเลย นี่เลยถามพ่อว่า พ่อไม่รู้รึไงว่าลูกตัวเองทำงานอะไร เค้าก็เลยแถไปข้าง ๆ คู พาลพาโลไปเรื่องอื่น คือการมีรอยาก 30 กว่าที่บนตัวเรา ไม่ได้ทำให้ประสิทธิภาพการทำงานลดลง เรายังเป็นเลขาที่ยอดเยี่ยม บ่อยมากที่ลูกค้า หรือคนที่ดีลงานจีบให้ไปทำงานด้วย บางทีก็พูดกับบอสเราตรง ๆ เลย ว่าถ้าไม่เอาเราแล้ว ขอเราไปทำงานกับเค้าได้มั้ย ประสิทธิภาพในการเรียนของเราก็ไม่ได้แย่ลง เรียน ป.โท เราก็มีงานที่ยอดเยี่ยม ธีสิสของเรานักข่าวก็จองไว้แล้ว ถ้าปิดเล่มเมื่อไหร่ขอทำข่าวนะ การมีรอยสักของเราก็ไม่ได้ทำให้เราพร่องมารยาทลง เรายังคงเข้าสังคมได้เก่ง เข้ากับผู้ใหญ่ได้ดี ไม่ใช่ว่าสักแล้วจะกักขฬะกว่าเดิมซักหน่อย ทำอาหาร ทำขนม เราก็มีฝีมือระดับทำขายได้ มีแต่คนบอกว่าอาหาร หรือขนมของเร่หาซื้อที่อื่นไม่ได้ อือ...เราก็ยังเป็นเราคนเดิมเหมือนตอนที่ยังไม่ได้สักนั่นแหละ มโนแจ่มกันไปเองกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง ติดอยู่ในบ่วง stereotype/representation ที่แสนจะเต็มไปด้วยอคติ
.
จริง ๆ การสักของเรามันมีความหมายมากกว่าความชอบหรือความสวยงามนะ การสักทำให้เรามีโอกาสได้ฉลองวันเกิดปีที่ 35 ของเราในวันนี้ได้ ถ้าไม่ได้สักเราอาจจะหายไปจากโลกนี้นานแล้วก็ได้ การสักเยียวยาความเจ็บปวดของเราได้ และทำให้เรายังมีเรี่ยวแรงที่จะอยู่บนโลกหม่น ๆ ใบนี้ต่อไป
เป็นกำลังใจให้นะคะ จากที่อ่านแล้วคุณเก่งมากเลย ขอให้มีความสุข มีรอยยิ้มเรื่อยไปเลยนะคะ ❤️
ป๊าม๊าก็บอกว่าว่าโดนปลูกฝังมา เอ้า ก็รุ้นิ แล้วจะมาถ่ายทอดให้ลูกต่อมาห้ามลูกทำไม
ครอบครัวเราก็คล้ายๆ ครอบครัวอิ๋งเลย เราเข้าใจครอบครัวนะว่ารักและเป็นห่วงมาก แต่เขาไม่ให้โอกาสหรือไม่พยายามทำความเข้าใจว่าเราชอบอะไร อยากทำอะไร หรืออยากเป็นอะไรเลยอะ เราไม่เคยรู้สึกว่าเขาพยายามทำความเข้าใจเราแล้วแม้แต่นิดเดียว ครอบครัวเลยไม่เคยเป็น safe zone แถมยังเป็น toxic zone สำหรับเราด้วย
เด็กที่ถูกเลี้ยงดูมาในครอบครัวแบบนี้ต้องอดทนมากนะ เหมือนต้องแบกความหวังของทุกคนไว้ตลอดว่า จะต้องเดินในเส้นทางที่ถูกต้อง ไม่ทำตัวเหลวไหลออกนอกลู่นอกทาง (ตามความคิดของคนในครอบครัว) เราต้องพยายามทำตัวให้ดีตลอดเวลา เพราะถ้าพลาดเมื่อไหร่ก็คือโดนซ้ำเติมก่อนทันที ทำให้เรากลายเป็นคนขี้ระแวงไปเลย เวลาจะทำอะไรทีต้องคิดเยอะมากๆ จนหลายครั้งเราต้องเสียโอกาสที่เราควรจะคว้าไว้ได้ให้มันหลุดลอยไปเฉยๆ
เลยอยากฝากถึงผู้ใหญ่ gen ก่อนๆ ว่าลูกๆ หลานๆ ของคุณรู้แหละว่าคุณรักพวกเขามาก แต่อย่าใช้ความรักหรือความเป็นห่วงของคุณไปตีกรอบชีวิตพวกเขาเลย กว่าคุณจะมีประสบการณ์หรือมีทุกวันนี้ได้ คุณก็เคยลองผิดลองถูกมาก่อนเหมือนกัน เรื่องบางเรื่องไม่เจอกับตัวไม่มีทางเข้าใจหรอก ชีวิตคนเรามันต้องผ่านการลองผิดลองถูกกันทั้งนั้นกว่าจะเจอทางที่ใช่ ทุกคนอยากเลือกสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับตัวเองอยู่แล้ว
สอนเราให้ได้เรียนรู้ที่จะล้มแล้วลุกขึ้นได้เองดีกว่าเอาแต่ป้องกันไม่ให้เราล้ม คุณจะได้สบายใจว่าเราสามารถยืนได้ด้วยตัวเองแล้ว คุณจะได้ไปพักผ่อน ไปใช้ชีวิตของคุณบ้างไม่ต้องคอยมาดูแลเราตลอดเวลา เราไม่ได้ต้องการอะไรมากมายเลย ขอแค่ในวันที่เราล้ม มีอ้อมกอดของคุณมาซัพพอร์ตก็พอ ไม่ใช่ต้องมาเจอคำพูดทิ่มแทงให้เสียกำลังใจ
ส่วนตัวมองว่าข้ามขั้นไปหน่อยสำหรับอิ๋ง เราก็โตมาในกรอบเหมือนกัน ปย.ที่บอกร้องเพราะทำพ่อแม่เสียใจก็คือไม่แปลกเลย อิ๋งไม่ได้ไปสักรอยจริงจัง แค่สักไฝมงคล ถ้าจะทำเราว่าน่าจะเอาช่วงจับเข่าคุยปรับทัศนคติมาก่อน ว่าเราอยากสักนะ นี่ร่างกายเรา โตแล้วบรรลุนิติภาวะแล้ว ถึงพ่อแม่ไม่อนุมัติแล้วเจ้าตัวอยากสักจริงๆก็ไปสัก เพราะได้แจ้งเจตจำนงค์ก่อนแล้วว่าสักนะ โครงสร้างครอบครัวแบบนี้เราว่ามันต้องค่อยๆ🥺 เป็นกำลังใจให้ทีมเสมอนะคะ
พี่อิ๋งเก่งมากๆๆ!! //ตลกตรงเ-ี้ยโบราณ 5555555
ดูจบแล้วเหมือนโดนคุณอิ๋งตบหน้าไปหนึ่งที .. สุดท้ายคอนเทนต์นี้ก็ไม่ได้แก้ไขปัญหา Generation Gap อย่างที่ตั้งจุดประสงค์ไว้ .. เลย ..
อย่างตอนคุณแม่พูดขึ้นมาว่าถ้าไปสักมาแล้ววันต่อไปทำงานห้ามเอารถไปใช้ นี่คือแบบ .. หืมมมม คือถ้าเป็นเราหรือเด็กยุคนี้ที่ทำงานหาเลี้ยงตัวเองได้
ก็จะ โอเค.. ได้ ทำงาน เก็บเงิน ซื้อปัจจัยต่างๆเป็นของตัวเองไปเลยจ้า สรุปแล้ว เอาจริงๆ ชีวิตลูกนี่พ่อแม่เป็นเจ้าของรึเปล่าครับ ..
อันนี้เป็นคำถามที่ผมมีคำตอบสำหรับตัวเองอยู่แล้วและหลายๆคนก็น่าจะคิดเหมือนกัน ว่าไม่ใช่อ่ะ .. ถ้าในยุคก่อนเขาอาจจะใช้คำว่า ปีกกล้าขาแข็ง ..
แต่ยุคสมัยมันเปลี่ยนไปไวมาก เพราะงั้นมันถึงเกิดคำว่า Generation Gap ไง .. คือเรารักพ่อแม่เรานะ แต่เราก็ไม่ยอมที่จะให้เขามากำหนดขีดชะตาชีวิตลูกอ่ะ
และเราก็จะทำแบบนี้กับลูกเราเหมือนกัน ส่งเสีย เลี้ยงดู ให้การศึกษาและปัจจัยที่ครบ แต่พอลูกโตทำงาน จะไปใช้ชีวิตตัวเอง ทำเลย สนับสนุน ไม่ต้องมาเลี้ยงดูก็ได้
ปล.ทุกวันนี้เวลากลับบ้านแม่ก็จะมาลูบแขนแล้วบอกว่า .. "พอแล้วเน๊าะ" เราก็จะสวนกลับไปว่า .. "หึหึ ยังไม่พ๋อออออออออ 55555"
ถ้าวันนึงคุณอิ๋งอยากสักจริงๆหรือสิ่งไหนที่อยากทำจริงๆแล้วทางบ้านรับไม่ได้ คุณอิ๋งต้องสู้เพื่อตัวเองนะคะ ถ้าเราไม่ผิดหวังในตัวเองก็ไม่มีใครมาผิดหวังในตัวเราได้ค่ะ
เราดูจนจบแล้ว และเราก็คิดว่าคอนเทนต์นี้ค่อนข้างจะ trigger คนบางกลุ่มอย่างที่มีหลายๆเม้นบอกจริง เราก็เป็นอีกคนนึงที่ไม่ค่อยจะโอเคเท่าไหร่ อย่างเช่นพาร์ทที่พี่อิ๋งร้องไห้เพราะคิดว่าที่บ้านผิดหวังในตัวพี่อิ๋งแน่ๆ ก็คือเราควรได้ใช้ชีวิตที่เราหวังไม่ใช่หรอ สิทธิ์เรา ร่างกายเรา อีกอย่างการใช้ชีวิตบนความสบายใจของคนอื่นมันไม่ได้สนุกเลยนะ
คิดได้หลายมุมมองนะ
1.ถ้าตอนเราเป็น"ลูก"คงอยากทำสิ่งที่ตัวเองชอบ อาจจะฟังคนรอบข้างบ้าง & ไม่สนเลยก็มี
2.ถ้าเราเป็น"พ่อแม่"ในวันหนึ่ง ลองถามตัวเองดูว่า 1.การมีลูกที่ไม่รับฟังเราเลย จะเป็นอย่างไร 2. มีลูกที่ปรึกษาเราได้ทุกเรื่อง อาจจะทำหรือไม่ทำ อย่างน้อยก็ดีที่ปรึกษากัน 3.มีลูกที่อยู่ในโอวาท ฟังทุกอย่าง พูดคำไหนคำนั้น
อยากให้ลูกเป็นแบบไหน ?
(ส่วนตัว 2 )
แต่นั้นแหละเราว่าทุกอย่างที่ทำมันมีผลตามมาเสมอแหละ
ดูแล้วน้ำตาคลอจะร้องไห้ไปด้วยเลยค่ะ เราเข้าใจครอบครัวอิ๋งนะแล้วก็เข้าใจตัวอิ๋งด้วย แต่ใดๆคือเราอยากบอกอิ๋งว่า ถ้าวันนึงอิ๋งเจอสิ่งที่ตัวเองอยากทำมากๆ แบบมันคือความสุขที่สุดในชีวิตอิ๋ง เราอยากให้อิ๋งทำมันนะ แม้ว่าคนที่บ้านจะไม่ชอบ แต่อิ๋งแค่ต้องแน่ใจว่า มันจะไม่ทำให้ใครเดือดร้อนทั้งในวันนี้และอนาคต เพราะเราคิดว่าการที่เรายอมเข้าใจเค้าทุกอย่างแม้กระทั่งทิ้งความสุขที่สุดของตัวเองเพียงเพราะครอบครัวเราไม่ถูกใจ มันคือความไม่แฟร์ เรายอมเค้าได้ในสิ่งที่เรายอมได้ เค้าก็ควรยอมเราได้ในสิ่งที่เราต้องการที่สุดในชีวิตเช่นกัน ช่องว่างระหว่างวัยมันมีกันทุกครอบครัวอะค่ะ แต่พ่อแม่ก็ต้องรู้จักที่จะลดเพื่อความสุขของลูกบ้าง (พูดถึงในอีพีหน้าๆกับสิ่งที่อิ๋งอยากไปทำนะคะ) เป็นกำลังใจให้ค่ะ
เป็นกำลังใจนะครับ เข้าใจว่ารายการคงอยากละลายหัวใจของพ่อแม่ที่ติดกับความคุ้นชินเก่าๆ แต่ส่วนตัวคิดว่าสิ่งที่ถูกปลูกฝังเหล่านี้ค่อนข้างรากลึก เลยอยากให้ลองเริ่มจากอะไรที่สเกลเล็กกว่านี้แล้วค่อยๆเขยิบไปทีละน้อยดีกว่าครับ เซฟโซนของเขาที่ฝากไว้กับน้องอิ๋งตลอดหลายสิบปีอยู่ๆจะกระโจนออกเลยเขาคงช็อค (อยากให้มีต่อนะครับแบบค่อยเป็นค่อยไป ชีวิตเป็นของเรา แต่ก็ประณีประนอมและหาตรงกลางระหว่างกันด้วยเน่อ)
อย่างที่คุณพ่อบอก ก็ใช่ครับ สังคมคนทำงานบางอาชีพ ยังไม่ยอมรับคนมีลายสัก ง่ายๆคือราชการส่วนใหญ่ไม่รับเข้าทำงาน ผมทำเพจรอยสักอยู่ เคยคิดจะเปลี่ยนทัศนคติสังคมที่ยังbiasกับรอยสัก ก็ทำให้รู้ว่า ทำยากถึงทำไม่ได้เลย ไม้แก่ดัดยาก เข้าใจ เราก็ไปรณรงค์ส่วนอื่นๆแทน เช่น เรื่องความสะอาด สักอย่างไรให้ปลอดภัย รวมถึงปัญหาผิวหนังหลังการสักด้วย ดูคลิ๊ปแล้วเหมือนครอบครัวตีกรอบและชี้นำ แต่ไม่รู้ว่า ทุกเรื่องเลยไหม ถ้าแค่สักเรื่องเดียว ก็คงปกติ แต่ถ้าโดนตีกรอบทุกๆเรื่อง แล้วทุกๆเรื่องอธิบายเหตุผลให้เข้าใจกันไหม เป็นห่วงสภาวะทางอารมณ์ของน้องในอนาคตครับ
รายการนี้ ถ้ามันเป็นสิ่งที่ consent กันแล้วก็สนับสนุนนะคะ ที่จะลองทำอะไรนอกกรอบของครอบครัว หวังว่าทางครอบครัวจะเข้าใจในสักวันด้วย ถึงมันจะดูทำร้ายจิตใจ แต่การที่พี่อิ๋งได้ลองทำอะไรที่อยากทำมันดีแล้วค่ะ สิ่งต่อไปคือต้องสู้กับครอบครัว ต้องผ่านไปได้แน่ค่ะ !
ไม่ใช่กับการสักครับ การสักคือสิ่งที่ติดตัวไปตลอดชีวิตมีเรื่องงาน ครอบครัวมาเกี่ยวดด้วยมาก และเจ้าตัวไม่ได้บอกเลยว่าทำไมถึงอยากสักจริงๆดูเหมือนสักแต่เป็นการประกาศว่าฉันโตแล้วนะทำอะไรก็ได้ ซึ่งมันผิดมากๆที่คิดแบบนี้แล้วไปสัก เราต้องชอบหรือคิดมาถี่ถ้วนแล้วถึงสัก ถ้าอยากทำอย่างต้นคลิปว่าคือกระเทาะไข่ก็ ไปลองทำงาน ปีนป่าย เล่นกีฬา อะไรอย่างงี้ดีกว่าครับ
@@tyr3088 ค่ะ เราเห็นด้วยค่ะ ในเรื่องการสักเราเข้าใจนะคะ ถ้าคิดจะทำจริงๆ มันต้องผ่านการตัดสินใจมาถี่ถ้วนแล้ว เราแค่อยากสื่อว่าที่ทำรายการออกมามันไม่ได้แย่ค่ะ แต่กิจกรรมบางกิจกรรมคงต้องรอดูกันต่อไปว่าจะไปในทิศทางไหน แค่ดีใจถ้าใครสักคนกล้าจะเริ่มทำอะไรที่อยากทำจริงๆ แล้วมันไม่ได้เดือดร้อนใครน่ะค่ะ
ดูแล้วนึกถึงตัวเองเพราะนี่ก็ไปสักมาก่อนค่อยบอกที่บ้าน55555 ของเราที่บ้านก็ไม่ค่อยโอเคค่ะแต่เราคิดถึงตัวเองมากกว่า ถ้าเราคิดว่าเราชอบ เราอยากทำต่อให้เขาไม่ชอบแล้วมาห้ามเรา สุดท้ายถ้าเราไม่ได้ทำ ยังไงมันก็ยังไม่ล้มเลิกความคิดนี้ไปไม่ได้อยู่ดีค่ะ ยากนะคะการที่จะออกจากกรอบที่ที่บ้านวางเอาไว้แต่เราเชื่อว่ามันจะมีช่วงเวลานึงที่เราจะทำมันได้ค่ะ อาจจะออกนอกกรอบที่เขาคิดไปบ้างแต่ถ้าเรามีเหตุผลหรือเราวางแผนรับมือไว้แล้ว ส่วนตัวเราก็คิดว่าไม่เป็นไรหรอกค่ะ
ใครจะว่าอะไรก้อแล้วแต่ แต่ส่วนตัวผมมองว่ารายการนี้ดีนะครับ ได้เห็นถึงแง่คิดของคนสองฝ่ายที่มีจริงๆในสังคม ถ้าไม่เกิดการดีเบตไม่เกิดการพูดคุย ไม่มีการนำเสนอ เราก้อไม่มีทางเข้าใจได้ว่าคนอีกฝ่ายจะคิดยังไง ยังไงก้อตามยังตามเชียร์คอนเทนท์ของค่ายนี้อยู่นะครับผม เป็นกำลังใจให้ครับ
เห็นหลายๆคอมเมนท์แล้วเรารู้สึกแย่นะ เราไม่รู้ว่าคุณอิ๋งอยากทำอะไรแบบนี้โดยที่เป็นความต้องการของคุณอิ๋งที่จะเอามาทำคอนเทนท์เองด้วยมั้ยนะครับ เราคิดว่าถ้าอิ๋งอยากทำเองเราโอเคมากๆนะ แต่ถ้าทำเพราะเห็นว่าเป็นคอนเทนท์ที่มีแค่อิ๋งคนเดียวที่ทำได้อันนี้เราเห็นด้วยกับคนที่คอมเมนท์ส่วนใหญ่นะครับว่ามันไม่โอเค ทั้งนี้ก็อยากให้คุณอิ๋งตัดสินใจเองนะครับ เราคิดว่าการได้ลองทำอะไรที่ตัวเองไม่เคยทำและอยากทำเป็นสิ่งที่ดีนะครับ แต่ถ้ามันทำให้ตัวคุณอิ๋งคิดมาก เราก็คิดว่าพับไปจะดีกว่าครับ เป็นกำลังใจนะครับ 💕