พระอนาคามี พระอรหันต์กลับมาเกิด จากคัมภีร์พุทธวงศ์?
ฝัง
- เผยแพร่เมื่อ 4 ก.ค. 2024
- กุกกุสันธพุทธวงศ์ที่ ๒๒ 84000.org/tipitaka/attha/v.ph...
โกนาคมนพุทธวงศ์ที่ ๒๓ 84000.org/tipitaka/attha/v.ph...
กัสสปพุทธวงศ์ที่ ๒๔ 84000.org/tipitaka/attha/v.ph...
พุทธวงศ์ 0:30
กุกกุสันธพุทธเจ้า 4:00
โกนาคมนพุทธเจ้า 5:30
กัสสปพุทธเจ้า 6:58
ช่วงเวลาระหว่างยุคกัสสปพุทธเจ้า กับยุคพุทธกาล 9:25
ตัดสินตรงนี้เลย หากเป็น อานานคามี หรือ อรหันต์ แล้ว กลับมาเกิด คือ ต้อง มุดช่องคลอด ออกมา โตขึ้นมีเมีย มีลูก 😅 มันไม่ใช่แน่นอน 😊 และในชาติที่เป็นนายช่างทอง ที่แอบเล่นเมียคนอื่น นั้น อานาคามี หรือ อรหันต์ จะทำแบบนั้นหรือ 😅 เห็นชัดว่าไม่ใช่ 😅 พระมหาโพธิ์สัตว์ ได้รับคำทำนายแล้ว ก็ตาม ก็เป็นปุถุชนอยู่ดี 😊 เพียงแต่ มีความรู้เต็มที่พร้อมที่จะบรรลุ 😊 แต่ด้วยสัจจะ ที่ปราถนาไว้ จึงยังไม่สามารถบรรลุได้แม้แต่ขั้น โสดาบัน😊
😂😂
หมายถึง พ่อแม่ ต้องบริสุทธิด้วยศีลครับ ถึงจะเป็นภาชนะให้ผู้มีบุญบารมีมาเกิดครับ
พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันก็เกิดจากครรภ์มารดา มุดซ่องคลอดออกมาครับผม มันเป็นธรรมชาติของมนุษย์ แต่ท่านมีบารมีเก่ามาด้วย เมื่อถึงเวลาอันเหมาะสมก็ตรัสรู้
มันเป็นวรรณกรรมไม่ใช่สัจธรรม ความศรัทธาต้องใช้สันทิฐิโก กาลามาสูตรและต้องมีที่มา (อิทัปปจยตา) เป็นเครื่องช่วยตัดสินใจ
@@phutthiwongsophon3662 ที่ยังมุดช่องคลอดเกิดออกมาได้ ก็มีตั้งแต่ สกิทาคามี โสดาบัน และ ปุถชน ไม่ใช่อานาคามีไม่ใช่อรหันต์ไม่ใช่พระพุทธเจ้าที่จะมุดช่องคลอดออกมา โตมาเสพกามมีเมีย มีลูก แบบนั้นผิด
ยังจะมีคนที่เชื่อว่า อานาคามี อรหันต์ พระพุทธเจ้า สามารถจะมามุดช่องคลอดเกิดออกมาได้อีกเหรอเนี่ย ไปศึกษาพระไตรปิฏกให้ดีๆ
กราบขอบคุณมากเลยครับที่นำเสนอเรื่องนี้ครับ จริงๆเราชาวพุทธถ้าได้ศึกษามาแล้วก็จะรู้ในระดับหนึ่งถึงสิ่งที่ว่า พระอนาคามีผู้ไปอุบัติในพรหมโลกแล้วจะไม่มีทางมาอุบัติเกิดอีก นอกจากจะอุบัติในพรหมชั้นอกนิฏฐภูมิและบรรลุพระอรหันต์เข้าสู่พระนิพพาน ส่วนพระอรหันต์ที่ท่านดับกิเลสสิ้นแล้ว ไม่มีทางกลับมาเกิดอีกครับ🙏🙏🙏☺️ขออนุโมทนา สาธุๆๆด้วยนะครับในการเผยแพร่ธรรมะเรื่องนี้ครับ☺️🙏🙏🙏
ใน ปฏิจจสมุปบาท สายดับ บอกไว้ให้รู้ตามแบบชัดเจนนั่นเองค่ะ เพราะความดับลงแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นนี้ ย่อมมีด้วยอาการอย่างนี้ ดังนี้
@@user-tl5ws1fe7e สาธุๆๆครับผม🙏🙏🙏☺️
ตั้งชื่อคลิป คิดทันทีเลย😅
เคยศึกษาคัมภีร์พระพุทธวงค์ พระพุทธเจ้าท่านทรงเล่าประวัติการสร้างบารมีเพื่อเป็นพระพุทธเจ้า ใช้เวลาเนิ่นนานมาก พบพระพุทธเจ้า 25 พระองค์ ถ้ารวมพระพระศรีอาริยเมตตรัยในอนาคตเป็น 26 พระ และรวมพระพุทธเจ้า 2 พระองค์ก่อนหน้า ที่พระโพธิสัตว์ท่านไม่ทันได้เกิดร่วม คือพระพุทธเจ้าตัณหังกร พระพุทธเจ้าสรณังกร รวมพระพุทธเจ้า 28 พระองค์
ส่วนพระพุทธเจ้าทีปังกรนั้น ได้ตั้งลำดับเป็นองค์ที่ 1 ในลำดับคัมภีร์พระพุทธวงศ์ ในชาติที่พระโพธิสัตว์หรือพระพระโคดมพระพุทธเจ้าของเรา ท่านเกิดเป็นดาบสสุเมธ ได้เจอพระพุทธเจ้าทีปังกร เกิดความเลื่อมใส และมีความคิดอยากเป็นพระพุทธเจ้าบ้าง และพระพุทธเจ้าทีปังกรก็ทรงทำนายอนาคตพระฤาษีสุเมธว่าจะตัสรู้เป็นพระพุทธองค์หนึ่งในอนาคต สร้างบารมี 4 อสงไขย
พระพทธเจ้าทีปังกรสมัยนั้น คนเลื่อมใสอัศจรรย์มาก แสงสว่างหรือรัศมีท่านโชติ์ช่วงทั้งกลางวันกลางคืน
เวลากลางคืนคนไปกราบฟังเทศน์ ที่ๆพระพทธเจ้าทีปังกรประทัปอยู่ ที่ๆนั้นจะสว่างโชติ์ช่วงมาก เหมือนไม่ใช่กลางคืนเลย ท่านจึงได้รับฉายาว่า..พระพุทธเจ้าทีปังกรรัศมีโชติ์
เวลาพระพุทธทีปังกรทรงแผ่พระรัศมี โลกของคนยุคนั้นจะไม่มีกลางคืนเลย จะรู้ว่าเวลาไหนกลางวัน ก็รู้ในยามไก่ขัน และดอกไม้บาน
ในยามที่พระพุทธเจ้าทีปังกรเสด็จดับขันธ์ปรินิพพาน โลกก็มืดสนิทลง เป็นที่เวทนาแก่หมู่สัตว์ในยุคนั้น กว่าจะชินแสงพระอาทิตย์แสงพระจันทร์ก็ใช้เวลานานเป็นเดือนๆ
ส่วนพระอนาคามี และพระอรหันต์กลับชาติมาเกิดอีก ไม่มีกล่าวใว้ในคัมภีร์พระพุทธวงศ์
ไม่ใช่เหตุ ไม่ใช่ฐานะที่จะเป็นไปได้
ยกเว้นพวกเราเข้าใจผิดกันไปเอง ว่าท่านกลับมาเกิดอีก
พระอนาคามีจะเกิดในพรมหมโลกชัั้นสุทธาวาสอย่างเดียวเท่านั้น
พระอนาคามี 5 สุทธาวาส 5 ตามประเภทอินทรีย์บารมีมรรคจิตที่ต่างกัน
เช่นพระอนาคาอินทรีย์อ่อนท่าน ท่านก็เกิดพรหมโลกชั้น อวิหา..อตัปปา..สุทัสสา..สุทัสสี..อกนิฏฐาภพ ตามลำดับ
ส่วนพระอรหันต์ไม่มีเหตุจะต้องเกิดแน่นอน มักจะสับสนกันว่า พระโพธิสัตว์เป็นพระอรหันต์ สับสนกันมากในวงสังคมชาวพุทธ เช่นพระศรีอริยเมตตรัยคือพระอรหันต์ คือพระสังกัจจาย์ สับสนปนเปกันหมด
ธรรมชาติของพระโพธิสัตว์ท่านยังเป็นปุถุชนอยู่ แต่เป็นกัลยาณปุถุชน ไม่ได้บรรลุอริยบุคคลชั้นใดๆ ไม่ได้เป็นพระโสดาบัน ไม่ได้เป็นพระอรหันต์
ในอดีตพระพุทธเจ้ายังเป็นพระโพธิสัตว์ อีกชาติเป็นฤาษีเจ้าสำนัก สำเร็จฌาน อภิญญา 5 ระลึกชาติได้เป็นแสนๆชาติ คนสมัยสมัยนั้นก็คิดเป็นพระอรหันต์ แต่แท้ที่จริงแล้วท่านยังไม่ได้แม้แต้พระโสดาบันเลย
เวลาเจริญวิปัสสนา หรือเจริญญาณ ญานจะไปติดขัดที่ญาณ 12 ไม่ขึ้นไม่ผ่านญาณ 13
สาเหตุที่พระโพธิสัตว์ไม่ก้าวผ่านญาณที่ 13 เพราะจิต เพราะกรรมยังข้องในพระพุทธภูมิ ผู้ปรารถนาพุทธภูมิ วิถีจิตจะไม่ก้าวเข้าสู่โคตรภูญาณได้
ได้แต่โลกิยญาณ ญาณที่ 1-12
โลกุตรญาณ ญาณที่ 13-16
ถ้าคนเราเข้าธรรมชาติการเจริญญาณ เจริญวิปัสสนา ก็จะไม่สับสนเรื่องพระอริยชั้นไหนเกิดอีก ไม่เกิดอีก และจะสิ้นสงสัยพระอนาคามี พระอรหันต์ และพระโพธิสัตว์โดยประการทั้งปวง
พื้นฐานจิตใจ ของ หลวงพ่อ ในข่าว ท่านยึดพระโพธิสัตว์ ครับ ท่านก็เลยวิปลาส ไป 😂😂
อันนี้ตรงเป๊ะ ถูกต้องไม่มั่ว👍
@@user-tv9ri6hu3eเอ็งนี่ไม่เคยฟังพระสัทธรรมปุณฑริกสูตรอ่ะดิ่ ขนาดมหาเถรีภัททรากัจจานีภิกษุณีอรหันต์ผู้เป็นเลิศในการระลึกชาตได้(อดีตพระนางพิมพายโสธารา)ยังได้รับพุทธพยากรณ์เลยว่าจะได้สำเร็จอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณในกาลอนาคต แม้แต่พระสารีบุตรก็เฉกเช่นเดียวกันที่จะได้สำเร็จอนุตตรสัมมาสัมโพธิญานเป็นพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งในอนาคต
@@LinkingWay มั่วแล้วครับผม
@@user-lq4ln7xu7q ฮืม! ต้นตระกูลพุทธวงศ์มาจากไหนคุณพอจะรู้มั้ย องค์แรกเลยน่ะ ก่อนพระทีปังกรพุทธเจ้าตามตำราพระไตรปิฎกน่ะมาจากไหน องค์แรกของพุทธะทั้งปวงน่ะมาจากไหน มีในตำราไตรปิฎกมั้ย ไหนลองเล่ามาหน่อยสิ่
ผมขอเสนอทางออกให้ที่ไม่ต้องมาทะเลาะกันให้พระพุทธศาสนาต้องมีวหมอง "เพราะทิฏฐิมานะ " ที่แตกต่างกัน ในครั้งนี้ ดังนี้..คือให้อดีตพระสาขา อโศก" ลาสิกขา" ! แล้ว " ตั้งตนเป็นเจ้านิกายใหม่" ครองผ้าแบบใหม่" หากมั่นใจว่าคำสอนตนนั้น "ถูกต้องจริงแท้ตามทิฏฐิแห่งตนฯ". เพราะคำสอนที่ใช้สอนอยู่ จริยาวัตร การเลี้ยงชีพ และ พระธรรม สิกขาบททั้งปวง ล้วนเป็นของ พระพุทธโคดม ศากยะมุนีโคตมโครต" และ คณะสงฆ์ไทย ก็มีกฏควบคุมพระพุทธศาสนานี้ โดย มหาเถระสมาคม โดยอ้างอิง ตัวบังคับใช้ ทั้งพระวินัย , พระธรรมคำสอน ยึดตามฉบับที่ใช้ปัจจุบัน..หากบุคคล มีความเห็นต่างไปจากพระไตรปิฏก ของ มหาเถระสมาคมใช้ปกครองอยู่ ไม่ยอมเชื่อและ ทำตามกฏนั้น บุคคลนั้น " ก็ควร ลาออก เพื่อสะดวกในการ ใช้กฏ ใช้กติกาใหม่ของตน ถ้าเชื่อว่าตนถูกต้อง และมีคนเชื่อตามมากพอ ในความคิดตน.
ผลคงเป็นอย่างนั้นล่ครับ เพียงแต่ต้องเจอปัญหาจากชาวบ้านที่ศรัทธาหลวงพ่อ หลายๆเคสเห็นว่า เวลาชาวบ้านเค้าเชื่อ เค้าจะศรัทธาแบบไม่ลืมหูลืมตา ชาวบ้านเค้าไม่ได้ศึกษาลึกซึ้ง จึงแยกไม่ออกว่าอันไหนจริง อันไหนบิดเบือน เหมือนผู้รู้
ปาราชิกไม่สามารถบวชอีกได้นอกจากเอาผ้ามาห่มเองตั้งตัวตนเองสอนธรรมโดยความเข้าใจของตัวเองเป็นที่ตั้ง
พระไตรปิฏกของมหามงกุฏราชวิทยาลัย เล่มที่73 คัมภีร์พุทธวงค์ด้วยตรงเกี่ยวกับวงค์ของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์เขียนไว้ละเอียดมากไปหาอ่านได้และค่อยข้างแน่นอนมั่นใจได้ ไม่มีการเกิดของพระอนาคามีและอรหันต์และพระพุทธเจ้า แม้แต่หลวงพ่อดังที่ธรรมะขั้นสูง อย่าง หลวงพ่อ ฤษีลิงดำ วัดท่าซุง และหลวงตา มหาบัว วัดบ้านตราด ที่ได้ฟังมาก็เทศน์ว่าพระอนาคามี และอรหันต์จะไม่กลับชาติมาเกิดอีก ต้องตั้งใจหาคลิปของท่านสองค่ะ คนฟังก็จำไม่ได้ว่าอยู่ตอนไหนแต่เคยฟังแน่นอน ท่านทั่งสองเทศน์ไม่ผิดเพี้ยนค่ะตรงพระไตรปิฏก คนที่ปฏิบัติที่จิตละเอียดจริงๆแม้แต่คนที่ได้แค่ฌานยังถึงขั้นอริยะบุคคล ยังไม่อยากมาเกิดเลย เวลาบ้านเมืองเดือดร้อนวุ่นวายเหล่าเทพทั้งหลายแทบจะไปอ้อนวอนร้องกันให้ลงมาเกิดในมนุษย์เลย ท่านทั้งหลายไม่อยากเกิดในโลกมนุษย์สักเท่าไรการหยั่งลงสู่ครรถ์นั้นเป็นทุกข์มาก เหมือนอยู่ในนรกครูถท่านอุปมาอย่างนั่น
การอ่านพระไตรปิฏกให้อ่านต้นฉบับทุกฉบับ อย่าไปอ่านแบบแยกย่อยมาผู้อ่านเคยมาแล้ว พอเอาเทียบเคียงกับต้นฉบับแล้วส่วนมากจะไม่ค่อยตรงกับต้นฉบับค่ะ ตอนหลังก็เลยเอาจากพระไตรปิฏกจากตู้พระไตรปิฏกด้วยตรงจะตรงถูกต้องกว่า ห้องสมุดบางห้องที่มีความรู้ทางธรรมะยังไม่เก็บฉบับแบบแยกย่อยเลยเอาไว้เลยเอาออก ยังเรียกว่าพระไตรปิฏกว่าของพระนอกรีต เลยค่ะ เพราะเอาพระไตรปิฏกมาตีความหมายตามความเข้าใจของตนเองอย่างผิดเพี้ยน การอ่านให้ เอาจากตู้พระไตรค่ะแนะนำค่ะ อยากรู้ เกี่ยว กับ คัมภีร์พุทธวงศ์ ให้อ่าน เล่มที่ 73 ของมหามงกุฏราชวิทยาลัย
อ่านพระไตรปิฎก ควรใช้ ดวงตา ญาณ ปัญญา วิชชา แสงสว่าง เบื้องต้น หรือ ปริวัฎฎิญาณ โดยอาการ 3 ถึงจะทำความจริง ในอริยสัจธรรม ในพระไตรปิฎก ให้เข้าใจ แล้วท่างจะเห็น สิ่งที่ปรากฎ ต่อเบื้องหน้า ที่หมู่สัตว์ ไม่เคยเห็น จะได้เห็น เช่น สัตตานัง ปฎิกูล เป็นต้น ตามกำลังฌาณ บารมี ของผู้ศึกษา
พระศาสดาตรัสสอนไว้ว่า ละธรรมอย่างหนึ่ง ได้อนาคามี(นัยที่๑)
...
ภิกษุทั้งหลาย! เธอทั้งหลายละธรรมอย่างหนึ่งได้ เรารับรองความเป็นอนคามีของเธอทั้งหลาย ธรรมอย่างหนึ่งเป็นอย่างไร?
ภิกษุทั้งหลาย! เธอทั้งหลายละธรรมอย่างหนึ่ง คือ โลภะได้ เราเป็นผู้รับรองเธอทั้งหลายเพื่อความเป็นอนาคามี.
ชนผู้เห็นแจ้งทั้งหลาย รู้ชัดด้วยดีซึ่งความโลภอันเป็นเหตุให้สัตว์ผู้โลภไปสู่ทุคติ แล้วละได้ ครั้นละได้แล้ว ย่อมไม่กลับมาสู่โลกนี้อีกในกาลไหนๆ.
อ้างอิง
บาลี อิติวุ.ขุ๒๕/๒๒๙/๑๗๙.
...
ละธรรมอย่างหนึ่ง ได้อนาคามี (นัยที่๒)
...
ภิกษุทั้งหลาย! เธอทั้งหลายละธรรมอย่างหนึ่งได้ เรารับรองความเป็นอนาคามีของเธอทั้งหลาย ธรรมอย่างหนึ่งเป็นอย่างไร?
ภิกษุทั้งหลาย! เธอทั้งหลายละธรรมอย่างหนึ่ง คือ โทสะได้ เรารับรองความเป็นอนาคามีเธอทั้งหลาย.
ชนผู้เห็นแจ้งทั้งหลาย รู้ชัดด้วยดีซึ่งโทสะอันเป็นเหตุให้สัตว์ผู้ประทุษร้าย ไปสู่ทุคติ แล้วละได้ ครั้นละได้แล้ว ย่อมไม่มาสู่โลกนี้อีกในกาลไหนๆ.
อ้างอิง
บาลี อิติวุ.ขุ๒๕/๒๒๙/๑๘๐.
...
ละธรรมอย่างหนึ่ง ได้อนาคามี (นัยที่๓)
...
ภิกษุทั้งหลาย! เธอทั้งหลายละธรรมอย่างหนึ่งได้ เรารับรองความเป็นอนาคามีของเธอทั้งหลาย ธรรมอย่างหนึ่งเป็นอย่างไร?
ภิกษุทั้งหลาย! เธอทั้งหลายละธรรมอย่างหนึ่ง คือ โมหะได้ เรารับรองความเป็นอนาคามีเธอทั้งหลาย.
ชนผู้เห็นแจ้งทั้งหลาย รู้ชัดด้วยดีซึ่งโมหะอันเป็นเหตุให้สัตว์ผู้หลงไปสู่ทุคติ แล้วละได้ ครั้นละได้แล้ว ย่อมไม่มาสู่โลกนี้อีกในกาลไหนๆ.
อ้างอิง
บาลี อิติวุ.ขุ๒๕/๒๒๙/๑๘๑
...
ละธรรมอย่างหนึ่ง ได้อนาคามี (นัยที่๔)
...
ภิกษุทั้งหลาย! เธอทั้งหลายละธรรมอย่างหนึ่งได้ เรารับรองความเป็นอนาคามีของเธอทั้งหลาย ธรรมอย่างหนึ่งเป็นอย่างไร?
ภิกษุทั้งหลาย! เธอทั้งหลายละธรรมอย่างหนึ่ง คือ โกธะ(ความโกรธ)ได้ เรารับรองความเป็นอนาคามีเธอทั้งหลาย.
ชนผู้เห็นแจ้งทั้งหลาย รู้ชัดด้วยดีซึ่งความโกธะอันเป็นเหตุให้สัตว์ผู้โกรธ ไปสู่ทุคติ แล้วละได้ ครั้นละได้แล้ว ย่อมไม่มาสู่โลกนี้อีกในกาลไหนๆ.
อ้างอิง
บาลี อิติวุ.ขุ๒๕/๒๒๙/๑๘๒.
...
ละธรรมอย่างหนึ่ง ได้อนาคามี (นัยที่๕)
...
ภิกษุทั้งหลาย! เธอทั้งหลายละธรรมอย่างหนึ่งได้ เรารับรองความเป็นอนาคามีของเธอทั้งหลาย ธรรมอย่างหนึ่งเป็นอย่างไร?
ภิกษุทั้งหลาย! เธอทั้งหลายละธรรมอย่างหนึ่ง คือ มักขะ(ความลบหลู่คุณ)ได้ เรารับรองความเป็นอนาคามีเธอทั้งหลาย.
ชนผู้เห็นแจ้งทั้งหลาย รู้ชัดด้วยดีซึ่งมักขะอันเป็นเหตุให้สัตว์ผู้ลบหลู่ไปสู่ทุคติ แล้วละได้ ครั้นละได้แล้ว ย่อมไม่มาสู่โลกนี้อีกในกาลไหนๆ.
อ้างอิง
บาลี อิติวุ.ขุ๒๕/๒๒๙/๑๘๓.
ถ้ากลับมาเกิดก็คือยังมีความอยากอยู่คือกิเลสอยู่ ถ้ายังใช้พระไตรปิฎกฉบับเดียวกัน หลักการเดียวกันเป็นบรรทัดฐานแล้วนั้นก็ไม่สมควรเบี่ยงเบนคำสอนอันจะเป็นการเข้าใจผิดเป็นอย่างอื่น
❤❤❤ดีมากเลยคลิปนี้...จะพยายามไม่เป็นพุทธตามทะเบียนบ้าน...ทุกศาสนาก็ว่าตามตำรา ใครบิดเบือนคำสอน ก็เลิกให้การนับถือ ไม่ลุก ไม่รับ ไม่กราบไหว้ ไม่ให้อาสนะ ไม่ให้ข้าวปลา
พระอรหันต์เปรียบเหมือนข้าวสวยที่หุงสุกแล้วพร้อมทาน จะเอาไปปลูกย่อมไม่เกิดฉันใด พระอรหันต์ก็ย่อมไม่กลับมาเกิดฉันนั้น
พระอนาคามีเปรียบเสมือน เมล็ดข้าวสารที่แกะเปลือกออกแล้ว จะนำข้าวสารไปหวานในนาย่อมไม่เกิดฉันใด พระอนาคามีย่อมไม่กลับมาเกิดในแดนมนุษย์อีกฉันนั้น ส่วนพระโสดาบันและพระสกิทาคามี เปรียบเสมือนเมล็ดข้าวเปลือกหว่านลงที่ใดย่อมเกิดที่นั่น
บุคคลที่หักคำสอนพระธรรม คำว่าอาคามี คือกลับมาเกิด ส่วนคำว่า อนาคามี แปลว่า ไม่กลับมาเกิด ทำความเข้าใจแค่นี้ไม่ได้ก็จบ
มีแต่โสดาบันครับที่กลับมาเกิดบ่างชาติเดียวบ่างถึง7ชาติเ่านั่น
พระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า พระอรหันต์สาวก ท่านไม่กลับมาเกิดแน่นอนเพราะท่านทำลายเชื้อการเกิดคืออวิชชาได้แล้ว. ถ้ากลับมาเกิดอีกพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ที่ท่านเคยบำเพ็ญมาครั้งเป็นพระโพธิสัตว์ก็ดี พระโพธิสัตว์ที่กำลังบำเพ็ญอยู่ในขณะนี้ก็ดี ท่านจะยอมเสียเวลาไปทำไม ท่านยอมสละร่างกายและชีวิตให้สรรพสัตว์เพื่อบำเพ็ญบารมีเพื่ออะไรถ้าบรรลุพระสัพพัญญุตญาณแล้ว พระปัจเจกเจ้า พระอรหันต์สาวกแล้วยังต้องกลับมาเกิด เวียนว่ายตายเกิดอีกจะเสียเวลาไปเพื่ออะไร แม้นตัวข้าพเจ้าเองกำลังบำเพ็ญบารมีเพื่อหวังพระสัพพัญญุตญาณเช่นกัน
ตื่นๆ
อย่าคิดให้ยาก ปวดหัว ลงมือปฏิบัติธรรม ให้รู้การเกิดการตายในจิตก่อน อะไรคือสาเหตุ ให้เกิด ลองตายได้ยัง.
ใช่
คงจะว่างมาก หาเรื่องแปลกๆที่คนอื่นไม่พูดไม่คิด แต่พอไล่เรียงไปถามไปก็ตอบวกไปวนมา หาเหตุไม่ได้ เรื่องไม่เป็นเรื่อง เรื่องทุกข์ยังไม่รู้ไม่กระจ่างกันเลย หาเรื่องไปเรื่องอื่นเสียแล้ว ไหลไปเรื่อยเปือย
นิพพาน คือ อิสระ หลุดพ้นจากวัฏสงสาร ไม่จำเป็นต้องมาเกิด แต่ไม่ได้ห้าม และพุทธวิสัยไม่มีประมาณ
👍👍👍
..แต่ไม่ได้ห้าม ! แปลว่า มาเกิดได้อีก ถ้าอยากมาเกิด ในเมื่อมีความอยาก(ตัณหา)จะเรียกว่าเป็นอรหันต์ได้หรือ?
..อิสระ หลุดพ้นฯ แต่ไม่ได้ห้าม.. เอ๊ะ! คำพูดย้อนแย้งในตัวมันเองนะ
แม้ถึงนิพพานแล้วก็จะมาเกิดก็ได้ สัตว์โลกจึงเรียกว่า กลับสู่นิพพาน แปลว่าเคยนิพพานกันมาแล้ว ใช่หรือไม่ น่าคิดนะ?
ทำลายอวิชชาสิ้นตัณหาอุปาทานแล้ว จะเกิดอีกเพื่อ? คนเคยอาศัยอยู่ในบ้านที่เต็มไปด้วยขี้และเหยี่ยว พอมีบ้านหลังใหม่สะอาดเหมือนมีคนคอยปัดกวาดตลอดเวลา ยังอยากกลับไปอยู่แบบเดิมไหม?
ใครบอกนิพาน.คืออิสระ...เคยเข้าถึงกันแล้วเหรอ..ถึงจะคัดค้านยังไง...คำว่า.พระนารายณ์..ลงมาเกิด...กษตย์..ปกปิดความจริง...ไม่ว่่า..จะเป่นกษิตย์...ที่แอบอ้างว่าตนเอง..คือพระมหาชนก.....พระนารายณ์..อดีต..พระมหากษิตย์..จะเปิดความจริงทั้งหมด
่
ขอบคุณที่เอาลงให้ได้ฟังครับ สาธุๆ🙏🙏
ฝากเอาเรื่องนี้ไปบอก กับ พระลูกศิตย์ของสมณะโพธิรัก ด้วย
...แก่คงอ่านจำมาผิด ฝั่นเฝือนไปแล้ว
..แม้แต่สมณโพธิรัก ยังไม่ได้บรรลุธรรมอะไรเลย ที่ต้องการมาเกิดอีก แต่มีศรัทธา มีภาระที่ยังทำไม่สำเร๊จ คือตัณหา พาให้เกิด นั่นเอง
อนุโมทนาจ้า ขอไห้เจริญยิ่งฯขึ้นไปไนทางธรรมจ้า
ขอบคุณครับ
เป็นความเข้าใจผิดแน่ ๆ เลยการศึกษาพระพุทธศาสนาแบบนี้
หลักฐานที่นำมาอธิบายหรืออ้างอิงที่แปลกแยกออกไปจากแนวเถรวาท แม้แต่มหายานมาจากการบันทึก การบันทึกด้วยมือก็มาจากการบอกเล่าด้วยปาก การบอกเล่าก็มาจากสัญญาความจดจำได้ สิ่งเหล่านี้ทั้งหมดล้วนตกอยู่ภายใต้กฎแห่งไตรลักษณ์ทั้งสิ้น แล้วเราจะเชื่อถือได้อย่างไรว่าจริงหรือตรงตามนั้น ....สมัยก่อนจวบจนปัจจุบันมีอีกแนวคำสอนหนึ่งที่อ้างว่าบรรดาพระผู้ทรงอภิญญา6 ปฏิสัมภิทาญาณ ระลึกรู้เห็นเหตุการณ์ย้อนหลัง สามารถสื่อสารสอบถามข้อธรรมความจริงในประเด็นต่างๆจากพระได้โดยตรง แล้วเอามาเผยแพร่บอกกล่าวแก่เหล่าศิษย์ ซึ่งในคำสอนเหล่านั้นมีหลายประการมิได้ตรงกับข้อมูลที่ถูกบันทึกไว้ในตำราแต่อย่างใด.....ดังนั้น สิ่งเหล่านี้จึงอยู่ที่ความเชื่อของแต่ละท่าน เพราะความจริงย่อมมีนัยหนึ่งเดียวไม่มีสองในเรื่องนั้นๆ ส่วนมากเท่าที่ปรากฏเป็นพฤติกรรมให้เห็นในสังคมไทยคือยิ่งรู้มากวิวาทะยิ่งมาก ตัวตน(อัตตา)ยิ่งมาก อุปาทานยิ่งหนา มิได้เป็นไปเพื่อความเบาลงแห่งอัตตาเลย.....สาธุธรรม
"🤠สังคมต้องช่วยกัน..อย่าปล่อยให้พระเพี้ยนๆมามั่วนอกตำราชี้นำสังคมไปในทางที่ผิดไม่ได้จะเสียหายมากวันหน้า👍
การบำเพ็ญบารมี10 ทัศน์คือบำเพ็ญบารมีโดยยิ่งยวด เป็นวิถีของพระโพธิสัตตว์ ผู่เป็นพระโพธิสัตว์และหน่อพุทธภูมิ พระทศชาติ นั่นคือผู้มีธรรมอันสูงยิ่งแล้ว เพียงมิได้ระบุ พระเวสสันดร ทานได้แม้เนื้อหนังแห่งตน นั้นชื่อว่าอริยภูมิยิ่งยวด หากไม่รู้มิควรกล่าวให้ผู้ฟังหลงทาง บารมี 10 ทัศนิ คงมิใช่วิสัยสามัญชนดอกหนา ทุกอย่างกลับมาได้หมด ขึ้นอยู่กับเจตนาอันอธิฐานแล้วทำนายแล้ว
ประเด็นคือ ท่านอ้างว่าจาก(คัมภีร์)พุทธวงศ์นั้นพระโพธิสัตว์(หมายเอาพระพุทธเจ้า)ได้ทรงบรรลุอภิญญาหก อันนี้แหละครับคือประเด็นที่ผมอยากขอให้ช่วยอธิบายว่าท่านผู้อ้างเห็นผิดอย่างไรครับ
ท่านน่าจะเข้าใจเคลื่อนครับ บางชาติพระโพธิสัตว์ท่านได้สมาบัติ 8 อภิญญา 5 ที่เป็นผลมาจากโลกีย์ฌาน ส่วนอภิญญา 6 ที่รวมอาสวักขยญาณ ท่านได้ตอนชาติสุดท้ายที่บรรลุเป็นพระพุทธเจ้าเท่านั้นครับ
ผล ของการยึดตำรามากไปจนปัญญาเกินหรือบ้าตำราความจริงในปัจจุบันเห็นๆอยู่ดูไม่ออกไปเชื่อความเชื่อ
พระพุทธองค์ปราถนาถึงพระพุทธเจ้าเพราะฉนั้นพระองค์จึงไม่ปราถนาจะบรรลุธรรม
@@user-jh9wc3pz1uปัญหาคืออ่านตำรานิดเดียวแล้วไปสอนผิดจากแนวทางที่ถูกต้องเพื่อหวังลาภสัการะ แล้วโจมตีคนอื่นว่ายึดแต่ตำรา
พูดอะไร@@RmSatun-qf2pr
หน้าที่ทางโลกยังเรียงลำดับไปมีเหตุมีผลกันเสมอ❤เช่นปลัดทำงานในหน้าที่ด้วยหวังนายอำเภอ วาสนาอายุราชการมากหวังเป็นผู้ว่าราชการ สำรวจตัวเองเก่งรอบด้านหวังอธิบดี เก่งสุดอายุราชการ ปลัดกระทรวงเกษียน60ปี😊 คงไม่มีท่านที่ถึงที่สุดแล้วอยากหรือยังคิดจะมาเริ่มต้นใหม่อีก😅 ปล.ขอให้ตรงปก อย่าย้อนแย้งธรรมจะเรียกอะไรก็สมมุติตามภาษาจะเรียกในแต่ละประเทศ 😊😊😊😊 กราบทุกความดี 🎉🎉🎉🎉🎉
จะว่าไปแล้วถ้าว่าตามพุทธทาสท่านว่าไว้เรื่องบางเรื่องจำเป็นต้องมีในยุคนั้นเพราะศาสนาอื่นเขามีอย่างนั้นจำเป็นต้องมีเพื่อให้พุทธศาสนาอยู่รอดแต่เป้าหมายของพุทธศาสนาคือ กฎ อิทัปปัตยตา. อิทัปปัตยตาปฏิจจสมุปบาท. ความหมายของโลกกว้างศอกยาววานี้....
สาธุครับ🙏🌷🙏
เป็นไปแทบไม่ได้ที่ปุถุุชนจะทนสร้างบารมีถึง 20 อสงไขย
ยิ่งกว่านั้นยังได้ ตราบใดที่ไม่รู้แจ้งอริยสัจ๔
เรื่องแบบนี้
มันเป็น
อจินไตย
คับ
ใช่ เห็นด้วย
มโนสัญเจตนาที่หนักแน่นแน่วแน่เมื่ออฐิษจิตปราถนาพุทธภูมิแล้วท่านบำเพ็ญเพียรได้จริง ไม่งั้นคงไม่มีพระพุทธเจ้าให้เราเห็น(พระธรรมวินัยเป็นองค์แทนในปัจจุบัน) อย่าเอาจิตปุถุชนมาเทียบจิตโพธิสัตว์เลย ส่วนคนที่เข้าใจว่าพระโพธิสัตว์ควรบรรลุอริยะแล้วก็ลองเข้าไปศึกษาดูว่าธรรมที่ท่านบรรลุและการเข้าถึงอรหัต(สิ้นกิเลสตัณหาหมดแล้ว)ต่อไปนั้นไม่เนิ่นช้าเป็นกัปป์หรืออสงไขยหรอก อย่างพระโสดาบันนานสุดก็ไม่เกิน 7 ชาติ
@@หมาน้อยคอยเจ้าของ บุญกรรม หรืออำนาจวาสนาพระโพธิญาณจะทำให้จิตพระโพธิสัตว์เข้มแข็ง ไม่ย้อท้อต่ออุปสรรคง่ายๆ
พระไตรปิฎกคัมภีร์จริยา พระพุทธองค์จะเล่าถึงความยากลำบากในชาติต่างๆ ปุถุชนทั่วๆไป จะท้อ จะทิ้งปณิธาน แต่พระโพธิสัตว์ท่านที่ได้รับพยากรณ์แล้ว
ท่านจะไม่ทิ้งอุดมการณ์ เกิดกี่กัปป์กี่กัลป์ท่านก็ไม่ทิ้งปณิธาณ ส่วนท่านที่ปราถนาพุทธภูมิ ช่วงที่ยังไม่ได้พบพระพุทธเจ้าองค์ใด ยังไม่ได้รับพยากรณ์ ก็อาจจะท้อบ้าง เบื่อหน่ายทุกข์ เบื่อหน่ายวัฎฏะสงสาร ท้อแท้ เลยอธิษฐานลาพุทธภูมิก็มีเยอะ
อรหันต์หมดแลัวตัดแล้วรากเง่าทั้งหลายไม่มีแล้วเชื้อหน่อทั้งหลายไม่อาจมีรากเง่าแตกหน่อเกิดหน่อได้แล้วไม่อาจเกิดใหม่แล้ว❤เป็นไปตามทำนาย16ข้อจะหลงผิดเข้าใจผิดเกิดยังแอบอ้างศาสนาหากินมากมายเป็นเหตุแห่งเสื่อมลงเห็นได้ชัดยุค2500😢
ส่วนมาเด็กที่โดนเทและถูกพรามเก็บมาเลี้ยงมรรคจะสำเร็จธรรมชั้นสูงได้เร็ว เพราะความเข็ญใจแลเห็นได้เร็ว จากความทุกข์นั้น
สาธุ ครับ หวังว่าผู้คนทึ่เข้าใจเรื่องนี้ผิด จะกลับใจไปศึกษาให้ดีก่อน แล้วค่อยมาสอนนะครับ
* ประเด็นนี้แทบไม่มีใครเข้าใจผิด .. มีเพี้ยนคนเดียว ทำคนที่เหลือ วุ่นวายไปหมด
ประเด็นต่อไปคือ คนเพี้ยน กลับเชื่อมั่นว่าตนถูก ตัวเองไม่สังกัดคณะสงฆ์ ก็ไม่รู้จะให้ใครสอบทาน
และนี่ถ้าอาบัติจะไปปลงอาบัติกับใคร? อยู่ตัวคนเดียวเขาให้อยู่เพื่อภาวนา แต่ยังต้องสังกัดเพื่อมีการสอบทาน
แต่นี้อยู่ตัวคนเดียว เพื่ออิสระเสรี แบบนี้แอบทำผิดศีลนี่ สบายเลยมั้ย
5555ใช่
ดูก็ดีเหมือนกันนะ เมื่อมีพระองค์หนึ่งมาเปิดประเด็นนี้ ทำให้คนสนใจ ในพระพุทธศาสนามากขึ้น
เดินทางถึง100แล้วกลับมาเพื่อนับ1ใหม่หรือครับเพื่ออะไรครับ การเกิดใหม่คือกลับมาสร้างบาปสร้างกรรม
พระโสดาบัน..พระสกทาคามี..ยังมีประพฤติผิดล่วงศีลบ้าง แต่ก็เป็นเล็กๆน้อยๆแค่นั้น พอท่านกลับได้สติท่านก็จะสามารถหยุดการประพฤติผิดนั้นได้ ตามกำลังของมรโรคจิตผลจิต..ที่ท่านบรรลุได้แล้ว ซึ่งต่างจากปุถุชนธรรมดาทั่วไปนัก(สำนึกกลับจิตได้เฉียบพลัน) ส่วนพระอนาคามีนั้นคือผู้ไม่กลับมาอีก พ้นจากกามาวจรภูมิ=โลกมนุษย์+โลกสวรรค์อย่างเด็ดขาด..และไม่อุบัติเกิดในรูปพรหมทั้งปวง ละจากอัตภาพปัจจุบันแล้วตรงสู่สุทธาวาสพรหมเท่านั้น และจะปฏิบัติธรรมบนสุทธาวาสพรหมนั้นๆ จนบรรลุเป็นอรหันต์ และเข้าถึงการปรินิพพานในสุทธาวาสพรหมนั้นเอง..ส่วนผู้บรรลุพระอรหันต์ได้ในอัตภาพปัจจุบันนี้นั้น การตายของท่านก็คือดับขันธ์แล้วเข้าพระนิพพานเป็นปัจจุบันสถานเดียว..((เพิ่มเติม..พระโสดาบัน ตายจากปัจจุบันนี้และจะเกิดอีกเพียง 7 ชาติเท่านั้น ก็จะได้บรรลุอรหันต์ พระโสดาบันจะไม่มีชาติที่ 8..ส่วนพระสกทาคามีนั้น ตายจากอัตภาพปัจจุบันนี้ ก็จะเกิดได้อีกเพียง 1ชาติบ้าง/ 2 ชาติบ้างตามแต่กำลังของบารมีของท่าน))ความรู้จากการศึกษาเพียงเล็กน้อย+กับได้ยินได้ฟังจากพ่อแม่ครูบาอาจารย์ ที่ท่านพร่ำสอนมาและได้ปฏิบัติตามนี้น เพียงเล็กๆเพียงน้อยๆส่วนตัว ด้วยความเคารพต่อธรรมคำสอน-ปฏิปทาในธัมมาปฏิบัติที่สมควรแก่ตน((ขอแสดงความคิดเห็นตามนี้))
พระโพธิสัตว์ คือ คนที่มีความปราถนาในพุทธภูมิ ปราถนาจะเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
แบ่งเป็น อนิตนัยโพธิสัตว์ คือยังไม่ได้รับพุทธพยากรณ์ ก็ต้องสั่งสมบุญ และนิวตนัยโพธิสัตว์ คือ ได้รับพุทธพยากรณ์ว่าได้เป็น ในอนาคต
Rank สามัญชน สามารถทำบุญบาปได้ ยังไม่ได้ปิดอบาย หมายถึงมีโอกาสตกอบายได้
พระอรหันต์ คือ เผากิเลสหมดสิ้นตัดเหตุผลทั้งหมด คือจะไม่มีเหตุต้องมาเกิด มีแต่ดับทุกข์โดยสมบูรณ์
Rank No more incarnation
ที่ว่ามามันก็ถูกแต่ต้องรู้คำว่ามรรคกับผลมีความหมายว่าอย่างไรทำไมถึงว่ามรรคแล้วทำไมถึงว่าผลต้องทำความเข้าใจมรรคผลให้ถูกต้องแล้วจะลงถึงบ้างออเอง มันจะเหมือนบุษบาสูตร์บอกได้เท่านี้ต้องรู้ด้วยตัวเองสัมผัสตัวมือตัวเองในตำรานั้นเป็นธรรมเขาไม่ไช่ธรรมของเรา❤❤
เหตุแห่งการเวียนว่ายตายเกิดดับไปแล้ว จะเกิดอีกได้อย่างไร เหมือนไข่ไก่ที่กระเทาะเปลือกนำมาปรุงเป็นอาหารแล้วก็ไม่สามารถโตมาเป็นไก่ได้อีก มีอะไรเป็นเหตุ ก็จะมีผล เหตุดับแล้ว ผลจึงไม่เกิด
ออกกฎหมายออกมา พระต้องจบ ประเรียนธรรม 9 ประโยค สอนได้ เทศน์ได้ จะได้ไม่ผิด
พระอรหันต์เป็นผู้ที่บรรลุนิพพาน ซึ่งพระพุทธองค์ตรัสไว้ว่า การบรรลุนิพพานเป็นการหลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิด แต่ถ้าพระอรหันต์กลับมาเกิดอีกได้ ดังนั้นจะเป็นการหลุดพ้นได้อย่างไร ซึ่งเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เพราะขัดแย้งกับคำสั่งสอนของพระพุทธองค์
คนที่เข้าใจเรื่องเหล่านี้ได้ระเอียด ไม่ยึดติดคิดนึกตามตำราอ้างอิง ควรมีศีลปฏิบัติธรรม จนไม่กลัวตายกลัวเจ็บลดละความอยากมีอยากเป็นอยากได้จิตละทิ้งธาตุขันธ์ภาวนาจนจิตเห็นหนทางพระนิพพาน(3.ภาวนามยปัญญา)1.สุตมยปัญญา2.จินตามยปัญญา(ปัญญา1/2ยังไม่ถึงปัจจัตตัง(รู้ได้เฉพาะตน)
ด้วยพระทันตธาตุส่วนพระเขี้ยวแก้วซี่บนขวาของสมณะโคดม พุทธเจ้า
ความตรัสรู้จึงมีแก่รา
เปน พุทธวงศ์
อืนทรา
รามเทพบุตร์
.พระพุทธศรีอารย์❤
คนที่ยังไม่เคยไปถึงจ.เชียงใหม่ แต่ชอบพูดถึงสิ่งต่างๆที่อยู่ในจังหวัดเชียงใหม่อย่างกับไปถึงแล้ว
มากเรื่องมากความครับ
จะคำภีร์ไหนถ้าไม่ใช่คำของพระศาสดาถือว่าตกไปเพราะ เหตุนี้พระศาสดาจึงตรัสไว้สมัยที่พระองค์ยังพระชนม์ชีพอยู่ว่า ดูก่อนภิขุทั้งหลาย ในกาลยาวไกลในอนาคตจะมีภิกขุไม่ฟังคำตถาคต จะไปเชื่อถือในคำแต่งใหม่ที่เรียกว่า สาวกภาษิต พระอรหันต์ในสมัยพระองค์ต่างตกใจว่าด้วยเหตุไฉนภิกขุถึงจะไม่ฟังคำพระศาสดาที่ทรงเป็นเจ้าของศาสนาจะใช้คำของตนเองซึ่งไม่ใช่ผู้รู้จริงไปสอนพุทธศาสนิกชนแบบนี้มันจะไปใช้หรือและเป็นไปได้หรือ?ด้วยภิกขุมิได้เป็นสัพพัญญูเหมือนพระศาสดาจะเข้าใจหลักธรรมะได้เยี่ยงไร? ทำให้เกิดนิกายมากมายบนโลกนี้ทั้งที่มีพระศาสดาเพียงพระองค์เดียวคำสอนเดียวเท่านั้น
โชติปาลมาณพได้บรรพชาอุปสมบทแล้วในสำนักพระผู้มีพระภาคทรงพระนามว่ากัสสป ผู้เป็น
พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๓ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๕
มัชฌิมนิกาย มัชฌิมปัณณาสก์
ราชวรรค
๑. ฆฏิการสูตร ต
สมัยพระพุทธเจ้ากัสสปะ โชติปาละได้บรรพชาอุปสมบท แม้ไม่ได้ยืนยันถึงมรรคผล ถ้าพิจารณาคนที่เป็นพราหมณ์แล้วออกบวชด้วยศรัทธาแล้ว ท่านก็ไม่น่าจะประพฤติออกนอกธรรมวินัย เมืาอประพฤติ
หลักฐานที่แท้จริงมันอยู่ในใจของคนผู้ปฏิบัติ มันไม่ได้อยู่ในตัวหนังสือ หนังสือหรือตำราเป็นแบบแผนแนวทางเอาไว้เดินตาม อนาคามีหรืออรหันต์ จะมาเกิดหรือไม่ลงมือลงทุนลงแรงกายแรงใจปฏิบัติดู อย่าไปเถียงกัน ปฏิบัติถึงอนาคามีถึงอรหันต์ก่อนจะรู้จักว่า มาเกิดหรือไม่มาเกิด..
จะไม่ไห้เถียงได้ยังไงท่านเอามาสอนได้ยังไงพระอรหันต์กลับมาเกิดอีกนั้นพระสอนผิดคนที่เชื่อก็พลอยหลงผิดไปด้วยนั้นเท่ากับทำลายคำสอนของพระพุทธเจ้า
บาปหนาสาหัส
สาธุ
ตัณหาพาไปให้อยากดัง..น่าสงสาร
แต่งใหม่เพิ่มมาภายหลัง ครับ
แต่งเก่า แต่งใหม่นับจากอะไร
ใครแต่งครับ?
@@krayfishram3640 :พระพุทธเจ้าให้ใช้หลักมหาปเทสสี่ ตรวจสอบ โดยให้ใช้พระไตรปิฏกฉบับหลวง มาประกบทุกๆ พระสูตรดูครับ
หลักการ คำสอนของพระพุทธเจ้าตั้งแต่พระองค์ตรัสรู้จนถึงปรินิพพาน ทุกคำสอนจะสอดรอบไม่ขัดแย้งกันครับ
คำพูดที่พูดมาทั้งหมดนับแต่วันตรัสรู้ สอดรับไม่ขัดแย้งกัน.
...
ภิกษุทั้งหลาย! นับตั้งแต่ราตรี ที่ตถาคตได้ตรัสรู้อนุตตรสัมมา-สัมโพธิญาณ จนกระทั้งถึงราตรีราตรีที่ตถาคตปรินิพพานด้วยอนุปาทิเสสนิพพานธาตุ ตลอดเวลาระหว่างนั้น ตถาคตได้กล่าวสอน พร่ำสอนแสดงออก ซึ่งถ้อยคำใด ถ้อยคำเหล่านั้นทั้งหมด ย่อมเข้ากันได้โดยประการเดียวทั้งสิ้น ไม่แย้งกันเป็นประการอื่นเลย.
อ้างอิง
บาลี อิติวุ.ขุ.๒๕/๓๒๑/๒๙๓.
*พระพุทธเจ้าทรงบอกวิธีแก้ไขความผิดเพี้ยนในคำสอน ไว้ว่า..
๑.(หากมี) ภิกษุในธรรมวินัยนี้ กล่าวอย่างนี้ว่า.. ผู้มีอายุ! ข้าพเจ้าได้สดับมาเฉพาะพระพักตร์พระผู้มีพระภาคว่า "นี้เป็นธรรม นี้เป็นวินัย นี้เป็นคำสอนของพระศาสดา"...
๒(.หากมี) ภิกษุในธรรมวินัยนี้ กล่าวอย่างนี้ว่า..ในอาวาสชื่อโน้น มีสงฆ์ผู้พร้อมด้วยพระเถระ พร้อมด้วยปาโมกข์ ข้าพเจ้าได้สดับมาเฉพาะหน้าสงฆ์นั้นว่า.. "นี้เป็นธรรม นี้เป็นวินัย นี้เป็นคำสอนของพระศาสดา"...
๓.(หากมี) ภิกษุในธรรมวินัยนี้ กล่าวอย่างนี้ว่า.. ในอาวาสชื่อโน้น มีภิกษุผู้เป็นเถระอยู่จำนวนมาก เป็นพหุสูต เรียนคัมภีร์ ทรงธรรม ทรงวินัย ทรงมาติกา ข้าพเจ้าได้สดับมาเฉพาะหน้าพระเถระเหล่านั้นว่า.. "นี้เป็นธรรม นี้เป็นวินัย นี้เป็นคำสอนของพระศาสดา"...
๔.(หากมี) ภิกษุในธรรมวินัยนี้ กล่าวอย่างนี้ว่า.. ในอาวาสชื่อโน้น มีภิกษุผู้เป็นเถระอยู่รูปหนึ่ง เป็นพหุสูต เรียนคัมภีร์ ทรงธรรม ทรงวินัย ทรงมาติกา ข้าพเจ้าได้สดับมาเฉพาะหน้าพระเถระรูปนั้นว่า.."นี้เป็นธรรม นี้เป็นวินัย นี้เป็นคำสอนของพระศาสดา"...
เธอทั้งหลายยังไม่พึงชื่นชม ยังไม่พึงคัดค้านคำกล่าวของผู้นั้น พึงเรียนบทพยัญชนะเหล่านั้นให้ดี แล้วพึงสอบสวนลงในพระสูตร เทียบเคียงดูในวินัย.
ถ้าบทและพยัญชนะเหล่านั้น สอบลงในสูตรก็ไม่ได้ เทียบเคียงเข้าในวินัยก็ไม่ได้ พึงลงสันนิษฐานว่า.."นี้มิใช่พระดำรัสของพระภาคพระองค์นั้นแน่นอน และภิกษุนั้นรับมาผิด" เธอทั้งหลายพึงทิ้งคำนั้นเสีย
ถ้าบทและพยัญชนะเหล่านั้น สอบลงในสูตรก็ได้ เทียบเคียงเข้าในวินัยก็ได้ พึงลงสันนิษฐานว่า.."นี้เป็นพระดำรัสของพระภาคพระองค์นั้นแน่นอน และภิกษุนั้นรับมาด้วยดี" เธอทั้งลายพึงจำมหาปเทส....นี้ไว้
อ้างอิง
บาลี มหา.ที.๑๐/๑๔๔/๑๑๓-๖
บรรลุฌาน อภิญญา และอิทธิริทธิ์ นั้นย่อมถูกต้ง แต่จะตรัสรู้อนุตตระสัมมาสัมโพธิยาน นั้นย่อมไม่ใช่.
ในพระไตรปิฎก มี 2 ส่วน
1.คำพระพุทธเจ้า
2.คำอรรถกถาจารย์ แต่งขึ้น
สิ่งนั้นไม่คาใจในป่าจึงเกิดครับถ้าสิ่งนั้นยังค้างคาใจก็ไม่เกิด จะเป็นบ้อน🛩️พนม หรือตาโมกข์และบ้อนเรียบก็แล้วแต่บาด😄🤭😁
รู้เห็นด้วยตนเป็น ความจริง
รู้เห็นด้วยสิ่งอื่นเป็น ความเชื่อ ความงมงาย
เด็กน้อยหนีออกจากสลัมด้วยความยากลำบาก จนสร้างเนื้อสร้างตัวได้สำเร็จ ไม่มีใครขายคฤหาสน์แล้วกลับไปอยู่สลัม ฉันใด อนาคามี อรหันต์ ก็ไม่กลับมาเกิด ฉันนั้น
พระอรหันต์ ที่ท่านมีวิบากกรรมไม่ดีมากมาย กรรมเก่าท่านแต่ชาติหนหลังมาโปร 😊😊😊😊 ท่านบวกลบเหตุแล้วดีมาก เสมอตัว สรุปคือท่านจะเรียนรู้ต่อหรือจบ ก็คงต้องยกให้ท่านแล้วมีมากมายที่ต้องเข้าสู่นิพพาน ก่อนถึงพระอรหันต์สัมมาสัมพุทธเจ้า เข้าสู่การดับเหตุแห่งการเกิด เข้าสู่ปรินิพพาน 🎉🎉🎉🎉🎉 สาธุ สาธุ สาธุ ❤❤❤❤❤
อยากจะทราบว่า พระพุทธเจ้า 28 พระองค์ ที่ผ่านมา องค์ไหนเป็นพระ วิริยะที่กะ ศรัทธาธิกะ และปัญญาธิกะบ้างครับ พอจะมีในพระไตรปิฎกไหม
ชาวพุทธ แค่ปฎิบัติศิล 5 ให้ได้บริสุทธิ์แท้ๆจริงๆ ก็เข้าถึงความเป็นพระอริยะเบื้องต้นแล้ว
เข้าใจผิดแล้ว คุณ ได้เพียงศีล5 ได้แค่เทวดา อริยะเบื้องต้นตัดสังโยชน์3ได้สาม 5คืออนาคามี 10คือออรหัน
ศิลห้า และวิปัสสนากรรมฐาน ก็บรรลุได้
เห็นว่าเน้นคำว่า"ยมก"มีอยู่ไม่ทราบว่ามีกล่าวไว้จริงหรือเปล่า
เป็นความเข้าใจผิดจาก ยมกสูตรครับ รายละเอียดลองดูในคลิปนี้นะครับ th-cam.com/video/3RSOnitnrRk/w-d-xo.html
@@Tunhapapai สาธุ ขอให้เจริญในธรรมครับ
หัดปล่อยวางกันยัง ชาวพุท
ตามทะเบียนบ้าน ป้องกันศาสนาคือ การเดินตามธรรมตถาคต
พุทธวงศ์ กับ พุทธเจ้า คุณจะฟังใครล่ะ
@@chaithatz พระพุทธเจ้าสาธุค่ะ
พระพุทธเจ้าตรัสสอนหลักกาฬามโคตร10ข้อนั้นมีอย่าเชื่อแท้เห็นว่าพระพุทธเจ้าสอนและไม่ให้เชื่อคำภีร์เป็นต้นแต่ให้ใช้ปัญญา,ครับตรงนี้มันชัดมากนะครับอย่าเที่ยวเอาอะไรมาเชื่อก็ไม่รู้มันไม่สมเหตุสมผลเลยดับไปแล้วยังกลับมามีใหม่แม้แต่ในคำภีร์ในพุทธวงศฺก็ไม่อยู่ในข้แยกเว้นครับ
แล้วที่เป็นพระโพธิสัตว์ จะลงมาเป็นพระพุทธเจ้าลงมาเกิดเป็นคนธรรมดาก่อนแล้วบำเพ็ญจนตรัสรู้หรือเป็นพระพุทธเจ้าลงมาเลย สรุปคือ ใคร/ระดับไหน ลงมาเกิดเป็นพระพุทธเจ้า?
ตัดเรื่องอภินิหารจากไตรปิฎก เน้นที่เกี่ยวกับมนุษย พุทธศาสนาจะน่าสนใจ
การเกิดของสัตว์ในแต่ละภพภูมิต้องมีเหตุของของการเกิด แต่พระอนาคามีและพระอรหันต์ดับเหตุของการเกิดในกามาวจรภูมิแล้ว จะเอาเหตุอะไรมาเกิดครับ มันย้อนแย้งโดยสิ้นเชิง ส่วนท่านที่ปราถนาพุทธภูมิหรือพระพุทธเจ้านั้น ท่านจะมาตรัสรู้ด้วยพระองค์เอง พระอนาคามีกับพระอรหันต์นั้นเป็นพุทธสาวก จึงเป็นไปไม่ใด้
ไฟเกิดด้วยเหตุ3ประการ!1.ความร้อน2.เชื้อเพลิง3.อ๊อกซิเจน!พระอนาคามีขาดเหตุแห่งการเกิดดุจไฟที่ขาดเชื้อเพลิงหรือขาดอ๊อกซิเจน!
ให้เราไปดู ชื่อ เก่าที่ท่านตั้งให้ตัวเอง ด้วยว่า ชื่อ ว่าอะไร...ท่านชื่อ นายโพธิ นามสกุล สัพพัญญูตญาน นี่ ท่านแต่งตั้งชื่อตัวเองให้เป็นพระพุทธเจ้า ตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว ทีนี้ คำสอนแนวของท่าน ก็เลยจะออกมาลักษณะนี้ แต่เท่าที่ผม ย้อนไปฟัง แนวทางปฎิบัิต ของท่าน ดู จะไม่มีการสอนเรื่อง ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค เลย...แต่จะไปเน้นตำรา ในไตรปิฎก และพุทธวงค์ เป็นหลักไม่เน้นสอน ให้ เดิน มรรค เลย...ทีนี้เราก็ไม่ต้องไปสงสัย นะว่า ทำไมท่าน จึงต้องกลับมาเกิดอีก ซึ้ง ก็จริง ตามที่ท่านเข้าใจ อย่างถูกต้อง อนาคามี ของท่าน เป็นอนาคามี สมาบัติ ไม่ใช่ อนาคามี โลกุตระ มันก็ไม่แปลก ที่ท่านจะมาเกิดเพื่อวิ่งช่วยคนอีกเรื่อยๆ ไม่จบไม่สิ้น
รายไหน รายนั้น ที่มีชื่อ ตั้งให้ตัวเองในแนวนี้ มักวิปลาส ทุกคน อย่างนาย พุทธะ เทพสุริยะ อะไรอีกนั่น ก็ เลอะเทอะ พอๆกัน คนที่มาในแนวลักษณะนี้ กี่คน ต่อกี่คน เพี้ยน เหมือนกันหมด เห้อ...
มีเยอะ นะครับอาจารย์ ที่พากันสอน กันในกลุ่มปิด มาในแนวทางแบบเลอะๆแบบนี้ และก็ยังมีคนหลงเชื่อ อีกเยอะมากเลย
พระอริยบุคคลโสดาบัน สกิทาคามี คือยังวนอยู่ในโลกิยะ ที่ต้องเวียนว่ายตายเกิด
@@user-tv9ri6hu3e ไม่เคยฟังพระสัทธรรมปุณฑริกสูตรกันเลยก็พูดแย้งกันหยั่งงี้ล่ะ ฟังแต่พระไตรปิฎกเถรวาทกันอ่ะดิ่เลยีทิฏฐิอันคับแคบกันอยู่อย่างนั้นน่ะนะ ไม่นอกกรอบเลยจากไตรปิฎกที่เถรวาทสอน ไปฟังมั่งเหอะพระสูตรเรื่อง สัทธรรมปุณฑริกสูตรน่ะ
โปรด ศึกษาบริบท ศาสนาค่อยๆ
หมดในอินเดีย เป็นอย่างไร การปฎิรูปพระธรรมขึ้นใหม่เพื่อแะไร
ในยุคๆนั้น การแตกออกนิกาย
เพราะอะไรบังคับ พุทธศาสนา
มาสุวรรณภูมิ แล้วฝั่งอินเดียหมด
ไปเพราะอะไร เหตุศาสนาเสื่อม
พระพุทธเจ้าตรัสเหตุเสื่อมไว้
คืออะไร พระสูตรดีๆง่าย ยังถูก
อารักขา มีให้อ่าน มรรค8 ไม่เกี่ยวกับการสวดมนต์ มรรค8 คือการกระทำทางใจทางจิต เพื่อออกจาก
อัตรา การสวดมนต์ โดยมากจะ
อ้อนวอน กลัวขันต5ตนเป็นทุกข์
กลัวการแตกทำลาย หรือหวังความน่าพอใจจงเกิดกับเรา
ไม่ถอดถอนอุปปาทาน นี่คือการปฎิรูปขึ้นมา คิดว่าจะดึงคนจาก
เทวะนิยม มาอยู่พุทธ มันก็มาปนกันมั่ว การช่วยเหลือกันระหว่าง
เทวดาและมนุษย์ ก็มีอยู่มีพระสูตร
แต่มุมมองต่อขัน5 ของพุทธศาสนา จะแตกต่าง เทวะนิยม
โดยสิ้นเชิง ไม่เหมือนใคร อัตตะวาธุปาทาน =ออกจากตัวตน
พุทธวงเป็นไครคนที่พูดรู้จักกันหรืออ้างพระไตรปิฏกเขาเป็นคนเขียนขึ้นมาเองหรือเป็นพระอนาคามรรคหรือผลพระอรหันต์มรรคหรือผล คำว่ามรรค กับผลมันต่างกันมั้ยที่ว่ามาเกิดนั้นมรรคมาเกิดหรือผลมาเกิด นิพพานขันธ์หรือนิพพานอะไรคนพูดสัมผัสด้วยตัวเองหรือยัง อย่าเอาธรรมทั้งหลายทั้งปวงของท่านอื่นมาพูดไห้คนอื่นต่อๆกันฟังไม่รู้ว่าที่พูดมานั้นมันจริงหรือไม่จริงอย่าอ้างเอาคำคนอื่นมาพูดต่อๆกันหาคนรับผิดชอบไม่มีสักคนเอาเวลาที่ว้างตรวจสอบตัวเองยังจะมีประโยชน์กว่ามั้ง❤❤❤
เนื้อหาในพุทธวงศ์ คือสิ่งที่พระพุทธเจ้าท่านแสดงถึงการสะสมบารมี และการได้พบกับพระพุทธเจ้าองค์ก่อนๆ ในอดีตชาติชองท่านครับ
เมื่อปฏิบัติขัดเกลาตนจนหลุดพ้นแล้วแล้วจะกลับมาเกิดอีกทำไม? การเกิดเป็นทุกข์ไม่เกิดก็ไม่ทุกข์เปรียบเหมือนคนที่ตกลงไปในบ่ออุจจะระเมื่อตะเกียกตะกายขึ้นมาได้เแล้วใครเล่าที่ยังยากจะลงไปว่ายเล่นในบ่ออุจจะระอีกเล่าซึ่งทั้งเหม็นและเป็นทุกข์อย่างสาหัส
ผู้ที่ยังมีอุปาทาน
จะเป็นพระอรหันต์ได้อย่างไร ?
............
เพราะอุปาทานดับ ภพจึงดับ
เพราะภพดับ ชาติจึงดับ
..........
เพราะอรหันต์ ดับอุปาทานแล้ว
ดังนั้น ...
เพราะอุปาทานดับ ภพจึงดับ
เพราะภพดับ ชาติจึงดับ
ถ้าอ่านพุทธวงศ์ ก็อาจตีความไปแบบ พุทธงง ได้ แต่ถ้าเข้าใจปฏิจสมุปบาท อิทัปปัจยตา หรือวิปัสนาถึงญาณ 1 จะเข้าใจว่า เชื้อเกิดมันดับไปแล้ว ไม่มีกิจต้องมาเกิด ไม่มีเหตุปัจจัยแล้ว
คำว่ารู้โพธิญาณ 9
เป็นอริยะยิ่งกว่า
อนาคามี
ท่านบำเพ็ญเพียรบารมี 10 เพื่อเป็นเหตุแห่งโพธิญาณในอนาคตครับ ไม่ได้หมายความว่าขณะนั้นท่านบารมีเต็มบรรลุธรรมแล้วครับ
อยากรู้ว่าพระพุทธเจ้าท่านเป็นทองคำทั้งตัวตอนไหน ผมเจอท่ามาเป็นพระพุทธรูปทองคำปางนั่งสมาธิหลับตา ผมว่าน่าจะสมเด็จองค์ปฐม
ทศชาติชาดก พระพุทธเจ้าเป็นผู้มีบุญมาก และยังมีกรรม จนชาตินึงตั้งมั่นจะช่วยเพื่อนมนุษย์ให้หลุดพ้นด้วย จึงได้บรรลุอรหันต์เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า หลายคนสับสน ระหว่างผู้มีบุญมาก(พระโพธิสัตว์) กับ พระอรหันต์ พระอนาคามี จึงเป็นปัญหา เพราะเอาเถรวาท มารวมกับ มหายาน
พระพุทธเจ้าแต่ละพระองค์มีอายุยาวนานมาก คิดตามที่ท่านนำเสนอข้อคิด คิดตามไล่ปีไปคงเป็นยุคไดโนเสาแล้วละ แต่ก็ช่างเถอะ ผมยังนับถือพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน และไม่เชื่อแก้งเชื่อมจิตอะไรที่โกหกเกินความจริงรวมทั้งพระ อะไรองค์นั้นที่อยู่องค์เดียวไม่สังกัด วัดใด ก็คงหลีกหนีพระสังกัดในไทยไม่ได้พระบวชวัดไทยไม่เคยสึก จะอ้างอะไร ก็ตรัสรู้เสียเองสิ ชักจะมีพระพุทธเจ้า ลูกพระพุทธเจ้า เยอะจัง สมัยนี้ ช่วยกันกำจัด พวก อ้างบูญหลแกคนได้แล้ว
เรื่องผ่านมาแล้ว2567ปี คนปัจจุบันจะมาเถียงกันทำไม ไม่มีใครรู้เห็นจริง พระไตรปิฎกก็เป็นการเขียนขึ้นหลังจากพระพุทธเจ้าปรินิพพานแล้ว คำสอนของพระองค์ให้อยู่กับปัจจุบัน
ที่เถียงกันมันมีคนตะแยงไง
พระอนาคามีกลับมาโลกนี้ได้สบายๆแว๊บเดียวก็มาถึงพระอนาคามีถ้าท่านมีเหตุสำคัญที่จะต้องมาในโลกนี้พระอนาคามีท่านไม่มีทางเข้าไปอยู่ในรูเน่าๆนั้นอีกแน่นอนล้านๆ%.ต่ำทรามมากพวกทำลายพุทธศาสนากราบขอโทษท่านที่นำเสนอสิ่งมีสาระดีๆอย่างนี้ในบางคำที่ไมีสมควร.❤❤❤
ต้องให้ท่านมหาหมีมาอธิบายใหม่เรื่องนี้ เพราะอยากฟังจากปากท่านมหาหมีผู้ชำนาญผู้ศึกษาพระไตรปิฏกโดยถ่องแท้...
อนาคาริก ความหมายคือผู้ไม่มีเรือน หรือ จิตหลุดพ้นบ่วงกามแล้ว ถ้าดับในโลกมนุษย์ก้อไม่มาเกิดในชั้นกามาวจรอีกแล้วจะไปเกิดในพรหมสุทธาวาส และดับขันธ์นิพพานที่นั่น
ผมเข้าใจ ว่ากิเลส ดับ ไม่มีกิเลส กิเลส ไม่กลับมาเกิดอีก(เรื่องส่วนตัวอนาคามีท่าน) แต่ท่านจะกลับร่างมาเกิด เพื่อผู้อื่น(เพื่อผู้อื่น)
สอนตรงกลับประเทศทิเบต
สรุป พวกคนยุคหลังทั้งนั้นที่มาตีความคัมภีร์เมื่อพันๆปีต่อๆกันมาตามแต่สมองคิดของแต่ละพวกตนแต่ละพวกเหล่านั้นๆสรุป
ไม่กลับมาเกิดหรอกครับ กว่าจะบรรลุถึงพระนิพพานมันอยาก กว่าจะตัดกิเลสได้ ไม่มีหรอกครับพระพุทธเจ้าองค์ต่อไป เพราะพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันท่านตรัสสอนบัญญัติไว้ดีแล้ว
มันยากมากที่ปุถุชนจะทนสร้างบารมีถึง 20อสงไขย
เพราะผลแห่งการกระทำ (่วิบาก)
ที่ต้องการเป็นพระพุทธเจ้า
จึงบำเพ็ญเพียรสร้างบารมี
(ไม่ใช่ทนสร้างบารมี)
ถึงสี่อสงไขย แสนกัลป์
ตำรา ก็มาจากคำสอนของพระพุทธเจ้า พระมหากัสปะ และสาวกของพระพุทธเจ้าเป็นผู้จัดทำพระไตรปิฏก พระองค์ได้ลองผิดลองถูกมาหมดแล้ว เป็นตรัสรู้ชอบโดยพระองค์เอง ไม่มีคำว่าแต่ถ้าจะมาเกิดอีก เพราะถ้ายังมีความต้องการเวียนไหว้ตายเกิดอีก ในมนุษย์ภูมิอีก ก็ไม่ใช่พระอนาคามี และพระอรหัน อาจจะแค่พระอคินาคามี ใช่หรือไม่ เพราะถ้าบำเพ็ญถึงขั้นพระอนาคามี พระอรหันต์ คือความเป็นธรรมชาติของจิตใช่หรือไม่ ไม่มีความอยากใดๆ ทั้งสิน แม้จะกลับมาช่วยคนในมนุษย์ภูมื เพราะท่านได้ผ่านภาวะนั้นแล้ว มิเช่นนั้นท่านจะได้เป็นพระอานาคามี หรือพระอรหันต์ได้อย่างไร อันนี้ถูกต้องหรือไม่ค่ะ ท่านบำเพ็ญถึงขั้นจบปริญาเอก จะกลับมาเรืยน ป.1ใหม่เพื่อ ? ตรักกระง่ายๆ เอง
การมาเกิดใหม่คือการสร้างกรรมใหม่นะคะ
ละหน่ายจางคลาย ราคะโมฆะโทสะ กิเลสเครื่องเศร้าหมอง *นอกนั้นวัฏฏะสงสาร ภพภูมิ สวรรค์ นรก มนุษย์
ศีล5ยังรักษาไม่สมบูรณ์เลย…
ไปวิจารณ์การบรรลุธรรมชั้นสูง…
ท่านพากเพียรกว่าจะตัดกิเลสได้เมื่อบรรลุแล้วไฉนเลยท่านจะกลับมาเกิดอีกในเมื่อรู้ว่าการเกิดมันเป็นทุกข์..พระไตรปิฎกก็เกิดจากคนมนุษย์เราเขียนขึ้นมาภายหลังที่พระพุทธเจ้าปรินิพพานไปนานแล้ว.ดังนั้นคนที่แปลและบันทึกพระไตรปิฎกอาจจะผิดเพี้ยนก็ได้
ยกตัวอย่างทุกวันนี้เรามักจะเห็นหลายๆสำนักทั้งพระและคฤหัสยกตัวเป็นผู้วิเศษ
ผมเชื่อเฉพราะ ปู่เทพโลกอุดร ท่านสำเร็จแล้ว ยังไม่เข้านิพพาน นอกนั้น ผมยังหาคำตอบไม่ได้ ยังไม่เชื่อ และยังต้องพิสูจก่อน
มันไม่มีหลอกอย่าเพ้อ
อย่าคิดเลยครับขัดความจริง
มั่วครับคนที่เบื่อการเวียนว่ายตายปฎิบัติปรับภูมิธรรมในจิตใจจนปล่อยวางไม่ยึดติดไม่กลับมาเกิดอีกแล้วที่ว่ากลับมาเกิดนะยังห่วงอาลัยในกามยังอยากเสพกามอยู่
เพียงแต่ยกหรืออุปโลกว่าเป็นพระอระหันต์ส่วนใหญก็เป็นมารที่จำแลงมาหลอกเพราะมารทำอะไรไม่ได้ก็มีแต่พระพุทธเจ้าและพระอรหันต์เท่านั้นนอกนั้นยังอยู่ในอำนาจของมารอยู่เยอะหรือน้อยก็แล้วแต่ภูมิธรรมแต่ละคน
ในยุคพระพุทธเจ้าโกนาคม มีผ้าเมืองจีนแล้วหรือครับเพราะเวลามันย้อนไปเป็น 50,000 ปีเลยนะครับ
ย้อนไปไม่ใช่ 50,000 ปีครับ นานกว่านั้นมากจนนับไม่ได้ ที่เขียน 30,000 นั้นคืออายุขัยของมนุษย์ในยุคนั้น เรื่องผ้าเมืองจีนนั้นเป็นคำที่แปลมาจากภาษาบาลีอีกที ภาษาบาลีใช้คำว่า จีนปฏญฺจ ความหมายจริงๆ ของบาลีคงไม่ใช่เมืองจีนปัจจุบันที่เรารู้จักกันครับ
ผมว่าผู้ที่ตีความคัมภีร์นี้ แล้วบอกว่ากลับมาเกิดคงตีความไม่ถูกต้องครับ ไม่ตรงกับคำสอนพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าบอกพระอรหันต์สิ้นอาสวะแล้วไม่กลับมาเกิดเหมือนกองไฟดับครับ
คัมภีร์ไม่ได้ผิดครับ ในคัมภีร์ไม่ได้แสดงว่าพระโพธิสัตว์ท่านบรรลุอรหันต์แล้วกลับมาเกิด ซึ่งไม่ได้ขัดแย้งกับคำสอนพระพุทธเจ้าเลยครับ
@@Tunhapapai สาธุๆๆ ครับ
พระคติกาละเป็นอนาคามี แสดงว่าพระอนาคามียังมาเกิดจริง
จะฟังซะหน่อย เสียงซ่าๆ เลยเปลี่ย
คำว่าพระปัจเจกพุทธเจ้ามีใครเอ่ยถึงไหมทั้งๆที่เป็นพระพุทธเจ้าที่เสด็จดับขันธ์ปรินิพพานแล้วเช่นกัน(กลับมาเกิดได้ไหมคำว่านิพพานเป็นเพียงการดับเทียนและจุดใหม่ใช่ไหม)
ดับที่ต้นเหตุไม่มีเชื้อหลงเหลือ จึงสู่อรหันต์นิพพานได้ ไม่มีเทียน ไม่มีไฟ
อ่านตรงทีปังกร น่อยว่าอย่างไร เหมือนกันอ่านมาไหม
ส่วนอนา.. พระไตรมี บอกทุกสถานะ แต่ส่วนมากก็ตีตามปัญญาหนังสือเท่านั้น
ส่วนของพระทีปังกรพุทธเจ้าครับ 84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=33&A=6874&Z=7263&pagebreak=0
@@user-nn2uf7ny9h อย่า ตำหนิติเตียน ตำรา ที่เป็น คำสอนของพระพุทธเจ้า เด้อ รู้ตามสัจธรรม ให้เริ่มที่ กฏอิทัปปัจจยตา และ ปฏิจจสมุปบาท นั่นเองค่ะ เมื่อเห็น กฏอิทัปปัจจยตา และ ปฏิจจสมุปบาท แล้ว ก็จะเริ่มเห็น ธรรม มากขึ้นเรื่อย นั่นเองค่ะ ซึ่งเห็นจาก คำสอนของพระพุทธเจ้า ที่มีอยู่ใน ตำรา นั่นเองค่ะ คำสอนของพระพุทธเจ้า เป็น ธรรมชาติ ที่มีเกิดปรากฏขึ้นมาตามความเป็นจริง คำสอนของพระพุทธเจ้า จะมี กฏอิทัปปัจจยตา และ ปฏิจจสมุปบาท นั่นเองค่ะ
ตำราพระสูตรธรรมและวินัยนี้
คือ(พระศาสดา)
ผู้ใดเห็น"ปฏิจจสมุปบาท"
ผู้นั้นเห็น"ตถาคต"
ฯ
สาธุครับ
@@qpyaoi2008 บทใดบทหนึ่งอย่าพึง ตัดสิน
@@user-tl5ws1fe7e คืออะไรหมายถึงอะไรที่ที่ท่องกฏมานั้น
ขอบคุณสำหรับการนำเสนอข้อมูลให้ศึกษาครับ🙏😇
คัมภีร์พุทธวงศ์ กับพระไตรปิฎก มันเหมือนกันหรือเปล่า
พุทธวงศ์ เป็นส่วนหนึ่งอยู่ในพระไตรปิฏกครับ
พระอรหันต์จะกลับมาเกิดเพื่ออะไร?อนาคามีก็ละกามราคะไปแล้วจะมาเกิดในกามภพทำใม?มีแต่พระสกทาคามีและพระโสดาบันเท่านั้นที่จะต้องมาเกิดในกามภพเพราะยังติดกามราคะอยู่
คนเล่าตายทุกอย่างจบ คนฟังตายทุกอย่างจบ อรหันต์ฟังถึงยังไม่ตายทุกอย่างก็จบ คุณเป็นใครที่ฟังอยู่ อรหันต์คือคนที่ไม่ปล่อยให้ความคิดมันทำงาน คุณไม่ปล่อยให้ความคิดมันทำงานคุณก็เป็นอรหันต์ได้ อยากเป็นอรหันต์ลองคิดแค่สิ่งเดียวให้ได้ทั้งวันก่อน คิดแต่ลมหายใจเข้าออกก็ได้นะ คิดผิดๆถูกๆเล่าผิดๆถูกๆคนฟังไม่ต้องสนใจว่าจะทำให้ศาสนาเสื่อมหรือสว่าง เสื่อม สว่าง ก็เป็นธรรมชาติ ธรรมดา
คุณศิษย์สำนักสิ้นคิดแน่เลย
ง่ายดีนะ😂😂😂
เจอทนายอนันนะ