โลกรวนทำเกษตรกรจน ไทยวา งัดนวัตกรรมเพิ่มผลผลิต | The Secret Sauce EP.714
ฝัง
- เผยแพร่เมื่อ 12 พ.ค. 2024
- ภัยคุกคามโลกร้อน โลกรวนจาก Climate Change ได้สร้างผลกระทบแทบทุกวงการ หนึ่งในอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบหนักคือภาคการเกษตรที่ได้รับอิมแพ็กต์โดยตรงจากดิน ฟ้า อากาศ โดยในประเทศไทย มันสำปะหลังซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจส่งออกอันดับ 1 ของโลก โดนผลกระทบอย่างหนัก มีตัวเลขระบุว่าผลผลิตโดยรวมอุตสาหกรรมลดลงไปถึง 30% แต่มีบริษัทหนึ่งที่ได้รับผลกระทบของผลผลิตมันสำปะหลังที่ลดลงเพียงแค่ 5% เท่านั้น นั่นคือ ‘ไทยวา’ ธุรกิจด้านสินค้าอุปโภค-บริโภค สินค้าแป้งและแป้งดัดแปร ผลิตภัณฑ์อาหารประเภทวุ้นเส้น ก๋วยเตี๋ยว ที่หลายคนรู้จักกันในแบรนด์วุ้นเส้นมังกรคู่และกิเลนคู่
เคน นครินทร์ พาไปพูดคุยกับ หทัยกานต์ กมลศิริสกุล ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายกลยุทธ์ ความยั่งยืน นวัตกรรม และ ดร.นฤมล ศรีสุมะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายวิจัยและพัฒนา ถึงกลยุทธ์การปรับตัวด้วยการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมด้วยจุลินทรีย์ และการทำ Regenerative Agriculture ที่ยั่งยืน ติดตามได้ใน The Secret Sauce เอพิโสดนี้
00:00 เริ่มรายการ
00:57 เกริ่นนำ
03:39 ความท้าทายใหม่ของไทยวา
07:34 ภาพรวมของอุตสาหกรรมการเกษตร
10:48 จากปัญหา Climate Change สู่นวัตกรรมแก้ไขการเกษตร
17:54 วิธีการเตรียมตัวของไทยวาในด้านเทคโนโลยี
29:20 บริษัทควรสนับสนุนนักวิจัยและนวัตกรรมอย่างไร
31:55 แก้เกมอุตสาหกรรมเกษตรสู่ Carbon Neutrality
________________
สั่งซื้อหนังสือ The Invisible Leader : ผู้นำล่องหน bit.ly/buytssbook
________________
จอย Membership ของช่อง กดที่ปุ่ม Join หรือ กดลิงก์ / @thesecretsauceth
________________
กดติดตาม และ กดกระดิ่ง bit.ly/42rTOnw
ติดตาม The Secret Sauce ในช่องทางอื่นๆ
Spotify bit.ly/tssspotify
Apple Podcasts bit.ly/tssapple
Google Podcasts bit.ly/tssggpod
PodBean bit.ly/tsspodbean
Website bit.ly/webtss
Facebook / thesecretsauceth
Facebook Group / 643054436428079
#TheSecretSauce #ธุรกิจ #ไทยวา #นวัตกรรม #เกษตร #ClimateChange #CarbonNeutrality - แนวปฏิบัติและการใช้ชีวิต
00:57 เกริ่นนำ
03:39 ความท้าทายใหม่ของไทยวา
07:34 ภาพรวมของอุตสาหกรรมการเกษตร
10:48 จากปัญหา Climate Change สู่นวัตกรรมแก้ไขการเกษตร
17:54 วิธีการเตรียมตัวของไทยวาในด้านเทคโนโลยี
29:20 บริษัทควรสนับสนุนนักวิจัยและนวัตกรรมอย่างไร
31:55 แก้เกมอุตสาหกรรมเกษตรสู่ Carbon Neutrality
ชอบฟังเรื่องเกษตรค่ะ ไทยคำ-อังกฤษคำ ฟังแล้วอึดอัด จุดประสงค์คืออยากให้เกษตรกรได้รับสาระ หรืออยากสื่อสารกันแค่ในกลุ่มเจ้าของธุรกิจ
ใช้ภาษาอังกฤษแบบเป็นคำๆเยอะไป ขนาดเราฟังออกเรายังหงุดหงิดเลย คอนเท้นที่มีประโยชน์ต่อคนส่วนใหญ่เพราะบ้านเราเป็นประเทศเกษตรกรรมหลายๆคนที่เขาอยากฟัง คุณพ่อคุณแม่คุณลุงคุณป้าถ้าเผลอผ่านเข้ามาฟังก็อย่างใก้ท่านได้ประโยชน์เยอะๆ ฝากรายการด้วยนะคะ จากแฟนคลับของthe standardคนนึง
ดีมากครับ ผมอยากให้นำเสนอแนวนี้มากๆ เพราะประเทศไทยเราได้เปรียบอยู่แล้วในด้านเกษตรอินทรีย์ได้เปรียบกว่าเห็นได้ชัดเจน ผมรักเกษตรอินทรีย์ในไทย🎉❤😊
อาจารย์โจน จันได สอนดีที่สุดแล้ว แบบนี้ชาวบ้านฟังไม่รู้เรื่องหรอก สุดท้ายก้อซื้อปุ๋ยเค้า เสี็จนายทุนหมดอะ เอาแค่พอกินพอ ทำไปก็โดนกดราคา
+1 จริงๆๆๆ
คนฟังคนละกลุ่มกันครับ ต้องเป็นคนที่พูดอังกฤษได้จะเข้าใจ และต้องเป็นนักธุรกิจ
ไม่เข้าใจคำไหน โพสถามได้ครับเดี๋ยวมีคนมาตอบเอง
สาเหตุสำคัญที่ทำให้ เกษตรกรไทยจน ผมว่ามันไม่ใช่เพราะโลกรวนหรอก
น่าจะเป็นเพราะพ่อค้าคนกลาง😊
มีส่วนแต่น้อย
ผมไม่เคยเห็น Farmers ที่ทำ Agriculture แบบ Serious ชนิด Mouth bites and Foot kicks ที่เป็น Employer แล้วไม่สามารถสร้าง Continuous Profit
มีแต่ Employee Looser แบบผม ที่ยังคงไม่สามารถ Escape ความ Pervert ได้ครับ
ต้นทุนสูง ราคาผลิตต่ำ
ใช่ครับ ผมก็เห็นด้วย ไม่ใช่เพราะโลกรวน
20 กว่าปีก่อน พื้นที่แถบภาคตะวันออกปลูกมันสำปะหลังเยอะมากเพราะปลูกง่ายทนแล้งไม่ต้องวางระบบน้ำก็อยู่ได้ แต่ปลูกไปกี่ปีๆ ราคาก็ไม่ขยับ ชาวบ้านเลยค่อยๆแบ่งพื้นที่ไปปลูกไม้ผลมากขึ้น จนพื้นที่ปลูกลดลงทำให้ผลผลิตไม่พอป้อนโรงงาน โรงงานเลยต้องไปเช่าพื้นที่ประเทศเขมรปลูกแทน
ปัญหามันไม่ใช่โลกร้อนหรือดินไม่ดี ปัญหาพวกนี้แก้ได้เช่นมีการวางระบบน้ำ หรือใส่ปุ๋ยเพิ่มหรือปลูกพืชสดแล้วไถกลบ ปัญหามันคือ ราคารับซื้อที่ถูกฉิบหายทำไปก็ไม่ได้อะไร คุณก็แค่ตั้งราคารับซื้อให้มันสูงขึ้นแค่นั้นเดี๋ยวชาวบ้านเค้าหาวิธีการจัดการเรื่องพวกนี้เองเลย
ผลิตผลที่ได้กับราคารับซื้อไม่ขึ้น แถมต้นทุนการผลิตต่างๆกลับปรับราคาเพิ่มสูงขึ้น แล้วเกษตรกรจะทนรับสภาพได้อย่างไร ถ้าส่วนต่างของกำไรแทบไม่มีหรือขาดทุน ก็ต้องหันไปทำพืชชนิดอื่นๆทดแทนนั่นแหละ
@@JoJo-xe3ds ใช่เลยครับ ง่ายๆ ไม่คุ้มทุน
โลกรวนก็ส่วนหนึ่ง แต่ทำไมรัฐถึงปล่อยให้สินค้าเกษตรจากจีนมาโจมตีตลาดไทย จนราคาสินค้าเกษตรไทยมันถูกจนเกษตรกรไม่มีกำไร สุดท้ายเขาก็เลิกปลูก
ใช่ครับ ราคาถูก ทำให้เกษตกรเร่งผลิต โดยใช้วิธีการต่างๆ นาๆ และต้องผลิตมากขึ้น แต่เงินที่ได้ก็ไม่พอใช้กับต้นทุนที่สูงขึ้น แทนที่จะแก้ปัญหาส่งออก
รัฐไทยทำ FTA กับเพื่อส่งเสริมการค้าแบบปลอดภาษี ไม่รู้เอาความคิดทำ FTA กับประเทศที่ความสามารถด้านการแข่งขันมาจากไหน ประเทศไหนๆ เขาก็ไม่ทำ FTA กับประเทศที่ตัวเองเสียเปรียบ มีแต่ไทยนี่แหละที่ทำ
@@Thammanun_Deekubก็เขามีผลประโยชน์นี่ค่ะ ประเทศเสียเปรียบประชาชนเสียเปรียบแต่นายทุนและพวกนักการเมืองไม่ได้เสียเปรียบนี่ค่ะ มีแต่เอื้อผลประโยชน์กันเอง
@@paveenherman5747 นายทุนบ้านเราก็เสียเปรียบครับ มีแต่นายทุนบ้านเขาที่ได้เปรียบเต็มๆ
ผมไม่เคยเห็น farmers ที่ทำ agriculture แบบ serious ชนิดที่ว่า mouth bit while the feet are kicking ที่เป็น Employer แล้วไม่สามารถสร้าง Continuous Profit จนมี Wealth ชนิดที่ท่านไม่ต้อง Worried ว่าครอบครัวของท่านใน next 10 generations จะ wasting money จน nothing left
เพราะ จะมี employee looser แบบผม ที่ยังคงไม่สามารถ Escape จาก Poorverty และ Perverty ได้ มาช่วยสร้าง Wealth และ Health ให้พวกท่าน eternally
ให้มันรู้กันไปว่าภาษาอังกฤษของเราก็ไม่น้อยหน้าใคร ชอบๆ😍😍
5555 ข้าล่ะชอบจัด สะท้อนปัญหาสังคมไทยได้เป็นอย่างดีครับท่าน
เห็นด้วยครับ
ผมกำลัง Practice ภาษา English อยู่ครับ
หากมีคำไหน ที่ท่านอ่านแล้ว ยังรู้สึกว่าผมยัง uneducated
รบกวน whisper บอกกันหน่อยนะครับ
Best Regards ครับ
เหนื่อยมั้ยพี่พิมพ์น่ะ ป้าแกพูดไม่เหนื่อยนะ แต่ก็ไม่ยอมน้อยหน้ากันเลย 555
ไทยวา8 เป็นตัวชี้ทิศทางที่ตรงมากครับ ในความเห็นส่วนตัวนะครับ แต่ผมยังมองเห็นภาพในระดับกรอบใหญ่ภาพกว้าง ตัวอย่างเช่น bio-farming/soil/nutritions/microorganisms (quantity, diversity/working/interaction system) ถ้าลงในระดับdetail การจัดเซตโพรดักส์เป็นเรื่องที่ต้องทำ เพราะมันมีเงื่อนไขที่เจาะจง เช่น การปลูกมันสำปะหลัง ธาตุอาหารดินจาก bio fertilizers, กับ plant protection ที่ต้องมาเจาะจงกับ fungies รวมถึงตำแหน่งที่ตั้งของแปลงผลิตที่อิงกับสภาพอากาศหลักและสภาพอากาศแปรปรวน
ผมทดลองโพรดักส์จากอินเดียตัวหนึ่งเพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้าน soil organic carbon และการอุ้มน้ำของเนื้อดิน ทดลองกับถั่วฝักยาวเป็นรายการแรก ยังมาเจอเชื้อราสองตัวคือ phythopthora colocasiae Rac. กับ Cercospora sp. ถ้าจะใช้ tricoderma หรือbacillus subtilis มาเป็นระบบตัวห้ำตัวเบียน ก็อาจจะได้สำหรับถั่วฝักยาว แต่พอเอาหมามุ่ยอินเดียมาลงแปลงร่วมด้วย มันกลายเป็น positive impact
ในระดับ large size company ก็เห็นบางรายเช่นบริษัทลูกในเครือมิตรผลที่ทำปุ๋ยไบโอ ซึ่งน่าจะร่วมกันพัฒนาความครอบคลุมรายการสินค้าเกษตรได้มากขึ้นถ้าทำงานร่วมกัน
และท้ายสุดที่จะเป็น bio value chain จริงคือ ทำแล้วขายที่ไหน ภาคการตลาดยังไม่ชัดพอครับในปัจจุบัน มี3-4 รายที่พัฒนาทั้งการเป็น distributor และ platform+ knowhow แต่ยังน้อยและแคบไปสำหรับภาคผลิต
ภาคผลิตถ้าแยกเป็น2ส่วน
ที่ปัอนตรงหรือcontract farming, หรือบริษัททำแปลงผลิตเอง ส่วนนี้ไม่ยากเท่าไหร่ แต่แปลงผลิตแบบอิสระที่ป้อนสินค้าไปที่ระบบแม่ค้ารายย่อยที่นำไปขายส่งต่อ รวมถึงตลาดกลางการเกษตร ผมว่าภาคตลาดแบบนี้ยังไม่มีคุณภาพเพียงพอสำหรับการไปสู่biofarming ในภาคผลิตแบบวงกว้างภาพรวม
รัฐบาลน่าจะให้ความสนใจประเด็นนี้เพื่อนำไปช่วยเหลือเกษตรกรจะเป็นประโยชน์ในวงกว้าง😊
มาเพิ่มนิดนึงครับ
ต่อจากความเห็นแรกเรื่องภาครัฐมาจับทำ เอาจริงๆ การทำงานในภาครัฐมีเยอะและต่อเนื่องนะครับ ถ้าในระดับส่วนบุคคล(คนปลูกพืช) สามารถหยิบจับคู่มือหลายชนิดพืชมาใช้แล้วค่อยปรับให้ลงตัวกับบริบทของแต่ละคน แต่มันไม่ใช่ภาพกว้างที่จะเป็นการเปลี่ยนโฉมของภาคเกษตรในประเทศ
ผมชี้ให้มองว่า
นี่คืองานกลุ่มหรืองานเดี่ยว?
ถ้ามองว่าเป็นงานกลุ่ม one man hero ไม่มีทางเกิดงานได้ ถ้าจะทำก็ไม่มีทรัพยากรเพียงพอ ต่อให้เป็น large size company ก็ตาม
แต่ถ้ามองว่าเป็นงานเดี่ยว เช่น แต่ละแบรนด์ก็ลงทุนพัฒนากันไป แต่ลงลึกไปมันก็มีความเป็นงานกลุ่มที่สะท้อนภาพสังคมเกษตรเหมือนกัน เช่น การพยายามทำ total chain, value chain มันจะไปหยุดในจุด รง.ผลิต ไปไม่ถึงแปลงผลิตที่มีความอิสระและมีปัจจัยผันแปรสูงซึ่งยังยากที่จะทำอะไรให้ไม่ขาดทุน ยกเว้น mindset ที่จะยอมเป็นผู้เสียสละ สร้างสัญลักษณ์ไว้ด้วยแบรนด์กับระบบที่จะคอย fostering กระบวนการเปลี่ยนแปลงในแต่ละสิบปีในทาง physical
ในไทยเหมือนว่า green economy, low-carbon economy, low-carbon lifestyle กับเรื่อง future climate adaptation ในลักษณะ national policy และการแยกแบบ sectoral มีมาตั้งแต่ปี 2011 (แต่ในมิติ tech +iot ยังไม่ใช่บริบทแบบวันนี้) ในช่วงสิบปีที่แล้วถ้าใครอยู่ในแวดวงนี้น่าจะผ่านตามาบ้างกับ 2 งานประชุมวิชาการนานาชาติเรื่อง Green economy โดย อบก. กับ Thailand adaptation Guideline on future climate 30y ในสี่หรือห้าประเด็น คือ โรคระบาดในเขตเมืองใหญ่, การจัดการน้ำกับภาคเกษตร, เมกะโปรเจคชายฝั่งทะเล, .. โดย สผ. กระทรวงทรัพย์ฯ
เหล่านี้คือเรื่องที่กำลังพูดและพยายามทำกันในวันนี้
ความเห็นส่วนตัวอีกมุมหนึ่งคือ education tech/business ที่จะเปลี่ยนภาคเกษตร(primary agricultural production families) บริบทในวันนี้น่าจะเพียงพอโดยเฉพาะ ecosystem กับลักษณะความคิดของคนสร้าง ecosystem บางส่วน ในภาคทุน impact vc เราก็มีเกิดขึ้นแล้ว เช่น Mr pink คนที่มีบทเรียนการทำ start-up และสเกลมาแล้วก็มีอยู่
มันน่าจะมีทีมหนึ่งเริ่มทำที่เป็น education for agricultural societies จริงๆ เสียที
ถ้าจะมองสเกล
48 million km2 (32% world land area)
1.23 billion 15% world population (5.3 billion on internet)
6.8 : 1.3 billion( urban/ rural)
ตัวเลขหยาบๆ นี้น่าจะเอาไปขยายให้ชัดได้และมองเห็นว่าสเกลมันใหญ่พอ รวมถึงคุณค่าในประเด็นนี้ ที่มันควรจะมีคนริเริ่มสร้างแบบจริงจังและต่อเนื่องได้สักที(ที่มีบริบทลงตัวทั้งกำลังทรัพยากรและ passion)
โลกรวนถูกทำร้ายเพราะมนุษย์
ทำเกษตรจนก็เพราะมนุษย์ด้วยกัน ด้านราคา เอาเปรียบ
พัฒนาตัวเราเถอะครับจุดสำคัญ
ฟังแล้วโคตรเข้าใจเลย sneakๆ fishๆ
เห็นว่า เกี่ยวกับ จุลินทรีย์ เลย มาดู
โคตรได้ประโยชน์มากเลย จะได้
เอาไปปรับปรุง สวน อยากให้ เกษตรกร
มาฟัง
😮😮 ไทยคำ-อังกฤษคำ บอกตรง ๆ ฟังไม่ค่อยรู้เรื่อง ผมอาจจะผิดเองที่ด้อยการศึกษาก็ได้ แต่อยากให้ทั้งแขกรับเชิญและพิธีกรช่วยปรับปรุงด้วย ให้ชาวบ้านทั่วำปฟังรู้เรื่องหน่อย เดี๋ยวชาวบ้านจะนึกว่ารายการนี้พูดภาษาเทพ 😮😮
ปล.
1) ยิ่งฟังยิ่งรำคาญแขกรับเชิญ
2) ถ้ารายการจะเชิญคนที่พูดภาษาเทพมาออกรายการอีก ได้โปรดใส่คำแปลเป็นภาษาไทยให้ได้อ่านด้วยครับ
นึกว่าคิดไปคนเดียว
เห็นด้วยครับ
สื่อบ้านราไม่ค่อยให้ความสำคัญกับเรื่องนี้...ถ้าสื่อเพื่อมวลชน ...ต้องสื่อให้ทุกคนเข้าใจ
+++++
จริงครับ ฟังไม่ถึง 10 นาทีพอเถอะ
หนูคนรุ่นใหม่นี่ หนูจบนอก
เป็นการเรียนภาษา ที่ได้ ความรู้ด้าน ดิน น้ำ อากาศฯลฯ คุ้มจริงๆๆ..
ขอบคุณสำหรับเนื้อหาดีๆ ได้คำศัพท์ใหม่ๆด้วย ยังรอชมทุกคลิปเหมือนเดิม
เข้าใจว่าหลายๆคำที่เป็นคำศัพท์เชิงธุรกิจ หรือ บางคำรายการพูดบ่อยมาหลายตอนเลยไม่ขึ้นคำแปล
ทำให้บางคนที่เค้าไม่เข้าใจเลยพาลหงุดหงิด ส่วนตัวเข้าใจว่ารายการเป็นรายการนั่งดู ไม่ใช่ Podcasts เพราะงั้น นั่งดูภาพก็จะเห็นการแปลประโยค ภาพประกอบ หรือคำแปลขึ้นมาเรื่อยๆ จะทำให้เข้าใจมากขึ้น ยังไงก็เป็นกำลังใจให้ทีมงานครับ
น่าจะสัมภาษณ์เป็นภาษาอังกฤษเลยครับ
เพราะว่าผู้ให้ข้อมูลพูดไทยแค่ 5 คำเอง
5555+ เห็นด้วยครับ
พูดไทยสลับอังกฤษ ทับกันไปมา ฟังดูเหมือนคนมีความรู้ มีหลักการ แต่มันฟังยากครับ ง่ายๆคือต้องการเอาของเหลือจากโรงงานมาเชิญชวนให้คนอื่นสนใจ สรุปคือขายของนั่นแหละครับ
Eng เราพอได้แค่ feel uncomfortable ฟังได้ just นาทีที่ 8 เลย have to stop.
lol
แขกรับเชิญสวยครับ สเป็คเลย สวย_รวย_มีเสน่ และเก่งครับ😊😊😊
คนที่2 เหรอครับพี่ 😂😂😂
@@tuukbอยากได้นางฟ้า ต้องมีกระตังส์เลี้ยงดูเขาได้นะ ส่วนคนไม่ค่อยมีกระตังส์ยากหน่อยนะ คงเป็นได้กระต่ายชมจันทร์นะจ๊ะ
โกอินเตอเกินไปไหม
ภาษาอังกฤษเยอะไปไหม
คลาดแคลน ทำไมราคาพืชผลยังต่ำอยู่ ที่แพงคือปุ๋ย และสารเคมีฆ่าแมลง
จะไปโทษ ปุ๋ยแพง อย่างเดียวก็ใช่ที่ ..เมื่อไหร่จะเลิกซื้อล่ะ?
มีอีก 108 วิธี ที่ มีคริปดีๆ สอนทำจุรินทรีย์ ทำปุ๋ยชีวภาพ ทำปุ๋ยหมัก เกษตรกร ที่ขวนขวายจะลดต้นทุนน่าจะไปร่ำเรียนเพิ่มเติม รอแต่ปุ๋ยเคมี ทุนหายกำไรหด!
คราวหน้า ขอซับไทยด้วยนะครับ หรือไม่ก่อเอาeng ล้วนไปเลย.....😊
ถ้าแขกรับเชิญ ถนัดภาษาอังกฤษ ก็สัมภาษณ์ ภาษาอังกฤษแล้วใส่คำแปล ผมคิดว่าน่าจะดีกว่าไทยคำอังกฤษคำนะครับ
สงสัยอยู่นิดเดียวค่ะ ก่อนหน้าเป็นลานิญญ่า แลเพิ่ง transition เป็นเอลนิญโญ่เมื่อต้นปีไม่ใช่เหรอคะ
ใช่ สงสัยเขามั่ว
อยากให้ความสำคัญกับ pea and nut ให้หลากหลาย พร้อมทรัพยากรน้ำ ปุ๋ย ที่เพียงพอ
ก็คือจะใช้เทคโนโลยี Biotech ในการสร้างแร่ธาตุต่างๆแล้วฉีดเข้าไปในดินแทนการให้ปุ้ยทางเคมีใช่ไหมครับ
ทำอย่างไรให้ราคาเกษตรดี เกษตรกรอยู่ได้ ต้องให้ต้นทุนต่ำ ปุ๋ยราคาถูก ดีมากค่ะถ้ามีปุ๋ยชีวภาพ
GMP คนไทยก็ไม่เอา พอเจอของจีน เวียตนามเข้ามาก็จะเห็นว่าลูกของเขาใหญ่ๆสวยๆ
แต่จุลินทรีย์ของบ.เอกชนแต่ละบริษัทิโคตรแพงครับ จะหาคนที่จริงใจต่อเกษตรกรน่ะไม่ค่อยมี มีแต่จะมาซ้ำเติมเกษตรกร
ต้องก้าวให้ทันโลกในยุค globalization
❤❤
ผลประโยชน์ เข้านายทุน เข้าผู้ที่บอกว่าเป็นผู้บริหาร แต่ออกจากเกษตรกร ออกจากผู้ผลิต ออกจากประเทศ
ปุ๋ยนอกของดีเลย ใช้สารเคมีผลผลิตสูงก็กว่า แต่ความอร่อยสู้จุลินทรีย์ไม่ได้ ถ้าเป็นเซียนนักปลูกปุ๋ยเม็ดก็ใช้ได้ผลผลิตสูงและผักอร่อยต้นไม่ขาดสารอาหาร
ถ้าจะนำเสนอให้คนไทย ก็ต้องใช้ภาษาไทยจริงๆ ทับศัพท์แล้วมันทำให้ความเข้าใจคลาดเคลื่อน สำหรับคนไม่คล่องภาษาต่างประเทศ พูดง่ายๆ นำเสนอแบบบอกผ่านเฉยๆ ชาวบ้านหรือชาวนาทั่วไป เขาไม่เข้าใจหรอกครับ 😢
หนูผู้หญิงพูดสื่อสาร ใช้ศัพท์จนชาวเกษตรกรไม่เข้าใจหรอก
โลกร้อน ฤดูกาลแปรปรวน ส่งผลต่อพืชผลการอย่างหลีกไม่ได้ ตอนนี้ข้าว ผลไม้ ทุเรียน ปีนี้ให้ผลผลิตน้อย ผมเองทำปุ๋ยน้ำหมักจุลินทรีย์กับปุ๋ยหมักใช้เอง
มาถูกทาง ทำได้จริง ประเทศหลุดพ้นความยากจน ขอเป็นส่วนหนึ่งที่ร่วมลงมือทำไปด้วยครับ
ผมชอบให้ทำเรื่องเกษตรมากเลยครับ
แถวกำแพงกลิ่นหอม2ข้างทางเลยครับ. ถ้าไม่มีสภาวะโลกร้อนคงไม่มีมาคุย และทราบว่าต้องคำนวณพื้นที่ขนาดนี้...มันก็อาจเป็นหลักจิตวิทยานที่คนบนดอยไม่รู้ถึง. ทำให้เขาถางป่า. ท่านหญิงท่านชายควรมาคิดร่วมนะ เอาไงดี. รายได้คนบนดอยก็กิเลส ตัวเดียวกับท่านอยากมีนั้นโน้นนี้....ท่านได่กก.ละ 0.05บ. ชาวบ้านได้ กก.ละ3บ. แต่เราต่างใช้ ai เท่ากัน. อย่างไรก็ ลดๆนะท่านหญิงท่านชาย
โลกร้อนเพราะกิเลสเรา
ไม่โทษธรรมชาติเพราะธรรมชาติมันคือระบบ คนไม่เข้าใจธรรมชาติมากกว่า 🌏😊
คนเลือกที่จะไม่ปลูกเองซะมากกว่า เพราะเรื่องอะไรหละ รู้ๆอยู่ ไม่ต้องแก้ด้วยวิจัยด้วย
มันต้องมีภาคสนามด้วย
เกษตรกรจะลืมตาอ้าปากได้ ต้องเลิกปลูกพืชจำพวกมันสำปะหลังให้บริษัทเหล่านี้ไปทำกำไร เขาควรหันมาผลิตเพื่อให้พอกิน พอใช้ที่เหลือค่อยทำอย่างอื่นขาย เป็นเบื้องต้น ซึ่งตอนนี้เกษตรกรก็เริ่มตาสว่างกันมากขึ้นครับ
ทำไมพี่พิธีกรแขกรับเชิญไม่พูดภาษาอังกฤษไปเลย หรือพูดภาษาไทยไปเลยครับ พูดไทยคำอังกฤษคำหงุดหงิดมาก ไม่ใช่ว่าดูดีอินเตอร์อะไรเลยมันน่ารำคาญมากกว่า
เกษตรกรไทยชอบเผาฟางเผาอ้อยเผาหน้าดิน ตอนนี้อยู่ตรงข้ามผมก็ยังเผาอ้อยอยู่
อยากให้ทำวิเคราะห์เกี่ยวกับเกษตกรเลี้ยงกุ้งไทยหน่อยค่ะ สินค้าอื่นขึ้นแต่กุ้งลดลงเทียบกับสินค้าเนื้อสัตว์บริโภคอื่นๆ
จั่วหัวอย่างเท่ ว่า จุลินทรีย์กู้โลก สรุป จะขายท่อนพันธุ์บริษัท แล้ว ซื้อ ปุ๋ย ของบริษัท หรือไม่ครับ
เกษตรแนวใหม่ 😂😂😂😂
นี่มันเกษตรรุ่น ปู่ย่า ตายายครับ
การปรับปรุงดิน อย่างไร การฟื้นจุลินทรีย์ท้องถิ่นอย่างไร ไม่พูดซักคำ
วิจัยให้ตาย ถ้าไม่ทำ
Water & soil conservation ความชิบหายก็มาเยือน ( เรื่องนี้เป็นเรื่องแรก ต้องทำก่อน )
รายการทำให้เราได้เรียนคำศัพท์ภาษาอังกฤษด้วยก็ดีนะคะ😅😅😅
อย่างเยอะ
เราเองก็เป็นลูกหลานเกษตรกรอยากให้ทำคลิปที่ฟังแล้วสามารถเข้าใจได้ง่ายกว่านี้ค่ะถ้าเป็นคนรุ่นเก่าๆหน่อยมาฟังคาดว่าน่าจะเข้าใจได้ง่ายกว่านี้น่ะค่ะเพื่อที่จะได้เอาไปปรับใช้ได้อย่างเหมาะสมกับพื้นที่การเกษตรของตนเองค่ะ
ทำไหมเกษตรต่างประเทศจึงรวย
หัวข้อดีนะ แต่!! คนรับเชิญ.....อืม นายทุนอ่ะนะ เอาวรรณสิงห์ มายังได้อะไรมากกว่า
กระทบเต็มๆครับ แรงมากด้วย เช่นข้าวถ้าลมหนาวมาเร็วแค่สองถึงสามอาทิตย์ต้นทุนชาวนาเพิ่มขึ้นมากข้าวจะออกไม่สุดรวงต้องฉีดยาแก้หนาวไม่งั้นจบ...มันสัมปะหลังถ้าตอนมันเริ่มใส่แป้งถ้าฝนชุกเกินไปไม่ต้องท่วมหรอกแค่ดินอิ่มน้ำเกินอาทิตย์หัวมันก็เน่า ถ้าฝนช้าไปสองเดือนรอบการทำข้าวนาปรังก็หายไปหนึ่งรอบ การแย่งน้ำหลังมกราคมตอนนี้โหดมากๆ พวกทำอ้อยเค้ามีทุนจากโรงงานทำให้รัศมีสามกิโลเค้าสามารถสูบน้ำใด้สบายๆจากจุดสูบ พืชตะกูลแตงทำยากมาก ฟักทอง แตงกวา แตงโม พริก และอีกหลายอย่าง ปีนี้ทำยากมาก ร้อนเกินแดดแรง อากาศแห้งเกินไป ดอกร่วงหมด
ผมเองทำเกษตร ที่หลายแปลงร่วมๆแปดสิบกว่าไร รถไถมี เครืองสูบน้ำสามตัวทอยน้ำใด้กิโลกว่าๆ อุปกรณ์อื่นๆครบปีนี้หลังมกราต้องยอม ทำไปไม่คุ้ม เรื่องน้ำเราซื้อน้ำเราซื้อกันครับจากสระที่เราที่เราพอดันน้ำใด้ของผมกิโลกว่า ทุนก็พอมีจะกู้ธนาคารมาลงก็ใด้แต่มันไม่คุ้ม ถึงจะแบ่งที่ไปทำสวนผสมสิบกว่าไร่(ทำแล้ว) ลดนาข้าวทำแปลงที่ทำใด้สามสิบไร่ ที่เหลือทำหมุนเวียน แรงงานเขมรไปเช้าเย็นกลับรับส่งเอายังต้องยอมทำไปก็ขาดทุน เปิดแอปดูสภาพอากาศรอจังหวะดีๆค่อยทำ
ดังนั้นพวกแปลงเล็กๆไม่ต้องพูดถึงกลายเป็นเกษตรกรซอมบี้อยู่ไปวันๆ ไม่ก็ปล่อยพวกทำอ้อยเช่าเอาเงินไร่ละสองพันต่อปีจ่ายล่วงหน้าสามปี เอาไปลงทุนทำอย่างอื่น
ไม่ต้องมาช่วยอะไรหรอกครับมันช้าไปสิบกว่าปีไม่ทันแล้ว ผมเองอยู่ใด้ไม่อะไรมาก แต่คนที่จะแย่คือคนเมืองหรือคนทำงานประจำรายใด้ที่มีจะพอซื้อของกินใช้รึเปล่า
อาการตอนนี้ภาพรวมประเทศเราเป็นโรคเหี่ยวเขียว ระบบรากฝอยตายเพราะโรคแล้ว แต่ต้นยังดูปกติดีทว่ายอดอ่อนไม่ผลิใบ ใบเริ่มร่วงค่อยๆยืนต้นตาย จะอัดเงินเป็นแสนล้านทำระบบน้ำทั้งประเทศ ช่วยเรื่องทุนอีกแสนล้านไม่ใด้ให้เปล่านะแค่ให้เราหมุนใด้ก็ไม่ทัน
ยืนไว้อาลัยเถอะ!!! สภาพอากาศมันรวนจริงๆ พืชผักแพงขึ้นแน่ๆแต่เราก็ไม่กล้าลงทุนมันเสี่ยงเกิน ผมมีสระน้ำทุกแปลงลูกละสามไร่บ้างไร่นึงบ้างสองไร่บ้างยังคิดจะขุดเพิ่มซึ่งฟรีนะ! เราขายดินเอาสระตุนน้ำไว้ใช้ หรือไม่ก็ขายให้พวกทำอ้อยตอนนี้ก็ให้ไปแล้วหนึ่งลูก ที่เหลือก็เก็บไว้ใช้เอง
ไม่มีเงินยังกู้ใด้ ไม่มีที่ยังเช่าใด้ แต่ไม่มีน้ำตอนที่ต้องการนี่จบเลย ซื้อหมอนมานอนหนุนเอาดีกว่า!! ที่พิมพ์ยาวไม่ใด้มาแย้ง หรือ แสดงว่าตัวเองรู้หรือตัวเองมีที่ดินมีเครื่องมือแต่อย่าใด ผมแค่บ่นจากสิ่งที่เจออยู่!!!
คุณวรรณสิงห์ บอกว่าโลกร้อนปัญหาไม่ใช่เราจะแก้ยังไง แต่เราจะมีความยืดหยุ่นเพื่อจะรับมืออย่างไร
ขอย้ำนะครับผมแค่ออกมาบ่นจากสิ่งที่ตัวผมเจอ โลกร้อนมันส่งผลมานานหลายปีแล้วแค่รัฐฉีดยาประคองอาการ เงินช่วยเหลือนู่นนี่ ก็เพื่อให้เราทำต่อ ทั้งๆที่ก็รู้ว่ายังไงก็ขาดทุน เกษตรกรที่มีที่ 5 ไร่ 10 ไร่เค้าคิดแค่ว่าอย่างน้อยเหลือข้าวไว้กินมีเงินก้อนะพอใด้จ่ายหนี้ ที่เหลือก็ไปทำงานรับจ้าง หรือขายของตามตลาดนัดเอา ใครที่ทำแบบผสมผสานไร่หรือสองไร่หลังบ้านก็ดีหน่อยเหมือนมีฟูกรองรับตอนล้ม ไม่รวยแต่พออยู่ใด้แบบบ้านๆแบบรายการเซียนหรั่ง ส่วนที่ดินที่เหลือจะทำนาต่อหรือปล่อยเช่าก็ว่ากันไป ผมเองก็ทำใว้สิบกว่าไร่ ส่วนที่เห็นว่าบางคนยังทำแบบเดิมๆอยู่เพราะที่ดินเอาไปจำนอง หรือเช่าเค้าทำ
ต่อจากนี้ถ้าใครอยากใด้สินค้าเกษตรเพื่อไปต่อยอดคุณต้องจ้างเกษตรทำจะรัฐหรือใครก็แล้วแต่ เพราะใครจะอยากเสี่ยง แถวบ้านจากทุ่งนา เปลี่ยนเป็นไร่อ้อย 60% แล้ว ความหลากหลายสินค้าเกษตรที่เอาไปต่อยอดจะลดลง แขกรับเชิญทำถูกแล้วเค้าไม่ใด้ใจดีช่วยเกษตรกรหรอกแต่เพื่อรักษาวัตถุดิบที่จะป้อนโรงงาน
แต่ก็ช้าไปสิบปี ไร่อ้อยเอาไปกินอ้อยกับมันใช้ที่ปลูกสภาพเดียวกันแต่อ้อยทนน้ำใด้มากกว่าแค่นั้น คุณเคยสบายซื้อจากลานมันมาแปลรูปใด้เลย แต่ตอนนี้ไม่ใช่เลยลงมาจัดการเพื่อรักษาวัตถุดิบ ต่อไปข้าวก็เช่นกันถ้าไม่มาลงทุนรักษาวัตถุดิบป้อนโรงสี โดนไร่อ้อยกินเรียบพวกคุณคิดว่ารัฐจะมีเงินหนุนค่าไถค่าเกี่ยวใด้กี่ปี
หลายรายการที่ออกมาสัมภาษณ์บอกว่าอีกไม่นานเกษตรกรรายย่อยจะตายก่อน ช้าไปแล้วที่เห็นนะมีแต่ซอมบี้
ออกมาบ่นเพื่อไว้อาลัย
ผมมองว่าภาคเอกชนภาคอุตสาหกรรมตื่นช้ามากครับเหมือนรอจนหม้อข้าวแตกร้าวแล้วค่อยมาดิ้นรนกุลีกุจอหาทางปะซ่อมแซม ก่อนนี้คือทุกคนทิ้งภาระและต้นทุนไว้ให้เกษตรกรแบกรับเป็นส่วนใหญ่ คือมองแค่ผลประโยชน์กำไรสูงสุดของตัวเองเป็นหลักการทำธุรกิจในอนาคตแนวคิดการทำธุรกิจแบบเห็นแก่ตัวเอาแต่ได้แบบนี้จะอยู่ไม่ได้อีกต่อไป แต่ต้องมองภาพรวมทั้งระบบทุกคนทุกภาคส่วนต้องจับมือเดินไปพร้อมกันไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง เพราะถ้าคนข้างล่างหรือคนข้างๆอยู่ไม่รอดเราก็ไม่รอดครับ ทิ้งตำราธุรกิจตำราการตลาดที่เคยเรียนกันมาไปได้เลยครับ ส่วนภาครัฐของไทยจะเดินตามหลังเอกชนครับ
บ.เครือกำหมัดแน้ว
อากาศแปรปรวนมาก ปี2024 แค่ มกราคม-กุมภาพันธ์ มันหนาวจัด แล้วร้อนจัด กลับมาหนาวอีก แล้ว ร้อนอีก แล้วหนาวอีก กลับมาร้อนใหม่อีก หนาวรอบแรก ดอกมะยงชิดบาน สวยมาก พอเจอหนาวอีก2รอบ ร้อนอีก2รอบ สลับกัน มันแตกใบอ่อนเฉยเลย ผลอ่อนมะยงชิด ที่ติดรอบแรก ผลอ่อนร่วงระนาวเลย ขนาดฉีดCalsium Boron แล้วนะ ก็เอาไม่อยู่ เสียใจมากกก เงินหายวับไปกับตา ฮือๆๆ นอกจากนี้ อากาศร้อนจัด เพลี้ยแป้งมันลง สวนมะเขือพวง พังพินาศ แบบหน้าเศร้ามาก
ไช่อากาศเปลี่ยนแปลงมาก เดี๋ยวหนาวเดี๋ยวร้อนเดี๋ยวฝนตกในวันเดียว
พูดอังกฤษล้วนจะดีกว่านะ เพราะจะฟังลื่นหูกว่า
รื่นหู ไม่ใช่ ลื่นหู ภาษาไทยเอาให้รอดก่อน
@@0LittleChild0นิสัยเหมือนชื่อเลย 555
Auntie guard นะ you น่ะ hahaha @@0LittleChild0
เห็นด้วย
นวตกรรมจริงๆครับ ต้องทำให้มันราคาถูกด้วยครับ ไม่งั้นเกษตรกรก็จะไม่ใช้ อีกหน่อยจะเทียบกับญี่ปุ่นเลย อย่างไบโอพลาสติกคลุมดินก็จะมาแก้ปัญหาเรื่องหญ้าแทนที่จะใช้ยาฆ่าหญ้า
ภัยคุกคามของโลกตอนนี้คือมนุษย์ต่างหาก
ADS
ถ้าราคาสินค้าเกษตรขึ้นราคาปุ๋ยยาก็ขึ้นอุปกรณ์การเกษตรอื่นๆขึ้นหมดเพื่อดูดเงินจากเกษตรกรธกส.ก็ปล่อยกู้มากขึ้นขึ้นเพื่อดึงดูดเกษตรกรสุดท้ายคนที่ดิ้นจนลมหายใจเฮือกสุดท้ายก็คือเกษตรกรครับมันก็วนยุแบบนี้ไปเรื่อยแหละอย่ามาบอกว่าเกษตรกรต้องปรับตัวเพราะพวกคุณเพียงแค่อยากให้เขาทำงานให้แค่นั้นเอง
ผมคิดว่ามันมีมาตั้งมนนานมาแล้วนะครับขาดแคลนหน่วยงานรัฐบาลไม่เห็นคุณค่าของมัน
หลักของในหลวงเกษตรกรคนธรรมดาทำได้แต่หลักวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีอันทันสมัยเกษตรกรธรรมดาอาจจะทำไม่ได้เห็นว่าควรหันมาสนับสนุนหลักของในหลวงให้มากกว่านี้เพราะมันง่ายและคนที่ทำได้มีมหาศาลประกอบกับวัตถุดิบเช่นหญ้าวัชพืชซึ่งแต่ละปีมีจำนวนมหาศาลแต่กลับถูกละเลยมองข้ามประโยชน์ของมันและเอาสารเคมีอันตรายมากำจัดหรือเผาถามว่าความรู้ดีๆสิ่งดีๆที่พระเจ้าอยู่หัวท่านทรงอุทิศตนทำเป็นตัวอย่างและมันเป็นสิ่งที่เป็นไปได้ประหยัดงบประมาณทำไมถึงถูกละเลยแล้วเอาเอาอะไรที่มันเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุมาอ้างมันจะได้ผลสักกี่เปอร์เซ็นต์งงไปหมดแล้ว
มันก็เหมือนกัน ปุ๋ยหมักหรือจุลินทรีย์ก็เพิ่มคุณภาพดินได้ แต่ตอนนี้สภาพอากาศและดินของไทยมันไม่ไหวแล้ว ถ้าใช้ปุ๋ยธรรมดาเมื่อไหร่พืชจะโต แถมดินก็ยิ่งแย่ฑาตุอาหารไม่ครบ สภาพอากาศ สภาพเศรษฐกิจตอนนี้ไม่เหมือนสมัยก่อน ลิงเศรษฐกิจพอเพียงมันเหมาะกับสังคมแบบพึ่งพาตนเองเท่านั้น ไทยเรากลับไปจุดนั้นไม่ได้แล้ว