รู้ทันความปรุงแต่งจะหลุดพ้น :: หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช 31 มี.ค. 2567
ฝัง
- เผยแพร่เมื่อ 2 เม.ย. 2024
- รู้ทันความปรุงแต่งจะหลุดพ้น :: หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช 31 มี.ค. 2567
สพฺพทานํ ธมฺมทานํ ชินาติ
การให้ธรรมเป็นทาน ชนะการให้ทั้งปวง
ท่านสาธุชน สามารถร่วมอนุโมทนาบุญได้โดย ช่วยกดติดตาม กด Like กด แชร์ มอบแด่ญาติสนิทมิตรสหาย หรือผู้ใหญ่ที่ท่านเคารพรัก เพื่อเป็นการเผยแผ่ธรรมดีๆสู่สังคมไทย
ขอให้ท่านมีความสุข มีสุขภาพที่ดี
จิตสงบ ใจร่มเย็นเป็นสุข
************************
ฝากกดติดตาม กดไลค์ กดแชร์ กดติดตาม
เพื่อบอกบุญแก่ญาติมิตร สาธุ
************************
" แค่เปิดฟังท่านก็ได้บุญ.....แชร์ไปได้บุญสาธุ "
🙏 บุญกุศลแห่งคุณความดี🙏
ที่ท่านทั้งหลายได้สวดมนต์-ฟังธรรมะ
ภาวนาอยู่เสมอ จะส่งผลให้ท่าน
และครอบครัวมีความสุข ความเจริญยิ่งๆขึ้นไป
*********************
🙏ขอกราบขอบพระคุณ ท่านมากๆ🙏
#ฟังธรรมะก่อนนอน #ฟังธรรมะ #ธรรมะก่อนนอน #คติธรรมสอนใจ #ปล่อยวาง #ฟังธรรมะตอนเช้า#มีศีลมีธรรม#ธรรมะกับชีวิต
หลวงพ่อแสดงธรรมในลักษณะจิตสู่จิต ยากนักที่จะได้ยินได้ฟังธรรมเทศนาแบบนี้
สาธุ สาธุ สาธุ ค่ะ
สาธุครับ นาทีที่ 16 ใจเรา อยู่ในบ้าน ใจไม่ปนเปื้อน
น้อมกราบหลวงพ่อเจ้าค่ะ จะปฎิบัติตามคำสอนของหลวงพ่อเพื่อความพ้นทุกข์เจ้าค่ะ
🙏🙏🙏
น้อมกราบหลวงพ่อเจ้าค่ะสาธุ
น้อมกราบสาธุสาธุสาธุเจ้าค่ะ🌞🙏🙏🙏🌝
ทุกหลวงพ่อก็สอนเรื่องจิต เพราะทุกอย่างจิตเป็นตัวรับรู้ กายในกาย เวทนาในเวทนา ดูกายก็เห็นเวทนาด้วย แต่จิตก็รับรู้ จิตในจิต ธรรมในธรรม รู้จิตก็รู้ธรรมด้วย
จะเห็นว่า ทุกอย่างจิตต้องรับรู้อยู่แล้ว ทุกอย่างลงที่จิต แต่คนสมัยนี้ขาดความอดทน เลยนั่งสมาธิดูกายในกาย อาจจะไม่เหมาะสมกับสถานการณ์ แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีคนที่สามารถนั่งเข้าฌาณได้ ท่านเลยสอนให้เหมาะกับคนสมัยนี้ แต่ถ้าขาดสมาธิ ก็ได้แค่วิปัสนึก คือนึกเอาเองยังไม่ได้อะไร ถ้าจะได้ต้องเป็นอัตโนมัติ สมาธิจึงจำเป็น แต่ถ้าเอาแต่นั่ง คนสมัยนี้ทำไม่ได้ 20ปี ก็ยังทำไม่ได้ เลยต้องใช้ ปัญญาทำให้เกิดสมาธิ
สมัยก่อน(50ที่แล้ว) สถานการณ์ อำนวย ยังมีป่าธุดงธ์ได้ คนยังมีน้ำอดน้ำทน ยังไม่เจริญเท่าตอนนี้ ก็เลยสอนให้นั่งสมาธิ คนสมัยนั้นก็ทำได้ ใช้สมาธิทำให้เกิดปัญญา
จริงๆแล้วสมถะจึงสำคัญ
ถ้าไม่สำคัญพระพุทธเจ้าไม่สอนหรอก
สมถะจำเป็นต้องควบคู่กับวิปัสสนา
น้อมกราบอนุโมทนาสาธุเจ้าค่ะ
กราบนอบน้อมในคำสอนหลวงตาสาธุๆครับ
น้อมกราบอนุโมทนาสาธุค่ะ🙏🙏🙏
น้อมกราบอนุโมทนาสาธุค่ะ
ครั้งแรกที่ได้ฟังพระอาจารย์เทศ มีความสงสัยว่าหลวงพ่อองค์นี้สอนธรรมมะทางจิตหรือปร่าว พอฟังบ่อย ก็รู้ว่า เข้าใจถูกครับ สาธุสาธุสาธุ
สาธุเจ้าค่ะหลวงพ่อ
น้อมกราบสาธุเจ้าค่ะ
เคยเห็นความโกรธ (ไม่ได้เฝ้าดู แต่อัตโนมัติ ) แสดงว่าสิ่งที่พระพุทธเจ้าตรัสสอนเป็นเรื่องจริง
เป็นสิ่งที่ มหัศจรรย์มาก ไม่คิดว่าจะเป็นไปได้
ตอนนั้นยังไม่รู้จักหลวงพ่อ บังเอิญแม่ชีให้หนังสือ เล่มหนึ่ง รู้สึกจะชิ่อ ประทีปส่องธรรมเล่ม1 ของพระปาโมทย์ ปาโมชโช ตอนนั้นแปลกใจมาก ทำไมเหมือนหนังสือที่เขียนไว้ ยังไปบอกหลวงพ่อที่วัดว่าหลังออกจากวัดเห็นความโกรธ ความโกรธหายทันที เห็นอารมณ์อยู่ 4-5 ครั้ง หลวงพ่อวัดที่ไปบวชบอกทำถูกแล้วแต่ดูน้อยไป (จิตเห็นแต่ยังไม่ยอมรับ ว่ามันทำงานเอง ) ไม่ได้ทำต่อไม่อยากให้คนนที่อยู่ด้วยบาป หลวงพ่อบอกถ้าคนอื่นไม่เชื่อจะบาป เลยไม่ค่อยยุ่งกับคนอื่น ไม่ได้แฏิบัติ ต่อ(ไม่นั่งสมาธิ) แต่ทำวิปัสสนาแทน ดูอศุภะ ตามหลวงพ่อฤาษีลิงดำ คิดว่าน่าจะตัดกามราคะได้แล้ว (สังโยชน์ข้อที่4) ผ่านมาจะ4ปี ไม่มีความต้องการเลย ก็เลยสงสัยหรือว่าจะเป็นไปตามหลวงพ่อฤาษีลิงดำพูดไว้
น้ำกามจะเหือดหายไปแต่ปฏิฆะ ยังตัดไม่ได้ 100% ตัดได้สัก70-75% ตามที่หลวงพ่อฤาษีลิงดำกล่าวไว้ ถ้าได้พระอนาคามี จะถือศลี8โดยอัตโนมัติ แต่ก็รู้วิธีตัดแล้ว (ตอนที่ไปบวชเคยเห็นความโกรธแล้ว เมื่อ9-10ปีที่แล้ว) คิดว่าปีนี้น่าจะต้องไปบวช ตลอดชีวิตตามที่ได้อธิฐานไว้
น้อมกราบ สาธุ สาธุ สาธุเจ้าค่ะ
น้อมกราบสาธุๆๆจ้า
สาธุ สาธุ สาธุ
สาธุคับ
น้อมกราบสาธุ สาธุ สาธุ
🙏🙏🙏
น้อมกราบนมัสการหลวงพ่อกราบอนุโมทนาสาธุๆๆเจ้าค่ะ
กราบนมัสการพระอาจารย์ผมเพิ่งฟังพระอาจารย์ยังไม่ถึง 2 เดือนดีแต่ว่ารักษาศีลมาหลายปีแล้วแต่ไม่เคยรักษาอารมณ์ ได้ฟังพระอาจารย์เทศน์สอนผมเข้าใจอย่างหนึ่ง ว่าจะถูกไหม จิตเป็นผู้รู้ คนที่กระทำคือโลภ โกรธ หลง ถูกต้องใช่ไหมครับ ขอกราบนมัสการครับ
กราบขอบพระคุณพระอาจารย์ด้วยความเคารพยิ่งจะพยายามมีความเพียรมากขึ้นให้ไปสว่างให้ได้
รู้ทันการปรุงแต่งอย่างเดียวไม่หลุดพ้นนะคะพ่อ
ก่อนเม้นแบบนี้ คิดก่อนนะคะ พระอาจารย์ท่านสอนแบบรวมยอด ไม่ได้แยกออกเป็นสเต๊ปๆ.
ถ้าสอนเดี่ยวๆท่านจะไม่เทศน์แบบนี้นะคะ
555
แสดงว่ายังไม่เข้าใจ ยังไม่ได้อะไร
การปรุงแต่ง หรือสังขาร (ภาษาบาลี)
การคิดปรุงแต่ง มันคือกิเลส มันเป็นความอยาก
การที่จะเป็นพระอริยเจ้าได้ จะต้องไม่มีการปรุงแต่ง คือจิตทำงานเองโดยอัตโนมัติ ศีลก็ไม่จำเป็นต้องคอยระวัง
มันจะรู้เองว่าสิ่งนี้ถูกสิ่งนี้ผิดศีล อัตโนมัติไม่จำเป็นต้องสมาทานศีลก่อน
นั่นคือจะทำอะไร จะนั่งสมาธิ ไม่ขยันก็ทำ ขยันก็ทำ ไม่ได้ทำเพราะอยาก( อยากเป็นโสดาบัน))
ถ้ายังมีความอยาก(ปรุงแต่ง) จะไม่ได้อะไรเลย ต้องตัดข้อนี้ก่อน
5556
ต้องทำอย่างไรอีกครับ
ไปสอนผู้ใหญ่บ้านหากันบ่เก่ง
น้อมกราบอนุโมทนาสาธุเจ้าค่ะ
🙏🙏🙏