ไหวไหม? รัฐบาลไทยจ่องัดมาตรการ EV สู้อินโดนีเซีย / Toyota bZ4X ลดสูงสุด 3 แสนบาท!
ฝัง
- เผยแพร่เมื่อ 30 เม.ย. 2022
- บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เป็นผู้ประกอบการอุตสาหกรรมรถยนต์รายล่าสุด ที่ลงนามข้อตกลง ตามมาตรการสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า กับกรมสรรพสามิต ส่งผลให้รถยนต์ไฟฟ้า Toyota bZ4X ที่จะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทย ภายในปี 2022 นี้ จะได้รับสิทธิการลดอากรศุลกากร ภาษีสรรพสามิต และการรับเงินอุดหนุน รวมสูงสุด กว่า 300,000 บาท ซึ่งเมื่อหักออกจากราคาจำหน่ายประมาณการณ์ ที่เคยมีข่าวมาก่อนหน้านี้ ว่าราคาจำหน่าย จะอยู่ที่ราว 2 ล้านบาท บวกลบ ทำให้ราคาใหม่ ที่จะมีการจำหน่ายจริง อาจจะอยู่ที่ 1.7 ล้านบาท โดยประมาณ ซึ่งแม้ว่ายังไม่มีข้อสรุป และการยืนยันราคาจำหน่าย แต่ด้วยราคาระดับนี้ กับรถคอมแพคท์เอสยูวีไฟฟ้า ก็ต้องยอมรับว่า ยังเป็นราคาที่สูง เมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่งในตลาด ซึ่งส่วนใหญ่ก็คือ รถยนต์ไฟฟ้าจากจีน ที่มีราคาเป็นจุดขายสำคัญอยู่แล้ว โดยล่าสุด ยังมีเพียง MG และ Great Wall Motor ที่ได้ลงนามในข้อตกลงมาตรการสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า และคาดว่าภายในปีนี้ จะมีผู้ประกอบอุตสาหกรรมยานยนต์ และผู้นำเข้า ทั้งรถยนต์ไฟฟ้า และรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า เข้าร่วมลงนามในข้อตกลง กับกรมสรรพสามิต อีกไม่น้อยกว่า 5 ราย โดยในสัปดาห์หน้า จะมีการลงนาม กับค่ายรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าสัญชาติไทย อีก 2 ราย
ติดตามช่องของเราทาง Facebook ได้ที่ / cardebuts-891205251089964
หรือเว็บไซต์ cardebuts.com/ - ยานยนต์และพาหนะ
ไม่ช้าก็เร็วก็ต้องย้ายฐานค่ะ ไทยต้องก้าวข้ามไปเป็นประเทศผู้คิดค้นได้แล้วเป็นแค่ฐานการผลิตก็เหนื่อยแบบนี้แหละ ติดหล่มประเทศรายได้ปลานกลาง
เราเห็นด้วยมากๆ เราต้องเป็นเจ้าของนวัตกรรมเองได้แล้วไม่ใช่เป็นแค่ฐาน
อินโดเป็นแหล่งผลิต “นิกเกิล” ซึ่งเป็นแร่หลักที่ใช้ในการผลิตแบตเตอรี่ ซึ่งไทยไม่มีแร่ตัวนี้ เมื่อปีที่แล้วมีข่าวว่า เทสล่า จะมาตั้งโรงงานผลิตแบต และ ประกอบรถยนต์ในอินโด แต่มาปีนี้ได้ข่าวว่าเลื่อนไปแล้ว เพราะอินโดอยากจะให้เทสล่าถ่ายทอดเทคโนโลยี แต่ เทสล่าไม่ยอม ตอนนี้ไม่รู้ใกล้ได้ขอสรุปหรือยัง
คนอินโดนิยมใช้รถยนต์นั่งที่เป็นลักษณะ มินิแวน เช่น Toyota innova แต่คนไทย ชอบรถเก๋ง 4 ประตู หรือ กระบะ ฐานการผลิตของโตโยต้า รถเก๋ง กระบะ จะอยู่ในไทย ในขณะที่ มินิแวน จะอยู่ที่อินโด
ตอนนี้ไทยเริ่มมีโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจากจีนมาตั้งแล้ว คือ MG ส่วนโรงงานผลิตแบตเตอรี่ ก็จะมี EA แต่การที่จะมีโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าได้นั้น คนในประเทศต้องอุดหนุนรถยนต์ไฟฟ้าในจำนวนที่มากพอสมควร ทางนักลงทุนจึงจะกล้ามาตั้งโรงงาน ตรงนี้ไทยยังได้เปรียบอินโดนีเซียอยู่ เพราะคนไทยซื้อรถไฟฟ้ามาใช้มากกว่าคนอินโด เนื่องจาก ราคารถไฟฟ้ายังสูงเกินที่คนอินโดจะซื้อได้อยู่ แต่ถ้ารถยนต์ไฟฟ้าราคาถูกลงก็ไม่แน่เหมือนกัน
เสริมนะคะ ระบบการชาร์ตไฟฟ้าของอินโดนีเซีย จะต้องลงทุนเยอะกว่าด้วย เนื่องด้วยการเป็นเกาะนี่แหล่ะค่ะ ดังนั้น จะต้องลงทุนสูงกว่า ของไทย เป็นแผ่นดินเดียวกันไปทั้งประเทศ ดังนั้น การลงทุนทำสถานีชาร์ตไฟจะง่ายกว่า และคนอินโด เอง ก็คงยังมองรถใช้น้ำมันเป็นหลักค่ะ ลักษณะของปั๊มน้ำมันเดิมของอินโดนีเซีย ถ้าเคยไปกันก็จะพอทราบว่า จะทำสถานีชาร์ตไฟ ก็คงจะต้องลงทุนอีกเยอะ
@@anastasiayusupov7931 ขอบคุณครับ
อาเชียนมีFTA ระหว่างกันอยู่แล้ว เรื่องแร่ไม่ต้องห่วง ชิงนักลงทุนก่อน ได้เปรียบ ลงทุนก้ออย่างน้อย 5ขึ้นถึงได้ทุนกำไรคืน จากนั้นสร้างแรงจูงใจให้อยู่ต่อ
ใช่ครับ นิกเกิลเป็นตัวแปลอีกตัว และเขาไม่ขายด้วย เขาเก็บไว้ผลิตเอง ไม่มีการส่งออก ทำให้รถไฟฟ้าต้องผลิตบ้านเขา เพราะเขามีวัตถุดิบ
ไทยกำลังศึกษา แบต semi solid อยู่ครับ ใช้ โซเดียม ทำขั้ว แทน ลิเที่ยม นิเกอร์ หาง่าย ราคาถูก นี้คือสาเหตุไทยสร้างโรงงานเบตเตอรี่ สร้างแล้ว ต้องวิจัย ไปด้วยครับ ระหว่างรอ ก็ต้องใช้ ลิเที่ยม ไอออน ไปก่อน
อาจจะเเค่ยันๆได้ แต่ระยะยาวคงสู้ไม่ได้หรอก อินโดนีเซียอีกไม่กี่ปีจะมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ทรัพยากร กำลังคน กำลังซื้อสูงมากน่าลงทุน
ประชากรเค้า 260 ล้านคน
ประชากรเรา 70 ล้านคน
ต่างกัน 3.5 เท่า เทียบกันไม่ได้อยู่แล้วในเรื่องกำลังการผลิต 😂😂😂
ใช่ค่าแรงเขาถูกกว่าเรา แถมเราเรียกค่าแรงขั้นต่ำเพิ่มอีก
ไทยเราศักยภาพ สู้ได้ เศรษฐกิจใหญ่มาก ทรัพยากร กำลังซื้อสูงมากๆๆน่าลงทุนมาก
@@armyfc.1225 เกี่ยวกันมั้ยเนี่ย 55
จริงๆ ตลาดอาเซียน เป็นตลาดเดียวกันค่ะ ดังนั้น ต้องดูกันยาวๆ อาจจะตั้งโรงแบตเตอรี่ที่อินโดนีเซีย แต่ประกอบรถบางอย่างในไทย อย่างรถกะบะ หรือรถประเภท ซิตี้คาร์ คือ ไทยยังพอจะสู้ได้ อีกเรื่องคือ เรื่องของทำเลที่ตั้ง เราสามารถเอารถที่ผลิตได้ ใส่รถบรรทุกไปขายเพื่อนบ้านได้ทันทีเลย ซึ่งอันนี้เป็นข้อได้เปรียบนิดหน่อย แต่ว่า กำลังซื้อเขาไม่ได้สูงมาก
แค่แร่ลิเธียมตัวเดียวเป็นตัวเปลี่ยนเกมส์ได้ขนาดนี้เลย ยังไม่นับปัจจัยอื่นนะเนี่ย
สู้อินโดยากครับ ต้องหาทางเป็นศูนย์กลางการผลิตเเละส่งออกรถยนต์ไฟฟ้า เป็นพันธมิตรกับอินโดนีเซียเพื่อได้ซับพลายเเร่พื้นฐานการผลิตเเบตเตอรี่ หาทางลงทุนไปลงทุนร่วมกับเค้า เเทนที่จะเป็นคู่เเข่งโดยตรง เพื่อให้เกิด win-win ทั้งสองฝ่าย ได้ประโยชน์ร่มกัน บ้านเราไม่มีอะไรเลย นอกจากฝีมือเเรงงาน ผู้บริหารประเทศต้องตามโลกเเละพยายามผูกมิตรกับเพื่อนบ้านทุกประเทศ
สู้ยาก เค้ามีทรัพยากรแร่ทำแบตมหาศาลทำให้ต้นทุนถูกซึ่งเราไม่มี ต้องพัฒนาด้านอื่นแทนแล้วเตรียมแรงงานฝีมือที่เปลี่ยนไปค่อยๆลด อาจจะต้องไปเอาดีด้านที่เราได้เปรียบเช่น โลจิสติกแทน ถ้าทำแลนด์บริดสำเร็จ
เสริมนะคะ ระบบการชาร์ตไฟฟ้าของอินโดนีเซีย จะต้องลงทุนเยอะกว่าด้วย เนื่องด้วยการเป็นเกาะนี่แหล่ะค่ะ ดังนั้น จะต้องลงทุนสูงกว่า ของไทย เป็นแผ่นดินเดียวกันไปทั้งประเทศ ดังนั้น การลงทุนทำสถานีชาร์ตไฟจะง่ายกว่า และคนอินโด เอง ก็คงยังมองรถใช้น้ำมันเป็นหลักค่ะ ลักษณะของปั๊มน้ำมันเดิมของอินโดนีเซีย ถ้าเคยไปกันก็จะพอทราบว่า จะทำสถานีชาร์ตไฟ ก็คงจะต้องลงทุนอีกเยอะ ดังนั้น รัฐบาลเราจะต้องส่งเสริมให้มีการสร้างสถานีชาร์ตไฟฟ้าสำหรับรถยนต์ด้วย ซึ่งจริง ๆ ก็ไม่น่ายาก เพราะว่า ปตท.ก็ของรัฐและปั๊มแต่ละแห่งของปตท. ก็ค่อนข้างมีขนาดใหญ่พอที่จะติดตั้งเครื่องชาร์ตสำหรับรถยนต์ค่ะ
แต่นั้นก้ง่ายต่อการวางแผ่นจัดการเริ่มทำมาก เขาแค่ต้องลงทุนสูงหน่อยครั้งเดียว จากนั้นก้ยาวๆ กำไรจากขนาดเศรษฐกิจขนาดใหญ่ของอินโดและฟิลิปปินส์ น่าจะสูงกว่าที่ลงทุนไปในตอนแรก
รถไฟฟ้าจากญี่ปุ่นจะแพ้รถไฟฟ้าจีนก็ตรงราคานี้แหละครับ ราคาสูงเอามากกว่ารถเครื่องยนต์ ทำให้คนที่จะซื้อรถยังต้องคิดให้มากก่อนซื้อรถไฟฟ้าถึงจะได้ส่วนลดจากรัฐก็ยังสูงอยู่ดี ถ้าอนาคตสามารถให้รถไฟฟ้าราคาไม่สูงมากว่ารถ อีโคคาร์ มากหนักอาจจะทำให้ประเทศไทย หันมาใช้รถไฟฟ้า มากขึ้น บวกกับถ้ามีสถานีชาร์จไฟมากเพียงพอ
สู้ยากครับ
คงจะแซงทำอย่างไรได้ไทยไม่มีแร่ธาตุที่สำคัญในการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า และอินโดนีเซียเขารุกถึงลูกถึงคนกว่าไทย นโยบายการส่งเสริมการลงทุนของไทยยังแย่มากจริงๆกว่าเวียดนาม โดนเวียดนาม มาเลเซียเอาไปกินหลายครั้งยังไม่เข็ดไม่รู้จักปรับปรุงตนเอง
ไทยสู้อะไรกับอินโดฯได้เรื่อง รถ EV แร่ธาตุผลิตแบตเตอรี่ก็ไม่มี ยากนะผมว่า คิดแต่ทำไม่ได้ ตอนที่ญีปุ่นมาลงทุนในไทยก็เพราะตอนนั้นค่าเงินญี่ปุ่นแข็งมาก แล้วไทยก็เปิดเขตเศรษกิจพิเศษพอดีถึงดึงนักลงทุนญี่ปุ่นมาได้
แล้วแบตเตอรี่สังกะสีที่ สวทช. วิจัยอยู่ไปถึงไหนแล้ว
1.7 ล. คงไปซื้อ MG EP ครับ
เราต้องพัฒนาและวิจัยร่วมกับญี่ปุ่น เรื่องเครื่องยนต์ไฮโดรเจน
ต่างประเทศเริ่มทดสอบกันหลายเจ้าแล้ว เพราะทุกคนลงความเห็นกันหมดว่า นิกเกิล ช้าหรือเร็วถึงทางตันแน่นอน
ไหวแน่นอน ของแบบนี้ต้องดูกันยาวๆ
จัดไป
ถ้าสู้เรื่องราคาไม่ได้ก็ต้องสู้ด้านคุณภาพและประสบการณ์แล้วล่ะ ไทยเป็นฐานการผลิตรถมายาวนานสั่งสมความรู้มาก็ไม่ใช่น้อย ซัพพลายเชนด้านอุปกรณ์รถยนต์ก็แทบจะทำได้ทุกชิ้นส่วน ญี่ปุ่นรึบริษัทฯ รถต่างๆก็คงไม่เทเราทิ้งขนาดนั้น เหมือนหลายปีก่อนที่โตโยต้าไปทำโรงงานที่เวียตนามเพราะคิดว่าค่าแรงถูกสุดท้ายก็ต้องซมซานกลับมาที่ไทยเหมือนเคยเพราะเวียตนามขาดประสบการณ์กำลังการผลิตต่ำกว่าที่คาดไว้ รถประกอบในนั้นกลับมีราคาแพงกว่านำเข้าจากไทยซะอีก ชิ้นส่วนนำเข้าจากไทยเกือบทั้งหมดนี่คือตัวอย่าง จริงอยู่ตลาดของเราอาจจะเล็กลงเมื่อเทียบกะอินโดฯ ซึ่งประชากรมีมากกว่าหลายเท่า แต่ใช่ว่าคนอินโดฯ 200 กว่าล้านคนจะมีกำลังซื้อรถได้ทุกคนซะเมื่อไหร่ ปัญหาของประเทศเขามันก็มีและอาจจะมีมากกว่าเราหลายเท่าก็ได้ มองโลกในแง่ดีบ้างก็น่าจะดี ถึงตอนนั้นไทยก็คงปรับตัวไปถึงไหนแล้วคงไม่อยู่นิ่งรอวันตายหรอก
ใช่จ้า จุดแข็ง(โป๊ก)ของไทยจุดหนึ่ง ก็คือเรื่องซัพพลายเชนที่แทบจะผลิตได้ทั้งคันนี่แหละ ไม่ใช่ว่าทุกประเทศจะทำได้ในระยะสั้นๆ ของแบบนี้มันต้องใช้เวลา
ดีครับขอให้จริงจังจริงใจ
ผมว่าหัวผู้นำเราไปไปถึงไหนครับ เมืองนอกเขาไม่ไว้ใจ เลยไม่กล้าลงทุน
ผมยังเชื่อว่าไทยและอินโดยังเป็นฐานการผลิตรถยนต์ที่ต่างโมเดลเพราะรถยนต์ไฟฟ้าหรือน้ำมัน ย่อมมีหลายรุ่นหลายแบบ การเปลียนไลน์การผลิตก็ต้องใช้เวลาและใช้เงิน พอสมควร ถึงไทยจะไม่มีแร่ผลิตแบตเตอร์รี่แต่บริษัทแม่สามารถลงทุนในอินโดและส่งมาไทยได้เหมือนไทยผลิตชิ้นส่วนส่งบริษัทต่างประเทศหลายๆประเทศ
ชาติหน้าบา่ยๆๅสู้อินโดประเทศเขาไม่มีปรสิตเห็บเหาดูดกินภาษีประชาชน
ลด3แสน toyota ก็ตั้งราคาเผื่อเป็ร 2.2 ล้านเลยสิคะ เออออ มันเริศ👏👏👏👏👏
ที่อินโดนีเซีย มีแร่ที่ใช้ผลิตแบตเตอรี่เยอะครับ ก็เลยร่วมมือกับ Tesla ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าใน ASEAN
ส่วนไทย ก็นิยมรถ EV จีนมากขึ้น โดยเฉพาะ ORA Good Cat ที่ยอดจองมากกว่า 3,500 คัน ถึงขั้นปิดจองชั่วคราวครับ
ไม่ไหว..เพราะอย่างน้อยอินโดฯมีแหล่งแร่ที่ใช้ผลิตแบตเตอร์รี่ มาตราการที่รัฐทำในขณะนี้ก็ช้าเกินไป หัวการค้าไม่มี คอยแต่จะคิดถึงว่า ค่ายไหนจะให้ส่วนแบ่งมากกว่ากัน
It is a little too late….
เราจะแพ้อินโดฯในช่วง EV มานี่แหละ.
เขามีแร่ทำแบตใหญ่ที่สุด
ค่ายญี่ปุ่น ไม่ปรับเปลี่ยน ระวังจะเป็นแบบ Nokia นะคร๊าาาาฟ รถจีนถูก แถมสวยด้วย
ต้องเพิ่มการค้นคว้าและสนับสนุน เทคโนโลยี่แบตฯ โดยด่วน คนไทยจบ ดอกเตอร์ มากมายต้องมาช่วยกัน รัฐบาลด้วย ถ้าสำเร็จ อุตสาหกรรมรถยนต์ก็อยู่ได้แน่นอน
วัตถุดิบไม่มีก็จบ ท้ายสุดก็ต้องไปเปิดโรงงานที่อินโด ด๊อกเตอร์ไทยสาขาวิทยาศาตร์หายาก พวกนักวิจัย ตปท.โน่นหลายคนจบแคา ป. ตรี แต่ม่ประสพการณ์ทำงานจริงเขาก็ได้เลื่อนไปทำแผนกวิจัยและพัฒนา น้องชายที่อยู่อเมริกาจบ ปวศ. ที่โน่นด้วยซ้ำแต่ได้ไปอยู่แผนกวิจัยพัฒนาสายไยแก้วชนิดงอได้โดยไม่เสียหาย หลังจากทำงานมาหลายส่วนในโรงงาน
ร้ายจริงๆประเทศไทยกู้เงินญี่ปุ่น
รู้ๆกันอยู่ ปัญหาคืออะไร มีโอกาสได้เลือกตั้งก็เลือกกันซะนะ
ตอนนี้จีน เทสล่าลงทุนที่อินโดแล้ว วัตถุดิบทำแบตผลิตที่อินโดต้นทุนต่ำกว่าไทยเยอะ ตอนนี้ขาดแคลนชิปในรถ
ไฟฟ้าเราจะผลิตชิปส่งออกด้วยนะพวกมอเตอร์ไฟฟ้าและอื่นๆเสริมส่วนมีการผลิตรถไฟฟ้าได้ส่วนนึงก็ยังดีแต่โอกาสอินโดเป็นดีทรอสท์แทนไทยค่อนข้างสูง การประกอบ qc ไทยทำให้ดีเพื่อคุณภาพ
ไม่สนครับ หลักการที่ดีที่สุดตอนนี้คือวางฐานในประเทศแน่นๆ ทำเองใช้เอง กอปเทคโนโลยี แล้วสร้างโลคอลแบรนด์ แบบที่จีนเคยทำ
ตู่เนี่ยนะ
ได้เป็นดีทอยแน่งานนี้อีกไม่นาน
เปิดให้คนไทยผลิตเอง100%
สวยพี่สวย
แบตเตอรี่ควรย้ายมาติดตั้งหน้ารถ หนีน้ำ
ถ้าจะสู้กับอินโดเรื่องแบต ไม่มีทาง เพราะเราไม่มีแหล่งวัตถุดิบ นอกจากนิเกิล กับโคบอลต์ อินโด ยังมีเหมืองทองแดงอีกหลายแห่ง แล้วพวกเพิ่งออก กม.ห้ามส่งออกแร่เหล่านี้เรียบร้อย คือบังคับให้คนซื้อ ต้องมาตั้ง รง.ผลิตแทนที่จะซื้อแร่กลับไปผลิตที่ประเทศตัวเอง
เมื่อไหร่ที่มีการคิดค้น กำจัดโคบอลต์ นิกเกิ้ล ออกจาการใช้ทำขั้ว+ ของแบตได้ อินโด ถึงจะหมดสภาพ
เพราะอินโดเอง ก็ไม่มีแร่ลิเทียมเหมือนกัน ตอนนี้ แบตที่ไม่ใช้แร่นิเกิ้ลพวกนี้ มีแต่ LiFePo ซึ่งความจุไฟมันต่ำกว่าเค้า 3-40%
อินโดเป็นหมู่เกาะอยางไรไทยก็ที1ด้านอีวี
คนก็อยากซื้อรถไฟฟ้า แต่รัฐยังไม่ชัดเจนเรื่องสถานีชาร์ตไฟที่ครอบคลุมทั้งประเทศ
แพงมากมาก
สู้ยากครับ อินโดมีแร่หลักในการผลิตแบตเตอรรี่ และค่าแรงก็ถูกกว่าไทย บริษัทผู้ผลิตเล็งเห็นแล้วว่า ตั้งที่อินโดได้กำไรแน่ๆ แค่ผลิตให้คนอินโดใช้ก็คุ้มค่าแล้วครับ ไทยเราไม่มีแร่หลักอาศัยนำเข้าลิเทียม ถ้าอนาคตทุกประเทศผลิตรถev มีต้องการลิเทียมสูง ราคามันก็กระโดดไปเหมือนราคาน้ำมัน ไทยเราต้องทำใจ อะไรที่เราผลิตไม่ได้ ต้องง้อเขา
ถ้า toyota มาราคาขนาดนี้ก็เตรียมไปนั่งคุยกับ nissan leaf กันสองคนนะครับ มองดูจีนเค้าขายแข่งกันไป
อินโดเค้าร่วมมือกับเทสล่าไปแล้วไม่ทันเค้าหรอก
โนฮาวมันเกิดจากคิดเองหรือเขามาตั้งโรงงานและเราเรียนรู้ด้านแบตอินโดได้เปรียบเพราะมีวัตถุดิบ ส่วนเรามีความได้เปรียบด้านกำลังซื้อและการประกอบรถยนต์และ โลจิสติกส์
หานายกฉลาด ๆ ให้ได้ก่อน
อินโดน้ำมันถูกกว่าไทยไหม คนก็นิยมใช้รถน้ำมัน
ใกล้หมดยุคของประเทศไทยเป็นอุตสาหกรรมแล้ว
ดูสิงคโปร์ ใต้หวัน ฮ่องกง เป็นตัวอย่าง
ถ้ายังจะเอาทหารมาเป็นผู้นำบริหารประเทศก็ไปไม่รอด
ถ้าลดภาษีนำเข้าแบตเตอรี่ 100% เพื่อส่งเสริมการประกอบในไทยน่าจะเห็นแสงสว่างปลายอโมงค์ได้บ้าง
ก็ก้มหน้าก้มตาทำรถกระบะต่อไป
ไทยพึ่งตื่น
ทีแรกก็เห็นว่าจะผลิตเองสุดท้ายศักยภาพไม่ถึงเป็นได้อย่างมากแค่ฐานผลิตต่อมาสู้เขาไม่ได้แม้แต่ฐานผลิตยังยากเลย แล้วจะเอาอะไรไปสู้เขา แต่แม้แต่ประเทศที่ไม่ได้มีทรัพยากรมากมายก็สามารถร่ำรวยได้ถ้าผู้นำฉลาดและมีวิสัยทัศน์ จบแล้วประเทศไทย
คนหากินเช้าค่ำเหมือนผม
คงไม่มีปัญญาแพงจัด
ถ้า1.7จริงขายไม่ทันผลิตแน่ๆ คุณภาพและชื่อเสียงด้านความทนทานยังเหนือจีนอยู่ คันนี้สวยจริงทั้งภายในภายนอก แล้วถ้าแบตเสื่อมอย่างที่บอกว่า10ปีเสื่อมแค่10%รับรองขายดีแน่นอน
มันสายไปแล้ว
ไม่ทันแดกแลัวช้าเป็นเต่าเอาควสมมาบรืหารก็ใด้แค่นี่นะ
🙏🙏🙏🇹🇭🇹🇭🇹🇭🇹🇭นี่คือไทยสยาม จะก้าวล้ำการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน
ก็ มัวแต่ แง่มกัน ใครเขาจะมาลงทุน
อยากสู้ได้ต้องเปลี่ยนนายกฯให้มีวิสัยทัศน์และเท่าทันโลกถ้ายังเป็นอย่างนี้ฝันไปเหอะชาติหน้าก็ไม่สำเร็จ
Toyota bZ4X ถ้าเปิดขายในไทย ผมมองว่าน่าจะขายดีขายได้อยู่เพราะกลุ่มคนที่อยากใช้รถไฟฟ้าแต่ไม่อยากเริ่มต้นกับการใช้รถจีน
ก็มีอีกมากคนกลุ่มนี้จ่ายให้กับรถไฟฟ้าราคาไม่เกิน 2 ล้านผมว่ากลุ่มนี้จ่ายได้สบายๆ อีกทั้งโตโยต้าเองก็มีความน่าเชื่อถือในการเป็นยักษ์ใหญ่
ของอุสาหกรรมรถยนต์ทีการันตีคุณภาพของสินค้าได้ว่ามีประสิทธิภาพ
รถev โตโยต้า มีอะไร พิเศษ กว่ารถ จากค่ายจีน ราคาถึงแพงกว่ามากขนาดนั้น แม้ได้ส่วนลด แล้ว
คำตอบนั้นง่ายมากครับแพงที่แบรนด์
คิดว่าน่าจะพอสู้อินโดนีเซียได้นะผมว่า ไทยต้องเร่งมือแล้ว ขืนไทยไม่ทำอะไรสักอย่างเกี่ยวกับ EV มีหวังโดนอินโดแซงแน่ครับผม
รัฐบาล ช้า ก็จะ เสียแชมป์ เหมือน เสียแชมป์ส่งออกข้าวให้เวียดนามแหละ
คิดช้าไป
1
การทำงานตัดสินใจของรัฐฯไทยช้ามากคิดว่าสู้เขาไม่ได้หรอก แนวคิดการจัดการยังไม่ก้าวไกลพอ
ราคาสูงลิ่ว
ตื่นตัวช้ารัฐ
แรงงานไทยไหลไปต่างประเทศ ส่อผลกระทบในระยะยาว
ยากมีหลายปัจจัย วัตถุดิบ ค่าแรง หลายอย่าง อีกอย่างค่าแรงไทยก็จะขอขึ้นอีกเป็น 492 บาท อืม
บริษัทต่างๆคงคิดหนักกว่าเดิมอีก
ฝากไปถามรัฐบาลไทย โดยเฉพาะกระทรวงอุตสาหกรรม หน่อยครับ
เคยส่ง รัฐมนตรีในกระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมทีมงาน
ไปคุยกับพี่อีลอน มาร์ค บ้างไหม รัฐบาลไทยออฟเฟอร์อะไรดึงดูดให้เขามา
ลงทุนตั้งโรงงานในไทยบ้าง
ฝากช่องไปถามหน่อยครับ
อีกสิบปีนุ้นละรถไฟฟ้าพากันอวยเกิน
อยู่ที่กึ๋นผู้นำล้วนๆครับ หลายชาติไม่มีทรัพยากร นำเข้าวัตถุดิบทุกชิ้น ยังพัฒนาเป็นผู้ส่งออกได้เลย
ต่อให้ไม่มีไอ้ตู่ก็ยากนะเอาจริง สั่งวัตถุดิบมา ไหนจะค่าขนส่ง ไหนจะค่าแรงที่จะขอขึ้นอีก
ต่อให้ไอ้ตู่ไม่อยู่ก็ยาก อินโดมีวุตถุดืบในประเทศเด้อ ถ้าเราทำได้ราคาก็สูงกว่าอินโด
โครตจริง อยู่ที่วิสัยทัศน์ผู้นำล้วนๆ
อย่างยางฮันกุก ใครจะไปคิดว่าเกาหลีใต้จะผลิตยางรถยนต์ระดับโลกได้ ทั้งๆที่ไม่มีต้นยางสักต้นในประเทศ
สู้เรืองแบตเตอรี่ไม่ได้ ก็สู้เรื่อง ซอฟแวร์ หรืองานออกแบบรถ กับ ส่วนประกอบรถยนต์ที่มีเทคโนโลยีใหม่ๆ แต่อย่างว่า รัฐบาลไม่ค่อยทำอะไรที่ผ่านสร้างแต่ทางถนน ทางรถไฟ ทางรถไฟฟ้า ไม่ค่อยเน้น ความรู้เทคโนโลยีอะไรที่ใหม่ๆ มีแต่เอางบประมาณไปสร้างแต่วัตถุโบราณ
จริงๆ ทำถนน ก็เพื่ออุตสาหกรรมรถยนต์นี่แหล่ะค่ะ
เอาจริง ถ้าเอกชนเก่งจริง ต้องทำได้สิคะ เอกชนบางเจ้า รัฐบาลส่งเสริมให้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ตั้งนานนม ก็ยังสร้างแบรนด์ไม่ได้เองเสียที ทั้งๆ ที่รัฐบาลแทบจะปิดตลาดเรื่องชิ้นส่วนรถยนต์ พอรวยแล้วอยากเล่นการเมืองไปก็มี แทนที่จะไปสร้างแบรนด์รถของตัวเอง หรืออะไรก็ไม่
ถ้ารัฐบาลเจ้าชุดนี้ยังอยู่ อย่าหวังว่ามันจะคิดค้นนวัตกรรมหรือสู้กับต่างชาติ
ไหวสิครับ
สู้ด้วยการลดต้นทุนและใช้เทคโนโลยี่มากขึ้นอย่าไปยึดติดแรงค่าแรงถูกอย่างเดียวถ้าต้นทุนส่วนประกอบรถยนต์ถูกเราก็เป็นศูนย์กลางการลงทุนได้เช่น สู้ สู้
รถค้ายญี่ปุ่นมันจะแขงขันกับจีนไม่ได้เพราะราคานี้แหละ ถ้าขายคันล่ะ2ล้านคนมีเงินก็ต้องชื้อรถยุโรปดีกว่าคนจนก็ชื้อรถจีนจับต้องได้
เรียนภาษาไทยใหม่นะจ๊ะ
จะเอาอะไรไปสู้เขามีผู้นำแบบนี้รู้แกวหมดแล้ว ผู้ไม่ยอมเล่นตามเกมส์แต่จะลักเอาเทคโนโลยี่เขา
ถ้าตั้งเป้าเป็นประเทศพัฒนาแล้ว ยังจะรอต่างชาติมาลงทุนอีกเหรอ เรามีอุตสาหกรรมชิ้นส่วนที่แข็งแกร่งกว่าใครในภูมิภาคอยู่แล้ว ถ้าจะทำรถไฟฟ้าก็แค่ใส่แบตกับมอเตอร์ เวียดนามเค้ายังกล้าไปเลย
ระยะยาวอินโดแซงเราแน่เราต้องปรับระบบการตลาดใหม่ เน้นไฟฟ้า อะไหล่ คุณภาพบุคลากรทั่เหนือกว่า
ถ้า 1.3 ล้าน มีว้าววว พี่จีนสั่นแน่ แต่ก็นั้นแหละ ฝันไว้ก่อน 555+
เราเป็นเซ็นเตอร์ในทุกๆเรื่องในภูมิภาคนี้..และในอุตสาหกรรมรถเราก็เป็นมานานแล้ว..ควรให้ความสำคัญเร่งส่งเสริมเสนอเงื่อนไขดีๆให้เหมาะสมกับทุกๆบริษัทที่มีอยู่กับเราโดยไม่น้อยกว่าเพื่อนบ้านที่เสนอมาเพื่อเป็นสินค้าเชิดหน้าและสร้างการจ้างงานอย่างมากให้กับคนไทยต่อไปด้วย..
หักส่วนลดแล้วเหลือ 1.7ล้าน ก็แพงอยู่ดี แพงเกินไปด้วยซ้ำ
เราเหนือกว่าเค้าทุกอย่าง ถ้าสู้กันจริงๆ มันสู้ได้ แค่อย่าประมาทเค้า บริหารประเทศแบบฉลาดๆก็จะดีมากๆ 👍👍👍
แต่ "ลุง" ประกาศ ขอสู้ต่ออีก 5 ปี
ก็ต้องยอมให้ อินโดนีเซีย จัดการไปจะดีกว่า
เพราะ ต้อง รู้เรา รู้เขา ครับ.
สู้ยากครับ เขามีแร่วัตถุดิบด้วย ประเทศก็ใหญ่กว่าเรา ผู้นำก็ฉลาดกว่าของเรามาก แถมทั้งที่1กับที่2เรื่องแบตเตอรี่อย่าง CATL และ LG ก็ไปตั้งโรงงานแล้ว ของเราน่าจะล่วงหล่นไปพร้อมกับค่ายรถยุ่นในประเทศนี่แหละ🥲
เราเหนือกว่าทุกอย่างยกเว้นนายก
นายกทุกสมัย เขาก็มีกลุ่มทุนคอยป้อนข้อมูลอยู่ค่ะ แต่ถ้านายกมีธุรกิจเป็นของตัวเอง สมมุติเป็นเจ้าของธุรกิจเกี่ยวกับรถยนต์ อาจจะทำให้ราคาอะไรบางอย่างแพงกว่าปกติก็ได้
อินโดนีเซียมาแรงมาก ยากมากที่ไทยจะรักษาฐานการผลิตไว้ได้
จริงดิครับ แล้ว อินโดนีเซียยอดจองรถไฟฟ้าเท่าไรเหรอบอกหน่อยสิ
KKPที่ออกรายงานมารู้หรือเปล่าว่าอินโดนีเซียมียอดขายรถไฟฟ้าเดือนละไม่กี่สิบคัน อนาคตโครงสร้างพื้นฐานด้านยานยนต์ไฟฟ้ายังต้องพัฒนาอีกมหาศาล
และที่ในรายงานบอกว่า จีนนำเข้ามาดีกว่าผลิตในไทย
ไอ้คนวิจัยไปอยู่ขั้วโลกไหนมา
เพราะจีนใช้ไทยเป็นฐานการผลิตขายในประเทศและส่งออกในภูมิภาคนี้รวมถึงกลุ่มพวงมาลัยขวาด้วย
แบรนด์จีนที่ประกาศทำตลาดในไทย4แบรนด์ณปัจจุบันนี้ ล้วนแล้วแต่วางแผนประกอบรถไฟฟ้าในบ้านเราทั้งนั้น
ได้แก่MG(SAIC)/GWM/BYD/Hozon(ใช้โรงงานของปตท.ที่ลงทุนร่วมกับFoxconn)
ถามจริงๆเหอะมันวิจัยอะไรวะ
@@naphatchoo8202 เรื่องวิจัยของ KKP ใช่ไหมครับ เห็นแต่เพจ brand inside เอามาลงว่าเป็นวิจัยของ kkp แล้วที่เหลือก็อ้างอิงจากเพจนี้ต่อๆกันมา แต่ตัวบทความจริงๆก็ไม่เห็น ผมเห็นบทความวิจัยที่ kkp ออกมาเกี่ยวกับอุตสาหกรรมรถไฟฟ้าของไทย เมื่อปี 64 เค้าก็ไม่ได้บอกว่าไทยตกขบวนอะไรนะ เลยงงๆว่า เค้าวิจัยรอบใหม่ออกมาแล้วหรือ
@@jirasbunnag7709 ในคลิปนั้นเขามี link ของ KKP (ธนาคารเกียรตินาคินภัทร) อยู่ ข่าวนั้นลงหลายสำนักด้วย และธนาคารกสิกรไทยก็เคยมีงานวิจัยว่า อินโดนีเซียจะมาแทนไทยเมื่อปีก่อนแล้วด้วย
@@SuperDiasuke ขอบคุณครับ เดี๋ยวต้องลองไปดูเพิ่มเติม ผมอ่านแต่ brand inside เค้าไม่ได้ลง link ต้นทางไว้
สู้ไม่ได้เรื่องค่าแรง ราคาต้นทุนไทยสูงกว่า
ทั้งโลกกำลังวิจัยแบตเตอรี่อยู่รวมทั้งไทย ใครทำแบตคุณภาพสูงต้นทุนต่ำและวัตถุดิบหาง่ายในประเทศจะร่ำรวยแน่นอน เชียร์นักวิจัยไทยสู้เต็มที่ครับและขอให้รัฐจัดงบส่งเสริมอย่างเต็มที่เช่นกัน ควรกำหนดให้รางวัลคณะผู้ทำวิจัยสำเร็จด้วยเพื่อเป็นกำลังใจทุ่มเท
เหมือนคนคุณปลื้มบอกนั้นแหละ
ทำไมคนไทยต้องซื้อรถไฟฟ้า ได้แค่บางยี่ห้อได้เท่านั้น
ทำไมคนไทยซื้อยี่ห้อที่ดีที่สุดในโลกไม่ได้
ก็เหมือนปัจจุบันนั้นแหละ
คนไทยซื้อได้แค่รถญี่ปุ่น
ทั้งๆที่คนไทยมีปัญญาซื้อรถยุโรป
นี้พูดในภาพรวม ใช้ภาษาในภาพรวมนั้น
ไม่ต้องมาบอกว่า คนไทยก็ซื้อรถยุโรปนะ
ไม่อยากจะอวยประเทศตัวเองว่าไหว ถ้ารัฐบาลยังเป็นชุดนี้อยู่ ต้องยอมรับความจริง
แต่อยู่มานานไม่เคยเห็นใครงัดข้อกับโตโยต้าได้เท่ารัฐบาลนี้เลยนะ ถ้ารบ.อื่นเก่งจริงทำไมไม่ทำก่อนปีห้าสี่ล่ะ จีนเริ่มราวๆนั้นเหมือนกัน
@@LuckyAnime001 ตลก ตรงกันข้ามเลย รัฐบาลนี่นี้แหละที่ช่วยโตโยต้าไม่ให้โดนเรื่องเลี่ยงภาษีพรีอุสหมื่นล้าน ดองเรื่องไว้ เพราะคนถือหุ้นในโตโยต้า ประเทศไทย มี SCG ด้วย ส่วนใครถือหุ้น SCG บ้าง ไปลองสืบต่อเอง
ถ้าจะลากไปขนาดนั้นก็กลับไปเล่นที่บ้านเถอะครับ เอาตรงๆนะ รถไฟห้ามีมาสิบกว่าปี ส่วนเราง้อโตโยต้ามาห้าปีแล้ว แต่มันมามั้ย พอจีนรุกมากไปถึงมา แล้วแปลว่าอะไร แปลว่าที่ผ่านมามันแต่กลัวมันหนีเลยรอจนล้าหลังชาวบ้านแบบนี้
ถ้ามัวงมโข่งรอเหี้ยโตป่านนี้ก็ไม่เกิด แม้จะยอมรับว่าจริงในบางส่วนที่พูดมา แต่รัฐบาลนี้ไม่ใช่รึที่ออกมาตรการ ด๔ความจริงด้วจ
@@SuperDiasuke ควรไปหาข้อมูลก่อนที่จะแสดงความเห็นแบบนี้ เพราะจริงๆ โตโยต้ามีข่าวติดสินบน ให้กับเจ้าหน้าที่รัฐบาลไทยระหว่างปี 2553-2555 เกี่ยวกับการจัดเก็บภาษีของรถยนต์พรีอุส ซึ่งโดน ตลก. (SEC) และกระทรวงยุติธรรมสหรัฐ (DOJ) ตรวจสอบและชี้ว่ามี่การติดสินบนจริง ลองไปหาข้อมูลดูนะครับว่าเป็นรัฐบาลชุดใคร จะได้ไม่เข้าใจคลาดเคลื่อนว่ามีรัฐบาลนี้ที่เอื้อให้กับโตโยตาอย่างที่คุณเข้าใจ
น่าจะสู้ยากครับ ถ้า ร.บ.ส.ต ชุดนี้ยังอยู่ ภาษีทุกอย่างก็ขึ้น
ยิ่งภาษีนำเข้าไม่ว่าจะวัตถุดิบ หรือของอื่นๆ แพงชิห๋าย ขนาดโรงงานอุตสาหกรรมแบรนด์ชั้นนำของโลกที่อยู่ใยประเทศเรา ยังอยู่ไม่ได้ ยังต้องปิดตัวเลย
จะเอาอะไรมาพัฒนาให้เรากลับไปเป็น ดีทรอยต์เอเชีย ได้อีกล่ะครับ
ขึ้นแม่มทุกอย่างยกเว้นค่าแรง
ไม่รู้มันเอาเงินไปให้ใครกันเนอะ🤔
อีกไม่นานอินโดนิเซียจะแซงหน้าไทยเหตุผลหลักคือมาตราการด้านภาษีของไทยที่สูงเกินไปต่อไปค่ายรถยนต์ต่างๆจะย้ายหนีไปยังอินโดนิเซียและเวียดนามที่มีค่าแรงงานที่ถูกกว่าเพื่อเป็นการรดต้นทุนการผลิต
เรื่องค่าแรงไม่เกี่ยวครับ แรงงานในวงการรถยนต์ค่าแรงสูงอยู่แล้ว เพราะต้องใช้ฝืมือในการประกอบ
ไม่งั้นไม่มีข่าวโตโยต้าจะย้ายออกจากเวียดนามหรอกถ้าค่าแรงมีส่วนจริง
อินโดฯจะแซงเวียดนามแน่นอน เนื่องจากการเมืองStableกว่ากันเยอะ เวียดนามยังเป็นคอมมิวนิสต์อยู่ ผิดพลาดอะไรขึ้นมารัฐบาลยึดอย่างเดียว.
ถ้ายังเห็นประโยชน์ตัวเองและพวกพ้องน้องเพื่อนในการทำธุรกิจในประเทศไทยต่อไปคงต้องนำเข้าทุกอย่างแม้แต่ข้าวสารอาหารแห้ง