2 ตำนานตะกร้อไทย พูดถึงประเด็นมาเลย์น่ากลัวจริงหรือและตรงไหน ให้ฟัง
ฝัง
- เผยแพร่เมื่อ 11 พ.ค. 2023
- 2 ตำนาน คนแรกผมถือเป็นตำนานในสนาม คือ กำพล ทัศสิทธิ์ อดีตนักตะกร้อทีมชาติไทยที่คนรู้จัดกี คนที่สอง ผมเรียกได้อย่างเต็มปากว่า เป็นตำนานนอกสนาม พี่สาคร สุขพวง อดีตหนุ่มเพาะช่าง สู่บริษัทมาราธอน และช่วยงานสมาคมตะกร้อของไทย ที่ทำหน้าที่ต่าง ๆ นอกสนามมาแล้วทุกระดับ "คนทั้งวงการ" คงรู้จักดีมายาวนานมาก ๆ ๆ ซึ่งวันนี้ทำหน้าที่ Live ลงสื่อออนไลน์ในเกมแข่งของทีมไทยในซีเกมส์ แบบไม่รู้เหน็ดรู้เหนื่อย
ทั้ง 2 ท่าน ได้มาพูดคุยเรื่องราวของ "ความเสียวไส้" ระหว่างทีมชุดไทยกับมาเลเซียคู่ปรับตลอดกาล
แม้เราชนะทีมชุด แต่ก็มีจุดที่น่ามองต่ออนาคต
ติดตามกันครับ - กีฬา
ดีแล้วจะได้ดูสูสีสนุกขึ้นครับ
รอสดี้บอกว่า การที่ทีมไทยเราไม่มีเอ๊ยปุ้ยแล้วนั้น มันทำให้พวกเขามีความหวังมากกว่าทุกครั้ง ฉะนั้นครั้งนี้พวกเขาเลยมุ่งมั่นเอามากๆ แต่ไทยแพ้บ้างก็ดีครับ แวดวงจะได้กลับมาสูสีดูสนุกเร้าใจสมกับที่เป็นเสือเหลืองคู่ปรับตลอดกาลของเราหน่อย เพราะวงการตะกร้อไทยเราเหยียบพวกเขาจมมากว่าสองทษวรรษได้มั้ง มาเลแพ้ทั้งเกาหลี แพ้ทั้งอินเดีย ถ้าไทยเราเทพอยู่ชาติเดียวชาติอื่นๆอื่นไม่อยากเล่น
เท่าที่ดูมาเลย์เค้าก็เล่นตามมาตรฐานของเค้านั่นแหละ รอสลี่เสริฟดีอยู่แล้ว จะเสียก็แต่เกมส์รับ ตัวทำเค้าถ้าตัวชงชงเข้าจุดก็พลาดยาก แต่ที่ตกคือฟอร์มการเล่นของทีมไทย ไอ้ฟิวส์น่ะมันติดมาได้ยังไง ถ้วยแชมป์สโมสรเคยได้กับเค้าบ้างมั้ย อย่าว่าแต่ถ้วยเลย รอบลึกๆยังไม่เคยเข้าไปเล่นกับเค้า ส่วนเจ้าหนุ่มตัวชง บอกเลยว่าพื้นอ่อนสุดในบรรดาตัวชงทีมไทยละ ไม่รู้ติดมาได้ยังไง อัสดิน วงค์โยธาอยู่ไหน ทำไมไม่ติด เจ้าบีอนุวัฒน์อีกคน เตะอย่างคมแต่ไม่ติด เอาไอ้ฟิวส์มาติดแทน อย่างว่ามันน่ะลูกรัก ทัวร์นาเมนต์ที่ไหนมันก็ติด
ผมขอฉีกแนวความคิดเรื่องนี้หน่อย ผมว่าเรื่องความน่ากลัวของทีมชาติมาเลเซีย ผมมั่นใจส่วนตัวยังไงซะ ก็ขึ้นมาเทียบไทยไม่ได้ อย่างน้อย น้อยที่สุดนะ 10 ปีข้างหน้าเนี่ยไม่มีทาง แต่ที่น่าเป็นห่วงสำหรับวงการตะกร้อไทย มันก็เป็นผลจากมาเลเซียอีกเหมือนกันนั่นแหละ นั่นคือ ตะกร้อลีกมาเลเซียเพิ่งจบลง และมันได้สร้างมาตรฐานให้กับวงการตะกร้อลีก นี่แหละสิ่งที่น่าเป็นห่วงสำหรับวงการตะกร้อไทยนั่นคือ มาตรฐานที่วงการตะกร้อลีกมาเลเซียทำไว้ มาหลายปีแล้วและปีนี้ชัดเจนที่สุดว่าแฟนตะกร้อของไทยสนใจ ไม่มีความเคลื่อนไหวของตะกร้อลีกมาเลเซียชนิดที่ จับตาจ้องดูรอวันการแข่งขันของ stl แชมเปี้ยนชิพ ขอดูเอกสารของโลกโซเชียล ทำให้ ตะกร้อไทยได้รู้ได้เห็นบรรยากาศ ความเป็นมืออาชีพการสรรสร้างของวงการตะกร้อลีกมาเลเซีย มันน่าตื่นตาตื่นใจสำหรับ ความแปลกใหม่ของแนวทาง การจัดอีเว้นท์การแข่งขันตะกร้อ ชีวิตที่แสงสีเสียงโปรดั๊กชั่นมาครบ และยิ่งมีข่าวคราวมากับโซเชียลในความสำเร็จของนักตะกร้อไทย ที่ไปแข่งลีกอาชีพในมาเลเซียอย่างต่อเนื่อง ยิ่งทวีความสนใจและตกผลึกมาในปีนี้ คนไทยในโลกโซเชียลนั้นสนใจตะกร้อลีกมาเลเซียเป็นประวัติการณ์การเลยด้วยซ้ำ เพราะดูๆแล้ว แฟนๆตะกร้อของไทยจะสนใจแต่ก็ลีกมาเลเซียมากกว่าตะกร้อลีกไทย ไปซะแล้ว ทั้งหมดนั้น เป็นผลสะท้อนมายังวงการตะกร้อของไทย ว่าปีนี้ตะกร้อลีกไทยจะทำได้ ขนาดไหนเมื่อเทียบกับมาตรฐานของตะกร้อลีกมาเลเซีย ที่สำคัญสถานการณ์ปีนี้ ไม่รู้ว่าตะกร้อลีกของไทยนั้นยังจะมีให้ได้แข่งอยู่หรือเปล่า นี่สิที่น่าเป็นห่วง
เหมือน นักตะกร้อไทย นับวันถอยหลัง มันบ่งบอกอะไรบางอย่าง
...ส่วนมาเลเซีย ทุ่มเท มาก ฝึกซ้อมหนักกว่าไทยมาก
...อีกไม่เกิน 5 ปี แชมอาจจะเปลี่ยน
อันนี้ผมว่าดูถูกนักกีฬาเรามากไปนะครับ เพราะมาเลย์มาตรฐานเขาก็แบบนี้แหละครับเพียงแต่เราแค่พลาดหลุดฟอร์มไป ซึ่งจะบอกว่าถอยหลังผมว่าไม่เลยกับ20ปีที่ผ่านมาที่เรากดมาเลย์มาตลอด อย่าบอกว่าเราไม่ฝึกหนักครับไม่งั้นยืนระยะไม่ได้เป็น20ปีกับการเป็นเจ้าตะกร้อขนาดนี้ ในISTAFไทยเรายังกวาดทุกเหรียญทั้งๆที่ไม่มีพรชัย ผมเห็นเม้นเหมือนกลับจะบอกว่าไทยเราไม่ได้ฝึกหนักเท่ามาเลย์อันนี้ผมเลยคิดว่าดูถูกนักกีฬาเรามากไป เพราะที่ไทยกดมาเลย์มาได้ขนาดนี้ก็มาจากการฝึกหนักและหานักกีฬามาทดแทนกันได้ตลอดนี่แหละครับ ความคงที่หรือความแน่นอนในเกมมาเลย์ยังกินเรายากอันนี้ไม่ได้อวยนะ แต่มันมาจากสถิติและผลงานตลอด20ปีที่มาเลย์ดูไม่ใช่คู่ปรับที่สมน้ำสมเนื้อแบบเก่า รายการที่ไทยไม่ส่งเขาหวังจะได้แชมป์แต่ก็ไปพลาดหรือยังมีอย่างไปแพ้อินเดีย ลองคิดใหม่ครับเราไม่ได้ถอยหลังเลยแต่แพ้ชุดแรกแต่ชุดสองชุด3ชนะก็ชนะ2-1
ฟิวไม่ผ่าน ภูตะวันไม่ผ่าน. ขาดความกระหายในการเล่น. หัวใจยังไม่ได้. ต่างจากตัวสำรองทีมB
ชัดเจนครับ
ทีมทีแพ้มาเลคือทีม C เราไม่ใช่เหรอครับ จัดไปเจอกับทีมเก่งเขา..แพ้สูสีก็พอรับได้ครับ พัฒนากันต่อไปครับ