ลูกสาว 11 ขวบแต่เครียดเกินวัย! นอนตี 1 ตื่นตี 5 - Highlight พุธทอล์คพุธโทร 8 พ.ย.66
ฝัง
- เผยแพร่เมื่อ 13 พ.ย. 2023
- ลูกสาว 11 ขวบแต่เครียดเกินวัย! นอนตี 1 ตื่นตี 5
เข้าไปฟังเรื่องราวใน #พุธทอล์คพุธโทร สัปดาห์นี้ได้ที่
• พุธทอล์คพุธโทร [8 พ.ย....
อยากโทรเข้ามาในรายการ มาฝากเรื่องได้เลยตามช่องทางดังนี้
1. โทร. 026658373 (ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น.)
2. Inbox มาที่ Facebook Fanpage EFM STATION
3. www.atime.live/efm
ทีมงานรออ่านทุกเรื่องอยู่น้า #พุธทอล์คพุธโทร #EFM94 #คลื่นวิทยุอีเอฟเอ็ม94
ATIME, BEYOND RADIO
เชื่อมต่อความสุขจากหน้าไมค์ สู่ Online ใกล้ชิดกันยิ่งขึ้น
ติดต่อโฆษณา
• Green Wave : 02-669-9461 (คุณนุก)
• EFM : 081-923-9823 (คุณบี)
• Chill Online : 082-989-5519 (คุณกอล์ฟ) - บันเทิง
ดูอาการเป็นแนว Perfectionist เลยค่ะ แนะนำให้พาน้องไปหาคุณหมอด่วนๆ เลย ยังเด็กอยู่ด้วย ถ้าเค้าควบคุมอารมณ์ไม่ได้ หรือผิดหวังมากๆ อันตรายมากเลยค่ะ
ใช่ค่ะ ถึงขั้นซึมเศร้าและจบที่ฆ่าตัวตายนะคะ รักลูกต้องรีบรักษาเลย ครอบครัวนี่แหละค่ะที่เป็นคนสร้างบรรทัดฐานให้ลูกแบบไม่รู้ตัว
ระหว่างรอไปพบจิตแพทย์ ให้ลองสอบถามจากครูประจำชั้นของน้องด้วย ว่าเวลาอยู่ในรร.ในห้อง น้องเป็นยังไง ร่าเริงเล่นกับเพื่อนหรือเข้ากับเพื่อนได้มั๊ย หรือครูได้เข้มงวดกับนักเรียนด้วยรึเปล่า หรือหากิจกรรมอย่างอื่นที่ผ่อนคลายทำกับลูกดู ยังไงก็ขอเป็นกำลังใจให้นะคะ
เด็กเป็น perfectionist เกินวัย พ่อแม่น้องตัองใส่ใจและดูอย่างดี เขาผิดหวังไม่เป็นตัองเจอจิตแพทย์ด่วนค่ะ น้องเขาอยู่ในโลกที่ตัองเป๊ะทุกสิ่งมันไม่ได้ตามหลักความจริง
สื่อโซเชียลก็มีผลต่อเด็กค่ะ การเห็นชีวิตของคนอื่นเป๊ะ สวยงาม มันยิ่งทำให้เด็กกดดันตัวเองมากขึ้น เราเคยเป็นแต่เป็นตอนโตหน่อยค่ะ ;-;
บางทีการโพสต์อวดผลงานของลูกลงโซเชี่ยลก็มีผลให้ลูกกดดันตัวเอง ซึ่งเราจะบอกสามีตลอดว่าไม่โพสต์ผลการเรียนลูก ถ้าหากปีถัดไปลูกเรียนไม่ได้แบบนั้นมันจะส่งผลต่อลูกเมื่อลูกเห็น แต่เราเลี้ยงลูกแบบปล่อยมากก
เราว่าแม่ต้องปรึกษาจิตแพทย์เด็กนะ น่าจะเข้าใจลูกได้มากขึ้น
เข้าใจน้องเลยค่ะ เจ้าระเบียบเหมือนกันตั้งแต่ประถมไม่ได้ดั่งใจต้องได้สังขารแทบจะพัง จากใจคือมันปล่อยไม่ได้จริงๆค่ะให้ทำไรต้องจบตามที่หัวคิดไว้ ตอนนี้ปี1แล้วค่ะนั่งทำงานอยู่เหมือนกันตี2 ;^; เวลาสอบยิ่งนอนเช้าแบบว่าการแข่งขันกันในห้องเราว่ามีผลมากๆเลยได้คะแนนน้อยแล้วอายเพื่อนน้อยหน้าไม่ได้😢
นี่เป็นการตอบคอมเมนยูทูปครั้งแรกเลยค่ะ เหมือนเห็นตัวเองสมัยเด็ก อยากบอกคุณแม่ว่าความสุขของเด็กแต่ละคนไม่เหมือนกันค่ะ ตอนสมัยเราอยู่ประถมเราเป็นแบบนี้เลย แม่ทำงานประจำ เสาร์อาทิตย์ขายของ บ้านก็ไม่ได้มีเงินขนาดนั้น โดนเลี้ยงมาแบบไม่ค่อยได้ไปเที่ยวไหนค่ะ ไม่ได้อยากไปไหนด้วยเพราะรู้สึกเสียเวลาในการพัฒนาตัวเอง เช่นอ่านหนังสือ หรือทำการบ้านวาดรูปให้สวยๆ มีความคิดอย่างเดียวในตอนนั้นคือ โตขึ้นมาต้องพึ่งพาตัวเองให้ได้ และไม่ทำให้พ่อกับแม่เสียใจ ซึ่งพ่อกับแม่ไม่เคยบังคับอะไรเลย ไม่เคยแข่งกับเพื่อนคนไหน แข่งกับตัวเองคนเดียว ดังนั้นในทุกๆอย่างที่เราสามารถพิสูจน์ตัวเองได้ในฐานะเด็กคนนึงจะจริงจังมากค่ะ ไม่ได้เป็น perfectionist นะคะ แต่แค่รู้สึกว่าการตั้งใจทำอะไรบางอย่างจะเป็นพื้นฐานที่ดีในการที่เราจะได้ใช้ชีวิตในแบบที่เราอยากเป็นจริงๆ เป็นแบบนี้มาจนจบ ม ปลาย เอ็นท์ติดแล้ว รู้สึกปลดปล่อยตัวเองมากค่ะ หลังจากนั้นคือไม่สนเกรดแล้วค่ะ หาสิ่งที่ชอบแล้วไปต่อจนบัดนี้ภูมิใจในตัวเองที่พยายามแบบผิดๆถูกๆมาตลอด ย้อนกลับไปดูตอนนั้นคิดว่าทำไมเราเป็นเด็กประถมที่เศร้ามากๆ น่าจะซึมเศร้าเพราะเป็นเด็กคิดมากๆๆๆ แต่มาปลดปล่อยตอน ม.ต้นที่เจอกลุ่มเพื่อนที่ดีมากค่ะ ทำให้สุขภาพจิตดีขึ้นเรื่อยๆตอนจะสอบเอนท์อ่านหนังสือไปกินข้าวไปแม่ต้องขอร้องว่า หยุดอ่านหนังสือเถอะ ขอร้อง แต่เราไม่สนเลย ตอนนั้นคิดว่า เราอยากให้สุดทำให้เราไม่กลับมานั่งเสียใจทีหลังค่ะ ตอนนี้ อายุ 35 แล้ว สงสารตัวเองตอนเด็กมากว่าเป็นบ้าอะไรขนาดนี้ เหนื่อยไปมั้ยวะ มันเป็นคาแรคเตอร์ของเด็กแต่ละคนค่ะ เป็นกำลังใจให้คุณแม่ค่ะ ดีใจแทนน้องที่คุณแม่ยังคอยเป็นห่วงอยู่
เราก็เป็นแบบนั้นเลยค่ะ ตอน ป.5-6 ก็นอนเที่ยงคืน-ตี1
ชอบจัดห้องมากๆๆต้องเป็นระเบียบ
ชอบความเพอร์เฟค แก้วต้องเรียงหูหันทางเดียวกัน ไม่ชอบบ้านรก
รายงานครูสั่งอย่างน้อย10หน้าเราจะทำ20-30 หน้า ไม่แข่งกับใครนะ
แต่ทำแล้วมีความรู้สึกดี พึงพอใจ
ทางด้านครอบครัวไม่ลำบากไม่กดดัน ค่อนข้างมีฐานะ แต่ไม่ค่อยมีเวลาให้
ตอนนี้เราอายุ 33 มีครอบครัวที่อบอุ่นปกติดี แค่ไม่ชอบสุงสิงกับใคร.
โลกส่วนตัวสูงมากหน่อย
ตอนเด็กเป็นแบบนี้เหมือนกันเลยค่ะ โตขึ้นเพิ่งจะปล่อยวาง เหมือนปรับเปลี่ยนไปตามช่วงอายุค่ะ
น้องเป็นคนตั้งความหวังกับตัวเองสูง กดดันตัวเอง ชอบแข่งขันกับคนอื่น ชอบเอาชนะ คิดว่าตัวเองต้องทำให้ได้ดีที่สุด ได้ที่1ชนะเลิศเลยยิ่งดี น้องเหมือนหนูค่ะแต่ต่างตรงหนูเป็นแบบนี้ตอนขึ้นมัธยมแต่น้องดันเริ่มตั้งแต่ประถม ถามว่ามันเครียดไหม เครียดมากค่ะกับการเรียนให้ได้คะแนนดีๆแต่มันคุ้มสำหรับหนูนะ หนูภูมิใจในตัวเอง พ่อกับแม่ก็ภูมิใจในตัวหนู เพื่อนๆคุณครูก็ชื่นชม แต่อยากบอกคุณแม่ว่าอย่าให้น้องเครียดมากค่ะพาน้องทำกิจกรรมสนุกๆ ถ้าน้องเริ่มเครียดเกินไปดึงออกมาเลยค่ะเพราะถึงหนูจะภูมิใจกับการเรียนหนักแต่ใดๆคือมันมีช่วงที่เหนื่อยและฝืนตัวเองเกินไปจนเป็นซึมเศร้าในระยะสั้นๆ ไม่อยากให้น้องเป็นเหมือนหนูค่ะ🥲
ลองปรึกษาจิตแพทย์เด็กดูนะคะ น้องอาจจะเป็นโรค OCD หรือโรคย้ำคิดย้ำทำ เหมือนลูกชายเราอายุ10ขวบ มีอาการแบบเดียวกัน ยิ่งไปหาหมอเร็วก็หายเร็ว เป็นกำลังใจให้คุณแม่นะคะ
มีสาเหตุมั้ยคะ
มันหลายปัจจัยค่ะ อาจจะความเครียดของตัวเด็กเอง หรือความผิดหวัง เสียใจสะสม หรือแม้กระทั่ง สารในสมองมันหลั่งผิดปกติค่ะ ของลูกเราเกิดจากสาเหตุหลังค่ะ ช่วงที่เครียดมากๆแสดงอาการล้างมือบ่อยๆ
@@nickykc.8374 ขอบคุณนะคะ เก็บข้อมูลไว้ศึกษาลูกสาวค่ะ เผื่อเกิดขึ้นจะได้รับมือทันค่ะ
ดีมากค่ะแม่ที่ สังเกตุลูกเราว่าน้องมีพฤติกรรมผิดปกติ แนะนำให้ไปหาหมอ เพราะน้องเรียนหนักจริงจังเกินไปอนาคตอาจแย่แน่คะ เพื่อเราเคยจริงจังกับชีวิตจนตึงเกินไปกับชีวิตแพ้ไม่ได้งี้ สุดท้ายพอเกิดแพ้ขึ้นมารับไม่ได้ฆ่าตัวตายเลย
นี่ฟังทางแม่อย่างเดียว แต่คิดว่าเด็กจะมีพฤติกรรมเลียนแบบจากคนรอบข้าง ถ้าบรรยากาศในบ้านเป็น perfectionist(แต่ไม่รู้ตัว)เด็กก็ซึบซับไปโดยปริยาย แต่ใดๆปรึกษาแพทย์ดีกว่า
ทำไมน้อง 11 เอง เรียนหนักราวกับทำงานอยู่ที่ญี่ปุ่น 😱
เราเป็นนะ เป็นคนเป๊ะ แบบวางแผนชีวิต จัดสรรชีวิตเกินไป แม่ก็บอกว่าจริงจังกับชีวิตไปไหม หาคำตอบอยู่ตั้งนาน แล้วก็พบว่า เพราะว่าแม่เลี้ยงเดี่ยว เลี้ยงดีด้วย แม่เหนื่อยแล้วมันเป็นความคิดว่าต้องทำให้ดี ทำงานให้เก่ง มีเงินให้เยอะ จะได้ช่วยซัพพอร์ตแม่ แม่จะได้สบาย แต่แม่กลับไม่ได้อยากให้เราแบบนั้น แม่แค่อยากให้เรามีความสุข ทุกวันนี้พยายามผ่อนคลายตัวเอง โดยการไปกินนู่นนี่ ปลงๆ ใช้เงินก็ใช้
น้องอาจจะชอบอ่านหนังสือหรือเปล่าคะ
ถ้าน้องรู้สึกเครียดเรื่องสอบ แม่น่าจะช่วยติวให้ลูกหรือบอกทริกการจำ ตอนเด็กเราก็งมอ่านหนังสือค่ะ พ่อแม่ก็ชี้แนะไม่ได้ เพราะเขาไม่ได้เรียนหนังสือ อย่างน้องแค่ป.5 เนื้อหาไม่ได้มีอะไรให้อ่านมากขนาดนั้นอะค่ะ
นึกถึงตัวเองตอนเด็กก็เป็นแบบลูกคุณแม่ค่ะ เป็นคนต้องเป๊ะทุกอย่าง การบ้านต้องส่งตรง ครบทุกหน้า ตอนป. 5 ป.6 การบ้านเยอะมากๆ ทำไปร้องไห้ไป จนไม่ไหวจริงๆที่บ้านเลยให้ลาที่โรงเรียน เพราะว่าทำการบ้านดึกมากๆ และยังไม่เสร็จ ซึ่งจริงๆที่บ้านก็ไม่ได้กดดันอะไรเลย มีแต่บอกว่าพอได้แล้วลูก นอนได้แล้ว แต่เราไม่ยอมต้องทำให้เสร็จ เรามุทะลุมากๆถ้าทำอะไรจะตั้งใจมากๆ ถ้าเปิดเทอมเรียนก็เรียน ถ้าปิดเทอมก็เล่นปล่อยตัวเองฟรีมากๆ แต่ด้วยเห็นที่บ้านทำงานหนักมากๆส่งเราเรียน และลำบากมากๆเราเลยต้องพยายามทำให้ตัวเองเก่ง จะได้จบมามีงานทำที่ดีๆที่บ้านจะได้ไม่ลำบาก ซึ่งพอขึ้นมัธยมเราก็ยังคงเป๊ะทุกอย่างจนเริ่มรู้สึกไม่ชอบตัวเองเวลาทำงานร่วมกับเพื่อนแล้วเราชอบว่าเพื่อนที่ทำงานไม่ดี นิดๆหน่อยๆก็ว่าเพื่อน แบบเราซีเรียสเกินไป จนพ่อชอบพูดบ่อยๆว่าอย่าตึงเกินไป ให้ผ่อนหนัก ผ่อนเบาบ้างจนเราเริ่มปรับตัวเองเรื่อยๆ แต่ยังคงเป็นคนที่มีความรับผิดชอบอยู่ แต่ลดความเครียดลง จนมหาลัยก็ค้นพบว่าคนที่เก่งกว่าเรามีอีกเยอะ เราอย่าไปเครียดเกิน ทำให้เต็มที่ก็พอ พอตอนนี้เริ่มทำงานที่บ้านสบายแล้ว เหมือนปลดล็อค แต่ตอนนี้ประสบปัญหาคือเหมือนไม่มีความพยายามเหมือนแต่ก่อน เพราะเป้าหมายเราคือครอบครัว ทำยังไงให้ครอบครัวสบาย พอทำได้สำเร็จมันไม่มีเป้าหมายต่อไปที่ต้องทำ ทำให้ตอนนี้กลับเป็นคนไม่เป๊ะเหมือนแต่ก่อน ไม่ได้มีความพยายามมุทะลุแบบแต่ก่อน อันนี้จากประสบการณ์การตรงค่ะ จริงๆคุณแม่อาจจะไม่ได้ไปกดดันลูกอะไร แต่ลูกอาจจะรับรู้ได้ว่าที่บ้านลำบาก หรือเห็นพ่อแม่ทำงานหนักเลยอยากตั้งใจเรียนให้เต็มที่ค่ะ แต่มันก็ส่งผลเสียถ้าเป็นคนที่ต้องทำให้ได้ทุกอย่าง เพราะในชีวิตจริงมันมีหลายอย่างมากๆที่เราควบคุมมันไม่ได้ ไม่มีอะไรเป็นไปตามกรอบของเราเสมอ ต้องสอนให้น้องรู้จักปล่อยวาง ผ่อนหนัก ผ่อนเบาลงค่ะ
สมิติเวช ศรีนครินทร์ค่ะ นัดไม่ยากไม่กี่วันได้คิว 1.30 ชม ครึ่ง 5 พัน คุณหมอน่ารักแนะนำดีค่ะ
เป็นกำลังใจให้คุณแม่และน้องนะคะ❤
ถูกแล้วที่คุณแม่สังเกตตั้งข้อสงสัยน้อง
เราเคยมีเพื่อนแบบนี้เลย 4ทุกวิชา ทุกอย่างต้องperfec สุดท้ายเอาตัวแลกเกรด ทั้งที่เขาก็เป็นคนเก่งอยู่แล้ว
ชอบนั่งบ่นคะแนนวิชานั้นนี้ มีวิชานึงครูผญ.ไม่ยอมปัดเกรดให้ เขาก็เดินตามช่วยโน้นนี้ครูเขาไม่หยุด เห็นแล้วขวดคิ้วเลย
เป็นที่สังคมที่โรงเรียนรึเปล่า? โรงเรียนอาจจะเข้มงวด เพื่อนในห้องอาจจะเรียนเก่ง กลายเป็นน้องกดดันตัวเองเพื่อปรับตัวในสังคมให้ทันเพื่อนๆ บางโรงเรียนเด็กเเข่งกันเรียน แบบฝึกหัดต้องทำล่วงหน้าไปหลายบท ระบายยังแข่งกัน ว่าใครสวยกว่า ใครทำดีกว่า ยิ่งในวัยประถม เด็กถูกอะไรแบบนี้กระตุ้นง่ายมากๆ
เท่าที่ฟังมา คุณแม่ก็ไม่ได้เข้มงวด แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร เลยมองว่าน่าจะเป็นสังคมที่โรงเรียน ลองแอบถามเพื่อนๆรอบตัวน้องว่าเป็นเหมือนกันไหม เพื่อนคนอื่นได้เรียนพิเศษรึเปล่า เพื่อนได้เรียนพิเศษ แต่น้องไม่ได้เรียน เลยกังวลว่าจะไม่ทันเพื่อน กลายเป็นกดดันตัวเอง(เดา) ตอนเด็กก็มีเพื่อนที่เป็นคล้ายๆน้องเลย เพื่อนเครียดและกดดันมาก (เพื่อนไม่ได้เรียนพิเศษ แต่มีแม่สอนการบ้าน)
น้องมีความวิตกกังวลเป็นพื้นฐาน พาน้องหาจิตแพทย์เด็กนะคะ หมอช่วยได้ค่ะ
จะทำอะไรต้องเป๊ะทุกอย่างเหมือนออทิสติกเลย ลองไปตรวจดูครับ
เป็นกำลังใจให้แม่กับน้องนะคะ เคยผ่านช่วง mental crisis แบบนี้มาเหมือนกันตอนปีสี่ ขนาดอายุ 21-22 แล้วตอนนั้นยังรู้สึกจะรับมิอไม่ไหวเลย ตื่นมาอ้วกตีสองทุกวัน 😭 แล้วนี่เด็กป.5
เรื่องพบจิตแพทย์เด็กและตัวคุณแม่เองต้องไปเลยค่ะ เด็กนัดยากมาก
แต่กว่าจะถึงวันนัด คุณแม่ทบทวนแนวทางของรร.ก่อนค่ะ ว่ารร.เป็นแนววิชาการมาก หรือน้องต้องติวสอบตั้งแต่เด็กรึป่าว
พ่อแม่จะชมลูกเฉพาะตอนสอบได้รึป่าว อะไรแบบนี้ เราว่ารอบข้างมีส่วนมากค่ะ ระหว่างรอหมอพาไปหากิจกรรมทำค่ะ แม่ไม่น่าต้องทำงานทุกวัน อย่างน้อยวันหยุดพาลูกไปหากิจกรรมทำค่ะ การพาลูกออกนอกบ้านมันเหนื่อยแต่มันต้องทำค่ะ เราต้องยอมแลกความเหนื่อยเล็กน้อยเพื่อลูกค่ะ ตอนนี้สัญญาณอันตรายมาแล้ว
ดีใจแทนน้องที่มีคุณแม่เป็นห่วงค่ะ กลับกันเราเป็น perfectionist จนทุกวันนี้เพราะแม่แต่เด็ก เราอ่านหนังสือเยอะก็ไม่ได้ทำให้เขาพอใจ จังหวะที่เราพักหรือกินข้าวเข้าห้องน้ำ เขาจะเข้ามาดูค่ะว่าอ่านหนังสือด้วยมั้ย เพราะตอนกินข้าวก็ต้องอ่านค่ะ เข้าห้องน้ำก็ต้องหยิบไปท่อง พอจะนอนเขาจะดุว่าอ่านแค่นี้นอนหลับลงได้ยังไง ดุจนเราต้องตื่นมาอ่านต่อไปร้องไห้ไปแล้วหลับไปคาโต๊ะเขาถึงจะพอใจค่ะ ตอนเช้าต้องตื่นตีสี่ตีห้ามาอ่านต่อ ถ้าหลับเขาก็จะดุอีก ทุกวันนี้ก็ประสบความสำเร็จระดับนึงนะคะ แต่ความรู้สึกเราติดลบกับแม่ไปเยอะมากแล้วค่ะ ขอให้หาบาลานซ์ระหว่างคุณกับลูกให้ได้นะคะ อย่าให้น้องโตมาเป็นแบบเราเลยค่ะ
เราก็มีอาการนี้กับบางเรื่อง ฟังแล้วอยากร้องไห้ มันติดตัวมาจนโต เป็นคนเครียดง่าย คิดมาก โมโหคนรอบตัว มันเหนื่อยนะ แต่ไม่คิดว่าตัวเองเป็นซึมเศร้านะคะ
แม่ใส่ใจลูกมั้ยคะ การบ้านสอนน้องมั้ย จริงๆ ขั้นแรกควรอยู่ทีพ่อแม่ให้ความใส่ใจนะ
พาน้องไปเที่ยวบ้างมั้ยครับ ลองพาไปทำกิจกรรมอื่นๆดูครับ คุณแม่ต้องแบ่งเวลาบ้างพาลูกไปทำอย่างอื่นบ้างนะครับ เพราะผมว่ามันเป็นพฤติกรรมเรียนแบบได้เด็กอาจต้องการเวลาจริงๆ เพียงแต่ใช้จุดตรงนี้เป็นจุดสนใจได้ผมเคยอ่านหนังสือเค้าบอกว่าคนเราจะมีข้ออ้างและจุดมุ่งหมายให้กับตัวเองโดยใช้การกระทำบางอย่างที่ทำให้คนรอบตัวเรามาสนใจเราด้วยพฤติกรรมและอารมณ์รุนแรงได้ครับ
ลองปรึกษาคุณหมอนะคะ บางทีเรื่องเล็กๆควรได้รับแก้ไขให้ไว เพราะมีผลกระทบกับลูกโดยตรง ในอนาคตลูกอาจมีความสุขน้อยลงหากไม่ได้รับการปรับแก้ไข สู้ๆนะคะคุณแม่
เราเคยมีอาการแบบลูกสาวคุณแม่ค่ะ แต่เริ่มเป็นตอน ม.ต้น เรื่องมันเริ่มจากตอนที่เราได้มาอยู่ห้องคิงส์จากห้องที่โหล่ ทำให้เราค้นพบว่าถ้าเราตั้งใจจริงๆเราก็ทำได้ หลังจากนั้นเราก็เป็นแบบนี้มาตลอด อยู่ห้องคิงมายาวๆ เกรด4ตลอด ยาวไปจนถึงแอดมิดชั่นจนเราเรียนจบเกียรตินิยมอันดับ1 ม.อันดับต้นๆ ซึ่งตอน มต้น มปลายเราเครียด นอนดึก ให้แม่ปลุกขึ้นมาอ่านตอนเช้าตลอดเพราะอยากจะอ่านให้จบอีกรอบก่อนสอบ ยิ่งช่วงมหาลัยทุกครั้งที่สอบเราไม่เคยนอนหลับเลยค่ะ เพราะความเครียด (ปกติอ่านเนื้อหาจบ 2-3รอบก่อนสอบ แม่นเนื้อหามาก แต่ก็ยังเครียด) ทั้งๆที่ไม่เคยมีใครกดดันเราเลย ขนาดพ่อกับแม่ยังบอกเราว่าสอบตกไปเลยก็ได้แต่อย่าเครียดชอบชวนเราไปเที่ยว แต่เราก็ไม่ฟังค่ะ ก็ยังกดดันตัวเองต่อไป ทุกวันนี้ เราบอกตามตรงเลยนะคะ ว่าเราอาจจะเสียดายช่วงเวลาวัยเด็ก วัยรุ่นของเราไปบ้าง แต่เราไม่เคยเสียใจเลยที่เราพยายามไปทั้งหมด เราคิดว่าสำหรับเราแบบนี้มันดีแล้ว เพราะเราทำเต็มที่ที่สุดแล้ว ถ้าวันนั้นเราเลิกกดดันตัวเองปล่อยตัวเองตามที่คนรอบข้างบอก ทำให้เราทำได้ไม่เต็มที่ เราคงจะเสียใจกว่านี้ เพราะทุกอย่างที่เราทำส่งผลต่ออนาคตเราหมดจริงๆ เกรดมปลายก็ช่วยเพิ่มโอกาสทำให้เราแอดมิดชั่นได้(แต่สุดท้ายเราสอบตรงติด ก็เพราะอ่านหนังสือกดดันตัวเองมาตลอดไม่เคยขาด) ตอนมหาลัยเกียรตินิยมก็ทำให้หัวหน้าปัจจุบันสนใจในตัวเอง สำหรับเราเราไม่เคยเสียใจเลยค่ะที่เราพยายามกดดันตัวเอง. เราว่าคุณแม่อาจจะปรึกษาคุณหมอได้นะคะ แต่ว่าอยากจะให้ฟังความเห็นจากเด็กที่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน ทุกวันนี้เราไม่เครียดแล้วค่ะ เพราะได้ทำงานในที่ดีๆ และพออายุมากขึ้นก็เริ่มให้ความสำคัญกับตัวเองมากขึ้น ไม่ได้กดดันตัวเองขนาดนั้นแล้วค่ะ work life balance ได้แล้วค่ะ พอถึงโหมงานหนักไป เงินเดือนก็ไม่ได้เพิ่มขึ้นค่าาา 😂🎉
ฟังเรื่องแล้วคล้ายๆเราตอนเด็กเลยค่ะ ต่างกันแค่ไม่ได้นอนตี1ตื่นตี5 เป็นตั้งแต่เด็กจนปัจจุบันก็28แล้วค่ะ 😅
สมัยมหาลัยอ่านหนังสือตั้งแต่เปิดเทอมวันแรกไม่เคยออกไปเที่ยวเล่นนอกมหาลัย
แบบนี้ไม่ใช่ธรรมชาติของเด็กนะคะ น้องเครียดเกินไปจริงๆ น้องไม่ชอบเข้าสังคมแต่ชอบการแข่งขัน ต้องการชนะ ต้องการเป็นคนที่สมบูรณ์แบบทุกอย่าง รีบพาน้องไปพบจิตแพทย์นะคะ
ต้องปรึกษาครูประจำชั้นด้วยคะ
หาคุณหมอค่ะ คุณแม่ ร่วมกันทั้งครอบครัวและครูประจำชั้น
บุคลิก Perfectionist หนักมากค่ะ แนะนำให้พาไปพบจิตแพทย์เด็กโดยด่วนค่ะ เด็กที่รักความสมบูรณ์แบบขนาดนี้มีภูมิต้านทานความผิดหวังน้อยมาก อันตรายค่ะ
เป็นแม่ที่ดีค่ะรู้ว่าลูกมีความคิดการกระทำเกินวัยให้พบหมอเลยค่ะเพราะเด็กในช่วงเวลานี้ควรสนุกสนานและเพิ่มทักษะการเข้าสังคมกับเพื่อนๆมากกว่า ลองเเยกน้องออกจากการเรียนลองถามสิ่งที่น้องชอบเพื่อหาความสนใจอื่นๆนอกจากเรียนดูค่ะ กิจกรรมที่ทำรวมกัน คิดว่าอาทิตย์1วันควรเป็นวันครอบครัวค่ะ แยกน้องออกจากความเครียด คุณแม่ต้องหาเวลาว่างให้ลูกค่ะ
พบจิตแพทย์ดูค่ะ ลองดูสิ่งแวดล้อมในโรงเรียนด้วยว่าเป็นยังไง มีการแข่งขันสูงหรือเปล่า โรงเรียนมีหลายแบบค่ะ อาจต้องเลือกโรงเรียนที่เหมาะกับลูกเรา ที่สำคัญที่สุดคือพ่อแม่ต้องใช้เวลากับลูกเยอะๆ มีลูกมันเหนื่อยค่ะ แต่มีแล้วต้องดูแลเค้าให้ดีๆ
ตัดภาพมาที่เราอายุเท่านี้กลับจากโรงเรียนรีบทำงานบ้านให้เสร็จเพื่อจะรีบไปโดดยาง😅😅..ไปพบจิตแพทย์เด็กดีที่สุดค่ะ
ถ้าไปเที่ยวไกลๆทั้งครอบครัวก็ดีนะคะ ลูกจะเปลี่ยนเป็นคนล่ะคนเลย เพราะลูกสาวที่บ้านเคยเป็น
หาหมอค่ะ
น้องกำลังแข่งกันได้ Top กับเพื่อนบางคนรึเปล่านะ
ส่วนตัวผมคิดว่าน้องน่าจะเป็นคนที่เรียนเก่งมากๆภายในห้องเรียน พอเรียนเก่งเพอร์เฟคคนรอบตัวก็เห็นน้องเก่ง ทําไรหมด ทําให้น้องกดดันต้องทําให้เพอร์เฟคเสมอ
เดี๋ยวนี้โรงเรียนการเแข่งขันสูงมาก น้องชายเราเรียนรร.วัดมา แต่เรียนเก่งมาก สอบเข้ารร.ดังในเขตได้ ถูกคนในห้องดูถูก เหยียด ยิ่งถ้าทำคะแนนเรียนแย่ จะยิ่งด่า ทำให้น้องชายเรากดดันและเครียดมาก ทั้งๆที่ครอบครัวไม่เคยกดดันเลย เขาก็เลยกลายเป็นคน ทำอะไรต้องเป๊ะ แพ้ไม่ได้ เพื่อคนอื่นจะได้ไม่มาว่า
น้องเขาน่าจะเป็นออทิสติกแบบนึงครับ ต้องไปปรึกษาจิตแพทย์ครับ
ต้องหาเวลาพาน้องไปเที่ยวเล่นบ่อยๆนะคะ ไปเป็นครอบครัว และบางส่วนอาจจะเกิดจากสังคมที่โรงเรียนได้ค่ะ ลองปรึกษาคุณครูที่ปรึกษาดูก็ได้ค่ะว่าน้องอยู่กับเพื่อนแบบไหน
ใช้โทรศัพท์ตั้งแต่เด็กหรือปล่าว ถ้าเด็กเสพสังคมออนไลน์มากไป คงติดความสมบูรณ์แบบ เพราะเล็กออนไลน์ เสนอแต่ด้านสวยหรู
เค้าก็เคยเครียดแต่น้องเป๊ะกว่าเรามากๆ พออยู่ม.ปลาย-มหาลัย ก็พบว่าชีวิตพอเครียดมาก+ระยะเวลานานไปแล้ว มันทำร้ายจิตใจมากๆ เหมือนกลายเป็นเครียดสะสม
สร้างเด็กให้ดี มันง่ายกว่าซ่อมผู้ใหญ่ที่พังแล้วจริงๆ😢
จิตแพทย์เด็ก จิตแพทย์ครอบครัว คุณครูที่โรงเรียน น่าจะช่วยได้เยอะนะนี่ว่า แล้วเค้ามีอะไรที่ชอบทำมั้ยคะ น้องอาจจะเป็นคนมีปัญหาเรื่องการเข้าสังคมก็ได้ เรื่องนี้คุณแม่ไม่ได้คิดมากไปค่ะ อันนี้ไม่ปกติค่ะ
คุณแม่เอาแต่ทำงานหนัก ไม่มีเวลาจัด หรือ ทำกิจกรรมร่วมกับลูก ให้ลูกผ่อนคลาย แล้วคุณพ่อหล่ะคะ ไม่มีส่วนร่วมในการเลี้ยงดู หรือ ตัดสินใจเกี่ยวกับปัญหาเหล่านี้เลยหรอคะ ทางที่ดีถ้าไปพบจิตแพทย์คุณพ่อควรไปรับรู้คำปรึกษาด้วยค่ะ ไม่ใช่แค่คุณแม่กับลูกกันแค่2คน
ถูกเพื่อนแกล้งหรือป่าว
ถ้าต้องทำการบ้าน จนถึง ตี 1 น่าจะแสดงว่า น้องเองมีปัญหา ไม่น่าจะเป็นเพราะความแป๊ะ
น้องน่าจะทำการบ้านไม่ได้
เลี้ยงเด็ก1คน ไม่มีอะไรง่าย
น้อง ควรพบ จิตแพทย คุณม่ควร คุยกับครู ที่ รร สังเกตุ น้อง
น้องไปรับอิทธิพลจากเฟสของแม่เด็ก14ที่ยิงที่พารากอนรึเปล่า แม่รายนั้นคือจับลูกตัวเองเรียนหนักตั้งแต่อนุบาลจนเป็นบ้า
ตอนท้องแม่เครียดหรอป่าว มันจะส่งผลถึงลูกด้วย จะกลายเป็นเด็กเครียด คิดมาก คิดเยอะ พบคุณหมอก็ดี เด็กบางคนจะเชื่อคนอื่นมากกว่าพ่อแม่
ให้เวลาลูกเยอะๆ นะครับ
แสดงว่าครอบครัวไม่ได้เอนเตอร์เทนลูกเท่าที่ควรหรือเปล่า อึกอักตอนตอบว่ามีความสุขมั้ย
ลูกสาวดิชั้นเค้าจะลายมือสวยวาดรูปเก่งแต่เด็กเรียนชิงทุนตลอดได้ตลอดเค้าจะแข่งเรียนและเรียนพิเศษตลอดเค้าจะเลือกเองเค้าเคร่งเครียดแต่เราจะสอนบอกลุกว่าเราเคยได้ที่1คนอื่นเค้าก้ออยากที่1บ้างถ้าเพื่อนได้ที่1เราก้อยอมเปนที่2มั่งเด่วปีหน้ากันใหม่มันต้องให้ยอมรับความเปนจิงแล้วตอนอยู่ห้องคิงเราก้อบอกให้ไปคบกับเพื่อนห้องโหล่บ้างก้อได้จะได้เรียรู้ชีวิตเค้าบ้างเค้าใช้ชีวิตยังไงเป้ะขนาดชุดนักเรียนคือชุดวันจันเอามาใส่วันอังคารรึวันพุธไม่ได้นะก้อต้องค่อยสอนเรียนรู้ชีวิตไปเราไม่ได้อยู่กับเค้าตลอดชีวิตไม่ค่อยพูดด้วยนะเราต้องไป ร.ร.สอบุถามอาจารคุยกับคุณครูเพื่อรู้พฤติกรรมเค้า
การเลี้ยงดูจากครอบครัวเป็นสิ่งสำคัญค่ะ
ถ้าไม่โดนกดดันจากที่บ้านงั้นก็ที่โรงเรียน
พ่อแม่กดดันลูกโดยไม่รู้ตัวหรือเปล่า
นอนก่อนเถอะเรียนจะรู้เรื่องอะไรนอนยังไม่พอ
เป็นฉันจะจับย้ายไปเรียนโรงเรียนสอนนาตาชา ความเป๊ะของน้องน่าจะเกิดจากสภาพแวดล้อมในการเรียน เพื่อน ครู โรงเรียนมีส่วน ถ้าจะบอกว่าที่บ้านไม่ได้เข้มงวดกับลูกเกินไป งั้นต้องเป็นที่โรงเรียน และโรคย้ำคิดย้ำทำก็อาจมีส่วน