ขนาดวิดีโอ: 1280 X 720853 X 480640 X 360
แสดงแผงควบคุมโปรแกรมเล่น
เล่นอัตโนมัติ
เล่นใหม่
ถ้าคนที่ศึกษาธรรมมาบ้างแล้ว จะเข้าใจคำสอนของพระอาจารย์ แต่ถ้าคนที่ไม่เคยศึกษาพระธรรมอาจหลงไปตามคำบอกเล่าของพวกมิจฉา ถ้าติดตามพระอาจารย์จะรู้ว่าท่านไม่เคยพูดว่าท่านสำเร็จระดับใหน ท่านเพียงแต่ใช้ความรู้ในหลักธรรมมาเทศนาให้เราๆท่านๆเข้าใจธรรมมะโดยง่าย กราบสาธุค่ะ
คำสอน ของอาจารย์ ไม่มี นะครับ มีแต่ของพระพุทธเจ้า สาวก มีคำสอนได้งัย แต่ถ้า พูดตามพระพุทธเจ้า ได้
ใช่ครับ..
พระยังเป็นไม่ได้ จะสอนคนได้อย่างไร?
สาธุครับพระอาจารย์ท่านตอบได้ดีมากครับ ยึดหลักคำสอนพุทธวจนได้ดีมากๆเลยครับ สาธุๆๆ
ไม่ต้องตรวจสอบให้เสียเวลา คนบรรลุจริงเค้าไม่อวดอ้าง ตรงกันข้าม กลับกลัวคนจะรู้ซะอีก เพราะเค้าต้องการความสงบ
ใช่คะ ท่านที่ปฎิบิตบรรลุแล้วไม่อวดอ้าง ไม่เหมือนในโชเชียนทุกวันนี้ คนรู้มีเยอะ
ขออนุญาตแชร์เพื่อเผยแผ่ให้สังคมได้รับรู้ความเป็นจริงอันเป็นสัจธรรม ไม่เพีกเฉยละเลยเมีนเฉยแบบโง่ๆ เพื่อพระธรรมวินัยของพระศาสดาให้สว่างรุ่งเรืองสืบไป พุทธบริษัทต้องเข้มแข็ง ขอน้อมกราบนมัสการพระอาจารย์ค่ะ
นี่ละท่านเหมาะที่จะเป็นหนึ่งในเจ้าหน้าที่ที่ตรวจสอบผู้มาขอตั้งสำนักปฎิบัติธรรมถ้าไม่มีใบอนุญาติเปิดไม่ได้
อย่ามัวมองจับผิดคนอื่น ธรรมะทั้งหลายอยู่ในตัวเรา
หลวงพ่อ สุดยอด แสดงว่ารู้จริง ปฏิบัติจริง สงสัยศึกษาพระไตรปิฎกมาเยอะ ปฏิบัติมาเยอะ สาธุเด้อครับ
ขออนุโมทนาบุญกุสลอันยิ่งใหญ่กับพระอาจารย์ด้วยนะครับที่ได้น้อมนำเอาคำสอนที่ถูกต้องมาเปิดเผยให้ผู้มืดบอดได้สดับ สาธุๆๆๆครับผม
คน(จิต)ที่เห็นธรรมะแล้ว ย่อมรู้จักธรรมะได้ เข้าใจภาษาธรรมได้ดี ปุถุชนไม่อาจเข้าใจได้
พระอาจารย์เหตุผลท่านดีมากๆ เลยครับ
หลวงพ่ออธิบายธรรมถูกต้องแล้วครับ เข้าใจง่าย..กราบสาธุครับ
ขอกราบนมัสการพระอาจารย์ค่ะ ท่านพูดได้ถูกกาลในสถานการณ์ปัจจุบันจริงๆค่ะ
พระอริยะที่บรรลุธรรมและได้พบพระธรรมอันสูงส่งจะมีพรหมวิหารสี่เต็มๆแล้วจะไม่มีเลือกญาติโยมเด็ดขาดมีเมตตาเป็นธรรมล้วนๆคือหมดสิ้นการกระทำใดๆที่ผู้ฟังผู้เห็นผู้อยู่ใกล้ชิดจะมีแต่ปลื้มปิติทุกชีวิตคือท่านไม่เลือกจนหรือรวยพระพุทธเจ้าคือลูกกษัตริย์ไม่กล่าวคำผุสวาสครับพระพรหมยาณเถระ วัดพระพุทธบาทตากผ้าเป็นต้นครับอนุโมทนาครับ
พระโสดาบันมั่นคงในสัมมาฐิตลอดไป
พระอาจารย์ อธิบายดีมากครับ สาธุๆๆๆ ชาตินี้ที่สุดของ😊😊😊ท่านเเล้ว ❤❤❤❤
พระพุทธเจ้าสอนให้ดูตัวเอง อย่ามัวเสียเวลาไปดูคนอื่นเลยโดยถูกต้องแล้วดูตัวเองเถอะเจ้าค่ะ สาธุเจ้าค่ะ
พระพุทธเจ้าท่านเห็นภิกษุทำผิดท่านจะตำหนิทันที
ผู้บรรลุธรรมได้ ผู้นั้น จะไม่มีความโลภ ความโกรธ ความหลง......และจิตต้องเต็มเปี่ยมพร้อมที่จะให้ อภัย และ ทาน. ได้อย่างสิ้นเชิง
น้อมกราบสาธุการในพระธรรมคำสอน น้อมกราบอนุโมทนาบุญในกุศลจิตที่เมตตาคะ
ท่านตอบได้ชัดเจนและเข้าใจง่าย สาธุ
น้อมกราบสาธุในธรรมของพระอาจารย์สมทบ ปรักโม ด้วยนะเจ้าคะ และขออนุโมทนาสาธุธรรมในธรรมคำสอนของพระอาจารย์สมทบและผู้มีส่วนเผยแพร่ธรรมด้วยค่ะสาธุสาสาธุ🙏🙏🙏
ฆราวาสบางกลุ่มชอบไปแต่งตั้งครูบาอาจารย์ของตนว่า เป็นพระอริยะบ้าง เป็นพระอรหันต์ความจริงแล้วเป็นเรื่องยากมากที่จะตัดสินแต่ถ้าพระอาจารย์รูปนั้น ชอบคุยโวโอ้อวดว่า ตนเองบรรลุขั้นนั้น ขั้นนี้ย่อมจะมีความเสี่ยงที่จะต้องอาบัติปาราชิกข้อที่ 4 นะครับเดี๋ยวนี้พระอริยะแต่งตั้งกัน มีเยอะแยะใน facebook ใน TH-camประเทศไทยหนอ
สาธุ หลวงพ่อพูดถูกต้องครับ ผมก็สายปฏิบัติ ผมเชื่อแบบหลวงพ่อพูด พระอรหันต์ที่ดับขันธ์แล้ว ดับสนิทจะไม่สื่อถึงได้ ใครที่ว่าพระพุทธเจ้ามาแสดงความยินดีกับตัวเองว่าสำเร็จเป็นพระอรหันต์แล้ว แบบนั้นผิดแน่นอน เพราะการที่พระพุทธเจ้ามาแสดงความดีใจนั้น มันคืออาการของเวทนา หนึ่งวงในขันธ์ห้า ซึ่งพระพุทธเจ้าเหล่าพระอรหันต์ท่านดับหมดแล้วตั้งแต่ยังไม่ดับขันธ์หรือเมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่ และพระพุทธเจ้าเคยตรัสไว้ว่าเมื่อพระพุทธเจ้าดับขันธปรินิพพานแล้วมนุษย์เทวดาหรือพรหมจะไม่เห็นท่านอีก ซึ่งสายพระป่าคงไม่รู้ แต่ถ้าเขาอ้าวว่าเขาเห็นพระพุทธเจ้ามาแสดงการยินดีนี้ ผมว่านั่นคือพรหมมารที่เขาเข้ามาหลอกให้หลงทาง สาเหตุเพราะสายพระป่าไม่ได้อ่านหรือไม่ได้เรียนในคำสอนของพระพุทธเจ้าที่พระพุทธเจ้าเคยสอนไว้ สมัยที่ผมเคยบวชเณรผมปฏิบัติจนเห็นความไม่มีตัวตน ความสงสัยในขันธ์ห้าไม่มี แต่ก็ยังสงสัยว่าแล้วนิพพานอยู่ที่ไหน จนผมมาพบพุทธวจน ผมจึงเข้าใจเรื่องนิพพานตอนนี้หาสงสัยแล้ว
สาธุครับ
มีอีกหลายอย่างที่พระไตรฯไม่ได้ระบุไว้ ไม่เขียนไม่ใช่ไม่มีไม่อย่างนั้นพระสุปฏิปัณโณหลายท่านที่ได้เล่าถึงการพบพระพุทธเจ้าก็ต้องผิดศีล ดังนั้นพุทธวิสัยที่พระองค์ท่านจะกำหนดให้ผู้บรรลุธรรมที่เหมาะสมหรือบุคคลใดได้พบได้เห็นจึงเป็นเรื่องที่ไม่ควรนำมาวิพากษ์วิจารณ์เพราะเป็นอจิณไตย
ผู้ที่จะบอกได้ถูกต้องว่าใครบรรลุธรรม ก็คือผู้ที่ผ่านสภาวะนั้นแล้วและเพิกอวิชชาออกหมดแล้วเท่านั้น ตามที่กล่าวไว้ในคิริมานนทสูตร
กราบสาธุเจ้าค่ะ เห็นด้วยกับพระอาจารย์ทีสุด ชาวพุทธควรปกป้องพระพุทธศาสนา การวางอุเบกขาไม่ใช่การเพิกเฉย ปล่อยให้มีการบิดเบือนคำสอนจะเป็นเหตุให้คำสอนที่ถูกต้องหายไป
น้อมกราบพระคุณเจ้า เจ้าคะ พระปฏิบัติตามธรรมวินัยมีอยู่ เหลือเพียงแต่เราฆราวาสต้องเข้าไปศึกษา ปฏิบัติ และทำนุบำรุง พระสงฆ์ที่ปฏิบัติดีต่อไป
ทั้งตัวท่าน และคำสอน นี่คือพระแท้ที่น่านับถือครับ ร่างกายของท่าน บ่งบอก ไม่ใช่อยู่ดีกินดี ( ไม่อ้วน จนดูรู้ว่าฉันอาหารเกินความจำเป็น เหมือนพระหลายรูปที่บอกว่าเป็นวัดสายป่า แต่ร่างกายอ้วนท้วน ) คำสอนของท่านตรงประเด็นครับ ของจริงไม่โอ้อวด หรือนินทาพระรูปอื่น ยกตนว่าทำดีกว่าคนอื่น ออกมาทำยูทูปฯทุกวัน จนลืมตัวเองไปแล้วว่าตัวเองอยู่ในสถานะอะไร ท่านพูดได้ตรงประเด็นครับ พระอย่างท่าน หาได้ยากครับในปัจจุบัน
กราบนมัสการท่านพระอาจารย์ครับ
ตรวจ กับหลักธรรม หลักวินัย ของพระพุทธเจ้า อย่างเดียว ครับ อย่าใช้ความคิดตัวเอง ครับ พระพุทธเจ้า ท่านตรัสไว้
เพราะมีการเรียนการสอนพระไตรปิฎกศาสนาจึงดำรงอยู่ได้มาบัดนี้
ด้วยความเคารพครับ..การบรรลุธรรมขั้นใดนั้น..เป็นปัจจัตตัง..อันนี้ไม่ใช่ประเด็นที่เกิดในขณะนี้ครับ
พุทธวจน ตถาคตภาษิตสุคะตะวินะโย ระเบียบถ้อยคําพร้อมทั้งอรรถ พยัญชนะบริสุทธิ์ บริบรูณ์ สิ้นเชิง เพื่อความสุขของโลก กราบสาธุสาธุสาธุ
โลกใบนี้คือโลกมนุษย์เป็นโลกแห่งมิติที่3 คือโลกของปุถุชนคนธรรมดาที่มีกิเลสแบบพวกเรานี่แหละ แต่ถ้าไครจะไปต่อในมิติที่5 หรือมิติอื่นๆที่นอกเหนือจากโลกที่เราเป็นอยู่ก็ต้องไปเป็นนักบวชหรือผู้ถือศีล ศีล นี่แหละ คือตัวปิดกั้นนักบวชออกจากโลกของปุถุชน แต่ข้อปฎิบัตินี่ก็โหดสุดหินเหมือนกันนะ ก็เลยมีการปลงอาบัติ แต่อาบัติบางข้อก็ทำให้หลุดพ้นจากสภาวะของนักบวชไปเลย และศีลนี่แหละจะเป็นตัวชี้วัดในการปฎิบัติธรรมหรือฝึกตัวขั้นสูงของนักบวช ศีลมีข้อพิเศษอย่างหนึ่งคือ อยู่เหนือกาลเวลา จะปฎิเสธหรือมีข้อโต้โต้แย้งเลี่ยงบาลีไม่ได้โดยเด็ดขาด และไม่มีการกล่าวอ้างถึงไคร ต้องรักษาปฎิบัติโดยไม่มีข้อสงสัย นอกจากโลกนี้จะไม่มีต้นไม้ ไม่มีแผ่นดิน ไม่มีอากาศหรืออาการไม่ครบ32จะไม่มีข้อยกเว้นเด็ดขาด ถึงจะอยู่ในมิติของตัวเองที่มีศีลกั้นไว้ แต่ก็ขาดการพึ่งพาอาศัยกันระหว่างกับโลกภายนอกไม่ได้ นั่นคือโลกของกิเลส เพราะมิตินี้เป็นของมนุษย์โดยตรง และยังต้องพึ่งพาอาศัยร่างกายของมนุษย์อยู่ เป็นระบบห่วงโซที่ผู้สร้างวางเอาไว้ ถ้าไครปฎิบัติไม่ได้หรือไม่เคร่งครัด ก็โดนกิเลสจากภายนอกนี่แหละโจมตี แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นคนไม่ดี แค่การบรรลุมรรคผลก็น้อยลงไปตามการอาบัติของตัวเอง ก้อนหินก็มีค่า ก้อนดินก็มีความหมาย เป็นระบบเอื้อเฟื้อต่อกัน ทุกคนจึงมีความสำคัญพอๆกัน แล้วแต่ทางเลือกของตัวเอง แต่ก็ยังหนีไม่พ้นการเอื้อเฟื้อต่อกัน ไม่มีไครแหกหักกฎของสัจธรรม ห้วงเวลาและกาลอวกาศได้ กราบอนุโมธนาสาธุหลวงตา
สัพเพสังขาราอนิจจา สัพเพธรรมาอนัตตา ธรรมทั้งหลายล้วนไม่มีตัวตน ไม่ควรไปยึดมั่นถือมั่น เมื่อศึกษาแผนที่ดี แล้วควรอย่างยิ่งที่จะออกเดิน เมื่อออกเดินแล้วเส้นทาง ภูมิประเทศ บรรยากาศระหว่างทาง นั่นแหละของจริง อย่าลืมว่าสิ่งที่ท่านทั้งหลายเฝ้าแทะเล็มอยู่นั้นมันคือแผนที่ น่าอนาถที่จะต้องสิ้นภพสิ้นชาติไปเปล่า เมือนคนโง่ที่กินข้าวผ่านตำราทำอาหารฉันใดก็ฉันนั้นแล้วหลงทึกทักว่าตนเองอิ่ม เฮ้อ!
ใช่ครับ...
ตถาคตภาษิต คือ คำสอนของพระพุทธเจ้า ตถาคตภาษิต จะมีกฏอิทัปปัจจยตา มีปฏิจจสมุปบาท มีสังขตธรรม จึงเป็น สัมมาทิฏฐิ ยกตัวอย่าง อินทรีย์5 พละ5 ศรัทธา วิริยะ สติ สมาธิ ปัญญา(ศรัทธา>วิริยะ)>(วิริยะ>สติ)>(สติ>สมาธิ)>(สมาธิ>ปัญญา) ตถาคตภาษิต จะเป็นแบบนี้เหมือนกันทั้งหมดเลยนั่นเองคะ คือ มีกฏอิทัปปัจจยตา มีปฏิจจสมุปบาท มีสังขตธรรม จึงเป็น สัมมาทิฏฐิ ทำให้ ตถาคตภาษิต เข้ากันได้รวมกันได้ไม่มีขัดแย้งกันนั่นเองคะ มีเพียงพระพุทธเจ้าเท่านั้นคะที่ทำคำพูดออกมาได้เหมือนกัน เพราะเหตุนี้ พระพุทธเจ้าท่านจึงถูกขนานนามว่า ตถาคต นั่นเองคะ
การนำ ตถาคตภาษิต มาบอกต่อ จึงเป็น ความคิดเห็น ที่เป็น สัมมาทิฏฐิ นั่นเองคะ คำสอน การเขียน การพูดออกมา และ ความคิดเห็น ที่ไม่มี กฏอิทัปปัจจยตา ไม่มี ปฏิจจสมุปบาท ไม่มี สังขตธรรม จึงไม่เป็น สัมมาทิฏฐิ เป็น มิจฉาทิฏฐิ คือ สาวกภาษิต นั่นเองคะ สาวกภาษิต จะมีความขัดแย้งกับ ตถาคตภาษิต นั่นเองคะ
ต้องเข้าตรวจสอบเด็ก8ขวบแล้วมั้งคะท่าน
ถ้าลงไปดูรายละเอียด ติดตามดูคำที่บอกสอน เขาให้พิจารณาจิตตนเองค่ะคำถามยังขาด แต่คำตอบพอจ.ก็มีส่วนรายละเอียดอยู่ สาระสำคัญน่าจะอยู่ที่อรรถะ เพราะครูบาอจ.เองก็ยังใช้คำที่ต่างๆกันไป แต่นำไปสู่เนื้อหาเดียวกันค่ะ
ธรรมเป็นอะไร คืออะไร ยังไม่รู้กันเลยแล้วจะมีคนไหนที่บรรลุธรรมเจ้าชายสืทธัตถะกว่าจะรู้จัก บรรลุธรรมหรือเขัาถึงธรรมแทบเอาชีวิตไม่รอด
มีกลุ่มเชื่อมจิตลวงโลกหลอกถามหลวงพ่อ แต่หลวงพ่อพูดตามคำสอนของพระพุทธเจ้าถูกต้อง กลุ่มลัทธิเชื่อมจิตออกอาการไม่พอใจ สาธุอีกครั้งครับหลวงพ่อ
ภิกษุทั้งหลาย! ลาที่เดินตามฝูงโคไปข้างหลัง ๆ แม้จะร้องอยู่ว่า “กู ก็เป็นโค, กู ก็เป็นโค” ดังนี้ก็ตามที, แต่สีของมันก็หาเป็นโคไปได้ไม่, เสียงของมันก็หาเป็นโคไปได้ไม่, เท้าของมันก็หาเป็นโคไปได้ไม่, มันก็ได้แต่เดินตามฝูงโคไปข้างหลัง ๆ ร้องเอาเองว่า “ กู ก็เป็นโค, กู ก็เป็นโค” ดังนี้ เท่านั้น. ข้อนี้ฉันใด ;ภิกษุทั้งหลาย! ภิกษุบางรูปในกรณีเช่นนี้ ก็ฉันนั้นเหมือนกัน ; คือแม้จะเดินตามหมู่ภิกษุไปข้างหลัง ๆ ร้องประกาศอยู่ว่า “ข้า ก็เป็นภิกษุ, ข้า ก็เป็นภิกษุ” ดังนี้ก็ตามที, แต่ความใคร่ในการประพฤติสีลสิกขาของเธอ ไม่เหมือนของภิกษุทั้งหลาย,ความใคร่ในการประพฤติจิตตสิกขาของเธอ ไม่เหมือนของภิกษุทั้งหลาย,ความใคร่ในการประพฤติปัญญาสิกขาของเธอ ไม่เหมือนของภิกษุทั้งหลาย,ภิกษุรูปนั้น ได้แต่เดินตามหมู่ภิกษุไปข้างหลัง ๆ ร้องประกาศเอาเองว่า “ข้า ก็เป็นภิกษุ, ข้า ก็เป็นภิกษุ” ดังนี้เท่านั้น.ภิกษุทั้งหลาย! เพราะฉะนั้น ในเรื่องนี้ พวกเธอทั้งหลายพึงสำเหนียกใจไว้ว่า“ความใคร่ในการประพฤติสีลสิกขาของเรา ต้องเข้มงวดเสมอ,ความใคร่ในการประพฤติจิตตสิกขาของเรา ต้องเข้มงวดเสมอ,ความใคร่ในการประพฤติปัญญาสิกขาของเรา ต้องเข้มงวดเสมอ”ดังนี้.ภิกษุทั้งหลาย! พวกเธอทั้งหลาย พึงสำเหนียกใจไว้อย่างนี้แล.ขุมทรัพย์จากพระโอษฐ์ หน้า ๑๒๕ - ๑๒๖(ภาษาไทย) ติก. อํ. ๒๐/๒๑๘/๕๒๒.
มีพระที่ถูกยกย่องว่าหลุดพ้นจากกิเลสสิ้นเชิง จะไม่กลับมาเกิดอีกแล้ว แต่เท่าที่ฟังแล้วแคลงใจสงสัยว่า พระที่เพียรบำเพ็ญลำบากเหนื่อยยากจนขนาดใด้หลุดพ้นแล้วแต่กลับมีอาการโกรธเมื่อลูกศิษย์ มาบอกท่านว่ามีคนตำหนิท่านท่านว่า ไอ้ปากขี้มาว่าเรา เรา....เหนื่อยยากช่วยเหลือ...ขนาดไหน และบางครั้งท่านออกปากเรียกอวัยวะเพศหญิงชายด้วยเสียงดังชัดเจน และะคำหยาบที่ฆาราวาสใช้กัน ฟังแล้วสดุดใจว่าอย่าว่าแต่พระที่หลุดพ้นเลย แม้พระบวชใหม่ก็ไม่น่าจะใช้คำพูดหยาบถ้าใครพูดว่าท่านพูดขนาดนี้ได้เหรอลูกศิษย์ท่านก็จะบอกว่า ท่านหลุดพ้นหมดแล้ว จะพูดยังไงก็ไม่ผิดอาบัติแล้วอย่างนี้ ถูกหรือผิดอย่างไรเจ้าคะ ท่านพระอาจารย์ กราบนมัสการด้วยความเคารพเลื่อมใสเจ้าค่ะ
คนที่เป็นอริยบุคคลแล้ว จะไม่กล่าววาจาชั่วร้ายออกมา ทั้งกายวาจาใจครับ
การปกป้องคำสอนของศาสนาพุทธเป็นหน้าที่ของชาวพุทธทุกคนมิใช่ภิกษุสงฆ์ฝ่ายเดี่ยวหากผิดคำสอนชาวพุทธอย่าเมินเชยอย่ากลัวบาปเหมือนคนเฒ่าคนแก่สั่งสอนเรามาแบบผิดๆ เราชาวพุทธกลับไปปกป้องบรรดานักบวชมากกว่าคำสอนเป็นการเห็นผิดมาตลอดจึงทำให้นักบวชเหล่านี้หลงตนเองว่าข้าฯคือศาสนาเสียเอง
อยากให้พระอาจารย์แนะนำวิธีวางจิตในการปกป้องศาสนาไม่ให้เป็นโทสะ
ศีล สมาธิ ปัญญา เราต้องทำเอาเอง ทั้งหมด ไม่มีใคร มาทำให้เราได้ พระพุทธเจ้า ก้อทำให้เรา ไม่ได้
ถูกต้องที่สุดครับ☺
เราตถาคตเป็นเพียงแต่ผู้บอกทำให้ใครหลุดพ้นไม่ได้
เมื่อท่านบอกแล้วความเพียรต้องทำเอาเองถูกไหมคับพวกที่ไม่ทำก็ไม่ได้พวกที่ทำก๋ได้ถูกไหมคับ
จงช่วยกันศึกษา,ปฏิบัติตามธรรม,ตามวินัย..ที่พระพุทธเจ้าท่านบัญญัติไว้เถิด..อย่าถกเถียงกันเลยครับ
น่าตรวจสอบพระในคลิบนี้ดู เอาไม่มากหรอก แค่โสดาบัน ดูแล้วจะได้หรือเปล่าก็ไม่รู้ ต้องพิสูจน์ น่าจะพิสูจน์ไม่ได้ก็ไล่สึกออกไป
ปฏิบัติตามคำสอน แห่งองค์พุทธะ ไม่บาป วิธีการเดินไปถึง มรรค แตกต่างกัน
ดูไปยาวๆจะมีมาเป็นระยะคนเป็นพระพระเป็นคนยุคนี่หนักมากจืรง
คนบรรลุธรรมเขาจะไม่พูดหรอกว่าเขาบรรลุธรรม_พระพูดก็อวดอุตริแล้ว_คนบรรลุธรรมไม่มีเขาไม่มีเราไม่มีตัวไม่มีตนแล้ว_ไม่มีสมมุติแล้ว☺☺☺
มันก็พูดยากนะพวกชอบอวดก็มีอย่ามหาบัวก็บอกว่าได้บรรลุที่วัดดอยหลวงพระสิ้นคิดก็บอกเหมือนกันบอกไม่คิดแล้วพระพยอมบอกแต่ว่าไปอยู่สวนโมกข์6ปีไม่ได้บอกว่าบรรลุอะไรบางคนก็บอกว่าได้บรรลุภาวะๆมันคืออะไรภาวะมันก็แปลว่ามีว่าเปนมีธรรมแล้วหรือไงหรือว่าบรรลุธรรมแล้วประมาณนี้หล่ะนะพระที่ผมกล่าวมาทั้งหมดนี้จะอวดก็ดีไม่อวดก็ดีถ้าเขาไม่บรรลุเขาจะเอาอะไรมาพูดแล้วดังได้ไงนี่แหละเปนปัณหาที่จะให้เราขบคิดอยู่นะ
@@user-qy1xd7cq9v พระธรรม พระธรรมวินัย เป็น สังขตธรรม เพราะ มีคุณสมบัติ เกิดปรากฏ เสื่อมปรากฏ เมื่อตั้งอยู่มีภาวะอย่างอื่นปรากฏ การเกิดปรากฏขึ้นของ อริยมรรคมีองค์แปด คือ การเกิดปรากฏขึ้นของ เส้นทางปัญญาวิมุตติ และ เส้นทางเจโตวิมุตติ ก็จะมี ธรรมที่เป็นเหตุ และ มีธรรมที่เกิดแต่เหตุ เรียงร้อยกันและกันในการเกิดปรากฏขึ้น ที่เรียกว่า ปฏิจจสมุปบาท นั่นเองค่ะ ซึ่งพระพุทธเจ้าท่านได้บอกสอนไว้ให้รู้ตามใน ตถาคตภาษิต นั่นเองค่ะ
ผู้ที่จะบอกได้ถูกต้องว่าใครบรรลุธรรม ก็คือผู้ที่ผ่านสภาวะนั้นแล้วและเพิกอวิชชาออกหมดแล้วเท่านั้น และพระอรหันต์ท่านก็ไม่พยากรณ์ใคร ฉะนั้นปุถุชนควรจะหยุดการวิพากษ์วิจารณ์
หลวงพ่อพูดตรงเป๊ะเลย แต่มันมีพวกเชื่อมจิตมาหลอกถาม สาธุครับหลวงพ่อ
สาธุๆๆๆครับ
ซูมเป็นสิ่งที่ไม่มีอยู่จริงมีแต่ความว่างเปล่า ( มิติ )
จะตรวจสอบคนอื่นได้ไงกันตัวเองยังไม่ได้เลย(วิธีตรวจสอบถ้าได้จริงตอบการหมุนของโลกและการเกิดแม่เหล็กโลกให้ได้ก่อนหรือการมีหลุมดำได้ยังไงในจักรวาล อย่าอวดถ้ายังไม่ได้ขอร้องล่ะอย่าให้นักเบียดต้องสอนนักแบกศีลเลยนะ
🌺🙏🌺
พระไตรปิฏกเป็นต้นแบบที่สมบูรณ์ที่สุดถูกต้องครับสาธุๆๆ
ผู้อวดอุตริมนุษยธรรมนั่นจัดเป็นอลัชชี..
เราจะรู้ได้ไงว่า เค้าไม่มีตัวตนในใจแล้ว หรือไม่ยึดขันต์แบบถาวรแล้ว ทั้งที่เขายังใช้ชีวิตเหมือนคนปกติ แค่มีสติตลอด เห็นไตรลักษณ์ตลอด …
คนธรรมดาก็มีจิตสมาธิวาจาดีใจตรงมีคุณธรรมแต่ต้องสวดมนต์ถึงวันละ5_6ชั่วโมงก็เห็นเอง
กราบอนุโมทนาสาธุครับ❤🎉❤
ท่านกล่าวถูกต้องแล้วค่ะสาธุๆๆ
ไช่หลวงพ่อที่อยู่พุธคยาใหมคิดถึงท่าน
สาธุค่ะ🙏
🙏🙏🙏
❤ love
สาธุๆๆ
น้อมกราบอนุโมทนาสาธุสาธุเจ้าค่ะ
สาธุ สาธุ สาธุ
นี่ก็มาอีกแบบตัวเองไม่รู้จริงแต่พูดมากเบาๆบ้างเถอะ
สาธๆๆ น้อมกราบอาจาริเย
ธรรมะอยุ่ไม่ไกลอยุ่ที่บุญกุศล
สาธุชัดเจนมากคะ
ท่านสาธยายธรรมไดัแจ่มแจ้งมาก
สาธุครับ หลวงพ่อ 😇🙏🏻🙏🏻
ธาตุที่เท่ากันเท่านั้นย่อมรู้ว่าคนนั้นระดับเดียวกัน
สาธุ อนุโมทามิค่ะ😊
ทุกลมหายเข้าออก
แบกตำรามากยอมเกิดทุกขุ์
❤
ฟ้องเพื่อให้ รู้กติกา ทางโลก คนเผยแพร่ธรรมะ เพื่อสร้างบุญบารมี ผิดด้วยเหรอ เป็นเทคนิค การจด การจำ การปฏิบัติ เฉย ๆ คำสอนยังเหมือนเดิมฟ้องตามเหตุผล ของทางโลกต่างคนก็ต่างก็มีภูมิ เหมือนกัน ไม่หันหน้า มาคุยกัน คนที่เขาปฏิบัติ อยู่ เขาเอาคำสอนมาปฏิบัติตามคำสอน ตาม มรรค 8 ขั้นตอน ก็เหมือนกันทุกอย่าง เป็นภาษาพูดที่ฆราวาสเข้าใจง่าย จดจำง่าย
ธรรมะว่างเปล่า อ.อริยเจ้า
กาลามสูตร และตนเป็นที่พึ่งแห่งตน ก็อยู่แบบสบายครับ
คนอรหันต์จะไม่บอกใคร เพราะแค่คนใกล้ตัวเค้าก็หาว่าบ้าแล้ว
เข้าให้ถืงแล้วจะรู้เอง
ที่พูดว่าพระอนาคามีผลจะไม่พูดคำหยาบน่ะไม่จริง ไม่อาฆาตรพยาบาทน่ะจริงไม่มีโกรธน่ะไม่จริง เข้าใจคำว่า"มี...แต่ไม่เอามั้ยหล่ะ"
มุสาวาทา รวมถึงผรุสวาจา คำหยาบด้วยโทสะพูดเอาประโยชน์ตน
บางทีตำรากับผู้ปฎิบัติ ก็ไม่ใช่ทั้งหมดนะคะ..มีคนบอกไว้ว่า-อย่าเชื่อตำรา -อย่าเชื่อเขาบอกเล่ามา-อย่าเชื่อครูบาอาจารย์แต่ให้เชื่อการปฎิบัติ เพราะเป็นปัตจัตตัง รู้ได้ด้วยตนเอง
เข้าใจผิดแล้ว / ความหมายคือ เค้าให้ฟังใครสอนแล้วอย่าเพิ่งเชื่อ ให้ลองพิจารณาแล้วเอามาปฏิบัติดูก่อนแล้วค่อยเชื่อ / เรียกว่าหลัก กาลามสูตร
ซูมในความหมายที่นำมาสอนคือให้น้อมจิตพิจารณา สิ่งต่างๆ ทั้งตัวเรา สิ่งของต่างๆ พิจารณาตั้งแต่เริ่มต้นจน จบ ทุกอย่างจะคืนสู่ธาตุเดิม ไมมีเหลืออะไรที่เป็นของสมมุติ ให้เราเห็น เมื่อยพิจารณาบ่อยๆก็ทำให้เราสามารถปล่อยวางสิ่งสมมุติได้ ไม่ใช่การเพ่ง แต่เป็นการพิจารณาความจริงตามธรรมชาติ ธรรมดา ของสิ่งทั้งหลาย ไม่ใช่ไปเพ่งดูจิตตัวเอง หรือจิตคนอื่น คำถามที่เอามาถามยังนำมาถามไม่ถูกต้องเลย ส่วนผู้ฝึกปฏิบัติได้รับประโยชน์จากคำว่าซูม ได้คลายความยึดมั่นถือมั่น ได้เห็นการ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป ก็คือกฏพระไตรลักษณ์
ถ้ามีตัวกู-ของกูอยู่ก็ไม่ใช่นะมีโทสะก็ไม่ใช่อนาคามีแล้วขอชวนคนไทยทั้งประเทศมาปราบมารมิจฉาทิฐฐิกันเถิดนักรบแห่งธรรมะในพระพุทธศาสนา
พระอาจารย์ท่านบอกชัดเจนแล้วมิใช่รึ ธรรมตถาคตเป็นอกาลิโกทันสมัยตลอดกาลทั้งถ้อยคำและความหมาย มันไม่ใช่การซูม หากใครอยากสร้างคำใหม่ ก็ต้องอาจหาญหน่อยกล้าบอกว่าเป็นลัทธิศาสนาที่ตัวเองคิดขึ้นมาสำเร็จเองไม่ต้องอิงแอบศานาอื่นที่ท่านมีอยู่แล้ว ฟังพระอาจารย์พูดให้จบ อย่าหลงไปบิดเบือนอรรถ- พยัญชนะที่ศาสดาสอนไว้ ใช้สติปัญญาด้วยค่ะ
ไปเมืองแก้ว มโนมยิทธิก็ไปได้แล้ว นิพพาน จองว่ายๆ
แดนนิพพานไปได้แต่เพียวพระอริยเจ้าเท่านั้นครับ
นิพพานไม่มีเมืองไม่มีเขตแดนสถานที่ไม่มีการเกิดไม่มีการตายไม่มีที่ให้มาไม่มีที่ให้ไปถึง ไม่มีความยึดว่าเป็นอัตตาตัวตน เพราะว่างจากขันธ์5 เป็นอสังขตธรรมไร้การปรุงแต่ง น่ะครับ มีแต่พระอรหันต์ที่นิพพาน คือดับสนิทพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิดพ้นจากสังสารวัฏอย่างสิ้นเชิง
ไปเที่ยวสวรรค์นรกบ่อยๆเข้าก็จะติดใจ ละทิ้งไม่ทันก็ยังต้องเกิดภพเกิดชาติอยู่ต่อไป
ขอรอวันตาย 😂😂😂
ท่านสอนอธิบายได้ครบแจ่มแจ้งมากๆเลยค่ะ สาธุ!! ชัดเจนนี้สิอริยสงฆ์ที่น่าเคารพนับถือ ตามแบบพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
ภ
มาอ่านตำราตอบคำถามอีกแล้ว...ถ้าท่านภูมิธรรมสูงจริง..ท่านสามารถพิสูจน์ทางกระแสจิตได้เอง..อย่างประวัติหลวงปู่มั่น ช่วงธุดงที่เขาสาริกา นครนายก ท่านตรวจเช็คครัวตา ที่บวชปฎิบัติธรรมที่เชิงเขา ครัวตาท่านนี้คิดแต่เรื่องครอบครัว เวลาบิณฑบาติผ่านกัน ท่านก็ทักเอาแบบเลียบๆเคียงๆ จนครัวตาอายว่าหลวงปู่มั่นรู้ทุกอย่างที่ท่านคิด จนหนี้ออกที่นั่นไปสู่ที่อื่น
วัชร์ชี้ฯพระศรีอารย์❤
พระไม่เคยใช้ชีวิตสามารถเป็นไลฟ์โค้ชได้หรือ คนเราทำไมต้องยกหลักการอะไรทั้งหลายจากหนังสือ ทำไมไม่มองชีวิตเข้าไปตรงๆ ผมว่าคุณจะได้อะไรมากกว่าอิงตำราคร่ำครึนะ มองชีวิตเข้าไปซื่อๆตรงๆมันยากอะไรนักหนา อะไรรู้ก็ว่ารู้ ไม่รู้ก็ว่าไม่รู้ ทำไมต้องโยงศัพท์แสงหรูๆอะไรที่ไม่เป็นจริงเชื่อมั้ยถ้าคุณกล้ามองชีวิตเข้าไปตรงๆโดยไม่เห็นแก่หนังสือศักดิ์สิทธิ์อะไรนะ บางทีคุณจะเริ่มรู้สึกหรือได้ไอเดียว่าพระไตรปิฎกถูกเขียนขึ้นมาได้ยังไง
แสดงว่าคุณไม่เคยรู้อะไร และบอกความหมายว่าคุณไม่เคยรู้วัตรปฏิบัติของศาสนาพุทธเลย ที่มาคอมเม้นท์ด้วยความไม่เข้าใจ อาจจะเป็นแค่คนไม่นับถือศาสนาหรืออาจจะเป็นคนศาสนาอื่นแปลงกายมา คือความรู้ความเข้าใจของคุณยังไม่มี เพราะยังไม่เข้าใจเรื่องความถูกต้องของศาสนาพุทธเลยว่ายืนอยู่ตรงไหน
คุณรู้ได้งัยว่าท่านไม่เคยใช้ชีวิต เหตุที่ท่านเข้าใจธรรมเพราะท่านศึกษา และท่านเคยป่วยและทนทุกข์มาก่อน คนอย่างคุณน่าจะแค่เปลือก เม้นหาแก่นสารไม่ได้
ทำตัวสู่รู้ตลอด แอคนี้😂
ปัจจัตตัง
เพ่งโทษคนอื่น ก็จบแล้วครับ
จับไปสอบเปรียญธรรม9
มีคุณธรรม_มีอัตตาหิ
ท่านจำว้ดอยุ่ที่ใดหนอ
วัดกลาง บางปลาม้า สุพรรณบุรีครับ
เสียงติดๆขัดๆฟังไม่ค่อยรู้เรื่อง
ไม่สามารถตรวจสอบได้เลย..... พระพุทธเจ้า เท่านั้น ที่รู้ได้..... ปัจจุบัน มีพระ มีโยม ไปประกาศรับรองว่า คนนั้น คนนี้ เป็นพระอรหันต์...
กูรู้ ผู้บรรลุ จะรู้กันด้วย ผู้บรรลุ จะรู้ได้ทุกเรื่องในโลกใบนี้ ลี้ลับ รู้หมด อย่างไอ้ไนน์กูก็รู้ มันหลอกลวง เปรตเดรัจฉานมาเกิด พระเทศน์เก่งๆดังๆในไทย ยังไม่มีใครบรรลุ เลย ผู้บรรลุ มักอยู่ป่าในถ้ำ
เป็นปัจจัตตังรู้ได้เฉพาะตนนั่นเองคะ ธรรมที่เป็นเหตุ คือ สัทธานุสารี เกิดปรากฏขึ้นมาหรือยัง สัทธานุสารี เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้น และ ธรรมที่เกิดแต่เหตุ คือ ธัมมานุสารี นั่นเองคะ และ ตามมาด้วยการเกิดปรากฏขึ้นของ บุคคล 4 คู่ 8 พวก คือ การเกิดปรากฏขึ้นของ อริยมรรคมีองค์แปด คือ การเกิดปรากฏขึ้นของ เส้นทางปัญญาวิมุตติ และ เส้นทางเจโตวิมุตติ นั่นเองคะ การเกิดปรากฏขึ้นของ พระสงฆ์ โสดาบัน เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้น และ ธรรมที่เกิดแต่เหตุ คือ สกทาคามี(โสดาบัน>สกทาคามี)>(สกทาคามี>อนาคามี)>(อนาคามี>อรหันต์)>(อรหันต์ เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้น)เป็นปัจจัตตังรู้ได้เฉพาะตนนั่นเองคะ พระพุทธเจ้าท่านบอก ธรรม ไว้ให้สามารถตรวจสอบได้ด้วยตนเองนั่นเองคะ
@@Newopen393 การเกิดปรากฏขึ้นของ พระสงฆ์ โสดาบัน เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้น และ ธรรมที่เกิดแต่เหตุ คือ สกทาคามี(โสดาบัน >สกทาคามี) การเกิดปรากฏขึ้นของ อริยมรรคมีองค์แปด คือ การเกิดปรากฏขึ้นของ ผู้ที่มีความเป็น อริยะ คือ มีศรัทธาใน ตถาคตภาษิต คือ การเกิดปรากฏขึ้นของ สัทธานุสารี สังขตธรรม เป็น ตถาคตภาษิต การเกิดปรากฏขึ้นของ สังขตธรรม(เกิด>เสื่อม)>(เสื่อม>ดับ)>(ดับ>อนัตตา)>(อนัตตา>เนตังมะมะ เนโสหมัสสมิ นะเมโสอัตตา) มีดวงตาเห็นการเกิดปรากฏขึ้นของ สังขตธรรม คือ การเกิดปรากฏขึ้นของ พระสงฆ์ นั่นเองคะ
ผมไม่รู้อะไรเลย แต่รู้สึกสงสารจะเถียงกันทำไม ทุกอย่างคือไม่มีอะไรจริง มีแต่เรื่องไม่จริง เรื่องจริงคือไม่มีอะไรเลย❤❤❤❤
อาตมา เป็นแค่ อรหมุน ติ้ว ยังรู้ได้ในทุกเรื่องเลย ไม่อยากเทศน์ไม่อยากดัง ใครเทศน์ผิดใครเทศน์ถูก รู้หมด
ถ้าคนที่ศึกษาธรรมมาบ้างแล้ว จะเข้าใจคำสอนของพระอาจารย์ แต่ถ้าคนที่ไม่เคยศึกษาพระธรรมอาจหลงไปตามคำบอกเล่าของพวกมิจฉา ถ้าติดตามพระอาจารย์จะรู้ว่าท่านไม่เคยพูดว่าท่านสำเร็จระดับใหน ท่านเพียงแต่ใช้ความรู้ในหลักธรรมมาเทศนาให้เราๆท่านๆเข้าใจธรรมมะโดยง่าย กราบสาธุค่ะ
คำสอน ของอาจารย์ ไม่มี นะครับ มีแต่ของพระพุทธเจ้า สาวก มีคำสอนได้งัย แต่ถ้า พูดตามพระพุทธเจ้า ได้
ใช่ครับ..
พระยังเป็นไม่ได้ จะสอนคนได้อย่างไร?
สาธุครับพระอาจารย์ท่านตอบได้ดีมากครับ ยึดหลักคำสอนพุทธวจนได้ดีมากๆเลยครับ สาธุๆๆ
ไม่ต้องตรวจสอบให้เสียเวลา คนบรรลุจริงเค้าไม่อวดอ้าง ตรงกันข้าม กลับกลัวคนจะรู้ซะอีก เพราะเค้าต้องการความสงบ
ใช่คะ ท่านที่ปฎิบิตบรรลุแล้วไม่อวดอ้าง ไม่เหมือนในโชเชียนทุกวันนี้ คนรู้มีเยอะ
ขออนุญาตแชร์เพื่อเผยแผ่ให้สังคมได้รับรู้ความเป็นจริงอันเป็นสัจธรรม ไม่เพีกเฉยละเลยเมีนเฉยแบบโง่ๆ เพื่อพระธรรมวินัยของพระศาสดาให้สว่างรุ่งเรืองสืบไป พุทธบริษัทต้องเข้มแข็ง ขอน้อมกราบนมัสการพระอาจารย์ค่ะ
นี่ละท่านเหมาะที่จะเป็นหนึ่งในเจ้าหน้าที่ที่ตรวจสอบผู้มาขอตั้งสำนักปฎิบัติธรรมถ้าไม่มีใบอนุญาติเปิดไม่ได้
อย่ามัวมองจับผิดคนอื่น ธรรมะทั้งหลายอยู่ในตัวเรา
หลวงพ่อ สุดยอด แสดงว่ารู้จริง ปฏิบัติจริง สงสัยศึกษาพระไตรปิฎกมาเยอะ ปฏิบัติมาเยอะ สาธุเด้อครับ
ขออนุโมทนาบุญกุสลอันยิ่งใหญ่กับพระอาจารย์ด้วยนะครับที่ได้น้อมนำเอาคำสอนที่ถูกต้องมาเปิดเผยให้ผู้มืดบอดได้สดับ สาธุๆๆๆครับผม
คน(จิต)ที่เห็นธรรมะแล้ว ย่อมรู้จักธรรมะได้ เข้าใจภาษาธรรมได้ดี ปุถุชนไม่อาจเข้าใจได้
พระอาจารย์เหตุผลท่านดีมากๆ เลยครับ
หลวงพ่ออธิบายธรรมถูกต้องแล้วครับ เข้าใจง่าย..กราบสาธุครับ
ขอกราบนมัสการพระอาจารย์ค่ะ ท่านพูดได้ถูกกาลในสถานการณ์ปัจจุบันจริงๆค่ะ
พระอริยะที่บรรลุธรรม
และได้พบพระธรรมอันสูงส่ง
จะมีพรหมวิหารสี่เต็มๆ
แล้วจะไม่มีเลือกญาติโยมเด็ดขาด
มีเมตตาเป็นธรรมล้วนๆ
คือหมดสิ้นการกระทำใดๆที่
ผู้ฟัง
ผู้เห็น
ผู้อยู่ใกล้ชิด
จะมีแต่ปลื้มปิติทุกชีวิต
คือท่านไม่เลือกจนหรือรวย
พระพุทธเจ้าคือลูกกษัตริย์
ไม่กล่าวคำผุสวาสครับ
พระพรหมยาณเถระ วัดพระพุทธบาทตากผ้า
เป็นต้นครับ
อนุโมทนาครับ
พระโสดาบันมั่นคงในสัมมาฐิตลอดไป
พระอาจารย์ อธิบายดีมากครับ สาธุๆๆๆ ชาตินี้ที่สุดของ😊😊😊ท่านเเล้ว ❤❤❤❤
พระพุทธเจ้าสอนให้ดูตัวเอง อย่ามัวเสียเวลาไปดูคนอื่นเลยโดยถูกต้องแล้ว
ดูตัวเองเถอะเจ้าค่ะ สาธุเจ้าค่ะ
พระพุทธเจ้าท่านเห็นภิกษุทำผิดท่านจะตำหนิทันที
ผู้บรรลุธรรมได้ ผู้นั้น จะไม่มีความโลภ ความโกรธ ความหลง......และจิตต้องเต็มเปี่ยมพร้อมที่จะให้ อภัย และ ทาน. ได้อย่างสิ้นเชิง
น้อมกราบสาธุการในพระธรรมคำสอน น้อมกราบอนุโมทนาบุญในกุศลจิตที่เมตตาคะ
ท่านตอบได้ชัดเจนและเข้าใจง่าย สาธุ
น้อมกราบสาธุในธรรมของพระอาจารย์สมทบ ปรักโม ด้วยนะเจ้าคะ และขออนุโมทนาสาธุธรรมในธรรมคำสอนของพระอาจารย์สมทบและผู้มีส่วนเผยแพร่ธรรมด้วยค่ะสาธุสาสาธุ🙏🙏🙏
ฆราวาสบางกลุ่มชอบไปแต่งตั้งครูบาอาจารย์ของตนว่า เป็นพระอริยะบ้าง เป็นพระอรหันต์
ความจริงแล้วเป็นเรื่องยากมากที่จะตัดสิน
แต่ถ้าพระอาจารย์รูปนั้น ชอบคุยโวโอ้อวดว่า ตนเองบรรลุขั้นนั้น ขั้นนี้
ย่อมจะมีความเสี่ยงที่จะต้องอาบัติปาราชิกข้อที่ 4 นะครับ
เดี๋ยวนี้พระอริยะแต่งตั้งกัน มีเยอะแยะใน facebook ใน TH-cam
ประเทศไทยหนอ
สาธุ หลวงพ่อพูดถูกต้องครับ ผมก็สายปฏิบัติ ผมเชื่อแบบหลวงพ่อพูด พระอรหันต์ที่ดับขันธ์แล้ว ดับสนิทจะไม่สื่อถึงได้ ใครที่ว่าพระพุทธเจ้ามาแสดงความยินดีกับตัวเองว่าสำเร็จเป็นพระอรหันต์แล้ว แบบนั้นผิดแน่นอน เพราะการที่พระพุทธเจ้ามาแสดงความดีใจนั้น มันคืออาการของเวทนา หนึ่งวงในขันธ์ห้า ซึ่งพระพุทธเจ้าเหล่าพระอรหันต์ท่านดับหมดแล้วตั้งแต่ยังไม่ดับขันธ์หรือเมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่ และพระพุทธเจ้าเคยตรัสไว้ว่าเมื่อพระพุทธเจ้าดับขันธปรินิพพานแล้วมนุษย์เทวดาหรือพรหมจะไม่เห็นท่านอีก ซึ่งสายพระป่าคงไม่รู้ แต่ถ้าเขาอ้าวว่าเขาเห็นพระพุทธเจ้ามาแสดงการยินดีนี้ ผมว่านั่นคือพรหมมารที่เขาเข้ามาหลอกให้หลงทาง สาเหตุเพราะสายพระป่าไม่ได้อ่านหรือไม่ได้เรียนในคำสอนของพระพุทธเจ้าที่พระพุทธเจ้าเคยสอนไว้ สมัยที่ผมเคยบวชเณรผมปฏิบัติจนเห็นความไม่มีตัวตน ความสงสัยในขันธ์ห้าไม่มี แต่ก็ยังสงสัยว่าแล้วนิพพานอยู่ที่ไหน จนผมมาพบพุทธวจน ผมจึงเข้าใจเรื่องนิพพานตอนนี้หาสงสัยแล้ว
สาธุครับ
มีอีกหลายอย่างที่พระไตรฯไม่ได้ระบุไว้ ไม่เขียนไม่ใช่ไม่มีไม่อย่างนั้นพระสุปฏิปัณโณหลายท่านที่ได้เล่าถึงการพบพระพุทธเจ้าก็ต้องผิดศีล ดังนั้นพุทธวิสัยที่พระองค์ท่านจะกำหนดให้ผู้บรรลุธรรมที่เหมาะสมหรือบุคคลใดได้พบได้เห็นจึงเป็นเรื่องที่ไม่ควรนำมาวิพากษ์วิจารณ์เพราะเป็นอจิณไตย
ผู้ที่จะบอกได้ถูกต้องว่าใครบรรลุธรรม ก็คือผู้ที่ผ่านสภาวะนั้นแล้วและเพิกอวิชชาออกหมดแล้วเท่านั้น ตามที่กล่าวไว้ในคิริมานนทสูตร
กราบสาธุเจ้าค่ะ เห็นด้วยกับพระอาจารย์ทีสุด ชาวพุทธควรปกป้องพระพุทธศาสนา การวางอุเบกขาไม่ใช่การเพิกเฉย ปล่อยให้มีการบิดเบือนคำสอนจะเป็นเหตุให้คำสอนที่ถูกต้องหายไป
น้อมกราบพระคุณเจ้า เจ้าคะ พระปฏิบัติตามธรรมวินัยมีอยู่ เหลือเพียงแต่เราฆราวาสต้องเข้าไปศึกษา ปฏิบัติ และทำนุบำรุง พระสงฆ์ที่ปฏิบัติดีต่อไป
ทั้งตัวท่าน และคำสอน นี่คือพระแท้ที่น่านับถือครับ ร่างกายของท่าน บ่งบอก ไม่ใช่อยู่ดีกินดี ( ไม่อ้วน จนดูรู้ว่าฉันอาหารเกินความจำเป็น เหมือนพระหลายรูปที่บอกว่าเป็นวัดสายป่า แต่ร่างกายอ้วนท้วน ) คำสอนของท่านตรงประเด็นครับ ของจริงไม่โอ้อวด หรือนินทาพระรูปอื่น ยกตนว่าทำดีกว่าคนอื่น ออกมาทำยูทูปฯทุกวัน จนลืมตัวเองไปแล้วว่าตัวเองอยู่ในสถานะอะไร
ท่านพูดได้ตรงประเด็นครับ พระอย่างท่าน หาได้ยากครับในปัจจุบัน
กราบนมัสการท่านพระอาจารย์ครับ
ตรวจ กับหลักธรรม หลักวินัย ของพระพุทธเจ้า อย่างเดียว ครับ อย่าใช้ความคิดตัวเอง ครับ พระพุทธเจ้า ท่านตรัสไว้
เพราะมีการเรียนการสอนพระไตรปิฎกศาสนาจึงดำรงอยู่ได้มาบัดนี้
ด้วยความเคารพครับ..การบรรลุธรรมขั้นใดนั้น..เป็นปัจจัตตัง..อันนี้ไม่ใช่ประเด็นที่เกิดในขณะนี้ครับ
พุทธวจน ตถาคตภาษิต
สุคะตะวินะโย ระเบียบถ้อยคํา
พร้อมทั้งอรรถ พยัญชนะ
บริสุทธิ์ บริบรูณ์ สิ้นเชิง
เพื่อความสุขของโลก
กราบสาธุสาธุสาธุ
สาธุครับ
โลกใบนี้คือโลกมนุษย์เป็นโลกแห่งมิติที่3 คือโลกของปุถุชนคนธรรมดาที่มีกิเลสแบบพวกเรานี่แหละ แต่ถ้าไครจะไปต่อในมิติที่5 หรือมิติอื่นๆที่นอกเหนือจากโลกที่เราเป็นอยู่ก็ต้องไปเป็นนักบวชหรือผู้ถือศีล ศีล นี่แหละ คือตัวปิดกั้นนักบวชออกจากโลกของปุถุชน แต่ข้อปฎิบัตินี่ก็โหดสุดหินเหมือนกันนะ ก็เลยมีการปลงอาบัติ แต่อาบัติบางข้อก็ทำให้หลุดพ้นจากสภาวะของนักบวชไปเลย และศีลนี่แหละจะเป็นตัวชี้วัดในการปฎิบัติธรรมหรือฝึกตัวขั้นสูงของนักบวช ศีลมีข้อพิเศษอย่างหนึ่งคือ อยู่เหนือกาลเวลา จะปฎิเสธหรือมีข้อโต้โต้แย้งเลี่ยงบาลีไม่ได้โดยเด็ดขาด และไม่มีการกล่าวอ้างถึงไคร ต้องรักษาปฎิบัติโดยไม่มีข้อสงสัย นอกจากโลกนี้จะไม่มีต้นไม้ ไม่มีแผ่นดิน ไม่มีอากาศหรืออาการไม่ครบ32จะไม่มีข้อยกเว้นเด็ดขาด ถึงจะอยู่ในมิติของตัวเองที่มีศีลกั้นไว้ แต่ก็ขาดการพึ่งพาอาศัยกันระหว่างกับโลกภายนอกไม่ได้ นั่นคือโลกของกิเลส เพราะมิตินี้เป็นของมนุษย์โดยตรง และยังต้องพึ่งพาอาศัยร่างกายของมนุษย์อยู่ เป็นระบบห่วงโซที่ผู้สร้างวางเอาไว้ ถ้าไครปฎิบัติไม่ได้หรือไม่เคร่งครัด ก็โดนกิเลสจากภายนอกนี่แหละโจมตี แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นคนไม่ดี แค่การบรรลุมรรคผลก็น้อยลงไปตามการอาบัติของตัวเอง ก้อนหินก็มีค่า ก้อนดินก็มีความหมาย เป็นระบบเอื้อเฟื้อต่อกัน ทุกคนจึงมีความสำคัญพอๆกัน แล้วแต่ทางเลือกของตัวเอง แต่ก็ยังหนีไม่พ้นการเอื้อเฟื้อต่อกัน ไม่มีไครแหกหักกฎของสัจธรรม ห้วงเวลาและกาลอวกาศได้ กราบอนุโมธนาสาธุหลวงตา
สัพเพสังขาราอนิจจา สัพเพธรรมาอนัตตา ธรรมทั้งหลายล้วนไม่มีตัวตน ไม่ควรไปยึดมั่นถือมั่น เมื่อศึกษาแผนที่ดี แล้วควรอย่างยิ่งที่จะออกเดิน เมื่อออกเดินแล้วเส้นทาง ภูมิประเทศ บรรยากาศระหว่างทาง นั่นแหละของจริง อย่าลืมว่าสิ่งที่ท่านทั้งหลายเฝ้าแทะเล็มอยู่นั้นมันคือแผนที่ น่าอนาถที่จะต้องสิ้นภพสิ้นชาติไปเปล่า เมือนคนโง่ที่กินข้าวผ่านตำราทำอาหารฉันใดก็ฉันนั้นแล้วหลงทึกทักว่าตนเองอิ่ม เฮ้อ!
ใช่ครับ...
ตถาคตภาษิต คือ คำสอนของพระพุทธเจ้า ตถาคตภาษิต จะมีกฏอิทัปปัจจยตา มีปฏิจจสมุปบาท มีสังขตธรรม จึงเป็น สัมมาทิฏฐิ ยกตัวอย่าง อินทรีย์5 พละ5 ศรัทธา วิริยะ สติ สมาธิ ปัญญา(ศรัทธา>วิริยะ)>(วิริยะ>สติ)>(สติ>สมาธิ)>(สมาธิ>ปัญญา) ตถาคตภาษิต จะเป็นแบบนี้เหมือนกันทั้งหมดเลยนั่นเองคะ คือ มีกฏอิทัปปัจจยตา มีปฏิจจสมุปบาท มีสังขตธรรม จึงเป็น สัมมาทิฏฐิ ทำให้ ตถาคตภาษิต เข้ากันได้รวมกันได้ไม่มีขัดแย้งกันนั่นเองคะ มีเพียงพระพุทธเจ้าเท่านั้นคะที่ทำคำพูดออกมาได้เหมือนกัน เพราะเหตุนี้ พระพุทธเจ้าท่านจึงถูกขนานนามว่า ตถาคต นั่นเองคะ
การนำ ตถาคตภาษิต มาบอกต่อ จึงเป็น ความคิดเห็น ที่เป็น สัมมาทิฏฐิ นั่นเองคะ คำสอน การเขียน การพูดออกมา และ ความคิดเห็น ที่ไม่มี กฏอิทัปปัจจยตา ไม่มี ปฏิจจสมุปบาท ไม่มี สังขตธรรม จึงไม่เป็น สัมมาทิฏฐิ เป็น มิจฉาทิฏฐิ คือ สาวกภาษิต นั่นเองคะ สาวกภาษิต จะมีความขัดแย้งกับ ตถาคตภาษิต นั่นเองคะ
ต้องเข้าตรวจสอบเด็ก8ขวบแล้วมั้งคะท่าน
ถ้าลงไปดูรายละเอียด ติดตามดูคำที่บอกสอน เขาให้พิจารณาจิตตนเองค่ะ
คำถามยังขาด แต่คำตอบพอจ.ก็มีส่วนรายละเอียดอยู่ สาระสำคัญน่าจะอยู่ที่อรรถะ เพราะครูบาอจ.เองก็ยังใช้คำที่ต่างๆกันไป แต่นำไปสู่เนื้อหาเดียวกันค่ะ
ธรรมเป็นอะไร คืออะไร ยังไม่รู้กันเลย
แล้วจะมีคนไหนที่บรรลุธรรม
เจ้าชายสืทธัตถะกว่าจะรู้จัก บรรลุธรรมหรือเขัาถึงธรรมแทบเอาชีวิตไม่รอด
มีกลุ่มเชื่อมจิตลวงโลกหลอกถามหลวงพ่อ แต่หลวงพ่อพูดตามคำสอนของพระพุทธเจ้าถูกต้อง กลุ่มลัทธิเชื่อมจิตออกอาการไม่พอใจ สาธุอีกครั้งครับหลวงพ่อ
ภิกษุทั้งหลาย! ลาที่เดินตามฝูงโคไปข้างหลัง ๆ แม้จะร้องอยู่ว่า “กู ก็เป็นโค, กู ก็เป็นโค” ดังนี้ก็ตามที, แต่สีของมันก็หาเป็นโคไปได้ไม่, เสียงของมันก็หาเป็นโคไปได้ไม่, เท้าของมันก็หาเป็นโคไปได้ไม่, มันก็ได้แต่เดินตามฝูงโคไปข้างหลัง ๆ ร้องเอาเองว่า “ กู ก็เป็นโค, กู ก็เป็นโค” ดังนี้ เท่านั้น. ข้อนี้ฉันใด ;
ภิกษุทั้งหลาย! ภิกษุบางรูปในกรณีเช่นนี้ ก็ฉันนั้นเหมือนกัน ; คือแม้จะเดินตามหมู่ภิกษุไปข้างหลัง ๆ ร้องประกาศอยู่ว่า “ข้า ก็เป็นภิกษุ, ข้า ก็เป็นภิกษุ” ดังนี้ก็ตามที, แต่
ความใคร่ในการประพฤติสีลสิกขาของเธอ ไม่เหมือนของภิกษุทั้งหลาย,
ความใคร่ในการประพฤติจิตตสิกขาของเธอ ไม่เหมือนของภิกษุทั้งหลาย,
ความใคร่ในการประพฤติปัญญาสิกขาของเธอ ไม่เหมือนของภิกษุทั้งหลาย,
ภิกษุรูปนั้น ได้แต่เดินตามหมู่ภิกษุไปข้างหลัง ๆ ร้องประกาศเอาเองว่า “ข้า ก็เป็นภิกษุ, ข้า ก็เป็นภิกษุ” ดังนี้เท่านั้น.
ภิกษุทั้งหลาย! เพราะฉะนั้น ในเรื่องนี้ พวกเธอทั้งหลายพึงสำเหนียกใจไว้ว่า
“ความใคร่ในการประพฤติสีลสิกขาของเรา ต้องเข้มงวดเสมอ,
ความใคร่ในการประพฤติจิตตสิกขาของเรา ต้องเข้มงวดเสมอ,
ความใคร่ในการประพฤติปัญญาสิกขาของเรา ต้องเข้มงวดเสมอ”ดังนี้.
ภิกษุทั้งหลาย! พวกเธอทั้งหลาย พึงสำเหนียกใจไว้อย่างนี้แล.
ขุมทรัพย์จากพระโอษฐ์ หน้า ๑๒๕ - ๑๒๖
(ภาษาไทย) ติก. อํ. ๒๐/๒๑๘/๕๒๒.
มีพระที่ถูกยกย่องว่าหลุดพ้นจากกิเลส
สิ้นเชิง จะไม่กลับมาเกิดอีกแล้ว แต่เท่าที่ฟังแล้วแคลงใจสงสัยว่า พระที่เพียร
บำเพ็ญลำบากเหนื่อยยากจนขนาดใด้
หลุดพ้นแล้วแต่กลับมีอาการโกรธเมื่อ
ลูกศิษย์ มาบอกท่านว่ามีคนตำหนิท่าน
ท่านว่า ไอ้ปากขี้มาว่าเรา เรา....เหนื่อย
ยากช่วยเหลือ...ขนาดไหน และบางครั้งท่านออกปากเรียกอวัยวะเพศหญิง
ชายด้วยเสียงดังชัดเจน และะคำหยาบที่ฆาราวาสใช้กัน ฟังแล้วสดุดใจ
ว่าอย่าว่าแต่พระที่หลุดพ้นเลย แม้พระ
บวชใหม่ก็ไม่น่าจะใช้คำพูดหยาบ
ถ้าใครพูดว่าท่านพูดขนาดนี้ได้เหรอ
ลูกศิษย์ท่านก็จะบอกว่า ท่านหลุดพ้น
หมดแล้ว จะพูดยังไงก็ไม่ผิดอาบัติแล้ว
อย่างนี้ ถูกหรือผิดอย่างไรเจ้าคะ ท่าน
พระอาจารย์ กราบนมัสการด้วยความ
เคารพเลื่อมใสเจ้าค่ะ
คนที่เป็นอริยบุคคลแล้ว จะไม่กล่าววาจาชั่วร้ายออกมา ทั้งกายวาจาใจครับ
การปกป้องคำสอนของศาสนาพุทธเป็นหน้าที่ของชาวพุทธทุกคนมิใช่ภิกษุสงฆ์ฝ่ายเดี่ยวหากผิดคำสอนชาวพุทธอย่าเมินเชยอย่ากลัวบาปเหมือนคนเฒ่าคนแก่สั่งสอนเรามาแบบผิดๆ เราชาวพุทธกลับไปปกป้องบรรดานักบวชมากกว่าคำสอนเป็นการเห็นผิดมาตลอดจึงทำให้นักบวชเหล่านี้หลงตนเองว่าข้าฯคือศาสนาเสียเอง
อยากให้พระอาจารย์แนะนำวิธีวางจิตในการปกป้องศาสนาไม่ให้เป็นโทสะ
ศีล สมาธิ ปัญญา เราต้องทำเอาเอง ทั้งหมด ไม่มีใคร มาทำให้เราได้ พระพุทธเจ้า ก้อทำให้เรา ไม่ได้
ถูกต้องที่สุดครับ☺
เราตถาคตเป็นเพียงแต่ผู้บอกทำให้ใครหลุดพ้นไม่ได้
เมื่อท่านบอกแล้วความเพียรต้องทำเอาเองถูกไหมคับพวกที่ไม่ทำก็ไม่ได้พวกที่ทำก๋ได้ถูกไหมคับ
จงช่วยกันศึกษา,ปฏิบัติตามธรรม,ตามวินัย..ที่พระพุทธเจ้าท่านบัญญัติไว้เถิด..อย่าถกเถียงกันเลยครับ
น่าตรวจสอบพระในคลิบนี้ดู เอาไม่มากหรอก แค่โสดาบัน ดูแล้วจะได้หรือเปล่าก็ไม่รู้ ต้องพิสูจน์ น่าจะพิสูจน์ไม่ได้ก็ไล่สึกออกไป
ปฏิบัติตามคำสอน แห่งองค์พุทธะ ไม่บาป วิธีการเดินไปถึง มรรค แตกต่างกัน
ดูไปยาวๆจะมีมาเป็นระยะคนเป็นพระพระเป็นคนยุคนี่หนักมากจืรง
คนบรรลุธรรมเขาจะไม่พูดหรอกว่าเขาบรรลุธรรม_พระพูดก็อวดอุตริแล้ว_คนบรรลุธรรมไม่มีเขาไม่มีเราไม่มีตัวไม่มีตนแล้ว_ไม่มีสมมุติแล้ว☺☺☺
มันก็พูดยากนะพวกชอบอวดก็มีอย่ามหาบัวก็บอกว่าได้บรรลุที่วัดดอยหลวงพระสิ้นคิดก็บอกเหมือนกันบอกไม่คิดแล้วพระพยอมบอกแต่ว่าไปอยู่สวนโมกข์6ปีไม่ได้บอกว่าบรรลุอะไรบางคนก็บอกว่าได้บรรลุภาวะๆมันคืออะไรภาวะมันก็แปลว่ามีว่าเปนมีธรรมแล้วหรือไงหรือว่าบรรลุธรรมแล้วประมาณนี้หล่ะนะพระที่ผมกล่าวมาทั้งหมดนี้จะอวดก็ดีไม่อวดก็ดีถ้าเขาไม่บรรลุเขาจะเอาอะไรมาพูดแล้วดังได้ไงนี่แหละเปนปัณหาที่จะให้เราขบคิดอยู่นะ
@@user-qy1xd7cq9v พระธรรม พระธรรมวินัย เป็น สังขตธรรม เพราะ มีคุณสมบัติ เกิดปรากฏ เสื่อมปรากฏ เมื่อตั้งอยู่มีภาวะอย่างอื่นปรากฏ การเกิดปรากฏขึ้นของ อริยมรรคมีองค์แปด คือ การเกิดปรากฏขึ้นของ เส้นทางปัญญาวิมุตติ และ เส้นทางเจโตวิมุตติ ก็จะมี ธรรมที่เป็นเหตุ และ มีธรรมที่เกิดแต่เหตุ เรียงร้อยกันและกันในการเกิดปรากฏขึ้น ที่เรียกว่า ปฏิจจสมุปบาท นั่นเองค่ะ ซึ่งพระพุทธเจ้าท่านได้บอกสอนไว้ให้รู้ตามใน ตถาคตภาษิต นั่นเองค่ะ
ผู้ที่จะบอกได้ถูกต้องว่าใครบรรลุธรรม ก็คือผู้ที่ผ่านสภาวะนั้นแล้วและเพิกอวิชชาออกหมดแล้วเท่านั้น และพระอรหันต์ท่านก็ไม่พยากรณ์ใคร ฉะนั้นปุถุชนควรจะหยุดการวิพากษ์วิจารณ์
หลวงพ่อพูดตรงเป๊ะเลย แต่มันมีพวกเชื่อมจิตมาหลอกถาม สาธุครับหลวงพ่อ
สาธุๆๆๆครับ
ซูมเป็นสิ่งที่ไม่มีอยู่จริงมีแต่ความว่างเปล่า ( มิติ )
จะตรวจสอบคนอื่นได้ไงกันตัวเองยังไม่ได้เลย(วิธีตรวจสอบถ้าได้จริงตอบการหมุนของโลกและการเกิดแม่เหล็กโลกให้ได้ก่อนหรือการมีหลุมดำได้ยังไงในจักรวาล อย่าอวดถ้ายังไม่ได้ขอร้องล่ะอย่าให้นักเบียดต้องสอนนักแบกศีลเลยนะ
🌺🙏🌺
พระไตรปิฏกเป็นต้นแบบที่สมบูรณ์ที่สุดถูกต้องครับสาธุๆๆ
ผู้อวดอุตริมนุษยธรรมนั่นจัดเป็นอลัชชี..
เราจะรู้ได้ไงว่า เค้าไม่มีตัวตนในใจแล้ว หรือไม่ยึดขันต์แบบถาวรแล้ว ทั้งที่เขายังใช้ชีวิตเหมือนคนปกติ แค่มีสติตลอด เห็นไตรลักษณ์ตลอด …
คนธรรมดาก็มีจิตสมาธิวาจาดีใจตรงมีคุณธรรมแต่ต้องสวดมนต์ถึงวันละ5_6ชั่วโมงก็เห็นเอง
กราบอนุโมทนาสาธุครับ❤🎉❤
ท่านกล่าวถูกต้องแล้วค่ะสาธุๆๆ
ไช่หลวงพ่อที่อยู่พุธคยาใหมคิดถึงท่าน
สาธุค่ะ🙏
🙏🙏🙏
❤ love
สาธุๆๆ
น้อมกราบอนุโมทนาสาธุสาธุเจ้าค่ะ
สาธุ สาธุ สาธุ
นี่ก็มาอีกแบบตัวเองไม่รู้จริงแต่พูดมากเบาๆบ้างเถอะ
สาธุครับ
สาธๆๆ น้อมกราบอาจาริเย
ธรรมะอยุ่ไม่ไกลอยุ่ที่บุญกุศล
สาธุชัดเจนมากคะ
ท่านสาธยายธรรมไดัแจ่มแจ้งมาก
สาธุครับ หลวงพ่อ 😇🙏🏻🙏🏻
ธาตุที่เท่ากันเท่านั้นย่อมรู้ว่าคนนั้นระดับเดียวกัน
สาธุ อนุโมทามิค่ะ😊
ทุกลมหายเข้าออก
แบกตำรามากยอมเกิดทุกขุ์
❤
ฟ้องเพื่อให้ รู้กติกา ทางโลก คนเผยแพร่ธรรมะ เพื่อสร้างบุญบารมี ผิดด้วยเหรอ เป็นเทคนิค การจด การจำ การปฏิบัติ เฉย ๆ คำสอนยังเหมือนเดิม
ฟ้องตามเหตุผล ของทางโลก
ต่างคนก็ต่างก็มีภูมิ เหมือนกัน ไม่หันหน้า มาคุยกัน คนที่เขาปฏิบัติ อยู่ เขาเอาคำสอนมาปฏิบัติตามคำสอน ตาม มรรค 8 ขั้นตอน ก็เหมือนกันทุกอย่าง เป็นภาษาพูดที่ฆราวาสเข้าใจง่าย จดจำง่าย
ธรรมะว่างเปล่า อ.อริยเจ้า
กาลามสูตร และตนเป็นที่พึ่งแห่งตน ก็อยู่แบบสบายครับ
คนอรหันต์จะไม่บอกใคร เพราะแค่คนใกล้ตัวเค้าก็หาว่าบ้าแล้ว
เข้าให้ถืงแล้วจะรู้เอง
ที่พูดว่าพระอนาคามีผลจะไม่พูดคำหยาบน่ะไม่จริง ไม่อาฆาตรพยาบาทน่ะจริง
ไม่มีโกรธน่ะไม่จริง เข้าใจคำว่า"มี...แต่ไม่เอามั้ยหล่ะ"
มุสาวาทา รวมถึงผรุสวาจา คำหยาบด้วยโทสะพูดเอาประโยชน์ตน
บางทีตำรากับผู้ปฎิบัติ ก็ไม่ใช่ทั้งหมดนะคะ..มีคนบอกไว้ว่า
-อย่าเชื่อตำรา
-อย่าเชื่อเขาบอกเล่ามา
-อย่าเชื่อครูบาอาจารย์
แต่ให้เชื่อการปฎิบัติ เพราะเป็นปัตจัตตัง รู้ได้ด้วยตนเอง
เข้าใจผิดแล้ว / ความหมายคือ เค้าให้ฟังใครสอนแล้วอย่าเพิ่งเชื่อ ให้ลองพิจารณาแล้วเอามาปฏิบัติดูก่อนแล้วค่อยเชื่อ / เรียกว่าหลัก กาลามสูตร
ซูมในความหมายที่นำมาสอนคือให้น้อมจิตพิจารณา สิ่งต่างๆ ทั้งตัวเรา สิ่งของต่างๆ พิจารณาตั้งแต่เริ่มต้นจน จบ ทุกอย่างจะคืนสู่ธาตุเดิม ไมมีเหลืออะไรที่เป็นของสมมุติ ให้เราเห็น เมื่อยพิจารณาบ่อยๆก็ทำให้เราสามารถปล่อยวางสิ่งสมมุติได้ ไม่ใช่การเพ่ง แต่เป็นการพิจารณาความจริงตามธรรมชาติ ธรรมดา ของสิ่งทั้งหลาย ไม่ใช่ไปเพ่งดูจิตตัวเอง หรือจิตคนอื่น คำถามที่เอามาถามยังนำมาถามไม่ถูกต้องเลย ส่วนผู้ฝึกปฏิบัติได้รับประโยชน์จากคำว่าซูม ได้คลายความยึดมั่นถือมั่น ได้เห็นการ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป ก็คือกฏพระไตรลักษณ์
ถ้ามีตัวกู-ของกูอยู่ก็ไม่ใช่นะมีโทสะก็ไม่ใช่อนาคามีแล้วขอชวนคนไทยทั้งประเทศมาปราบมารมิจฉาทิฐฐิกันเถิดนักรบแห่งธรรมะในพระพุทธศาสนา
พระอาจารย์ท่านบอกชัดเจนแล้วมิใช่รึ ธรรมตถาคตเป็นอกาลิโกทันสมัยตลอดกาลทั้งถ้อยคำและความหมาย มันไม่ใช่การซูม หากใครอยากสร้างคำใหม่ ก็ต้องอาจหาญหน่อยกล้าบอกว่าเป็นลัทธิศาสนาที่ตัวเองคิดขึ้นมาสำเร็จเองไม่ต้องอิงแอบศานาอื่นที่ท่านมีอยู่แล้ว ฟังพระอาจารย์พูดให้จบ อย่าหลงไปบิดเบือนอรรถ- พยัญชนะที่ศาสดาสอนไว้ ใช้สติปัญญาด้วยค่ะ
ไปเมืองแก้ว มโนมยิทธิก็ไปได้แล้ว นิพพาน จองว่ายๆ
แดนนิพพานไปได้แต่เพียวพระอริยเจ้าเท่านั้นครับ
นิพพานไม่มีเมืองไม่มีเขตแดนสถานที่ไม่มีการเกิดไม่มีการตายไม่มีที่ให้มาไม่มีที่ให้ไปถึง ไม่มีความยึดว่าเป็นอัตตาตัวตน เพราะว่างจากขันธ์5 เป็นอสังขตธรรมไร้การปรุงแต่ง น่ะครับ มีแต่พระอรหันต์ที่นิพพาน คือดับสนิทพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิดพ้นจากสังสารวัฏอย่างสิ้นเชิง
ไปเที่ยวสวรรค์นรกบ่อยๆเข้าก็จะติดใจ ละทิ้งไม่ทันก็ยังต้องเกิดภพเกิดชาติอยู่ต่อไป
ขอรอวันตาย 😂😂😂
ท่านสอนอธิบายได้ครบแจ่มแจ้งมากๆเลยค่ะ สาธุ!! ชัดเจนนี้สิอริยสงฆ์ที่น่าเคารพนับถือ ตามแบบพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
ภ
มาอ่านตำราตอบคำถามอีกแล้ว...ถ้าท่านภูมิธรรมสูงจริง..ท่านสามารถพิสูจน์ทางกระแสจิตได้เอง..อย่างประวัติหลวงปู่มั่น ช่วงธุดงที่เขาสาริกา นครนายก ท่านตรวจเช็คครัวตา ที่บวชปฎิบัติธรรมที่เชิงเขา ครัวตาท่านนี้คิดแต่เรื่องครอบครัว เวลาบิณฑบาติผ่านกัน ท่านก็ทักเอาแบบเลียบๆเคียงๆ จนครัวตาอายว่าหลวงปู่มั่นรู้ทุกอย่างที่ท่านคิด จนหนี้ออกที่นั่นไปสู่ที่อื่น
วัชร์ชี้ฯ
พระศรีอารย์❤
พระไม่เคยใช้ชีวิตสามารถเป็นไลฟ์โค้ชได้หรือ คนเราทำไมต้องยกหลักการอะไรทั้งหลายจากหนังสือ ทำไมไม่มองชีวิตเข้าไปตรงๆ ผมว่าคุณจะได้อะไรมากกว่าอิงตำราคร่ำครึนะ มองชีวิตเข้าไปซื่อๆตรงๆมันยากอะไรนักหนา อะไรรู้ก็ว่ารู้ ไม่รู้ก็ว่าไม่รู้ ทำไมต้องโยงศัพท์แสงหรูๆอะไรที่ไม่เป็นจริง
เชื่อมั้ยถ้าคุณกล้ามองชีวิตเข้าไปตรงๆโดยไม่เห็นแก่หนังสือศักดิ์สิทธิ์อะไรนะ บางทีคุณจะเริ่มรู้สึกหรือได้ไอเดียว่าพระไตรปิฎกถูกเขียนขึ้นมาได้ยังไง
แสดงว่าคุณไม่เคยรู้อะไร และบอกความหมายว่าคุณไม่เคยรู้วัตรปฏิบัติของศาสนาพุทธเลย ที่มาคอมเม้นท์ด้วยความไม่เข้าใจ อาจจะเป็นแค่คนไม่นับถือศาสนาหรืออาจจะเป็นคนศาสนาอื่นแปลงกายมา คือความรู้ความเข้าใจของคุณยังไม่มี เพราะยังไม่เข้าใจเรื่องความถูกต้องของศาสนาพุทธเลยว่ายืนอยู่ตรงไหน
คุณรู้ได้งัยว่าท่านไม่เคยใช้ชีวิต เหตุที่ท่านเข้าใจธรรมเพราะท่านศึกษา และท่านเคยป่วยและทนทุกข์มาก่อน คนอย่างคุณน่าจะแค่เปลือก เม้นหาแก่นสารไม่ได้
ทำตัวสู่รู้ตลอด แอคนี้😂
ปัจจัตตัง
เพ่งโทษคนอื่น ก็จบแล้วครับ
จับไปสอบเปรียญธรรม9
มีคุณธรรม_มีอัตตาหิ
ท่านจำว้ดอยุ่ที่ใดหนอ
วัดกลาง บางปลาม้า สุพรรณบุรีครับ
เสียงติดๆขัดๆฟังไม่ค่อยรู้เรื่อง
ไม่สามารถตรวจสอบได้เลย...
.. พระพุทธเจ้า เท่านั้น ที่รู้ได้...
.. ปัจจุบัน มีพระ มีโยม ไปประกาศรับรองว่า คนนั้น คนนี้ เป็นพระอรหันต์...
กูรู้ ผู้บรรลุ จะรู้กันด้วย ผู้บรรลุ จะรู้ได้ทุกเรื่องในโลกใบนี้ ลี้ลับ รู้หมด อย่างไอ้ไนน์กูก็รู้ มันหลอกลวง เปรตเดรัจฉานมาเกิด พระเทศน์เก่งๆดังๆในไทย ยังไม่มีใครบรรลุ เลย ผู้บรรลุ มักอยู่ป่าในถ้ำ
เป็นปัจจัตตังรู้ได้เฉพาะตนนั่นเองคะ ธรรมที่เป็นเหตุ คือ สัทธานุสารี เกิดปรากฏขึ้นมาหรือยัง สัทธานุสารี เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้น และ ธรรมที่เกิดแต่เหตุ คือ ธัมมานุสารี นั่นเองคะ และ ตามมาด้วยการเกิดปรากฏขึ้นของ บุคคล 4 คู่ 8 พวก คือ การเกิดปรากฏขึ้นของ อริยมรรคมีองค์แปด คือ การเกิดปรากฏขึ้นของ เส้นทางปัญญาวิมุตติ และ เส้นทางเจโตวิมุตติ นั่นเองคะ การเกิดปรากฏขึ้นของ พระสงฆ์ โสดาบัน เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้น และ ธรรมที่เกิดแต่เหตุ คือ สกทาคามี(โสดาบัน>สกทาคามี)>(สกทาคามี>อนาคามี)>(อนาคามี>อรหันต์)>(อรหันต์ เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้น)เป็นปัจจัตตังรู้ได้เฉพาะตนนั่นเองคะ พระพุทธเจ้าท่านบอก ธรรม ไว้ให้สามารถตรวจสอบได้ด้วยตนเองนั่นเองคะ
@@Newopen393 การเกิดปรากฏขึ้นของ พระสงฆ์ โสดาบัน เป็น ธรรมที่เป็นเหตุ เกิดปรากฏขึ้น และ ธรรมที่เกิดแต่เหตุ คือ สกทาคามี(โสดาบัน >สกทาคามี) การเกิดปรากฏขึ้นของ อริยมรรคมีองค์แปด คือ การเกิดปรากฏขึ้นของ ผู้ที่มีความเป็น อริยะ คือ มีศรัทธาใน ตถาคตภาษิต คือ การเกิดปรากฏขึ้นของ สัทธานุสารี สังขตธรรม เป็น ตถาคตภาษิต การเกิดปรากฏขึ้นของ สังขตธรรม(เกิด>เสื่อม)>(เสื่อม>ดับ)>(ดับ>อนัตตา)>(อนัตตา>เนตังมะมะ เนโสหมัสสมิ นะเมโสอัตตา) มีดวงตาเห็นการเกิดปรากฏขึ้นของ สังขตธรรม คือ การเกิดปรากฏขึ้นของ พระสงฆ์ นั่นเองคะ
ผมไม่รู้อะไรเลย แต่รู้สึกสงสารจะเถียงกันทำไม ทุกอย่างคือไม่มีอะไรจริง มีแต่เรื่องไม่จริง เรื่องจริงคือไม่มีอะไรเลย❤❤❤❤
อาตมา เป็นแค่ อรหมุน ติ้ว ยังรู้ได้ในทุกเรื่องเลย ไม่อยากเทศน์ไม่อยากดัง ใครเทศน์ผิดใครเทศน์ถูก รู้หมด