Woke ไม่ใช่แค่ คนดำ แต่รวมถึง Barbie, Dune, Wonka, Godzilla X Kong ยัน Star Wars ภาคแรก
ฝัง
- เผยแพร่เมื่อ 1 เม.ย. 2024
- Fast My Car TEE กดได้เลยจ้า
👉 shop.line.me/@764oeezk
สามารถสนับสนุนช่องตีลังกาดูหนังไปพร้อมกันได้ โดยการซื้อค้า ผ่านลิ้งค์ shopee ด้านล่าง (เข้าลิงค์ไปซื้ออย่างอื่นก็สนับสนุนเราได้เหมือนกันนะ)
ยูโทเปีย (Utopia)วรรณกรรมโลกสมมติลำดับที่ 1
shope.ee/7AGWPinkoK
จ่ายทิปสำหรับสายอยากตะโกน
tipme.in.th/865bc7e08754c20a1...
สมัครสมาชิก
/ @tlg_dream
ติดตามเราเพิ่มเติมได้ที่
FB: ตีลังกาดูหนัง / somersaultfilm
IG: Thornin thornin?hl=th
Tiktok: / dreamtlg
ช่่องทางการโดนเนท
ธรณิน เผือกโสภา
พร้อมเพย์ 0863774546
กสิกร 632-2-23666-0
กรุงเทพ 870-7-03782-9ก
กรุงศรี 531-1-40990-6
ติดต่อโฆษณา
ดรีม 0863774546
W.thoradream@gmail.com
#ตีลังกาดูหนัง
#Woke
#godzillaxkongthenewempire - บันเทิง
อยากลองอ่าน #ยูโทเปีย (Utopia) ลองกดไปอ่านในลิ้ง
shope.ee/7AGWPinkoK
ผมว่า คนดูส่วนมากเข้าใจและ รับเรื่อง woke ได้นะคับ ประเด็นน่าจะเป็นเรื่อง"การยัดเยียด"มากกว่า
อย่าลืมว่าภาพยนต์ สิ่งที่ต้องมาเป็นอย่างแรกคือความบันเทิง ถ้าชมแล้วไม่รู้สึกบันเทิง ชมแล้วมันขัดใจ จะทนดูไปทำไมล่ะคับ
ยัดเยียดคืออะไร อธิบายหน่อยครับ
@@TLG_Dream แอเรียล
@@teezakrabpom6129 ทำไมกรณีนี้ถึงมองว่ายัดเยียดหรแครับ
@@TLG_Dream อันนี้ที่ผมรู้สึกคือ มันไม่ได้มีผลดีอะไรกับหนังครับ แค่เปลี่ยนผิว สร้างแรงกระเพื่อมบอกว่าใครสีผิวไหนก็เล่นได้ แต่แค่นั้นเองเหลอ คือแบบ การ์ตูนในวัยเด็กดันโดนเอามาทำเหมือนเป็นเครื่องมือให้คนความคิดชิดซ้ายเป่าประกาศว่าความคิดข้ามันเจ๋ง แต่ความทรงจำวัยเด็กของหลายคนพัง หรือ แม่พระเอกที่เป็นคนดำอีกแล้วต้องมาบิดบทว่าทำไมลูกขาว คือถ้าจะลำบากแก้บทเพื่อให้ยัดคนดำมาได้ จริงๆไม่ต้องลำบากก็ได้นะ ยังไม่รวมเรื่องอื่นไปอีก อย่างชัดๆก็สโนไวท์ อันนี้น่าจะปัญหาจากนักแสดงแหละ แต่ตอนให้สัมภาษณ์แกบอกจะเปลี่ยนโน่นเปลี่ยนนี่ คือไม่ทำหนังใหม่ไปเลยหละ จะมาใช้ชื่อตัวละครในตำนานของค่ายมาเป็นกระบอกเสียงเคลื่อนไหวแต่แก้ไม่เหบือเค้าเดิม(จริงๆที่รู้มาก็เข้ารูปเข้ารอยแล้วฮะนะ) อย่างสไปดี้อนิเมชั้นอันนี้คือดีมากๆ ทั้งบริบท กับความเหมาะสมครับในความคิดส่วนตัวผมครับ ในช่วงหนึ่งในคลิปพี่พูดถึงการที่หนังควรจะให้อะไรสังคม แต่ผมขอโต้แย้งในมุมนึงว่าผมแค่ต้องการจิตวิญญาณและเสน่ของหนังนั้นๆครับ ไม่ใช้กระแสการเมืองที่คนบางกลุ่มดูแล้วฟินแต่ทำให้คนที่ติดตามดูปวดกะบาน สรุปแค่คิดว่าการมีการเปลียนแปลงมันก็ดี แก้ในสิ่งทีเคยทำผิด การเหยียดผิว การเล่นตลกกับคาแรคเตอร์ของชาติพันธุ์นั้นๆ แต่ถ้าwokeจนเกินไปบางที ย้ำว่า บางที มันอาจทำร้ายฐานแฟนที่เคยชอบเคยดู แฟรนไชส์ นั้นไปก็ได้
นางเงือกมันไม่ได้มีบริบททางสังคมอะไรเพื่อเป็นคนขาวด้วยซ้ำไม่ใช่หรอครับ
ความหลากหลายของคนอเมริกันต่างหากที่ถูกถ่ายทอดมาในหนังภาคนี้
ส่วนเรื่องความทรงจำวัยเด็กพัง
ผมก็จะถามว่า แค่เขาเป็นคนดำ วัยเด็กคุณพังจริงๆหรอ?
วัยเด็กของคุณผูกพันธ์อยู่กับนางเงือกผิวขาวจริงๆ
หรืออยู่ในเรื่องที่เขาเล่า?
เวอร์ชั่นเก่ายังมีนะ เขาไม่ได้ทำลายมันทิ้ง
ท้ายที่สุดอยากให้มองแบบปิดท้ายในคลิบ
อยากให้แยกแยะโลกแฟนตาซี กับความจริงให้ออก
ชั่งน้ำหนักว่าเราเห็นคุณค่าของอะไรมากกว่ากัน
ยังไงก็ได้ขออย่ามาเปลี่ยนสิ่งที่มีอยู่แล้วให้เป็นอย่างอื่นได้ไหม ทำไมไม่สร้างสิ่งใหม่ขึ้นมาเอง คนรักก็ถูกของเขาแล้วทำไมไม่สร้างหนังที่มีเนื้อเรื่องของคุณเองเส้นดำเนินเรื่องใหม่หล่ะถ้าทำได้ก็ดูไม่มีอะไรยาก กาาตื่นรู้ไม่ใช่การบังคับให้คนอื่นชอบ บางคนไม่มีปัญหากับสิ่งนั้นแต่ที่รับกันไม่ได้คือเปลี่ยนสิ่งที่มีอยู่ให้เป็นอีกอย่าง บังคับให้ชอบใครจะรับได้
อยากเปลี่ยนแปลงต้องสร้างเนื้อเรื่องใหม่ครับ ไม่ใช่ดัดแปลงสิ่งเดิม ถ้าคุณไม่อยากให้มีความคิดแบบดั่งเดิมก็แค่ปล่อยอย่าแต่งเติมในความชอบเขา แต่ทำในสิ่งตัวเองสร้างมาเองแบบใหม่เขาเปิดใจเขาจะเข้ามาเอง สิ่งที่ถูกคือการไม่ยัดเยียดและการบังคับให้ยอมรับหรือชอบ(เพราะไม่งั้นความคิดแบบนั้นก็ไม่ต่างกับการไม่เคารพความคิดคนอื่น แล้วนั้นคือการตื่นรู้?)
แล้วมันมีเหตุผลอะไรที่เราต้อง "ดำรงไว้ซึ่งคนขาว"
เมื่อสังคมเปลี่ยน โดยเฉพาะอเมริกาที่มันไม่ได้ขาวล้วนอีกต่อไปแล้ว
ตัวละครนะรักได้ครับ
แต่ช่วยรักเพื่อนมนุษย์ผิวสีด้วยก็ดี
มองให้กว้างกว่าแค่โลกแฟนตาซี
แล้วมองสังคมจริงๆ ว่าเปลี่ยนแปลงนี้มันสร้างผลกระทบได้จริงๆ
@@TLG_Dream ผมก็มองคนเป็นคนทุกคนผมก็บอกความหมายที่จะสื่อถึงว่า เขียนเนื้อเรื่องชื่อใหม่แต่งใหม่ในฉบับของตัวเองชื่อหนังของตัวเอง นั้นแหละครับที่จะสื่อ ผมไม่ได้บอกให้มีแค่คนขาว (คนขาวก็คนเหมือนกันผมก็ไม่ได้เรียกว่าคนขาวแบบปกติผมก็เรียกคนนั้นคนนี้เหมือนทุกชาติพันธ์)
@@mainloop7697 เห็นด้วยเลยครับ คนดำก็ทำเนื้อเรื่องใหม่ตัวละครใหม่เป็นของตัวเองเอาให้ดีๆไปเลย จะดีกว่ามากคนจดจำได้มากกว่าด้วย
ผมขอแย้งประเด็นความรักที่ไม่มีอะไรกลับมานะครับ การที่เราได้รักตัวละครๆนึงไปมันมอบความสุขมหาศาลกลับมามากเลยครับผมเลยมองว่าการที่คนบางคนไม่พอใจที่ตัวละครที่เขารักโดนเปลี่ยนแปลงจนเกินไปจากของเดิมที่เขาเคยรักก็มีสิทธิ์ที่จะไม่พอใจได้ และความไม่พอใจดังกล่าวไม่เกียวกับอคติเรื่องสีผิวหรือ woke เลยครับยกตัวอย่างถ้าเรารักคนๆนึงเช่นแฟนเรา เราชอบเขาที่เขาหน้าตาแบบนี้สีผิวแบบนี้ แต่อยู่มาวันนึงแฟนเราเปลี่ยนไปเป็นอีกแบบเลย แน่นอนครับ ไม่มีทางทีทุหคนที่เจอจะโอเคกับเหตการณ์นี้ ดังนั้น ผมว่าเราต้องมองว่าเราจะทำเพื่อสังคมหรือเราจะทำเพื่อตัวเราเองซึ่งสำหรับคำถามนี้มันคือคำถามของคนทำหนังที่เขาจะเลือกให้ความสุขกับลูกค้าของเขาหรือเขาจะเลือกที่จะให้ความสำคัญกับสังคม สุดท้ายนี้ผมว่าคนบางคนที่ไม่พอใจเมื่อเห็นตัวละครที่เขารักเปลี่ยนแปลงไปก็ไม่ได้เมินเฉยกับปัญหาสังคมอันนี้หรอกครับแต่เขาแค่คิดว่ามันควรจะทำในแบบที่เหมาะสมไม่ยัดเยียดจนเกินไป
มันต้องแยกแหยะระหว่างเรื่องจริงที่มีผลกระทบต่อสังคมจริง
กับตัวละครสมมุตินะครับ
แล้วก็ต้องวัดกันในใจ ว่าเราเห็นคุณค่าของสิ่งไหนมากกว่ากัน
@@TLG_Dream ผมว่าทุกอย่างมันต้องพอดีครับ ทึกอย่างจริงๆ
@@TLG_Dream และผมว่าการที่เราได้มีความสุขกับตัวละครของเรามันจริงไม่พอหรอครับ แค่มันมีผลหรือไม่มีผลกับสังคมเท่านั้น
แค่ไหนคือพอดีหรอครับ เอาอะไรมาวัด
สำหรับผมคือบริบททางประวัติศาสตร์
แต่ตัวละครแฟนตาซีมันไม่มีตรงนั้น
มันไม่มีเหตุผลอะไรเลยที่จะดำรงไว้ ยกเว้นความชอบคนผิวขาว
@@TLG_Dream โอ้โหพี่ทำให้ผมเปลี่ยนความคิดกับช่องพี่ไปได้เลยนะครับ จากที่คิดว่าพี่จะคิดอะไรที่มันเมกเซนได้ โอเคครับ คืองี้ แค่ไหนคือพอดีเอาอะไรมาวัดใช่ไหมครับ แสดงว่าตอนนี้ที่คุณคิดคือการทำแบบนี้จะทำให้สังคมเกิดการเปลี่ยนแปลง สร้างแรงกระเพื่อมในเรื่องสีผิว ใช่ครับ ''ผมว่ามันได้ผล'' แต่! การที่เราทำแบบนี้มันไปกระทบกับความรู้สึกของคนอื่นไหมครับ? ไม่ใช่คน"ผิวขาว" ที่พี่บอกนะครับคนที่อยากให้ตัวละครนี้คงเดิมเพราะต้องสีผิวขาวคนขาวใหญ่สุด แต่เป็นคนที่เขารักในตัวละครนี้จริงๆ แล้วพี่คิดว่าการที่เราทำอะไรอย่างอื่น แต่สร้างความรู้สึกไม่ดีกับคนอื่นๆอีก มันพอดีไหมละครับ ถ้าเรามีวิธีที่จะสร้างแรงกระเพื่อมนี้ได้โดยไม่กระทบกับคนกลุ่มนั้นมันไม่ดีกว่าหรอครับ จริงๆที่ผมจะแย้งคือไม่อยากให้พี่ตัดสินว่าคนที่เขาไม่เห็นด้วยคือคนที่ไม่สนับสนุนเรื่องนี้เท่านั้นแหละครับ
Woke สมัยนี้มันล้ำเส้นคำว่าความเท่าเทียม หรือความหลากหลาย ไปแล้วครับ สิ่งที่ Woke สมัยก่อน ณ ปัจจุบัน ความเท่าเทียมความหลากหลายมันได้เกือบจะครบแล้ว
การตื่ยรู้ทางสังคมมันล้ำดส้นยังไงหรอครับ
@@TLG_Dream มันกลายเป็นเบียดเบียนและยัดเหยียดไปแล้วครับ แค่มผิวสีไม่พอ แค่หญิงแกร่งไม่พอ แค่ความหลากเหลายความเท่าเทียมไม่ะอ เราต้องเปลี่ยนผิวขาวเป็นผิวสี เราต้องเปลี่ยนตัวละครชายให้ ปญอ ทำให้ตัวร้ายต้องเป็นเพศชาย ต้องสร้างบทที่ชูตัวละครหญิง ให้ตัวละครหญิงไม่ใช่เพียงนางเอกหรือตัวดำเนินเรื่อง ผมไม่รู้จะอธิบายยังไงเพิ่ม แต่ผมรู้สึกแบบนี้ครับ ไม่ว่าจะการปรับเปลี่ยนบทตัวละคร การวิจารย์รูปลักษณ์ตัวละครในเกม หรือ อื่นๆ ปล.กลุ่มที่ผมพูดถึงคือกลุ่ม Woke หัวรุนแรงนะครับ กลุ่มที่เรียกร้องปกติ หรือไม่ได้สุดโต่งผมก็ OK
@@apckt5328แล้วเปลี่ยนสีผิวมันส่งผลกับเนื้อเรื่องยังไงครับ งงนอกจากอคติทางสีผิว
แบบนั้นไม่ได้เรียกเบียดเบียนหรอกครับ
เขาเรียกว่าสะท้อนภาพสังคมจริง
ผู้หญิงแกร่ง ผู้ชายอ่อนแอ คนผิวสีไม่เป็นโจร
มันก็มีอยู่จริงในสังคม
มันต้องตั้งคำถามกับตัวเรามากกว่า
ว่าเราคาดหวังในสิ่งที่ไม่มีอยู่จริงรึเปล่า
มันเป็นเพียงแค่โลกที่คนขาว คิดว่ามันมีอยู๋รึเปล่า
ต้องย้อนไปดูประเทศอมริกาครับ เพราะหนังพวกนี้มาจากอเมริกา ที่ยังมีการเหยียดคนดำ เพศหญิง เอเชีย หรืออื่นๆก็ตาม
ผมเลยไม่ชอบwoke เพราะผมชอบนอน
ไปนอนนะ
พูดไปก็เท่านั้น
ให้ผลลัพธ์มันชัดเจนด้วย”รายได้” ก็พอครับ อย่าไปอินอะไรมากมายเลยสุดท้ายมันแค่เกมส์ที่นายทุนเขาเลือกเดินแล้วคิดว่ามันจะปังซึ่งก็ตามสภาพครับ
แล้วแต่คิดแล้วกันครับ
ผมว่าชีวิตมันมีอะไรมากกว่า "เงิน"
Vote with your wallet ครับเห็นชัด
@@TLG_Dreamเงินคือสิ่งที่ควบคุมทุกอย่าง เงินไปทางไหนคนไปทางนั้นเหมือนแม่น้ำในยุคปัจจุบัน
เพจหนังเขารู้ครับ ว่า WB Woke แต่เพราะ AFD แกเลยทำเป็นเหมือนหลอกลูกเพจว่า WB ไม่ Woke ทั้งๆที่ มัน Woke ทั้งหมดแหละ แต่มัน Woke แล้วมันคือการนำเสนอออกมาในรูปแบบภาพยนต์จริงๆ
ถามแค่ว่าหนังไทยมีฝรั่งเป็นตัวละครเอกกี่เรื่อง หรือหนังจีนหนังเกาหลีอินเดียงี้ มันแล้วแต่คนดูในประเทศ ไม่ใชยัดเยียดแล้วบอกว่านี่คือการตื่นรู้ มายัดเยียดแล้วบอกว่านี่คือสิ่งสมควร ถ้าอยากwokeก็ไปสร้างเอง เอาให้เห็นกันแบบโต้งๆเลยว่าwoke แล้วค่อยแสวงหาการยอมรับจากสังคม เพราะตอนนี้หนังแต่ละเรื่องมันคือหนังผู้กญิงและคนดำเป็นใหญ่มากกว่าสนับสนุนความเท่าเทียม คนที่อยากจะwokeไ่ม่มีความสามารถที่จะสร้างเอง เลยต้องเอาบทที่เป็นที่นิยม ที่คนรักมาเปลี่ยน และบอกว่า จงชอบฉันซะ จงยอมรับฉัน ทั้งที่ตัวตนของตัวละคร พล็อตของหนังมันเปลี่ยนไป แล้วการโจมตีคนที่ไม่เห็นด้วยมันไม่ใช่การสนับสนุนความเท่าเทียม มันคือการปิดปากคนเห็นต่างแล้วตะโกนว่า นี่แหละ!ความเท่าเทียม กระโปรงสีรุ้งไม่ได้เหมาะกับทุกคน อย่าเอาความเป็นเอเชียนมาใช้เพื่อแสวงหาความเท่าเทียมอย่างขัดแย้งในตัวเอง เพราะตัวคุณยังมองเลยว่าเอเชียนต่างกับคนดำและคนขาว มันแสดงให้เห็นว่าลึกๆแล้วในใจคุณคิดว่าเอเชียนด้อยกว่าคนขาวด้วยซ้ำ อยากwokeอยากlgbtqก็ทำไปสิ แต่ไม่ใช่ทำลายอุตสาหกรรมที่เห็นต่าง และสร้างความรำคาญเดือดร้อนให้คนอื่น คุณแค่สร้างสิ่งที่คุณฝัน ทำตามเป้าหมายของคุณ ขึ้นมาเอง ไม่ใช่ขโมยสิ่งที่คนอื่นสร้างมาใช้ในการแสดงจุดยืนของตัวเอง โดยไม่ได้ตระหนักเลยว่าคุณทำลายหนังดีๆบทสนุกๆไปหลายเรื่อง เพียงเพราะมันไ่ม่woke
บริบทสังคมเมกา มันไม่ใช่คนขาว 100% นะครับ
คนผิวสีเกือบ 50% ของสังคมแล้ว
@@TLG_Dream คนผิวสีเกือบ50%แล้วยังไง ในเมื่อต้นฉบับและพล็อตเรื่องของหนังไม่ใช่คนผิวสี คนมาดูหนังเขาต้องการแค่ความสนุก และได้เห็นตัวละครที่เขารัก สิ่งที่ทำคือการบิดเบือนภาพลักษณ์ตัวละคร คุณเอาช็อกโกแลตมาราดไก่ทอด แล้วบอกว่านี่ก็ไก่ทอดเหมือนกันไม่ได้หรอก
เอาแค่ Woke อย่างเป็นธรรมชาติ ตามบริบทของเนื้อเรื่องมันก็พอแล้ว
อะไรคือ Woke ไม่เป็นธรรมชาติหรอครับ
@@TLG_Dreamการบิดเบือน ความจริง แล้วแทนที่ด้วยคำว่า ตื่นรู้ ใงครับ 😅
@@TLG_Dreamลูกนางเงือก มีครบชาติพันธ์ ไม่เอ๊ะจริงๆหริครับ เอ๊ะกันทั้งโลก
พลังหญิ starwar เวอร์ชั่น 789 สุดมาก ไม่ต้องเรียนก็เก่งมทก แต่น้องโกคูพลังน่าจะเยอะกว่า เรียนก็เยอะ แค่ใช้พลังยังยากเลย
อันนี้ก็เอ๊ะไหมครับ เอ๊ะทั้งโลก
@@TLG_Dream อะไรที่มันผิดธรรมชาติไงครับ สังคมตรงนั้นในเรื่อง อะไรที่มันไม่ผิดจากพื้นฐานการรับรู้โดยทั่วไป หรือผลักดันจนเกินพอดี
@@sunday1899ไม่มีหรอกแบบนั้น มีแค่ถูกใจกับถูกด่ามากกว่า
ส่วนตัวผมมองว่า "ไอการยัดเยียดความWOKE มันมีจริง" โดนเฉพาะหนังรีเมค ถ้าแคสตัวละครที่มันขัดจากออริจินัลมากไปมันก็สมควรโดนด่าบ้างล่ะ ไม่ใช่จะบอกว่าหนังห้ามมีการเปลี่ยนแปลงใดๆจากออริจินัลเลย แต่ไอการที่ตัวละครที่โลดแล่นในอดีต ตัวละครที่คนเหล่านั้นเป็นที่รักมันบิดไปไกลจากปกเลย แล้วให้เหตุผลว่า "สร้างงาน สร้างโอกาสให้คนอื่น" ไปทำหนังอื่นเถอะครับ สร้างเรื่องใหม่ สร้างตัวละครใหม่มาเลย ดีกว่า
อย่างปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ ถ้าเป็นผิวดำ ก็คงมีคนด่าแหละ แต่พอสร้างตัวใหม่ เป็น ไมล์ มอรัลเลส มันก็โอเคนะ ชอบเลยด้วยซ้ำ
แต่เคสแอเรียลเงือกน้อย ก็ตามสภาพ นอกจากจะไปไกลจากปกแล้ว การแสดงก็ไม่ได้แบกหนังอะไรเลย คือเสียงดีอย่างเดียว.. แคสแบบนี้มันยัดเยียดชัดๆ..
งงว่าทำไมการตอบกลับไม่ขึ้นข้อความหว่า... แก้มาตอบเม้นเจ้าของช่องนะครับ
ทำไมการให้คนผิวสี รับบทที่คนขาวเคยรับมันถึงเป็นการยัดเยียดหรอครับ
ทำไมการให้คนผิวสี รับบทที่คนขาวเคยรับมันถึงเป็นการยัดเยียดหรอครับ
ถ้าบทคือการเล่นเป็นคนอเมริกัน? เป็นสิ่งมีชีวิตแฟนตาซี?
ถ้ามีการซื้อนางเงือกน้อยมารีเมคในไทย
คุณจะให้คนขาวเล่น หรือคนไทยเล่น
ผมให้คนไทยเล่นนะ
เพราะบริบทการเล่าเรื่องมันคือคนไทย
นางเงือกน้อยของอเมริกันก็เหมือนกัน
ความเป็น "อเมริกัน" มันไม่ใช่แค่ความขาวอีกต่อไปแล้วครับ
ยกเว้นคุณจะมองว่าคนผิวสี มีความเป้นอเมริกัน มากกว่าคนขาว
@@TLG_Dream
ทำไมการให้คนผิวสี รับบทที่คนขาวเคยรับมันถึงเป็นการยัดเยียดหรอครับ
@@TLG_Dream ทำไมการให้คนผิวสี รับบทที่คนขาวเคยรับมันถึงเป็นการยัดเยียดหรอครับ
ทำไมคุณตอบเม้นตามตรรกะเดิมๆอ่ะ เหมือนตอบคำถามด้วยคำถาม
เหมือนคุณโอเคกับBlackwash แต่ถ้าเป็นเป็นwhite wash คุณจะออกมาเป็นองค์รักษ์พิทักษ์คนดำทันที😢😢
@@user-xk3vx5rd5u อันนี้ถามผมหรือถามเจ้าของช่องอ่ะครับ
แสดงว่าส่วนใหญ่ปัญหาเกิดจากบทที่อาจไม่ดีพอจนคนเหมารวมว่าเป็น woke จึงไม่ดีสินะครับ?
จริงครับคิดว่าบทมีผลมากๆ
ผมว่าเหมาะสมคือคาแรคเตอร์ที่ผู้สร้าง-ผู้เขียนอยากให้ตัวนี้เป็น ส่วนเป็นคนประเทศไหนหรือสีผิวยังไง อยู่ที่บทของเรื่องทั้งนั้นครับ ถ้ามันไม่จำเป็นขนาดนั้นถ้ามีฝีมือ คาแรคเตอร์ตรงเรื่องชาติพันสีผิวตัดออกไปได้เลย เปลี่ยนแปลงได้ตามยุค แต่บางทีจงใจเอาของเก่ามาเปลี่ยนแปลงมาเพื่อจุดประสงค์ของตัวเอง มันก็อาจจะรู้สึกขัดใจ เพราะทุกคนมีความชอบแตกต่างกัน ไม่จำเป็นว่าคนเราเห็นว่าไม่สวย จะไม่สวยในสายตาคนอื่น เพราะคนอื่นเค้าอาจจะเห็นว่าคนที่เราคิดว่าไม่สวย เป็นคนสวยมากก็ได้ สุดท้ายมันก็คือทำเพื่อใคร สำหรับผมการที่แบ่งไปหลายอย่าง มันทำให้คนหลายคนวางตัวเองยาก ถ้าแบ่งแค่ชายหญิงมันก็สะดวกในหลายๆด้าน ส่วนความชอบก็แล้วแต่บุคคล ไม่ควรไปกีดกันว่าผู้ชายต้องชอบแต่ผู้หญิง หรือกีดกันเรื่องการงาน ดูอย่างวันพีชคนที่เล่นโคบี้ เหมาะกับบทมาก ส่วนถ้าคนทำหนังอยากจะชาเลนท์อะไรก็ทำไปครับ ถ้าเปลี่ยนแล้วมันทำให้ความรุ้สึกคนส่วนมากแย่ มันก็ขายไม่ออก แค่นั้นเอง สำหรับผมไม่ค่อยคิดมากเรื่องพวกนี้ ทุกอย่างมีดีก็มีเสียและไม่ควรปล่อยปละเรื่องเสียๆ แก้ข้อเสียให้ทุกอย่างอยุ่ด้วยกันได้อย่างลงตัว
ถามว่ายัดเยียดคืออะไร เหมาะสมคืออะไรสินะครับ ลองไปดูเรื่องvelma ดูนะครับไม่อยากเชื่อว่าความwoke จะทําไห้กาตูนที่ผมชอบในวัยเด็กกลายเป็นแบบนี้
ยังไงครับ อธิบายหน่อย
@@TLG_Dream การเปลี่ยนเชื้อชาติและสีผิวตัวละครอันนี้ยังพอดูได้อยู่ แต่การเล่นมุขเสียดสีคนผิวขาวที่ไม่ตลกเลยสักนิด การทําให้คนผิวขาวดู รวยแต่โง่ อันนี้แค่ ep แรกๆนะ ถ้าไม่อยากมุดvpnไปดู ก็ดูคลิปที่ต่างชาติรีวิวก็ได้อธิบายได้ดีเลย
Tomb Raider ไงสมัยเจ้าหญิงเลอา Starwars
ผมไม่แน่ใจว่าอันไหนเก่ากว่ากันนะ SW นี่ปี 1977 เลย
ไม่หรอกหนังบางเรื่องส่งเมสเสจซ้ำซากจนน่าเบื่อ ทั้งๆที่ประเด็นพวกนี้สังคมตื่นรู้นานแล้ว ส่วนเรื่องเหมาะสมไม่เหมาะสม ผมอยากให้คิดแบบนี้ดูก่อน คนผิวสีแสดงเป็นหมอเป็นครู เป็นอะไรก็ได้ ยันแจ็ครีชเชอร์ หรือ บ็อบลีแชว๊กเกอร์ อันนี้ผมไม่ติ แต่คุณลองคิดกลับในอีกด้านดิ สมมุติมันที ผกก บ้าจี้ เอาเบลดมาทำใหม่ ให้เป็นผิวขาวหล่อเท่ ... หรือ ทีชาล่ากลายดป็นคนขาว อันนี้มันก็น่าคิดถึงเรื่องความเหมาะสมนะ ผมไม่ได้เหยียดสีผิวนะครับแล้วการ woke ของหนังถ้าเป็นยุคก่อนๆคนไม่ค่อยตื่นรู้เช่นประเด็นเรื่องเพศที่ 3 หรือ พลังหญิง สมัยก่อนมันโอเคไง แต่สมัยนี้มันตื่นรู้กันหมดแล้ว ทุกคนยอมรับในเพศที่ 3 และ หญิงชายเท่าเทียม ฉนั้นถ้าหนังเรื่องไหนมันเล่นประเด็นนี้มันน่าเบือ เหมือนพายเรือในอ่าง แค่นั้นเอง อันนี้ คหสต ของผมนะครับ
อันนี้เหมือนไม่ได้ดูคลิบเลยครับ
เรายกตัวอย่างไปแล้ว กรณีของนาซี
ส่วนของผู้หญิงและเพศทางเลือก อันนี้ผมมองต่าง
การต่อต้านยังเยอะอยู่ แต่ไม่ยอมรับตามตรงเสียมากกว่า
โดยใช้คำว่า Woke นี่แหละบังหน้า
นึกๆไปเรื่อง ประเด็นที่หนังอเมริกาแตะน้อยสุดคือการที่ตัวเองก็ล่าาอาณานิคมและฆ่าล้างชาวพื้นเมือง
ที่นึกออกก็มีแค่ Killer of the flower Moon
ทำไมWokeสมัยนี้คนรับไม่ได้ สมัยนี้ยกตัวอย่างตัวละคร เรย์ จาก Star War เรย์ ไม่รู้เป็นใครมาจากไหนอยู่จับดาบใช้ได้อย่างชำนาญทั้งที่ไม่เคยจับดาบมาก่อน ต่างจากลุด ลุดฝึกวิชาไม่จบจริงแต่ดูอาจารย์ที่สั่งสองลุด ทั้ง โยดา และ โอบีวัน คือสุดอาจารย์ในหมู่เจได แค่นี้ก็เห็นการยัดเยียดชูหญิงแกร่งแล้ว
ไหนๆก็พูดถึงเรื่องชูหญิงแกร่ง ตัวละครหญิงแกร่งในหนังสมัยก่อนก็มีเยอะทำไมไม่มีใครบ่นว่า Woke ขอยกตัวอย่างเป็นตัวละครสาวแกร่งที่ผมชอบที่สุด อย่าง ซาร่า คอนเนอร์ จาก คนเหล็ก ซาร่า คือ ตัวละครที่ชูความแกร่งของผู้หญิงได้ดีที่สุดโดยไม่มีการยัดเหยียด เราได้เห็น ซาร่า ในภาดแรกช่วงต้นของเรื่อง ซาร่า จะเป็นสาวน้อยอ่อนแอทำอะไรไม่ได้ แต่เข้าสู่กลางเรื่อง ซาร่าค่อยๆเติบโตขึ้นจากเรื่องร้ายๆที่เธอเผชิญ จนเข้าภาด 2 เธอกลายเป็นหญิงแกร่งอย่างเต็มตัว ทำทุกอย่างเพื่อปกป้องลูกชายฉันเป็นที่รักของเธอ แค่นี้ก็เห็นความต่างแล้วครับว่าการ Woke แบบไหนที่คนดูรับได้มากกว่ากัน
แสดงว่าปัญหาไม่ใช่ Woke นะครับ
ปัญหาคือบทไม่ดี
อยากตื่นรู้ ทำไม ไม่ดูข่าวแทนหนังไปละ กุ ไปโรงหนัง เพื่อความบันเทิง !!!!
เพราะศิลปะมันมีมากกว่าแค่ความบันเทิง
ทำไมไม่ไปว่าหนังดูนะว่าwokeบ้างอะ
น่าสนใจครับ
เพจไหนขอคำใบ้หน่อย
จำไม่ได้แล้ว
@@TLG_Dream เจอแล้ว คอมเม้นดุเดือดเลย😂
@@martinfreewifi8023 เพจชิ่ออะไรหรอครับ ใบ้หน่อย
ผมไม่เห็นด้วยกับพวกหัวรุนแรงที่ออกมาประท้วงอะไรก็ไม่รู้
ประท้วงไม่เรียกรุนแรงหรอกครับ
@@TLG_Dream ครับ ผมคิดว่ามันก็เปลี่ยนอะไรไม่ได้อยู่ดีครับแต่ถ้าไม่ทำอะไรเลยมันก็จะไม่เกิดอะไรขึ้น แต่น่ะปัจจุบันมันคือการเหยียดคนขาวมากกว่าจะเป็นการมองเรื่องความเท่าเทียม
@@Josuke8Man ยกตัวอย่างการเหยียดคนขาวหน่อยครับ ผมนึกไม่ออกเลย
@@Josuke8Manลิงเหลืองที่ปกป้องคนขาวตลกดี
ดูจากหลายๆ เม้นท์ทั้งไทยทั้งฝรั่ง ดูเหมือนจะลงรอยกันไม่ได้จริงๆ ฝ่ายนึงบอกว่า woke คือเรื่องที่ดีแง่บวก ฝ่ายนึงมองว่ามันคือสิ่งไม่ดีแง่ลบ คนที่มองว่า woke เป็นแง่บวก อาจจะมองบาร์บี้ ออปเพนไฮเมอร์ ประสบความสำเร็จในความ woke ส่วนคนที่มองคำว่า woke ในแง่ลบอาจจะชอบเหมือนกันแหละ แต่ไม่ได้มองว่าความประสบความสำเร็จตรงนี้มาจากความ woke เขาอาจจะมองเป็นแค่หนังที่ประสบความสำเร็จ เพราะไม่ได้ woke แบบ"ยัดเยียด" ซึ่งตามความหมายเขาก็น่าจะหมายถึงนักแสดงผิวดำหรือนักแสดง lgbtq+ จนเนื้อเรื่องห่วย อย่างที่เห็นในช่องคุณก็หลายเม้นท์เลย มองต่างกันตกลงกันไม่ได้จริงๆ 😅
ผมถึงจุดที่ไม่สามารถมอง Woke แง่ลบได้เลย 😆
ผมคิดว่าเจ้าของช่องเป็นพวกwokeสุดโต่งมากกว่า รึอาจจะเป็นพวกfake woke ก็ได้ 😢 และชอบและประเด็นนี้บ่อยๆ เพราะจะได้เอนเกจมากกว่าประเด็นอื่นๆ😂😂
คองฉายตรงเด็กปิดเทอมคงได้กำไร
หนังแต่ละเรื่อง Warner เป็นแค่ผู้จัดจำหน่ายครับ
พูดโคตรดีเลยครับ ชื่นชม อยากให้ทุกคนคิดได้อย่างงี้เยอะๆบ้าง อ่านตามกลุ่มหนังเพจหนังทุกวันนี้ไม่กล้าพิมพ์อะไรเลย เนี่ย อย่างคอมเม้นต์ล่างๆ ยังมีคนมาพิมพ์อะไรไม่รู้เพื้อเจ้ออยู่เลย "ความสุขมหาศาล" แค่นี้รู้เลยว่าเขาไม่สามารถแยกความจริงกับสารเคมีในสมองออกได้เลย ด้วยแค่ประเด็นประเด็นเดียว ที่มันปลอมอะ 555 ยอมเลยครับ เฮ้อ โลกเรา
สร้างเองสิถ้าอยากwoke ไม่ใช่สาดสีบังคับคนอื่น
ก็ปรับเปลี่ยนตามบริบทสังคมแหละครับ
@@TLG_Dream มันคือบริบทสังคมที่เกิดจากการบังคับ โจ ไบเดน ปธน.ของอเมริกาบังคับให้มีหญิงผิวดำเข้าทำงานในตำแหน่งสำคัญของประเทศ รวมถึงดิสนีย์ ที่ให้เลื่อนตำแหน่งคนดำ ผู้หญิง 60%ขึ้นไปในองค์กรเมือ3-4ปีที่แล้ว ดูผลจากการกระทำในตอนนี้สิ เดโมแครตความนิยมตก ดิสนีย์เริ่มขาดทุนเพราะทำออกมาแต่หนังห่วย และกระแสสังคมเริ่มแอนตี้wokeมากขึ้น ปรับเปลี่ยนได้ แต่ควรทำให้ดีขึ้น ไม่ใช่แย่ลง
@@TLG_Dreamสิ่งที่เรียกว่าบริบทของสังคม คือสิ่งที่คนหมู่มากจะยอมรับ คุณคิดว่าสังคมยอมรับกระแสwokeราคาถูกขนาดนั้นเลยเหรอ ถ้างั้นทำไม little mermaid starwoke peterwoke she hulk ถึงเจ๊งหมดเลยล่ะ ผู้หญิง เพศทางเลือก คนผิวสี ควรได้รับโอกาสก็จริง แต่ก็ต้องมีความสามารถด้วย ไม่ใช่ไร้ความสามารถแต่ใช้สีผิวของตนสร้างความได้เปรียบทางสังคม
@@title9543จริงครับพี่คือwokeถ้ามันอยู่ถูกที่ถูกบริบทก็โอเคเเต่ไอ่นี่มันเหมือนเอามายัดเอามาเปลี่ยนสีเพื่อเอาใจอะ
@@title9543มาอีกแล้วโลจิกไล่ให้ไปสร้างเองถถถ
จริงๆ woke เป็นอะไรที่ดีนะในฐานะคนเอเชียผมคิดเหมือนคุณเลยว่าการถูกยอมรับ การที่ได้มีตัวตน ไม่ถูกบุลลี่ เหยียด หรือทำให้เป้นตัวตลกแบบในอดีตเป็นอะไรที่ดีมาก สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการที่คนคนนึงสามารถตระหนักรุ้ด้วยตัวเค้าเองโดยใช้ความเข้าใจและความเห็นอกเห็นใจผู้อื่นโดยไม่ผ่านจากบังคับจากใคร(โน้มน้าว นำเสนอในด้านดีอันนี้เข้าใจได้ แต่การวิจารย์ในแง่ลบอันนี้แย่) ท้ายที่สุดยังไงสังคมมันก้ต้องเปลี่ยนยังไงเราก็จะได้เห็นความหลากหลายของคนที่หลากหลายในชีวิตของเราในอนาคตแน่ๆ **แต่ความสามารถในการปรับตัวของคนเราไม่เท่ากันเค้าไม่ผิดที่ยังไม่สามารถปรับตัวให้ยอมรับได้ และ เราเองก็ไม่ได้พิเศษที่สามารถปรับให้ยอมรับได้
ในความคิดผม woke กับ wokeเกินไป มันต่างกันอยู่ซึ่งเอาอะไรมันตัดสินตรงนี้มันตรงเป็นความเห็นส่วนตัวที่เเต่ต่างกันได้แต่อันที่รู้สึกว่าเกินไปผมก็ไม่ไหมจริงๆ อย่างแค่หนังมู่หลาน เนื้อเรื่องโดนเปลี่ยนตัวละครหลายตัวหายไปเพื่อไปเพิ่มฉากกับหนังเรื่องใหม่ๆแบบนั้น ถ้าบอกว่านี่เป็นหนังมูหลาน ผมokนะ เเต่ถ้าบอกทำมาจากการ์ตูนดิสนี่อันนั้นผมไม่ ok
การเปลี่ยนแปลงทุกครั้งของการรีเมคมันเป็นเรื่องปกติแหละครับ คือถ้าเหมือนเดิมหมด
ก็ดูของเดิมก็ได้ ใขช่ไหมละครับ
@@TLG_Dream ก็มันต่างจากเดิมจนไม่น่าอ้างของเดิมก็แค่นั้นแหละ
@@Phukankung งั้นมู่หลานอนิเมชั่นก็ไม่ควรใช้ชื่อมู่หลานนะครับ เพราะก็ไม่เหมือนกับต้นฉบับจีน
@@TLG_Dream จริงๆผมก็เคยดูการ์ตูฯมู่หลายเวอร์ชั่นอื่นอยู่นะ มันก็คนละเรื่องกันในด้านความคาดหวัง ในเมื่อดิสนี่จะบอกวาทำ life action จากซีรี่การ์ตูนของตัวเอง กับ ทำจากเรื่องเล่า ความคาดหวัมันคนละแบบกันเลย
เอาจริงนะพี่ คน 90% เขาก็ไม่ ขัดหรอกเรื่อง Woke แต่ที่เขาขัดโคตร ๆ เลยคือ การยัดมาจนมากเกินไป เช่นเดียวกับทุกเรื่องคับ อะไรที่มากเกินไปก็ย่อมไม่ดีอยู่แล้ว Woke ก็เช่นกัน จนปัจจุบันคำว่าWOKE คนเขาก็ไม่ได้แปลตามความหมายว่า"การตื่นรู้ทางสังคม" แต่มันเปลี่ยนเป็น" การยัดเยียดความหลากหลายทางสังคม"ไปแล้วคับ และปัญหานี้จะไม่เกิดเลยคับถ้ามันมีความ"พอดี"ในตัว ไม่ใช่แบบเอาหนังที่มีบุคคลทางประวัติศาสตร์มาลอกสีใหม่อย่าง anne boleyn ไม่ใช่เอาตัวละครหลักชายจากภาคก่อนหน้าที่มีแฟนคลับทั้งโลกมาลดบทบาทเพื่อชูความเป็นสตรีนิยมอย่าง STARWAR 7-9 และไม่ใช่มาเพื่อหยามงานศิลป์สิ่งที่มีคุณค่าและได้สร้างฐานแฟนคลับอย่าง WITCHER/Ring of power ที่มันไม่ตรงกับนิยายต้นฉบับจนหลายคนงงว่าตกลงกุมาดูซีรีย์ที่เราชอบหรือมาดูงานการกุศลที่มีเนื้อเรื่องกันแน่ โดยเฉพาะตัวละครที่เราชอบต้องมาเปลี่ยนผิวสีเพียงเพราะคนเขียนบทแค่อยากยัดเรื่อง WOKE เข้ามาบอกออกแนวแถว่า หนัง/ซีรีย์เรา สนับสนุนเรื่องความหลากหลายนะโดยไม่มองเรื่องบทเลยว่า มันพอดีหรือเปล่า บทมันดีแค่ไหน อย่างหนังดีก็ตามที่พี่บอกในคลิปเลยคับ DUNE/Babies/Starwar6ภาคแรกและอีกหลายเรื่อง แต่ก็อย่าลืมนะคับก็มีอีกหลายเรื่องที่ถูกยัดWOKEจนพังและชิพหายมาแล้วก็หลายเรื่อง โดยเฉพาะMCU/Disney/ STARWARก็เช่นกัน
ความหลากหลายทางสังคมมันเป็นการยัดเยียดไปตอนไหนครับ
การมีอยู่ของผู้หญิง เพศทางเลือก คนผิวสีแบบคุณแบบผม นี่มันยัดเยียดหรอครับ
บริบทผของงานมันก็ปรับเปลี่ยนไปตามยุคสมัยและสังคม
สมมุติ WITCHER/Ring of power ผมซื้อลิขสิทธิ์มาให้คนไทยสร้าง
ผมก็ต้องใช้คนไทย เพราะบริบทางสังคมที่สร้างมันเป็นคนไทย พูดภาษไทย
เรื่องการเปลี่ยนแปลงนี้ก็เช่นกัน
เมื่อสัคมอเมริกา มันไม่ได้มีแต่คนขาวอีกต่อไปแล้ว
การดำรงไว้ซึ่งคนขาวต่างหาก คือความผิดปกติ
ผมไม่เข้าใจคนว่า Woke จนพังเลยครับ
อธิบายให้ฟังหน่อบ
@@TLG_Dream และอาจจะเป็นหนังที่ดี แต่จะไม่มีทางเป็น Witcher/ ring of power ที่ดีคับ Woke จนพังสองซีรีย์นี้ ผลตอบรับจากคนดูมันชัดอยู่แล้วคับ ทั้งนักแสดงหลัก ออกจากบท คนให้เสียงตัวละครในเกมออกมาบอกว่าเนื้อเรื่งมันออกทะเล ถ้าพี่ดูมาจริง ก็น่าจะรู้คับว่ามันเปลี่ยนบทไปมากแค่ไหน และในต้นฉบับมันก็ไม่ได้มีแค่คนขาวคับมันมีหลายเชื้อชาติอยู่แล้วนี่เอาปนผสมจนมั่ว ไม่เรียกพังได้ไงคับ
@@TLG_Dream ซีรีย์ anne boleyn ชัดพอมั้ยหล่ะคับสำหรับคำว่ายัดเหยียด เอาคนในประวัติศาสตร์มาเปลี่ยนสีผิว ทั้งที่ใช้ทั้งชื่อ และประวัติของเธอ ต่อไปสักหน่อยถ้ามีการทำหนังประวัติของ โอบาม่า แต่คนแสดงเป็นโอบาม่าดันเป็นคนขาว พี่จะOK มั้ยหล่ะคับ
@@TLG_Dream หรือลแงเทียบกับซีรีย์ที่เขาให้ความเคารพต้นฉบับ อย่าง The last of us ดูคับ มีการเปลี่ยนแปลงแค่เล็กน้อยเท่านั้นและมีความแทรกความหลากหลายอย่างพอดี เช่น ลูกของโจเป็นคนสีผิว มีตัวละครหลักในตอนที่เป็นรักร่วมเพศ แต่ผู้คนก็ยังชอบยังอินไปกับหนังคับ เพราะมันไม่ได้เปลี่ยนยกโคตรซีรีย์ที่ผมยกมา
เอาใจช่วยมาตลอดกับแอดนะ แต่ไม่ค่อยอยากเข้าไปเม้นด้วยเพราะขี้เกียจมานั่งอธิบายให้คนที่มีแต่ความอคติ
ซึ่งคนเอเชียไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่จนมองว่ายัดเยียดทั้งที่ทางฝั่งประเทศที่เป็นคนผลิตหนังเอง เรื่องพวกนี้มันดุเดือดมาก เขาเองก็พยายามกันสุดๆเพื่อลดทอนเรื่องเหล่านี้ในสังคมของเขา และชาวโลกด้วย
ในเมื่อคุณเลือกดูหนังจากประเทศอย่างอเมริกาก็ต้องเจอเรื่องแบบนี้เข้าไปด้วยอยู่แล้ว
ค่อยๆ ขยายความเข้าใจกันไปครับ
ฉากเลอา เหาะได้ป่าวครับ เห็นด่ากันยับเลย ผมกลับชอบนะ งงมากๆ แฟนสตาร์วอร์ส
ฉากนั้น ผมก็ชอบนะ
แต่บริบทที่พูดกันคือในภาคแรกเลยครับ
ตอบแทนครับ คนที่ไม่ชอบเลย
เพราะไม่ได้ฝึก รวมถึงเรย์ใช้ดาบชนะคนที่ฝึกได้เลย น่าจะรู้นะครับ ceo คนใหม่ พลัง ญ เยอะมาก
เทียบ แมนดาโดเรียน น้องโกคู ที่น่าพลังเยอะกว่า ถูกฝึกตั้งแต่ภาค 3 ใช้พลังไม่ได้วิเศษขนาดด้านบน มีแต่ชอบเพราะความพยายาม
ง่ายๆครับ มันไม่เคารพภาคเก่า ไม่เคารพตัวละคร มันพังหลักการของเรื่อง จนเกิดผล็อตโฮล(ที่ภาคนี้เขาด่านอกจากเรื่องแมสเสจ ก็เพราะมันทำลายหลักการของภาคเก่าๆแถมยังย้อนแย้งในตัวมันเองอีก) อันนี้ยังไม่นับประเด็นเรื่องwokeอะไรนะ ขนาดผมที่ตาม lore ไม่ลึกขนาดนั้นยังไม่โอเคเลย เพราะจักรวาลนี้มันมีการสร้างพื้นฐานกฎเกณฑ์แข็งแรงมาตลอดหลายสิบปี ไม่ว่าจะเป็นสื่อประเภทไหนจากจักรวาล star war ก็ล้วนตั้งอยู่บนรากฐานนั้น จนกระทั่งสามภาคหลังกับซีรีย์ได้โยนมันลงถังขยะแล้วยัดอะไรตามใจจนกู่ไม่กลับ
@@vutkung พอจะรู้จักครับ ceoของสตาร์วอร์ส
เห็นคอมเมนต์หลายคนยกเอาเงือกน้อยมาเยอะนะครับ ผมบอกไว้ก่อนเลยว่าต่อให้นักแสดงเป็นคนผิวขาวหนังก็ห่วยอยู่ดี (หนังน่าเบื่อ) ส่วนคนที่บ่นจนเป็นดราม่า ผมว่ามันอยู่กับความคาดหวังว่าของคนด้วยครับ เพราะคนส่วนใหญ่อยากเห็นหนังที่ใกล้เคียงกับต้นฉบับมากที่สุด (ความมคิดเห็นส่วนบุคคล) ผมคิดว่าเขาก็ไม่ผิดที่คิดงั้น ส่วนหนังเรื่องอื่นๆที่มัน Woke แล้วมันดีก็มี เช่น Barbie , Spider-Man Into the Spider Verse หรือสนุกใช้ได้อย่าง Shang-Chi แต่ก็เป็นส่วนน้อยในหนังที่ Woke แล้วห่วย ซื่งคนที่จะทำหนังที่ woke ได้คือคนทำต้อง woke ด้วยเช่นกันแล้วจะเกิดการยัดความ woke จนลืมความสนุกของหนังไป จนเกิดการแอนตี้ความ woke จากคนดู
ผมถึงบอกในคลิบไงครับว่า
ต้องชั่งน้ำหนักว่าเราจะให้ความสำคัญกับโลกแฟนตาซี หรือโลกจริงมากกว่ากัน
@@TLG_Dream คนที่ดูหนังเพื่อความบันเทิงเขาไม่ได้แคร์โลกจริงขนาดนั้นเขาอยากไปสนุกกันแหละ แต่พอหนังที่อยากดูมันไม่สนุกแล้วก็ขายความ Woke หนักมากด้วย คนที่ไม่ได้แคร์ Woke ก็คิดว่ามัน Woke มันเลยแย่ ทั้งที่มีหลายสาเหตุที่ทำหนังไม่สนุก
ผมว่ามันถ้าอยากให้ Woke แข็งแกรงจริงๆต้องทำหนังที่เสียดสีสังคมหนักๆเนื้อหาดีๆ ให้คนอยากเขาไปดูไปเลยน่าจะดีกว่าครับ ถ้ามัวแต่เอา woke มาใส่ในหนังที่คนไม่ได้อยากดูความ woke มันก็จะเป็นวงจรอุบาทร์ให้คนมาดราม่ากัน และทำให้ woke ถูกคิดในทางแง่ลบไปด้วย
จริงครับ
คหสต. ของผม ผมมองว่า mindset เรื่องการ woke นั้นไม่ใช่ปัญหาครับ (เป็นเรื่องที่ดีด้วยซ้ำ) แต่ mindset ของคนทำหนังต่างหากครับที่เป็นปัญหา และคนทำหนังเหล่านั้นเขาพยายามที่จะเป็น representation หรือพยายามที่อยากจะเป็นตัวแทนของกลุ่มความคิดของตัวเอง (ที่หลายคนเรียกว่า woke) มากจนเกินไป และการกระทำของพวกเขากลับทำลายเสน่บางส่วนของต้นฉบับไปครับ จนทำให้สังคมหลายคนมองคำว่า woke ในแง่ลบครับ
ยกตัวอย่างคับ Mulan ซึ่งฉบับ animation นั้นก็เรียกได้ว่านี่คือ woke ครับ ฉบับ live action ก็ woke เช่นกัน แต่ทำไมฉบับ animation ถึงประสบความสำเร็จอย่างมากในขณะที่ฉบับ live action นั้นเรียกได้ว่าล้มเหลวแบบสุดๆ ผมมองว่าคำตอบคือ mindset ของผู้สร้างนี่ล่ะครับ ฉบับ animation นั้น นอกจากจะแสดงให้เห็นถึง stereotype ชาย-หญิงในสมัยนั้นแล้ว ยังแสดงให้เห็นที่ความพยายามของตัว mulan เองที่จะแสดงให้เห็นว่าเพศหญิงก็ทำได้ แม้ว่า anatomy และ physiology ของผู้หญิงจะไม่เอื่อให้ต่อสู้หรือรบแบบผู้ชาย แต่ตัว mulan ก็ใช้ความพยายามและสติปัญญาของตัวเองพิสูจว่าเพศหญิงก็แข็งแกร่งได้ นั้นจึงทำให้เป็นนแรงบันดาลใจแก่เด็กทั่วโลก แม้แต่ผู้ชายเองก็สามารถนำไปปรับใช้ได้เช่นกัน อย่างไรก็ตามในฉบับ live action นั้น ตัว mulan เองกลับมีพลังตั้งแต่แรกแล้วโชว์เทพเลย ซึ่งหลายคนมองว่าทางผู้ทำหนังอยากจะแสดงให้เห็นว่า "เพศหญิงนั้นแข็งแกร่ง" ซึ่งเป็นการนำเสนอแบบ 1 มิติ และห่างไกลจากความเป็นจริงจนทำให้นอกจากไม่เกิดแรงกระเพือมต่อสังคมหรือแรงบันดาลใจต่อผู้ชมแล้ว ยังลบเสน่ของตัว animation ไปอีกด้วยคับ และยังมีปัญหานี้อีกมากมายที่แสดงให้เห็นว่า สิ่งที่มีปัญหาจริงๆ ไม่ใช่ mindset เรื่อง woke แต่เป็นคนทำหนังต่างหาก เช่นเคสของ Disney, Marvel เป็นต้นครับ
อีกสิ่งหนึ่งที่ผมแอบไม่เห็นด้วยกับคุณเท่าไหร่คือ สังคมไทยมีความอคติต่อสีผิวคับ จากในโลกออนไลน์ที่เราเห็นคนไทยดูพูดเหยียดผิวนักแสดง ผมมองว่า 1. คนไทยหลายคนแค่รู้สึกว่าคนที่ cast มาไม่ได้ดึงดูดพวกเขามากพอคับ 2. คนไทยหลายคนค่อนข้างชอบเล่น dark humor ครับ (อย่างมี chat ในคลิปนี้บอกว่า เจอคนพิมพ์ "กูเริ่มเข้าใจฮิตเลอร์แล้ว" ผมว่าคนพิมพ์น่าจะไม่ได้คิดอะไรมากขนาดนั้น เพียงแต่เป็นการเล่นมุขที่นอกจากไม่ฮาแล้วยังพาคนอื่นเครียดคับ ใช่ครับ เขาไร้กาละเทศะ อย่าไปสนใจมากเลย) และผมมองว่ามันมีหลายสถานการณ์ที่สามารถโต้เถียงความคิดที่ว่าคนไทยอคติต่อสีผิวคับ ผมยกตัวอย่างหนังเรื่อง black panther แล้วกันครับ ผมมองว่าถ้าคนไทยอคติต่อสีผิวจริง หนังเรื่องนี่คงทำเงินในไทยได้ไม่มากนัก แต่กลับกันครับ ในไทยค่อนข้างทำเงินมากในตอนเข้าฉาย (ขนาดผมเองดูไป 3 รอบในโรง แล้วอยากเป็นคนดำด้วยซ้ำในตอนนั้น) และยังมีหนังที่คนดำเป็นตัวดำเนินเรื่องอีกเยอะแยะครับที่ประสบความสำเร็จในไทย อย่าง man in black, get out เป็นต้นคับ
ส่วนอีกปัญหาที่ถกเถียงกันอย่างมากต่อจากเรื่องอคติต่อสีผิว ผมมองว่าคือเรื่องการที่ cast นักแสดงไม่ตรงตามที่คาดหวังครับ ซึ่งหลายคนมักบอกว่า เนี้ย cast ไม่ตรงปก/ต้นฉบับ ซึ่งผมกลับมองว่า ควรจะเป็น cast ไม่ตรงภาพจำของคนดูส่วนใหญ่มากกว่าครับ อย่างเช่น My little mermaid ถ้าอิงจากต้นฉบับจริงๆ ก่อนที่ Disney จะนำเอามาทำเนี้ย เนื้อหาหรือแม้แต่รูปลักษณ์ต่างกันมากครับ ทาง Disney เลือกที่จะนำมาดัดแปลงตั้งแต่เนื้อหา ให้ตัวนางเอกมีความใสซื่อบริสุทธิ์มากขึ้นจากฉบับดั้งเดิมแล้ว ยังเปลี่ยนสีผมให้เป็นสีแดงด้วย (ฉบับก่อน Disney จะเป็นสีเหลือง) ซึ่งฉบับ Disney นั้นประสบความสำเร็จอย่างมาก จึงทำให้เกิดเป็นภาพจำว่า แอเรียลจะมีลักษณะแบบนี้ๆนะ ซึ่งเมื่อตัวละครประสบความสำเร็จ สิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมาคือ มี fan base ครับ และ fan base เหล่านั้นก็ย่อมมีภาพจำต่อตัวละครโปรดของตัวเอง แล้วการที่ฉบับ live action นั้นเอาคนดำมาแสดง มันต่างจาก Disney ตอนแรกที่เปลี่ยนรูปลักษณ์ฉบับดั้งเดิมไหม? คำตอบคือไม่ต่างครับ ผมจึงมองว่าไม่ผิด เพราะนั้นไม่ใช่หนังอิงประวัติศาสตร์ที่จะต้องทำให้เหมือนประวัติศาสตร์ขนาดนั้น แต่!!!! สิ่งที่ส่งผลกระทบอย่างแน่นอนคือ fan base ครับ เพราะ fan base เขามีภาพจำของเขาแล้ว แล้วคุณไปเปลี่ยน fan หลายคนย่อมเกิดความผิดหวังครับ ยิ่ง my little mermaid จัดว่าเป็นอีกตัวละครเจ้าหญิงที่มี fan base มากเป็นอันดับต้นๆ ย่อมเกิดแรงกระเพื่อมที่รุนแรงครับ นั้นจึงเป็นความรับผิดชอบต่อคนทำหนังเองที่จะแก้ปัญหานี้ด้วยการทำให้เกิดความ balance ระหว่างความรู้สึกของเหล่า fan base กับความต้องการของคนทำหนัง แน่นอนว่าคุณก็ต้องตั้งคำถามกับผมว่า เอาอะไรมาวัดว่า เนี้ย balance เนี้ย ไม่ balance เหมือนความคิดเห็นอื่นๆที่คุณตอบ ผมขอตอบครับว่า ไอ้คำว่า balance เนี้ย ไม่จำเป็นต้องเป็น quantity เสมอไปครับ ซึ่งถ้าไม่ใช่ quantity แล้ว การวัดว่าสิ่งเนี้ย balance นั้นยากครับ มีสิ่งเดียวที่จะให้คำตอบได้คือ ผลลัพธ์ ซึ่งเราไม่มีวันรู้หรอกครับว่าผลลัพธ์ของหนังเรื่องนี้ๆ จะออกมาเป็นอย่างไร จะถูกใจคนดูหรือแฟนๆไหม สิ่งที่เราทำได้คือ ศึกษา case จากอดีตหรือ case ที่มีความรู้สึกว่า มันใกล้เคียงกับหนังเราครับ เช่น Spider man ซึ่งตัวละครนี้เนี้ย มี fan base ที่เยอะมากๆ เมื่อเขาอยากได้ Spider man คนดำ ไม่ได้ทำให้ Peter เป็นคนดำครับ แต่เขาสร้างตัวละครใหม่ ที่เป็น Spider man เหมือนกัน คือ Miles Morales แต่ในช่วงแรกครับ Miles Morales นั้นโดนด่ามาก ไม่ใช่เพราะเป็นคนดำครับ แต่เพราะ Character ในตอนแรกคือ Peter parker เลย นั้นทำให้แฟนๆมองว่า ไอ้ Miles เนี้ยเป็นแค่ Peter wannabe จึงโดนด่าครับ ทาง Marvel ได้แก้ไขด้วยการทำให้ Character ของ Miles นั้นไม่ใช่ Peter แต่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเองเลย และมี Style ที่คล้ายกับวัยรุ่นคนดำและยังเท่อีก ทำให้เกิด Fan base เฉพาะของตัวเองขึ้นมา นั้นคือ Case ที่ผมแอบรู้สึกว่าใกล้เคียงคับ สมมติว่าผมต้องมาทำ My little mermaid ฉบับน้อง Halle แล้ว ผมคงทำคล้ายๆกับ case ของ Spider man ครับคือ สร้างตัวละครเงือกขึ้นมาใหม่เลย อาจจะให้อยู่ในจักรวาลของฉบับ Animation มีการ mention ถึงแอร์เรียลให้เป็น easter egg น่ารักๆ ให้เหล่าแฟนๆ หายคิดถึง เนื้อเรื่องทำใหม่ ให้ตัวละครใหม่มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง นี่คือสิ่งที่ผมจะทำครับ ส่วนผลลัพธ์จะเป็นยังไงไม่มีใครรู้ครับ
คนไทยผิดดำทำอะไรก็ผิด แต่ประเทศไทยไม่ได้จัดการกับเรื่องพวกนี้เท่านั้นเอง
อ่านความเห็นในคอมเมนท์แล้วเศร้านะ หลายคนไม่เข้าใจ ไม่เก็ตเลยว่าทำไมมันต้อง woke คือไม่เข้าใจว่า มันมีกลุ่มคนที่โดนกดทับในระดับสังคม วัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ ให้ไม่ได้มีเรพรีเซนท์ในสื่อมาในอดีต พอยุคนี้อะ มันเลยต้องพยายามเปลี่ยนภาพจำ นี่เคยไปดูซีรีส์เมกาเก่าๆ คือโซไวท์ ไม่มีตัวละครผิวสีเลย แต่พอมาดูซีรีส์เมกายุคนี้ มีทุกสีผิว มันไม่ดีขึ้นเหรอกับการที่ woke แล้วสื่ออินคลูซีฟมากขึ้น ..แล้วอย่างที่คนชอบพูดว่า ไม่มีปัญหากับ woke แต่อย่ายัดเยี่ยดเกิน คือคุณต้องกลับไปสำรวจตัวเองก่อนว่า ที่รู้สึกว่าโดนยัดเยียดอะ เพราะชีวิตที่ผ่านมา คุณโดนยัดเยียดเนราทีฟด้านเดียวรึเปล่า พอมีคนนำเสนออีกมุมอีกแบบ(ที่ผ่านมาโดนกดทับให้ไม่มีพื้นที่สื่อมากเท่าๆกัน)ที่คุณไม่ชิน คุณเลยคิดว่าโดนยัดเยียด ..เช่น ชีวิตโตมากับหนังที่ ผช เป็นฮีโร่ มี ผญแต่งตัวเซกซี่ สวยๆที่มีบทแค่ มาร้องขอความช่วยเหลือ มาเป็นรางวัลให้กับ ผช มาแฟนเซอร์วิส ..พอวันหนึ่งตัวเองของเรื่อง ฮีโร่ของเรื่องจะเป็น ผญบ้าง แล้วไม่แต่งตัวเซกซี่แฟนเซอร์วิสด้วย ทุกคนก็เริม่จะมีปัญหาว่ายัดเยียดฮีโร่ ผญ หนิ นั่นนี่ เริ่มวิจารณ์หน้าตารูปลักษณ์ทุกอย่าง โดยไม่เคยถอยออกมามองภาพรวม แอสอะอุตสาหกรรมภาพยนตร์ที่ผ่านมาเลยว่า มีหนังที่เล่าตัวละคร ผญ เป็นเซ็กออบเจ็คมากขนาดไหน เล่าแต่ในมุม ผช ขนาดไหน คือสัดส่วนมันไม่สมดุลแต่แรก ผญ และตัวละครชายของ lgbtq ใดๆโดนกดทับมาตลอด มีพื้นที่บนสื่อบันเทิงในสัดส่วนที่ไม่ได้เท่าเทียมสักนิด พอวันหนึ่งที่สังคมพยายามที่จะพัฒนา ให้กลุ่มคนดูทุกเพศได้มีพื้นที่เรพรีเซนท์บนสื่อบันเทิงมากขึ้น ดันมาพยายามสร้างคำเชิงลบใส่ woke จนสงสัยว่าคนเหล่านี้ชีวิตไม่คิดจะพัฒนาสมอง ความรู้ความเข้าใจเพื่อนมนุษย์อะไรของตัวเองบ้างเลยหรือไง จะจมอยู่กับมุมมองแบบสังคมปิตาที่ตัวเองรู้สึกเหนือรู้สึกได้ประโยชน์กว่า แต่ไม่แคร์ว่าใครในสังคมที่ถูกกดทับมาบ้างตลอดใน ปวศ สนใจแค่รอบเท้าตัวเอง แล้วมองว่าพริวิเลจที่ตัวเองได้คิดเรื่องปรกติ จนพอเกิดความเท่าเทียมของการเรพิเซนท์เนื้อหาของคนกลุ่มอื่นบ้าง ก็รู้สึกหนอแหนเปราะบางทนไม่ได้ขึ้นมา ต้องออกมาบอกว่ามันยัดเยียด มันเกินไป ..คำถามคือ แล้วที่ ผญ ต้องทนดู ผกกชายเล่า ผญ เป็นเซ็กออบเจ็คมาตลอดหลายสิบปีใน ปวศภาพยนตร์ ต้องถูกยัดเยียดสเตอริโอไทป์ ผญ บางอย่างเพื่อให้มีแต่ ผชเป็นฮีโร่ อันนี้ไม่เรียกยัดเยียดเหรอ แค่เพราะคุณชินกับภาพในสังคมที่คุณได้ประโยชน์จนชินชาไม่ได้แปลว่าสิ่นนั้นไม่ได้กำลังยัดเยียดใส่คนกลุ่มอื่นที่โดนกดทับเนอะ
ไม่ได้ต้องการหนังที่มีตัวละครผิวสี หนังที่เท่าเทียม หนังพลังหญิง ต้องการอย่างเดียว หนังที่สนุก
อยากใส่ความเท่าเทียม ใส่ความwokeก็ไปคิดบทคิดพล็อตตีความมาเอง อย่างบาร์บี้ หรือสตรีเหล็ก ไม่ใช่ยัดลงไปในสิ่งที่มีอยู่แล้วและบอกว่าทุกคนต้องสนใจฉัน
ยิงพิมพ์ยิ่งดูตลก