3 เสือแดนกลางอังกฤษยุค 2000S แต่ทำไมอยู่ด้วยกันไม่ได้ ? | Footballista EP.106
ฝัง
- เผยแพร่เมื่อ 4 ก.พ. 2021
- #MainStand : ปัญหาโลกแตกในโลกฟุตบอลนั้นมีมากมาย และหนึ่งในนั้นคือคำถามที่ว่า แฟรงค์ แลมพาร์ด, พอล สโคลส์ หรือ สตีเว่น เจอร์ราร์ด ใครคือมิดฟิลด์ที่ดีกว่ากัน
นี่คือเรื่องราวคำถามโลกแตก และเมื่อทุกคนดันเกิดทันรุ่นกันอีกด้วย
ติดตามที่ MainStand Stories
-----------------------------------------------------------
เพื่อไม่ให้พลาดเรื่องสนุก ๆ อีกมากมาย ตามไปดูเรื่องราวของ Main Stand เพิ่มเติมได้ที่ Website ของเรา :
www.mainstand.co.th/home
#Footballista #พรีเมียร์ลีก - กีฬา
เจอร์ราร์ดเล่นดี มีดิสม่า ฮ่ามันน์
แลมพาร์ดเล่นดี มีมาเกเรเร่
สโคลส์เล่นดี มีลอยคีน
จิงเลยคับ
มีตัวรับคอยจัดการเกมรับ จะได้ไม่ต้องพะวงกับเกมรับ เล่นเกมรุกได้อย่างอิสระ
ยุคที่เจอร์ราดพีคสุดคือมีอลอนโซ่ครับ สามกลางอังกฤษช่วงพีคมีกลางรับเก่งๆอยู่ข้างหลังทั้ง3คน
@@FocusplusPassion ถ้ายุคนั้นก้มาสเคราโน่
@@nackfiwry902 ใช่ครับเจิด อลอนโซ่ มาสเคคือยุคกลางแบกทีมเลย ดีกว่ากลางตอนนี้ทุกตัว แต่ปีกซ้าย-ขวาธรรมดามาก สมิเซอร์ แบเกอร์ บาเบิลงี้ ที่คิดว่าเด็ดคือคีเวลก็โชว์ฟอร์มไม่ออก โดยรวมคือยังสู้ทีมยุคปัจจุบันไม่ได้
3 คนนี้ เป็นห้องเครื่องครับ ถ้าเอาลงพร้อมกันหมด จะทำให้ ตำแหน่ง ล้อ เบรค เพลา ท่อ เบรค ลดน้อยลง ทีมจะไม่แรง แซงใครไม่ได้ครับ
เปรียบเทียบได้ดีและตรงประเด็นครับ เห็นภาพเลย
ช่าย ผิดที่โค้ดมันโง่
เอา สโคลไปเล่นเป็นปีก มันใช้อะไรคิดหวะ
กันณ์ เรสซิ่งก็มา
ปัญหามันอยู่ที่ผู้จัดการทีมครับ จะเล่นระบบ4-4-2 ก็ลงได้แค่สองคนถ้าเล่น4-3-3 กลางก็ได้สามคน เจอราด-สโคลนี่สไตลบอคทูบอคเห็นๆแค่เอาอีกคนเล่นตำเเหน่งมาเกเลเลก็ลงตัวแต่ผู่จัดทีมยุคนั้นของอังกฤษความสามารถไม่ถึง ใช่แต่4-4-2 ทีมอื่นเขาก็อ่านกินขาดแล้วครับ 4-4-2วิ่งปีกผู้จัดการทีมอื่นเขาแก้เกมได้อยู่แล้ว
ติดตามการ เล่าครับ. สุดยอดมาก
อยู่ที่โค้ช จริงๆ อันเชลอตติ สามารถทำให้ แลมพาร์ด เดโก้ บัลลัค เล่นด้วยกันได้ สามคนนี้ ก็สไตร์ไกล้เคียงกันมาก โค้ชทีมชาติมือไม่ถึงนั้นเอง
จริง โค้ชมือไม่ถึงเอง
จริงครับ โค้ชเก่งๆเขาจะทำได้ครับ
ทำเป็นรู้ดีมึงอ่ะ
จริงโค๊ชแม่งกาก
ละจะเอาเบคแฮม ลงตรงไหนครับ
ถ้าเล่นระบบในยุคปัจจุบันผมว่าเล่นได้้ดีแน่ครับ เช่นระบบ 4-2-3-1 ห้องเครื่องกลาง2คือแรมพาจ กับเจอร์ราร์ด ตัวรุกกลางพอลสโคลส์ ขวาเบคแฮม ซ้าย โอเว่น หน้าเป้ารูนี่ย์
โอเว่น555
ถ้ายุคนี้ล่ะก็ สบายๆเลยครับ ใส่ DMF ตัวนึง
4-3-3 , false nine ให้ schole เล่น
Gerrard Lampard เล่น box to box
ถ้าไม่เน้นออกปีกมากก็ 4-3-1-2
Schole เป็น AMF อยู่หลัง Owen Heskey
4312ผมว่าคนที่เหมาะเล่นกลางรุกคือเบคแฮมไม่งั้นไม่มีที่ให้ลงแน่ ส่วนสโคลส์ยืนกับน้าเจิดและแลมพาร์ด
False 9 ต้องแลมป์พาร์ดคนเดียวครับ สโคล์ลให้เล่น b2b พี่เจิร์ด เบอร์ 6
เอาจริงๆ อังกฤษช่วงนั้น ขาดปีกซ้ายดีๆคับ เลยพยามจับ สโคล เจอราด แม้แต่ แม้คก้า ก็ยังต้องไปเล่นฝั่งซ้าย แทนที่จะมีปีกซ้ายธรรมชาติไปเล่น จุดพลาดของสเวนเลยในตอนนั้น
ชอบน้ำเสียงมากๆเลยครับ
ยุคสเปนครองโลก เพราะมีตัวรับคอยปัดกวาดแบบบุชเกสให้ชาบี้ และ อิเนตต้า ทั้งๆที่สเปนมีกองกลางสายรุกเก่งๆเยอะ แต่โค๊ชก็ตัดสินใจใส่ตัวปัดกวาดไปหนึ่งคน แต่โค๊ชอังกฤษยุคนั้นไม่ใส่กลางรับเลย ทีมเลยไม่สมดุลคับ
สเปนมีกองกลางล้นทีม แต่ไม่เคยเป็นปัญหาของโค้ชเลย เดลบอสเก้เคยจัดทัพโดยไม่มีกองหน้าอาชีพด้วยซ้ำ จัดการส่งฟาเบกัสกับดาบิด ซิลบาลงเล่นหน้าแทนก็ยังทำมาแล้ว สเวนควรใส่ฮาร์กีฟหรือคาริคก็ได้ เพราะอังกฤษยุคนั้นไม่มีตัวรับธรรมชาติเลยสักคน
สโคลส์ เจอร์ราร์ด แลมพาร์ด
ถ้าคุณเป็นโค้ช คุณจะดร็อปใครให้นั่งสำรอง มหาเทพทั้งนั้น(ยุคนั้น) ดร็อปตัวไหน ก็โดน เหล่าประะชาก่นด่าแน่นอน .
@@user-bd5jj1hk6w 4-2-3-1 เอาคาร์ริคกับแบรี่รับยัดอีกสามคนลงกลาง แต่ต้องดรอปเบ๊ค หน้าเว่นหรือรูนใครก็ได้หมด ถ้า4-3-3 เจิดเล่นต่ำสุดเพราะเล่นรับได้ดีกว่าเพื่อน สโคลอยู่ระหว่างเจิดกับแลมพ์เพราะสโคลคุมจังหวะดีสุดเล่นบอลง่ายมีวิชั่นดีกว่าอีก2คน แลมพ์ยืนหลังกองหน้า แต่หน้า3คนอาจต้องใช้เบ๊คเล่นหน้าขวาไม่รู้จะได้มั้ย
แบร์รี่ไม่ไหวจริงๆ เรือเกลือ วิ่งตามตูดโอซิล
โค๊ชใม่เก่งคับง่ายๆ
ถ้าจัดทีมแบบยึดติดในยุคนั้น ในระบบ 4-4-2 จากนักเตะในยุคนั้นอังกฤษควรเลือกใช้สโคล์มากที่สุด (มิดฟิลด์คู่อีกคนเป็นตัวรับ) เพราะ ตอนนั้นอังกฤษมี ศูนย์หน้าดีๆมากมาย แถมยืนคู่อีก ต้องการตัวจ่ายและสร้างสรรค์ มากกว่าตัวเข้าทำเอง ซึ่งสโคล์ตอบโจทย์มากที่สุด ณ ตอนนั้น
แต่ถ้า ในตอนนั้นไม่ยึดติดระบบ 4-4-2 ผมว่า 3-5-2 ก็น่าสน กองกลาง ให้เบ็คแฮมกับด้านซ้ายเป็นวิงแบ็คที่ไม่ต้องเน้นรับมากนัก (ใช้เซ็นเตอร์ซ้าย-ขวา คอยสนับสนุน) มีตัวรับ 1 คน ใช้เซนเตอร์ช่วยซัพพอทบ้าง เพลย์เมคเกอร์ 2 คน ให้อิสระ คือ สโคล กับ เจอราด โดยมีแลมพาท เป็นหน้าต่ำ ยืนคู่กับ กองหน้าอีกคน จะใช้ความเร็วหรือตัวพักบอล ขึ้นอยู่กับอีกฝั่ง
ติดตามครับ คอนเท้นดีมาก
เสียดายมากจริง ๆ ครับ สามคนนี้ ถ้าร่วมกันได้ อังกฤษคงไปได้ไกลกว่านั้นเยอะ
ยูโร 2004 ก็เคยเล่นและน่ะ แพ้ ฝรั่งเศษ 2 - 1 และ แพ้ จุดโทษ โปตุเกส
@@brucewaynethedarkknightofg311 เค้าหมายถึงเล่นร่วมกันได้ ไม่ใช่ เคยเล่นด้วยกัน
""จำเปนจะต้องเลือกใช้แค่2คนต่อเกมก้พอ((สลับกันลงก็ได้)) เพราะตน.อื่นๆก้จำเปนต้องมีในทีม จะให้ไปจุกยุ่ที่จุดเดวกันมากๆไปก้ไม่มีผลดีต่อทีมหรอก
__แต่การวางระบบการเล่นของโค้ช จะต้องคิดให้รอบคอบ เพื่อปย.สุงสุดต่อทีม!!
ชอบพี่เล่าเรื่องสุดละ
อยากฟังพี่เล่าประวัติกรรมการ ปิแอร์ลุยจิ คอลิน่า (Pierluigi collina) ครับ
เสียดายมาก
อันนี้จริงๆเลยนะคับ ตั้งแต่ดูบอลโลกมา อังกฤษไม่เคยเป็นทีมที่ลงตัวเลยซักทีนะ อันนี้ในความรู้สึกผม แต่แปลกในพรีเมียร์ลีคเล่นกันสนุกมันส์ทุกทีม แต่กลับกันทีมชาติอังกฤษไม่ค่อยจะลงตัวเลยซักครั้งนึง เป็นเพราะความสมดุลมันไม่ได้
ชอบแลมพ์ตอนยิงไกลนี่แหละครับ แฉลบเป็นเข้า
เอาง่ายๆคือคาร์ริค อยู่แมนยูมา10กว่าปี กงาดมาทุกแชมป์ เป็นตัวจริงในทีมตลอด แต่เป็นสำรองทีมชาติซะงั้น เหมือนโค้ชจะวัดที่ชื่อเสียงมากกว่าคุณภาพในสนาม
อคติล้วนคับ
เพราะเฮียแกเน้นเล่นง่าย
จนแฟนบอลตั้งฉายาให้ว่าเฮียแปะ
คือแปะบอลไปมา
แต่หารู้ไม่ว่าแมนยูพอขาดแกเหมือนขาดใจ
@@wachira010 บวก1ครับ ผมว่าคาริคเป็นคนเล่นบอลง่ายนะ ไม่เล่นยาก นักเตะแบบแกนี่แหละครับของจริง ถ้าไม่เจ๋งจริง ป๋าไม่เอามาแทนรอยคีนแน่นอนครับ และคาริคคงไม่ยืนหยัดกับแมนยูมาเป็น10ปีอ่ะครับ.
ยุคที่อังกฤษมีคาร์ริคนี่แหละ ที่ไม่ควรเอาเจอร์ราดกับแลมพาร์ดลงพร้อมกันที่สุดละ
การเล่นบอลให้ง่ายๆ ยากสุด
555 อย่าอวยเลยคาริคผมบอกเลยป๋าดันล้วนๆ ไม่มีส้นตรีนอะไรเลย จะบอกตัวรับก็กากๆจ่ายบอลก็งั้นๆแต่ได้มาอยู่กับทีมที่ดีเลยรอดมาได้ ผมชอบมันมากเลยตอนที่เขาอวยมันพอได้มาดูเล่นจริงถึงว่าเขาเอาเพื่อนมันไปหมดทั้งโคล ทั้งแลมป์ ไม่มีใครเอามัน
เพราะไม่มีใครเล่นรับธรรมชาติครับ คอนเท็นพี่ยักษ์ดีมากครับ ทำต่อครับพี่✌👍
เคยคิดเล่นๆสมัยนั้นนะครับว่า ถ้า Ryan Giggs เลือกเล่นให้ทีมชาติอังกฤษในตอนนั้น อาจจะไปได้ไกลกว่านี้ มันขาดตรงนั้นจริงๆ
ถ้ารวมทีมukได้จะโหดมาก
ผมว่า แทคติกการเล่น อังกฤษ เน้นขึ้น ริมเส้น ต้องมี ปีก ซ้าย และ ปีกขวา ดีๆ ถ้าเป็น ยุคนี้ นักเตะ แบบ กิ๊ก อาจจะ ดูไม่โดดเด่นเพราะ ยุคนี้ ปีกเน้นเลี้ยงไปยิง มากกว่า เปิดบอล ครับ
@@kuayraia5748แต่ ยุคนั้นปีกซ้ายที่เก่งสุดๆมีแค่ไม่กี่คนเองครับ ปีกซ้ายคือตำแหน่งที่ทีมชาติอังกฤษขาดความสมดุลตรงนี้ไป จริงอยู่ที่พูดมามีนักเตะที่เก่งกว่าหลายคน แต่ถ้าในตำแหน่งปีกซ้ายกิ๊กส์คือนักเตะ1ใน3ของโลกแน่นอน
ถูกครับ
@@kuayraia5748 ที่คุณกล่าวมาเกี่ยวอะไรกับอังกฤษ งงง
เรื่องราวน่าสนใจครับ ผมสงสัยมานานเเล้ว
เยี่ยมไปเลยครับพี่ ✌️✌️✌️✌️✌️
สมัยนั้นน่าจะลองเล่น 4-2-3-1 สามารถยัดเข้าไปได้หมดแน่
อยากให้พูดเรื่อง สเปนยุค2010หน่อยครับ ผู้เล่นแต่ละคนแต่ล่ะตำแหน่งลงตัวมากครับชอบมากโดยเฉาะชาบีอีเนสต้า
ถ้าเล่น4 3 3 เอาสโคลมาเป็นกลางรับหรือbox to boxก็ใด้เพราะแกตัววิ่งอยู่แล้วบ้าพลังคล้ายๆก็องเต้ เจอร์ราร์ดตัวปั้นเกม เเลมพ์พาร์ดตัวรุกเพราะตอนนี้นต้องยอมรับว่าแลมพ์พาร์ดโหดจริง สโคลก็เริ่มแก่แล้วเล่นรับสบาย
#พี่ทำเรื่อง แพททริค เอ็มโบม่า ด้วยสิครับ #ฟังไปและนึกถึงพอดีครับ👍👍
ชอบทั้ง3คนเลย เเต่ พอล สโคลส์ 1ในดวงใจ
สโคลส์ เป็นจอมทัพยูไนเต็ด ส่วนทีมชาติ นี่คือทีมชาติอังกฤษ อย่างไงจอมทัพก็มีส่วนสำคัญกับทีม
เจอร์ราร์ด เป็นทุกสิ่งทุกอย่างของลิเวอร์พูล ส่วนทีมชาติ นี่คือทีมชาติอังกฤษไม่ใช่ลิเวอร์พูล
แลมพาร์ด เป็นนักเตะที่เชลซีขาดไม่ได้ ส่วนทีมชาติ นี่คือทีมชาติอังกฤษไม่ใช่เชลซี
ที่นั้นแมนยู ก็ไม่ใช่ทีมชาติอังกฤษครับ
ตอนบอลโลกปี2002 อังกฤษเจอบราซิล ตอนนั้นทั้งโรงเรียนผมหยุดสอนเพราะคู่นี้เลย ตอนนั้นจำได้ว่าอังกฤษตอนนั้น ขวัญใจมหาชนจริงๆ
ถ้ายุคนั้นเล่น4-3-3น่าจะพอเล่นได้ เจอร์ราด สามารถเล่นเป็นตัวกวาดหน้าแผงหลังและคอยปั้นเกมจากแนวลึก วางยาว ลักษณะเหมือนบุสเกสต์ยืนได้ สโคลส์ยืนตรงกลางคอยเคาะสั้นยาวเปลี่ยนจังหวะเกม แลมพ์ยืนตัวบนสุด น่าจะพอได้นะ
เล่นสไตล์เหมือนกันทั้งสามคนเลย
เปรียบกับสุดยอดในยุคเดียวกันอย่างทีมชาติฝรั่งเศสซีดาน
เดชองส์ จอร์เกฟ หรือบราซิลที่มีริวัลโด้ โรนัลดินโญ่งี้ ก็สู้ไม่ไหวง่ะ
ยุคทองของสิงโตคำราม.. แต่ผสมไม่เคยได้เลย
ยอดกองกลางทั้งสามคน รักพี่เสียดายน้อง ตัวแปรอีกคนคือเบ็คแฮม ที่ผ่านบอลแม่น และ ความเข้าใจทางฝั่งขวาที่เล่นกับแกรี เนวิลล์ ฝั่งซ้ายพึ่งพาแอชลีย์ โคล ในการขึ้นเกม ไม่มีปีกซ้ายธรรมชาติ จะเล่นหน้าตัวเดียว ก็ดันมีไมเคิล โอเว่น และ เวนย์ รูนี่ย์อีก กลายเป็นไม่เด่นสักทาง
อยู่ที่การต้องการของโค้ชคับ เพราะสามตัวนี้ ตัวเด่นคือโคล แลมกับเจอดรับรุก
ทรงผมใหม่หล่อเลยครับ
ยุคอังกฤษปี2000
ยุคนั้นรวมดาราทั้งนั้น
เชลซี แมนยู ลิเวอร์พูล
สัดจริงครับยุคนั้นตำนานเลบย
แต่ละคอนเท้นของ footballistaโครตดี เสียงพี่ยักก็โครตสุดด
เห็นด้วยครับผมม 🙏❤️
ยกมือเห็นด้วย อีกคน
พี่ยักคับอย่าลืม เอาเรื่องของ ปาร์คจีซอง นะคับผมคลิปพีทุกEPเลยคับ
ผมว่า 3-4-3 ก็น่าสนใจ
Owen - Rooney
A.Cole - Lampard - Beckham
Gerrard - Scholes
Ferdinand - Terry - Campbell
James
Owen - Rooney ทิ้งคู่นี้ไว้ด้านหน้าดีแล้ว
กองกลางตัวทำเกม 3 คน Lampard มีอิสระในการส่องไกล Cole กับ Beck ครอสดีอยู่แล้ว
กองกลางตัว Hold เกม 2 คน เน้นรับ เน้นดันบอล Gerrard - Scholes ยืนคลุมกลางได้ดีอยู่แล้ว มีโอกาสลงมาแพ้คเกมรับเป็น 5 ยังได้
หลัง 3 ในที่นี้คือตัวหลักทั้งนั้น คิดว่าแข็งพอสมควรครับ อย่างน้อยมีปีกคอยลงมาซัพพอรตเล่นรูปแบบหลัง 5 ตอนเกมรับก็ได้
แต่อย่างว่านะครับ แผนฟุตบอลสมัยนั้น ยังไม่ค่อยมีแผนใหม่ๆ ส่วนใหญ่ก็ Standard 4-4-2 กันทั้งนั้น ก็ต้องยอมรับว่าเสียดายจริงๆครับ
สโคลซี่ครับ🔥
พี่ครับขอเรื้องเล่าสเปนยุค4-6-0ไม่มีกองหน้าเเต่ครองโลกหน่อยคับทำไมถึงเก่ง
เพราะกลางจาก บาซ่า ยุคที่โหดที่สุดในโลกด้วย เล่นด้วยกันจากสโมสร มันเลยส่งผลกับทีมชาติ
จำได้เลย ยูโร 2012
ยุคนั้นบาซ่าครึ่งทีม555
อังกฤษยุคนั้นแน่นมากทุกตำแหน่งตั้งแต่กองหลังยันกองหน้า แต่ไม่ประสบความสำเร็จอะไรเลย เป็นยุคทองที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา เสียดายจริงๆ.
อังกฤษ จบเพราะจุดโทษ
เเต่ในยุคนั้น ชาติอืนก็ใช่ย่อยนะคับ
ชอบทั้งสามคนเลยครับ
แผนตอนนั้นไม่ดี สโคลควรเล่นในตำแหน่งที่เล่นให้แมนยู เพราะการใช้สโคลเล่นคุมจังหวะดีที่สุด ดูความสำเร็จของแมนยูเป็นตัวอย่าง
ถ้าอังกฤษชุดนั้นมาเล่นยุคปัจจุบันแล้วปรับมาใช้ 4-2-3-1 หรือ 3-5-2 น่าจะไปได้อยู่
แต่ตอนนั้นทีมอื่นมันก็สุดมากๆเหมือนกัน และโดยรวมทีมดีกว่าอังกฤษ
ขอบคุณครับ
เพราะโค้ชที่เข้ามาคุมทีมชาติอังกฤษตอนนั้นมีแต่มือไม่ถึง+ไม่กล้าเด็ดขาดพอที่จะให้ใครนั่งหรือลง โดยเฉพาะ สเวน โกรันอีริคสัน และยุคนั้นเป็นยุคระบบ 4-4-2 แบบโบราณ ไม่ว่าจะยืนเรียงกัน หรือยืนเป็นข้าวหลามตัดในจังหวะเกมบุก
ส่วนตัวคิดว่า 3คนนี้ สามารถเล่นด้วยกันได้ในระบบ 3-5-2 โดยคู่กลางเป็นเจอร์ราด-สโคลส์ แค่ให้สโคล์สเล่นเกมรุกเยอะกว่าเจิด เล่นสูงกว่าเจิดหน่อยในจังหวะเกมสวนกลับ ส่วนแลพพาร์ดก็ยืนหลังคู่กองหน้า ซึ่งเป็นคล้ายตำแหน่งประจำที่เค้ายืนหลัง ดร๊อกบาในสโมสรอยู่แล้ว (ทั้ง3คนนี้มีหัวจิตหัวใจที่เล่นเพื่อทีมได้อยู่แล้วทั้งรุกและรับ แต่ไม่ใช่การเล่นริมเส้น) บางกรณีแผนเป็น3-5-2 แต่อาจจะใส่ผู้เล่นลงไปเล่นแบบ3-6-1 ก็ได้ โดยการปรับสโคลส์มายืนในตำแหน่งแลพพาร์ด(ที่กล่าวไว้ข้างต้น) และดันแลพพาร์ดไปเล่นกองหน้าคู่ที่ยืนต่ำกว่าอีกคน เปรียบเสมือน มีตัวหลังกองหน้าทั้ง2คน ทั้งแลมพ์และสโคลส์ หน้าตอนนั้นเป็นเฮสกี้ หรือ เคร้าช์ เก็บบอลสบายๆ คู่กลางเป็นเจอร์ราดกับตัวรับธรรมชาติเลยอีกคน ตำแหน่งวิงแบ็ค ขึ้นสุดลงสุดในสมัยนั้นของอังกฤษเล่น3-5-2ได้สบายมาก ทั้งแอชลี่ยโคล แกรี่เนวิล
น่าเสียดายที่ได้โค้ชที่ฝีมือไม่ถึง และไม่กล้าเสี่ยงคิดแผนแบบใหม่ และความกล้าในการตัดสินใจเลือกนักเตะลงหรือนั่ง ในยุค4-4-2 และโค้ชที่คุมก็ชอบใช้4-4-2 ทั้งที่ยุคนั้นแผนที่กำลังมาใหม่และมาแรงที่เริ่มมาก็คือ 4-2-3-1 เค้าก็ไม่กล้าใช้
โอ้ว ผมเม้นตอนดูคลิปไปแค่ไม่เกิน2นาที เม้นเสร็จกลับไปดูต่อ ผมก็มองว่าโค้ชนั้นแหละไม่กล้าตัดสินใจ หรือลองคิดอะไรใหม่ๆ
คาริค ดีที่สุดที่จะเข้ามาเติมเต็มในแผงกลางอังกฤษชุดนี้
แลมป์พาดดีสุดแล้วครับบบ
😎😘
ผมว่าไม่มีใครดีกว่าใครหรอกครับ ดีเยี่ยมกันทั้ง3คนแหละครับ.
ดีในที้นี้หมายถึงยิงเยอะกว่าสองคนที่เหลืออะหรอ ?
ไม่ถึง
เสียดายมากครับยุคทองของนักเตะอังกฤษเลย เท่าที่คิดออกระบบน่าจะ4-3-3หรือ4-2-3-1น่าจะเวิร์ก ส่วนตัวมองว่าโค๊ชมือไม่ถึงมากกว่า
พี่คับผมอยากรู้ประวัติ วินฟรีด เชเฟอร์
ก็ตอนนั้น อังกฤษ ใช้แผน 4-4-2 ระบบ หลัง4 กลาง2 ปีก2 หน้า 2 เข้าใจได้อ่ะน่ะคับ🤣
ถ้าจำเป็นต้องใช้3 ตัว ผมจะเอา เจิดลงไปcm แล้วให้ สโครคู่เจิดแล้วให้แลม Am ครับ ถ้ามันจำเป็นมากนะ
มูรินโญ่บอก ถ้าเจอราดย้ายมาเชลซี ผมจะทำให้เห็นว่าเจอราดกับเเลมพาดเล่นด้วยกันได้ เพราะเขามีมากาเลเล่เล่นกลางรับให้เจอราดกับแลมพาด
ยุคที่สโมสรในอังกฤษ โหดที่สุดเลยมั้งครับ แต่เสียดายนะระดับในระดับทีมชาติ อังกฤษยังเป็นรอง
ผมว่า ใน 3 คนนี้ เจอร์ราร์ด มีความหลากหลายที่สุด ทำได้ทุกอย่างในแดนกลาง ถ้าให้เค้าเสียสละเล่นเป็นกลางรับ น่าจะเวิร์ค นะครับ เล่น 4-3-3
ต้องเล่น4-4-2 แบบdiamondไม่งั้นก็4-5-1ไปเลยครับผมว่าน่าจะดีกว่า4-4-2แบบ Classic
เตือนปุ้ปกดดูปั้ป
ถูกต้องครับผมเคยใช้3คนนี้ในเพลย์2มันเป็นการตัดสินใจที่ยากครับยิ่งช่วงเวลานั้น3คนนี้ขึ้นชื่อระดับซูเปอร์สตาร์ต่อให้กุนซือขั้นเทพระดับใหนก็จัดระบบที่ลงตัวและสำเร็จได้ยากมากๆเลยครับ
ส.เจอราด คือนักเตะที่ครบเครื่องที่สุดในสามคนนี้ จ่ายบอลได้, เลี้ยงบอลได้, ยิงไกลได้, ตัดเกมได้, เปิดบอลได้ คือสุดๆ
เรื่องการจ่ายบอลสั้นยาว
สโคลส์ดีสุดใน3คนนี้คับ
@@sarayutsuwannapha2387 แล้วเค้าบอกอยู่ว่าครบเครื่อง
😂😂😂😂😂
คอมเม้นแบบนี้เถียงกันตายเปล่า
คงแล้วแต่แท็คติค ถ้าต้องการเน้นทำเกมเนียนๆสโคลดีที่สุด ถ้าเน้นตัวสอดไปจบสกอร์แลมพ์ก็ดีสุด แต่ถ้าต้องการเน้นสมดุลย์ รุก-รับ เจิดก็เหมาะสุด
โดยส่วนตัวก็อยากรู้เหมือนกันว่า
... ถ้า ณ ตอนนั้น Gerrard ย้ายมา Chelsea
Mourinho จะจัดทีมยังไง สำหรับผมเสียดายที่มันไม่เกิดขึ้น
แต่ถ้ามองอีกมุมก็ดีแล้วที่ไม่ย้าย เพราะแกเป็นทั้งกัปตันและไอคอนของ Liverpool
อังกฤษ ยุคนั้น 3-5-2 เหมาะสุด ลงตัวสุดในความคิดผม
หน้าคู่ รูนี่ โอเว่น
วิงแบ็ค ซ้าย เอโคล ขวา เบ็คแฮม
3 กลาง แลมป์ เจอร์ราด สโคล์ เป็นตัว โฮลบอล
หลัง3 เทอร์รี่ แคมเบล เฟอร์ดินาน
ตัวสำรอง แต่ละตำแหน่ง ก็คุณภาพทั้งทีม
โคลต้องเล่นกับเนวิล
@@newjameskoso2070 แทนกันได้หมดครับ ความยืดหยุ่นสูง นักเตะคุณภาพทั้งทีมขึ้นอยุ่กับว่า เจอทีมอะไร
เล่าได้เข้าใจมาก
ถ้าเทียบเกมโมบ้า
ก็ป่า3 เมจ3 แครี่3
สโคลส์ ความสำเร็จกับสโมสรมากสุดใน 3 คนถ้าเอาเขาไปไว้บนม้านั่งสำรอง แล้วทีมแพ้ขึ้นมาผู้จัดการทีมเละเป็นขี้แน่นอน
พี่ครับ ทำเรื่องอเมกันฟุตบอลหน่อย มันดูยังไง การทำแต้มแบบใหน ทีมรับ ทีมรุกยังไง ขอบคุณมากครับ
สมัยนั้นอังกฤษนังเล่นฟุตบอลสไตล์โบราณอยู่เลย ถ้ามาเล่นในยุคนี้ในระบบสมัยใหม่ ในระบบ4-3-3 วางกลางสามคน ผมว่าเล่นร่วมกันได้แน่ๆ ให้คนนึงคุมจังหวะหน้ากองหลังแบบที่ปีร์โล่เล่นให้อิตาลี แล้วเอาสองคนมาเล่นเชื่อมจังหวะกับพวกกองหน้า แบบที่โมดริชกับราคิติชยืนคู่กันในโครเอเชียตอนบอลโลก2018 แต่ประเด็นจริงๆคือ สามคนนี้แฟรงค์ แลมพ์ สโคล เป็นมิดฟิลด์เชิงรุกให้กับสโมสรทั้งหมด ใครจะยอมลดบทบาทลงมาเป็นมิดฟิลด์ตัวรับแล้วบทบาทน้อยที่สุดในทีมชาติล่ะ
สมัยนั้น ผจก.ทีม ไม่คิดนอกกรอบ ยึดติดกับระบบ 4-4-2 (มีขุนพลดี ไม่รู้จักใช้เอง)
พอพูดถึงเรื่องระบบ ผมต้องขอชื่นชม เป๊ป เพราะสมัยย้ายมาคุมทีม แมนฯซิตี้ ใหม่ๆ
เขายังยึดติดระบบ tiki taka แล้วไปไม่รอด เป๊ป ปรับเปลี่ยนระบบด้วยการเล่นเพรสซิ่ง
จนถึงในยุคปัจจุบัน ต้องชมเลยว่า เป็นระบบการเล่นที่ดีที่สุดทีมหนึ่ง สิ่งที่พิสูจน์ก็คือ
ไม่ว่าจะนักเตะชุดใหญ่ ชุดเล็ก หรือการทดแทนตำแหน่งการเล่นของนักเตะก็เล่นได้ดี
(โดยส่วนตัว ผมเป็นแฟนหงส์ แต่ยอมรับว่า ระบบเพรสซิ่งของ เป๊ป ดีกว่าของ JK)
ณ ปัจจุบัน สิ่งที่อยากดูคือการเจอกันของ แมนฯซิตี้ - บาเยิร์น บิวนิค แต่ไม่รู้จะได้โคจร
มาเจอกันหรือไม่?
ใช่เลยคับ ผมยุในยุคนั้น ทั้งๆๆซุปตาเต็มทีม เต็มประเทศ แต่ไม่ประสบความสำเร็จ คิดว่าประเทศเราน่าจะได้ข้อคิดบ้างนะคับ อย่าให้สื่อกดดันผุ้จัดการทีม ถ้าเค้าพลาดก่ตัวเค้า แต่คนกดดันเผ่นก่อนเลย
รักแลมพาด❤
สตายเหมือนกัน แผนไม่เข้านักเตะ
ต้องมีตัวรับดีๆ เบอ8จะเล่นดี
ปี2000มีนักเตะเวิลคลาสทั้งทีมแต่ไม่ประสบความสำเร็จปัญหาอยุ่ที่ผู้จัดการแล้วครับ
เสียดายที่ แผนการเล่นสมัยก่อนนิยมใช้ 4 4 2
ถ้าเป็น 4 3 3 แบบตอนนี้ลงตัวเลย
Roon Scholes Owen
Lam Gerrard Beck
Cole Terry Camp Nev
มีข้อแม้ว่า Gerrard เล่นในแบบมิดฟิวตัวรับ
ถ้าโค้ชสมัยนั้นเก่งๆนะ แผน 3 4 2 1 แบบเชลซีใช่ตอนนี้น่าจะพอลงได้ วิงแบคโหดมากด้วย
รูนนี่
แลมพาร์ด สโคล
อ.โคล เจอราด คาริค โจโคล
เทอรี่ โซแคมเบล เฟอดินาน
ทั้ง3คน พออยู่ทีมเดียวกัน แล้วแทบจะเหมือนกันทุกอย่าง มีดีที่ลูกยิงไกลเหมืินกันอีก หนักใจแทนโค้ชครับ5555
จริงตีนหนักทั้ง3คนเลย
ประเด็นคือมันไม่ใช่แค่เสือ3ตัว แต่เสือกเป็น3ตัวครึ่ง (เบ็คแฮม) อีกคน รวมถึงฝึมือโค้ชเองไม่ถึง สมาคมปรับตัวช้าไปกับฟุตบอลสมัยใหม่ ณ ยุคนั้น
ถ้วยเยอะ ต้องสโคลส์
สถิติยิง จ่าย ต้อง แลมพาร์ด
พลังใจการขับเคลื่อนแบกทีม ต้อง เจอร์ราร์ด
ภาพรวมก็คล้ายๆ แต่รวมกันไม่ลงตัวไม่สมดุลเข้าขากันเหมือนกลมกลืน+กลืนกิน บางทีอยู่ที่โค้ชการจัดแผนให้ลงตัวบางทีก็เสียดายจนเสียหายไม่เกิดไรที่ดีขึ้น
อยากรู้ว่าช่องนี้กับช่อง Yak DD ต่างกันอย่างไรครับ
ผมเห็นด้วยกับบทวิเคราะห์ อังกฤษ1966นะครับ
ตัวอย่าง เช่น
ฝรั่งเศษเคยมีดาวซัลโวใน3ลีคใหญ่
ใครๆก็ว่าฝรั่งเศษเต็งแช้มป์
แต่ไปตกรอบแรกบอลโลกเฉย
(ถ้าผมจำไม่ผิดนะ)
ตามความคิดของผม
มันคือการตีโจทย์ไม่แตก
เลยทำข้อสอบผิด
สุดท้ายเลย สอบตก
อิ้ๆๆ
.....เพิ่มเติมครับ
ฝรั้งเศษเคยบอกกับ
คันโตน่า ว่า คุณดีเกินไปสำหรับทีมชาติ
เราขอตัดคุณออก...
หลังจากนั้น ฝรั่งเศษได้แช้มป์โลกเฉย555
นี่คือกึ๋นที่ฝรั่งเศษมี
แต่อังกฤษบ่มี
(มีแต่หัวผักกาด)ห้าๆๆๆ
เอาจริงๆ ถ้า 3 คนนี้ ลงพร้อมกันในทีมชาติ ผมว่า โคตรดี สำหรับ ทีมชาติ
โค๊ชใจไม่กล้า
ถ้าเล่นแผนปัจจุบัน
สโคลล์เล่นตำแหน่งหมายเลข 10 ได้ เพราะเคยเป็นกองหน้ามาก่อน
แลมพาร์ด เล่นตัวเชื่อมเกมส์หมายเลข 8
เจอร์ราร์ด ตัวรุกตัดเกมส์ได้
ถ้าตอนนั้นรู้จักแผนหลัง3 หรือแผน3-4-2-1ก็น่าจะไปกันได้ หรือแผน4-3-3 ก็น่าจะได้มั้ย
ถ้าจะเอาแค่สถิติการแอสซิสการยิง แลมพาร์ดกับเจอร์ราดจะเหนือกว่าชาบีกับอิเนียสต้าด้วยซ้ำไป
การป้องกันจะทำให้คุณไม่เสียประตู
เกมรุกจะทำให้คุณได้ประตู
แต่เกมแดนกลางจะทำให้คุณมีโอกาสชนะมากกว่า
ชาบี อิเนียสต้า พอลสโคล เป็นมิลฟิลด์สไตล์คุมเกม ไม่ได้มีสไตล์รุกจ๋าแบบแลมพาร์ดหรือเจอร์ราด
ผมบอกได้แค่ว่าแลมพาร์ดกับเจอร์ราดไม่มีทางคุมแดนกลางได้แบบพอลสโคลแน่นอน สำหรับคนดูบอลเป็นก็คงจะบอกได้แค่นี้
การมี เจอร์ราด แลมป์พาด และ มาเกเลเล่ เล่น ร่วมกันในแดน กลาง มันคือความฝันของผม < โจเซ่ มูริญโญ่ >
ข้อมูลจากเพจวาทะลูกหนังครับ 🙏🏻
FCจากพัทลุงคับ
สงขลาครับ
กลางตัวคุมเกมทั้งนั้นเลย แต่ไม่ใช่สายวิ่งปั่นป่วนเกมรับฝั่งตรงข้าม เอามารวมๆกัน เลยขาดมิติอื่นๆที่ควรจะมีเช่นกันในเกมครับ
ปาร์คเกอร์ คาร์ริก แบร์รี ฮาร์กรีฟ.
ต้องสี่คนนี้ลงพร้อมๆๆกันครับ
ถ้ายุคนั่น ผมจัดเลยคาร์ริค ฮาร์กรีฟ ส่วนใน 3 คนนั้นให้ผลัดกันเล่นใครฟอร์มดีสุดให้เป็นตัวจริง
เฉียบ!!!
เจอร์ราร์ดเล่นตัวรับเพราะขยันทุ่มเทเก็บกวาดได้ดี
สโคลส์ยืนตัวกลางเชื่อมเกมส์เพราะเปิดบอลส่งบอลแม่น
แลมพาร์ดเล่นตัวรุกเพราะเซนต์เกมส์บุกดี ความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ
แบบนี้ หน้าสาม แบคแฮมหน้าขวา รูนี้หน้าซ้าย โอเว่นหน้ากลาง
@@danpossible5300 ผมขอแย้งหน่อยว่า จริงๆอยากให้เป็น Formation นี้มากกว่า
รูนี่ย์
โอเว่น
แลมพาร์ด
สโคล์ เบคส์
เจอร์ราด
อ.โคล ริโอ เทอรี่ ก.เนวิลล์
ทำไมผมมองว่าทั้งสามคนเล่นไม่เหมือนกันเลย แต่สิ่งที่เหมือนกันอย่างหนึ่งคือ ทั้งสามคนไม่มีใครเป็นตัวรับธรรมชาติเลย ทั้งๆที่มี คาริก ฮากรีฟ แบรี่ ที่เป็นตัวรับธรรมชาติ แต่ดันไม่เลือกใช้เลยซักคน เพราะอีกนในแผงมิดฟิล ก็ต้องเป็น superstar อย่างแบ็คแฮม และกองหน้าก็ต้องเอารูนี่ และโอเว่น ลงทั้งคู่ คือต้องเลือก ยังไงก็ต้องมีตัวรับซักคน จะเห็นได้ชัดว่าตอนที่เอาฮากรีฟ คาริก ลงไปทีมสมดุลมาก ฟอร์มดีทั้งทีม ถ้าไม่เอาแบ็คแฮมออก ก็ต้องเอากองหน้าออก 1 คน
อีกอย่างคือ ตอนนั้นยึดติดกันระบบ 4-4-2 มากเกินไป MC 2 คน ยังไงก็ต้องมีคนเล่นเกมรับ แต่ทั้งสามคนไม่มีใครเป็นเชิงรับเลย
สโคลส์ เจอราด แลมพาร์ด ลงพร้อมกันก็เหมือนเอา AMF ลงพร้อมกัน 3 ตัว AMF ตัวขึ้นเกมส์เบอร์ 10 มีได้แค่ตัวเดียว ส่วนอีก 3 ตัว คือผสม CMF DMF LMF RMF แล้วแต่แผนการเล่น DMF ก็ตัดเกมส์ เทรินบอลให้ AMF ส่วน CMF ขึ้นมาช่วย AMF ในการผ่านบอล ส่วน LMF กับ RMF ก็ ออกด้านข้าง
แผน AMF ก็ได้แผน 4 - 3 - 1 - 2 และ 4 - 2 - 3 - 1 และ 4 - 3 - 3 คือ แผงกองหน้า ให้ CF ยืนหน้าเดี่ยว และขยับ LWG กับ RWG ลงมาหน่อยนึงแบบ และดันกลาง ขึ้นเป็น AMF และเหลือ 2 ตัวไว้เป็น CMF และดัน LB กับ RB ขึ้นเป็น WB
4 - 3 - 3
CF(9)
LWG(11). RWG(7)
AMF(10)
CMF(8). CMF(6)
WB(2) WB(3)
CB(4). CB(5)
GK(1)
แต่ อังกฤษ มันเป็นบอลทื่อเล่นบอลตามฟุตเวิรค ลูกโหม่ง ยิงไกล ฟรีคิก จุดโทษก็ไม่แข็ง อังกฤษ ไม่มีลูกพลิกแพลงไม่มีลูกที่เล่นด้วยจินตนาการในการเจาะ บุกลุยต่อบอลไปข้างหน้าไม่มีพื้นที่ไปต่อก็รอเพื่อนเติมไม่กล้าเลี้ยงบอลไปต่อไปสุดเส้นหลังก็เปิดบอลโยนยาวจากลูกด้านข้างรอโหม่ง บอลกระเด็นออกมาก็ยิงไกลจากแถวสอง เสียบอลก็ไล่บอลแบบรักษาตำแหน่งตัวเองและดักบอลเป็นด่านเป็นด่าน ไม่ดักบอลแบบคุมโซนเข้าคนซ้อนคน ลูกเปิดยาว เบ็คแฮม สมัยก่อนก็เปิดดีน่ะแต่รับยากมาก และพื้นที่ของ เบ็คแฮม ในการไล่บอลก็ไม่ดี อังกฤษ เล่นบอล 4 - 4 - 2 น่ะดีสุดแล้วแบบปี 2006 แต่จุดอ่อนมันอยู่ตรงการดวลเป้านี่แหละรีบเล่นเร่งเกมส์กลัวต่อเวลาไปถึงการยิงจุดโทษ ถ้าไปเล่นสไตล์แบบ 4 - 3 - 3 หรือ 4 - 3 - 2 - 1 หรือ 4 - 3 - 1 - 2 ตัว AMF มันต้องอัฉริยะในการพลิกเกมส์สมองล้วนล้วน อย่าง ซีดาน ริเกลเม่ ชาบี อิเนสต้า มันต้องมีทักษะในการเอาตัวรอดจากการโดนบีบไล่บอล ควรจะออกบอลไปทางไหนที่ทำให้ทีมตัวเองได้เปรียบสามารถพลิกเกมส์ได้ ลูกเปิดเตะมุมต้องรู้ใจกับ CF และ CB และเปิดบอลไปล่วงหน้าและให้ CF กับ CB วิ่งไปตำแหน่งที่ AMF เปิดบอลให้ และลูกฟรีคิกก็แม่นยำด้วย รวมถึงลูก Killer pass ให้ CF เส้นไลน์แมนจาก CB ฝ่ายตรงข้ามกับ CF บอลที่จ่ายจะต้องพร้อมกันทั้ง 3 คน และลูกยิงส่องไกลจากแถว 2 ก็ต้องแม่นยำด้วย การล้วงบอลตำ่และเปิดบอลยาวหลุดการทะลุช่องจากตำแหน่ง กองหลังคู่แข่งดันสูงขึ้นมา เตะลูกจุดโทษ หรือ ได้ลูกจุดโทษ ก็ต้องเป็นคนแรกที่ได้อาสายิงลูกนั้น
เสือ2ตัวอยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้ แต่นี่มีถึง3เสือก็เละสิครับ
แล้วทำไมเสือ 11 ตัว อยู่ไหนโหลเดียวกันได้ 555+
@@jackieyungmaitaii แก๋วๆๆ
เสือ11ตัวอยู่ด้วยกันสบายเลยนะครับ
ที่เสือ11ตัวอยู่ด้วยกันได้ก็ เพราะ...มีหัวใจไม่เเข็งไม่อ่อน....55
@@MKDK6gu พอสาวออดอ้อน แค่มองก็สั่นก็ไหว
5555
ดูก็รู้แฟนคลับ มนต์สิทธิ คำสร้อย แน่นอนครับ 5555
จริงๆต้องให้เจอราดยืนเกมรับ เพราะเจอราดเป็นมิดฟิวประเภทบ้าพลัง วิ่งขึ้นลงไม่มีหมด // ส่วนสโคล์กับแลมพ์ผาดยืนกลางรุก ให้แลมพ์ผาดเป็นเพเมคเกอร์ ยืนอยู่หลังกองหน้า สโคล์เหมือนจะต้องลงมาเชื่อเกมต่อจากเจอราด อะไรประมาณนี้ครับ
จากเด็กผีครับ ผมคิดว่า ควรเล่น 3 (dc เฟอดินาน เทอรี่ แคมแบล) 1 (dmc เจอราด) 3 (cm เบคแคม+แลมพาด amc สโคล) 2 sc โอเว่น เชียร์เรอร์ / พอกันทีกับการโยนไปมาน่ารำคาญ ทำชิ่ง1-2 แล้วเข้าชาร์ตจากเชียร์เร่อร์ แล้วเอา 3 ตัวปัญหานี่ยืนกางป้อมแถวสองเลย ต๊าปๆ!!
อังกฤษยุคนั้นต้องเล่น 433 ครับ แต่เข้าใจครับ สื่ออังกฤษแรงมากสมัยนั้น
ถ้าไม่จับลงพร้อมกันสื่อกดดัน พอเอาลงพร้อมกันผลงานก็ไม่ดีและ3คนนี้ไม่มีใครยอมลดบทบาทตัวเองด้วย และที่เอาสโคล์ยืนซ้ายเพราะเขาคล่องตัวสุด ทำให้ถ่างโซนป้องกันระหว่างแบ้คขวากับเซนเตอร์ได้
Cr.จำไม่ได้ว่าอ่านมาจากไหนแต่ขอบคุณนะครับ
คาริ หรือ แบรี่ DMC
แลม สโคสว์ MC
เบค โจโค MR ML
เจอร์ราด AMC
รูนีย์ FC
หน้า 1 ตัว ไม่ได้ เพราะมี เชียร์เร่อร์ โอเว่น
แค่เอาแลพเล่นกับเจิดก็ยากแล้วครับ เหมือนกันเกินไปในแนวทางการเล่น
ผมเห็นด้วยกับที่กล่าวว่า ทีมชาติอังกฤษยุคนั้นยึดติดกับระบบ 4-4-2 แต่ตอนนั้นการเปลี่ยนไปใช้ระบบอื่นนักเตะส่วนใหญ่อาจจะไม่ถนัด ก็อาจส่งผลเสียได้เหมือนกัน อีริคสัน เลยไม่กล้าเปลี่ยนระบบมั้งครับ
ยากมากที่จะตัดใครไปจริงๆครับ ถ้าไม่ใช่ 3-5-2
ขอคู่ อิเนสต้า กับ ซาบี้ ด้วยนะครับ
ดันครับ
บวกครับ