วันวิสาขบูชา 2566 ตรงกับวันเสาร์ที่ 3 มิถุนายน 2566เป็นวันที่เกิดเหตุการณ์สำคัญขึ้นทางพระพุทธศาสนา

• วันวิสาขบูชา 2566 ตรงก... #พระพุทธเจ้า#วันวิสาขบูชา#วันสำคัญสากลโลก#เกิดเหตุการณ์สำคัญ ๓ ประการคือ๑พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงอุบัติขึ้นในโลก ณ.ลุมพินีสถาน เมือวันเพ็ญ้ดือน ๖ ตรงกับวันศุกร์ ขึ้น ๑๕ ค่ำ ก่อนพุทธศักราช ๘๐ ปี พระมารดาคือพระนางสิริมหามายา และพระเจ้าสุทโธทนะ แห่งกรุงกบิลพัสดุ์ ได้ประสูตพระโอรส ณ.ใต้ต้นสาละ ครั้นประสูตรได้ ๕ วัน ได้ทรงุวามพระนามว่า "สิทธัตถะ ๒.เป็นวันที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสรู้! อนุตรสัมโพธิญาณ ริมฝั่งแม่น้ำเนรัญชรา
พระมหาบุรุษได้ทรงบรรลุ สัพพัญญุตญาณ ๓.เป็นวันปรินิพพานของสมเด็จพระพุทธโคดมสัมมาสัมพุทธเจ้า ก่อนพุทธศักราช ๑ ปี ณ.ป่าสาลวัน เมืองกุสินารา
ก่อนเสด็จดับขันธปรินิพพานทรงประทานปัจฉิมโอวาท"สังขารร่างกายของเราไม่เที่ยง มีความเสื่อมไปเป็นธรรมดา พวกเธอจงยังความไม่ประมาทเถิด"
พระพุทธเจ้าทรงตรัสกับพระอานนท์ว่า " ให้ใช้ธรรมวินัยที่ตรัสไว้ เป็นศาสดาแทนพระองค์ ต่อไป"
อานนท์! ความคิด!!!อาจมีแกพวกเธออย่างนี้ว่า! ต่อแต่นี้พวกเราขาดที่พึ่งแล้วหนอ!
อานนท์! ธรรม!ก็ดี วินัย!ก็ดี ที่เราแสดงแล้ว บัญญัติแล้วแก่พวกเธอทั้งหลายนั้น ธรรมวินัยนั้น จะเป็นศาสดาของพวกเธอที้งหลาย โดยกาลล่วงไปแห่งเรา (พระไตรปิฎกฉบับสยามรัฐ เล่มที่๑๐ หน้า๑๗๘ หน้า๑๗๙ ข้อที่๑๔๑)
กิจกรรมชาวพุทธศาสนิกชนจะไปทำบุญที่วัดและเวียนเทียนรอบพระอุโบสถ,พระเจดีย์,พระพุทธรูปที่ตนนับถือโดยการนำดอกไม้ธูเทียน(จุดประทีบ)น้อมรำลึกถึงพระคุณอันประเสริฐ์๓ประการ ๑. พระบริสุทธิคุณ ๒ พระปัญญาธิคุณ ๓ พระกรุณาธิคุณ ระลึกถึงหนทางการสร้างพระบารมีของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ตั้งแต่วันแรกจนถึงวันสุดท้าย โดยหันมาศึกษาหลักธรรมที่ทรงประทานไว้ ดุจดั่งประทีปธรรมนำทางชีวิตที่ถูกต้อง เพื่อไปสู่ "นิพพาน" พระองค์ทรงพระเมตตากรุณาให้สรรพสัตว์ทั้งหลายพ้นจากความทุกข์ในวัฏสงสาร ด้วยอริยสัจ๔ คือการเจ้าไปรู้ตามเป็นจริงของนามรูปภายในขันธ์๕คือกายใจเรานี้ ด้วยมรรค ๘ ประการคือทางสายกลาง และหลักธรรมที่ประจักษ์ตามเป็นจริงคือ สรรพสิ่งล้วนตกอยู่ในพระไตรลักษณ์คือ๑.อนิจจัง =ไม่เที่ยง ๒.ทุกขัง= สภามทนอยู่ได้ยาก ๓ อนัตตา=บังคัญบัญชาให้เป็นไปตามใจเราไม่ได้เพราะนั่นไม่ใช่เรา!ไม่ใช่ของๆเรา ต้องเจริญสติสัมปชัญญะให้มีกำลังเป็นสตินทรีย์พละเป็นองค์ธรรมหนึ่งในอินทรีย์๕และเป็นองค์ธรรมหนทางตรัสรู้ ด้วยการเจริญในสติปัฏฐาน๔ ให้ยิ่ง จนจิตผู้รู้เข้าไปเห็นสภาวะธรรมตามคาวมเป็นจริงในปัจจุบันขณะ เป็นออโตเมติก
ใจยอมรับว่านั้นไม่ใช่เรา!ไม่ใช่ของๆเรา เพราะเราบังคัญบัญชาไม่ให้รูปนามที่แสดงสภาวธรรมให้ประจักษ์แก่ตาใจ มิให้แตกดับ!สลายไปได้ แม้ใจจะยื้อยุด!ขัดขืนก็ตาม จิตเกิดสลดสังเวชในสภาวะธรรมที่ปรากฏเฉพาะหน้าณ.ปัจจุบันจิต แจ้งชัดแก่ใจว่านั่นไม่ใช่เรา!ไม่ใช่ของๆๆเรา สมาธิ+สติสัมปชัญญะมีพละกำลังมากๆสมบูรณ์ได้ส่วนเป็นอันดี จึงมีวาสนา!ได้แจ้งในธรรม ถึงที่สุดในธรรม คือ อนัตตา "ผู้ใดเห็นธรรม!ผู้นั้นได้ชื่อว่าห็นเรา"ตถาคต" ขอให้ทุกท่านเป็นผู้โชคดีมหาศาลทุกท่าน เพียร!เจริญสติสัมปชัญญะสม่ำเสมอและเจริญวิปัสสนาให้มาก ทำไปตามหน่าที ไม่ต้องมีความอยากสำเร็จไวๆ! จะเป็นตัวขัดขวาง ใช้คติ ขยันก็ทำ!ขี้เกียจก็ทำ! เพียงให้รู้ว่ากำลังขี้เกียจแต่!เพียรต่อไปเพราะในที่สุดความขี้เกียจก็ไม่ที่ยง สาธุธรรมเจริญธรรม

[@user-sb8md4rg3o]

สาธุ สาธุ สาธุ ขออนุโมทนาบุญนี้สมปราถนาด้วยเทอญ

[@hdfjf1919]

🙏💐🙏💐🙏ข้าพเจ้า..ขอน้อมกราบ สาธุ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็น สะระณะ🙏💐🙏💐🙏💐