Good Morning Thailand (22 ส.ค. 58) ไขข้อสงสัย “พระธรรมวินัยสงฆ์”
ฝัง
- เผยแพร่เมื่อ 21 ส.ค. 2015
- Good Morning Thailand (22 ส.ค. 58) ไขข้อสงสัย “พระธรรมวินัยสงฆ์”
ร่วมไขข้อสงสัยประเด็นดราม่าในสังคมออนไลน์ "พระสงฆ์กราบแม่" ผิดหรือไม่?
สามารถรับชมรายการย้อนหลังได้ที่ goo.gl/eRD2ah
รายการข่าวรูปแบบใหม่ ที่ให้เนื้อหาสาระพอดีคำ เหมาะสำหรับเรื่องราวดีดี
ที่แฝงแง่คิดและเพิ่มพลังสำหรับการเริ่มต้นในเช้าวันใหม่ ซึ่งจะเพียบพร้อมไปด้วยข่าวสาร ที่เกิดขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
รายการ Good Morning Thailand ออกอากาศทุกวันจันทร์-อาทิตย์
เวลา 05.30-07.00 น. ทางช่อง mono29
หรือรับชมออนไลน์ผ่าน App: Mono 29 หรือทาง mono29.mthai.com/livetv #Rerun #Mono29 - บันเทิง
วินัยคือวินัย พระคุณบิดามารดาดีที่สุด กราบให้เสร็จก่อนบวช บวชแล้วต้องเอาจริง ไม่ควรคือไม่ควร ปฏิบัติตนให้ดีประเสริฐกว่ากราบ พ่อแม่ท่านรู้
รู้ไหมว่าท่านเอานรกมาให้โยมแม่เต็มๆเลย เศร้าจริงๆ
สึกมาแล้วค่อยกราบ ถ้าอยากกราบแม่จริงๆ แล้วคนที่เป็นคนธรรมดาที่ไม่ได้เป็นพระ พวกเราก็กราบแม่เฉพาะเทศกาลสำคัญเท่านั้น หรือบางโอกาสที่ไม่ได้เจอกันนานๆ ทุกอย่างมันละเอียดอ่อนที่จะมาพูดในทางลบ แต่ธรรมวินัยพุทธแต่ละที่ต่างกัน เช่น ธิเบตพระถูกต้องสีกาได้เป็นต้น
ทำไมพระจึงกราบแม่ไม่ได้ หนึ่งด้วยศีลที่รักษา สองถึงจะเป็นแม่ที่ให้กำเนิดแต่ท่านยังมีกิเลสหรือยังเสพกามเยื่องสามันชนอยู่ สามเพื่อใม่ให้เกิดครหานินทา สี่เพื่อรักษาอริยประเพณีของพระอริยเจ้าให้สืบไป แต่สามารถนำอาหารมาให้แม่ได้เพื่ออุปฐาก ที่แตะมาตุคามไม่ได้เพื่อป้องกัน ความยินดีจากสัมผัสเพราะอาจเกิดความพอใจ ทุกสิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงบัณญัติเป็นพระวินัย ล้วนมีที่ไปที่มามีเหตุและผล เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นปัญหา เพราะพระไม่ศึกษาเราไม่ศึกษาใส่ใจ ถ้าเป็นชาวพุทธเราต้องรู้เรื่องศาสนา ไม่ใช่ให้เขายัดเยียดให้ในสำมโนครัว
ไม่น่ากราบแม่ได้เพราะศิลแม่น้อยกว่าลูกที่บวชเป็นพระแล้ว แต่เวลาแม่ป่วยลูก สามารถปรนนิบัตแม่ ถ้าแม่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้
หน้าอันตรายมากๆจากภาพพฤติกรรมของสงฆ์ในมุมแบบนี้ หน้าอันตรายมากๆ จากภาพและดูจากภาพพฤติกรรมของสงฆ์แบบนี้ ไม่เหมาะเป็นอย่างยิ่ง และ อาจจะดู เหมือน เข้าข่ายเชื่อมเสีย ในศาสนาหมด
เท่าที่ฟัง..ผมว่าลุงใส่แว่นค่อนข้างไม่มีความรุ้เรื่องพระธรรมวินัยที่ลึกซึ้งเลย..เหมือนอ่านผ่านๆ แต่ไม่เคยเข้าใจส่วนลึกของพระธรรมวินัยเลย
ทำไมไม่ลบภาพนี้เสีย คือเป็นเป็นภาพไม่เหมาะสม ทำให้ผู้รู้ติเตียนได้ทุกเมื่อ
เมื่อคืนวันที่ 27 ข้ามมาวันที่ 28 กันยายน 2566 ช่วงประมาณตี 1 เราได้ก้มลงกราบโยมพ่อ และบอกท่านว่าลูกขอกราบขอบพระคุณพ่อ ที่เลี้ยงดูแลลูกมาอย่างดีจนเติบโต และขออโหสิกรรม ในทุกๆเรื่อง ได้โปรดอโหสิกรรมให้ลูกด้วย ลูกไม่มีอะไรจะอโหสิกรรมพ่อ เพราะพ่อประเสริฐที่สุดสำหรับลูก และโยมพ่อก็หมดลมหายใจไปในที่สุด
พูดแล้วก็คิดถึง
ครั้ง1หลวงพ่อปานวัดบางนมโค
เคยกราบศพคาราวาสด้วยความสงสัยของหลวงพ่อฤศีลิงดำ(พระราชพรหมยาน)ท่านจึงถามว่าทำไมหลวงพ่อถึงกราบศพคาราวาศ ทั้งๆที่ไม่ไช่ญาติตัวเอง หลวงพ่อปานจึงตอบหลาวงพ่อฤศีลิงดำว่า เรากราบสัจธรรม ครั้งที่กราบเเล้วนึกถึงพระพุท 2กราบนึกถึงพระธรรมว่าทุกคนมีการเกิดเเก่เจ็บตาย3กราบพระสงฆ์ที่ตนระรึก
ถูกต้องครับ เรากราบสัจธรรม ศพที่ตายไปแล้วก็เหมือนกับเป็นท่อนไม้ หลวงพ่อปาน ก็ยึดสัจธรรม หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ก็สงสัยที่ตนเป็นลูกศิษย์ เพื่อแก้ข้อสงสัยให้กระจ่างแจ้งแก่พุทธศาสนิกชน จะได้มีปัญญาเกิดขี้น ในสิ่งที่ถูกที่ควร เพราะทั้งสองท่าน ล้วนเป็นพระอริยสงฆ์ เที่ยงแท้แน่นอน เป็นการปุจฉา วิสัชนา ให้ชาวโลก เกิดความแจ่มแจ้ง ขอกราบอนุโมทนา สาธุ
ผ้าถุงหรือว่ากางเกง ทั้งของผู้ชาย หญิง ก็ถือว่าเป็น พัสตร์ แปลว่า ผ้า อาทิ เข้าสู่ร่มผ้ากาสาวพัสตร์ ก็คือ การเข้าไปห่มผ้าที่ย้อมด้วยสีฝาดหรือปาด อาทิ น้อมด้วยแกนขนุน ใบไม้บางชนิด เป็นต้น เท่านั้น มิใช้เข้าไปสู่ร่มกาสาวพัสตร์ แล้วจะเป็นบุญกุศล ไม่ใช่ ถ้าไม่มีการปฏิบัติ ตามปริยัติ ปฏิบัติ เข้าสู่ ปฏิเวธ บางคนหลงผิดไปถือคาถาอาคม มีความเห็นผิด ไม่ยอมแตะต้องผ้าถุงโยมแม่ ผ้าถุงก็เป็นพัสตร์ แปลว่าผ้า บังสุกุล ก็คือผ้ามาจากคลุกฝุ่น ผ้าห่อศพ นำมาซักเป็นผ้านุ่งห่ม สบง จีวร ก็ไม่ได้บอกว่าต้องเป็นผ้าที่ห่อศพ ของผู้หญิงหรือผู้ชาย ผ้าที่เขาทิ้ง ไม่มีใครต้องการ ก็ถือว่าเป็น ผ้าปังสุกุล ผ้าคลุกฝุ่น ทั้งนั้น ใช้นุ่งห่มโดยไม่ต้องย้อมสี ก็สามารถใช้ได้เลย นี่คือ ผ้าปังสุกุล ที่แท้จริง สาธุ
กฏระเบียบที่มีอยู่ ในพระกัณฑ์ไตรปิฎก ควรเป็นที่ยึดเหนี่ยว อันสูงสุด ที่ ชาวพุทธทั้งหลาย ได้น้อมนำ พระพุทธเจ้า อันเป็นที่สักการะสูงสุดของชีวิต ทุกชีวิตควรน้อมนำพระธรรมวินัย เป็นที่ตั้ง จึงถ้ามีการเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะอยู่ในสถานไหนอดีตกับปัจจุบัน แล้วเอามาแก้ไขเปลี่ยนแปลง ไม่ถือว่า เกิดมาเป็นชาวพุทธอย่างแท้จริง เพราะไม่สมควรอย่างที่สุด
สาธุสาธุสาธุ
พ่อ แม่ เป็น เทพ ของบุตร มิใช่ เป็น พระอรหันต์ ของบุตร จ้า / ทั้ง พิธีกร ทั้ง อาจารย์ ทั้งสอง จงพูดให้ถูก ตาม พระธรรม ตถาคต สาธุ สาธุ สาธุ
อาจารทั้งสองให้ความรู้ดีมาก
พระไหว้แม่หรือพ่อไม่ได้...เพราะพระวินัยท่านบัญญัติไม่ให้พระไหว้ผู้ที่ยังไม่ได้บวช ....แม้ผู้ที่บวชเป็นพระแล้ว ท่านก็ยังห้ามไม่ให้ไหว้ผู้ที่อ่อนพรรษากว่า ไม่ให้ไหว้พระต่างนิกายกัน และไม่ให้ไหว้พระที่กำลังถูกสงฆ์ลงโทษพักสิทธิการเป็นพระชั่วคราว
เมื่อพ่อแม่ยังไม่ได้บวช คือไม่ได้เป็นพระ ลูกชายซึ่งบวชเป็นพระจึงไหว้พ่อแม่ไม่ได้...!!!
ที่กล่าวกันว่า ก็ "่พ่อแม่เป็นพระอรหันต์ของลูก" แล้วทำไมพระลูกชายจึงไหว้พ่อแม่ไม่ได้ ก็ท่านเป็นพระอรหันต์มิใช่หรือ ???
นั่นเป็นคำกล่าวยกย่องที่ให้เกียรติอย่างสูงในฐานะที่ท่านเป็นผู้ให้กำเนิดและเลี้ยงดูบุตรมาจนเติบใหญ่ แต่ไม่ได้หมายความว่า พ่อแม่เป็นนักบวช หรือเป็นพระไปจริง ๆในความหมายที่พระวินัยกำหนด
เหมือนเราพูดยกย่องว่า นักฟุตบอลบางคนเป็น "เทพเจ้าลูกหนัง" เพราะฝีเท้าของเขาเก่งเข้าขั้น แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า เขาเป็นเทพเจ้าหรือเป็นเทวดาไปจริง ๆ ฉันใดก็ฉันนั้น
บางคนแย้งว่า "อ้าว...แล้วทำไมพ่อแม่จึงไหว้ลูกได้ ทั้ง ๆที่เพิ่งบวชแท้ ๆ มีความดีอะไรนักหนาที่พ่อแม่ถึงต้องยกมือไหว้" ???
นั่นเป็นคำพูดที่มาจากความสับสน ไม่ได้คิดวิเคราะห์ตามหลักความเป็นจริง
การที่พ่อแม่ไหว้พระลูกชายแม้เพิ่งบวชนั้น...ท่านไม่ได้ไหว้ลูกชายของตน แต่ท่านกำลังไหว้พระ เหมือนที่ชาวพุทธทั่ว ๆไปไหว้พระนี่แหละ...!!!
ชาวพุทธเราเจอพระที่ไหน เมื่อไร จะเพิ่งบวชก็ตาม หรือบวชนานแล้วก็ตาม จะรู้จักหรือไม่ก็ตาม ไม่รู้จักก็ตาม เป็นญาติก็ตาม ไม่ใช่ญาติก็ตาม ก็ยกมือไหว้ทั้งนั้น...เพราะเราไหว้พระ...!!!
ดังนั้น ที่พ่อแม่ยกมือไหว้พระลูกชายนั้น ท่านกำลังไหว้พระ ไม่ได้เจาะจงไหว้ลูกของตน แต่บังเอิญลูกชายของตนกำลังบวชเป็นพระอยู่เท่านั้นเอง
วันหนึ่งถ้าลูกชายสึกจากพระเมื่อไหร่ พ่อแม่ก็ไม่ต้องไหว้ เพราะลูกชายไม่ได้เป็นพระแล้ว
ส่วนพระลูกชายเอง จะไปทึกทักเอาว่า พ่อแม่ยกมือไหว้ตนก็ไม่ได้ ต้องสำนึกว่า ที่พ่อแม่ยกมือไหว้นั้น ท่านกำลังไหว้ความเป็นพระของตนอยู่.... พ่อแม่ที่ไหนจะยกมือไหว้ลูกของตนเล่า...!!!
ถ้าเข้าใจอย่างนี้ เรื่องมันก็ไม่ยุ่ง....!!!
มีคำถามหนึ่งถามว่า พระภิกษุไหว้ผู้ที่เป็นพระอรหันต์ แต่ยังไม่ได้ถือเพศเป็นนักบวชได้หรือไม่ ?
ก็ต้องตอบว่า ไม่ได้...!!! เพราะพระวินัยบัญญัติไม่ให้พระภิกษุไหว้คฤหัสถ์ หรือผู้ที่ยังไม่ได้บวช แม้ท่านเหล่านั้นจะมีภูมิธรรมในตนเป็นถึงพระอริยบุคคลก็ตาม
พระวินัยก็เหมือนกฎหมาย แม้จะเพ่งไปที่เจตนาประกอบการพิจารณาบ้าง แต่ส่วนใหญ่ก็กำหนดรูปแบบการปฏิบัติต่อสิ่งที่ปรากฏให้เห็นเป็นรูปธรรมเท่านั้น
ผู้ที่จะเป็นพระภิกษุ ก็ต้องผ่านการอุปสมบทหรือบวชให้เห็นเป็นที่ประจักษ์ จะเป็นพระศาสดาทรงบวชให้ หรือพระอาจารย์บวชให้ หรือปัจจุบันสงฆ์บวชให้ก็ได้ทั้งนั้น....พูดง่าย ๆว่าต้องผ่านการบวชเป็นเรื่องเป็นราวตามพระวินัยกำหนดจึงจะเป็นพระภิกษุ
อยู่ดี ๆแม้จะได้บรรลุเป็นพระอรหันต์แล้วก็ตาม แต่จะไปทึกทักเอาว่า ฉันเป็นพระภิกษุแล้วไม่ได้...!!!
เพราะการบรรลุธรรม เป็นสิ่งที่เกิดภายในตัวบุคคล ไม่ใช่สิ่งที่สังคมกำหนดหรือบัญญัติให้เห็นในเชิงประจักษ์เป็นที่รับรู้ร่วมกัน
ยกตัวอย่างแม้เราจะมีความรู้ใด ๆมากมายแค่ไหนก็ตาม แต่ถ้าจะให้เกิดสิ่งที่เรียกว่าจบการศึกษา ได้รับใบปริญญาบัตร ก็ต้องผ่านการสอบในสถาบันที่สังคมกำหนด จะไปเขียนใบแสดงวุฒิบัตร ใบปริญญาเอาเองไม่ได้
ในสมัยพุทธกาลเอง มีคฤหัสถ์หลายท่าน ได้ฟังธรรมจากพระพุทธเจ้าแล้วได้บรรลุเป็นพระอรหันต์ ท้ายที่สุดท่านเหล่านั้นก็ต้องทูลขอให้พระพุทธองค์ทรงบวชให้ นั่นแหละท่านจึงเป็นพระภิกษุโดยสมบูรณ์
เมื่อท่านบวชเป็นพระภิกษุแล้ว ก็ต้องทำตามพระวินัยกำหนด คือแสดงความเคารพกันตามลำดับพรรษา แม้พระภิกษุที่เป็นพระอรหันต์ ก็ต้องแสดงความเคารพคือไหว้พระภิกษุที่ยังไม่ได้บรรลุธรรมที่บวชก่อน
จะไปบอกว่า พระภิกษุที่ยังไม่ได้บรรลุธรรมแต่บวชก่อน ต้องแสดงความเคารพพระภิกษุที่เป็นพระอรหันต์แม้ท่านจะบวชทีหลังเพราะท่านภูมิธรรมมากกว่า อย่างนี้ไม่ได้...!!!
พระวินัยท่านกำหนดชัดอย่างนี้....!!!
น่าแปลกที่สมัยก่อนผู้คนในสังคมเราเข้าใจเรื่องอย่างนี้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเรื่องพระไม่ไหว้พ่อแม่ หรือพระภิกษุทั่วไปไม่ไหว้ผู้ที่บรรลุธรรมเป็นพระอริยบุคคลแต่ยังไม่ได้บวช
สังคมของเราสมัยก่อนไม่มีเรื่องสงสัยกันแบบนี้เลย...!!!
เดี๋ยวนี้ผู้คนในสังคมของเราที่ได้ชื่อว่ามีการศึกษา แต่กลับสับสนในเรื่องง่ายแบบนี้ ไม่ต้องพูดถึงหลักธรรมที่ลึกซึ้งขึ้นไปที่จะสับสนเพิ่มมากขึ้น เช่น เรื่องธรรมกาย ที่กำลังเป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โตในสังคมไทย
ทั้ง ๆที่ คำว่า ธรรมกาย แม้จะเป็นเรื่องสูง แต่ก็ไม่ถึงกับใหญ่โตอะไรในคำสอนของพระพุทธเจ้า
แต่ก็ถูกนำมาสร้างเป็นวาทะกรรม เช่นสร้างคำว่า "วิชชาธรรมกาย" เป็นคำขลังขึ้นมาและอาศัยคำนี้ทำมาหากินสร้างอาณาจักรใหญ่โตมโหฬารในเมืองไทย
ทั้ง ๆที่ คำว่า "วิชชาธรรมกาย" ไม่มีในคำสอนของพระพุทธเจ้า...!!!
แต่ก็เชื่อถือและปฏิบัติกันสืบ ๆมาโดยไม่พิจาณาว่ามันมีจริงหรือไม่ อย่างไร...!!!
ที่พระพุทธเจ้าว่ายังงันเพราะว่า เราไม่สามารถยืนยันได้ว่าคนๆนั่นเป็นพระอรหันจริงๆนอกจากพระพุทธเจ้าจึงให้ยึดตามศิลเท่านั่น
Otato Nookhook เห็นด้วยค่ะ
สาธุ... สาธุ...
กราบแม่พระนี้แหละสุดยอดพระ พระพ่อพระแม่
พ่อแม่คือพระอรหันต์ เพียงแต่ท่านไม่โกนหัวห่มผ้าเหลือง กราบใด้เช็ดเนื้อตัวยามเจ็บป่วยดูแล กราบพระพุทธรูป ไหว้พระแต่ไม่กราบไหว้พ่อแม่ ถึงใด้บุญ
ในบทบัญญัติพระองค์บัญญัติห้ามไว้อยู่แล้ว คือห้ามกราบไหว้มาตุคาม(ผู้หญิง) ไม่ต้องไปตีความใดๆ อีก
เป็นอาบัติ
พระพุทธเจ้าตัวจริง.คือ.พ่อแม่
กราบเท้าพ่อแม่.ได้
เพราะกราบบุญคุณ
ที่เลื้ยงดู
ไปศีกษาใหม่ให้ถูกต้อง ไม่มีใครเทียบกับพระพุทธเจ้าได้
มั่วมาก
ระวังนรกนะครับสอนมั่ว
ไม่เห็นยาก.....พระหรือเณรรูปใดอยากแสดงความเคารพบิดามารดา ด้วยการกราบไว้ก็สึกจากความเป็นพระหรือเณรในสายเถรวาท แล้วไปบวชเข้านิกายอื่นก็สิ้นเรื่อง สิ่งใดที่พระพุทธองค์บัญญัติไว้พระสายเถรวาทท่านพยายามรักษาและพยายามจะปฏิบัติให้ได้มากที่สุด เราควรช่วยกันปกป้อง ไม่ใช่เอาตามใจตัวเอง ถ้าคิดเอาตามใจตัวเองแล้วจะบวชเข้ามาทำไม เข้าใจตรงกันนะ^^
เป็นผมๆก็ทำแบบพระองค์นี้ ความกตัญญูไม่มีข้อกำหนดสำหรับมนุษย์.
พระพุทธเจ้า เป็นพระศาสดา เราต้องเคารพในคำสอน ของพระศาสดา
ที่มาของธรรมวินัยเรื่องนี้ไม่ไช่ตามลุงเสื้อเหลืองพูดนะ ลุงเสื้อเหลืองไปศึกษามาไหม่ด้วยนะลุง
พม่าก็ไม่ได้ครับ.อาตมาอยู่พม่า.มาหลายปี
มีเหตุผลคัพแบบนีน่าฟังคับ ผมว่าได้นะ
จิตที่ดีมันไม่ผิดหลอกท่าน..
จิตส่วนบุคคล
ท่านก็เก่งสุดแค่ในหนังสือ หนังสือจบหน้าไหนความรู้ก็สุดแค่นั้น น่าสงสารด๊อกเตอร์กับนักวิเคราะห์จังมีดีแค่จำเก่งแต่ปัญญาน้อย
สุตะมยะปัญญา จดจำนำมารู้
จิตมยะปัญญา รู้จากจินตนาการ
ภาวนามยะปัญญารู้โดย บ่ ต้องคึด(บรรรรรรรลุ)
จิตที่ดี แต่ผ้าที่เหลืองในตัวเป็นของสูง ก่อนจะบวชเขาเตือนแล้วว่าถ้าห่มเหลืองแล้วอย่ากราบพ่อแม่
เราจบแค่ ป.4เรายังรู้ว่าถ้าลูกห่มผ้าเหลืองแล้วพ่อแม่ต้องกราบพระ
แต่คุณกลับไม่เก่งแม้แต่จะวิเคราะอะไรเลย
คนจะสูงกว่ากันได้ ต้องดูภูมิศีล
เข้าใจป่าว
สวัสดีคะ พี่ หนูขอรบกวน ขอดูดบุญให้ประเทศต่างๆ วิธีนี้เป็นวิธีหนึ่งที่จะเพิ่มบุญให้กับทุกประเทศ ให้หนีโควิด ขอโทษพี่ๆไว้ก่อนเลยถ้าทำให้ ลำบาก
สมุทรสาคร อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ
ไทย อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ
อินเดีย อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ
โลก อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ
สหรัฐอเมริกา อนุโมทนาสาธุ สาธุ สาธุ สาธุ
สเปน อนุโมทนาสาธุ สาธุ สาธุ สาธุ
อิตาลี อนุโมทนาสาธุ สาธุ สาธุ สาธุ
เยอรมนี อนุโมทนาสาธุ สาธุ สาธุ สาธุ
สหราชอาณาจักร อนุโมทนาสาธุ สาธุ สาธุ สาธุ ฝรั่งเศส อนุโมทนาสาธุ สาธุ สาธุ สาธุ ตุรกี อนุโมทนาสาธุ สาธุ สาธุ สาธุ อิหร่าน อนุโมทนาสาธุ สาธุสาธุสาธุ จีน อนุโมทนาสาธุ สาธุสาธุสาธุ รัสเซีย อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ บราซิล อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ เบลเยียม อนุโมทนาสาธุ สาธุสาธุสาธุแคนนาดา อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ เนเธอร์แลนด์ อนุโมทนาสาธุ สาธุสาธุสาธุ สวิตเซอร์แลนด์ อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ อินเดีย อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ โปรตุเกส อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ เอกวาดอร์ อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ เปรู อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุไอร์แลนด์ อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ สวีเดน อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ ซาอุดีอาระเบีย อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ ออสเตรีย อนุโมทนาสาธุ สาธุสาธุสาธุ อิสราเอล อนุโมทนาสาธุ สาธุสาธุสาธุ เม็กซิโกอนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ ญี่ปุ่นอนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ ชิลีอนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ สิงคโปร์อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ ปากีสถานอนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ โปแลนด์อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ เกาหลี อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ โรมาเนีย อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ เบลารุส อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ กาตาร์ อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ อินโดนีเซีย อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ เดนมาร์ก อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ
ยูเครน อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ เซอร์เบียร์ อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ นอร์เวย์ อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ ประเทศเช็กเกีย อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ ฟิลิปปินส์ อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ ออสเตรเลีย อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ สาธารณรัฐโดมินิกัน อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ มาเลเซีย อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ ปานามา อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ โคลอมเบีย อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ บังกลาเทศ อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ ฟินแลนด์ อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ แอฟริกาใต้ อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ อียิปต์ อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ โมร็อคโก อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ อลักเซมเบิร์ก อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ อาร์เจนตินา อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ แอลจีเรีย อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ มอลโดวา อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ ประเทศไทย อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ คูเวต อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ บาห์เรน อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ กรีซ อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ คาซัคสถาน อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ ฮังการี อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ โครเอเชีย อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ โอมาน อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ ไอซ์แลนด์ อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ อิรัก อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ เอสโตเนีย อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ อาร์เมเนีย อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ อาเซอร์ไบจาน อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ แคเมอรูน อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ ลิทัวเนีย อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ สโลวีเนีย อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ สโลวะเกียอนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ อัฟกานิสถาน อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ มาซิโดเนียเหนือ อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ คิวบา อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ กานา อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ บัลแกเรียอนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ
จีน อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธ
แม่ประทุม สาธุอนุโมทนาสาธุ
แม่ประทุมอนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ
แม่ประทุมอนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุสาธุสาธุ
ปังปอนด์อนุโมทนาสาธุเปาอนุโมทนาสาธุ
เปา พิมพ์ อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ
แดง วัดเขาถ้ำ อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ
แม่องค์ขายส้มตำ อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุสาธุ
🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏 🙏🙏🙏
I อนุโมทนาสาธุ99,999,995
ปกติ พระคุณเจ้า ท่าน ก็ มี กิจวัตร แตกต่าง จาก ทาง โลก อยู่ แล้ว ครับ และ หาก ว่า จะ เป็น ผู้ประเสริฐ แล้ว และ สอนให้ ผู้อื่น ได้ เป็น ผู้ตื่น ผู้รู้ ผู้เบิกบาน แล้ว อะไรๆทั้งหลาย ทั้งปวง แล้ว แล้ว เรา จะ คิด อะไร หาก ท่าน ไม่ได้ มี ปัญญา แยกแยะ รู้ ว่า อะไร เป็น คุณ อะไร เป็น โทษ ปัญญา ครับทุกท่าน ที่ ทำให้ จิตเบิกบาน จิต นำพา พ้นทุกข์ เสีย ได้ ก็ ด้วย จิต เป็น เหตุ ดัง หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค อยุธยา พระผู้รู้ พระผู้ตื่น พระผู้เบิกบาน พระผู้ประเสริฐ แล้ว ท่าน ก็ ตอบแทน.พระคุณของคุณมารดา ของ ท่าน และ หาก พิจาราณา ก็ ตัวอย่าง ของ วันนี้ จาก อดีต ของ หลวงพ่อปาน และ เป็น อกาลิโก และ เหมาะสมสอดคล้องทั้งปวง สมมุติ ว่า หาก ฝนตก ท่าน จะ ก้มกราบ ก็ จะ เปื้อนจีวร ก็ อาจพนมมือกราบท่าน
เข้าใจว่าต้องการแสดงความกตัญญู แต่มีวิธีแสดงความกตัญญูตั้งหลายวิธี การที่เราไปกราบแม่ตอนเป็นพระไม่ใช่แค่เราที่บาปมันเหมือนเราเอา บาปไปยัดเยียดให้แม่ด้วย
Poomrapee Wongbamrab ตอ้งขอบคุณภาพนี้จะใด้ทำใด้ถูกตอ้งในครั้งต่อไป
Poomrapee Wongbamrab
กล่าวได้ดีมากเลยครับ
ถ้าเป็นพระ ไม่มีหญิงไม่มีชาย ไม่มีเขาไม่มีเราหลอก.
พระพุทธเจ้าให้ถือเอาศิลเป็นหลักครับอยาว่าแต่กลาบแม่เลยเขารวมทั่งหมดที่มีศิลหน่อยกว่า
ณรงค์เดช คุสิตา ถึงว่า. ภิกษุณี ไม่มี ฮึๆ. ภิกษุไทยแม่งแน่นอน
พระกราบพ่อแม่ไม่ได้ เป็นผมถึงกราบได้ผมก็ไม่กราบให้พ่อแม่บาปหลอกครับ
กราบได้ไม่ผิด นั่นคือสัจธรรม
เเละคำสอนของพระพุทเจ้า
อยากรุ้มาถามผม ผมไม่ไข่พระ ผมไม่ไช่เนร ผมไม่ไช่ชี ผมเป๋นมนุษธรรมดา
เด้วผมจะสอนไห้นะ ท่านทั้ง2
ใดๆคือคำว่าไม่ผิดรรับ
คนจะสูงหรือตำดูที่ศีล
พระที่มีศีลสูง ไหว้แม่ที่มีภูมธรรมต่ำกว่า แม่ก็บาป
กราบได้แต่จะทำให้แม่มีกรรมนะสิครับ ถ้าเลี้ยงดูพ่อแม่นั่นไม่ผิดครับได้บุญอีกต่างหาก พระบิณฑบาตรเลี้ยงพ่อแม่พระพุทธเจ้าสรรเสริญครับ
สาธุถูกต้องแล้ว
คิดง่ายๆ พระศีล 227 ข้อ แม่ศีล 5 ข้อ แม้งดงามแต่ก็มิบังควร ตามพระวินัยท่านอาบัติ
หากพระธรรมวินัยไม่เป็นหนึ่งเดียว หากยังแปรเปลี่ยนผันแปรไปตามกระแสสังคมนั้นๆ ได้อยู่ตลอดเวลา คงหาหลักอะไรมิได้
ดังเช่น มีกฏหมายบ้านเมือง หากต่างคน ต่างตีความกฏหมายด้วยจริตของตนไปเรื่อย เราจะยึดถือกฏหมายนั้นอย่างไร คงมีแต่ความวุ่นวาย และความเสื่อม เพราะขาดหลักการที่แน่นอนในการประพฤติปฏิบัติ
พระ กราบแม่ไม่ได้แม่กราบเราได้ เราเป็นพระแล้ว ไปกราบแม่มันก็ดู ไม่ควร ดูเป็นบาปแต่ก็ไม่บาปแม่ก็คือ พระในบ้านพระผู้ให้
ผมไม่บวชวัดอ้อน้อยเด็จขาด
ดร.นำหน้าไม่ใช่จะรู้ทุกเรื่องจริงๆดูคลิปนี้แล้วก็อนาจใจกับชาวพุทธ
ดร.ขนาดนี้แล้วคนธรรมดาจะรู้เรื่องหลักคำสอนจริงกี่เปอเซ็น
พระจับต้องแม่ได้ในกรณีแม่เจ็บไข้ได้ป่วยไม่มีคนดูแล ฉุกเฉิน หากแม่ตาย พระอาบน้ำศพแต่งกายให้ศพแม่ได้เป็นกิจที่ควรกระทำพระพุทธเจ้าสอนไว้ในพุทธกาล แต่...ในความเป็นจริงสังคมไม่ได้ขาดคนที่จะทำหน้าที่ตรงนั้นและอื่นๆ พระจึงเพียงแค่นั่งดู
แม่ มหาเทพเทวา ข่อยวาบ่ ผิด แต่อาจ บ่ เหมาะสมทีออกสื่อ ยุนอกกฎเกณฑ์ โลกุตตระ พุทธจี่กง _หลวงปู่สรวง
การกราบมีอยู่สามอย่าง คือด้วยกาย วาจา ด้วยใจ พระพุทธเจ้าให้พระสงฆ์ถือศีล227 ข้อ มีมหาประเทศ4 ในการตัดสินพระวินัย เพื่อรักษาใว้ซึ้งพระศาสนา ความจริงพระสงฆ์ท่านเคารพพระคุณของพ่อแม่ก่อนใคร
เช่นภาวนาคำว่านะโม แปลว่าพ่อแม่เป็นอุบายของพระธรรมให้กราบพ่อแม่ด้วยใจ ส่วนการกราบพ่อแม่ภายนอกนั้นผิดพระธรรมวินัยไม่สมควรระเมิด เพราะพระองค์บรรญัติใว้ ย่อมมีเหตุผลบางประการที่คนธรรมดาย้ากจะเข้าใจ
แต่ก็ไม่มีข้อห้ามในพระธรรมวินัยครับ ถ้ากราบก็คงไม่เป็นอาบัติต่อผู้กราบ แต่ถ้าพระทีปฎิบัติจนรู้สึกว่าตนเห็นธรรมเป็นอริยบุคคลแล้วท่านก็คงจะไม่กราบ เพราะความที่มีศีลมีธรรม
เป็นของสูงอยู่ กราบเกรงท่านจะบาบ (บอกแล้วในธรรมวินัย
ไม่มีข้อห้ามจึงต้องดูเองควรไม่ควร)
ฟังธงเลยครับ ให้เอาธรรมวินัยเป็นใหญ่ครับ
ที่บอกว่าพระบวชใหม่มีศีลน้อย กราบไหว้พ่อแม่ได้ ท่านเอาอะไรมาวัดว่า พระบวชใหม่กับพ่อแม่ใครศีลน้อยกว่าใคร
เพราะว่ามันวัดไม่ได้ไงครับ พระธรรมวินัยจึงสร้างข้อปฏิบัติเป็นบรรทัดฐาน เพื่อยึดถือและปฏิบัติให้เป็นหนึ่งเดียว ไม่ต้องมาตีความ ถกเถียงกัน โดยเอาประเพณี วัฒนธรรม ที่ต่างกันในแต่ละพื้นที่ มาเป็นตัวแปรในการคิดและปฏิบัติให้วุ่นวายไม่จบสิ้น
มีความรู้จริงหรือ
รู้พระวินัยรึเปล่า
แยกไม่ออกว่าอะไรคืออะไร
อัตโนมัติมติ
.การก้มลงกราบในบทบัญญัติ พระธรรมวินัย
บุคคลที่ไม่ควรไหว้ ๑๐ จำพวก
[๒๖๔] ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคล ๑๐ จำพวกนี้ อันภิกษุไม่ควรไหว้
คืออันภิกษุผู้อุปสมบทก่อนไม่ควรไหว้ภิกษุผู้อุปสมบทภายหลัง ๑ ไม่ควรไหว้
อนุปสัมบัน ๑ ไม่ควรไหว้ภิกษุนานาสังวาสผู้แก่กว่า แต่ไม่ใช่ธรรมวาที ๑ ไม่ควร
ไหว้มาตุคาม ๑ ไม่ควรไหว้บัณเฑาะก์ ๑ ไม่ควรไหว้ภิกษุผู้อยู่ปริวาส ๑ ไม่ควรไหว้
ภิกษุผู้ควรชักเข้าหาอาบัติเดิม ๑ ไม่ควรไหว้ภิกษุผู้ควรมานัต ๑ ไม่ควรไหว้ภิกษุผู้
ประพฤติมานัต ๑ ไม่ควรไหว้ภิกษุผู้ควรอัพภาน ๑
บุคคล ๑๐ จำพวกนี้แล อันภิกษุไม่ควรไหว้ ฯ
หมดของวิจาร
แต่ก็ได้ความรู้
.ทั้งหมดอยู่ที่เจตนา..
ผมฟังคำพูดของท่านด็อกเตอร์สินชัยศาสนวิทยาแล้วเป็นที่หน้าเสียดายความรู้ท่านๆพยายามแชเรื่องโดยไม่เข้าใจและพยายามจะไม่เข้าใจ จริงๆแล้วท่านอ่านมหาประเทศ4และการระงับวิวาทาธิกรพระพุทธองค์วางใว้ดีแล้ว เสียดาย..
เอาให้ชัดๆตามหลักนะ ว่าด้วยวินัยผิดแต่เป็นเพียงข้อเล็กน้อย แต่ด้วยบลิบทสังคมและคุณธรรมแล้วแต่จะอะนุโลมกันตามสังคมแต่คุณธรรมแต่ที่บอกว่าพ่อแม่เป็นอรหันต์อันนี้ไม่จริงเป็นคำเทียบของลูก แต่ไม่ได้หมายถึงว่าอรหันต์ที่บรรณลุธรรมแล้วมันต่างกัน
ดูแลได้แต่อย่ากราบท่าน แสดงความกตัญญูที่เราะป็นลูกแบบอื่นมีมากมาย การทำอย่างนี้ถือว่าไม่เหมาะสมในฐานะบรรพชิต
ตอนยังไม่บวชไหว้ใด้ทั้งพ่อแม่และพระ และไหว้ใด้อีกหลายๆอย่างที่เราเครรพ พอบวชปุ๊ป ไหว้ใด้แต่พระที่มีพรรษาสูงกว่าเรา พ่อแม่แท้ของเราเองยังไหว้ไม่ใด้ ไม่บวชดีกว่า
ถ้าไม่มีอาจารย์ท่านหนึ่งคอย
แก้ศาสนาพุทธคงจะถูกตาหนวดนั้นวิจารณ์เละเทะ
ได้ฟังคุณศิลป์ชัยพูดแล้วเหมือนเขาไม่เคยศึกษาพระพุทธศาสนาและคำสั่งสอนของพุทธศาสนาเลยออยากให้ทุกคนศึกษาไม่ได้เพื่อเอามาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันแต่ศึกษาเพื่อจะได้รู้เจตนาที่พระพุทธองค์พร่ำสอนไว้ สาธุ
สงฆ์ มีศาสนาเดวซึ้งเอาพระธรรมความจิงเป็นที่ตั้ง เป็นสิ่งชี้นำ เป็นผู้นำ ไม่มีการกราบไหว้วัตถุ ไม่มียศไม่มีตำแหน่ง ไม่มีลัตธิ การแยกลัตธินั้น สร้างบัญญัติบดบังคำสอนตถาคตนั้นหรือคือสงฆ์ บวชเพื่อสะสางกิเลสบรรลุธรรม เป็นตัวย่างใก้เหล่าชน ไม่ใช่ด้วยบวชเพื่อแสวงหาเครื่องสังเวยสนองตันหายึดถือมั่นอัตตาในตน คิดกันดีๆ การเบียดบังบิดเบือนคำตถาคต ก็ไม่กับต่างอะไรกับพระเทวทัตที่ทำการเบียดบังหวังดีแต่ทำลายศาสนา..สำนึก
กราบได้คับ
ก่อนจะใส่บาตรพระที่วัด ต้องดูแลพระในบ้านให้ดีก่อน พระก็มีพ่อแม่เป็นพระอรหันต์องค์แรก ก่อนจะใหว้พระพุทธเจ้าด้วย ไม่ผิด
อาตมา สัพสนมากโยม
อตมาบวชใหม่ว่าจะแวะมาศึกษา
สักหน่อยแต่ก็อย่างที่เห็น
ตอนนี้แม่อาตมาป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้ายตกลงกราบได้หรือไม่ขอความเห็นให้อาตมาหน่อยขอด่วนที่สุด
BankBank BankBank
ท่าน....ควรให้แม่...รู้ความจริงทุกสรรพสิ่งล้วน "อนิจจัง" ขันธ์ ๕ (รูป นาม)ไม่เที่ยง ย่อมเสื่อมสลาย ตามเหตุปัจจัย อย่าได้ยึดถือว่าเป็นเรา เป็นของเรา....
ภาพพระสงฆ์ไหว้แม่ขเรียนถามว่า พระสงฆ์รูปนั้นท่านบวชได้กี่วันได้พรรษาหรือยัง ข้อสำคัญท่านได้รับการศึกษาการเป็นสงฆ์หรือยัง ถ้ายัง ก็อาจทำตามความเคยชิน ผิดนะผิดแน่ตามกฎของสงฆ์ แต่ผิดก่อนบวชที่ไม่ให้การศึกษาก่อนบวช จึงได้กระทำสิ่งที่ไม่ควรกระทำ ขายขี้หน้าสังคมอายเขาไหมอุปัชฌาย์ พระเถรผู้เป็นประธานการบวช
ตอนที่บวชหลังญัติพระเสร็จก็เป็นสงฆ์แล้วครับ ไม่ต้องรอศึกษา มีสิทธิและศักดิ์เท่าพระสงฆ์ทุกประการ ต่างแค่อายุพรรษาครับ
ถ้าคิดว่าอยากกราบแม่ก้อบอกว่าอย่าบวชและถ้าอยากให้ลูกกราบอยู่ก้อ อย่าให้ลูกบวช เพราะเมื่อทั้งสองคนตกลงปลงใจให้บวชและบวชแล้ว อย่าแสดงพฤติกรรมอย่างนั้นจะเป็นกรรมสำหรับแม่เราเอง
อาบัติว่าด้วยชื่ออะไรครับ ชี้ให้ชัดหน่อยครับ
มหาเถระสมาคม ไม่ได้ถือเป็นที่สุด แต่พระธรรมวินัย จึงถือเป็นที่สุด หากมหาเถระสมาคม มีความเห็นใดๆอะไรที่แย้งกับพระธรรมวินัย ภิกษุจึงไม่จำเป็นต้องทำตาม. แต่ให้ทำตามในพระธรรมวินัยแทน. ซึ่งเรื่องนี้ หลวงตามหาบัว พระอรหันต์องค์ล่าสุดที่นิพานไป เคยกล่าวไว้.
ตาบัวนี้อรหันต์หรือครับ ไม่ทราบใช้ไม้บรรทัดวัดได้ด้วยเหรอว่า องค์ไหนรูปไหนเป็นพระอรหันต์ ผมเพิ่งจะรู้จริงๆ ขอบคุณครับ
สุพจน์ ทองวงศ์
งั้นก็จงไม่รู้ต่อไปนะคับ. ดีแล้วที่ไม่รู้
หลวงตาบัว เขาว่าเป็น พะ ออ ละ หัน เห็นด่าชาวบ้านเรื่องทองๆๆ และกระดูกเขาว่าเป็นพระธาตู เปลี่ยนเป็นเพชร ทอง อะไรนี้แหละ อิทธิฤทธิแยอะ
? ! งงงงงงงงลงงงงงงงลลงงงงงงงงงลงงงงลงงงงงงงงงงงงงขงงงลงลงลงงงงงงงางายลงงงงขงลงงงงงงงงงงงงงลงลงงงงงงงง
จริงๆแล้วกราบไม่ได้คนที่ว่ากราบได้คือคนรู้ไม่จริงค่ะ
สึกไปกราบท่านเถอะ
ความคิดของผม แตกต่างจากคนอื่นพ่อแม่ก็คือพระพระบิดาพระมารดา พระพุทธเจ้าคำนำหน้าก็คือพระ
แม่คือผู้ให้ชีวิต....ศาสนาคือคำสอนของศาสดาสอนให้สาวกมีความกตัญญูละชั่วทำความดีตั้งอยู่บนความถูกต้องและความเป็นจริงเพื่อนำไปสอนคนรุ่นหลัง
ให้ชัดเจนกว่านี้ได้ไหม
พระกราบแม่ไม่ผิดเปนอรหันของลูก
พระภิกษุไม่สามารถกราบหรือไหว้ฆราวาสนะครับแม้จะเป็นพ่อแม่เพราะเพศต่างออกไปแล้วแสดงว่าพระใหม่ยังไม่ได้ศึกษาข้อปฏิบัติว่าสิ่งใดควร.ไม่ควร
ผิดถูกอยู่ที่ใจ
แล้วพระไหว้วัตถุได้รึไง สงสัย มีบัญญัติหรือไง ที่ไหว้กราบไหว้วัตถุแล้วไม่อาบัติรึไง เคร่งกันแบบไหน เท่าที่รุ้มา ศาสนาสอนให้ประพฤตนยุในศิลธรรมละเกิศ ไม่ยึดมั้นถือมั่น ที่ว่าตะถาคตกำหนด ตกลงใครกำหนดกันแน่ เอาเข้าจิงพระเป็น สงฆ์โดยสมมุติ สงฆ์จิงบวชได้ก็ต้องบรรลุโสดาบรรนก่อนไม่ใช่หราแล้วให้พระอระหันบวชให้ แล้วคุณบวชใส่ผ้าเหลืองนะ คุณบรรลุอะไรแล้วหรา..พระไตรปิฏกต้นฉบับจิงๆเป็นยังไงคุณไม่เอามาคุยให้เค้าฟังละ ..มากำหนดนู้นี้กันเอง...เเหมรู้ดีกันจัง ตกลงบวชเพื่อสะสาง หรือ บวชเพื่อสร้างสัมมาทิฎิ..รู้ดีกันจัง
แม่ท่านก็เปรียบได้เป็นพระอรหันต์นะครับ ผมเคยได้ยินว่าพระกราบได้ 3 อย่าง พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ สงฆ์เนี่ยมีโสดาบัน สกิทามี อนาคามี อรหันต์(ที่เป็นสาวก ที่ผมบอกที่เป็นสาวกเพราะเคยได้ยินพระพุทธเจ้าท่านบอกว่าท่านห้ามสงฆ์แต่ไม่ได้ห้ามระองฆ์เองแสดงว่าท่านไม่ใช่สงฆ์ ก็ท่านเป็นพระพุทธเจ่านี่นา) แล้วทำไมจะกราบไม่ได้ครับ แต่ยังไงผมก็ไม่รู้ว่าตัวเองถูกไหม ถ้าให้ดี ถามพระที่ท่านปฏิบัติธรรมไปถึงขั้นที่ตัดสินได้ดีกว่า พวกฆราวาสถึงศึกษาจบพระไตรปิฎกแต่ถ้าไม่เคยปฏิบัติธรรมจนถึงจุด ผมว่าก็ตัดสินไม่ได้หรอกครับ รู้ได้แค่ตัวหนังสือ ไม่รู้ถึงความหมายของตัวหนังสือ
เข้าใจไปคนละเรื่องเลยครับ สงฆ์หมายถึงภิกษุสาวกที่บวชในพระพุทธศาสนาหรือเรียกว่าอุปสัมบันก็ได้ครับ ส่วนโสดาบัน สกิทามี อนาคามี อรหันต์ นั่นเค้าเรียกว่าอริยบุคคลครับ ในที่นี่อาจหมายความรวมถึงผู้ที่ไม่ได้บวชก็อาจสำเร็จเป็นอริยบุคคลประเภทใดประเภทหนึ่งได้ เช่นพระอัญญาโกณทัณญะ พอฟังพระธรรมเทศนาก็สำเร็จเป็นพระโสดาบัน แล้วจึงขอบวชเป็นภิกษุในภายหลัง
สงฆ์จริงๆคือที่ผมบอกไปครับ ที่คุณบอก คือสมมุติสงฆ์ เป็นสงฆ์โดยสมมุติ
ที่กล่าวกันว่า "พ่อแม่เป็นพระอรหันต์ของลูก" นั้น...เป็นคำยกย่องที่ให้เกียรติอย่างสุง ในฐานะท่านเป็นบุพการี แต่ไม่ได้หมายความว่าท่านเป็นพระอรหันต์ ที่หมายถึงผู้หมดกิเลส ผู้ถึงซึ่งพระนิพพานที่เป็นพระอริยบุคคลในพระพุทธศาสนา
เหมือนเราพูดยกย่องนักกีฬาอย่างนักฟุตบอลบางคนเป็น "เทพเจ้าลูกหนัง" เพราะฝีเท้าการเล่นฟุตบอลของเขาเก่งเข้าขั้น แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาคนนั้น จะเป็นเทพเจ้า หรือเทวดาไปจริง ๆ
ดังนั้น อย่าสับสนกับคำที่พูดสื่อสารกัน กับความหมายที่ท่านบัญญัติเอาไว้จริง ๆ แล้วนำมาปนกัน จนแยกไม่ออกว่าอะไรเป็นอะไร มันเกิดความคลุมเครือ และปฏิบัติผิดเท่านั้นเอง....!!!
มารดาบิดาเป็นอาหุไนยบุคคลของบุตร ลองไปหาๆอ่านดูบ้างนะครับ มันยังมีอีกเยอะครับ ท่านเปรียบเสมือนพระอรหันต์กับบุตรด้วยการกระทำ ไรอีกเยอะแยะผมก็ขี้เกียจมานั่งบรรยายละ ง่วง
ถ้าให้ตามความเข้าใจของผม พ่อแม่ก็เปรียบเสมือนสงฆ์แต่ไม่ใช่สงฆ์ คือก็เหมือนๆพระที่บวชแต่ไม่ใช่สงฆ์นั่นแหละคล้ายๆกัน พระที่บวชไปนั่นก็เรียกภิกษุ ถ้าได้ตั้งแต่โสดาบันถึงจะเรียกสงฆ์
มันไม่ใช่ว่ากรอบแม่อย่างเดียว บางทีดูแต่กิริยาอาการแล้วไปตีความผิดๆกันก็แย่ดิ เมื่อก่อนหลวงพ่อปานกราบศพ คิดว่าผิดไหมหละ กราบศพคนตาย ท่านบอกว่าท่านกราบคำสอนพระพุทธเจ้าที่ว่า เกิดมาแล้วต้องตาย เนี่ยผิดไหม อย่างนี้ผิดหรือเปล่า ถึงคุณจะว่าผิดมันก็เรื่องของคุณ ผมคิดว่าพระโพธิสัตว์ที่บารมีจะเต็มขนาดนั้นแล้วมีเครดิตมากกว่า แต่ผมก็ยังๆไม่ได้บอกนะว่ากราบนี่ผิดหรือถูก
ไม่ผิดครับ
เมื่อบวชแล้วเราถือพระพุทธเจ้าเป็นสรณะจะยังไงก็กราบหรือไหว้บิดามารดาไม่ได้ผิดพระวินัยสงฆ์
พระไหว้แม่ไม่เหมาะสมลูกอยู่ในศีลที่มากกว่าไม่รู้อย่าบวช
กราบก็ไม่ผิดไม่กราบก็ไม่ผิด
แม่ก็คือพระอรหันในบ้าน
กราบได้ แต่ ผิดศีล มันก็แค่นั้น ผิดว่าตามผิดครับ จะคิดไรมากมาก จะวิเคราะห์ห่าอะไรให้เข้าใจยาก พระรูปไหนอยากจะกราบแม่ กราบไป แต่ควรทำเฉพาะส่วนตัว อย่าไปทำต่อหน้าสารณะชน เพราะมันไม่เหมาะสมกับ สมณะเพศ วินัยและศีลก็บอกแล้ว กราบได้แต่ผิดศีล เข้าใจป่าว กราบได้แต่ผิดศีล
อย่าตีความเอาเองให้เป็นไปตามบทพระวินัย..อยากให้มีหนังสือไว้ที่วัดทุกวัดเพื่อจะได้เป็นแนวทางเดียวกัน..เมื่อมีข้อสงสัยก็ไปเปิดดู..นี่ไปฟังพระเทศน์หลายเรื่องไม่ตรงกัน..ยกตัวอย่าง..บัวสี่เหล่า..บางองค์ก็สามเหล่า..ไม่ต้องเอาต่างประเทศมาเทียบ..เอาของไทยให้ตรงกัน
จะผิดหรือไม่ผิด เเต่ท่านก็เป็นเเม่ เป็นคนคลอดเรามา
ภิกษุณีบวชได้100ปีต้องกราบไหว้ภิกษุบวชได้วันเดียว
ท่านคิดว่าการโอบกอดสีกาจะทำให้เกิดกิเลสได้หรือไม่ พระพุทธองค์ทรงสั่งสอนให้ละกิเลสต่างๆดีแล้วที่เมืองไทยเราไม่ยึดตามลัทธิอื่นสาธุๆๆ
พวกคุณต้องมองดูด้วยนะค่ะว่าทุกวันนี้สมัยมันเปลี่ยนไปหมดแล้วจากที่ศาสนาเคยเข้มงวดมากๆก็เริ่มจะพ่อนๆลงล่ะ เราก็ไม่ค่อยเข้าใจเหมือนกันถ้าเราเข้าใจและรู้ทุกอย่างเราคงบรรลุธรรมไปล่ะไม่ต้องมาทำงานหาเช้ากินค่ำแบบนี้
พระกราบแม่ไม่ผิดคับ
ทุกอย่างมนุษย์สร้างขึ้นหมด ถามว่าแยกประเภทหญิงหรือชายนั้นเหมาะสมหรือ พวกมนุษย์เอาอะไรมาเป็นกฏเกณ ฉันเข้าใจโดยส่วนตัวนะว่า เอาศิลของพระมาวัด ถามว่าแม่ของพระมีศิลเท่าพระไหม กษัตริ กับพระอริยะใครหนือกว่ากัน กษัตรสามารถตัดคอพระได้ แต่ถามว่ากษัตรมีศิลเท่าพระไหม ลองเอาไปคิดดูกัน ในกรณีนี้ฉันว่าพระน่าจะผิดวินัยจริง แต่พระรูปนี้คงจะคิดว่าตัวเองรับศิลจริงแต่ไม่ปฏิบัติ ถ้าเขาปฏิบัติจริงคงมั่นใจตัวเองคงไม่ก้มลงกราบ การสอนบุพการีให้มีศิลคือหน้าที่ของพระ
ท่านพระสงทำถูกแล้ว
“อานนท์ ไม่ใช่ฐานะ ไม่ใช่โอกาสที่ตถาคตจะอนุญาต
การกราบ การลุกรับ การไหว้ สามีจิกรรมแก่มาตุคาม อานนท์ เพราะพวกเดียรถีย์
เหล่านี้ผู้กล่าวธรรมไว้ไม่ดีก็ยังไม่กราบ ไม่ลุกรับ ไม่ไหว้ ไม่ทำสามีจิกรรมแก่มาตุคาม
ไฉนตถาคตจะอนุญาตการกราบ การลุกรับ การไหว้ สามีจิกรรมแก่มาตุคามเล่า”
ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคทรงแสดงธรรมีกถาเพราะเรื่องนี้เป็นต้นเหตุ รับสั่งกับ
ภิกษุทั้งหลายว่า “ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุไม่พึงกราบ ไม่พึงลุกรับ ไม่พึงไหว้ ไม่พึง
ทำสามีจิกรรมแก่มาตุคาม รูปใดทำ ต้องอาบัติทุกกฏ”
“ ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคล ๑๐ จำพวกนี้ อันภิกษุไม่ควรไหว้คือ
(1) อันภิกษุผู้อุปสมบทก่อนไม่ควรไหว้ภิกษุผู้อุปสมบทภายหลัง ๑
(2) ไม่ควรไหว้อนุปสัมบัน ๑ (ผู้ที่ไม่ใช่นักบวช)
(3) ไม่ควรไหว้ภิกษุนานาสังวาสผู้แก่กว่า แต่ไม่ใช่ธรรมวาที ๑
(4) ไม่ควรไหว้มาตุคาม ๑ (ผู้หญิง)
(5) ไม่ควรไหว้บัณเฑาะก์ ๑
(6) ไม่ควรไหว้ภิกษุผู้อยู่ปริวาส ๑ (การลงโทษให้อบรมตนเองภายใต้ข้อกำหนด
เท่าจำนวนวันที่ปกปิดอาบัติหนัก:สังฆาทิเสส นับตั้งแต่ล่วงละเมิด)
(7) ไม่ควรไหว้ภิกษุผู้ควรชักเข้าหาอาบัติเดิม ๑ (ความหมายไปในทางเดียวกันกับปริวาส)
(8) ไม่ควรไหว้ภิกษุผู้ควรมานัต ๑ (ความหมายไปในทางเดียวกันกับปริวาส)
(9) ไม่ควรไหว้ภิกษุผู้ประพฤติมานัต ๑ (ความหมายไปในทางเดียวกันกับปริวาส)
(10) ไม่ควรไหว้ภิกษุผู้ควรอัพภาน ๑ (ความหมายไปในทางเดียวกันกับปริวาส)
บุคคล ๑๐ จำพวกนี้แล อันภิกษุไม่ควรไหว้ ฯ
เมืองไทยเมืองพุทธ ควรคงไว้ซึ่งพระพุทธเจ้าตรัสไว้ จึงจะเป็นพุทธที่แท้จริง และไม่เสื่อมตามกาลเวลา และจะได้รู้ว่าพุทธแท้คืออย่างไรเพราะการบัญญัติศีลนั้นคือการประพฤติ ถ้า เราอายุน้อยกว่าเขา แต่เราถือศีล 5 เขาเป็นคน กินเหล้า สูบบุหรี่ ไร้สาระไปวันๆ เราจะไหว้เขาได้ไหมคงไม่ได้เพราะศีลต่างกัน
Who gave birth to whom?
ไม่ถูกต้องตามพระํธรรมวินัย
เปลี่ยนไม่ได้
แล้วปลุกเสก ทำพิธี ทำน้ำมนต์ ทำเครื่องลางของขลัง ผิดหรือป่าวครับ ที่พระองค์ห้าม ทำกันเยอะเห็นเป็นเรื่องดี เรื่องงาม เป็นมิจฉาทิฐธิ เป็นเรื่องนอกแนว ไม่เป็นอริยะ
ขนาดพระพุทธเจ้ายังไหว้คนที่เลี้ยงดู
...พระขาดการศึกษา ..ฟังได้ครับ...(ขออภัยผมไม่ได้ดูให้จบ)
ก็นี้เมีองไทยคุณต้องเข้า.ใจอย่ามั่ว
เพราะกฎที่กำหนดโดยผู้ชาย
พวกท่านคิดกันเองคิดผิดมันก้อผิดคิดถูกมันก็ ถูก แต่ศาสนาเราเอาความเป็นจริงคือพ่อแม่ให้กำเนิดเรามา
ดูที่ควรรึไม่ควรงามรึไม่งาม.แต่เมื่อบุตรเป็นผู้ทรงศีลแล้วใจแม่นั่นแหละย่อมยินดีที่จะกราบ.ที่มอบบุตรให้เป็นสาวกโอรสของตถาคตเจ้าแล้ว.
พระกราบเเม่จะทำให้เเม่บาปชะป่าว
รู้กันป่าว ว่านะ คืออะไร โม คืออะไร ก่อนที่เราจะสวดมนต์ ตั้งนะโมกี่จบ พระก็ยังต้องตั้งนะโมตะสะ..... เลย
บ้าหละ พระไหว้โยม
chalong som
chalong somnuk ท่าเป็นพ่อแม่ก็ไหว้ได้ แต่ท่ากราบอันนี้ไม่รุ้