EP.1/3 พาลูกเที่ยว | ล่องเรือสำราญ Spectrum Of The Seas (Royal Caribbean) สิงคโปร์ | นานะไดอารี่

แชร์
ฝัง
  • เผยแพร่เมื่อ 4 ก.พ. 2025
  • Day 1 SPECTRUM OF THE SEAS by Royal Caribbean
    Route 5 Days 4 Nights
    Day1 Singapore
    Day2 Malaysia (Penang)
    Day3Phuket
    Day4 Sailing
    Day5 Singapore
    ทริปล่องเรือสำราญแรกในชีวิตของพวกเรา หลังจากที่เห็นหลายรีวิวใน Tiktok จนทำให้อยากไปเอง จองตั๋วตั้งแต่ปีที่แล้ว หาข้อมูล หารายละเอียดทุกอย่างเพื่อความคุ้มค่าที่สุดของทริป 🤣
    ✈️
    เราเลือกบินสายการบินไทยไลอ้อน
    เลือกบินเช้าวันที่ 27 เลย เพื่อที่จะขึ้นเรือให้ทันช่วงบ่าย
    สายการบินไฟลท์งงๆ สายการบินงงๆ คนในเครื่องก็งงๆ เดินไปเดินมา สลับที่นั่งเหมือนนั่งสองแถวอยู่
    พวกเรามาถึงที่สนามบินเวลา 11:10 น. ลงจากเครื่องบินถึงต.ม. เวลา 11:20 น.
    ความดราม่านั้นเริ่มต้นที่สนามบิน ที่เล่าไปในโพสต์ที่แล้วว่าติดตม. เพราะว่านามสกุลไปเหมือนเดิม และไม่ได้พกเอกสารมา มีแต่เป็น e-file สุดท้ายก็ผ่านจนได้
    🚕
    ขึ้น Grab จากสนามบินไปท่าเรือ Marine Bay Centre
    • ถึงท่าเรือ Marine Bay Centre 🛳️
    มาถึงก็เอากระเป๋าเดินทางใหญ่ที่จะให้ทางเรือขนขึ้นมา ฝากเขาได้เลย (ถ้าปริ้นแท็กมาเองก็จะดี
    เดินเข้ามาใน Center คนเยอะมากกก แถวอะไรเยอะแยะไปหมด แต่ไม่ต้องกังวล! ให้หาป้ายคำว่า Arrival Window แล้วตามด้วยเวลาของเรา เขาจะให้เราเข้าไปตรวจสัมภาระสิ่งของ
    จากนั้นขึ้นมาชั้น 2 พวกรอเข้า Check in ของเรือ ซึ่งเขาจัดแถวตาม Visa ของแต่ละประเทศ ซึ่งอันนี้ เขาให้นั่งรอก่อน จากนั้นค่อยๆปล่อยให้เข้าแถวของแต่ละประเทศ ขั้นตอนนี้รอนานหน่อย รวมๆ ใช้เวลา 30-40 นาที แต่ตอนเช็คอินไม่นานนะ เจ้าหน้าที่น่ารัก
    หลังจากเช็คอิน ก็เดินไปตามทางที่เขาให้ขึ้นเรือ เราจะไปเจอ Immigration
    ก่อนจะขึ้นเรือ ทางเจ้าหน้าที่เรือจะขอเก็บ Passport เรา แล้วจะคืนให้หลังจากที่ลงจากเรือ
    ขึ้นเรือแล้วจ้าาาาา SPECTRUM OF THE SEA
    เราจะได้เอกสารมาตอนเช็คอิน เป็นกระดาษใบนึง ที่มีรายละเอียด ชื่อ ชั้น ห้อง แล้ว Muster ซึ่งก็คือจุดรวมพล เวลามีเหตุการณ์ฉุกเฉินใดๆ ซึ่งใครจะได้โซนไหน ขึ้นอยู่กับโซนห้องพักของตัวเอง โดยที่ทุกคน จำเป็นต้องเข้าไปฟัง Safety Briefing จำเป็นมากๆ แต่ใช้เวลาไม่นาน ประมาณ 2-3 นาทีก็เสร็จแล้ว
    เราเลือกที่จะไปห้องพักเพื่อเอาคีย์การ์ดก่อน
    ** คีย์การ์ดบนเรือจะเรียก Sea Pass ซึ่งใบนี้สำคัญมาก เป็นตัวอย่างทั้งผ่านเข้าห้อง ยืนยันตัวตน แสดงในห้องอาหาร เช่าของต่างๆ และเป็นการ์ดที่ใช้จ่ายได้ด้วย (วันสุดท้าย เคลียร์ทีเดียว) ฯลฯ **
    ซึ่ง Sea Pass เขาจะใส่ในซองจดหมาย เสียบไว้หน้าห้อง คือเราต้องจำเลขห้องของตัวเองให้ดี
    จากนั้นก็ไปกินข้าวที่ Windjammer Marketplace เป็นบุฟเฟต์อาหารนานาชาติ
    เข้าห้องพักมาอีกรอบเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าให้นานะเตรียมไปเล่นน้ำ
    เล่นน้ำที่สระเด็กตรง Pool Deck วันแรกที่มาถึงฟ้าครึ้ม เหมือนฝนจะตลอดเวลา ข้างบนมีสระว่ายน้ำเยอะมาก ทั้ง Indoor / Outdoor แล้วโซนเฉพาะผู้ใหญ่
    ด้านนอกมี 4 สระ (สระใหญ่, สวนน้ำเด็ก, จากุซซี่2)
    ด้านใน 3 สระ (สระใหญ่ สระจากุซซี่ 2)
    โซนผู้ใหญ่ (Solarium) โซนนี้ให้เฉพาะผู้ใหญ่ หรือวัยรุ่ยอายุมากกว่า 16 ปีขึ้นไป มีสระว่ายน้ำ + จากุซซี่ มี Drink Bar บริการทุกโซน
    สามารถขอผ้าเช็ดตัวได้เท่าไรก็ได้ แต่อย่าลืมคืน ไม่งั้นโดนชาร์จ $25 วันที่ลงจากเรือ (อย่าลืมพก Sea Pass มาขอผ้าเช็ดตัวล่ะ)
    ลงไปกิน Dinner เราเลือกกินที่ Main Dining Hall ซึ่งเป็นร้านอาหารที่เสิร์ฟเป็นคอร์ส แต่สามารถสั่งเพิ่มกี่อย่าง กี่จานก็ได้ เมนูอาหารเย็นจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ตามตีมของแต่ละวัน อย่างวันแรกเป็น Original เน้นอาหารอเมริกา พวกสเต็กเป็นหลัก
    แนะนำว่า "ต้องจอง" My Time Dinging จองเวลาดินเนอร์ไว้ทุกคืน ถ้าจะกินอาหารที่ Main Dining เพราะไม่งั้นจะรอคิวนานมากกกก
    อาหารอร่อยมากกก Main Course มา Portion ใหญ่มาก กินไม่หมด ใหญ่แบบกิน 2 คนอ่ะ
    เดินเล่นรอบๆดาดฟ้า แวะไปดูบริเวณด้านหลังเรือชั้น 15 ที่เป็นโซน Sport Deck (Sea Plex)
    กลับมาที่ห้อง ป่าปี้เข้านอนพร้อมนานะ หม่ามี้แวบไปดูโชว์ที่ Royal Theatre เป็นโชว์เปลี่ยนหน้าเร็วๆของจีน กับ โชว์มายากล เพลินๆ แต่ไม่ได้ว้าวขนาดนั้น
    เข้านอน
    เตียงนุ่มสบาย แอร์เย็น ห้องเก็บเสียงจากด้านนอกดีมาก แต่ไม่เก็บเสียงเด็กวิ่งตึงตังข้างห้อง แง อยากฟาด 5555
    💙สิ่งที่ควรรู้ในวันแรก 💙
    ตารางทุกอย่าง ดูผ่าน App เท่านั้น
    ศึกษาแต่ละ Deck ที่นี่ไม่กว้าง แต่ยาวว
    จองร้านอาหาร Main Dining ตั้งแต่วันแรกที่มาถึง (หรือจองก่อนขึ้นเรือได้ที่เว็บไซต์ ทันทีที่เขาเปิดให้จอง) เพราะไม่งั้นตอนเย็นจะรอเข้าแถวนานมากกกกก (ต่อให้ลืมจอง ก็ควรคู่ต่อการรอคิวค่า)
    อย่าลืมเอาขวดน้ำมาด้วย เพราะที่นี่มีขวดน้ำให้แค่ 1 ขวด/ 1 คนสำหรับทั้งทริป แต่เครื่องดื่มมีบริการทุกห้องอาหาร / ทุกคาเฟ่ จะใช้ขวดพลาสติกที่ให้มาเติม หรือนำขวดมาเองก็ได้ บ้านเราเอามา 5-6 ขวด เพราะกินน้ำเยอะ เอาน้ำมาตุนกินระหว่างอยู่ในห้องด้วย
    อาหารตามห้องอาหารต่างๆ สามารถนำออกไปกินข้างนอกได้
    วันแรกเขาจะขายโปรฯลดราคาห้องอาหารเยอะ แต่ส่วนตัวเราคิดว่า กินที่ Main Dining ก็ดีมากแล้ว
    ห้องอาหาร Main Dining Room มีบริการอาหารเช้า กลางวัน และเย็น เป็น Complimentary รวมอยู่ในค่าเดินทางที่เราจ่ายไปแล้ว (มีแค่มื้อเย็นเท่านั้นที่เราต้องจอง)
    Two70 มีบริการอาหารเช้า & อาหารกลางวัน
    ร้านอาหารที่ฟรี มีตามนี้ Main Dining / Cafe Two27 / Windjammer / Le Patissari ร้านอื่นเสียเงินค่า
    ถ้าคุณเป็นลูกค้าสวีท จะได้กินอาหารในห้องอาหารอื่น (Silver Dining & Gold Dining) คนน้อยกว่า อาหารหรูหรากว่า วิวอลังการ ไม่เบียดเสียด คนน้อย ห้องอยู่ในโซนไพรเวทคนจากชั้นอื่น เดินเข้าไปไม่ได้
    ** บนเรือไม่มี Free Wifi นะคะ ต้องซื้อเพิ่ม เริ่มต้นที่วันละ $25.99 ถ้าซื้อหลายวัน จะถูกลง สรุปเหลือประมาณ $7x
    เราไม่ได้ซื้อ แต่เปิดใช้แพ็คเกจ 399 ของ AIS (Asia & Australia) รอลุ้นตอนที่เรือใกล้ๆเกาะ จะพอมีสัญญาณค่า เซฟตังไปได้อีกประมาณ 25xx บาท

ความคิดเห็น • 18