คำเทศนา ซีรี่ย์ "เชื่อทุกวัน กุญแจสู่การอัศจรรย์" ตอนที่ 11 "กล้าก้าวไปโดยความเชื่อ"

คำเทศนา ซีรี่ย์ "เชื่อทุกวัน กุญแจสู่การอัศจรรย์" (iBelieve)
ตอนที่ 11 "กล้าก้าวไปโดยความเชื่อ" (Dare to go in Faith)
วันอาทิตย์ที่ 26 มีนาคม 2017
โดย ศจ.ดร.อานุภาพ วิชิตนันทน์
ศิษยาภิบาลอาวุโส คริสตจักรเสรีภาพกรุงเทพ
www.blconline.org
/ libertychurchbangkok
--------------------------------------------------------------------------------
กล้าก้าวไปโดยความเชื่อ
Dare to go in Faith
สองคำที่สรุปคำสอนของพระเยซูคือ “มา” และ “ไป”
มัทธิว 11:11:29-20
“บรรดาผู้เหน็ดเหนื่อยและแบกภาระหนักจงมาหาเรา และเราจะให้ท่านพักสงบ จงรับแอกของเราแบกไว้และเรียนรู้จากเราเพราะเราสุภาพและถ่อมใจ แล้วจิตวิญญาณของท่านจะพักสงบ เพราะแอกของเรานั้นพอเหมาะและภาระของเราก็เบา” (มัทธิว 11: 29-30)
ลูกา 7:50
“พระเยซูตรัสกับหญิงนั้นว่า “ความเชื่อของเจ้าได้ทำให้เจ้ารอด จงไปเป็นสุขเถิด””
ยากอบ 2:17
“เช่นกันความเชื่อเพียงอย่างเดียวโดยไม่มีการกระทำก็เป็นความเชื่อที่ไร้ประโยชน์”
ลูกา 14:16-20
“พระเยซูตรัสตอบว่า “ชายคนหนึ่งกำลังจัดเตรียมงานเลี้ยงใหญ่ และได้เชิญแขกเหรื่อมากมาย 17เมื่อได้เวลาเริ่มงาน จึงส่งคนรับใช้ไปแจ้งผู้รับเชิญว่า ‘เชิญมาร่วมงานเถิด เพราะบัดนี้ทุกอย่างพร้อมแล้ว’
“แต่พวกนั้นทั้งหมดพากันขอตัว คนแรกบอกว่า ‘ข้าพเจ้าเพิ่งซื้อที่นา จำเป็นต้องไปดู ขออภัย ข้าพเจ้าไปงานเลี้ยงไม่ได้’
“อีกคนหนึ่งบอกว่า ‘ข้าพเจ้าเพิ่งซื้อวัวมาห้าคู่ และกำลังจะไปลองดู ขออภัย ข้าพเจ้าไปงานเลี้ยงไม่ได้’
“ยังมีอีกคนหนึ่งกล่าวว่า ‘ข้าพเจ้าเพิ่งแต่งงาน ดังนั้นจึงมาไม่ได้’ “คนรับใช้นั้นกลับมารายงานนาย นายก็โกรธและสั่งคนรับใช้นั้นว่า ‘จงรีบไปตามถนนและตรอกซอกซอยในเมือง พาคนจน คนพิการ คนตาบอด และคนง่อยมา’
“คนรับใช้ตอบว่า ‘นายเจ้าข้า ข้าพเจ้าได้ทำตามที่ท่านสั่งแล้ว แต่ก็ยังมีที่ว่างอีก’
“แล้วนายจึงบอกคนรับใช้ว่า ‘จงไปตามถนนหนทางในชนบท และระดมพวกเขามาให้เต็มบ้านของเรา เราบอกท่านว่าไม่มีสักคนที่เราเชื้อเชิญไว้จะได้ลิ้มรสงานเลี้ยงของเราเลย’ ””
ในช่วง 2-3 ปีแห่งความเชื่อนี้
เราจะไปที่ไหนและทำไม?
1. ขอให้พระเจ้าช่วย (We are going to go to God for Help)
1 พงศาวดาร 16:11
“จงหมายพึ่งองค์พระผู้เป็นเจ้าและพลังอำนาจของพระองค์ จงแสวงหาพระพักตร์พระองค์เสมอ”
สดุดี 34:10
“...แต่บรรดาผู้ที่แสวงหาองค์พระผู้เป็นเจ้าไม่เคยขาดสิ่งที่ดีเลย”
สดุดี 37:40
“ องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงช่วยเขาและทรงกอบกู้เขา พระองค์จะทรงกอบกู้เขาจากคนชั่วและช่วยให้เขาปลอดภัย เพราะพวกเขาลี้ภัยในพระองค์”
เอเฟซัส 3:12
“ในพระองค์และโดยความเชื่อในพระองค์เราจึงเข้ามาหาพระเจ้าได้ด้วยเสรีภาพและความมั่นใจ”
สดุดี 34:22
“ไม่มีสักคนที่ลี้ภัยในพระองค์จะถูกปรับโทษ”
2. เราต้องไปด้วยกันเพื่อช่วยเหลือกันและกัน (We are going to go together for support)
2.1 เพราะชีวิตมันยาก (Because life is tough!)
กิจการ 14:22
“เพื่อช่วยให้พวกสาวกเข้มแข็งขึ้นและให้กำลังใจพวกเขาให้สัตย์ซื่อมั่นคงในความเชื่อ พวกเขากล่าวว่า “เราต้องเผชิญความยากลำบากมากมายเพื่อเข้าอาณาจักรของพระเจ้า””
2.2 เพราะความดีมักจะถูกต่อต้านโดยความชั่วเสมอ (Because good is always opposed by evil!)
ฟิลิปปี 1:27-2:2
“ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น...ข้าพเจ้าก็รู้ว่าท่านยืนหยัดมั่นคงเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ต่อสู้เหมือนเป็นคนเดียวกันเพื่อความเชื่อแห่งข่าวประเสริฐ...ไม่หวาดกลัวผู้ที่ต่อต้าน...เพราะพระเจ้าได้ประทานสิทธิพิเศษแก่ท่านเพื่อปรนนิบัติพระคริสต์ ไม่เพียงให้ท่านเชื่อในพระองค์เท่านั้น แต่ให้ทนทุกข์เพื่อพระองค์ด้วย เพราะท่านเองก็กำลังต่อสู้ฝ่าฟันแบบเดียวกับที่ท่านได้เห็นข้าพเจ้าฝ่าฟันมาแล้ว...มีความรักอย่างเดียวกัน มีใจเดียวกัน และมีเป้าหมายเดียวกัน”
2.3 เพราะเราสามารถทำได้มากกว่าด้วยกัน (Because we can afford to do more together)
3 ยอห์น 1:8
“ฉะนั้นเราควรต้อนรับและช่วยเหลือคนเช่นนี้เพื่อว่าเราจะได้ทำงานเพื่อความจริงร่วมกัน”
3. เราจะเป็นผู้ใหญ่ขึ้นฝ่ายวิญญาณ (We are going to go on to maturity)
ฮีบรู 6:1
“เพราะฉะนั้นให้เราผ่านหลักคำสอนเบื้องต้นเกี่ยวกับพระคริสต์และเดินหน้าสู่ความเป็นผู้ใหญ่...”
2 เปโตร 1:8
“เพราะถ้าท่านมีคุณสมบัติเหล่านี้มากยิ่งๆ ขึ้นก็จะทำให้ท่านมีประสิทธิภาพและเกิดผลในการรู้จักองค์พระเยซูคริสต์เจ้าของเรา”
2 เปโตร 1:9
“แต่ถ้าผู้ใดขาดคุณสมบัติเหล่านี้ก็ตาบอดตาสั้น และลืมว่าตนได้รับการทรงชำระจากบาปในอดีตแล้ว”
4. เราจะประกาศข่าวดี (We are going to go tell the Good News)
โรม 10:13-15
“เพราะว่า “ทุกคนที่ร้องออกพระนามขององค์พระผู้เป็นเจ้าจะได้รับการช่วยให้รอด”
14แล้วผู้ที่ยังไม่เชื่อจะร้องเรียกพระองค์ได้อย่างไร? และผู้ที่ยังไม่เคยได้ยินเรื่องของพระองค์จะเชื่อได้อย่างไร? และหากไม่มีใครประกาศเรื่องของพระองค์ พวกเขาจะได้ยินได้อย่างไร? และถ้าไม่มีใครส่งเขาไป เขาจะประกาศได้อย่างไร? ตามที่มีเขียนไว้ว่า “เท้าของผู้นำข่าวดีมาช่างงดงามยิ่งนัก!””
กิจการ 1:8
“แต่ท่านทั้งหลายจะได้รับพระราชทานฤทธิ์เดช เมื่อพระวิญญาณบริสุทธิ์จะเสด็จมาเหนือท่าน และท่านทั้งหลายจะเป็นพยานฝ่ายเราในกรุงเยรูซาเล็ม ทั่วแคว้นยูเดีย แคว้นสะมาเรีย และจนถึงที่สุดปลายแผ่นดินโลก”
ลูกา 9:60
“พระเยซูตรัสกับเขาว่า “ปล่อยให้คนตายฝังผู้ตายของพวกเขาเองเถิด ส่วนท่านจงไปประกาศเรื่องอาณาจักรของพระเจ้า””
มัทธิว 28:19-20
“เหตุฉะนั้นเจ้าทั้งหลายจงออกไปสั่งสอนชนทุกชาติ ให้เป็นสาวกของเรา ให้รับบัพติศมาในพระนามแห่งพระบิดา พระบุตรและพระวิญญาณบริสุทธิ์ สอนเขาให้ถือรักษาสิ่งสารพัดซึ่งเราได้สั่งพวกเจ้าไว้ นี่แหละเราจะอยู่กับเจ้าทั้งหลายเสมอไป จนกว่าจะสิ้นยุค”
สดุดี 2:8
“จงขอจากเรา แล้วเราจะมอบประชาชาติทั้งหลายให้เป็นกรรมสิทธิ์ของเจ้า และให้เจ้าครอบครองไปจนสุดปลายแผ่นดินโลก”