การส่งข้อมูลผ่านสายแลน เป็นระบบ Digital ไม่ใช่ Analog เป็นการเข้ารหัสข้อมูล ต้นทางปลายทางได้ผลเท่ากันครับ สำเนาถูกต้อง ไม่จำเป็นต้องใช้สายแพง แต่ต้องใช้สายที่ได้มาตรฐานการส่งข้อมูลครับ
พวกลัทธิ Audio นี่เขาแยกระหว่าง Analog กับ Digital ไม่ออกหรอกครับ คลิปสงครามสายแลนครั้งที่สองเขายังโดเนทมาถามเลย ว่าคุณอามจะอธิบายเรื่องที่ลำโพงต่างกัน ทำไมเสียงถึงต่างกัน
มันก็เหมือนกับช่างไฟ เถียง IT เรื่องการเดินสาย Lan อ่ะ เดินสายไฟกับสาย Lan คู่กันได้ สัญญาณไม่ Drop ฮัลโหล.!! แต่ IT มีเครื่อง Fluke เช็คสาย Lan แต่ช่างไฟ มีแค่เครื่องเช็คหัว Lan ฮัลโหลๆๆๆ 5555
ชอบอ่ะ
"มันก็เป็นเรื่องของวิชาชีพที่อาจจะแตกต่างกัน
ความชอบแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน
แต่นี้มันก็วิชาชีพผมเหมือนกันอ่ะ
ผมเลยออกมาบอกว่าไอ้ตรงเนี๊ยวิชาชีพผมมันเป็นแบบนี้นะพี่"
นี้คือสิ่งที่สายวิทย์ต้องตีกับพวกความเชื่อ พวก Pseudoscience นี้ละ
มันปล่อยไม่ได้ ยิ่งถ้าคุณเอาหลักการวิทย์มาอ้าง มาใช้โฆษณาให้ดูน่าเชื่อถือมากขึ้น
ทั้งๆที่มันไม่สมเหตุสมผลไม่มีการทดลองอะไรเนี้ย
ฝั่งวิทย์ยิ่งต้องออกมาดีเฟ้นอยู่แล้ว มันคือการปกป้องวิชาชีพตัวเราเองอ่่ะ
งงมาก จะมาเถียงเรื่องศาสตร์กับวิศวกร 😂
ยกพีเออง พีเอเอ็มมา แต่ถามหลักการแล้วไม่รู้นี่ก็ไม่ไหวหน่า
@@superj4311 ผมถามประโยคเดียวง่ายๆเลย เสียงเบสกลางแหลมเดินในอากาศเท่ากันไหมครับ555
มันเป็นเรื่องของศาสตร์และศิลป์ครับ
พวกนักการตลาด นักประชาสัมพันธ์ หรือ เหล่า io มักใช้ “วิทยศาสตร์เทียม” เป็นศาสตร์อย่างหนึ่งในการสื่อสารในทางที่เค้าต้องการให้คนเชื่อ เป็นเรื่องตกกะปิ
ในทางวิศวกรรมนั้นเขาทดสอบคุณภาพของ Digital Transmission
โดยวัดที่ Bit Error Rate ก็จะเห็นเป็นตัวเลขได้ชัดเจนโดยไม่ต้องใช้ความรู้สึก
หน้าที่ของสาย LAN หรือ HDMI หรือ USB ก็เป็นเพียงแค่เป็น Digital Transmission Media ในระดับ Physical Layer เท่านั้น
ซึ่งวิศวกรเขาได้ออกแบบให้มี Protocol ที่ช่วยแก้ไขทำให้การส่งข้อมูลนั้นถูกต้องอีกหลาย Layer แม้จะมี Error ใน่บาง Layerก็ไม่ทำให้เกิดปัญหา
ดังนั้นในระบบ Digital Transmission ใดๆนั้นผู้ใช้จะไม่สังเกตุเห็นปัญหาได้เลย เว้นแต่มี Transmission Error หรือมี Equipment Error มากเกินกว่าที่ระบบได้ถูกออกแบบไว้
ก็ไปสะกิด EGO เขา เขาก็โกรธ 55555555
คิดเหมือนกันครับ พวกมีตังซื่้อของระดับนี้ EGO จะใหญ่เมือนกำลังเงินในกะเป๋า ยอมใครไม่ได้ กูต้องถูกตลอด กูต้องดีกว่าคนอื่นเสมอ
ว่าไม่ได้นะครับ เจ้าสัวซื้อของเค้าเยอะ ว่าซ่าน 5555
5555
ตามไม่ทันอ่ะครับ มีอะไรกัน
ไอ่หัวล้านๆป่ะ5555
สแนร์เม็ดนี้ชัดกว่า 5555555565
5555555555
ลั่นเลย555
เม็ดล่างด้านขวา เสียงสะอาด555
555555
ชอบบ 5555
ไม่ได้อยู่วงการเครื่องเสียง แต่อยู่วงการ Electronics สายตรงทั้งเรียนและทำงาน ไม่คิดว่าจะมีสาย LAN เส้นละแสนออกมาขายแล้วเคลมว่าให้คุณภาพเสียงดีขึ้น ในมุมมองผมมันเข้าข่ายการหลอกลวงชัดๆ
เหมือนหมอผี ทะเลาะกับ นักวิทยาศาสตร์ (กระผมผู้ที่นั่งอ่านดราม่า แล้วไม่เข้าใจสิ่งที่เขาคุยกันเลยซักนิด 5555)
เหมือน หมอผี เถียงกับ หมอ แหละครับ
เหมือนคนไข้เถียงกับหมอ
เข้าวาปดราม่าหน่อยได้มั้ยครับ
วงการเครื่องเสียงสมัยนี้แม่งเละเทะไปเยอะกับน้ำมันจิ้งเหรน ประเภทพวกสายก็ดี แผ่นซีดีขจัดสนามแม่เหล็กในลำโพง Spike หรือIsolators กล่องโง่ๆที่วางใส่เครื่องเล่นCDยันIntergrated Ampแล้วเสียงดีขึ้น สายแลนอันถูกๆมันส่งข้อมูลผ่านDigitalหมดไม่ใช่อนาล็อกแบบยุคแผ่นเสียง เทป เทปรีลก็ดี
แล้วกลุ่มนี้ส่วนใหญ่จะเป็นพวกอันมีจะแดก พอเราจะแย้งแบบวิทยาศาสตร์เขาไม่เชื่อแล้วด่าเราแบบหูไม่ถึง มีตังค์หรือเปล่า ซึ่งเมื่อวานไอ้Keetakawee Punpeng มาดราม่าเรื่องเครื่องเล่นNetworkมันใช้UDP จำเป็นต้องใช้สายแลนแพงและอย่าไปล้อดูหมิ่นเขา ผมยังงงเลย UDP Latencyต่ำจริง แต่Lossเยอะกว่าTCP ไหนอีกเรื่องโปรแกรมช่วยทำให้เสียงดีขึ้นโดยการปิดServiceแทบทุกอย่างยันAnti Virusและผมเทสอยู่จนWindows ค้าง คือกดความเร็วCPUต่ำแบบใช้งานอะไรไม่ได้เลย แค่ฟังเพลงโง่ๆ
ผมเลยเลิกยุ่งวงการComputer AudioFoolแล้วกำตังค์ซื้อWalkmanมาฟังก็จบแล้ว ไม่ต้องไปยุ่งอะไรที่ไม่สมควรยุ่ง
นี้แหละครับวงการน้ำมันจิ้งเหรน สมัยก่อนมีแค่เรื่องสายทองแดง สมัยนี้พอยุ่งคอมเท่านั้นแหละชิบหาย
ขอบคุณนายอารม์มากสำหรับการอธิบายมากน่ะครับ
บางคนอุปกรณ์ครบมีคลาสหลักหลายแสนแต่เปิดไฟล์ mp3. จากแผ่นก๊อป 🤣 เสียของหมดเลย 5555
@@MasumiHaku เอาอะไรมากคนรวยทำอะไรไม่ผิดหรอกจริงไหม
สมัยก่อนปั่นราคาหูฟัง ปั่นราคาอุปกรณ์ต่างๆกันสนุกสนานใน commu ของเค้าใครหลงเข้าไปก็เจ็บตัวเพราะไม่จบซะที
บางที่เบิร์นสาย เบิร์นหูฟัง มาขายต่อเอากำไร ทั้งๆก็คือของมือสอง
@@MasumiHaku แต่ถ้าในงาน live sound หูฟังดีๆมันจำเป็นมากเลยน่ะครับ ฟังจากหูฟังแบบไหนเราก็จะมิกเสียง paออกมาแบบนั้นแหละครับ
@@msoundlight9314 ใช่ครับถ้าทำงานอันนี้เข้าใจถ้าอุปกรณ์อื่นๆดีมันก็จะดี
กระจ่างครับท่านรัฐมนตรี
เมื่อคุณมี อีโก้ >> ความรู้ สิ่งที่ตามมาคือ……ตู้มมมม กลายเป็นโกโก้ครั้นช์🤯
ฟังมาเกือบครึ่งชม. จับใจความได้ว่า "เติมเกนชิน 200"
ครับ
@Monday-montage ไม่แน่อาจจะเป็น สกุลเงิน btc อิอิ
200k
โคตรปลอม 555
555
ปลอมจัดขอซื้อต่อ2000เลยขายมั้ย5555
การส่งข้อมูลผ่านสายแลน เป็นระบบ Digital ไม่ใช่ Analog เป็นการเข้ารหัสข้อมูล ต้นทางปลายทางได้ผลเท่ากันครับ สำเนาถูกต้อง ไม่จำเป็นต้องใช้สายแพง แต่ต้องใช้สายที่ได้มาตรฐานการส่งข้อมูลครับ
จริงเเท้แน่นอนครับ...........เครื่องใช้"ไฟฟ้า".........คุณภาพ_ระดับความดี ของไฟฟ้า และบอร์ดหลัก แต่ละเครื่อง ดีแล้ว มีชัยไปกว่าครึ่ง
ชอบตอนท้ายอ่ะครับ เรื่องการฟังเทสเครื่องเสียงผ่านไลฟ์สตรีม อธิบายง่ายๆเลยคือ input(ต้นทาง)เสียงจะเพราะแค่ไหน แต่พอฟังผ่านไลฟ์สตรีมแล้วต่อหูฟังหรือชุดเครื่องเสียงของผู้ฟังเอง output(ปลายทาง) เสียงที่ได้มันคือเสียงของอุปกรณ์ในการฟังล้วนๆ ไม่ใช่เสียงที่เกิดจากต้นทาง.............แต่หลายๆร้านก็จะบอกในเรื่องนี้นะ "เสียงที่ได้ยินอาจจะไม่ชัด ยังไงมาลองฟังที่ร้านได้นะครับ"
ผมเรียนดนตรีมา ผมมีความรู้ทางคอมนิดหน่อย คิดว่ายังไงสานแลนไม่น่ามีผลต่อเสียงเลย ต้นไฟล์มาไงก็ได้แบบนั้นนิ สุดท้ายก็อยู่ที่ DAC จริงๆสำหรับผม อันนี้เห็นผลจริงๆ สายaudioต่อจากDAC ไป monitor ส่วนนึง ตัวmonitorเอง พวกนี้คือฝั่งanalogล้วน ซึ่งสำหรับผมคิดว่าจะมีผลส่วนนี้เหมือนที่พี่อามพูด คนบางคนมีEgoสูงจนตัวเองรับความผิดได้แหละ
เหมือนโฆษณาขาย ทีวี อะนะเครื่องใหม่สีสวยสีชัดกว่าเทียบซ้ายขวา ผมดูแล้วก็เออมันก็ทีวีเดิมที่นั่งดูที่บ้านสีซ้ายขวาดันไม่เท่ากัน
จากที่ผมเล่นเครื่องเสียงมาผมว่าเครื่องเสียงมันเหมือนท่อไอเสียรถยนต์เสียงดีมันมาจากการแต่งเสียง เอาง่ายๆสายลำโพงอลูมินาต้าเส้นละแสนบาทอะ มันทำให้คลื่นไฟฟ้าในสายเปลี่ยนรูป แต่ออกมาแล้วดีกว่าเดิม แต่ส่วน digital ไม่น่าลงทุ่นจริงๆโดยเฉพาะสายlan
คือถ้าแกจะ พรีเซนต์ว่าเออ สายนี้หรูหรา ดีไซน์สวย
ราคาเข้าชุด สมกับเครื่องเสียงราคาแพง ไม่มีใครว่าหรอก
แบบนาฬิกา แพงๆ เรือนละร้อย เรือนละล้าน บอกเวลาได้เหมือนกัน
แต่จะมาบอกว่า อันนี้เป็นนาฬิกา ที่บอกเวลาตรงกว่านาฬิกาอื่น มันไม่ได้สิ
เรื่องนาฬิกาที่ตรงที่สุด มีจริงครับ และเภียงกันได้ในเรื่องของวิทยาศาสตร์ อธิบายและชี้จุดได้ แต่สายแลนนั้น...
ไอ้นาฬิกาเทพนี่ถ้้าอนาล้อคตรงแปะยันหลักไมโครวินาทีเลยนะ แบบ ค่าคาดเคลิ้อนต่อปีนี่เอามาวัดกันแล้วแบบเห็นชัดอะ
แต่นาฬิกามันก็มีจริงนะครับที่บอกเวลาตรงกว่า
@@mayshiratoshi6390 ใช่ครับแต่นาฬิกาแพงแค่ไหน แต่พอเป็นอนาล็อกเรือนเป็นล้าน ก็สู้พวกนาฬิกาสมาร์ทวอทช์หรือนาฬิกาGPSเรือนละหลักหมื่นไม่ได้ครับ อันนั้นตั้งเวลาตามนาฬิกาควอนตั้ม เป็นล้านๆปี อาจจะผิดพลาด1ในล้านส่วนของวินาที จะเห็นว่าราคาต่างกันแค่ไหนแต่พอเป็นเทคโนโลยีคนละประเภทแล้วราคาไม่ใช่ตัวกำหนดคุณภาพทั้งหมด
@@mayshiratoshi6390 ก็อันนั้นมันanalog ไง มันก็เทียบได้ว่าอันไหนตรงกว่า แต่อันนี้มันdigital ใช้smartwatch จับGPS ใช้หลักการทำงานเดียวกันหมด แล้วบอกว่าตรงกว่าก็ไม่ใช่ไง
รู้จักคุณอาร์มแบบผ่านๆ มาสักพักละ นี่เป็นคลิปแรกที่เข้ามาดูแบบจริงจังจนจบ จะบอกว่าคลิปคุณภาพสัสๆเลย กราบบ ข้อมูลแน่นๆ ความรู้เน้นๆ ขอยาดติดตามนับจากวันนี้นะครับ
ผมก็แบบนี้แหละครับ หลงมาฟังอยู่คลิปนึง(ไม่ใช่คลิปนี้นะ นานละ คุยเรื่องระบบภาพในเกมคอนโซล) ซับทันทีเลย ความรู้ล้วนๆ
นักย่างบอร์ดในตำนานครับ ผมตามจากคลิบนั้น อย่างฮา
ระดับ ดร.อาร์ม 🤣🤣🤣
ที่เห็นผลคือพวก sound stage ที่เอา Cat6 ไปต่อ XLR มันก็จะได้ XLR 4 เส้นต่อ Cat6 1เส้น เพื่อให้ได้ความประหยัด เพราะถ้าใช้ Snake จะแพงกว่ามาก แถม CAT6 ใช้เดินได้ไกลถึง100- 300เมตร เลี้ยงไฟที่ 48V เพราะฉนั้น สาย CAT ที่ shield ดีๆก็จะแพงขึ้น แต่ยังไม่เคยเห็นเอา CAT7-8 มาทำไม่รู้ว่ามีรึยัง
เค้าเน้นไปยันปลั๊กไฟที่ผนังเลยนะครับ ที่จริงกะจะสร้างโรงไฟฟ้ามาปั่นไฟฟ้าระดับ Audiophile ใช้เองละถ้าไม่ติดว่ามันต้องใช้เงินเยอะ
แล้วส่วนเรื่อง blind test เคยเห็นกระทู้ท้ากันมาเยอะแล้วทั้งเรื่องใช้สาย HDMI ดีๆแล้วภาพสดอิ่ม สาย USB แพง/ถูกให้เสียงต่างกัน สุดท้ายก็หาย ไม่ค่อยมีบทสรุปให้เห็น
พวก ไอที มันจะไปรู้อาราย เครื่องเสียงมันคือ ศาสตร์และศิลปเว้ย
@@Takashi-it6niผมว่าคุณน่าจะคิดไปเองนะถ้าตามหลักมันควรได้ยินเหมือนกันนิ หรือมันมีพลังอะไรพิเศษรึ ผมว่าถ้ามันเเพงมันควรถึกกว่าเดิมรึเปล่า เเต่ถ้าคุณพอใจกับอันละหมื่นหรืออันละเเสนก็เเล้วเเต่คุณ ขอให้เล่นเพลงให้สนุก
@@Takashi-it6niเเล้วก็นะคนที่คิดค้นก็เป็นคนจากไอทีเหมือนกันนะ😂
@@Takashi-it6niผมก็ชอบเครื่องเสียงมแต่มันก็ต้องมองความจริง+วิทยาศาสตร์ ถ้าใช้ความเชื่ออย่างเดียวป่านนี้โดนหลอกขายกันหมดแล้ว ใช้แต่ความรู้สึก
@@Takashi-it6ni บรรทัดฐานต่างกัน จะใช้อะไรมาวัด ถ้าไม่ใช่เครื่องมือวัด ให้อาจารย์ศิลปะมาตรวจก็ให้คะแนนไม่เท่ากัน อย่างเลข 1 หรือ 0 ถ้าเป็นสัญญาณไฟฟ้าคุณใช้ศิลป์วัด หรือใช้เครื่องมือวัด เขาอธิบายในรูปที่สามารถพิสูจน์ได้ และจาก theory ที่เขาออกแบบไว้ รับฟังไว้ ดีกว่า ใช้ความรู้สึกมาตัดสิน
สายแลนมันไม่เกี่ยวอะไรกับคุณภาพเสียงเลย มันส่งสัญญาณมาเป็นดิจิตอล แล้ว device ค่อยแปลงจากดิจิตอลเป็นเสียงอีกที มันไม่มีทางเกี่ยวเนื่องกันได้ ถ้าสายแลนมีปัญหาจะดับหรือใช้ไม่ได้เลย (คือมันรับสัญญาณดิจิตอลผิดพลาดนั้นแหละ) ไม่ใช่ว่ารับได้แล้วคุณภาพเสียงดรอปลง ถ้าเป็นสัญญาณอนาล็อกยังพอว่า เมตรละหมื่นหลอกคนที่ไม่รู้เรื่องซื้อชัดๆ
จากคนที่จบ Elec Engineer ขอชื่นชมครับ ไม่มีอะไรจะแก้เลย
ผมนี่จบสายดนตรีมาเอาจิงๆอุปกรณ์มันต้องเข้ากันคับต่อให้ใช้สายแพงแค่ใหนแต่ถ้าเครื่องเล่นแม่งห่วยก็เท่านั่นมันต้องเหมาะสมกันคับถึงจะเสียงที่ดีที่สุดคับผมก็ไม่เข้าใจน่ะว่าทำไมคนถึงไม่เข้าใจว่ามันต้องเหมาะสมกัน และ สิ่งที่ผมพูด ไม่ใช่สายLAN แต่เป็นอุปกรณ์ทางด้านเสียง เช่น สายไมร์ สายตู้แอม สายตู้ลำโพง หรือ อุปกรณ์ดนตรีอื่นๆ แต่ไอสายLANพาเสียงดีขึ่นอันนี้ไม่เคยได้ยินตั้งแต่เริ่มเรียนด้านนี้ยันจบและได้ใบประกาศจาก UK สายLANพาเสียงดีงงๆน่ะไม่เคยได้ยิน คนที่มีหู Perfect Pitch ยังแยกยากเลยคับแล้วอย่าถามว่าเคยลองใหมโทษทีคับลองมาทุกรูปแบบแล้วตั้งสมัยโบราณยันยุคปัจจุบัน เอาจริงๆไม่ต่างเลย ถ้าอุปกรณ์ที่ใช้ไม่เหมาะสมกันก็เท่านั่นอ่ะ
สาคูตอนแรกผมงงมาก
ระบบเสียงในงาน ไลฟ์ ยังงัยก็มี Buffering กับ Delay ไม่ได้ครับ จริงอยู่ที่ดีเลย์อาจเกิดขึ้นในระดับ ms
แต่ถ้าเกิดขึ้นหลายๆร้อยครั้ง ในคอนเสิร์ตต่อเนื่องสองสามชั่วโมง อาจรวมแล้วกลายเป็นครึ่งวิ แบบนี้คือหายนะแห่งการแสดงสดแล้ว
ซึ่งใน home audio การ delay ครึ่งวิไม่มีผลอะไรเลย
นี่คือข้อแตกต่างระหว่าง AES50 กับ tcp/ip ครับ
ในทางกลับกัน การที่เพจ Pro Audio เพจนึง ยกเรื่อง AES50 ไปอธิบาย tcp/ip ก็เป็นการอธิบายหลงทางเข้ารกเข้าพงเช่นกัน
ความต่างที่ว่าเหมือนข้าวในชามหก2เม็ดกับ1เม็ดอะครับแต่ต้องลงทุนเพิ่มมากขึ้นจนเกินจำเป็นเพื่อให้ข้าวหกลงเหลือเม็ดเดียว ไม่ได้คุ้มทุนอะไรเลย แค่สายLANมีมาตรฐาน ก็ไม่ใช่ปัญหาแล้วครับ
วัด scope ก็เหมือน ตรวจ dna ถ้าสาย สองเส้น มันเหมือนกันเป๊ะ ก็เตรียมตัวเจ๊งงงง
ไม่เจ๊งอ่ะ ทุกร้านคึกคัก ขายดีกว่าเดิม 😗
วัดไปก็เท่านั้น ถ้าเป็นสายแลนไม่ยาวไม่ไกลจริง สัญญาณไม่ผิดเพี้ยนเพราะสายแลนแน่นอน เพราะอย่างที่นายอาร์มบอกว่ามันไม่ได้ส่งข้อมูลเป็น analog ที่รูปคลื่นสามารถถูกสัญญาณรบกวนได้เหมือนกับสายสัญญาณไมค์หรือสายลำโพง ต่อให้รบกวนสายแลนได้ ก็ไม่สามารถไปเปลี่ยนแปลงบิตได้ แต่สิ่งที่เป็นไปได้คือ สายแลนนั้นมีความยาวมากเกินไปเช่น 100 เมตร จนแรงดันปลายทางอ่อนกำลังสัญญาณอาจจะผิดเพี้ยน แต่ถ้าหากเป็นแบบนั้นแทนที่จะซื้อสายละแสน สู้กำตังไปซื้อฮัพหรือสวิตชชิ่งต่อคั่นกลางที่ 50 เมตร เพื่อทวนสัญญาณยังจะคุ้มกว่า
ถ้าตามที่ผมเข้าใจ ต่อให้ใช้สายเส้นเดิม แต่วัดต่างเวลากันก็อาจจะไม่เหมือนกันหรือเปล่าครับ
เพราะเราคุม Noise จาก environment ไม่ได้
แล้วเครื่องวัดพวกนี้มัน sensitiveมากๆ
@@hellhord ร้านเมตรละ 20 ขายดีแทน 5555
เสียงดีกว่า 🤔 จิตปรุงแต่งขนาดนี้ ต้องเชิญอาจารย์แดงมาฟัง
กำลังหาคำพูดเลยครับ “จิตปรุงแต่ง” ล้วนๆ
กูมี2สาย เเผล๊บๆๆๆๆๆ
@@เศษรฐีดูดใบ “ผมมีสายแลน 4 เส้น”
@@XdioX47 แผล๊บๆๆๆๆๆ55555
รสนิยมคนชอบแนวเสียงไม่เหมือนกันครับ คำว่าเสียงดีกว่าของแต่ละคนไม่เหมือนกันครับ ถ้ามีเงินเล่นเครื่องเสียงหลายๆแบบจะเข้าใจครับ
เหมือนคุยกับลัทธิโลกแบนอะครับคุณอาร์ม
ยิ่งเป็นสมัยนี้ ทุกอย่างวิ่งบน fiber optic ทั้งนั้น คือวิ่งบนแสง ไม่ใช่กระแสไฟ แต่อุปกรณ์ปลายทาง เช่น onu จะเปลี่ยนสัญญาณแสงเป็นสัญญาณไฟฟ้า ในสายแลน ถ้าจะ error ก็เกิดจาก อุปกรณ์ปลายทางนั้นแหล่ะ สัญญาณดิจิตัล error ได้ แต่ยากมาก
สาย audio เค้าสายหรูครับ สายอวดรวย ส่วนอวดของเค้าก็คือ ราคาอุปกรณ์ที่แพงกว่า(ดีกว่าหรือเปล่าอีกเรื่อง)
ทำระบบเสียงเสร็จก็เอามาอวดกัน คุณภาพเสียง บางทีต่างกันนิดเดียว เสียเงินเป็นแสนเป็นล้าน ก็เอามาโชว์กัน เป็นอะไรที่สาระไม่เยอะเท่าไหร่
เคสสายแลน audio คือหนึ่งในความเชื่อที่ผิดๆ พยายามทำให้ดีๆ เพื่อคิดว่าจะทำให้ระบบเสียงดีขึ้นแม้จุดเล็กๆ แต่ขาดความรู้ความเข้าใจที่ถ่องแท้
ส่วนที่มาโต้เถียงแล้วไม่ยอมรับ เพราะเสียหน้าไง เสียหน้าไม่ได้ คนอวดรวย อวดหรูพวกนี้ หน้าตาเป็นสิ่งสำคัญ พอๆกับระบบเสียงที่เอามาอวดกัน
ส่วนตัวผมเข้าใจนะ ว่าเสียงดีกว่ามันทำให้ฟังเพลงได้ดีกว่าจริง แต่มันจะมีความแตกต่างระดับนึง แล้วถ้าสูงเกินกว่าจุดนึง มันจะโอเว่อร์มากไปจนเกินงาม
ตอนนี้สาย audio ส่วนใหญ่ พยายามโอเว่อร์จนเกินงามกันเยอะมาก เล่นเครื่องเสียงหลักแสน หลักล้าน RIP ครับ
ประเด็นคือ เค้าค้าขาย(หากินกับสิ่งนี้) ถ้าไปยอมรับว่าไม่มีผล...........แล้วเค้าจะแดรกอะไรล่ะครับ
ตั้งแต่ผมอยู่ระบบที่มี RF generator พวกอุปกรณ์ network ผ่านแลนไม่เคยล่มเพราะ noise นะ ตัวที่ไปก่อนเพื่อนคือ analog
ขอคอมเม้นในมุมของคนที่ทำงานเกี่ยวกับเสียงนะครับ ไม่ต่างครับ ทั้งในด้านของเสียงและข้อมูล(ถ้าไม่มีปัจจัยภายนอกนะครับ) แต่ที่ใช้สายแพงเพราะเรื่องของความทนและอายุการใช้งานครับ
ประเด็นมาจาก มีคนบอกว่าฟังเพลง(จากเซิร์ฟเวอร์) เปลี่ยนสายแลนแล้ว เสียงนุ่มขึ้น มีมิติ บลาๆ คนเลยเถียงกันว่ามันไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะมันมาเป็นดิจิตอล
@@rgynp4561 ผมนึกว่างานเครื่องกลางแจ้งครับ แต่ถ้าเป็นฟังจากเซิร์ฟเวอร์ เมื่อกี้ผมลองดูแล้วนะครับ สาย2เส้น เส้นธรรมดากับเส้นแพง ผมลองอัดจากoutputเข้าโปรแกรมทั้ง2เส้นแล้วนั้งซูมwaveแล้ว ก็ไม่ต่างนะครับ เหมือนกันเลยครับ ต่างแค่ความรู้สึกครับ รู้สึกสายแพงแล้วเพลงฟังดูแพงกว่า555555555
ถ้าอนาล๊อกมีผลครับ โดยเฉพาะสายลำโพง
แต่สุดท้ายยังไงก็ลงเพลงในเครื่องก็ดีกว่า
แต่ส่วนตัวเรื่องเสียงถ้าจะวัดสายแลนอันไหนดีกว่าอันนี้อยู่ที่จริตหูคนล้วนๆเลย
ระหว่างลำโพงเวที กับลำโพงชุดที่ไกลเวทีออกมาที่หันหน้าไปทางเดียวกัน และหันหลังให้ลำโพงเวที ถ้าไม่ดีเลย์นี่หายนะเลยนะ คนที่ที่อยู่ไกลเวที จะได้ยินลำโพงชุดเสริมที่อยู่ใกล้ตัวก่อน จากนั้นเสียงจากลำโพงเวทีจะตามมาทีหลัง เสียงจะมั่วเลยแอคโค่ฟังไม่รู้เรื่อง จึงต้องดีเลย์ลำโพงตัวที่อยู่ไกลเวที รอให้เสียงจากลำโพงเวทีเดินทางไปถึงลำโพงตัวไกลจึงจะปล่อยเสียงนั้นออกมา มันจึงจะดังพร้อมกันที่คนดูที่อยู่ไกลๆหลังๆ
ถึงกับต้องกลับมาดูอีกรอบ55555
สิ่งที่ทำให้รู้สึกว่าเสียงเพราะไม่ใช่สาย แต่เป็นปัจจัยภายนอกทั้งนั้น ทั้งความรู้สึก ว่าได้ของดี เงินที่เสียไปเยอะ และความเชื่อว่ามันดีกว่า
เมื่อเชื่อแบบนี้ ต่อให้เอาข้อมูลผลการทดสอบมาวางตรงหน้า ก็ไม่เชื่อครับ ..
คนพวกนี้ต่อให้เทเป๊ปซี่ลงขวดเอสมันก็ไม่รู้ตัวครับ 55555 ถึงจะเอาเครื่องมาวัดปริมาณกรดโน้นนี่มันก็ไม่เชื่อ เหมือนลัทธิที่บอกว่าโลกแบนหรืออะไรซักอย่างอะ ทุกวันนี้ก็ยังเถียงอยู่เลยบอกวิทยาศาสตร์โกหก 55555
สาย Lan ต้องเอาไปเบินก่อนมั้ยครับ? เบินหนังชมพู หรือโหลดบิทดีครับ
หนังชมพูครับ แนะนำRin Miyasaka SDJS-066
SDJS-069
ช่วยกันอุดหนุนผลักดันลูกครึ่งญี่ปุ่นไทย
หนังชมพูแน่นอนคนับ
@@namon2345
ขอบคุณสำหรับวาปครับ
เมื่อเชื่อสิ่งใดสิ่งหนึ่งมากๆ สิ่งนั้นจริง อีกสิ่งไม่จริง
😂😂😂
นึกถึงพวก Orks ใน warhammer 40k เลย 5555
@@doemonslibrarians5216 ใช่เลยคิดเหมือนผมเลย
โดยเฉพาะหากความเชื่อนั้นส่งผลต่อผลประโยชน์ มันยิ่งส่งผลมากมายมหาศาล ก็หากเชื่อว่าสายแลนดีมันดีกว่าจริง จะทำให้ขายได้กำไรกว่าเป็นร้อยเท่าน่ะ คุณจะเลือกเชื่อแบบไหน
กรไกเดียวกับยาหลอก
ถ้าเราเชื่อแล้วว่านั่นมันเป็นยาจริงๆ
อาการจะดีขึ้นจริงๆ ถึงแม้ว่านั้นคือยาหลอกก็ตาม
นึกถึงสมัยก่อนที่เอสโคล่าออกมาใหม่ ๆ นี่ก็บ่นให้แม่ฟังว่าเออมันไม่ซ่านะ แต่พักหลัง ๆ มันทำดีขึ้นเราก็ชมไปตามเนื้อผ้า แต่แม่ก็คือเถียงหลังชนฝาว่าไม่ซ่า ๆ เพราะมีความเชื่อไปแล้วแต่แรก นี่ก็เลยแอบเอาแป๊ปซี่กรอกใส่ขวดเอสเลย สรุปแกก็ยังบ่นว่าไม่ซ่าอยู่เหมือนเดิม สุดท้ายพอเฉลยตอนนี้กลายเป็นเอสซ่าแป๊ปซี่ไม่ซ่าไปซะแล้ว 55555 เพราะงั้นของแบบนี้ถ้าไม่เอาวิทยาศาสตร์มาจับมันก็ไม่มีทางตรวจสอบข้อเท็จจริงได้หรอก แบบต้องเอาเครื่องมาวัดไปเลยว่าปริมาณกรดคาร์บอนิกของเจ้าไหนมีมากกว่ากัน แต่คนที่ไม่คิดจะเชื่อก็ไม่จบอยู่ดีอะแหละต่อให้เราจะพิสูจน์ยังไงก็ตาม เหนื่อยอะ แบบต้องจับปิดตาแล้วให้มานั่งฟังไปเลยว่าหูมึงดีขนาดแยกได้จริงหรอ 55555
สัญญานดีๆ เน็ทแรงๆ เราก็ดูหนังที่ภาพละเอียดคมชัดได้ แต่ถ้าสัญญานไม่ดีเท่าไร เน็ทไม่แรงเท่าไร คุณภาพก็จะลดลงไป เหมือนที่เราดูยูทูป เน็ตฟริค หรือ ฟังเพลงที่ความละเอียดสูงๆ (ทั้งหมดนี้ซึ่งมันจะปรับความละเอียดตามคุณภาพของสัญญานที่ได้รับ) ก็คงเป็นแบบนั้นรึป่าว ?
. ถ้าส่งไฟล์ บิทเรท สูงๆได้ดี ก็จะทำให้การสตรีมนัันมีคุณภาพตามไปด้วย ปล. มันจะเป็นคนละประเด็นกับเรื่อง noise ในระบบ audio
จบสายตรง อธิบายได้ดี ครบถ้วนไม่มีอะไรโต้แย้งครับ ผมว่ามันคือการโชว์รวยมากกว่า
Raise your weapons, sing a song
War is here, we waited so long
Prepare my brothers, battle will come
And when we die, our legend lives on
บันไซซซซ!
nice rymeee
วงการเครื่องเสียงแม่งสุดจัดแล้ว แต่ที่พีคสุดสำหรับผม คือ สติ๊กเกอร์เรืองแสง ป้องกันรังสี คลื่นแม่เหล็ก ฯลฯ ทำไมเสียงดีขึ้น ไร้สัญญาณรบกวน 🤣
หลอกแดก 555
ยังดีนะยังพิสูจน์ได้ เจอวงการพระเครื่องไม่ต้องมีเหตุผลอะไรเลย แพงโดยไม่มีสาเหตุ55555
พวกมีตังส์แต่ไม่มีสมองมีเยอะแยะ หลอกตัวเอง ว่าฉลาดไม่ติดกับดัก
@@kuykuyrai ดีกว่าพวกไม่มีตังมานั่งพล่ามในเนทไปวันๆนะครับผมว่า 🤫🤫🤫🤫
@@1984-w6g ช่องบังซอล มีความรู้เยอะแยะให้ศึกษา อย่าปิดกั้นตัวเอง คนมีเงิน ก็โง่ได้ ผมก็เคยโง่มาก่อน พวกติดดอยมีเยอะแยะ ไม่ศึกษาหาความรู้ ในเน็ต-ยูทูบมีเเยอะแยะ ศึกษาเอาอย่าให้ใครมาจูงจมูก
เสียงดีมาจาก ลำโพง 80% , dac/amp 19% , ไฟล์เพลง 1% ค่าทางเทคนิคต่างมันออกมาให้ดูดี ดูสเปคดี ราคาแพง แต่ใช้จริงแยกไม่ออก
เครื่องเล่นแหล่งโปรแกรมดี ลำโพงดี ชอบน้ำเสียงแอมป์แบบไหนจัดไป สายลำโพงสายสัญญาณไม่ต้องแพงมาก สายไฟสั่งสายลำโพงทองแดงเส้นใหญ่ๆจากจีนเอามาทำสายไฟ ราคาไม่แพง หัวปลั๊กร้อยกว่าบาท แค่นี้ก็ดีแล้วนะ
อธิบายได้ชัดเจนมากครับ ถูกต้องตามนั้นเลยครับ แต่ว่าถ้าลูกค้าซีเรียสเรื่องสายไม่ดีกังวนไปเองก็เลือกสายชนิด stp แทน utp ครับ แค่นั้นครับราคาก็ไม่ได้แพงกว่ากันเท่าไร
เปลี่ยนไม่เปลี่ยนไม่รู้แหละ แต่หูมนุษย์แยกไม่ได้แน่นอน เสียงกีต้าร์คนละตัว blind test ยังฟังกันไม่ออกเลย ช่อง dsus studio ทำไว้แล้ว
นับประสาอะไรจะแยกเสียงเดียวกัน แค่ต่างคุณภาพเสียงได้, เพื่อนใครหูเทพ ท้าเลย เปิดเพลงในยูทูปนี่แหละ 240p กับ 1080p สลับสัก 20 รอบ ดูสิจะตอบถูกกี่รอบ
คิดง่าย ๆ นะว่าถ้าปัญหามันอยู่ที่สายแลน เร้าท์เตอร์ก็คงเป็นสิ่งต่อไปที่ต้องเปลี่ยน ถ้าเร้าท์เตอร์ต้องเปลี่ยนปัญหาก็จะไปตกอยู่ที่ค่ายอินเตอร์เน็ต ถ้าค่ายอินเตอร์มีปัญหาแปลว่าระบบใยแก้วนำแสงใต้ทะเลที่เค้าใช้กันทั่วโลกก็ต้องรื้อให้หมดเลยนะ มานั่งคิดตามตรรกะแล้วไม่น่าใช่อะ เทคโนโลยีเค้าไม่ได้ออกแบบมาอย่างนั้นแน่นอน กับอิแต่ฟังเพลงเนี้ยลงทุนแต่ลำโพงก็พอแล้ว สายอะไรใด ๆ แม่งไม่เกี่ยวเลย ไม่งั้นก็ต้องรื้อกันทั้งโลกนึ่แหละ รวยมากก็ไปลงทุนให้เค้าดิจะได้ฟังเพลงเพราะสมใจ 55555
จริงๆ แค่เข้าใจหลักการ ADC/DAC ก็จะเข้าใจว่า คุณภาพเสียงกับสายแลน เป็นคนละเรื่องกัน
ดูพี่อาร์มพูดก็รู้สึกสงสัยขึ้นมาว่าตัววงจรกรองสัญญาณรบกวนต่างๆ และพวกก้อน Ferrite นี่กรองสัญญาณรบกวนได้จริงจนรู้สึกได้ไหมครับ แล้วถ้าไปใช้กับพวกสายสัญญาณดิจิตอลจะมีผลไหมครับ
อธิบายโคตรดี ต้องมีพื้นฐานไอทีนิดนึงถึงจะเข้าใจ ที่คุณพูดมาคือถูกต้องทุกประการเลย
ไม่ทั้งหมดนะ
ประโยชน์ของที่เรียนมา
✅ทำให้ฟังนายอาร์มรู้เรื่อง
จบศิลก็ฟังรู้เรื่องครับ
เหมือนได้เรียน วงจรไฟฟ้า ตอนปวช อีกครั้ง
เค้าไม่ได้จะหาคำตอบ เค้าจะขายของค้างสต๊อค
เถียงเรื่องเสียงผ่านสายLan
อารมณ์เหมือน...เอาสาย RCA/AV ต่อกล่องทีวีดาวเทียม ต่อโฮมเธียเตอร์ ต่อทีวี
เปลี่ยนสายก็แล้ว มีเสียงนอยซ์เหมือนเดิม
มันเป็นที่อุปกรณ์ที่ไฟเกิน แม่ว่าระบบบ้านต่อสายดิน/สายกราวด์ก็ตาม
แล้วเรื่อง/ประเด็นนี้.. ไปสะกิดใจ นายอาร์ม
(นายอาร์ม: นี่!!.. เอาสาระไปทานซะ.. จบนะ..=.=)
นี่หล่ะครับ ประเทศที่เอาความเชื่อนำวิทยาศาสตร์
Blind Test ไม่ทำละ ไปทาง Blind เบี่ยงแทน
เทสเมื่อไหร่โป๊ะทันที
สะกัดขาแบบนี้ก็ขายของไม่ได้สิปัดโถ่วววว 5555
พวกลัทธิ Audio นี่เขาแยกระหว่าง Analog กับ Digital ไม่ออกหรอกครับ
คลิปสงครามสายแลนครั้งที่สองเขายังโดเนทมาถามเลย ว่าคุณอามจะอธิบายเรื่องที่ลำโพงต่างกัน ทำไมเสียงถึงต่างกัน
อีกอย่างนะ ถ้ามันเกิด Bit flipping จริงมันไม่เปลี่ยนแค่คุณภาพของเสียงเล็ก ๆ น้อย ๆ หรอก แต่มันจะไปทำให้เกิดความผิดปกติในเสียงแบบที่ใคร ๆ ก็ฟังออก อย่างในต่างประเทศเคยมีข่าวที่ว่าอยู่ ๆ คะแนนเลือกตั้งของผู้สมัครคนนึงเกินไปจากจำนวนคนที่มาเลือกตั้งจริง ๆ ไหนจะเครื่องบินที่จู่ ๆ ก็เปลี่ยนเพดานบินกระทันหัน จะเห็นว่ามันต้องเป็นความผิดปกติที่เด่นชัดจริง ๆ ไม่ใช่ความผิดปกติแบบมโนที่ทุกคนต้องมานั่งเถียงกันแน่นอน แล้วอีกอย่างพวก Neutrino ที่มาจากอวกาศคือน้อยครั้งมากที่จะตกใส่เครื่องคอมพิวเตอร์ของเรา เพราะงั้นถ้ามันจะผิดปกติมันก็ผิดปกติแค่ทีเดียวจบ ไม่ใช่เปิดฟังกี่ที่ ๆ ก็ไม่เพราะอยู่แบบนั้น ถ้ามีปัญหาจริงควรซื้อลำโพงใหม่ได้แล้ว 55555
ใช้เน็ตเครือข่ายไหนเสียงดีครับ แล้วพื้นที่ไหนเสียงดีสุด
เลือกจ้าวที่ ไม่ขาดๆ หายๆ เทสแล้ววิ่งลื่น เต็มเกจ์โปรฯ........จะเสถียร กว่า .........ส่วนอุปกรณ์โหนด ยันสายไฟเบอร์เข้าบ้าน น่าจะใช้มาตรฐานเดียวกันหมด
การให้การศึกษากับคนรุ่นใหม่สำคัญ แต่ไม่เปนผลกับพวกไดโนเสาร์ยุคอนาล๊อค พวกนี้ไม่เข้าใจหรอกคับ
มันถือว่า ที่มีกินทุกวันนี้ ไม่จำเปนต้องใช้การศึกษาขั้นสูงนะคับ แค่บวกลบเลขได้ ก็หากินได้ อะไรประมาณนั้นคับ
ผมเล่นดนตรีมา 14 ปีอยู่กับการทำซาว์นฟังเพลงฟังเสียงมาตลอด ผมค่อนข้างมั่นใจว่าหูผมถึงในระดับนึงนะ
ถ้าในความคิดส่วนตัวและประสบการณ์ที่ผ่านมาของผม สิ่งที่มันส่งผลมากจริงๆคือต้นเสียง (ไฟล์เสียง) กับปลายเสียง (หูฟัง ลำโพง ฯลฯ)
นอกนั้นผมมองว่าเป็นพวก Placebo effect มากกว่า
ถึงสายต่างๆจะมีผลกับ analog แต่ทุกอย่างมี threshold ยังไงเสียงมันก็ไม่มีทางดีไปกว่าต้นทางที่มันส่งออกมาแน่นอน
Edit เพิ่ม ปล.ผมไม่ได้จบสายนี้มาตรงๆนะครับ ผมเรียนดุริยางค์
ใช่เลยผมเห็นด้วยกับคุณ เสียงจะดีไม่ดีอยู่ที่แค่ต้นทางกับปลายทางเท่านั้น ระหว่างทางไม่ได้ช่วยเลย(เว้นแต่สายขาดหรือแจ็คหลวม) ดูได้จากนักร้องที่ใช้ไมค์ส่วนตัว ส่วนใหญ่เค้าพกแค่ตัวไมค์แต่เค้าไม่ได้พกสายไปด้วย ถ้าสายมันช่วยได้จริงก็คงเห็นนักร้องพกสายไม่ต้องพกตัวไมค์แล้วแหละ ลำโพงดีไมค์ดีสายกากเสียงก็ยังออกมาดี แต่ถ้าลำโพงแย่หรือไมค์แย่ต่อให้สายราคาเป็นล้านก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลย
ถูก👏
สายแลนเทพ สัญญาณ1010 จะใช้ฟ้อนที่สวยขึ้นครับ ส่วนสยแลนเกมเมอร์ ตัวเลขจะเป็นRGB
ใช้โปรมแกรมอะไรจดหรอครับ เลื่อนหน้าเขียนได้เรื่อยๆเลย
air timeมั้งนะ
วอร์นี้มันเกิดเพราะไอ้Sourcesที่ว่ามันเป็นDigitalนี่แหละ ถ้าเป็นAnalog Technicianเค้าจะไม่มาอะไรกันเลย
ง่ายๆเลย คือ มีข้อความพิมพ์บนกระดาษธรรมดา กับข้อความที่พิมพ์บนแผ่นทองคำเหมือนกันทุกตัวอักษร แล้วคุณคือdac ที่ต้องอ่านแล้วส่งเป็นเสียงออกมา เสียงที่ออกมามันเหมือนกันไหม แล้วถ้าไม่เหมือนมันเป็นที่ข้อความที่พิมบนกระดาษหรือแผ่นทองคำหรือเป็นที่คุณที่เปรียบเสมือนdac ที่ต้องแปลงโค็ดเป็นสัญญานเสียง ซึ่งdacมันอยู่ในฝังของอะนาล็อคแล้ว
คาถาอัญเชิญ อาจารย์ zolkorn ตั้งโจมตี
สนุกแน่
จัสอะ สายแลน
@@บุ๋มบิ๋ม-ห4ฒ 555
5555555555555
จานไม่มาหรอก แกไม่ชอบความวุ่รวาย แกฝากบอกขอวุ่นวายในพท.ของตัวเองกุก็เหนื่อยแล้วครับ
จากประสบการณ์ทำงานนะ ผมเคยทำLiveในห้องประชุม การลากสาย HDMIยาวๆเลย ภาพและเสียงDropลงตามระยะสาย แต่พอเปลี่ยน เป็นตัวแปลงHDMIไปLAN ในระยะสั้น แล้วลากLAN ยาวๆ แล้วสลับกลับมาเป็นHDMIเข้าคอม ทำคุณภาพได้ดีกว่าครับ ดังนั้นผมว่า LAN แพงถูกไม่น่ามีผล
เรื่องที่นายอาร์มพูด ถามพวกวิศวะอิเล็กไฟฟ้า เบสิกมากใครๆก็รู้นายอาร์มอธิบายกลายเป็นเรื่องง่ายเสย ตอนเรียนปวดหัวจะตาย
ใช้บลูทูธ ลำโพงที่มี Dac ในตัวไปเลย ไม่ต้องผ่านสาย เสียงดีกว่าอีกรู้สึกได้เลย จาก usb bluetooth เทียบกับ สาย 3.5mm/aux
วิศวะไฟฟ้า + วิทย์คอม = นายอาร์ม
ความรู้เรื่องไฟฟ้า กับ คอม เนี่ยจัดเต็ม จริงๆ
วิศวะคอมครับ ไม่ใช่วิทย์คอม
@@redthunder6931 พี่เขาเรียนวิทย์คอมไม่ใช่หรอครับ (ผิดขออภัยครับ เคยเห็นคลิปพี่เขานานแล้ว)
@@Sisyphus_911 ป.โทวิศวะคอมครับ สายไฟฟ้ากับคอม ป.โท มันเรียนต่อกันได้
@@Sisyphus_911 คลิปนั้นเขาแค่อธิบายว่าวิศวะคอม(ที่เขาเรียน) เทียบได้กับวิทยาคอมของเมกาครับ
@@redthunder6931 เหมือนจำได้ว่าแก เรียน ป โท com sci ไม่ใช่หรอครับ
สำหรับผมที่เป็นเเค่ผู้ใช้ สายเเลนใช้มา 7 ปี มือสองจากตลาดนัด ไม่ถึงร้อยบาท คุ้ม
ผมอาจจะไม่ใช้วิดวะคอมหรือไฟฟ้าไม่มีข้อมูลพวกนี้แต่ถาประสบการณ์เรื่องเครื่องเสียงผมบอกได้เลยว่าตัวผมเองเล่นเครื่องเสียงมาเกิน 15 ปีฟังเพลงมาทุกแนวครับ ถ้าเพื่อนๆอยากทำให้เสสียงมันเปลี่ยนผมบอกได้เลยมีแค่สองส่วนที่เราน่าปรับปรุงในระบบของเราครับ 1.ปุ่ม volume up 2.ปุ่ม volume down ถ้าเราไปเปลี่ยนแปลง 2สิ่งนี้ผมบอกได้เลยเสียงเปลี่ยนแน่นอนครับ
ผมทำห้องอัด สาย Lan ไม่มีผลต่อเสียงครับใช้แค่รับส่งข้อมูลในระบบผมเท่านั้นเอง ( ผมใช้คอม สี่ตัววางนะบบ Lan เชื่อมกัน ) ที่จะมีผลต่อเสียงคือระบบอนาลอกที่ห้องอัดนั้นมีอยู่เท่านั้นเอง คุณบอย อินคา ทำวีดีโอให้ดูแล้ว แต่อย่างว่าใครเชื่ออย่างไรก็แล้วแต่เค้าครับขี้เกียจไปบอกไปคุยมาก 5555
Oscillo ตอนนี้แบบที่โคตรละเอียด ราคาหมื่นต้นๆ ก็มีครับ ตอนเรียนมหาลัยผมก็ใช้
มีแหล่งมั้ยฮะ อยากได้ ทุกวันนี้ยังแอบๆไปใช้ที่แล็บในมออยู่เลย 😂
เมื่อก่อนผมก็ไปแอบใช้ครับเดี๋ยวนี้ไม่ต้องแล้ว ผมขโมยมาเรียบร้อยแล้วครับ
ใส่แว่นOphtusแล้วเสียงดีขึ้นมั้ยครับ
พี่อาร์ม พูดฟังง่ายดีครับ รอดูต่อเลยเรื่องนี้
ลองได้ไม่เสียหายครับกับระบบที่ท่านมี.
ลองสายทั่วไป ยี่ห้อเดียวกัน หลักร้อยบาทพอครับอย่าแพง ที่เป็นCat5 vs Cat8 ถ้าฟังออกก็ตามนั้น ฟังไม่ออกก็ใช้ตามใจชอบครับ........(..เท่าทีสังเกตุ Cat8ชิลด์ น่าจะสามส่วน/ชั้น รวมถึงหุ้มหัวท้ายโลหะมิดชิด)
ล่าสุด คุณ อาร์ม ยกตำแหน่งให้เค้าชนะไปแล้ว โดยแบบที่ว่าไม่ต้องแข่ง😂😂😂
ก็เพราะฝ่ายตรงข้าม raised bet แบบโต๊ะพนัน
พี่อาร์มแกไม่ได้มั่นหน้าว่าแกถูกแน่ๆ แต่ตามหลักการมันไม่ควรแตกต่างกันในการวัดโดยใช้ประสาทสัมผัสคน เขาเลยอยากให้พิสูจน์ให้มันเป็นวิทยาศาสตร์
ฝ่ายนี้ต้องการหาข้อเท็จจริง อีกฝ่ายต้องการเอาชนะเดิมพัน มันก็ล้มโต๊ะดีกว่าครับ ปล่อยเขาไป
ขอบคุณมากๆครับ ว่ากันไปตามความเป็นจริง ความรู้ล้วนๆ
เห็นบางคนรีวิวสาย LAN แต่ดันโชว์การตอบสนองความถี่ซะงั้น 5555
ผมมาจากโลกอนาคต เค้าจะวางเงินเดิมพันมาสู้กับคุณ และ เค้าก็จะไม่กล้าเทสอีกรอบ
เอาจริงๆที่รองทดสอบมานะสายแลนแพงอุสาถะหลุงเงินซื้อมาสายวิ่งได้10GBเรื่องเสียงโดยรวมนะขึันอยู่กับขนาตไฟร์ตัวแลนความทนให้10แต่ท่าเทียบของlink cat6a เมตรละ80กว่าบาทเข้าหัวเองความเร็วสาย10gbรองแล้วไม่ต่างเร็วเท่ากันทดกับspeed tes แบบเปลี่ยนpc เป็น server speed tes ความเร็วไม่ต่างขนาดไปยืมลำโพงแพงๆทุกรุ่นมาไม่ต่างแต่แค่สายมันดูเท่เฉยๆท่ามีสวิตรุ่นไหนที่โมจะรองท่าไม่ต่างคือเลิก link ดีกว่าเยาะ
ขนาด DAC MSB ตัวละ5ล้าน วงจรเทพ มีลงGNDทุกตำแหน่ง เขายังไม่กล้าเคลมเลยว่า noise 0%
ขอบคุณคลิปดีๆครับ เรื่องที่พูดมาไม่รู้ห่าไรเลยแต่รู้แค่ว่าฟังแล้วแมร่งมันดี
ใครกลับมาดูบ้างครับ *OPEN YOUR EYES 😳*
ผมครับ คิดว่ามันเป็นโจ้ก ไม่คิดว่ามันจะเป็นเรื่องใหญ่โต 55555
55555555555
คนเล่นเครื่องเสียงแพงๆ บางอย่างมันมีผลทางจิตใจ ถึงขั้น ปสด. เลยครับ ผมตัดด้านอุปกรณ์ออกไปนะ เช่น การวางสาย ห้อง ฝาผนัง ฝุ่นเกาะ มุมเอียง อุณหภูมิ ความชื่น ฯลฯ เค้าก็บอกว่ามีผลหมด แล้วคิดดูของทั้งห้องเป็นล้าน แต่สายแลน 200 บาท มันก็ไม่สมศักดิ์ศรีของเค้าไงครับ เรื่องแนวนี้มีทุกวงการครับ อย่างวงการรถ แต่งอะไรไปซักอย่างนึง ที่คนทั่วไปมองไม่ออก และไม่มีผลด้านอื่นเลยนอกจากจิตใจ วงการ dota ซื้อของที่มี 2 แบบที่ต่างกันแค่ชื่อ หรือสี เป็นต้น
ยุคนู้นนนนน เถียงกันเรื่อง ดิจิตอลเอ้าท์จากซีดีเพลเยอร์ ถูก/แพง ก็แบบนี้ ฝั่งออดิโอ เถียงหัวชนฝา ผมละเพลีย
ชอบมากรายการนี้
โง่ไปซื้อของหลักแสนมาแล้ว ถ้าไปบอกว่าหลัก100คุณภาพเหมือนกัน มันก็ต้องมีต่อต้านกันบ้าง 555
เคยดูคลิป bit flip ของฝรั่ง เหมือนรังสีที่นานๆ 10 ปีมาทีมาโดนเครื่่องใช้ไฟฟ้า โดนเครื่องเลือกตั้ง จากคะแนนโหวต หลักร้อยกลายเป็นหลักพัน สืบสวนกันยกใหญ่ ทั้งคนเขียนโค้ดกับตำรวจ
หรือจะให้สรุปง่ายๆการที่สายแลนทำงานผิดพลาดมันก็แรร์ประมาณนั้นแหละ ได้เห็นบ่อยใหมว่าเครื่องเลือกตั้ง, เครื่องบินร่วง บ่อยขนาดใหน
Blind test คือคำตอบครับ
เพราะว่ามัน testกับตัวคนที่บอกว่าต่างนั้นแหละ
หาคนperfect pitch มันหาไม่ง่ายนะครับพี่
แต่ผมว่าไม่กล้าเพราะกลัวเสียหน้า
ใช้oscilloscope ออกมาเป็นเวฟ เขาก็ไม่เชื่อเพราะหูเขาเทพไง
เหมือนพวกโลกแบนนั้นแหละ เห็นภาพถ่ายโลกกลมแม่มก็ไม่เชื่อ
ผมว่าการที่บอกว่าเอาคน perfect pitch มาเทส มันใช้ไม่ค่อยได้ครับ (และเอาจริงๆ คน perfect pitch หาไม่ยากครับ มีเยอะแยะอยู่ ถ้าลองเข้าไปในวงการนักดนตรีคลาสสิก)
ที่บอกว่ามันใช้ไม่ได้ เพราะเรากำลังจะเทียบเรื่อง "ความดีย์" ของคุณภาพเสียง แต่คนที่เป็น perfect pitch เขามักเป็นนักดนตรี ซึ่งนักดนตรี ส่วนมากก็ไม่ได้มาสนใจคุณภาพเสียงแบบที่พวกนักเล่นเครื่องเสียงเขาเล่นกันหรอก เขาเน้นไปที่การเล่น และอารมณ์เพลง การตีความเพลง อะไรพวกนั้น ให้เขามาฟังเครื่องเสียงว่าอันไหนดีกว่า หลายคนก็ฟังไม่ออกครับ
perfect pitch มันคือ คนที่ฟังเสียงแล้ว บอกได้เลยว่า เป็นโน้ตตัวไหน แค่นั้นเอง ซึ่งจะเห็นได้ว่า มันไม่เกี่ยวกับเรื่องคุณภาพเสียง
ส่วนคนที่จะเอามาทดสอบฟังคุณภาพเสียงพวกนี้ ต้องหาพวกนักฟัง audiophile พวกหูทอง ที่เขายอมรับกันในวงการ อะไรพวกนั้นครับ
สามีเป็นดีเจมาก่อนนางสะสมลำโพง หูฟัง เครื่องมิกซ์เสียง/เพลงตอนนี้นางมาทำงานด้านไอทีนางไม่เคยพูดถึงคุณภาพสายแลนว่ามีผลต่อคุณภาพเสียงเลยค่ะ แต่ที่แน่ๆถ้าหูฟัง/ลำโพงเราคุณภาพดีเสียงที่เราฟังคุณภาพดีแน่นอนค่ะไม่เกี่ยวกับสายแลน😅
สายแลนนี่ต่อจากไหนไปไหนครับ ผมคนนึงสายออดิโอ แต่ผมก็พึ่งเคยได้ยินว่าสายแลนมีผลต่อเสียง ปกติผมจะเปลี่ยนแค่สายจากdac ไปamp หรือสายของหูฟัง แต่ไม่เคยเห็นเรื่องของสายแลน จึงอยากทราบว่าสายแลนต่อจาไหนไปไหนครับ
สงสัยเหมือนกันเลยครับ ดันๆ
ต้นเรื่องน่าจะมาจาก ประเด็นเรื่องการฟังเพลงจากการสตรีมมิ่งครับ คือฟังจากอินเตอร์เน็ต ซึ่งสายแลนเป็นทางผ่านข้อมูลส่วนของ digital data ส่วนเรื่องสาย dac สายแอมป์ สายลำโพง มันเป็นส่วนของสัญญาณอนาล๊อก ซึ่งส่วนหลังนี่ คุณภาพของสาย มีผลอยู่แล้ว
น่าจะประมาณนี้นะครับ
สายแลนต่อที่ช่องแลนปรกติครับ ที่เค้าเถียงกัน
ส่วนกรณีถ้าเอาแลนมาใช้เป็นสายลำโพง analog อันนั้นต่างอยู่แล้วไม่มีใครเถียงครับ
@@ikehip3 เอาง่ายๆเลยน่ะครับถ้าในแง่ของการสตรีมมิ่งผมว่ามันไม่มีผลน่ะแต่ผมก็ไม่เคยลอง แต่ถ้า live sound ยกตัวอย่าง สายที่ต่อจาก Mixer to Stage box หรือต่อไป DSP อันนี้มีผลครับ ฟังต่างเลยจากที่ลองมาน่ะครับแต่ฟังยากนิดนึ่ง ข้อนี้ถ้าใครบอกว่าไม่ต่างนี่ผมเถียงขาดใจเลยเพราะผมฟังมากับหูเลย หูผมแม่งสัมผัสได้จริงๆว่ามันต่างกันแต่ถ้ามีคนมากบอกว่าใช้สาย Lan แพงทำให้เสียงดีขึ้นอันนี้เละเทอะครับปัญญาอ่อนล้วนๆ อย่าไปเชื่อ เพราะแม่งต่างกันน้อยจริงๆ
ครับ.... ผมแค่มาแจ้งตามที่เจ้าของเม้นเค้าสงสัย ว่าประเด็นมันมาจากเรื่องอะไร เท่านั้นครับ ..
เอานักดนตรีมา หรือนักวิจารณ์เครื่องเสียงมา blind test เลยครับ ถ้าให้ชัวร์เอาทหารเรือที่เขาทำหน้าที่เป็นหน่วยโซนาร์คอยดักฟังเสียงพวกเรือดำน้ำศัตรูมาทดสอบเลย ยังไงออกมาก็ไม่แตกต่าง 555
bitrate drop หรือ
เปล่าครับ
ขึ้นหน้าฟีดเลยอ่ะ เพิ่งเห็นดราม่า นึกว่าตอนใหม่
เรื่องการเล่นเครื่องเสียงมันต้องประกอบด้วยระบบที่สมดุลเพียงพอกันถึงต้นทางมาดีไม่ผิดเพี้ยนถ้าปลายทางมีbufferขยายสัญญาณที่แคบแบนวิดธ์ไม่กว้างก็ทำให้ได้ยินเสียงรายละเอียด เช่น ถ้าเพลงนั้นมีความถี่ตั้งแต่20-20000เฮิรตซ์แต่bufferทำงานได้40-10000เวลาไปฟังเทียบกันก็คนละเรื่องเลยทีนี้เสียงที่ออกมา
สรุปเรื่องความถี่ที่เป็นเฮิรตซ์เข้าใจได้ง่ายตอบสนองได้แบนวิดธ์กว้างเวลาไปขยายเก็นสัญญาณก็ไม่มีปัญหาเรื่องสัญญานรบกวนน้อยครับ
Material 200 + อุปทาน 200k = ของเทพ
ไม่ต้องเที่ยงกันครับ ผมใช้ wifi
😊😊😊😊
มันก็เหมือนกับช่างไฟ เถียง IT เรื่องการเดินสาย Lan อ่ะ เดินสายไฟกับสาย Lan คู่กันได้ สัญญาณไม่ Drop ฮัลโหล.!!
แต่ IT มีเครื่อง Fluke เช็คสาย Lan
แต่ช่างไฟ มีแค่เครื่องเช็คหัว Lan
ฮัลโหลๆๆๆ 5555
มันเดินไม่ได้หรอครับ
@@arugivalentine3746 สัญญานดรอปครับ
oscilloscope ใน โปรแกรม DAW ก็มีไม่ใช่หรอ free plugin เยอะแยะ ถ้าผิดขออภัย
ถ้าจะวัดค่าเสียง หลังผ่าน DAC แล้วออกภาค output ก่อน ก็คงต้องไปเข้า Oscilloscope แหละครับ เพราะใน DAW signal flow มันอยู่ก่อน DAC ครับ
สรุปภาษาชาวบ้าน นะ เอาตังไปซื้อ DAC เทพสะนะ จบ.
กำลังสนใจเรื่องนี้อยู่เลยครับ ขอบคุณที่นำเสนอครับ