ขนาดวิดีโอ: 1280 X 720853 X 480640 X 360
แสดงแผงควบคุมโปรแกรมเล่น
เล่นอัตโนมัติ
เล่นใหม่
สาธุอนุโมทนาบุญร่วมกับ หลวงตาสินทรัพย์ฯด้วยครับ...
อัญเชิญพุทธวจนที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสสอน🙏พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๕ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๗ขุททกนิกาย ขุททกปาฐะ-ธรรมบท-อุทาน-อิติวุตตกะ-สุตตนิบาตธรรมิกสูตรที่ ๑๔.[๓๓๓]จริงอยู่สาวกไม่พึงได้เพื่อจะถูกต้องธรรมของภิกษุ ล้วนด้วยอาการที่มีความหวงแหน สาวกวางอาชญาในสัตว์ทุกหมู่เหล่า ทั้งผู้ที่มั่นคงทั้งผู้ที่ยังสะดุ้งในโลกแล้ว ไม่พึงฆ่าสัตว์เอง ไม่พึงใช้ผู้อื่นให้ฆ่า และไม่พึงอนุญาตให้ผู้อื่นฆ่า.แต่นั้น สาวกรู้อยู่ พึงเว้นสิ่งที่เขาไม่ให้อะไรๆ ในที่ไหนๆ ไม่พึงใช้ให้ผู้อื่นลัก ไม่พึงอนุญาตให้ผู้อื่นลัก 🙏พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๙ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๑สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค.เวฬุทวารสูตรว่าด้วยธรรมปริยายอันควรน้อมเข้ามาในตน"ตนเองย่อมงดเว้นจากปาณาติบาตด้วย ชักชวนผู้อื่นเพื่องดเว้นจากปาณาติบาตด้วย กล่าวสรรเสริญคุณแห่งการงดเว้นปาณาติบาตด้วย กายสมาจารของอริยสาวกนั้น ย่อมบริสุทธิ์โดยส่วนสามอย่างนี้."🙏(1)"ไม่พึงฆ่าสัตว์เอง ไม่พึงใช้ผู้อื่นให้ฆ่า และไม่พึงอนุญาตให้ผู้อื่นฆ่า"(2)"ไม่พึงลักเอง ไม่พึงใช้ให้ผู้อื่นลัก ไม่พึงอนุญาตให้ผู้อื่นลัก"(3)"ชักชวนผู้อื่นเพื่องดเว้นจากปาณาติบาต"(4)"มังสวณิชชา" พึงเว้นจากการค้าขายเนื้อสัตว์พระพุทธองค์ทรงตรัสสอนไว้อย่างชัดเจน.สำหรับฆารวาสที่ซื้อหาอาหารกินเอง(ภิกษุขอทานเลี้ยงชีพ ซื้อสิ่งของอาหารเองไม่ได้ตามธรรมวินัย แต่ก่อนรับเนื้อสัตว์มาฉันก็ต้องพิจารณาพระธรรมวินัยข้อ"เนื้อบริสุทธิ์ 3 ก่อนฉันเนื้อ).การ "ซื้อเนื้อสัตว์" มากิน ในศีลข้อหนึ่ง พระพุทธเจ้าได้ทรงบัญญัติไว้ว่า การฆ่าสัตว์นั้น มีทั้งการลงมือฆ่าเอง และรวมถึง อาณตฺติกปโยค คือ"การใช้ให้ผู้อื่นฆ่าให้เรา" ด้วยซึ่งรวมถึง การซื้อเนื้อสัตว์มากิน คือการใช้บริการผู้อื่นเข่นฆ่าแล่เนื้อสัตว์แทนเรา เราจึงไม่ต้องลงมือเข่นฆ่าเอง แม้ไม่ทำให้ศีลข้อหนึ่งขาดทะลุแต่ก็ทำให้ด่างพล้อยเศร้าหมอง (ทีฆนิกาย สีลขันธวรรค พรหมชาลสูตร) (ธัมมิกสูตร) ."การซื้อเนื้อสัตว์กิน"นั้นก็ยังเป็นการอนุญาตให้เขาฆ่า และยังเป็นการชักชวน(ด้วยลาภสมบัติเงินของเรา) ให้ผู้อื่นทำปาณาติบาตด้วย ซึ่งขัดแย้งกับพุทธวจนที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสสอน.การ "ซื้อกินเนื้อสัตว์" ในศีลข้อสอง พระพุทธเจ้าก็ทรงบัญญัติเรื่อง (อนุโลมโจรกัมม์) ไว้ด้วย ซึ่งหนึ่งใน อนุโลมโจรกัมม์ ก็คือการเว้นจากการสมคบโจร การรับซื้อของโจร การซื้อกินเนื้อสัตว์นั้น เป็นการซื้อของโจร โจรที่เข่นฆ่าตีชิงเอาเลือดเนื้อร่างกายสัตว์เจ้าของ ที่เขาไม่ยินยอมให้ มาเป็นของตน ก่อนเอามาขาย."การซื้อเนื้อสัตว์กิน"นั้นก็ยังเป็นการอนุญาตให้เขาลัก และยังเป็นการชักชวน(ด้วยลาภสมบัติเงินของเรา) ให้ผู้อื่นลักเอาเลือดเนื้อร่างกายสัตว์ด้วย ซึ่งขัดแย้งกับพุทธวจนที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสสอน🙏การ "ซื้อกินเนื้อสัตว์" เมื่อขัดแย้งกับศีลข้อหนึ่งและศีลข้อสอง จึงขัดแย้งกับมรรคข้อสัมมากัมมันตะ.ผู้มีศีลหม่นหมองด่างพล้อย ปฏิบัติตนขัดแย้งกับ อริยมรรคมีองค์ 8 ไม่ใช่ผู้ปฏิบัติตามทางสายกลางอริยมรรคมีองค์ 8 ที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสสอน.เชิญฟังธรรมะของพระพุทธเจ้า ที่ชาวพุทธที่นิยมกินเนื้อสัตว์ พากันมองข้ามและไม่พูดถึงกัน ที่ยูทูปที่มีชื่อวีดีโอว่า"มังสวิรัติ พระพุทธศาสนา เถรวาท กินเนื้อสัตว์บาปไหม"
สาธุอนุโมทนาบุญร่วมกับ หลวงตาสินทรัพย์ฯด้วยครับ...
อัญเชิญพุทธวจนที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสสอน
🙏
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๕ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๗
ขุททกนิกาย ขุททกปาฐะ-ธรรมบท-อุทาน-อิติวุตตกะ-สุตตนิบาต
ธรรมิกสูตรที่ ๑๔
.
[๓๓๓]
จริงอยู่สาวกไม่พึงได้เพื่อจะถูกต้องธรรมของภิกษุ ล้วนด้วยอาการที่มีความหวงแหน สาวกวางอาชญาในสัตว์ทุกหมู่เหล่า ทั้งผู้ที่มั่นคงทั้งผู้ที่ยังสะดุ้งในโลกแล้ว ไม่พึงฆ่าสัตว์เอง ไม่พึงใช้ผู้อื่นให้ฆ่า และไม่พึงอนุญาตให้ผู้อื่นฆ่า
.
แต่นั้น สาวกรู้อยู่ พึงเว้นสิ่งที่เขาไม่ให้อะไรๆ ในที่ไหนๆ ไม่พึงใช้ให้ผู้อื่นลัก ไม่พึงอนุญาตให้ผู้อื่นลัก
🙏
พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๙ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๑
สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค
.
เวฬุทวารสูตร
ว่าด้วยธรรมปริยายอันควรน้อมเข้ามาในตน
"ตนเองย่อมงดเว้นจากปาณาติบาตด้วย ชักชวนผู้อื่นเพื่องดเว้นจากปาณาติบาตด้วย กล่าวสรรเสริญคุณแห่งการงดเว้นปาณาติบาตด้วย กายสมาจารของอริยสาวกนั้น ย่อมบริสุทธิ์โดยส่วนสามอย่างนี้."
🙏
(1)"ไม่พึงฆ่าสัตว์เอง ไม่พึงใช้ผู้อื่นให้ฆ่า และไม่พึงอนุญาตให้ผู้อื่นฆ่า"
(2)"ไม่พึงลักเอง ไม่พึงใช้ให้ผู้อื่นลัก ไม่พึงอนุญาตให้ผู้อื่นลัก"
(3)"ชักชวนผู้อื่นเพื่องดเว้นจากปาณาติบาต"
(4)"มังสวณิชชา" พึงเว้นจากการค้าขายเนื้อสัตว์
พระพุทธองค์ทรงตรัสสอนไว้อย่างชัดเจน
.
สำหรับฆารวาสที่ซื้อหาอาหารกินเอง
(ภิกษุขอทานเลี้ยงชีพ ซื้อสิ่งของอาหารเองไม่ได้ตามธรรมวินัย แต่ก่อนรับเนื้อสัตว์มาฉันก็ต้องพิจารณาพระธรรมวินัยข้อ"เนื้อบริสุทธิ์ 3 ก่อนฉันเนื้อ)
.
การ "ซื้อเนื้อสัตว์" มากิน ในศีลข้อหนึ่ง พระพุทธเจ้าได้ทรงบัญญัติไว้ว่า การฆ่าสัตว์นั้น มีทั้งการลงมือฆ่าเอง และรวมถึง อาณตฺติกปโยค คือ"การใช้ให้ผู้อื่นฆ่าให้เรา" ด้วยซึ่งรวมถึง การซื้อเนื้อสัตว์มากิน คือการใช้บริการผู้อื่นเข่นฆ่าแล่เนื้อสัตว์แทนเรา เราจึงไม่ต้องลงมือเข่นฆ่าเอง แม้ไม่ทำให้ศีลข้อหนึ่งขาดทะลุแต่ก็ทำให้ด่างพล้อยเศร้าหมอง (ทีฆนิกาย สีลขันธวรรค พรหมชาลสูตร) (ธัมมิกสูตร)
.
"การซื้อเนื้อสัตว์กิน"นั้นก็ยังเป็นการอนุญาตให้เขาฆ่า และยังเป็นการชักชวน(ด้วยลาภสมบัติเงินของเรา) ให้ผู้อื่นทำปาณาติบาตด้วย ซึ่งขัดแย้งกับพุทธวจนที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสสอน
.
การ "ซื้อกินเนื้อสัตว์" ในศีลข้อสอง พระพุทธเจ้าก็ทรงบัญญัติเรื่อง (อนุโลมโจรกัมม์) ไว้ด้วย ซึ่งหนึ่งใน อนุโลมโจรกัมม์ ก็คือการเว้นจากการสมคบโจร การรับซื้อของโจร การซื้อกินเนื้อสัตว์นั้น เป็นการซื้อของโจร โจรที่เข่นฆ่าตีชิงเอาเลือดเนื้อร่างกายสัตว์เจ้าของ ที่เขาไม่ยินยอมให้ มาเป็นของตน ก่อนเอามาขาย
.
"การซื้อเนื้อสัตว์กิน"นั้นก็ยังเป็นการอนุญาตให้เขาลัก และยังเป็นการชักชวน(ด้วยลาภสมบัติเงินของเรา) ให้ผู้อื่นลักเอาเลือดเนื้อร่างกายสัตว์ด้วย ซึ่งขัดแย้งกับพุทธวจนที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสสอน
🙏
การ "ซื้อกินเนื้อสัตว์" เมื่อขัดแย้งกับศีลข้อหนึ่งและศีลข้อสอง จึงขัดแย้งกับมรรคข้อสัมมากัมมันตะ
.
ผู้มีศีลหม่นหมองด่างพล้อย ปฏิบัติตนขัดแย้งกับ อริยมรรคมีองค์ 8 ไม่ใช่ผู้ปฏิบัติตามทางสายกลางอริยมรรคมีองค์ 8 ที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสสอน
.
เชิญฟังธรรมะของพระพุทธเจ้า ที่ชาวพุทธที่นิยมกินเนื้อสัตว์ พากันมองข้ามและไม่พูดถึงกัน ที่ยูทูปที่มีชื่อวีดีโอว่า"มังสวิรัติ พระพุทธศาสนา เถรวาท กินเนื้อสัตว์บาปไหม"