การศึกษา วอลดอร์ฟ (Waldorf School)
ฝัง
- เผยแพร่เมื่อ 21 มิ.ย. 2016
- ระบบการสอนแบบวอลดอร์ฟมีรากฐานมาจากมนุษยปรัชญา ริเริ่มโดยรูดอร์ฟ สไตเนอร์ เขาก่อตั้งโรงเรียนแนววอลดอร์ฟแห่งแรกขึ้นในปีค.ศ. 1919 ในเมืองสตุทการ์ท ประเทศเยอรมนี เพื่อสอนลูกหลานของพนักงานในโรงงาน Waldorf Astoria Zigaretten Fabrik ซึ่งเป็นที่มาของชื่อวอลดอร์ฟนั่นเอง เด็กทุกคน ไม่ว่าจะมาจากชนชั้นใดหรือมีความสามารถต่างกันแค่ไหน จะได้รับการปฏิบัติที่เท่าเทียมกัน ซึ่งทำให้โรงเรียนแห่งนี้เป็นโรงเรียนแห่งแรกที่ริเริ่มความเท่า
เทียมทางสังคมในการศึกษา
การศึกษาระบบวอลดอร์ฟมีเป้าหมายเพื่อพัฒนาคนให้เติบโตขึ้นอย่างอิสระ รู้คุณธรรม มีวุฒิภาวะทางสังคม และความคิดสร้างสรรค์ โดยไม่ได้มุ่งเน้นการพร่ำสอนข้อเท็จจริง การให้การบ้าน หรือการทำคะแนนสอบ แต่จะเน้นการเล่าเรื่องและการทดลอง โดยไม่อิงตำราเรียนเป็นหลักเหมือนโรงเรียนทั่วไป
ภายใต้หลักสูตร 12 ปี นักเรียนจะได้เรียนวิชาคณิตศาสตร์ วรรณกรรม ประวัติศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ศิลปะ และหัตถกรรมหลากหลายแขนง นักเรียนในระดับประถมจะได้เรียนวาดรูป เย็บปักถักร้อย และการปั้นขี้ผึ้ง เด็กโตจะได้เรียนการทำแม่พิมพ์ หนังสือ เครื่องปั้นดินเผา และการแกะสลักหิน นักเรียนทุกคนจะได้เรียนดนตรี โดยเริ่มจากฟลุ้ท เครื่องสาย และอาจต่อยอดไปถึงการร่วมวงประสานเสียง
นอกจากนี้นักเรียนยังจะได้เล่นเกมที่ไม่ต้องแข่งขันและหัดเต้นแบบยูริธมี่ ทำสวนผักแบบออแกนิค เรียนภาษาต่างประเทศสองภาษา ซึ่งในระดับต้นจะถูกสอนผ่านเพลง การเล่าเรื่อง และบทสนทนา นักเรียนเกรด 8 และเกรด 12 ทุกคนจะได้เรียนการแสดงและแสดงละครเวทีให้เพื่อน ๆ และผู้ปกครองชม
สไตเนอร์ยังคิดค้นการเรียนวิชาวิทยาศาสตร์จากประสบการณ์ โดยนักเรียนจะต้องสังเกตและอธิบายหลักการวิทยาศาสตร์โดยใช้ภาษาและรูปวาดของตนเอง แทนการเรียนจากหนังสือ โรงเรียนวอลดอร์ฟเห็นว่าคอมพิวเตอร์เหมาะเฉพาะสำหรับเด็กโต เมื่อพวกเขาเข้าใจการเรียนและหาความรู้จากแหล่งข้อมูลพื้นฐานอย่างถ่องแท้แล้วเท่านั้น
เพื่อให้นักเรียนได้พัฒนาตนเองและความสามารถในการเข้าอกเข้าใจผู้อื่น โรงเรียนจะหลีกเลี่ยงการแข่งขันและการวัดเกรด คุณครูจะประเมินนักเรียนแต่ละคนจากความเติบโตด้านลักษณะนิสัย และใช้คะแนนสอบและเกรดเฉพาะกับเด็กโตเท่านั้น เมื่อถึงวัยที่ต้องเตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัย
ปัจจุบันมีโรงเรียนระบบวอลดอร์ฟมากกว่า 1,000 แห่งใน 60 ประเทศทั่วโลก ทำให้ระบบวอลดอร์ฟเป็นระบบการศึกษาอิสระที่มีการขับเคลื่อนมากที่สุดระบบหนึ่ง วอลดอร์ฟได้รับการยอมรับในยุโรปและโรงเรียนหลายแห่งก็ได้รับการสนับสนุนเงินทุนจากภาครัฐ
ชอบครับ น่าจะมีการนำครูมาเป็นนักเรียนระบบนี้เยอะๆ การศึกษาไทยเน้าการท่องจำและการแข่งขันมากเกินไป เด็กถูกบังคับให้เรียนเอาคะแนนแต่ขาดนิสัยที่จะเป็นคนรักการเรียน
ขออนุญาตฝากประชาสัมพันธ์นะครับโรงเรียนไตรพัฒน์ เปิดบ้านให้คุณพ่อคุณแม่ทุกท่านที่สนใจการศึกษาวอลดอร์ฟ เข้าเยี่ยมชมและพูดคุยซักถามแนวทางการให้การศึกษาของโรงเรียน 17 สิงหาคม และ 14 กันยายน นี้ เวลา 08.30-10.00 น.สำรองที่นั่งวันละ 20 ท่าน ผู้ที่สนใจเข้าเยี่ยมชม วันที่ 17 สิงหาคม สำรองที่นั่ง ได้ตั้งแต่วันนี้ ถึง 11 สิงหาคมผู้ที่สนใจเข้าเยี่ยมชม วันที่ 14 กันยายน สำรองที่นั่ง ได้ตั้งแต่วันนี้ ถึง 9 กันยายนสำรองที่นั่ง หรือ สอบถามเพิ่มเติม โทร.02-1590702, 085-9948298หมายเหตุ 1. เพื่อความสะดวกในการพูดคุย ขอความร่วมมือผู้เข้าเยี่ยมชม งดนำเด็กมาด้วยนะคะ2. งดการใช้โทรศัพท์มือถือ งดการถ่ายภาพ และงดการบันทึกเสียง ตลอดระยะเวลาที่อยู่ในบริเวณโรงเรียน ขอขอบคุณในความร่วมมือค่ะ
ถ้าการอ่านคือการเรียนรู้10% แล้วนิสัยรักการอ่านมีประโยชน์อย่างไร
ผมคิดว่ามันมีประโยชน์ตรงที่ทำให้เราใจเย็นขึ้น เจอข้อมูลได้สะดวกขึ้น รู้จักภาษาและการสื่อสารมากขึ้น พัฒนาIQและEQ
แต่เราอาจไม่ได้ใช้ข้อมูลจากในหนังสือตรงๆ
คิดว่ายังไงการรักอ่านก็น่าจะมีประโยชนือยู่แล้วค่ะ แน่นอนว่าเป็นการเปิดโอกาสให้เราได้เจอกับความรู้มากขึ้น ฝึกสมาธิ และฝึกทักษะในการซึมซับข้อมูลอีกด้วยค่ะ
ชอบมากเลยค่ะ ขอบคุณที่มาแบ่งปันสิ่งดีๆนะคะ
สุดยอดเนื้อหา
ขอบคุณที่มีระบบการศึกษาแบบนี้คะ
เด็กที่นี่จะได้รับการปฏิบัติอย่างให้เกียรติเด็กมากกว่ามุมมองเรื่องเป็นเด็กต้องฟังผู้ใหญ่เพียงอย่างเดียว😀
ดีครับ
ชอบค่ะ การศึกษแบบนี้ อยากให้นำมาใช้ในบ้านเราเยอะๆค่ะ
ขอที่มาของข้อมูลได้ไหมคะ อยากได้ปทำรายงานค่ะ ขอบคุณค่ะ
อยากให้ รัฐบาลให้ความสำคัญกับเด็กเล็กมากๆไม่ต้องเร่งเรียนมาก เพราะรากฐานชีวิตสำคํญที่สุด การศึกษาวอลล์ดอร์ฟน่าจะเป็นอีกทางเลือกนึ่งที่รัฐบาลน่าจะให้โอกาส การศึกษาทางเลือกนี้เข้ามาในระบบการศึกษาของไทย
เห็นด้วยเลยค่ะ
ในไทย. มีครูมอส ไปเรียนมาครับ
ขอบคุณมากครับ
ขอบคุณค่ะ ดีใจมากๆที่มีคนติดตามค่ะ
รู้สึกโชคดีที่ลูกได้เรียนแนวนี้ครับ
ชอบระบบการเรียนการสอนแบบนี้มากเลย
ขอบคุณที่นำมาแบ่งปันนะค้า ^___^
ดีใจที่ชอบค่ะ:)
อยู่ต่างจังหวัด เสียดายๆ
ในประเทศไทยมีหลายที่นะคะ
โรงเรียนลูกผมครับ
ยังไงถ้ามีข่าวหรือข้อมูลน่าสนใจเกี่ยวกับระบบการเรียน อย่าลืมนำมาแบ่งปันกับเรานะคะ
เยี่ยมอ่ะ ฟังแล้วอยากกลับไปเรียน ^^
5555 เหมือนกันเลยค่ะ
ดีมากค่ะ อยากให้ลูกไปเรียนจัง
ขอบคุณค่ะ ดีใจที่ชอบนะคะ
อยู่ขอนแก่นมี นัยโรงเรียนภาครัฐนะคะ
เป็นระบบที่ตรงข้ามกับไทย แทบจะโดยสิ้นเชิง
แต่ยังดี ที่โรงเรียนทางเลือกพวกนี้เริ่มเข้ามาเปิดในไทยบ้างแล้วค่ะ
เข้าใจง่ายดีครับ ประเทศไทยยังล้าสมัยด้านการศึกษา
ชอบค่ะ. แต่ยังไม่เข้าใจดี. ถ้ามีกาเข้าเยี่ยมชมอีกกรุณาแจ้งให้ทราบด้วยนะค่ะ มาเข้าอ่านไม่ทัน.
ยังสนใจการเข้าชมอยู่มั้ยครับ
เราจะอธิบายกับเด็กอย่างไรเมื่อเค้าเห็นผู้ปกครองเล่นโทรศัพท์ แล้วเด็กก็อยากจะลองเล่นโทรศัพท์ (เด็ก1-4ขวบ)
เด็กอายุประมาณนี้ส่วนใหญ่จะเรียนรู้จากการเลียนแบบและจากการกระทำนะคะ ถ้าเห็นพ่อแม่ทำยังไงเขาก็คงคิดว่าเป็นเรื่องที่เขาทำได้ ต่อให้อธิบายแค่ไหนก็น่าจะเข้าใจได้ยาก เพราะพัฒนาการของเขายังไม่ไปถึงขั้นที่เป็นนามธรรมค่ะ ทางที่ดีคือคนใกล้ชิดควรทำให้ดูเป็นตัวอย่างมากกว่าค่ะ
ในประเทศไทยมีการสอน แบบนี้ ที่ไหนบ้างคะ อยากทราบ จังหวัดและที่อยู่ค่ะ ถ้าทราบเบอร์โทรขอเบอร์โทรติดต่อด้วยนะคะ ขอบคุณมากๆค่ะ เพราะตอนนี้หาที่เรียนให้ลูกอยู่ค่ะอยากให้ลูกไปเรียน สถาบันแบบนี้มากๆค่ะ เพราะมันสามารถ นำมาใช้กับชีวิตของเราได้ ขอบคุณมากๆนะคะที่ช่วยแนะนำขอบคุณค่ะ
แอดมินลองหาออนไลน์ดูให้ มีประมาณนี้เลยค่ะ
แต่ถ้าหาอีกน่าจะมีอีกนะคะ
โรงเรียนปัญโญทัย
199 ถ.สุขาภิบาล 5 ซอย 32 (แยก10) แขวงออเงิน เขตสายไหม กทม. 10220
โทร: 02-7920670, 02-7920672 โทรสาร: 02-7920672
Email: waldorfthai@hotmail.com Website : www.panyotai.com/students_th.html
อนุบาลบ้านรัก
29 ซอยแสงจันทร์ ถนนสุขุมวิท 40 ก.ท.ม.10110
โทร.02-3928807, 02-3820069 โทรสาร 381-4269
Website : www.baanrakk.th.edu/index.htm
บ้านฝันดีเนอสเซอรี่ จ.สุรินทร์
280/11 ถ.กรุงศรีนอก ตรงข้ามทางเข้าวัดพรหมสุรินทร์
โทร. 044-520845 หรือ 08-7905876
อนุบาลฟ้ากว้าง เชียงใหม่
Website : www.fahkwang.com/kindergarten.php
โรงเรียนสาธิตปฐมวัย มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต (หลักสูตรเตรียมอนุบาล 2 ขวบ)
21 หมู่ 6 ถนนเทพกระษัตรี ตำบลรัษฎา อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต 83000
โทรศัพท์ 076-211959 ต่อ 217/211 โทรสาร 076-211778
Email : PKRUsathit@gmail.com
@@SpoutsThailand ขออนุญาตแนะนำอีกที่ครับ
ศุนย์การเรียนดุลยพัฒน์
ตั้งอยู่ที่บ้านเลขที่ 144 หมู่ 11 ตำบล เมืองเก่า
อำเภอ เมือง จังหวัด ขอนแก่น 40000
เบอร์โทรศัพท์ 081-754-3878
(ติดต่อได้ในวันและเวลาราชการ จันทร์-ศุกร์ เวลา 08.30-17.00 น.
หากไม่ได้รับสายจะรีบติดต่อกลับทันที
ขออภัยในความไม่สะดวก เพราะบางช่วงอาจติดสอนค่ะ)
E-mail : dulyapat@live.com
facebook.com/DulyapatSchool/
ตอนเด็กผมไม่ชอบโรงเรียนเอามากๆ
ทำไมถึงไม่ชอบคะ
ผมคิดว่าเด็กทุกคนเป็นคนเก่งแต่จะเก่งในเรื่องที่แตกต่างกันออกไป ความโดดเด่นมันอยู่ที่ความแตกต่างนี่แหละ แต่ที่น่าเสียดายที่โรงเรียนพยายามจะทำให้เด็กทุกคนต้องเหมือนกันหม พอเด็กทำไม่ได้ก็จะถูกตีตราว่าโง่ ตอนเด็กผมเป็นคนที่คิดทำอะไรไม่ค่อยเหมือนโครคือเป็นคนมีความคิดสร้ างสรรค์ แต่ก็มักจะถูกครูตำหนิและบอกว่ามันทำไม่ได้หรอกเธอจะไม่ประสบความสำเร็จถ้าคิดแบบนี้แต่ก็มักจะถูกครูตำหนิและบอกว่ามันทำไม่ได้หรอกเธอจะไม่ประสบความสำเร็จถ้าคิดแบบนี้
เห็นด้วยมากๆเลยค่ะ ตอนเด็กๆก้เคยถุกบอกปัดสิ่งที่เป็นความคิดสร้างสรรค์ว่าเป็นสิ่งที่ผิดเหมือนกันค่ะ แล้วเราก็ต้องมาเรียนรู้ว่าสิ่งที่คนอื่นบอกเรามา มันไม่จำเป็นต้องถุกเสมอไป ระบบการศึกษาควรจะยืดหยุ่น และโฟกัสที่ตัวเด็กมากกว่านี้มากๆค่ะ ซึ่งเป็นไปได้ยากถ้าเราไม่ดูและใส่ใจคุณครูที่จะต้องเป็นคนทำสิ่งเหล่านี้