ชาวเวียดนามยก 'ดินแดนแห่งรอยยิ้ม'คือ Branding ระดับโลกของไทย
ฝัง
- เผยแพร่เมื่อ 30 ส.ค. 2023
- ชาวเวียดนามยก 'ดินแดนแห่งรอยยิ้ม'คือ Branding ระดับโลกของไทย
พร้อมตั้งคำถาม ทำไมคนไทยทำการท่องเที่ยวโดนใจชาวเวียดนาม?
แหล่งที่มาข้อมูลและความคิดเห็น
vnexpress.net/thay-gi-tu-viet...
จะวิเคราะห์อะไรเยอะแยะ ไทยก็ไม่ได้ทำอะไรเป็นพิเศษ เราก็แค่เป็นตัวเองในแบบที่สากลยอมรับ อะไรไม่ดีก็ปรับปรุง พัฒนาให้มันดีขึ้นแค่นั้นเอง
ใช่ค่ะ นิสัยบางอย่างของคนไทยที่ต่างชาติเค้าประทับใจ เอาไปพูดถึงจนมีชื่อเสียง เราก็สงสัยว่ามันน่าทึ่งขนาดนั้นเลยเหรอ จนค่อยๆรับรู้ว่าประเทศอื่นเค้าไม่มีแบบเรา มันฝังอยู่ใน dna คนไทย คนประเทศไหนก็เลียนแบบไม่ได้ มันฝืน
@@bnjtob8892และ?หรือยังไง"🎉
แล้ว
@@bnjtob8892😮🎉แแ
คอมเม้นเหงียนดูโอเวอร์ไปหน่อยนะ
ก่อนเกิดโรคระบาด มีฝรั่งชาวสวิตเซอร์แลนด์ เขามาเที่ยวเกาะ อาดัง-หลีเป๊ะทุกปี 12ปีติดต่อกันจนพูดไทยได้ เขาบอก ธรรมชาติแบบนี้ ประเทศอื่นๆก็มี บางที่สวยงามกว่าด้วย แต่เหตุผลที่มาทุกปี ก็เพราะคนไทย เขาสบายใจที่จะอยู่ประเทศนี้
เพียงเผยยิ้ม ก็พริ้มพราว ทั้งสาวหนุ่ม ผู้คนรุม อุ้มชูเชิด เฉิดฉวี ก็แค่ยิ้ม ถึงอิ่มใจ ในธานี ชื่นชีวี ที่มียิ้ม ปริ่มฤทัย👍💖💖💖
เพียงเผยยิ้ม.ก็พริ้มพราวทั้งสวาหนุ่ม.โอ้ว.มันใช่เลยเป็นคำกลอนที่สวยงามและใช่เลย.ขออุญาตเก็บเอาไปใช้หน่อยน่ะ.เพราะมาก.ชอบๆๆ.😍
❤❤❤❤
คนไทยรู้ว่าเวียดนามเป็นคอมมิวนิสต์ ดังนั้นเราจึงรู้ว่าชาวเวียดนามต้องการอะไร 😄
ไพเราะมาก😊
👏👏 อย่างชอบ
เวียดนามวิเคราะห์การท่องเที่ยวเป็นสิ่งค้า แต่ไทยแค่นำเสนอความเป็นตัวตนของเราเอง ไม่ได้ทำอะไรที่ไม่ใช้ตัวตนและไม่ได้พยายามเปลี่ยนตัวเองเพื่อนักท่องเที่ยวเลย
สยามเมืองยิ้ม คือ วัฒนธรรมที่คนไทยทำกันจนเป็นเรื่องปกติ มาเป็นร้อยปีแล้ว
ขณะเดียวกัน ไทยก็มีการพัฒนา ปรับปรุงตัวเอง เพื่อรองรับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวด้วย จึงทำให้ประสบความสำเร็จอย่างทุกวันนี้ 👍👍🇹🇭🇹🇭
50% ของความสำคัญของการท้องเที่ยว คือพฤติกรรมของคนในเมืองท่องเที่ยว ที่เหลือก็เป็นสิ่งจูงใจของแหล่งท่องเที่ยว
เสน่ห์ของคนไทยคือใจดี มีเมตตา ช่วยเหลือคนที่ต้องการความช่วยเหลือโดยไม่แบ่งแยกว่าเค้าเป็นใคร หรือเป็นคนชาติไหน
เราคนไทยชาวสยามเราทุกคน ยิ้มอย่างธรรมชาติ ไม่โม้ ไม่โกง ไม่เคลมใครๆเราเป็นแบบนี้มายาวนาน เรายิ้มสู้ทุกปัญหา บรรพบุุรุษเราสร้างเมืองศรีเทพเก่าแก่ที่สุดในย่านอาเซียนนี้ ของจริงไม่เคลมใครๆ ผลงานของบรรพบุรุษเรา ทยอยออกมาโชว์ชาวโลก ได้ยลโฉม ทึ่งในการก่อสร้างมหาวิหารที่ไม่เหมือนใครแน่นอน
ตอบคอมเมนต์ที่บอกให้ดูสิงคโปร์เป็นตัวอย่าง ที่ทำการท่องเที่ยวเขิงธุรกิจ.... ก่อนอื่นต้องดูก่อนว่าแต่ละประเทศมีทรัพยากรท่องเที่ยวอะไร เหมาะกับการท่องเที่ยวแบบไหน แน่นอนว่า ไทยมีสถานที่ท่องเที่ยวเหมาะสำหรับการพักผ่อน มีธรรมชาติ ทะเลที่สวยงาม จะไปทำการท่องเที่ยวเขิงธุรกิจ มันก็เท่ากับขายของไม่ตรงกับที่มี ดังนั้นประเทศไหนเหมาะกับการท่องเที่ยวแบบไหน ขึ้นอยู่กับทรัพยากร แหล่งท่องเที่ยวที่มีอยู่ ดังนั้นไทยขายการท่องเที่ยงเชิงพักผ่อน เราก็ทำถูกทางแล้ว และได้ผลเป็นที่น่าพอใจ
ดอกไม้พลาสติก = สิงคโปร์
ดอกไม้ธรรมชาติ= ไทย
คนมัน "อวดเก่ง พูดเรื่อยเปื่อย อยากดูฉลาด"
เอาแค่ขนาดพื้นที่ สิงคโปร์ ...ด้วยพื้นที่น้อย ทรัพยากรจำกัด เค้าต้องให้เกิดประโยชน์สูงสุด แทบทุกตารางเมตร ตารางฟุต ทำกำไรให้มากที่สุด
ขณะที่เวียดนาม ....พื้นที่ทั้งประเทศกว้างกวาสิงคโปร์มาก .....แต่ละพื้นจะทำรายได้ไม่เท่ากัน ....สำนักงานการท่องเที่ยวเวียดนาม ต้องพยายามเกลี้ยประโยชน์ด้วย ไม่ใช่แค่สร้างแรงดึงดูด
คนจะออกความเห็นเรื่องท่องเที่ยว ....ไม่น่าจะต้องให้ใครสอนเรื่องพื้นๆ ....เรื่องนักท่องเที่ยว ลูกค้ามีหลายระดับ ....ทั้งระดับกระเป๋าเงินลูกค้า + รสนิยม ความคาดหวัง
อะไรๆก็จะเร่งไปสูงสุด ....ไม่ดูหน้าดูหลัง มันโง่บัดซบเลย
สิงคโปร์ถึงกับมี campaign ส่งเสริมให้ประชาชนยิ้มทุกวันทาง tv ในตอนเช้าครับ
ไทยไม่ได้ขายการท่องเที่ยวเชิงพักผ่อน แต่ไทยมีความพร้อมในทุกด้าน
ไทยก็มีท่องเที่ยวเชิงธุรกิจ แต่เหงียนไม่รู้
และไทยเหนือกว่าสิงคโปร์ด้วย เพราะ ไทยมีท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ
เวียดนามก็มีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามแบบไทย แต่เวียดนามทำให้เป็นสถานที่พักผ่อนไม่ได้ เวียดนามทำให้มันเป็นสถานที่ผจญภัย (เสียงแตร, ถนนวัดใจ, ขยะ)
@@user-hv2mu6zp6c ไทยก็มีท่องเที่ยวเชิงธุรกิจ แต่เหงียนไม่รู้
และไทยเหนือกว่าสิงคโปร์ด้วย เพราะ ไทยมีท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ
เวียดนามก็มีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามแบบไทย แต่เวียดนามทำให้เป็นสถานที่พักผ่อนไม่ได้ เวียดนามทำให้มันเป็นสถานที่ผจญภัย (เสียงแตร, ถนนวัดใจ, ขยะ)
ประเทศไทยเน้นการท่องเที่ยวตั้งแต่เจ๊งกับวิกฤตต้มยำกุ้ง(หวังจะเป็นประเทศอุตสาหกรรม เทคโนโลยีแต่ประชากรไม่ได้เป็นแนวนั้น) เลยหันมาเอาดีด้านการท่องเที่ยวเพราะนิสัยคนไทยและหลายๆอย่างมัน born to be เรื่องเที่ยวอยู่แล้ว นิสัยคนไทยเป็นคนรักสนุกสนาน เฮฮ่า ชอบกินเที่ยว ชอบความสวยงาม เมตตา ชอบช่วยเหลือ มีหัวศิลป์แต่ไม่ค่อยมีหัวด้านวิทย์เท่าไหร่(มีแต่%น้อย) พอมาจับเรื่องการท่องเที่ยวเลยหาคนแข่งยาก เพราะคนไทยทุกชนชั้นชอบเที่ยว ชอบใช้เงินหมด ดังนั้นจึงมีแหล่งให้เลือกใช้เงินได้หลายแบบ หลายราคา (คือจะรวยจะจนก็เที่ยวได้และต้องมีความสุข) การใช้เงิน การมีเงิน ความหรูหรา ฟุ่มเฟือยไม่ใช่เรื่องผิดปาบ แค่ทำหรือใช้จ่ายไม่ให้เดือดร้อนตัวเองหรือผู้อื่น จะเดินแจกเงินเลยก็ได้ แจกของโน้น นี้นั่นก็ได้ ถ้ามีมากพอหรือเหลือเฟือเพราะถือเป็นการทำบุญ ทำทาน ช่วยคนที่ไม่มีให้มีความสุขขึ้น 😊😊😊 สังเกตุมั้ยนิสัยคนไทยคือชอบแจกชอบให้ทุกชนชั้นตั้งแต่รวยยันคนจน เราช่วยเราให้คนละไม้คนละมืออ😊😊😊😂
ถูกต้องนะครับ
คนไทยพัฒนาในทุกด้านไม่ใช่แค่ท่องเที่ยว และการพัฒนาก็ต้องใช้เงินทุนซึ่งได้มาจากการท่องเที่ยว
ถ้าจะพูดถึงเรื่องการท่องเที่ยวไทย3วันก็ไม่จบครับ มันเยอะมากเพราะสั่งสมมานาน สร้างชื่อเสียงกันมานาน
ยิ้มน้อยยิ้มมากส่วนใหญ่นั้นก็ยิ้มให้แน่นอน แม้นคนที่ไม่ยิ้มเอาเสียเลยแต่เมื่อถึงคราวต้องแสดงน้ำใจกับนักท่องเที่ยวละก็ เขามักมีน้ำใจบริการพร้อมรอยยิ้มเสมอๆ
สิ่งที่เหนือกว่าการตลาดของไทยคือผู้คน ผู้คน และผู้คน สิ่งนั้นมันอยู่ในDNAของคนไทย
ใช่ที่สุด🎉🎉🎉🎉
เราถูกสั่งสอน
ในเรื่องอ่อนน้อมถ่อมตน
เครพผู้ใหญ..ไปลามาไหว้..
การยิ้มแย้มเเจ่มใส..
นิสัยคนไทยยิ้มง่าย เดินชนกันก็จะขอโทษกันเเบบอัตโนมัติ..😊😊
ไทยมีอุตสาหกรรมการผลิตเป็นหลัก การท่องเที่ยวเป็นรองต่างหาก แต่เมื่อการผลิตในช่วงวิกฤตมันไม่โอเค เลยพึ่งพาทางการท่องเที่ยว ดูได้จากสินค้าไปขายที่เวียดนามเยอะแยะ ไม่ผลิตมันจะขายได้ไง ก็อย่างเค้าว่า เวียดนามไม่รู้อะไรเกี่ยวกะไทยเลย แบบนี้ยังกล้าโม้ว่าจะแซง😊😊😊😊😊
แถบ SEA ไทยผลิตส่งไปขายหมดแหล่ะ ขายดีด้วยสินค้าดีไง
เวียดนามต้องปลูกฝังคนในชาติก่อนให้มีความคิดที่ดีไปในแนวทางเดียวกัน เช่นการบริการ
land of smile ไม่ได้มาจากการตั้งเอง แต่เกิดจากการที่ต่างชาติตั้งให้ จากมุมมองเขาเอง เพราะฉะนั้น เวียดจะตั้งอะไรก็ ต้องตั้งบนพืนฐานของความเป็นจริง ไม่งั้นเขาจะมองไม่ตรงปก
ไทยเป็นอย่างที่ไทยเป็น เวียดก็เป็นอย่างที่เวียดเป็นนั้นดีแล้ว
ไม่ต้องเสแสร้งเปลี่ยนตนเองจนลืมตันตนของตนเองหรอก มันจะเสียอัตลักษณ์ ได้แค่ไหนก็แค่นั้น
ยิ่งเปรียบเทียบยิ่งจะเหนื่อยนะเวียด
มันก็แค่นิสัยคนไทย ฉันไม่มีธุรกิจการท่องเที่ยวเลย แต่เมื่อมีนักท่องเที่ยวมาแถวบ้านก็ยินดีให้ความช่วยเหลือ คนเวียดนามคิดเยอะไปนะ
ไทยคือมหาอำนาจโลกแห่งรอยยิ้มและน้ำใจไมตรีมีเมตตา.
สยามเป็นแบบนี้...มาแต่โบราณ ถึงพื้นที่สยามยังไม่พัฒนาในทุกๆที่ แต่ที่สยามพัฒนาจนทั่วโลกต้องมาเยือนคือ ความเป็นคนสยาม ที่มีจิตใจดี เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ชอบช้วยเหลือจุนเจือ โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน สมกับเป็นเมืองของพนะพรหม... จริงๆ😊😊😊
เพราะทุกอย่าง ที่คนไทยทำ มันมาจากใจจริงๆ มีบ้างคนที่ทำเพื่อธุรกิจ แต่ส่วนน้อย โดยพื้นฐาน คนไทยถูกปลูกฝัง ใจเขาใจเรา ทำสิ่งดีกับคนอื่น สิ่งดีๆก็จะกลับหาเราเองคนที่คิดถึงแต่ตัวเอง จึงมักเป็นคนเห็นแก่ตัว😂😂😂😂
ทุกวันนี้เราทำร้านทำเอาสังคมทั้งนั้น เงินไม่ต้อง ข้าวกับน้ำปลายังได้ 55555
ต่างคนต่างพัฒนา
ใครมีอะไรดี ก็พัฒนาตามๆกันไป ไม่มีใครว่าอะไรหรอก คิดแค่ว่า อาเซียนต้องพัฒนาร่วมกัน แต่ละประเทศมีข้อดีข้อด้อยต่างกันไป
ขอแค่อย่าทำเหมือน
อย่าทำเหมือนเขมร ที่เอาแต่เคลมและใส่ร้าย
อย่าทำเหมือนลาว ที่เอาแต่อิจฉาริษยา
ตัวพ่อของ 2 ประเทศนั้น คือ เวียดนาม
สงครามในลาวกับเขมร คือ ทหารไทยรบกับทหารเวียดนาม
เวียดนามไม่น่าห่วง เขาสำรวจและเรียนรู้จากเพื่อนบ้านในด้านต่างๆ จากเคยมั่นจนรู้ว่าต่างกันมากจนไม่ต้องเทียบเอาเพื่อนบ้านเป็นแนวทาง ส่วน ลาวกับเขมรด้อยทั้งคุณภาพและมายเซท ขาประจำขี้เคลมขี้อิจฉา กับหนึ่งคู่หูที่คอยแซะใส่ร้ายหยิ่งจองหองเกลียดแบบแอบๆทั้งที่แรงงานพึ่งพาและอาศัยค่าเงินไทยเราทั้งคู่
@@skylinenitrodrif1967 ตัวพ่อของ 2 ประเทศนั้น คือ เวียดนาม
สงครามในลาวกับเขมร คือ ทหารไทยรบกับทหารเวียดนาม
ยังมีคนโง่ไม่รุ้ว่าไทยพึ่งพาท่องเที่ยวเป็นหลัก อย่างอื่นเค้าก็พัฒนาเด้อ เอกชนไทยก็ยืนอยู่ระดับโลก
ใช่ครับ ดูเหมือนคนเวียดนามจะเข้าใจว่าการท่องเที่ยวคือทุกสิ่งทุกอย่างของไทย แต่จริงๆแล้วไม่ใช่
คนมันอิจฉาครับ
อุตสาหกรรม การผลิต การส่งออก การแพทย์
ไทย นำหน้าเวียดนามเย๊อะ
คอมมิวนิสก็งี้ พวกในกะลา
@@upcommentอาจเป็นเพราะช่วงหลัง VN ติดท๊อปส่งออกอุตฯ หลักของโลกหลายรายการ แต่ไม่มีไทยหรือมีแต่ไม่ท๊อป เลยยิ่งตัวพองไปใหญ่ (เสพติดความสำเร็จ)
VN ส่วนใหญ่เข้าใจผิดว่า ท่องเที่ยว 40%-60% ของ GDP ไทย และสินค้าหลักคือเซ็กส์และกัญชา ...แย้งไปหรือให้ข้อมูลก็ไม่รับรู้ เพราะกลัวคนอื่นดีกว่า
สิ่งที่เวียดนามสร้างไม่ได้ง่ายๆ คืออัธยาศัยของพลเมืองที่มีต่อนักท่องเที่ยว นี่คือสิ่งที่เวียดนามยากที่จะตามทันไทย แต่เวียดนามก็ยังดีกว่าอินโดนีเซีย ที่จุดขายมีเพียงแค่บาหลีบนวัฒนธรรมฮินดู ส่วนอัธยาศัยของพลเมืองนั้นก็เห็นๆกันอยู่
บาหลีนับถือศาสนาที่คนส่วนใหญ่ในอินโดไม่นับถือเลยมีคนไทยเที่ยวเยอะ
@@xiaominame9317 อีกอย่างมีที่เดียว ที่อนุญาต ให้ทำธุรกิจเกี่ยวกับแอลกอฮอล์ได้ เบียร์ บาร์เหล้า ขายได้ที่เกาะเดียว ทั่วประเทศ นอกนั้น กฎหมายไม่อนุญาต เลยทำให้ฝรั่งไปเยอะ เพราะดื่ม กินได้เสรี ไม่อย่างงั้น อย่าหวัง นทท.คนไทยจะไปเที่ยวเลย บ้าไร แค่เบียร์ยังไม่อนุญาต เหอๆ
เวียดนามคนส่วนใหญ่ไม่ได้นับถือศาสนา ทำเหมือนไทยไม่ได้หรอกครับ
เราก็ดูตัวอย่างดีของญี่ปุ่น และประเทศอื่นๆมาปรับใช้ แก้ไขสิ่งที่ไม่ดีให้ดีขึ้น
เห็นด้วยครับ
- ผู้เชียวชาญของเวียดนามก็วิเคราะห์ได้ถูกต้องในแบบของนักการตลาด แต่จริงๆแล้วไม่ต้องใช้การตลาดวิเคราะห์ เพราะ มันอธิบายได้ง่ายๆว่า "ไทยมีความพร้อมด้านการท่องเที่ยว ส่วนเวียดนามยังไม่พร้อม"
- วิเคราะห์ให้ยาก เพราะ ไม่รู้ หรือ อาจจะยอมรับความจริงไม่ได้ว่า "ไทยมีระดับการพัฒนาที่สูงกว่าทั้ง infrastructure และประชากร"
- ประเด็นอื่นถือว่าวิเคราะห์ถูก แต่เรื่องสำนักงานส่งเสริมการท่องเที่ยวในต่างประเทศนี่ไปกันใหญ่ละ เหมือนอยากแดกงบสร้างสำนักงาน ... อยากบอกผู้เชียวชาญของเวียดนามว่า "เมืองที่เจริญ ใครๆก็อยากมาอยู่ ไทยไม่ได้ไปสำรวจความต้องการอะไรของคนเวียดนามเลย แม้แต่เกาหลี-ญี่ปุ่นก็อยากมาอยู่เมืองไทย" ... คนไทยที่อ่อนน้อมถ่อมตนไม่มีวันเข้าใจคนขี้โม้แบบเวียดนามหรอก
- ฝากบอกเมนท์ 5.04 - 6.10 ด้วยว่า "นทท.แบบสิงคโปร์ ไทยก็มี และไทยเหนือกว่าด้วยการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ เมืองที่เจริญจึงจะสามารถทำท่องเที่ยวได้ ไม่ใช่ทำท่องเที่ยวเพื่อให้เจริญ เมืองท่องเที่ยวอย่าง ภูเก็ต/ฟลอริดา เจริญกว่าเมืองอุตสาหกรรมอย่าง สมุทรปราการ/ดีทรอยต์ เวียดนามอยากเป็นเมืองอุตสาหกรรมพัฒนาเทคโนโลยีแบบดีทรอยต์ก็เชิญเลย แล้วอยากถามเวียดนามว่าสร้างรถไฟเมโทรเป็นรึยัง?"
ประมาณว่าอยากจะเป็นเมืองอุตสาหกรรมชั้นนำอย่างจีนญี่ปุ่นเกาหลี ซึ่งมันโอเวอร์ซัพไพร์ไปแล้วใครๆก็อยากเป็น ถ้าทำซ้ำโอกาสเกิดก็ยากมีแต่ไปตามตูดเขา
เราควรต้องนำพื้นฐานที่มีจุดเด่นดีๆของคนหรือของชาติตัวเองมาพัฒนาต่อยอดถึงจะทำให้เกิดความสำเร็จได้ง่ายกว่าก่อน จึงจะพัฒนาส่วนอื่นเพิ่มเติมขึ้นมาเรื่อยๆ จนภาพรวมดูเป็นเอกลักษณ์ของตนเองที่ใครๆก็อยากรู้จักและมาเยี่ยมชม
@@suchatsam สมัยก่อนอุตสาหกรรมมันไม่ได้แยกส่วนจาก R&D
พอประเทศอย่างไทยกับไต้หวันใช้วิธีสร้างอุตสาหกรรมโดยการตั้งโรงงานก่อนแล้วสร้าง R&D ทีหลัง กลุ่ม G7 มันก็แก้เกมส์มาเทคโอเวอร์โรงงานในไทย ไม่ให้ไทยสร้าง R&D ได้
ผลจากเรื่องนี้ คือ ในประเทศฝรั่งเขาทำแต่ R&D แล้วย้ายโรงงานไปไว้ประเทศที่มีค่าแรงถูก
แต่ตอนนี้พออเมริกาทะเลาะกับจีน กลุ่ม G7 ก็พยายามจะดึงโรงงานกลับมาตุภูมิ
ปัจจุบัน อุตสาหกรรมมันเป็นเรื่องความมั่นคง แต่ไม่ได้สร้างมูลค่า ตัวที่สร้างมูลค่า คือ R&D
ถ้าเวียดนามอยากเป็นเมืองอุตสาหกรรม เวียดนามจะมีความมั่นคง มีสินค้าใช้เพียงพอ แต่จะไม่รวย และเมืองจะเสื่อมโทรม
เมืองอุตสาหกรรมของอเมริกาอย่างดีทรอยต์ตอนนี้กลายเป็นแหล่งเสื่อมโทรมไปแล้ว
สุ้ไทยยาก การต้อนรับแขกของไทยมันฝังอยู่ในวัฒนธรรมไทย วัฒนธรรมไทยมีรากฐานมาจากศาสนาพุทธ
การมีความอุดมสมบูรณ์ ทำให้เราแบ่งปันไม่แก่งแย่งกัน มันเป็นพื้นฐานมานาน
ศาสนาเป็นตัวบ่มเพาะให้เรามีสังคมแบบนี้จริงๆ แต่ต่อให้ศาสนาอะไรถ้าเป็นคนไทยเวลาพบเจอกันก็จะถามว่า กินข้าวยัง
ถูกต้องที่สุดค่ะ ดีงามพระพุทธศาสนา❤😂🎉😂❤😂🎉😂❤
เราอาจจะไม่เน้นด้านเทคโนโลยี แต่การบริการเราเป็นเลิศ ซึ่งข้อดีคือคุณไม่ต้องลงทุนกับอะไรเลยนอกจาก “คน” และ การบริหารทรัพยากรที่มีอยู่ให้ดีเท่านั้น ซึ่งข้อดีของการลงทุนกับคน คือ เมื่อเราทำต่อมาเรื่อยๆมันจะปลูกฝังเป็นนิสัย นั้นคือเหตุผลว่าทำไม คนไทย ส่วนใหญ่แม้ไม่ได้อยู่ในธุรกิจการท่องเที่ยว แม้ไม่ได้ประโยชน์ก็ยังคงเป็นมิตรกับ นทท.อยู่
ถ้าเราไปเจอเพื่อนข้างนอกบ้าน แล้วบอกเพื่อนว่า มาเที่ยวบ้านฉันสิ พอเพื่อนถามว่าบ้านเธอมีอะไรดี เราก็จะตอบให้เพื่อนสนใจจนอยากมาเที่ยวบ้านเรา คนไทยทำเช่นนี้ ชาวเวียดนามลองทำบ้างสิ บางทีอาจจะมีเพื่อนไปเที่ยวบ้านเพิ่มขึ้น
กันมีอุตสาหกรรมเทคโนโลยีก็สำคัญแต่ปัญหาหลักของประเทศไทยก็คือการกระจายรายได้ ไม่เช่นนั้นก็จะมีแต่เมืองใหญ่ๆเท่านั้นที่รายได้ดีแล้วทำให้คนต่างจังหวัดต้องย้ายมาอยู่ในเมืองใหญ่ๆเพื่อหางานทำแทนที่จะอยู่พัฒนาจังหวัดของตัวเอง
การท่องเที่ยวเป็นคำตอบของทุกสิ่งเป็นการกระจายรายได้ถึงรากหญ้าทำให้ประชาชนไม่ทิ้งถิ่นฐานมาอยู่ในเมืองใหญ่ๆ แล้วทำให้เกิดปัญหาตามมาอีกมากมาย ประเทศไทยไม่มีเทคโนโลยีของตนเองเช่นเดียวกับเวียดนาม ประเทศไทยเคยผ่านจุดนี้ที่เวียดนามกำลังอยู่ในปัจจุบันนี้คือเป็นแค่แรงงานที่มีฝีมือในการผลิตสินค้าให้กับต่างประเทศเท่านั้น เมื่อผ่านไปนานเข้าแรงงานของเวียดนามก็จะมีราคาแพงบริษัทต่างชาติเหล่านั้นก็จะย้ายฐานการผลิตออกไปอยู่ในประเทศที่ค่าแรงถูกกว่า
การท่องเที่ยวจึงเป็นคำตอบที่ดีที่สุด ณ ปัจจุบัน
เราทำเพราะมันคือธรรมชาติเรา...ไม่ต้องทำเพื่อใครหรือเพื่ออะไร...เราทำมันมาก่อนจะมีนักท่องเที่ยว...นักท่องเที่ยวแค่มาเห็นแล้วมีส่วนร่วม....หากวันใดไร้นักท่องเทียว...เราก็จะยิ้มให้กันเหมือนที่เราทำมากันตลอด...ถ้าฝืนมันจะยากหน่อยไปครับเหงียน
ถูกต้อง
เห็นทางเขมรโปรโมทการท่องเที่ยวของเค้าว่า Country of smile ..ดูๆแล้ว คล้ายๆประเทศข้างเคียงยังไงไม่รู้ 555..😀 🇹🇭😂
เขมรไม่มีหัวคิด ลอกไทยง่ายกว่า
country of pickpocket
มันเขียนว่า Amazing C.......dia ด้วยนะ
Country is scammer
รอยยิ้มมันออกมาจากใจจริงของสยาม❤❤
ไทยยิ้มแบบเป็นมิตรและจริงใจ แต่เวียดนามและประเทศอื่นยิ้มแบบมิตร มิจฉาชีพ
วัฒนธรรมทางสังคมก็สำคัญเหมือนกัน
เวียดนามมาไม่ถูกทางสิ่งใดมันสร้างมันทำได้เหมือนกันน แต่คน ผู้คน เวียดไม่มีเหมือนคนไทย
คนไทยมันเป็นโดยพื้นฐานมารยาทการอยู่ในสังคม
จากที่อยู่ในย่านคนเวียดชอบมาเที่ยวพูดได้เลยยาก คงอีกนาน
มารยาทสังคมต้องเวียดต้องเรียนในสถานการศึกษาตั้งแต่เล็กๆต้องใส่ไว้ในแบบเรียนเลยขั้นพื้นฐาน คนเวียดยังเข้าใจผิดว่าเราพึ่งการท่องเที่ยว มันแค่ไม่กี่%ประเทศเราคือครัวโลก เราส่งออกสินค้าอุปโภคบริโภคเยอะ กว่าการท่องเที่ยวไปหาข้อมูลด้วยแสดงรู้ไม่จริง
ประเทศไทยคนส่วนใหญ่ไม่ได้รุ้จักเวียดนามบางคนเมืองหลวงเวียดยังไม่รุ้จักเลย บอกตรง
การท่องเที่ยวมันดีตรงกระจายรายได้โดยผู้คนที่ท่องเที่ยวเดินทาง ช่วยลดความเครียดของผู้คน ถ้าเครียดมากคนก็ไม่มีความสุข สังคมก็จะมีปัญหาสุขภาพจิตเยอะขึ้น ฝรั่งเศสรายได้จากการท่องเที่ยวตั้งไม่รู้เท่าไหร่ ขายของที่มีมูลค่าเพิ่มได้ทั่วโลก ไทยยังมีการบ้านและยกไปอีกขั้น
ขนาดเราขับมอไซต์ออกจากบ้าน เจอเพื่อนบ้าน ไม่รู้จะทักอะไร เรายิ้มไว้ก่อน ยิ้มมาแต่ไกลเลยละ
ใช่ยิ้มอย่างเดียวนะ อย่าบีบแตร😅😁😁
@@danthaihappy3640 บางทีก็บีบแตรคะ อยากให้เขาเห็นตัวเอง 😂
คนไทย ประเทศไทย มีจุดแข็งคือ นิสัยของคนไทยเอง ส่วนอย่างอื่นคือเรื่องรอง
เรามีต้นทุนทางวัฒนธรรมประเพณีที่ดี ซึ่งหลายชาติไม่มี รอยยิ้ม ( แม้จะน้อยลง) กิริยา มารยาท สิ่งเหล่านี้ต้องใช้เวลาบ่มเพาะ..สืบทอด ส่งต่อรุ่นต่อรุ่น ยังคิดเลยว่า การที่การแต่งชุดไทยเป็นกระแสฟีเวอร์ในหมู่ชาวต่างชาติ ขณะนี้ ถ้าได้เพิ่มคอร์สกิริยามารยาทอย่างไทย ( แม้แต่การไหว้ยังมีหลายแบบ) เข้าไป จะดีไหม ?
คนไทยยิ้มง่าย ไม่ค่อยโกรธใคร เพราะคนไทยทุกคนมีพ่อหลวง ร.9 องค์เดียวกัน ทุกคนรักพ่อเหมือนกัน พ่อหลวงทรงช่วยเหลือพสกนิกรมาหลายสิบปี ทรงมีพระปรีชาสามารถด้านสันทนาการไม่ว่าจะเป็นดนตรีหรือกีฬา ทำให้คนไทยอบอุ่นและมีความสุข พระองค์และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ทรงมีพระอารมณ์ดีเสมอ ทรงใกล้ชิดและรักประชาชน ทรงสั่งสอนประชาชนด้วยการแสดงให้เห็นด้วยการกระทำ คนไทยจึงรู้ซื้งถึงความรักที่พระองค์ที่มีต่อคนไทย คนไทยจึงมีพฤติกรรมตามรอยพ่อหลวง เอื้ออาทรและช่วยเหลือกัน จึงเห็นคนไทยมีรอยยิ้มเปื้อนหน้าตลอดเวลา คนไทยส่วนใหญ่จะอารมณ์ดี ไม่ค่อยทะเลาะกัน ใครมาเยือนก็จะต้อนรับขับสู้เป็นอย่างดี เหมือนพระองค์ทรงแสดงให้เห็น ยามมีพระราชอาคันตุกะมาเยือนประเทศไทย สยามเมืองยิ้ม ไม่ได้สร้างกันง่ายๆ เพราะรอยยิ้มของคนไทยเกิดจากความรู้สึกภายในของจิตใจ ไม่ได้เสแสร้ง มันถูกปลูกฝังมาหลายชั่วอายุคน ยากที่ประเทศไหนจะเลียนแบบประเทศไทยได้
Tapi raja rama sepuluh tukang kawin... Di hadapan rakyat sok baik tapi dia raja munafik
ป้าข้างบ้านเขียนว่า Camb...ia land of smiles เฉยเลยเข้าไปเถียงกับมันมา
ไม่ต้องไปเถียงกับเค้าหรอกค่ะ ของๆเราชัดเจน เค้ายังว่าเราขโมยเค้ามาเลย หน้าเค้าหนากว่าเราเยอะ เดี๋ยวนักท่องเที่ยวไป แล้วsmile ไม่ออกก็ไม่มีใครไปเอง ทุกวันนี้ก็โดนแล้ว
มีเขียนว่าตัวเองเป็น Amazing Claimbodia ด้วยนะ
ไทย ไม่ได้มีอัตราการยื้มของปาะชากรสูงสุด น่าจะน้อยกว่า เวียดนามกับเหมนด้วย แต่ถึงยิ้มน้อยกว่า แต่ไทยมีน้ำใจ มีวินัย ไม่โกงลูกค้า ราคาสมเหตุผล อาหารอร่อย เดินทางสะดวก มาแล้วมาอีกได้
ไทยยิ้มแบบเป็นมิตร แต่เวียด หรือประเทศอื่นยิ้มแบบมิตร มิจฉาชีพเลยสู้ไทยไม่ได้😆
เดี๋ยวนี้เขาใจดีแล้วนะ เคยเห็นคลิปฝรั่งไปเที่ยวเวียด คือเขาให้ขนมให้น้ำฟรีๆเลย อยู่ๆแม่ค้าก็ยื่นให้ ให้แบบ งงๆ ฝรั่งก็งง ผมดูคลิปก็ยัง งง
สิ่งที่เวียดมองเห็นไทยก่อนคือการท่องเที่ยว ลองหาดูโครงการที่ก่อให้เกิดรายได้สิ การเกษตร ฐานการผลิตต่าง ๆ รถไฟเชื่อมโยง เขตเศรษฐกิจ EEC นิคมต่าง ๆ ไหนจะแลนด์บริดจ์อ่าวไทย-อันดามัน (อนาคต) รถบรรทุกไฟฟ้า ดวงอาทิตย์เทียม ฯ ไทยไม่ได้มีแค่ท่องเที่ยว เราพัฒนาในหลาย ๆ เรื่องไปเรื่อย ๆ
ใช่ ถ้าไม่โง่ก็แกล้งมองไม่เห็น
เหงียนรับไม่ได้ที่ไทยเหนือกว่า 5555
เหงียนอยากประสบความสำเร็จเหมือนไทยหรือดีกว่า..เริ่มต้นง่ายๆ..เปลี่ยนสันดานคนในชาติ..ให้เอื้ออารี เมตตา เป็นมิตร รู้ใจเขาใจเราให้มากขึ้น..แล้วเรื่องนิสัยแย่ๆอื่นๆจะแก้ได้ด้วยตัวมันเอง..เช่น การบีบแตร การเอาเปรียบ การโก่งราคา..ส่วนเรื่องมิจฉาชีพต้องให้เจ้าหน้าที่เข้มงวดให้มากกว่าเดิม...ทำได้ก็จะได้ผลลัพธ์ที่ดี..แต่ใช้เวลาเท่าไรไม่รู้..😂😂😂
อีก100ปี เวียดนามก็ทำแบบไทยไม่ได้ อาหาร สถานที่ท่องเทียว การเดินทาง มันก็แค่ปัจจัยหนึ่ง แต่หัวใจหลักคือ คนไทย นิสัยคนไทยต่างหากล่ะ
นิสัยคนไทย 😂😂
คนไทยรู้ว่าเวียดนามเป็นคอมมิวนิสต์ ดังนั้นเราจึงรู้ว่าชาวเวียดนามต้องการอะไร 😄
ที่บอกให้เปลี่ยนสันดานคงทำได้ยากหรือไม่ได้เลยนะครับ ผมมองว่า ที่คนไทยมีนิสัย อารี เมตตา เป็นมิตร นั้นมันเกิดจากสิ่งพื้นฐานมาก ๆ นั่นคือ คนในประเทศไทยอยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุข มีสิ่งต่าง ๆ มากมายพร้อมไปเกือบทุกด้าน ซึ่งคนที่อยู่ในประเทศที่ร่มเย็นเป็นสุข ก็จะยิ้มออกมาได้อย่างเป็นธรรมชาติ ความเอื้อเฟื้อความอารีย์ที่มีในใจก็แสดงออกมาได้อย่างไม่ต้องเสแสร้ง รวมถึงการสั่งสอนอบรมจิตสำนึกจึงทำให้รู้จักการวางตัว ทั้งหมดนี่รวมกันทำให้ประเทศไทยมีเอกลักษณ์ยากที่ใครจะเลียนแบบ
@@chatchaibovonkitiwong2569 ก็คงยากเกินไปที่จะเปลี่ยนแบบปุบปับ คงต้องยกร่างเป็นนโยบายแห่งชาติ ในการปลูกจิตสำนึกสาธารณะ กำหนดเวลาซัก สิบปี โดยมีกฏระเบียบไว้ควบคุม...เหมือนตอนไทยมีโครงการ " ตาวิเศษ " มีแบบแผนการณ์บูรณาการให้เป็นรูปธรรม..เป็นขั้นเป็นตอน จากเลิกทิ้งขยะไม่เป็นที่ เป็นสอดส่องพวกพ่อค้าแม่ค้าร้านค้าที่ทุจริตเอาเปรียบผู้บริโภค สเต็ปนี้ผ่านก็ไปจับตาดูเจ้าหน้าที่ฯทุจริต..ฯ.ไทยผ่านขั้นตอนการปลูกฝังจิตสำนึกสาธารณะเหล่านี้มาแล้ว และยังคงต้องพัฒนาต่อหรือคงไว้ให้ดีเช่นเดิม.😂😂😂.
เดี๋ยวนี้เขาใจดีแล้วนะ เคยเห็นคลิปฝรั่งไปเที่ยวเวียด คือเขาให้ขนมให้น้ำฟรีๆเลย อยู่ๆแม่ค้าก็ยื่นให้ ให้แบบ งงๆ ฝรั่งก็งง ผมดูคลิปก็ยัง งง
คนไทย รู้ทุกอย่างของคนเวียดนาม..?...
เมื่อปีก่อน มีทีมสื่อเวียดนามมาสัมภาษณ์คนไทยเกี่ยวกับเวียดนาม..ปรากฏว่า ต้องผิดหวังกลับไป เพราะคนไทยให้ความสนใจเวียดนามค่อนข้างน้อยมาก...จนสื่อเวียดนามเอาไปบ่นว่าคนไทยไม่ค่อยสนใจเวียดนามเลย
น่าจะหมายถึงการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สาขาเวียดนาม เขารู้ใจนักท่องเที่ยวเวียดนามประมาณนั้นครับ
@@upcomment ใช่ครับ แต่ในสำนวน พูดว่าคนไทย ผมเลยยกข่าวมาอิง ว่าคนไทยจริงไปแล้ว สนใจเวียดนามน้อยมาก แต่การท่องเที่ยวของเราสิ รู้ละเอียดทุกกลุ่ม
ประเด็นอื่นถือว่าวิเคราะห์ถูก แต่เรื่องสำนักงานส่งเสริมการท่องเที่ยวในต่างประเทศนี่ไปกันใหญ่ละ เหมือนอยากแดกงบสร้างสำนักงาน ... อยากบอกผู้เชียวชาญของเวียดนามว่า "เมืองที่เจริญ ใครๆก็อยากมาอยู่ ไทยไม่ได้ไปสำรวจความต้องการอะไรของคนเวียดนามเลย แม้แต่เกาหลี-ญี่ปุ่นก็อยากมาอยู่เมืองไทย" ... คนไทยที่อ่อนน้อมถ่อมตนไม่มีวันเข้าใจคนขี้โม้แบบเวียดนามหรอก
การยิ้มเป็นการผูกมิตรโดยไม่ต้องลงทุนเป็นทรัพย์สินเงินทอง ชาวโลกควรเรียนรู้จากคนไทย
ถึงเรากับเวียดนามจะจิกกัดกันไปมาบ้าง แต่เราก็เป็นเพื่อนที่ดีต่อกันได้ (ยกเว้นเขรม)
เพื่อนบ้านเรา เกือบทุกประเทศ ไม่แน่ใจว่าเค้ารู้สึกดีกับเราจริงๆ ขนาดมหามิตร ยังเปลื่ยนไป พอเราล้ม เค้าก็เหยียบจร้าาา
ตัวพ่อของลาวและเขมร คือ เวียดนาม
สงครามในลาวกับเขมร คือ ทหารไทยรบกับทหารเวียดนาม
เอาจริงๆนะ ในอาเซี่ยนเนี่ยมันไม่ใครเป็นมิตรใครหรอก เพราะแต่ละชาติต่างก็มีความบาดหมางซึ่งกันและกันจากประวัติศาสตร์การรบกันของแต่ละชาติในอดีต ไทยกับเขมร,พม่าและลาว มาเลเซียและอินโดนีเซีย หรือแม้แต่ฟิลิปปินส์ก็เคยเปิดศึกกับมาเลย์ในอดีตเช่นกัน
ที่มันมารวมกันได้ก็เพื่อประโยชน์ทางเศรษฐกิจแค่นั้น
คนไทยรู้ว่าเวียดนามเป็นคอมมิวนิสต์ ดังนั้นเราจึงรู้ว่าชาวเวียดนามต้องการอะไร 😄
แนวความคิดของคนเวียดนามรุ่นใหม่ๆที่เคยมาเที่ยวไทยจริงๆและเห็นศักยะภาพของประเทศไทยโดยส่วนมากมีความคิดเห็นที่มีต่อไทยเป็นไปในทางที่ดีนะ พวกเขาอยากเป็นให้ได้เหมือนพวกเรา และเริ่มวิเคราะห์ทุกๆออย่างมีเหตุมีผลมากขึ้น มองว่าไทยมีอะไรดีทำมัยคนมากมายทั่วโลกถึงมาเที่ยวไทยเยอะขนาดนี้ และเวียดนามขาดอะไร ทำไมเวียดถึงมีนักท่องเที่ยวน้อยลง .....เวียดนามพวกเขาจะสามารถพัฒนาได้หากคนในประเทศคิดแบบนี้ได้เยอะๆและพยายามแก้ไขสิ่งที่ตัวเองบกพร่องให้ดีขึ้น พวกเขาเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวที่คอยมองเราและกำลังพยายามปีนป่ายตามเราขึ้นมาติดๆ
เวียดนาม คุณมองไทยว่า มีอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว แต่เปล่าเลย เรามีอุตสาหกรรมการเกษตร และอุตสาหกรรมอุปโภคบริโภค การผลิตเองใช้เอง สินค้าไทยก็ดังไกลทั่วโลก เรายังมีอุตสาหกรรมด้านอื่นๆ ที่เป็นตัวเสริมการลดการนำเข้า ประเทศที่ลดการนำเข้าได้ แค่นี้ประเทศก็อยู่ได้ระดับดี ซึ่งต่างจากประเทศข้างบ้านบางประเทศ
ดูเหมือนว่าคนเวียดนามจะเข้าใจว่าการท่องเที่ยวคือทุกสิ่งทุกอย่างของไทย แต่จริงๆแล้วไม่ใช่
มันก็ไม่แปลกที่เขาจะคิดแบบนั้น เพราะส่วนมากคนเวียตนามจะรับรู้เกี่ยวกับไทยจากคนที่มาเที่ยวที่ไทยมากกว่าสื่อโทรทัศน์ไทยที่ฉายในเวียตนาม
เวียตตามเกาหลีตามจีนตามญี่ปุ่นไปได้เลยครับ ผมชอบให้ไทยเป็นแบบนี้ดีแล้ว งานการท่องเที่ยวทำแล้วมีความสุขมากกว่า ทั้งประเทศมีความสุขมากกว่า ประเทศเจริญด้านเทคโนโลยีมากๆ แล้วต้องเครียดมากๆ จนคนในประเทศเจริญแล้วเหล่านั้นสูญเสียความสุขของการเป็นมนุษย์ไปจนเกือบหมด เพราะเงินและเทคโนโลยีเป็นปัจจัยในการสร้างความเครียด แถมพอค่าครองชีพสูงมากๆต้องดิ้นรนมาก คนจนที่มีรายได้น้อย แม้พอจะมีงานทำยังไม่พอแม้แต่จะกิน เพราะทุกอย่างแพงหมด คนไร้บ้านมากมาย ประเทศจะมีความสุขสงบได้ยังไงครับ ทัศนคติของคนเวียตแบบนี้เพราะเขายังไม่มีเคยเป็นแบบนั้น และรูปแบบนั้นๆเป็นรูปแบบที่เขาหวังอย่างจะดำเนินรอยตาม แต่บอกเลยครับ คิดผิด แต่ก็ไม่ว่ากันเขามีสิทธิที่อยากเป็นแบบนั้น แต่เป็นได้เมื่อเขาจะภูมิใจแต่ไม่มีความสุข และย้อนเวลากลับไม่ได้แล้ว ต้องเดินต่อไปบนถนนเงินตราเทคโนโลยีและความเครียดที่ถ่าโถมจนอยากฆ่าตัวตาย
แต่ละประเทศก้อมีข้อดีข้อเสียต่างกัน ประเทศไทยการทองเที่ยวคือเม็ดเงินที่เอามาสร้างความเจริญทุกๆๆด้านในประเทศให้เจริญขึ้นเราไม่ได้มีแต่ดีแค่การท่องเที่ยวนะ ส่งออกอาหาร ของใช้มากมาย ประเทศเพื่อนบ้านก้อนำเข้าจากไทยนะ เวียดนามก้อใช้ของไทยด้วยใข่ไหม วิเคราะห์ไปเถอะ ประเทศไทยไปต่อไม่รอแล้วนะ รักเธอประเทศไทย🇹🇭🇹🇭🇹🇭🇹🇭🇹🇭
บริการมาจากใจ
ไทยพูดภาษาต่างประเทศไม่ได้เป็นส่วนใหญ่ ก็เลยผูกมิตรด้วยรอยยิ้ม ซึ่งเป็นภาษาที่เข้าใจง่าย
นักท่องเที่ยวต้องการคงไม่มีอะไรมากเหมือนเราๆท่านๆไปเที่ยวเช่น ที่พัก อาหาร ราคา ความปลอดภัย สถานที่ ผู้คน กิจกรรม ฯ
มีประโยคที่บอกเวียดนามต้องระมัดระวังการตั้งเป้าหมายไว้ให้ไม่สูงนัก...... ประโยคนี้ขอมองบน เพราะฟังจนเบื่อแล้ว "เราจะแซงไทยใน 5 ปี" 5555
55555555555555
ชอบเสียงแอดฯจัง ต้องเป็นคนร้องเพลงเพราะแน่ๆ😊
ขอบพระคุณมากครับ แอดร้องเพลงค่อนข้างจะไม่เอาไหนครับ😂
@@upcommentนึกในใจว่าแอดจะตอบทำนองนี้ก็ใช่จริงๆ แค่นึกก็ยิ้มเองคนเดียวแล้วก็ตามด้วยขำๆ เนี่ยะdnaพวกเราคนไทยชัดเจน😂😂😂
เพราะคนไทย รู้จักเอาใจเขา มาใส่ใจเรา ไงล่ะ
😀😀😀😀😀👍🇻🇳🇹🇭คนเวียดนามเที่ยวไทยหายห่วง ตอนรับคนเวียดนามทุกคนที่ดี 😊
พูดถึงเวียดนาม บางอย่างต้องปรับตัวอีกมาก ท่านมาท่องเที่ยวเรายินดีต้อนรับแบบมิตร😊😊
พ่อค้า แม่ค้า ไม่หน้าบึ้งใส่ นทท.ครับ จับได้ ชิมได้ ไม่ซื้อก็ไม่ด่า(ไทยชอบแถมให้ฟรีด้วย) ไม่เดินตาม ถึงเนื้อถึงตัว รบเร้าให้ซื้อหรือใช้บริการ จนน่ารำคาญถึงน่ากลัว
เหมือน VN ยังไม่สะเด็ดน้ำ...
เข้าถึง เข้าใจ พัฒนา............
เข้าถึง..หัวใจของนักท่องเที่ยว
เข้าใจ..เข้าใจธรรมชาติของนักท่องเที่ยว
พัฒนา..สารพัดการพัฒนาจากการเข้าถึงและเข้าใจ....
เข้าถึงเข้าใจแต่ตัวตน แต่ไม่เข้าถึง เข้าใจลูกค้า....เพื่อ??????????
วิเคราะให้ตายก็ไม่มีทางทำได้อย่างไทยหรอก ชื่อมันก็บอกอยู่ สยามเมืองยิ้ม ส่วนเวียดนามขี้โม้ไปวันๆไม่มีประโยชน์
อย่างน้อยเวียดนามก็สนใจเปรียบเทียบเชิงศึกษากับไทยซึ่งเวียดนามค่อยๆเจ้าใจไทยมากขึ้นว่าทำไมไทยจึงขึ้นชื่อเรื่องนี้ รวมทั้งคงศึกษาเพื่อนบ้านอื่นๆที่มีจุดเด่นด้านต่างๆ เพื่อเอามาปรับปรุงพัฒนาเห็นผลชัดเลยคือวงการกีฬาที่โดดเด่นขึ้นมา ไม่ได้เคลมกับขิงอย่างเดียวแถมไม่ยอมรับอิจฉาแบบบางประเทศ
ในอดีตไทยการมีปัญหาในการต้อนรับนักท่องเที่ยวเหมือนกัน...เราคนไทยต้องร่วมด้วยช่วยกันทุกคนเพื่อดูแลนักท่องเที่ยวทุกคนถึงแม้บางภาคอาจจะไม่มีนักท่องเที่ยวมากนัก
ห่างชั้นกับไทยจนยากที่จะตามทัน ไม่ว่าจะภาคใด ๆ
Land of smile หลายคนไม่รู้ว่าเขมรพยายามจะเคลมเอาคำนี้ไปตั้งชื่อให้ประเทศตัวเองให้ได้เลย
ไม่รู้นั่นแหละดีแล้ว เพราะแสดงว่าขายไม่ออก คนไม่จำ ไม่มีค่า
เรื่องการต้อนรับแขกด้วยน้ำใจไมตรี เป็นนิสัยพื้นฐานของคนไทย นี่คือ ต้นทุน ที่ประเมินค่ามิได้ นี่แหละสิ่งที่จำเป็นต้องมี วิเคราะห์อะไรกันมาเลอะเทอะ ประชากรที่น่ารักของชาติ คือวัตถุดิบที่จะดึงดูดให้นักท่องเที่ยวอยากมา เอาแค่นี้ก่อนดีกว่า หากทำไม่ได้ก็เลิกฝันไปเลยครับ สำนักงานการท่องเที่ยวของไทยก็เพียงทำการแนะนำเรื่องข้อมูล และให้การสนับสนุนในการทำกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ทุกอย่างดูเป็นมืออาชีพมากขึ้น แต่หากคนไทยไม่น่ารักก็คงดันไม่ขึ้นหรอกครับ
เคยไปเที่ยวเวียตนามครั้งหนึ่งไม่ประทับใจ รู้สึกตื่นกลัวมากต่อสภาพการจราจรที่ไม่น่าปลอดภัย ผู้คนดูไม่ยิ้มแย้มแจ่มใส บ้านเมืองถนนหนทางและร้านอาหารไม่สะอาด ความจริงบ้านเมืองของเขามีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ อาคารบ้านเรือนมีสถาปัตยกรรมที่สง่างาม หากนำบทวิเคราะห์ไปปรับปรุงนำไปจัดระเบียบและพัฒนาให้ดีขึ้นก็จะสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้มากเลยทีเดียว
ใช่ เรารู้จักเวียดนาม
ชอบดราม่า
ชอบเปรียบเทียบ แล้วก็ไปเถียงกัน ....
สถานที่ไม่ใช่ปัจจัยสำคัญ สิ่งที่สำคัญคือ ผู้คนและสิ่งแวดล้อมรอบข้าง ตามสถานที่นั้นๆต่างหาก
อีกหน่อยก็ทำตามกันหมดเรื่องรอยยิ้ม แต่..ใครจะยิ้มด้วยความมีไมตรีและจริงใจกว่ากันเท่านั้น
ทำตามมานานแล้ว
ยิ้มโดยไม่เข้าใจว่า ยิ้มนั้นหมายถึงผู้คนเป็นมิตร
เห็นในหนังโฆษณาท่องเที่ยวเวียดนามให้คนเวียดนามมาฉีกยิ้มแล้วโคตรตลก แสดงให้เห็นว่าไม่เข้าใจ
ผมมองว่าเวียดมีความคล้ายจีนซะมากกว่า ตอนนี้เป็นการเน้นเติบโต ลงทุนจากต่างประเทศ และเติบโต โดยเฉพาะ semiconductor คงไม่ได้เน้นท่องเที่ยวซะเท่าไร ส่วนบ้านเรายังเน้น automotive ซึ่งญีปุ่นไม่ขยับซักที จนจีนจะมายึดหมดแล้วละครับ แต่ยังดีมีการท่องเที่ยวที่เราทำมานานมากแล้วเกือบ 60 ปีขึ้น มันเลยทำให้เราอยู่รอดมาได้
รถยนต์ไม่เหมือนสินค้า IT ที่ใครทำก่อนจะเป็นเจ้าตลาด
โตต้ามันรอค่ายอื่นสร้างตลาดใหม่ แล้วค่อยทำตาม สุดท้ายโตต้าจะชนะด้วย reliability ที่เหนือกว่า
ค่ายเล็กๆจำเป็นต้องเสี่ยงเปิดตลาดใหม่ เพราะ ตลาดเก่าสู้โตต้าไม่ได้
เราอยู่รอดได้ เพราะ อุตสาหกรรมกับเกษตรกรรมที่ผลิตสินค้าได้เองภายในประเทศ และสินค้าเหล่านี้ยังเป็นปัจจัยที่ทำให้ท่องเที่ยวไทยประสบความสำเร็จ
ขอคอมเม้นญี่ปุ่นกับเกาหลีหน่อยครับ เมื่อเขาได้ฟังว่าคนไทยชอบญี่ปุ่นมากกว่า หรือบางคนชอบเกาหลีมากกว่า แล้วรู้สึกยังไงบ้าง
Trung quốc hàn quốc nhật bản họ xem đông nam á là man di mọi rợ ở đấy mà thích,lên các diễn đàn mà xem người đông á nói về đông nam á rồi sẻ biết ,không cố gắng giàu mạnh quảng bá văn hóa đông nam á ra thế giới ,người thái lan có vẻ tôn sùng người đông á quá mức thì phải
เดี๋ยวหาให้ครับ
@@upcomment ขอบคุณมากครับ
ไม่ใช่แค่ชาวเวียดนามหรอกที่ท่องเที่ยวไทยรู้จักพฤติกรรมการเที่ยว แต่เรารู้ทุกประเทศค่ะ เอาแค่การทำงานจากททท. เขามีสำรวจพฤติกรรมนทท.อยู่ตลอดเวลา มีการรีเสิร์ชข้อมูลการใช้จ่ายระหว่างท่องเที่ยวเชิงลึก กิจกรรมที่ทำ และรสนิยมในการท่องเที่ยวในไทยของนทท.ทุกประเทศ เก็บสถิติมาปรับปรุงและพัฒนากันอยู่ตลอดจ้า แล้วเอาข้อมูลที่ได้มาโปรโมทการท่องเที่ยวให้ตรงจริตแต่ละประเทศและตรงกับทรัพยากรที่มีจ้า เรียกได้ว่ารายละเอียดทุกเม็ด. ในส่วนของภาคท้องถิ่นนี่ไม่ต้องห่วงเลย นิสัยคนไทยค่อนข้างเข้ากับคนง่ายอยู่แล้ว
-การท่องเที่ยวนำคนนำเงินมา
-ของขายได้นักลงทุนมองเห็นกำลังซื้อ
-บริษัทต้องพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อแข่งขันขายสินค้า
-ชื่อเสียงประเทศ แบรนด์สินค้าของประเทศนักท่องเที่ยวจะประชาสัมพันธ์โดยไม่ต้องเสียเงิน
ถ้ามองอย่างมีมิตินะจ๊ะเพื่อนบ้าน
ติดตามมาสักพัก เริ่มติดช่องนี้แล้วนะคะ😅😊
ความจริง ถ้าเวียตนาม จะอ้างว่า เมกา ญี่ปุ่น เกาหลี เยอรมัน อิสราเอล ไม่เห็นจะต้องพึ่งพาการท่องเที่ยวแบบไทยเลย ,ถ้าเช่นนั้น เวียตนามควรจะพัฒนา วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และอุตสานหกรรมให้เท่าทัน ประเทศดังกล่าวจะดีกว่านะ อย่ามาไล่ตามเรื่องท่องเที่ยวไทยอยู่เลย เสียเวลาเวียตนามเปล่าๆ.
ช่วงนี้โพสต์คลิปเช้าจังครับ😅
ถูกต้องแล้ว .!!
พัฒนาอะไรก็คงจะตามไม่ทันแล้ว...ฝรั่งต่างชาติพูดเป็นเสียงส่วนใหญ่ว่า ซอฟท์พาวเวอร์ที่สำคัญของประเทศไทย คือ คนไทย ความเป็นคนไทย เพราะคนไทยส่วนใหญ่ของประเทศเป็นชาวพุทธ วิถีชาวพุทธหล่อหลอมให้อุปนิสัยคนในชาติเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ไม่ว่าจะไปภาคไหน ก็จะคล้ายคลึงกัน...
สยามเมืองยิ้มจร้า
ดีครับเวียดนาม อย่ามาแข่งการท่องเที่ยวกับไทยเลย ไปแข่งกับประเทศอื่นเถอะ
สวัสดีครับแอดมิน ยอดเยี่ยมเลยครับผม ❤️👍👍👍✳️🌾🌾🌾🇹🇭🇹🇭🇹🇭
ขอบพระคุณมากครับ
เวียดนาม หรือเพื่อนชาวอาเซียนก็ทำได้ ต้อนรับนักท่องเที่ยวอย่างเป็นมิตรดุจญาติตนเอง ไม่เบียดเบียนกัน แล้วอะไรทุกอย่างก็จะดีขึ้นตามมา
เวียดนามนำสิ่งนี้ไปใช้ทั้งประเทศรับรองอีกสิบปีการท่องเที่ยวพัฒนาไปไกลเลย..สิ่งนี้คือ"ศาสนาพุทธ"😂🎉
แค่ถือศีลข้อ2และข้อ4 เวียตนามก็จะโชติช่วงชัชวาลบานตะไทแล้วครับ🤩
พ่อค้าผลไม้รถเข็น เห็นฝรั่งสวยๆซื้อแตงโม จากราคา 20 คิดแค่ 10 บาท เฉยเลย ส่งยิ้มหวานให้อีกต่างหาก ขายถูกจนฝรั่งงง ส่วนเรามนุษย์ป้า ซื้อแคนตาลูป 1 ชิ้น พี่เขาคิด 20 😅
เรื่องท่องเที่ยว ถ้าไปลอกตัวอย่างยุโรป อเมริกา จะเรียกว่า ....ไกล้เเกลือกินด่าง ทันที
เสพติดความสำเร็จ คำนี้น่าสนใจครับ จากข่าวภาษาอังกฤษ ใช้คำว่าอะไรครับ
ลิงต้นทางอยู่ในช่องคำอธิบายเป็นภาษาเวียดนามครับ ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าภาษาอังกฤษเขาใช้ว่าอะไร
สิงคโปร์บ้านเมืองเขาสวยดี แต่ร้อนมากๆๆไม่มีสถานที่ื่องท่องนอกจากห้างซึ่งสินค้าก็แพงมากสำหรับเรา
รู้สึกดีที่ได้บริการนักท่องเที่ยวและไม่เอาเปรียบ
ความเห็นสุดท้ายน่าจะตรงประเด็นที่สุด ส่วนคนที่บอกจะพัฒนาการท่องเที่ยวเวียตแบบสิงคโปร์นั่นคือคนไม่ฉลาดเลย มาดูเมนต์ไทยในนี้แล้วถ้าคนเวียตนามมาอ่านน่าจะมีประโยชน์โดยเฉพาะเม้นต์ที่แนะนำว่าเวียตนามต้องแก้ที่สันดานเสียก่อน นั่นละตรงประเด็นที่สุด ตอนนี้เวียตนามอดีตสนามสงครามปัจจุบันดินแดนแห่งคนขี้โกงและหนวกหู🤣🤣🤣
ใครๆก็หลงรักสยามเมืองยิ้มใครก็เอาไปไม่ได้จริงใหมเหมน😊😊😊
พัฒนาการของท่องเที่ยวไทยคือการโปรโมทตัวเองไห้คนในประเทศหันมาท่องเที่ยวในไทยก่อนเพื่อสร้างรายได้ในคนในพื้นที่นั้นเป็นสิ่งที่เราทำมานานและได้ผลลัพธ์ที่ดี ภานใต้ สโลแกน ไทยเที่ยวไทย ใช้ของไทย ไทยเจริญ
ไทยเราถูกปลูกฝังด้วยศีล กรรมบท10 พรมวิหาร4 มาเเบบไม่รู้ตัว จากรุ่นสู่รุ่น ถึงจะมีบ้างไม่มีบ้างก็ตาม
เสียดายฮาลองเบย์มาก ไปมาไม่ประทับใจเลยมีแต่ตึกซึ่งไม่เข้ากับธรรมชาติไม่เข้าใจทำแบบนั้นทำไมขอฮาลองเบย์แบบเก่าคืนมา
เวียดนาม เป็นประเทศที่สวย ต้องเพิ่มรถและเรือ โดยสารประจำทาง ให้ทั่วทุกเมือง สถานที่ท่องเที่ยวทั้งหมด ต้องมีรถสาธารณะที่เข้าถึงโดยสะดวก ผมว่า จะลดการใช้มอเตอร์ไซด์ได้มากขึ้น ต้องประชาสัมพันธ์ ให้คนในชาติ เปลี่ยนพฤติกรรม ในการทิ้งขยะ และมีการจัดการขยะให้ดีกว่านี้ เพิ่มถังขยะในเมืองให้มากขึ้นอีก โดยเฉพาะในที่ชุมชน ที่สำคัญที่สุด ประชาชนต้องเปลี่ยนนิสัย ในการต้อนรับชาวต่างชาติ ไม่เอาเปรียบผู้มาเยือน ให้ความช่วยเหลือในทุกๆด้าน และ เอาจริงเอาจัง ในเรื่อง โจร ขโมย ให้ลดลงมากที่สุด โดยไม่คิดว่าจะเข้าข้างคนชาติเดียวกัน.....
😀 การท่องเที่ยว & การลงทุนในประเทศไทย - นี่แหละผลจากที่คนไทยและประเทศไทยเราเป็นมิตรและเพื่อนกับชาวโลกทั่วโลก🤔ไม่ต้องการสร้างศัตรูหรือเป็นศัตรูกับใครในโลกนี้ครับ😀เรามาช่วยกันสร้างประเทศไทยให้เป็นแดนสวรรค์บนโลกใบนี้กันครับ - ที่ชาวโลกอยากมาท่องเที่ยว,มาปลดเกษียณ,มาอยู่เป็นบ้านที่สองของชาวโลก = ชาวโลกขนเงินมาเข้ากระเป๋าคนไทยและประเทศไทยครับ❤️🇹🇭🌷
ผลิตภัณฑ์ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวครึ่งหนึ่งคือผู้คน เหงียนไม่ต้องคิดวิเคราะห์ให้ปวดหัวหรอก
มึ๊งงงงง...การมองมาที่ไทยคือการมองที่ไกลมากเลยนะ ไม่ใช่ระยะทางแต่เป็นคุณภาพที่ห่างชั้นกันมากในทุกด้าน เลิกโกงให้ได้ก่อนเหงียน ทำทุกครั้งที่มีโอกาสก็ไม่ไหวนะ ไปมาครั้งนึง คือเข็ดจนตาย เมียนมาร์นี่ถึงจะไม่ค่อยสงบแต่ยังนึกถึงและคอยหาโอกาสไปตลอด เค้าซื่อสัตย์มาก เจอคนไทยก็อยากต้อนรับ ชวนคุย วัฒนธรรมก็ดี เทียบกับเหงียนก็คนละชั้นเลย
❤❤❤