ฝัง
- เผยแพร่เมื่อ 16 ม.ค. 2023
- จากเคสมีผู้เสียหายถูกดูดข้อมูลผ่านสายชาร์จโทรศัพท์ ทำให้หลายคนกังวลว่าจะถูกดึงข้อมูลออกจากมือถือจนอาจเสียหายหมดตัวได้ เรื่องนี้น่ากลัวขนาดไหนและทำอย่างไรไม่ให้ตกเป็นเหยื่อ ไปฟังคำตอบกันชัด ๆ กับคุณชญาวดี ชัยอนันต์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายองค์กรสัมพันธ์ และโฆษกธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)
#ดูดเงิน #สายชาร์จ #แบงก์ชาติ #ธปท #beartaiBRIEF
--------------------------------------------------------------------------------------------------------
ติดตามข่าวสารได้ที่
Facebook : / beartaibrief
TikTok : www.tiktok.com/@beartaibrief?...
Twitter : / beartaibrief
Blockdit : www.blockdit.com/beartaibrief
Website : www.beartai.com/beartaibrief
![[UNCUT]”ทักษิณ" ดวงแตก ชะตาตกมรณะ เจอวิบากรรมจากคนใกล้ตัว I คนดังนั่งเคลียร์](http://i.ytimg.com/vi/PzyARIIlx7A/mqdefault.jpg)
![[UNCUT]”ทักษิณ" ดวงแตก ชะตาตกมรณะ เจอวิบากรรมจากคนใกล้ตัว I คนดังนั่งเคลียร์](/img/tr.png)
ธนาคารเหมือนตู้เซฟที่เขาเข้าไปฝากเงินไว้ แต่เมื่อเกิดปัญหานี้ ธนาคารควรรับผิดชอบกรณีที่ระบบยังไม่รัดกุม ควรมีการป้องกันด้วยการเตือนว่าเงินก้อนนี้ท่านอนุญาติให้จ่ายใหม ยิ่งเงินตั้งแต่ระดับเงินหมื่นขึ้นไป ให้ใช้พิมพ์ลายนิ้วมือ หรือโทรกลับธนาคาร
ใช้กับธนาคารไม่ต้องแอปไปเบิกที่ธนาคารเลยปลอดภัย
@@user-bt9oi7cp4g ปลอดภัยแต่100หรือเปล่าคะถ้ามันมีการทุจริตแต่มันปลอดภัยกว่าแอปพลิเกชั่นแน่นอนแต่ชีวิตคนเรามันต้องทำมาหากินฉะนั้นเวลามันก้อเป็นสิ่งสำคัญในการทำธุรกรรมต่างเพราะฉะนั้นน่าจะมีแนวทางในการป้องกันภัยเหล่านี้ให้ปลอดภัยรัดกุมถึงจะไม่100เปอร์เซ็นก้อตาม
เห็นด้วยนะ แต่มันจะแก้ได้จริงรึ
คนไนเป็นหนอน หรือไม่ ธนาคารมีความปลอดภัยอยู่แล้ว อย่าชุ่ย
ที่เมกาใช้ระบบส่ง code ยืนยันการโอน เป็นการป้องกันอีกระดับว่ายืนยันตัวคนโอนว่าใช่เจ้าของบัญชีไหม
มาตการป้องกันไม่มี
มีแต่ แก้ตัว ปักความรับผิดชอบ
กลัวองค์กรตัวเองเสียหาย
ประชาชนซวย.
ถูกต้องครับ
ใช่แน่นอนธนาคารรับดูแลเงินลูกค้า เงินห าย
ธนาคารจะไม่ทำอะไรเลยหรือ ก็ไม่ต้องฝากฝ้งดินไว้ ธนาคารไม่ต่้องมี
เออว่ะ. มีใครบางคนเสนอไอเดียว่า. อย่างเมื่อก่อนธนาคารรับเช็คต่างธนาคาร. เขาก็ต้องรอเคลียริ่งก่อน 1วัน. ตรวจสอบว่า มีเงินจริงไหม เช๊คเด้งเปล่า// แนวคิดเดียวกัน ก็น่าประยุกต์ใช้ได้ กับอีแบ๊งค์ เงินจำนวนมากๆ ถ้าโอนก็ควรมีรอเคลียริ่ง. สัก1 วัน ถ้าไม่มีปัญหาอะไรใน 1 วัน ครบเวลาโปรแกรมก็จะโอนให้ หรือรอเจ้าของบัญชีคอนเฟิร์มก่อน// การนำมาใช้กับระบบเช็ค. ยังใช้ได้. ทำไมจะใช้กับอีแบ๊งไม่ได้//บางคนอาจเกรียนว่า. ทำให้ขาดความสะดวก. ผมก็ว่า ใช้กับเงินจำนวนเยอะๆ. เท่านั้น // แน่นอน คงไม่มีใครจ่ายเช็ค. เพื่อซื้อกล้วยปิ้งแน่ๆ//ความจริงไม่มีแก็งค์พวกนี้ทำการในประเทศจีนแล้ว. เพราะจีนจับประหารเกลี้ยง. พวกนี้ ก็หลบมาที่ประเทศด้อยทั้งหลายที่กฏหมายมันด้อยสมรรถภาพ. หลอกลวงกันต่อไป. เพราะไง. ก็ไม่โดนประหารแน่นอน
แบงค์ต้องเพิ่มระบบยืนยันตัวต้นแบบ Real-time ที่ไม่ใช่เพียงการเข้าระหัสตัวเลข แต่เพิ่ม อัตลักษณ์ทางพันธุกรรม เช่น ลายมือ รูม่านตา เป็นต้น
ดีนะถึงแฮคเครื่องได้ ถ้าไม่ใช้ลายมือ ม่านตาเจ้าของก็โอนออกไม่ได้
กรุงไทยใช้ลายนิ้้วมือก่อนเข้าapp
@@somsaksompong689 ทุกแบงค์ครับแต่ไม่รอด
คุณหนุ่ยครับ อย่ามาออกคลิปแบบโฆษกพูดเอาแต่ภาพลักษณ์เลยครับ ควรสั่งทุกแบงค์ กรณีมี ปชช.โดนแล้ว ควรเร่งรีบและให้ความร่วมมือกับ ปชช หรือตำรวจไซเบอร์ในการส่งข้อมูลบัญชีของมิจฉาชีพให้เค้า คือนี่เอาแต่หาลูกค้าทำโปรฯ ทิ้งคนที่ได้รับความเดือดร้อน อย่ามาพูดสวยๆอย่างเดียวเลยคุณ ตำรวจและ ปชช ด่าหน่วยงานของแบงค์ทุกแบงค์ ว่าไม่สนใจอะไรเลย เวลาลูกค้าเดือดร้อนไล่กลับไปแจ้งความอย่างเดียว
พวกนี้ คือ นักพูด พูดดีให้องค์กรดี แต่การแก้ไขต้องให้แบงค์รับผิดชอบเงินลูกค้า ไม่ใช่ให้ ประชาชนแจ้งความเอง ตามหาเงินเอง ต้องมีประกันจากแบงค์ที่รับฝากเงิน
กูเห็นนะพอตรวจสอบลึกๆทุกตัวอะกดลิ้งแอฟแปลกๆทั้งนั้น
มึงให้กุญแจโจรเอง จะโทษใคร
งดใช้ดีกว่า
โดนแล้วหมดตัว
มีแต่คำพูดสวยหรู
ไม่มีมาตรการแก้ไขที่ชัดเจน
หัวข้อคลิปน่าสนใจ ผมเสียเวลาดูจนจบ บอกตรงๆ ไม่ได้อะไรเลย แบงค์ชาติไม่ทำอะไรเป็นรูปธรรม พูดให้โลกสวยนี่หรือคือหน้าที่แบงค์ชาติ
วิธีแก้ง่ายๆครับตอนที่ยืนยันการโอนขั้นตอนสุดท้าย ควรจะให้ยืนยันด้วย 1.ลายนิ้วมือ พร้อมกับ สแกนใบหน้าพร้อมกัน เงินถึงจะโอนไปได้ อย่างไรถ้าไม่ใช่เจ้าของเงินก็โอนไม่ได้แน่นอน100%
คิดเหมือนกันเลยครับ ถ้าทำแบบนี้ได้ต่อให้มิจฉาชีพรู้ข้อมูลทุกอย่างของเราหรือคอนโทรลมือถือเราได้แต่มันเอาลายนิ้วมือกับใบหน้าเราไปไม่ได้
ต่างประเทศเขาก็ทำแบบนั้น ระบบนี้ปลอดภัยแต่ลงทุนเยอะ ธนาคารเมืองไทยเขาไม่ทำหรอกเขาเอาแต่ลดพนักงาน
เราจะเข้าสู่สังคมไร้เงินสด
คือเงินสดก็ไม่มี เงินในบัญชีที่เปิดแอพธนาคารไว้ก็ไม่เหลือ
🤭🤭🤭
ปล่อยคนฉลาดเขาให้แอปไปเถอะครับ เราอยู่แบบบ้านนอกไปเถอะ เหมาะสม
ทางเดียวที่จะกู้สถานการณ์ได้ คือ แบงค์ต้องรับผิดชอบในทุกกรณีที่เงินลูกค้าหาย เช่นที่เขาทำกันในอเมริกาและยุโรป
อยากให้เป็นแบบนั้น เราฝากเงินกับเขา ใครล่ะต้องแจ้งความ
มันไม่ใช่ความผิดแบงค์เสียทีเดียวน่ะสิ
@@molasada7794 กฏหมายไทย ผู้เสียหายต้องเป็นผู้แจ้งความค่ะ
@@user-sw1xl3um8y ขอบคุณค่ะ
ที่ถูกต้องที่สุดคือช่วงนี้ถอนออกมาก่อนสถานการณ์คลี่คลายค่อยฝากกลับถ้าเรามัวมาศึกษาหลายสื่อจนลืมเชคเงินเผลอๆป่านนี้หายหมดเกลี้ยงบัญชีละ
ถ้าแอพmobile bankingมีความปลอดภัยมากพอ ต่อให้remoteมาที่เครื่องก็ไม่สามารถดูดเงินได้ ถ้ามีการตอบยืนยันตัวตนทุกครั้งก่อนโอนเงิน ต้องใส่รหัสพร้อมกับสแกนใบหน้าหรือสแกนนิ้วมือร่วมด้วยตลอด
ใช่ แค่เพิ่มระบบแสกนนิ้วมือก็แฮคไม่ได้ละ ง่ายๆแต่แบงค์คิดไม่ได้ซะงั้นนะ
ผมลบออกหมดแล้ว4ธนาคาร ไม่เชื่อมือธนาคารเกิดเรื่องมา ไม่มีใครช่วยไม่ได้
ตอนนี้ไม่ค่อยมั่นใจในระบบ Mobile Banking แล้วทุกธนาคาร
ไม่ช่วยเหลือ ไม่รับผิดชอบ ตอนฝากก็ต้องเสียค่าต่างๆ พอเงินหายเงียบกริบ ต้องช่วยเหลือตัวเองกันค่ะ ถอนออกไปซื้อสบากต่างๆยังได้ลุ้นรางวัล เหลือติดบชแค่นิดหน่อยพอ
ไปฝากมันดอกปีหนึ่งได้ไม่เกินสิบบาท พอเราไปกู้มันเก็บดอกเรา 200 Up
บอกตรงๆเรากลัวแบงค์ละนะตอนนี้ หากทางแบงค์จะไม่รับผิดชอบ ต่อไปแบงค์อาจเป็นสายดูดซะเอง แบบสบายๆใครจะรู้ได้
ถ้าธนาคารไม่มีความเชื่อมั่นใดๆ ถอนออกมาหมด ใส่นิดหน่อยเท่าจำเป็น คือ พยายามไม่มีเงินสดในแบงค์ เอางี้นะ เมื่อคนไม่เชื่อมั่น ใครจะกล้าเอาเงินไปฝาก แล้วหาย คิดแบบเบื้องต้นงี้เลย เมื่อไม่รับผิดชอบใดๆ ใครต้องถอนออกมาสิค่ะ เงินเรา มาให้โจรเอาไปฟรีง่าย.ไม่ได้หรอก
ถามค่ะ: จ่ายเงินเดือนวิธีไหน? รับเงินเดือแเหมือนในอดีตหรือเปล่าคะ? เคยเห็นคุณพ่อนับเงินให้คนในสังกัดทุกเดือน ..ปัจจุบันเงินเดือนโอนเข้าบัญชี..แก้ไขอย่างไรคะ? หรือรับเงินสดทุกเดือนคะ?
@@daratnakalasindhu4585 "สูงสุดคืนสู่สามัญ" จนกว่าธนาคารจะพัฒนาแอ็พที่ปลอดภัยมากกว่านี้ แต่ก่อนไม่มี Mobile Banking ก็เห็นอยู่กันได้ *คิดง่ายๆ"ธุรกิจต้องเงินสดเท่านั้น" จริงๆแล้วเวลาคุณไปซื้อสินค้าต่างๆ คุณต้องจ่ายเป็นเงินสด ใครจะมาปล้นคุณก็ต้องมาให้เห็นตัวเป็นๆ ตำรวจก็มาตัวเป็นๆ หากคุณเขียนใส่กระดาษเป็นตัวเลขแล้วยื่นให้แม่ค้าๆย่อมปฏิเสธ เพราะ"ธนบัตรเป็นเงินที่ชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย" ส่วนตัวเลขขโมยไปก็ไม่มีประโยชน์เพราะเงินสดของเราที่ฝากธนาคารไว้ก็ยังอยู่ในตู้นิรภัยของธนาคารเหมือนเดิม หาได้มีใครมาปล้นเงินในตู้เซฟไม่ *ถ้าธนาคารไม่ร่วมมือกับโจร โดยไม่จ่ายเงินสดออกไปตามตัวเลขสมมุติของโจร เงินของทุกคนไม่หายไปไหน
@@dsaasd9761 ใช่ค่ะ มีแก๊งมิจฉาชีพหลอกโอนเอาเงินไปมีหลายรายก่อนหน้านี้ ไอ้แค่แจ้งความ+ไปธนาคาร.ตามเงินได้/ไม่ได้? ธนาคารต้องมีมาจการควบคุมก่อนโอนเงินออกจากบัญชี เช่น โทรหาลูกค้า/ส่งข้อความไปหาเจ้าของบัญชีก่อนว่าจะโอนไปยังคนชื่อนี้รึดปล่า?อาจมีมารตการแช่เงินไว้ก่อน 1-2 วัน ก่อนโอนเงินออกไปได้ "ถ้ามีการซื่อ-ขายจริงผู้ขายเขายอมรับการโอนเงินที่ช้าได้อยู่แล้ว" อย่างน้อยป้องกันได้ (คิดวิธีฉลาดน้อยให้คนว่าเห็นด้วย/ไม่เห็นด้วย) ..ปชช ที่ใช้ bank เพราะความสะดวกสบาย
ใช่ หลักร้อย หลักพันก็อย่าเสียให้มัน
ผมคงใช้ Mobile Banking ต่อไป แต่เน้นผูกกับบัญชีใช้จ่าย แล้วเก็บเงินไว้แค่พอใช้แต่ละเดือน ส่วนโทรศัพท์ก็ระวังไม่คลิกลิงก์ ไม่เข้าเว็บหรือดาวน์โหลดแอปแปลกๆ ไม่ใช้เน็ตสาธารณะ แล้วอัพเดทแอปบ่อยๆ ส่วนเงินเก็บที่เหลือคิดว่าจะเอาไปฝากประจำแบบมีสมุดปกติ 3/6/12/24 เดือน เพราะต้องไปถอนที่สาขาธนาคารเท่านั้น หรือซื้อสลากออมสิน หรือจะไปซื้อกองทุนบ้างเพราะถ้าถอนออกมันต้องรอเงินเข้าบัญชี โดยอาจจะเปิดบัญชีไว้หลายๆ ธนาคาร กระจายความเสี่ยงกันไปทั้งจากออนไลน์ออฟไลน์ น่าจะพอไหวกับการใช้ชีวิตในยุคดิจิทัลนะ 🤣
ถูกต้องแล้วครับ แอปธนาคารมีเงินให้น้อยที่สุด และ มีแค่แอปเดียวก็พอ
ลบแอป ไม่ใช้จนกว่าธนาคาร ตำรวจ หาทางแก้ไข … บ๊ายบาย Internet banking
ต้องขอบคุณที่ไม่ได้ช่วยอะไร พิธีกรก็เน้นเกลงใจคนมีตำแหน่ง
ไม่รู้จะเอามาออกรายการทำไม ปชช.ไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย มีแต่ปัดความรับผิดชอบ "ลูกค้าจะถอนแอ็พทำไมต้องรอความเห็นชอบของธนาคาร" *หมดยุคโควิดก็เข้าสู่ยุคมัลแวร์ (ใครไหวทันถอนแอ็พก็รอด ใครไม่ถอนก็ร่วง) จนกว่าจะมีแอ็พที่อัพเดทให้ไม่สามารถแฮ็กเจาะข้อมูลได้ เป็นการบังคับให้พัฒนาไซเบอร์ไปอีกขั้นหนึ่ง
ในแอปควรใช้นะบบแสกนจ่ายด้วยนิ้วมือในการใช้เอ็มแบงค์กิ้งในการถอน -โอน ทุกกรณีครับ ปลอดภัยเกือบ 100%
เบื้องต้นแอพลิเคชั่นของธนาคารต้องปิดกั้นการใช้งานรีโมท ร่วมกับแอพพลิเคชั่นของธนาคาร
ตอนฉันอยู่อเมริกาฉันไม่เคยได้รับ sms เถื่อนจากมิจฉาชีพเพราะค่ายมือถือเขาสกรีนและเตะมันออกไป แต่เมืองไทยเขาขายเราแล้วก็จบ ที่เหลือก็เอาตัวรอดเอง มันคือการช่วยเหลือมิจฉาชีพ แทนที่จะดูแลลูกค้า
ถ้ารู้จักดูแลลูกค้าที่ได้รับความเดือดร้อนบ้าง อย่างน้อยต้องตระหนักว่าจะช่วยลูกค้ายังไง จะให้ติดต่ออย่างไรได้รวดเร็ว ทำไงถึงจะอายัดปลายทางให้ลูกค้าได้ มีมาตรการความเข้มในการถอน-โอนให้ดูยากหน่อย ยอมเสียเวลาด้วยกันทั้ง2ฝ่าย คุณธนาคารต้องเป็นฝ่ายคิด ถ้าธนาคารไหนทำได้ คงมีแต่ลูกค้าอยากใช้บริการ
กฎหมายเมืองไทยต้องเข้ม ลงโทษพวกกระทำผิดขั้นสูงสุด ไม่อ่อนแอเหมือนทุกวันนี้
โทษก็สูงอยู่นะ แต่คนร้ายวิ่งเร็วกว่า เจ้าหน้าที่ไล่ตามไม่ทัน ดูสถิติการจับแก๊งค์คอลเซนเตอร์ตัวใหญ่มีน้อยมาก ที่ได้มีแต่บัญชีม้าแถวหนึ่ง แถวสอง สาม สี่ ยาก กว่าจะสาวไปถึงตัวใหญ่ยิ่งยาก บางทีแถวสาม สี่ ห้า อาจไม่รู้จักหรือเห็นหน้าตากันด้วยซ้ำ กว่าตำรวจจะขอชื่อเจ้าของบัญชีจากธนาคารได้แต่ละแถว สองสามเดือนขึ้น กว่าจะถึงตัว(ถ้าโชคดีแต่ละแถวรู้จักตัวต่อไป)คงใช้เวลาหลายปี ข้อมูลทางคอมพิวเตอร์ยิ่งยากกว่าข้อมูลธนาคารอีก เราเอาเงินไปเก็บไว้ในบัญชีธรรมดาที่ไม่ผูกกับโทรศัพท์ เหลือไว้ใช้ในโทรศัพท์เล็กน้อยพอ เหมือนเราเอาเงินส่วนใหญ่ฝากธนาคาร เหลือไว้ใช้ติดบ้านเท่าที่ใช้ในชีวิตประจำวัน เวลาถูกดูดเงินก็ทำใจเสียเพราะไม่มีทางได้คืน ผมว่าเราจะมีความสุขในสังคมนี้ต่อไปได้นะครับ
@@eeuu-gn1vb เห็นด้วยครับ เพราะแบบนี้ไงตำรวจถึงหนักใจเวลามีคนพิมพ์ถามว่า เมื่อไหร่จะตามจับคนร้ายพวกนี้ได้หมด
ถ้าเป็นข่าวไม่เกินสัปดาห์จับตัวได้
ยิงเป้าเลยถ้าจับได้
ธนาคารควรจะสร้างโปรแกรมให้รัดกุม
ต้องออกกฎหมายใหม่ ให้อำนาจธนาคารอายัดบัญชีได้ทันทีโดยไม่ต้องแจ้งความ
ประเด็นสำคัญคือ การที่เงินรั่วไหลจากแอปธนาคารคือ แบงก์ชาติต้องมีข้อกำหนดว่า เวลาเกิดปัญหานี้มัน "ไม่ใช่เงินลูกค้าหาย แต่ธนาคารทำเงินลูกค้าหาย" ต่างหาก ถ้าไม่เริ่มต้นให้ถูกตั้งแต่ต้น มันก็เหมือนโยนภาระความรับผิดชอบให้ลูกค้า แบงก์ชาติไม่ควรมาพร่ำสอนลูกค้าผู้ใช้ แต่ควรไปตั้งข้อกำหนดกับธนาคารผู้ให้บริการ เพราะถ้าโทษผู้ใช้งานแบบนี้ แบงก์ชาติเองไม่มีสิทธิ์เลยที่จะมาอิดออด หากผู้ใช้จะป้องกันตัวเองด้วยการเลิกใช้งาน และคนที่ทำให้เราถอยหลัง คือวิธีคิดที่แบงก์ชาติมีต่อผู้บริโภคนั่นเอง
แหมถ้าอย่างนี้ เจอลูกค้าฝากเงินไว้เยอะๆ แล้วบอกรหัส บอกข้อมูลส่วนตัวให้พวกพ้อง ให้มาแฮคบัญชีตัวเอง แล้วตัวเองมาเรียกร้องกับธนาคารละ ธนาคารคงเลิกรับฝากเงินแล้ว
@@cxxx9756 ประเด็นสำคัญคือคำว่า แฮ็ค ครับ แฮ็ค แปลว่าไม่ได้เข้าระบบตามปกติ หากการเข้าระบบโดยไม่ปกติสามารถทำได้ ธนาคารต้องรับผิดชอบถึงจะถูกครับ แต่ถ้าบอกรหัสให้คนรู้จักเข้ามาเอง นั่นไม่เรียกแฮ็คครับ นั่นเรียกการสมรู้ร่วมคิด ธนาคาซึ่งเป็นคนออกแบบระบบต้องฉลาดพอที่จะมีแนวทางตรวจสอบครับ ว่าแต่ สิ่งที่ผมแสดงความเห็นนี้เป็นประโยชน์ต่อทุกคน แม้กระทั่งระบบการเงินของประเทศเองที่จะน่าเชื่อถือขึ้น แต่ความคิดของคุณ มันเป็นประโยชน์ต่อใครหรอครับ แม้กระทั่งตัวคุณเองยังไม่ได้ประโยชน์จากความคิดคุณเองเลยครับ
ปัญหามันอยู่ที่ว่าจะตรวจสอบได้อย่างไรว่าแบบไหนคือแฮคมากกว่า
ระบบ โมบายแบ้งกิ้ง เมืองไทยกระจอก ไม่มีการยืนยัยตัวตน ไม่เมือนต่างประเทศระบบปลอดภัย
แนะนำแนวนี้ก็ดีแต่เป็นพื้นฐานแนะนำปกติที่หาได้ตามเวฺบ แต่แบงค์ลอยตัวเหนือปัญหาพอสมควร เมื่อระบบความปลอดภัยของคุณถูกรบกวน แล้วลูกค้าได้รับผลกระทบ การแอคขั่นของธนาคารมีน้อยไป ความช่วยเหลือลูกค้าทำอย่างไร ตอบเพียงให้เชื่อมั่นความปลอดภัย สุดท้ายแล้วลูกค้าจงดูแลตัวเอง รับผิดชอบตัวเองไปนะ ความรับผิดชอบของแบงค์คงได้เท่านี้
ไม่รู้ที่ผ่านมาจับใครได้บ้างรึยัง พวกเครือข่าย บช ที่โอนต่อๆไปมันก็คล้ายเครือข่ายยาบ้ามั้ย หรือขโมย จับต้นตอไม่ได้ ก็เครือข่ายคนทำผิดจับได้รึยัง
ธนาคารแอคชั่นน้อย และดูลอยตัวเหนือปัญหาจริง
ผมว่าถ้ามีคนลบแอปไปเยอะๆ เดี๋ยวธนาคารก็มีมาตรการ ที่ช่วยทำให้ ไม่ถูกการแฮกดูดเงิน ที่สมบูรณ์แบบ ไม่ใช่มาโทษผู้ใช้ตลอดไป
เอาให้ชัด ทำไมธนาคารไม่รับผิดชอบ
สรยุทธพูดชัดนะ..ว่าอายัดสิ ถ้าเกิดการกลั่นแกล้ง ก็ลงโทษผู้แจ้งความเท็จ
อีกอย่างสายด่วน ก็เพิ่มพนักงาน เพิ่มคู่สาย ไม่ใช่ให้รอ แล้วบอกคู่สายเต็ม
อีกอย่างนะ ไอ้วิธีที่ผมพิมพ์มา ผมเชื่อมั่นว่าพวกท่านก็คิดได้ แต่อยากตะโกนแหกเข้าไปในหูพวกท่านว่า แล้วทำไม ทำไมยังไม่ดำเนินการอีก จบนะ..ไอ้พวกมีรอยหยักเยอะจัด แต่เสือกลงมือทำยิ่งกว่าเต่าเดิน
ถูกต้อง บอกแต่วิธีป้องกัน แต่ไม่หาทางแก้ปัญหาเวลาที่เกิดเรื่องขึ้นแล้ว ประชาชนรุมถามจนปากจะฉีกถึงรูหูแล้วว่า ทำไมๆๆๆๆธนาคารไม่รับผิดชอบ สิ่งที่ควรตอบกลับไม่ตอบ
จะอายัดทันหรอ ถ้ามันมืออาชีพจริงๆ คงไม่ได้โอนไปต่อแค่บัญชีเดียวธนาคารเดียว สมัยนี้แค่1-2นาทีน่าจะโอนต่อไปได้ไม่รู้กี่ทอด ดีๆไม่ดีแตกยอดย่อยอีก สุดท้ายอาจไปจบที่แบงค์ที่อยู้ต่างประเทศ แล้วธนาคารต้นเรื่องก็คงรู้แต่แบงค์ที่ได้รับโอนถัดไปจากตัวเองเท่านั้น
ถ้าแบ๊งตามพวกชาติชั่วไม่ทันก็ยกเลิกซะ
ใช่เลย
@@banhanlunrasri7703 ประชาชนต้องระวังตัวเองด้วยค่ะ อย่าตื่นทอง อย่าตามกระแสมาก
จริงๆเขารู้หมดแหละว่าบัญชีไหนเข้าระบบอยู่พื้นที่ไหน แต่ไม่รู้ทำไม เขาไม่ตามเงินให้ลูกค้า
ไม่ทันค่ะ คนขโมยของ เขาไม่ช้า นาทีเดียวก็เสร็จแล้ว
จริง ปลายทางก็รู้ว่าเป็นใคร ทำไมทำอะไรไม่ได้ ไปจับมันสิ
ถ้ามันโอนแค่ทอดเดียวก็ถูก แต่นี่คงโอนต่อไม่รู้กี่บัญชีกี่ธนาคาร แล้วไปจบที่ธนาคารตปท. 1-2นาทีคงผ่านเกือบ10บัญชีแล้ว
ตอนนี้ลบไปก่อนแล้วครับ เพราะดูแล้วแบงค์ไม่ได้หาทางป้องกันเลย
เลิกใช้mobile banking แล้วเข้าสู่ระบบเดิมดีที่สุด เสียเวลาไปธนาคารหน่อยแต่สบายใจ
ใช่ค่ะ ถ้าใครประสาทจะแลก ก็กลับไปใช้ระบบเดิม วีนกันไปได้
มันป้องกันได้จริงหราคะถ้าลบโมบายแบ้งกิ้งอะคะ
ลบแอพธนาคาร ก็เป็นทางออกทางหนึ่ง เพราะเงินลูกค้าหาย ทางแบ็งค์ก็ไม่ได้รับผิดชอบอะไร หันไปทำธุรกรรมทางการเงินแบบเดิมๆ เงินก็ไม่หาย
ป.ล. แบ็งควรมีการโทรถามลูกค้า หากมีการโอนเงินเกินห้าหมื่นบาททุกครั้ง
ลบแอพก็ไม่มีประโยชน์ต้องไปที่ธนาคารแล้วทำการยกเลิกหรือล๊อคแอพดังกล่าวก่อนเพิ่งเกิดเรื่องกับตัวเองถึงรู้ดีที่มันยังไม่ได้เอาเงินเราออกไปไหวตัวทัน
ธุรกรรมแบบเก่าๆ ก็ไม่ปลอดภัยเสมอไป เพราะมีข่าวพนักงานแอบถอนเงินลูกค้าบ่อยๆ แค่เขียนสลิปขึ้นมา ปลอมลายเซ็นต์ก็เรียบร้อย ใครฝากเงินต้องหมั่นอัพเดทบัญชีบ่อยๆ
โดนสาวสวยบอก พี่คุยกับหนูใน App นี้นะคะ หนูใช้ตัวนี้อยู่ แค่นี้ก็เสร็จแล้วครับ ทุกเพศทุกวัย โดนหมด น้อยมากที่จะเป็นเคสสายชาร์จอะไรแบบนั้น ส่วนใหญ่เป็น romance scam ทั้งนั้น ไม่มีหรอกอยู่เฉยๆจะโดน ยกเว้น Pegasus เค้าใช้กับคนสำคัญเท่านั้น ^_^
อเมริกาเค้าก็แก้ไม่ได้ ความรู้เท่าทันของผู้ใช้สำคัญที่สุด
มีแต่พวกรอยหยักน้อยไม่ตามข่าว โทษแต่ธนาคารแถมโยนไปรัฐอีกปัญญาอ่อนแท้
กม ไทยให้ต่างชาติมาเปิด บช ในไทยง่ายมากครับ ทำให้เราเป็นแหล่งฟอกเงิน มีการจ้างต่างด้าวมาเปิด บช นอมินีไว้ แล้วพวกแก๊งก็ดูดเงินเรามาพักที่ บช นอมินี ซึ่งสุดท้ายพวกก็ออกนอกประเทศไปแล้ว ประเทศโลกที่ 1 จะรัดกุมไม่ให้ต่างชาติมาเปิด บช ในประเทศง่ายๆนะครับ ควรแก้ปฏหมายนี้ สังเกตุว่า 3-5 ปีหลังมานี้ ไทยเป็นเป้าหมายแก๊งโจรต่างชาติเยอะ ทั้งๆรายได้ต่อหัวเราต่ำมาก ทำไมครับ ประเทศเรามีจุดอ่อนอะไร ทำไมโจรเลือกเรา ตำรวตต้องไปคิดครับ
ไม่เชื่อครับ ไม่มีอะไรที่แน่นอน ไม่มีอะไรที่คนแฮคไม่ได้ ในเมื่อ คนสร้าง ก็คน แนะนำให้กระจายความเสี่ยง ไว้ดีกว่า อย่ามั่นใจเกินไป ว่าระบบจะป้องกันได้100% ครับ
ถ้าเป็นที่ระบบธนาคาร ธ รับผิดชอบค่ะ ธ มีประกันค่ะ
กฎหมายมีการคุ้มครองเงินฝาก วงเงินไม่เกิน1ล้านบาท ธนาคารแต่ละที่จะรับผิดชอบยังไง ในเมื่อประชาชนฝากเงินกะธนาคาร แต่ธนาคาากลับไม่ใช้ที่ปลอดภัย
ถ้ากม.บังคับให้ธนาคารรับผิดชอบเงิน เชื่อว่าธนาคารคงเร่งออกวิธีป้องกันเร็วกว่านี้
เอาจริงเขาก็ระวังตัวกันนะ คนที่เพิ่งโดนไปเขาก็ระวัง แต่ๆก็ยังโดน อย่าเอาภาระให้ผู้ใช้งานแต่ควรหาวิธีรับมือที่ดีกว่านี้ เพราะผู้ใช้งานเขาไม่ใช่dev จะได้มีความรู้ความเข้าใจในด้านไอทีทุกอย่าง ถ้าทางธนาคารไม่แก้แล้วใครจะแก้ การปกป้องทรัทพ์สินคือการรับผิดชอบทางธนาคาร ถ้าปกป้องไม่ได้ใครจะกล้าใช้ พูดง่ายบอกไม่ต้องกลัว แต่ถ้าเจอกับตัวเองชัก10ล้านคงขำไม่ออกแน่ๆละงานนี้
เราเดินบนถนนแล้วล้มลง ใครมารับผืดชอบเราคะ เราต้องระวังตัวเองด้วยค่ะ
@@user-sw1xl3um8y ถ้ารู้จักเดินไง แต่นี่ไอทีไม่ใช่เดินมันไม่ง่ายเหมือนเดิน จะเอาไปเปรียบได้ไง กว่าจะเดินเป็นไม่หมดตัวเลยรึ และอีกอย่างบอกไปละใครก็ระวังแต่ มิจฉาชีพก็เปลี่ยนวิธีไปเรื่อยๆ จะให้เก่งแค่ไหนก็มีพลาด สิบตีนยังรู้พลาด นักปราญ์ยังรู้พรังค์ นับอะไรสองตีนโด่เด่ ก็ต้องเซกันมั่ง ทางที่ดีต้องมีมาตการที่ดีกว่านี้ ส่่วนคนใช้เขาก็ระวังกันอยู่แล้ว appมีเป็นล้าน แอบหาคู่ แอบโน่นแอบนี้ เลยจะต้องระวังทุกแอบที่เข้า นี่ก็แย่นะ เพราะไม่รู้เลยจะเจอแจ๊ตพ๊อตตอนไหน
เข้าใจนะครับว่าการป้องกันทรัพย์สินคือหน้าที่ของธนาคาร แต่การที่ผู้ใช้งานเปิดประตูบ้านให้โจรเข้ามามันก็ไม่ใช่เรื่องที่น่ารักเลยนะครับ ผมว่าจริงๆสื่อควรให้ความรู้เรื่องการติดตั้งแอปจากแหล่งที่ถูกต้องและ การให้สิทธิ์กับแอปต่างๆอย่างเหมาะสม รวมถึงทางธนาคารต้องป้องกันแบบยกระดับเพิ่มขึ้นด้วยครับ ผมว่าทุกฝ่ายต้องร่วมด้วยช่วยกันแหละครับ
ใช้แอปแค่เนี่ยต้องใช้ความรู้อะไรเยอะ มีสมองก็ใช้ได้แล้ว ยากตรงไหน
@@myminemymine6802 คับมันต้องร่วมกัน แต่คนที่ขาดความรู้ เกี่ยวกับเรื่องนี้ก็เยอะ เอาแค่คนใกล้ตัวอย่างพ่อแม่ เขาโตมาในยุคที่ไม่มีของพวกนี้ แต่อยากใช้ เพราะโอนง่ายใช้ดี แต่ขาดความรูุ้เรื่ิองพวกนี้ ถึงสอนวิธีระวังไป แต่มิจฉาชีพก็หาวิธีใหม่อยู่ดี แล้วคนเหล่านี้จะป้องกันยังไง ผมเลยคิดว่าต้นทางควรให้ความมั่นใจกับลูกค้า ไม่งั้นใครจะกล้าใช้
ธนาคารควรมีระบบรีเช็คกับ
เจ้าของบัญชีอีกหนึ่งชั้นก่อน
ปล่อยเงินออกไป
พวกแบงค์*พูดจาดี*แต่พอมีเหตุการณ์ไม่ดีเกิดขึ้น*กับไม่เคยรับผิดชอบ*แต่คนซวยคือลูกค้าเอง
ควรสอน IT security ในโรงเรียนคับ
ถ้าให้ดีแบงค์ควรทำให้แอพธนาคารต้องมีการให้ผู้ใช้ระบบแมนน่วลร่วมด้วยก่อนการโอน เสมอ เช่น ต้องสแกนลายนิ้วมือเจ้าของบัญชี หรือต้องสแกนใบหน้าเจ้าของบัญชีก่อนการโอนทุกครั้ง มันยุ่งยากหน่อยแต่ปลอดภัยขึ้นมันก็คุ้มแล้ว
ตั้งค่าวงเงิน0เวลาจะโอนตั้งค่าตัองได้รับรหัสotp เอาเบอร์ที่ผูกใว้ไปไว้อีกเครื่องนึงจบ
เอาจริงๆที่พูดมาทั้งหมดประชาชนส่วนใหญ่ก็ค่อนข้างจะรู้หมดแล้วและก็ปฏิบัติ ที่พูดเช่นกันแต่ที่ประชาชนอยากเห็น Action มากก็คือ วิธีการป้องกันอย่างเห็นชัดว่าจะทำยังไงและถ้าเกิดมีปัญหาถูกมิจฉาชีพหลอกลวงเอาเงินไป ธนาคารแห่งประเทศไทยจะมีกฎหมายตัวไหนเพื่อออกมาพบคุณหรือช่วย support ประชาชนข้อนี้ผมคิดว่า สำคัญสุด
ทำไมไม่ออกกฎหมายให้คนร้ายกลัวบ้างตัดนิ้วตัดมือเหมือนต่างชาติเตือนแต่คนดีให้ระวังไม่เตือนโจรบ้างให้ระวังโดนตัดมือ
ถ้าคนทั้งประเทศถอนเงินกันหมด
ธนาคารคงไม่มีเงินไปลงทุน
เอาแต่ประโยช ไม่รับผิดชอบเงินของ ปปช.
ไปถอนเงินออกไห้หมดเกบทองคำ หรือทรัพสินอื่นๆแทน
ในเมื่อแบงค์ช่วยอะไรไม่ได้ ก็ต้องลบออก นี่ก็จะลบออกเหมือนกัน ไปใช้สมุดฝากธนาคารเหมือนเดิมดีกว่า ปลอดภัยกว่า
เราต้องอย่าโทษแต่คนอื่น และระวังตัว อย่าคิดแต่ว่าจะได้ ไม่มีอะไรได้มากง่าย ๆ ฟรี ๆ ครับ
ประเทศไทยยังบกพร่องเรื่องคุ้มครองผลประโยชน์ของประชาชน กรณีปัญหาเงินหายจากบัญชี แบงค์ต้องรับผิดชอบ เพราะลูกค้าถูกมิจฉาชีพกระทำ ต้องปกป้องเงินลูกค้า ทำระบบให้รัดกุม แบงค์ต้องหาวิธีป้องกันให้ดีกว่านี้ ถ้าถูกใครเข้ามาเอาเงินลูกค้าออกจากบัญชีได้ ก็ต้องเอาเงินก้อนนั้นกบับมาคืนลูกค้า ต้องรับผิดชอบในฐานะเป็นที่ ฝากเงิน
ติด antivirus ครับ ป้องกันได้ครับ ของผมใช้ avast free ป้องกันมัลแวร์ได้ครับ ถ้าตัวเต็มก็จะป้องกันได้ดียิ่งขึ้นครับ ของผมเดือนหนึ่งป้องกันได้ 22 ครั้ง อาจจะเป็นมัลแวร์ทั้งหมดก็ได้ครับ
แบงค์ ไม่เห็นรับผิดชอบลูกค้าสักราย
สมัยก่อนไม่มี มีแต่แฮ็กจากตู้ที่ชาวต่างชาติมาทำ และก็พนักงานแอบเอา เลือกที่จะไม่ใช้แอปดีกว่ามั้ยเสียเวลาก็ยอม จริงๆมันก็ช่วยได้น่ะถ้าไม่มีแอป
ถ้าป้องกันไม่ได้ หรือยังแก้ไขไม่ได้ ก็ควรเลืกไช้ไปก่อน
ขอบใจมากๆครับที่ให้ข้อมูลครับ
คนระวังกับคนจ้องจะทำร้ายมันยาก สักวันเราอาจจะพลาดได้
มีเงินในแอปให้น้อยที่สุด
ไม่มั่นใจแล้ว กลัวจนเป็นโรคจิตแล้ว
ทางที่ดีไม่ต้องฝากเก็บไว้เอง
ส่วนมากจะเข้ามาทาง sms มาในรูปแบบว่าำได้รับรางวัล และมีข้อความจาากแบ็งค์ต่างๆเรื่อย
จริง มันไม่ใช่ง่ายๆที่แฮกได้ ถ้าลบก็อ้างไม่ใช่ทางออก แต่เมื่อมีความเสียหายเกิดขึ้น แบงค์นั้นๆก็ไม่ได้รับผิดชอบอะไร เจ้าของบัญชีมีแต่เสียกับเสี่ยง ผมคนนึงที่ลบแอฟทิ้งแล้ว เพราะไม่มีความปลอดภัยแล้ว ระบบป้องกันที่ว่าแน่ๆก็ยังแพ้มิจฉาชีพ ยอมเสียเวลา ดีกว่าเสียเงินโดยไม่รู้ตัว วันๆมานั่งคอยกังวล เสียเวลาทำงานเปล่าๆ
เช่นกันค่ะ
อย่าไปเชื่อพิธีกร และ เจ้าหน้าที่ เลยครับ พอปัญหาเกิดไม่มีใครช่วยเราได้ทันหรอกครับ กว่าจะรู้ตัวก็สายไปแล้วครับ ผมเอาที่ปลอดภัยไว้ก่อน ผมเก็บเงินเย็นไว้ในแบงค์ที่ยังประกันเงินฝาก แต่ไม่ลงแอป จะโอนทีก็ยอมไปลงแอปที่แบงค์ โอนมาใช้กับ บช แบงค์อื่นที่ใช้ประจำ จำนวนไม่มากพอโอนเสร็จ เลิกติดตั้งแอปเงินเย็นเลย พอเงินใกล้หมด ค่อยเปิดแอป อีกรอบ บช ที้ใช้ประจำโดนดูดเงิน ก็จะเสียหายไม่มาก อย่าลืมครับ กันเราออมมาเกือบทั้งชีวิต อย่าไปเชื่อใครครับ
มันต้องมีกฎหมายเข้ามาควบคุม และกฎหมายต้องหนักจริง เอาจริงเอาจัง.
จับพวกนี้แล้วเอามารีดข้อมูลว่ามันทำยังไง ..
ต้องสรุปแต่ละเคสใช้ชัดเจน มันเกิดจากอะไร คนถึงโดนล่อล่วงง่าย
ผมอยากให้ ใช้รหัส2ชุด ชุดแรกรหัสปกติ ชุดที่2รหัสตั้งค่าวงเงิน เดียวนี้รหัสตั้งค่าวงเงินใช้หมายเลขบัตร ประชาชน ยังไงคนร้ายมันก็รู้เลขบัตรเราอยู่แล้ว อยากให้ตั้งรหัสเองครับ
เกิดจากความสะเพร่าของคนเต็มๆเลยครับ อะไรก็ช่วยไม่ได้ ทุกวันนี้ยื่นกดรหัสกันให้เห็นๆไม่กลัวคนเห็นไม่กลัวกล้องเห็น
ถ้าธนาคารรับผิดชอบเรื่องแบบนี้ ธนาคารแย่เลยครับ เพราะคนจะยิ่งไม่ใส่ใจความปลอดภัยมากกว่าเดิมเพราะเงินหาย ธนาคารรับผิดชอบ ดีไม่ดีจะมีโจรมาในรูปแบบผู้เสียหายอีก
ทุกอย่างมันปลอดภัยหมดและครับ แต่เราทำให้มันไม่ปลอดภัยเอง
เห็นด้วยค่ะ อ่านดูหลายๆคอมเม้นเหมือนไม่ได้ฟังคลิป หรือฟังไม่เข้าใจ แสดงให้เห็นว่าคนไทยยังมี mindset เกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีอย่างปลอดภัยอยู่ในระดับที่น่าเป็นห่วงมาก หาคนรับผิดชอบแต่ไม่ป้องกันตัวเอง หรือการประชาสัมพันธ์ ให้ความรู้เรื่องภัยไซเบอร์ในบ้านเรายังมีน้อยเกินไป เข้าไม่ถึงประชาชน คงต้องฝากความหวังไว้ที่หน่วยงานที่รับผิดชอบดูแล
@@avocadomilki จริงครับ ปัญหาคือ คนส่วนใจไม่สนที่จะหาความรู้ พวกช่องที่ให้ความรู้ คนดูน้อยมาก ส่วนใหญ่ไปดูที่ตัวเองชอบ
เรื่องนี้ ไม่เกี่ยวกับสายเลย มันมีอยู่จริง ราคามัน4-5พัน การทำก็ยุ่งยาก
สู้ๆปลอมเป็นสาวๆหลอกให้โหลดแอพหาคู่นอกสโตร์หรือหลอกเป็นเจ้าหน้าที่ สุดท้ายก็หลอกให้ลงแอพที่มันแอบคุบคุมมือถือ เราอยู่ดี มันคุมทั้งเครื่อง มันอยู่ว่าเราทำไร เพราะมันดูเราเล่น ศึกษาตัวเรา พอเรานอน เราก็ชาร์จมือถือ ตอนนั้นคือเวลาที่เราพัก โจรก็อาศัยตอนนี้กดโอนเงินเรา ก็แต่นั้น มันไม่ได้เจาะระบบอะไรเลย เราให้มันเข้ามาเอง
สังเกตุนะ เครื่องอุ่นๆแปลกๆ แบตลดไว เครื่องอืดๆ คิดไว้เลย50/50ว่าโดนแน่ ตัดเน็ตแล้วล้างเครื่องเลย
ผมมีคลิปที่ผมคุยกับโจร อยู่ในช่องผม
ไม่ต้องทำอะไรครับ แค่เอาเงินออกให้เหลือแค่2,000พอ แค่นั้น กลับไปใช้เงินสดเหมือนเดิม ดีกว่า ..มันโดนก็โดนแค่ 2,000 ที่เหลือก็ใช้เงินสดเอา
ลบแอปธนาคารไม่ใช่ทางออก
ทางออกคือถอนเงินจากธนาคารมาเก็บไว้ดีสุด
👍🏾👍🏾👍🏾
ลบแอพธนาคารไปสองแล้ว ยังเหลืออีกหนึ่ง กำลังคิดอยู่ว่าจะลบดีไหม กลับไปใช้ระบบเดิม.ขยันเดินไปเยี่ยมธนาคารแทน
น่าจะเอาลายนิ้วมือมายืนยันด้วยไนขนะเบิกเงิน โดยมิจฉาชอบไม่มี น่าจะดี หรือว่าเหมือนเดิม
จริงครับ สแกนลายนิ้วมือหรือใบหน้าก่อนโอน เพื่อยืนยันตัวตนนะผมว่า เหมือนเขายืนยันตัวตนในแอบเป๋าตังค์
ลบแอป มันเป็นการแก้ปัญหาที่ง่ายที่สุด ได้ผลที่สุด เร็วที่สุด และดีที่สุด นอกจาก ธนาคารจะประกาศรับผิดชอบ 100% อย่างไม่มีเงื่อนไข ถึงจะกล้าใช้แอปต่อไป
ร่วมใจกันยกเลิก mobile banking เมื่อไหร่ รับรองว่าทุกธนาคารรีบดำเนินการทันที
สรุปก็คือ เขามาบอกว่าระบบแอปธนาคารไม่ได้ถูกแฮก ปกติดี
ที่ถูกแฮกคือระบบมือถือ แล้วไปเข้าแอปโอนเงินออกไป ประมาณนี้
อย่าไปกดลิ้ง หรือ กดยอมรับอะไรที่ไม่รู้จัก เพราะมันอาจเป็น ระบบควบคุมระยะไกล
ยังมีอีก
ปชช. ต้องรับผิดชอบไปหาหลักฐานเอง ธนาคารกับตำรวจไม่เกี่ยว
ธนาคารไม่มีหน้าที่รับผิดชอบเงินที่โดนโอนไป เพราะไม่ใช่เงินของธนาคาร
นี่คือการบริหารประเทศของกลุ่มคนดีย์ประเทศนี้ แก้ปัญหาได้แค่นี้อยากเข้ามาบริหารประเทศ คนโดนก็โดนไปเอาตัวรอดก็รอดกันไป ไม่รู้สึกอะไร มะนาวแพงกินมะขามเปรี้ยว ข้าวแพงแดกหญ้า
@@krisa6811 ช่ายย.เรย5555
ทางที่ดีประกาศ คนทีบัญชีม้า หรือคนที่เปิดบัญชีแล้วให้คนอื่นไปใช้ ปิดบัญชีดีที่สุด
ถ้าปลายทาง เป็นบัญชีม้า เจ้าของบัญชีมีความผิด อันนี้น่าจะมีคนที่เอาบัญชีไปให้คนอื่น รับปิดบัญชี
นะครับ อันนี้เป็นความคิดส่วนตัวผมครับ ผิดถูกก็ อย่าว่าผมเลยเป็นแนวคิด😊
เห็นด้วยค่ะ ถ้าพฤติกรรมรับเปิดบัญชี ธนาคารตรวจสอบไป ควรจะปิดบัญชีของคนนั้นให้หมดถ้าตรวจสอบแล้วว่ารับเปิดบัญชี เจอมากับตัวสูญเสียเงิน เจอคนรับเปิดบัญชีผียังลอยนวล ตำรวจเฉย แบงก์เฉย
เห็นด้วย แต่คนนั้นผิดด้วย เพราะถือว่าเกี่ยวข้องสมรู้ร่วมคิด เป็นเครือข่าย ที่จับยาบ้า จับได้ นี่มีหลักฐานโอนให้ใครอะไรยังไง มีจับบ้างรึเปล่า คนที่รับเปิด บัญชีจะได้กลัวกันบ้าง
บางเคสเงินเพิ่งโดนโอนออกไปไม่ถึง1นาที มันควรจะดึงคืนได้ แต่ธนาคารปฏิเสธที่จะล็อกบัญชีปลายทาง การตามเงินไม่ใช่เรื่องยากนะ แม้จะถูกโอนไป ตปท เพราะมันจะมีบัญชีสุดสายปลายทางเสมอ และคนที่กดออกมาเป็นเงินสดนั่นแหละ ที่ต้องชดใช้
สมัยนี้นะ มันโอนไปบัญชีที่2ปุ๊บมันก็โอนต่อไปบัญชีที่3ที่4...ต่างธนาคารอีก แตกยอดย่อยไปจบที่ต่างประเทศนู้น ทุกอย่างแค่กดปุ่ม คิดว่าจะทันหรอ แค่ตอนโทรหาธนาคารเงินไปถึงไหนแล้วไม่รู้ หยั่งเคสเด็กม.3อะไรนั่น ตำรวจบอกแค่39วินาที โอนผ่านไป5บัญชีแล้ว
ธนาคาร ควรออกแบบให้ถอนเงินออกจากมือถือได้เพียง 1 เครื่อง เหมือนรูปแบบของบัตร ATM.., คือ ไม่สามารถใช้มือถือเครื่องอื่นถอนได้
ส่วนลูกค้านั้น ไม่มีเจตนาให้คนอื่นมาควบคุมมือถือตัวเอง.. แต่ถูกเขาหลอก ลูกค้าเป็นเหยื่อ เป็นผู้เสียหาย จึงไม่น่าจะกล่าวหาว่าเป็นความผิดของลูกค้า
ธนาคารไม่คิดแก้ไข ไม่คิดช่วยเหลือ ....อย่างเดียว
ทุกอย่างต้องทำตามกฎหมายค่ะ กฏหมายไทยช่องโหว่เยอะ ทำให้ทำชั่วได้ง่าย กฏหมายไทยส่งเสริมให้คนทำชั่วค่ะ
ส่งotp ก่อนโอนเหมือนเมื่อก่อนน่าจะดี
ตอนนี้ทุกเย็นจะโอนเงินเข้าบัญชีที่ไม่อยู่่ในมือถือ โดยบัญชีนี้ใช้จดบันทึกเองทุกวัน เวลาจะเอาเงินออกก็ต้องไปกดที่ตู้เอทีเอ็ม ยอมเสียเวลาดีกว่าเสียใจภายหลัง
ผมคนหนึ่งล่ะครับ ที่ไม่มั่นใจ
เลยเลือกไปถอนเงินเก็บมาทั้งชีวิต
เอามาแปลงให้อยู่ในรูปสินทรัพย์ประเภทอื่น
ดีกว่าเงินหายแล้ว กว่าแบงค์จะดำเนินเรื่องให้
ต้องไปแจ้งความ ต้องตามเรื่อง ไหนจะโทรไปสายไม่ว่าง
ลองคิดดูครับ ถ้าแบงค์เป็นแบบนี้ ทุกคนถอนเงินออกกันหมด
วันนั้นแบงค์อย่ามาหาลูกค้าเงินฝากล่ะกัน
ทำแล้วเหมือนกันครับ ควรสั่งสอนแบงค์ด้วยการถอนเงินออกมา 90% ไปเลย
@@aunelm7086เราใช้เงินสดกับค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน กดออกมาเท่าที่จะใช้ เหลือไว้แค่ให้ธนาคารหักพวกสินเชื่อแค่นั้น นอกนั้นแปลงไปเป็นอย่างอื่นค่ะ
ต่อไปต้องมี2เครื่อง เครื่อง1.เล่นทุกอย่างไม่มีแอปธนาคาร เครื่อง 2.ลงแต่แอปธนาคาร เครื่องนี้จะใช้น้อยไม่ใช้โทร รับรอง ปลอดภัย
ผมก็ทำแบบนั้นครับ อีกเครื่องทำไรก็ได้ไวรัสก็ไม่กลัว อีกเครื่องเอาไว้การเงิน กดรหัสอะไรก็ต้องระวังคนกับกล้องเห็นและไม่เชื่อมต่อกับคอมหรือwifiมั่วและไม่โหลดอะไรมั่ว คอมก็ผมทำ เล่น2เครื่อง
ดีครับ ขั้นต่อไปก็เอาเครื่องที่มีแอปไปฝังดินครับ ปลอดภัยชัวร์
@@user-pn1wi3hg7m 555 งั้น ฝัง เงินเลย ไม่ต้องซื้อโทรโหลดแอปแบงค์แล้วไปฝังอีกที อิอิ
เพิ่มนิดนึง คิดซื้อโอ่งแพรบ55
เห็นด้วยค้าบบ
@@filemakergraphicprint3015 ต้องใช้โทสับครับ เดี๋ยวไม่เท่ห์ อิอิ
@@user-pn1wi3hg7m คิดว่าแน่กว่ามิฉฉาชีพก็จัดไป....
"ต้องให้ความรู้แก่ประชาชน อย่างสม่ำเสมอครับ" ไม่ใช่เกิดเหตุที ค่อยออกมาให้ความรู้ทีครับ คนเรามันจะลืมเลือนกันได้
อยากให้ทุกคนยกเลิกการใช้ Mobile Banking จนกว่าธนาคารจะรับรองความปลอดภัยและความเสียหาย 100 % หากธนาคารทำไม่ได้เราก็ไม่ต้องใช้ อยากรู้ว่าธนาคารจะทำอย่างไรต่อไป
ลบแอปไป แต่เขามีข้อมูลทุกอย่าง และควบคุมโทรฯ sms เขาก็ติดตั้งแอปในเครื่องอื่นแล้วรีเซ็ตรหัส เพราะOTP เขาดูได้ เข้าถึงข้อมูลส่วนตัว เมล์ในเครื่อง
อีกหน่อย คนจะกลับมาใช้บริการในสำนักงานธนาคาร เพื่อความสบายใจ
ความคิดเห็นส่วนตัวของผมนะครับ :
ผมมองว่าการที่ธนาคารที่เราฝากเงินไว้ไม่แสดงความรับผิดชอบใดๆ ต่อผู้เสียหายเลยนั่นเป็นเพราะธนาคารเองไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับเงินที่ลูกค้าซึ่งนั่นก็คือผู้ฝาก ฝากไว้แล้วจู่ๆ วันหนึ่งเงินหายออกไปจากบัญชีโดยการที่ผู้ฝากกดเข้าลิงก์จากมิจฉาชีพหรือโหลดแอพที่นอกเหนือจากนั้นลงไปในเครื่องของตัวเอง ลองคิดในมุมกลับกันดูนะครับถ้าเกิดว่าคุณเป็นเจ้าของธนาคารซึ่งมีหน้าที่ในการดูแลเงินของลูกค้าที่ฝากไว้ แต่อยู่มาวันหนึ่งลูกค้าดันเผลอไปกดลิงก์หรือโหลดแอพที่ไม่ได้ส่งจากธนาคารโดยตรงแล้วเงินหายออกจากบัญชีไป แล้วธนาคารต้องเป็นคนรับผิดชอบเหรอครับ?
ถ้าเป็นผมนะผมไม่รับผิดชอบหรอกเพราะนั่นไม่ใช่ความผิดของธนาคารเลย แต่เป็นความผิดของตัวคุณเองล้วนๆ ฝากไว้ให้คิดนะครับ🤔
ธนาคารไม่คิดรับผิดชอบอะไรบ้างหรอคะ
ไม่เกี่ยวกับธนาคารค่ะ คุณจะใช้มือถือ คุณต้องหาความรู้เกี่ยวกับมือถือด้วย ไม่ใช่มีไว้ใช้อย่างเดียวค่ะ
รับผิดชอบตัวเองด้วยการหาความรู้เยอะ ๆ ไงครับ
ผมมองว่าเดี๋ยวนี้เหตุเพราะธนาคารต้องการอำนวยความสะดวก หรือต้องการให้ลูกค้าทำธุรกรรมได้อย่างรวดเร็วจนเกินไป จึงเป็นช่องโหว่หนึ่งที่ทำให้เมื่อมีการถูกแฮ็กหรือถูกควบคุมระยะไกลแล้วเงินเราออกไปจากบัญชีง่ายๆ เช่น ทุกแอปธนาคาร แค่เราใส่ ระหัส PIN หรือบางธนาคาร ก็เเค่เลื่อนหน้าจอ เงินก็ออกไปปลายทางแล้ว ผมคิดว่าทำไมทุกครั้งที่จะทำการโอนเงินในขั้นตอนสุดท้าย ระบบของธนาคารน่าจะส่งระหัส OTP ให้ผู้ทำธุรกรรมใส่ก่อนทุกครั้ง ผมมองว่าแม้วิธีที่ผมเสนอไปจะไม่ได้ผลในการป้องกันทั้งร้อย แต่มันก็จะเพิ่มความรัดกุมในการทำธุรกรรมและรักษาเงินของลูกค้ามากขึ้นนะครับ
ธนาคารแห่งประเทศไทย ต้องแก้ไขกฎระเบียบ หากมี ปัญหาเรื่องการดูดเงินจากบัญชี ต้องรีบแก้ไขไม่ใช่ให้ไปแจ้งความตำรวจ ทำให้ล่าช้า เงินในบัญชีถูกหยุดไปจนหมด
มิจฉาชีพดิจิทัล = นายทุนจีนเทา + ตม. + ตำรวจ + DSI + นักการเมือง + ข้าราชการที่เกี่ยวข้อง
มัน Hack User ลบไปก็ช่วยไรไม่ได้ ?
แบงค์ชาติน่าจะแก้ปัญหาไม่ได้หรอก มันเป็นการแฮ็กข้อมูลบัญชี
มันเป็นเรื่อง ตำรวจตามจับผู้ร้าย มันจะมีเรื่องเกิดขึ้นเรื่อยไป เรื่องนี้จบเรื่องอื่นก็เกิดขึ้นอีก ทุกคนก็ต้องระวังตัวเอง เห็นอะไรแปลกใหม่ก็อย่ารีบกระโจนเข้าไป ไม่ต้องกลัวตกกระแสเด้อ
มีฟังชั้น บล็อคลิ้งไหม แบบไม่เอาเข้าเครื่องเลย รับแต่ sms ข้อความ
ชัดเจนตรงไหนช่วยคนโดนตรงไหนกูงง
ผมก็งงไม้ได้อะไรเลยจากคลิปนี้
ฟังมาจนจบ สรุปก็คือ ต้องช่วยเหลือตัวเองกันไปนะ ประมาณนี้ 😃😂😞🤔😉😉
วิธีแก้ที่ดีที่สุดในตอนนี้คือ ไม่อนุญาติให้ส่ง Link URL ผ่าน SMS / LINE / Messenger ถ้าจะส่งต้องไปขอจาก Web กลางเพื่อตรวจสอบว่า Link ดังกล่าว ปลอดภัยหรือไม่
ที่โดนๆกันนี่คือ Social Engineering ล้วนๆ ประชาชนไม่มี Awareness ทางรัฐต้องช่วยป้องกันด้วย
ส่วนตัวผมไม่ได้ใช้ Mobile Banking ก็กลัวเรื่องโดนแฮ็คนะ แต่กลัวเพื่อนยืมเงินมากกว่า ถ้ามี Mobile Banking โอนเงินได้ตลอดเวลา พอไม่มี App มันอ้างได้ว่าไม่มี App คับผม ตังในเป๋ามี 200 ไม่มีให้ยืม 😁😁😁
แบงค์ ต่อไป จะ ให้ ใช้ สองรหัส กับ ลูกค้าแล้ว คือรหัส ส่วนตัว ของ คุณ กลับรหัส ของ ธนาคาร เก็บ และ จำไว้ ให้ขึ้นใจ
ธนาคาร ทำระบบ พิเศษ สุดยอด มา เสริมทัพ รหัส ชำระ สินค้า ทั่ว ไป จะจำกัด จำนวนเงิน ไม่เกิน 25000-200000บาท ต่อครั้ง เหมือน กันกับ ตั้งแค่ ใน กด atm
สามารถ ถอดออกได้ หลายครั้ง ครั้งละไม่เกิน......รวมแล้ว ต่อวัน ไม่เกิน 1-2-3-4 แสน...ถ้าเกิน กว่านี้ ทำไง ก็ใช้ รหัส ผ่านสองชั้น
มาเหนือเมฆ คือๆๆๆๆ สแกนม่านตา ยืนยันว่า ต้องการทำ ธุรกรรมทางการเงิน ต้อง ใช้วิธีนี้ แล้ว จึงจะรอด คน ทั่วไป ใช้เงินไม่เกิน หนึ่ง สอง หมื่น บาท ต่อวัน หรอ ครับ นักธุรกิจ ต่างๆๆๆๆใช้เงิน เกิน ห้า หมื่น ต่อวัน ติดต่อ ธนาคาร ทำ ระบบสองชั้น วัน เป็น ล้าน ก็ ใช้ แบบ สาม ชั้น ไปเช่น รหัส ปกติ สอง
ม่านตา หรือ ลายนิ้ว มือ สาม ระบุรายละเอียด ของ ตัวบุคคล แล้ว ยืนยัน ว่า จะทำ ต่อ ว่ากันไป เลย แค่ความคิดผม นะ ครับ อย่า ......ไป ผมเห็น แก๊ป ก่อน ออกงาน ต้อง ระบุ ตัวตนจริง.จึง เข้าระบบได้ แค่นี้เอง
ข่าวล่าสุดคนที่โดนดูดเงินเขาไม่พูดความจริงทั้งหมด
ความจริงคือเขาเล่นแอปหาคู่แล้วมีผู้หญิงส่งลิงค์ให้เขาไปโหลดแอปเพื่อจะได้ดูไลฟ์สด
เขาถามผู้หญิงว่าทำไมแอปไม่มีในเพลสโตร์ ผู้หญิงบอกว่าเป็นแอปไลฟ์สดมี 18+
ล่าสุด แบก์ชาติ-สมาคมแบงก์ ออกมาแจงผลสอบกรณีผู้ร้องเรียนถูกสายชาร์จโทรศัพท์ดูดเงินจากบัญชี
พบสายชาร์จไม่ได้ดูดเงิน แต่ผู้เสียหายถูกหลอกให้โหลดแอปพลิเคชันปลอมที่แฝงมัลแวร์
สุดท้ายเสียเงินเพราะบ้ากามแท้...555
อยากรู้ของระบบios 1รายคนนั้น ว่าโดนได้ไง ?
เรื่องจริงหรอคะ?
@@awirotana9552 ios จะปลอดภัยกว่าเพราะติดตั้งแอปได้จาก app store เท่านั้น ยกเว้นไปเจลเบรคมา ต่างกับ android สามารถติดตั้งแอปนอก play store ได้ เท่าที่ทราบสาเหตุคือเกิดจากการคลิกลิงค์ยินยอมให้เกิดการรีโมทหน้าจอได้ครับ
@@user-zt8lf1gn8j จริงครับมีไลน์ที่เขาคุยกับผู้หญิงด้วยตามหน้าข่าวจากสื่อ
ส่วนการชี้แจงของแบงก์ชาติค้นจาก google มีครับ
ขอบคุณนะข้อมูลข่าวสาร นึกว่าชาร์จโทรศัพท์เฉยๆเงินหาย
เก็บไว้ให้ดี ไม่ต้องมาเข้า ธนาคาร หรือใส่แค่เพียงนิดหน่อย..
ร้านค้าควรซื้อโทรศัพท์สองเครื่อง เครื่องหนึ่งไว้สำหรับใช้ส่วนตัว อีกเครื่องใช้แค่เฉพาะร้านค้าร้านอาหารไม่ควรนำมาท่องโลกอินเตอร์เน็ตหรือโหลดแอ๊ป และซื้อสายชาร์ตแท้ด้วย
แยกสองบัญชีไปเลย บัญชีเครื่องส่วนตัวก็ไม่ต้องเก็บเงินเยอะ ๆ ข้าราชการตำรวจเคยขายข้อมูล ปชช ไปแล้ว มันคุมยากแล้ว
ส่วนตัว ปชช ต้องมีไหวพริบมาขึ้นด้วย ธนาคารมันก็ไม่ไหวหรอก ลิงค์พวกนี้มีทั่วโลก
คุณหนุ่ยครับผมขอฝากถามหน่อย เมื่อเราใช้เงินดิจิทัลทั้งหมดแล้ว ปัญหาของคนระดับล่างคือ ภาษี ครับใช่ทุกคนต้องจ่ายภาษี แต่ที่สรรพากรไม่รู้คือ ตลาดล่างไม่ได้มีกำไรเป็นร้อยห้าร้อยเปอร์เซนต์เหมือนพวกแบรนด์เนม คือบวกกำไรแค่ 20 เปอร์เซ็นต์บวกแพงไม่ได้ แล้วตอนจ่ายภาษี เขาคิด หกสิบ สี่สิบ อย่างนี้ ผู้ค้าขาดทุนแล้วทางสรรพากรจะมีวิธีแก้ไขอย่างไรครับ ช่วยทำรายการตอบปัญหาข้อนี้ ให้ประชาชนทราบโดยทั่วกันหน่อย จะยี่สิบ แปดสิบ ได้มั้ย เฉพาะตลาดล่าง ส่วนตลาดบน ก็สี่สิบ หกสิบไป ทำไดัมั้ย หรือต้องบีบให้ตลาดล่างต้องขึ้นราคาสินค้าแบบสี่สิบเปอร์เซ็นต์ตามภาษี นึกดูราคา สินค้าตลาดล่างจะเพิ่มขนาดไหนประชาชนจะรับไหวหรือเปล่า ทั้งผู้ซื้อและผู้ขายจะเป็นอย่างไรจะต้องเลิกขายของถูกหรือต้องให้ผู้ค้าหายสาบสูญไปเลยทั้งประเทศ เพราะเมื่อเงินดิจิทัลมาเมื่อไร ข้อมูลก็อยู่ในมือสรรพากร เราทุกคนก็เลี่ยงภาษีไม่ได้ แต่ขอความเป็นธรรมกับชาวบ้านตาดำๆแค่นั้นครับ ขอฝากถามผู้ที่เกี่ยวข้องให้หน่อยเถอะครับ ขอบคุณคุณหนุ่ยครับผม....
ใช้แอนดรอยด์ หรือ iOS ก็โดนหมดใช่ป่ะคะ ถามเป็นความรู้
แบงค์ชาติ พูดง่าย แต่ไม่เคยให้ความร่วมมือในการแก้ปัญหา
หากมี จนท.บางท่านที่ควบคุมข้อมูลของลูกค้า ไม่ซื่อสัตย์ ยอมเปิดเผยข้อมูลแลกกับเงิน เมื่อรู้ก็สายไปแล้วจะแก้ไขอย่างไร
ถ้าถอยหลังแล้วปลอดภัย ผมถอยคนแรกเลย ยังไม่ก็ไม่รับผิดชอบหนิท่าน
ณ ปัจจุบัน คงต้องซื้อโทรศัพท์อีกเครื่องหนึ่ง ใช้ซิมเติมเงินที่ เปลี่ยนโมบายแบงค์ มาใช้เบอร์นี้ ไม่ต้องโหลดแอปใด ๆ ทั้งสิ้น จะใช้ต่อเมื่อโอนเงินหรือธุรกรรมทางการเงินเท่านั้น ไม่ใช้ก็ปิดโทรศัพท์ ที่สำคัญอย่ามีเงินจำนวนมากในบัญชีที่ใช้แอปธนาคาร