ทุกเรื่องที่ทำออกมาหลังจาก end game ไม่ได้ทำออกมาเนื่องจากมันจะเป็นหนังใหม่ แต่มันถูกสร้างมาด้วยความตั้งใจว่าจะเป็นหนังต่อ ทุกเรื่องที่ออกมาจึงเป็นอย่างที่เห็นๆกัน ทั้งๆที่ end game คือหนังภาคจบ แทนที่จะเป็นการเปิดประตูสู้อนาคตใหม่กลับเป็นการพยายามเปิดประตูบานเก่า
M-She-U เฟส 4 เป็นต้นมาไม่สนห่าอะไรทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น Story Telling, CG, Character Development สนใจแค่จะหลับหูหลับตา Woke อย่างเดียว เชิดชูเฟมินิสต์แบบผิดๆ ค่อยๆกลืนและเปลี่ยนตัวละครชายให้กลายเป็นหญิงไปทีละตัว แถมขี้ขลาดเกินกว่าจะเขียนให้ตัวละครหญิงมีจุดอ่อนหรือ Character development ให้แฟนๆอยากเอาใจช่วย มันเลยออกมาเป็น Mary Sue สมบูรณ์แบบมันเสียทุกเรื่อง แล้วก็ค่อยด่าโจมตีผู้ชายอยู่ตลอดเวลา ชัดสุดก็ใน Love and Thunder ฮีโร่ผู้ชายผิวขาวจะไม่มีที่ยืนในสังคมซุปเปอร์ฮีโร่อีกต่อไป วันหนึ่งข้างหน้าถ้า Avenger จะกลายเป็นทีมหญิงล้วนผมก็ไม่มีอะไรแปลกใจแล้ว ในเมื่อคุณไม่ได้ทำหนังเพื่อผู้ชายอย่างผม ผมก็ไม่จ่ายตังไปดูเหมือนกัน จะรอซ้ำเติมในวันที่แฟรนไชส์มันเจ๊งนะ รักมากก็เกลียดมากได้เหมือนกัน
แค่ขนาด mood and tone ของ dr.strange ยังเปลี่ยนไปมากจากภาคแรกอย่างกับหนังคนละเรื่ิอง แล้วตัวละครใหม่ๆที่เพิ่มเข้ามาก็ไม่ทำให้รู้สึกผูกพันแบบที่จขช.บอกจริงๆ บางทีเรายังรู้สึกผูกพันกับ ancient one มากกว่าตัวละครหลักในหนังเรื่องใหม่ๆอีก รู้สึกการตายของเค้ามันสำคัญทั้งๆที่เป็นตัวประกอบ
![5 เหตุผลที่ทําไม Marvel Phase 4 (มาร์เวลเฟส 4) ถึงห่วยเเตก | มาคุยกันเรื่อง MCU | [#รีวิวPark]](http://i.ytimg.com/vi/wtAklm_VNL8/mqdefault.jpg)
![5 เหตุผลที่ทําไม Marvel Phase 4 (มาร์เวลเฟส 4) ถึงห่วยเเตก | มาคุยกันเรื่อง MCU | [#รีวิวPark]](/img/tr.png)
เรื่องผู้กำกับไม่ได้แสดงฝีมือตัวเองออกมาได้เต็มที่นี่จริงมาก สมัยที่หนังฮีโร่ยังไม่กลายเป็น Genre อันนึง เอานับแค่ช่วงยุค 2000 ต้นๆก็ได้อย่างสไปเดอร์แมนของแซมไรมี่นั่นแหละ เรายังรู้สึกว่าหนังมันยังมีสไตล์ลายเส้นของผู้กำกับคนนั้นๆได้เต็มที่มากกว่า เป็นหนังที่แข็งแรงสแตนอโลนได้ด้วยตัวเอง ต่างกับตอนนี้ที่หนังมัวแต่โฟกัสเรื่องเชื่อมจักรวาล ต้องเชื่อมตรงนู้นตรงนี้ให้เป๊ะ ทำให้ไปบดเบียดพื้นที่ในสิ่งที่ผู้กำกับอยากเล่าหรือทำ
หนังมาร์เวลทุกวันนี้เลยเป็นเหมือนกันไปหมด เป็นแค่หนังที่มีไว้เพื่อปูไปเรื่องถัดๆไป ไม่มีความแข็งแรงสแตนอโลนได้ด้วยตัวเอง (ยกเว้น GOTG3 ไว้อันนึงละกัน)
หลังจาก Eng game ผมดูแค่ แซมบัค กับ DeadPool แค่นั้นเลย รู้สึกมันหมดเสน่ห์แล้วจริงๆ ไม่เหมือนสมัยก่อน
เหมือนกันๆ สไปเดอร์แมน3 3คน หลังจากนั้นมันไม่ค่อย เสน่ห์เลยๆ
แซมบัค=ยาหม่อง😂
ฟัลคอนกับบัคกี้✅
Loki ก็แจ่มนะครับ
ถ้าตัวละครใหม่ moon knight คือดีสุดแล้วในการพรีเซนต์ออกมา ที่เหลือก็ เห้ออ
ตั้งแต่ end game จบผมก็ดูทุกเรื่องเลย มีแต่พวกเรื่องก่อนๆไม่ย้อนไปดูเลย น่าเบื่อเกิน หลังเอนเกม มามันหลากหลายดี
ขอบคุณที่ทำคลิปนี้ออกมา ได้เห็นมุมนักวิเคราะห์ด้าน อุตสาหกรรมภาพยนตร์มาแชร์อีกมุมหนึ่ง
เป็นกำลังใจให้ทำคลิปดีๆเรื่อยๆ ขอให้ผู้ติดตามเยอะๆขึ้นครับ 🫶🏻
ผลิตคลิปคุณภาพแบบนี้ต่อไปนะครับ ฟังเพลินมาก ได้ความรู้ จะคอยซัพพอทต่อไปครับ
มาดูช่องนี้ครั้งแรก พูดดีมากครับ
ทุกเรื่องที่ทำออกมาหลังจาก end game ไม่ได้ทำออกมาเนื่องจากมันจะเป็นหนังใหม่ แต่มันถูกสร้างมาด้วยความตั้งใจว่าจะเป็นหนังต่อ ทุกเรื่องที่ออกมาจึงเป็นอย่างที่เห็นๆกัน ทั้งๆที่ end game คือหนังภาคจบ แทนที่จะเป็นการเปิดประตูสู้อนาคตใหม่กลับเป็นการพยายามเปิดประตูบานเก่า
เห็นด้วยครับ มาเวลช่วงหลังเน้นเชื่อมจักรวาลมากเกินไป ตัวละครเลยหมดเสน่ห์ไม่ได้โฟกัสในเรื่องของตัวเอง ผมคิดว่าดีซีเหมือนเริ่มจับทางได้ เหมือนแบทแมนกับโจ๊กเกอร์ที่ออกมาทำหนังเดี่ยวของตัวเอง ผมว่าอันนี้เข้าท่านะ ไม่พยายามเชื่อมตัวละครจากเรื่องอื่นมากเกินไป อาจจะมีพูดถึงบ้างแต่ตัวหนังก็ยังโฟกัสตัวละครและเนื้อเรื่องได้ถูกจุด
**ผ่านมาเจอแชลแนลนี้โดยบังเอิญ ส่วนตัวชอบการเล่าเรื่องของช่องมากครับ กระชับเข้าใจง่าย ติดตามผลงานนะครับ
ถ้าจะมีอะไรติ ช่องนี้ คือ คลิปน้อยไปหน่อย 😊
เพื่อคลิปที่มีคุณภาพ ผมว่าคุ้มครับ
ขอบคุณสำหรับคลิปครับ พูดได้ตรงจุดๆมากๆ หนังไม่สนุก รายได้ดีที่ได้ก็เพราะจำใจดู
ขอบคุณครับ ช่องส่วนใหญ่อวยไม่สนความจริงเลย ช่องนี้ตรงสุด
หลัง End game ควรพักก่อน แต่เฮียแกเล่นต่อเลย เราเพิ่งกินอิ่ม และจะให้เรากินต่อ มันเลยจุก
ชอบเนื้อหาครับพูดได้ตรงประเด็น แต่ขออนุญาตทักเรื่องคำศัพท์ที่พูดระหว่างเนื้อหา พอใช้บ่อยๆ และถี่ๆ มันฟังเหมือนพยายามแทรกมากเกินไป จะเป็นไทยคำอังกฤษคำซะอีก ติดตามอยู่ตลอดนะครับ ❤
อย่างเดียวเลยที่ผมรู้สึกหลังดูและติดตามมาเวลมาอย่างยาวนานคือความอินของตัวละครมันหายไปครับ เวลาดูแล้วมันเลยไม่รู้สึกมีอิมแพ็คกับตัวละครเลย เทียบง่ายๆเหมือนการจากไปของคนที่คุณรู้จักกับคนที่ไม่รู้จัก อิมแพ็คทางใจต่างกันมากนะครับหรือการดูซี่รี่ที่ซีซันเยอะๆเราจะรู้สึกมีอิมแพ็คกับตัวละครค่อนข้างมากเพราะเราได้ดูติดตามภูมิหลังและพัฒนาการของตัวละครนั้นมาไงครับ ซึ่งก็นั้นล่ะครับผมได้ดูตั้งแต่กัปตันถือฝาถังขยะสู้ก่อนมาถือโล่ ได้ดูสตากเอาค้อนสร้างหุ่นขี้โหลหนีจากการถูกจับ
ช่องนี้ แอดมินลึกซึ้งมากครับ ขอยกนิ้วให้ครับ ความลึกซึ้งของ MCU บางทีผมว่ามันก็สะท้อนยุคสมัยนะ ปัญหาคือคนดูชอบสูตรสำเร็จแบบนี้ ให้ความสำคัญกับความฉาบฉวย ง่ายๆ หรือว่า คนทำหนังดูถูกคนดูกันหนอ... หากหนัง MCU กลับเข้ารูปเข้ารอย ผมก็อยากเ ห็นวิวัฒนาการของสังคมและคนดูเช่นกัน
MCU กำลังเดินลงเหวตาม Marvel' Comic
ปัจจุบันนี้หนังสือการ์ตูนของมาร์เวลตกต่ำลงมากและแพ้ให้กับหนังสือการ์ตูนตะวันออก ด้วยสาเหตุเดียวกันเลยคือ Adrenaline rush จาก concept Multiverse เพราะมันไม่มี Impact ต่อคนอ่านในระยะยาว หัวเล่มนี้ตัวนี้ตายบ้าง หัวเล่มนั้นตัวนั้นตายบ้าง แต่คุณรู้ว่าหัวเล่มถัดไปตัวนั้นจะกลับมา ต่างจาก My hero academia, Attack on titan,One piece ที่เหตุการณ์/การตายต่าง ๆ มันส่งผลกระทบต่อคนอ่านแม้เรื่องจะจบไปแล้ว
ต้องมาดูว่า MCU จะหัวหัวเรือไปทิศทางไหน
เข้ามาดูช่องนี้ เพราะคลิปนี้ครับ ติดตามเป็นกำลังใจให้ครับ 👍🥹✨
แอดคนนี้เก่ง อธิบายออกมาได้ตรงใจเลย ผมก็รู้สึกแบบนั้น แต่อธิบายไม่ถูก พักหลังดูหนังมาร์เวล พอเดินออกจากโรงมาแล้วรู้สึกมันไม่เต็มอิ่ม
มันเป็นเรื่องยากที่หนังเรื่องต่อ ๆ มา มันจะสามารถทำให้คนดู "ยังคงสนุก" ต่อไปได้ มันจำกัดความตั้งแต่คำว่าหนังฮีโร่ ตัวละครจากคอมมิค มันมีที่มาที่ไป บางส่วนถูกนำมาจากต้นฉบับ บางส่วนถูกเขียนขึ้นใหม่ ถูกใจแฟนหนังบ้าง ไม่ถูกใจแฟนหนังบ้าง มันก็สุดแท้ แล้วแต่ชอบ แล้วแต่ไม่ชอบ
หลัก ๆ คิดว่ามันคือความ "เบื่อ" จากการอยู่กับอะไรสักอย่างมานาน ผมมองว่า "คน" อยู่กับอะไรนาน ๆ มันก็มีความเบื่อ ความอิ่มตัว ต่อให้มันถูกพัฒนาอยู่ตลอดเวลา แต่การพัฒนาบางอย่างอาจไม่ถูกใจ อาจไม่โดน อาจไม่สามารถทำให้เราสนใจมันได้เหมือนเดิม ความตื่นเต้นที่เคยทำให้หลายคนกลายเป็นติ่งหนังจักรวาลนี้ ตอนนี้มันไม่ได้รู้สึกแบบนั้นอีกต่อไป คนเราคาดหวังสิ่งใหม่ อะไรใหม่ ๆ แต่ก็ใช่ว่าของใหม่จะดีไปซะหมด และหากตัวหนังมันนำเสนออะไรที่ซ้ำ ๆ จำเจ คนก็จะหันไปบ่นเรื่องพวกนั้นแทน เหมือนที่ฉากปรากฎตัว Hero คนอื่นในหนังมักทำให้คนดูตื่นเต้น เช่น Black Widow ใน Ironman หรือ Hawkeye ที่โผล่ใน Thor 1 ผมสังเกตว่าคนเราจะไม่ชอบอะไรก็ตามที่บ่อยเกินไป
และเมื่อช่วงมัลติเวิร์ส ที่จากคอมมิคมันก็ไม่ได้ต่างกันคือตัวละครฮีโร่ยั้วเยี้ยผลัดกันเข้ามามีบทในหนังแต่ละเรื่อง สำหรับผมมันไม่ได้น่าเบื่อมากมายขนาดนั้น แต่เห็นด้วยตรงที่บทมันห่วยและตัวละครโดนเนิร์ฟ โดนแกง จากเก่งเป็นกาก เล่าความร้ายออกมาได้ดูน้อยเกินไป
ส่วนนี้ผมคิดว่าคงเพราะ 16 ปีแล้ว มาร์เวลที่ตอนนี้เล่นใหญ่ด้วยเส้นสตอรี่มัลติเวิร์ส คงเลือกจะเล่าอะไรแบบกระชับ มัดรวบ เพราะต้องการผูกเรื่องโดยไม่ให้เกิด Plot Hole ซึ่งผมมองว่ามันคงเป็นอะไรที่หาความสมบูรณ์แบบหรือเต็มอิ่มได้ยาก เนื่องจากตัวละครเยอะไปหมด จะเอากลับมา ก็เอามาได้ไม่ครบถ้าไม่วางบทลงไปในหนังฟอร์มยักษ์ หนังสรุปเส้นเรื่องแบบที่ Avengers ทำ และแม้แต่ 3 เฟสแรก ผมไม่ลืมว่ามีกลุ่ม Agents of Shield ที่สุดท้ายกลายเป็นคา(ที่)น่อน ไปและไม่เกี่ยวข้องกับจักรวาลหลักอีก เพราะดันไปเล่นเส้นเรื่องซะจนไม่สามารถเอากลับมาผูกกับจักรวาลหลักได้อีก ผมเชื่อว่ามีแฟนหนังไม่น้อยเลย ที่รอคอยฉาก "ฟิล โคลสัน" ได้กลับมาเจอทีมอเวนเจอร์สรุ่นศึกนิวยอร์คอีกครั้ง
ผมมองว่าแฟนหนังคงจะคาดหวังอะไรได้ยากหน่อย เมื่อมองกันในความเป็นจริง MCU ช่วงนี้สร้างหนังสูตรสำเร็จออกมารัว ๆ และจริงอย่างที่ช่องนี้พูดคือ ตัวละครมันไม่ได้ขัดแย้งอะไรมากมายเลย ไม่มีความลังเล เตรียมใจตาย ไม่มีอะไรจะเสีย แม้แต่ทอร์ 4 ที่จะบอกว่าไม่มีอะไรให้กลัวอีกเพราะฆ่าธานอสกับมือและผ่านศึกระดับจักรวาลมาแล้ว ส่วนซีรี่ย์หลาย ๆ เรื่องรวมถึงตัวละครบางตัว มันก็ไม่มีที่มาที่ไปจริง ๆ ไม่ผูกพัน ไม่อิน กมลา ข่าน ที่ปูมา 6 ตอนผมก็ไม่อิน ชีฮัลค์ผมก็ไม่อิน 55
ซี่รี่ย์ตั้งแต่จบเอนด์เกมมา ผมชอบแค่ 3 เรื่อง ฮอว์คอาย ฟัลค่อน และโลกิ ส่วนที่รู้สึกเฉย ๆ ก็วันด้า แค่นั้น
เนื้อหาดี ยอดเยี่ยมมากๆ
แต่ "ครับ" เยอะไป ตั้งทิ้งบ้างจะทำให้คลิปนี้มีคุณค่ามากขึ้น
ได้ฟังแล้วลึกซึ้งมากๆครับ ผมก็เป็นคนนึงที่ชอบทำหนังเหมือนกัน ชอบความแปลกใหม่ ชอบอยู่บนพื้นฐานความเป็นจริง แต่ก็ต้องยอมรับว่า เอาไปเสนอขาย ก็ขายไม่ออกจริงๆครับ เหมือนทำหนังสนองความต้องการของตัวเองมากกว่า (ถ้าได้ทำอะนะ) ปล. ผมถ่ายหนังสั้นนะ ไม่ใช่หนังฟอร์มใหญ่หรือหนังโรง
อีกอย่างคือเพราะตอนจบชีฮัคที่แหกจอไปหาคนสร้าง
คือมันทำให้ทุกอย่างที่ผ่านมาไร้ค่าทั้งหมด คือโทนี่จะดีดนิ้วไปทำไม แหกจอไปให้เปลี่ยนเนื้อเรื่องดิ หมดความอินมาเวลเพราะแม่งเลย
โคตรเห็นด้วยเลยครับ แต่ก่อนแต่ละเรื่องจะมีสไตล์ของตัวเอง อย่างที่ชอบที่สุดเลยคือหนัง cap ภาค 2 จากหนังฮีโร่กลายเป็นหนังสายลับเลย เดี๋ยวนี้อะไรก็ไม่รู้เหมือนๆกันไปหมด แอคชันธรรมดาๆ + ตลก แค่นั้น
M-She-U เฟส 4 เป็นต้นมาไม่สนห่าอะไรทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น Story Telling, CG, Character Development สนใจแค่จะหลับหูหลับตา Woke อย่างเดียว เชิดชูเฟมินิสต์แบบผิดๆ ค่อยๆกลืนและเปลี่ยนตัวละครชายให้กลายเป็นหญิงไปทีละตัว แถมขี้ขลาดเกินกว่าจะเขียนให้ตัวละครหญิงมีจุดอ่อนหรือ Character development ให้แฟนๆอยากเอาใจช่วย มันเลยออกมาเป็น Mary Sue สมบูรณ์แบบมันเสียทุกเรื่อง แล้วก็ค่อยด่าโจมตีผู้ชายอยู่ตลอดเวลา ชัดสุดก็ใน Love and Thunder ฮีโร่ผู้ชายผิวขาวจะไม่มีที่ยืนในสังคมซุปเปอร์ฮีโร่อีกต่อไป วันหนึ่งข้างหน้าถ้า Avenger จะกลายเป็นทีมหญิงล้วนผมก็ไม่มีอะไรแปลกใจแล้ว ในเมื่อคุณไม่ได้ทำหนังเพื่อผู้ชายอย่างผม ผมก็ไม่จ่ายตังไปดูเหมือนกัน จะรอซ้ำเติมในวันที่แฟรนไชส์มันเจ๊งนะ รักมากก็เกลียดมากได้เหมือนกัน
ประมาณนั้น ธอร์ก็บทด้อยลง Hulk หน่อมไปแล้ว Iron man ตาย Vision ตาย Cap แก่ GOTG เปลี่ยน Spider คนลืม Halkg เตรียมส่งต่อผู้หญิง ดาราหญิงของหนังพวกนี้มันต้องดูสวย เซ็กซี่มีสเน่ห์ รูปร่างดี ผู้หญิงโตเต็มวัย แบบ นาตาชา สกาเล็ตวิช กาโมล่า เนบูล่า Peggy เจน peper ในช่วงเฟสแรกๆจะเลือกมาแบบนี้ไม่มีใครขี้เหร่เลย เช่น เจ้าหน้าที่โคบี้ แม้แต่ป้าเมย์ มันเป็นจิตวิทยา หรือ Wonder Woman ของ DC การ Woke ให้หญิงเป็นใหญ่มันซะหลายเรื่องทั้ง Eternal ทั้ง Marvel ทั้ง Wanda คือหายนะ เพราะหนังพวกนี้ผู้ชายดู
ส่วนตัวคือไม่ติดนะถ้าจะเปลี่ยนเพศของตัวละครเป็นผู้หญิง ขอแค่ให้มันออกมาให้น่าสนใจ สนุก และให้เรารักเธอได้ แค่นั้นเลย หนังก็สามารถประสบความสำเร็จได้
@@Bestsuccessful145 เค้ามักจะทำไอ้ "ให้เรารักเธอได้" ไม่สำเร็จน่ะสิครับ ตอนดูธอร์ภาคแรกๆ ผมชอบตัวละครเจน ฟอสเตอร์มาก แต่ใน Love and Thunder เค้ากลับทำเหมือนเจนคนละคนเลย พอเจนตายผมไม่รู้สึกเศร้าด้วยซ้ำ ทั้งที่ไม่ว่าดูเรื่องไหนถ้านางเอกตายผมร้องไห้ทุกเรื่อง แต่เรื่องนี้ผมเฉยๆมาก ตายเสร็จแล้วไง? ทำนองนั้นเลย หรือแม้แต่เนบิวลาเริ่มตั้งแต่การ์เดียนเป็นต้นมาจนจบ Endgame เป็นตัวร้ายที่น่าสงสารและน่าเห็นใจ แต่ใน GoTG 3 กลับกลายเป็นตัวละครผู้หญิงขี้วีนสุดน่ารำคาญไปเสียอย่างนั้น ถ้าหนังประสบความสำเร็จสิผมจะแปลกใจ สงสารก็แต่เด็กผู้หญิงที่เติบโตยุคนี้ ต้องมีตัวละครแบบนี้เป็นไอดอล คิดว่าฉันควรได้สิทธิ์พิเศษทุกอย่างเพราะฉันเป็นผู้หญิง ฉันไม่ต้องพยายามอะไรทั้งนั้น คงโตมาเป็น karen เต็มบ้านเต็มเมือง
ขนาดนั้นเลยหรอครับ พี่เป็นไรกับ ผญ. ขนาดนี้ครับเนี่ย
@@Zeptember97 ผมไม่ได้มีปัญหากับผู้หญิงครับ ผมแค่มีปัญหากับตัวละคร Marry Sue คุณอ่านไม่แตกเหรอ
จริงทั้มหมดเลยครับ แล้วอยู่ๆมาทำแวนด้าบ้าบอขึ้นมาด้วย ไม่มีน้ำหนักของตัวละครเท่าไหร่เลย
เพราะว่า mcu ไม่ได้กำลังทำภาพยนตร์ แต่เขาทำซีรี่ย์ ที่ลงทุนสูงและตอนหนึ่งยาว 2 ชั่วโมง วิธีการเขียนบทเลยเขียนแบบ Series ไม่ได้เขียนแบบภาพยนตร์ สำหรับคอภาพยนตร์ดูแล้วดูยังไงก็ไม่อิ่ม เพราะคุณไม่ได้ดูภาพยนตร์จาก mcu มานานมากแล้ว สำหรับเฟส 4 มีเพียง 2 เรื่องที่ผม พูดได้ว่ามันคือภาพยนตร์ เครื่อง Eternal และ garden of the galaxy Volume 3 นอกจากนั้นมันคือ Series และซีรี่ย์ที่ดีที่สุดใน mcu ก็คือ วันดาวิชั่น
ฟังแล้วก็ใจหาย เมื่อก่อนเราสนุกๆกันมากๆ ไปดูในโรงทุกเรื่อง
"เมื่อก่อนเราสนุกกันมากๆ"
ชอบคำนี้จริงๆครับ
ประโยคสั้นๆที่สะท้อนความรู้สึกการดูหนังmcuในตอนนั้นได้ดีจริงๆ
รอ รีวิว Echo น่ะ
กาเดียน3 คือเรื่องเดียวและเรื่องสุดท้ายที่ผมเข้าไปดูในโรง และหลังจากนั้นไม่ดูอีกเลย เสียใจจริงๆ ที่ครั้งนึงเราเติบโตมากับมาร์เวล แต่วันนี้เรากลับเลือกหันหลังให้มาร์เวลและไปซบอกThe boys แทน แต่การ์เดียน3 คือดีในทุกๆมิติจริงๆ ถือเป็นการปิดฉากลงได้อย่างยอดเยี่ยมและไว้ลายได้อย่างแนบเนียน สำหรับผม มาร์เวลได้ตายไปพร้อมกับ Iron man 😭 สู้ๆครับ ผมยังอยากได้ความบันเทิงแบบในอดีตอีกครั้ง
ส่วนตัวนะครับ.เมื่อก่อนเอ็นเคดิสออกมาเรารอแบบตื่นเต้นแต่เดี๋ยวนี้เอ็นเคดิสที่เรารอหนังพอดูไม่เกี่ยวกับเอ็นเคดิสเลยเหมือนเรารอมา2ปีหนังไปคนละทางเราผิดหวังมากเลยเริ่มไม่อยากดูครับ...
แปลกดีครับที่คนทำหนังคิดไม่ได้เหมือนคนดูหนัง เก่งๆแบบนี้อยากเห็นท่านกำกับหนังจัง ส่วนตัวนะครับ เฟสหลังที่ไม่น่าสนใจเพราะตัวร้ายมันไม่น่าสนใจแค่นั้นหละ
ส่วนตัวเสียดาย shang chi มากๆ ครับ พลอตโอเค นักเเสดงเล่นดี มีความเป็น Matial arts ในมือที่สามารถสร้างรสชาติใหม่ๆให้หนังเเต่มันดันทำออกมาได้ไม่เป็นที่เท่าไหร่ เเรงคับเคลื่อน ปัญหา อุปสรรค การเปลี่ยนเเปลง ความสดใหม่ มันดันไปลง ที่ Ten Rings จนกลายเป็นเราไปให้ความสำคัญกับ ตัวร้าย มากกว่า ตัวเอกด้วยซ้ำ เลยกลายเป็นพอกลับมาเล่าฝั่ง Shang Chi มันคือหนัง Superhero เเบบเดิมๆ
ผมว่าเฮียเหลียง แกเล่นดูจัดจนเกือบจะขโมยซีน อยู่แล้วครับ 5555 มันจจึงทำให้ส่วนอื่นโดนกลบหมดครับ
เป็นเพราะตัวละครละครับยัดเยียดตัวใหม่ๆมาเกินไปทำให้ไม่มีความผูกพันกับคนดูเลยทำให้ไม่อิน
มันต้องรีบครับจะค่อยๆทำเป็นสิบปีไม่ทันกินครับ
หยุด Woke ก็ดีขึ้นแล้วคับ 555+
หวังว่าในปีหน้า MCU จะเปลี่ยนไปในทางที่ดีกว่า เพราะ MCU เป็นจักรวาลที่ผมรักมากๆ เติบโตมากับมัน ทุกวันนี้มันเป็นอะไรไปแล้วก็ไม่รู้
ลองลดคำว่า”ครับ“ให้น้อยลง จะฟังไหลลื่นขึ้นเยอะ (ติเพื่อก่อนะครับ)
สิ่งที่มาเวลทำเหมือนตอนที่ แวนโก้ขอนกจากจัสติแฮมเมอร์ แล้วแม่งก็บอกว่ามันก็นกเหมือนกันอะมัลติเวิสแม่งเป็นงั้นเลยแล้วเราจะผูกพันกับตัวละครได้ยังไง
มาร์เวลได้บทเรียนจากการจากไปของแชดวิด เลยเน้นเรื่องตัวแปรเยอะขึ้น ทีนี้ไม่ว่าใครจะโดนคดี โดนไล่ออกก็สามารถหาใครมาแทนได้ แต่ลืมมองความสัมพันธ์ระหว่างคนดูกับตัวละคร
แล้ว dcละครับ ช่วยวิเคราะห์ด้วยได้ไหมครับ 🙏
+1
นิยาม MCU ของผม
Phase 1: เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของการสร้างแฟรนไชส์พร้อมกับการรวมทีมครั้งใหญ่
Phase 2: มีการปูเนื้อเรื่องโคตรดีและจุดเริ่มต้นของสงครามครั้งใหญ่
Phase 3: การต่อสู้ที่โคตร Epic อลังการงานสร้างและการเสียสละครั้งใหญ่
Phase 4 จนถึงปัจจุบัน: Woke Woke Woke MsheU
ยังดีที่โลกิกับการ์เดี้ยนกู้หน้าไว้อยู่
แค่ขนาด mood and tone ของ dr.strange ยังเปลี่ยนไปมากจากภาคแรกอย่างกับหนังคนละเรื่ิอง แล้วตัวละครใหม่ๆที่เพิ่มเข้ามาก็ไม่ทำให้รู้สึกผูกพันแบบที่จขช.บอกจริงๆ บางทีเรายังรู้สึกผูกพันกับ ancient one มากกว่าตัวละครหลักในหนังเรื่องใหม่ๆอีก รู้สึกการตายของเค้ามันสำคัญทั้งๆที่เป็นตัวประกอบ
จากการวิเคราะห์ คุณน่าลองแต่งนิยายลงนะ
ตินิดนึงครับ พูดครับให้น้อยลงกว่านี้
จะฟังไหลลื่นมากๆครับ
หนังแต่ละเรื่องมีแต่น้ำเส้นเรื่องหลักก็ไม่ชัดเจนนี่ถ้าไม่ดูมาร์เวลมาตั้งแต่แรกจะไม่ไปดูสักเรื่องเลยหนังค่ายนี้ ออกทะเลสุดๆ
กลับไปดู Cap ภาคแรก กับ ภาคสองคือแบบ โห ช่วงนั้นมันดีจริงๆ ฉากสู้มันส์ๆ แต่หลังๆ มานี่เน้น CG แล้วก็ดูแล้วหลับ
บางเรื่องใช้งบเยอะกว่าหนัง แต่ CG ลอยกว่าหนังก็มี
รอเดดพูล3 ไม่ใช้เพราะอยู่กับมาเวลนะเพราะที่ผ่านมา2ภาคสนุกและเหี้ยมาก ถ้าภาค3สนุกน้อยลงผมจะโทษMCU
ส่วนของ stakes ที่ว่าผมว่าเฉยๆ mcu แทบไม่เอาใครกลับมาเลยโดยเฉพาะตัวหลักๆ โทนี่ กัปตัน นาตาชา ทัังๆที่เป็นตัวเรียกแขกของ mcu ทั้งนั้น
หมด แก๊ง ironman ก็ หมดเสน่ห์แล้วครับ
เหมือน starwars ที่ไม่มี Darth Vader
เข้ามากดดูแบบไม่ตั้งใจ ปรากฎเป็นคลิปที่ดีมากเลยครับ ถึงขนาดกดติดตามกันเลยทีเดียว
ฝึกภาษาอังกฤษวันละหลายคำกับPark
เอาจริงก็ยัง enjoy กับหนังมาเวลทุกๆเรื่อง จะมากน้อยก็แล้วแต่เรื่องๆไป ถึงโทนหนังมันอาจจะไม่ใช่แนวที่เราต้องการมากก็เถอะ อยากได้โทนแบบ กัปตัน 1-3 หรือ เดดพูล 1-2 เพราะมุขหนังมาเวลส่วนมากจะฝืด ไม่ฮาแถมน่ารำคาญ เราฮากับมุขในหนังน้อยมาก
ตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไป หวังว่าจะดีขึ้นนะ (ในหลายๆส่วน)
การ์เดี้ยน3 ก็ใช่ว่าจะดีอะไรครับ ย่อนด้านความบันเทิงลงไปมาก ภาพรวมสู้ภาค1กับ2 ไม่ได้เลยครับ
มันดีตรงที่ขยี้ที่ตัวแรคคูนครับ
ส่วนตัวไม่ติดเรื่องการตีความ Multiverse นะ อย่างที่ใส่มาในคลิป ขนาดหนัง Mile Morales ยังประสบความสำเร็จได้เลย แล้วผมก็ไม่ได้แคร์อะไรเจ้า Miles มากนักด้วย ผมได้ดูแล้วผมชอบ "เนื้อเรื่อง" "เทคนิคการเล่า" ความสนุกของฉากตลกและฉากบู๊ และผมแคร์ เกว็น มากกว่าด้วยซ้ำ ภาคสองคือเข้าไปนั่งดูเกว็นเป็นหลักเลย เพราะเนื้อเรื่องของเธอ สลับซับซ้อน และมีการพัฒนาที่ดี
วัตถุดิบที่เลือกมาใส่ อาจจะมีส่วนทำให้หนังสนุกน้อยลง แต่สำคัญคือการสื่อสารของหนัง ไม่ว่าจะเกิดจากสาเหตุใดก็ตาม
เรื่องการถ่ายภาพ สีของภาพ ขอเว้นเรื่อง อีเทอนอลไว้เลย อันนี้คือมีสไตล์มาก
ระหว่างที่ฟัง + นึกถึงฉากนั้นๆที่พี่บรรยาย จนท้ายคลิป เพิ่งจะมารู้ตัวว่าจะร้องไห้ อินจัด
คำพูดตอนจบเนี่ย ถ้าเปลี่ยนจากสู้ๆเป็นว่า เราจะอยู่เคียงข้างคุณมาร์เวล น่าจะจบสวยกว่าสู้ๆสไตล์เกาหลี ..
ขออนุญาตติชม
1.ถ้าเอาตัวการ์ตูนเด็ก ผช ออกจะดีมากดูน่ารำคาญมากเวลากำลังดูฉากต่างๆของหนัง
2.น้ำเสียงเวลาพากษ์ ชวนง่วงนอนมาก เหมือนเปิดดูสารคดีร่างกายมนุษย์
หรือมันจะเป็นแค่สวนสนุก เหมือนปู่มาร์ตินบอก
สำหรับทำได้แค่ต้องเข้าใจพวกเขาครับเพราะหลายๆอย่างมันมีผิดมีถูก มีด้านดีแหละไม่ดี เขารู้ว่าต้องทำอะไร ผมคิดว่าเขารู้มากกว่าเรารู้ แต่เขาทำได้แค่รอเวลา คลิปนี้เล่าละเอียดดีนะครับ แต่ผมดูแล้วดันทำให้แฟนคลับแบบผมคิดลบสะงั้น (เล่าด้านดีผสมหน่อยก็ดีนะครับ) หดหู่ไป
ผมเขาคิดว่าคนเบื่อหนัง superhero ครับ จึงทำหนังเป็นแนวอื่นๆแต่เอาตัวละคร superhero มาใช้ครับ แต่คนไม่ซื้อเพราะคนยังต้องการดูหนัง superhero แบบเดิมๆอยู่
มาดจังเลยครับ
อีกเรื่องคือ การผูกหนังกับซีรีส์ มันทำให้เราไม่อยากตามต่อ เพราะไม่รู้ส่าต้องไปดูซีรีส์อะไรก่อนดู
เรามาถึงจุดที่การดูหนังกลายเป็นการบ้านไปได้ยังไงหว่า
รอออออ
MCU ปูยิ่งใหญ่ราวกับจักรวาล แต่ยิ่งห่างไกลจากคนดู
อีกอย่างคือมาเวลเขาผลิตหนังออกมาเยอะเกินจนพร่ำเพื่อ
ถูกต้อง Multiverse ทำให้หนังไม่น่าดูเพราะเกิดอีกเมื่อไรก็ได้มีตัวเดิมๆมากมายตายไปก็เท่านั้น แล้วเนิ้อเรื้องก็สามารถสร้างได้มั่วไปหมด และมันทำให้เกินตัวจับต้องไม่ได้เลย หนังที่น่าดูกลับเป็นเรื่องที่อยู่ในโลกนี่แหละ ง่ายๆแล้วพวกทีนเอจ หญิงแกร่งโล๊ะทิ้งไปให้หมดเถอะ แทบจะเต็มหมดจักรวาลแล้ว
End game จบ เรื่องอื่นผมก็ไม่ได้ตามอีกเลย
คือแม่ง จบแล้วอ่ะ
ปัญหาหลักๆตอนนี้คือ เนื้อเรื่องหลักคืออะไร ? ใครเป็นตัวเอกของเฟสนี้ ? อย่างเฟส 1-4 ตัวเอกหลักๆก็คือ โทนี่ กับสตีฟ แต่เฟสใหม่นี่คือสรุปใครพระเอก
สรุปสั้นๆคือไม่ควรทำตัวละครตาย ควรทำแต่เกษียณก็พอ เวลาฮีโร่ใหม่หมดหนทางสู้ ไปขอคำแนะนำจากคนรุ่นเก่า
จริง
พูดถึง dc บ้างสิครับ
จริง ๆ dcไม่มีไรจะเสียแล้วยังไงก็เริ่มใหม่อยู่ดี
@@jirawat_jbtop011 เริ่มใหม่ ก็ อาจจะไม่รอด
ขนาดบอร์ดบริหารยังกังวลสุดๆ
จนตอนนี้คาดหวังแค่หนังเดดพูล แล้วหลังจากนั้นคงเลิกติดตาม mcuไปยาวๆ
คลิปนี้พูดได้ตรงใจมากครับ เหมือนเป็นความรู้สึกที่อธิบายไม่ได้มานานแล้วออกมาเล่าให้คนฟัง เพราะความหลากหลายที่เฟส 1-3 แสดงออกมานี่แหละ ทั้งเส้นเรื่องและบุคลิกที่น่าสนใจของตัวละครพวกเขา มันมีเสน่ห์ให้ชวนคิดต่อว่าจากนี้พอมาเจอกันแล้วจะเกิดอะไรขึ้น!! แล้วยิ่งเราอินมากเท่าไหร่ เราก็ยิ่งรู้สึกชอบมันมากขึ้น #คนไม่ได้เบื่อหนังฮีโร่ แค่ไม่อินมากกว่า เพราะหลังๆมา นอกจากฮีโร่ชนะตัวร้าย การเติบโตและความน่าสนใจของตัวละครกลับ สู้ของเก่าไม่ได้เลย แม้แต่ ตลค ในเฟสเก่าก็เหมือนไม่มีบทให้น่าสนใจพัฒนามาต่อ อย่าง ธอร์ ฮัลค์ ฟิวรี่ ที่มองๆไปแล้ว ผมสัมผัสแนวทางการใช้ชีวิตของเค้าไม่ได้เลย ดูไร้จุดหมายมากๆ และก็ไม่ทำให้ ตลค ดูดีขึ้นแต่อย่างใด
ช่วงนี้สนแต่ what if มากกว่า มันดูตัวละครมันมีปัญหา ได้เห็นการเปลี่ยนแปลง
มันไม่มีอะไรซับซ้อนหรอก มันก็แค่คนเริ่มเบื่อ มีหนังแบบไหนบ้างอะที่อยู่ยาวๆ สุดท้ายก็หมดยุคสมัยทั้งนั้น หนังมาเวรพีคมาได้สิบกว่าปีก็โคตรเทพแล้วครับ
Woke ด้วย
หลังๆเริ่มไม่ดูแล้ว มันน่าเบื่อเหมือนสร้างให้มันผ่านๆไป มันก็แค่สวนสนุก ดูแล้วไม่อยากดูซ้ำ ดูแล้วผ่านๆไป จริงๆเฟสหลังๆ
คนไม่ได้เบื่อหนังฮีโร่ คนแค่เบื่อหนังที่ไร้หัวใจ อย่าง Moon Knight Loki นี่ใครๆก็รัก (มีคนไม่ชอบแต่น้อย) และดู The Marvels ทำไรมาเนี่ย ตัวร้ายอะไร๊!!! บทอะไรและอยู่ดีๆเอาตัวละครจากซีรีส์ที่คนไม่ดูมาโผล่ พังสิครับ
เดี๋ยวดู Superman Legacy ของยุคเจมส์ กันน์คนจะได้รู้ซึ้งว่าการทำหนัง "ฮีโร่" จริงๆเป็นยังไง (กาเดี้ยนมันไม่ค่อยฮีโร่เท่าไหร่แต่ดูสนุก 55)
สมัยนี้ผมว่ามันไม่ใช่หนังฮีโร่อีกต่อไปล่ะ มันแค่คนมีพลังพยายามเป็นฮีโร่ ถ้าจะมีรอดก็แค่ Spider-Man ตัวอื่นนะตอนนี้ไม่ค่อยไหว😮
เพิ่มพวก Daredevil Netflix ด้วยถ้าจะให้แนะนำให้ดู
เล่นกับเวลา
เวลาเล่นกลับละมั้ง😂
โทนี่ สตาคส์กล่าว
ส่วนตัวตอนนี้ชอบ Moonlight มากเลยค่ะ
ส่วนเราทำไมเฉยๆนะ
ผมก็ชอบครับ ไอแซคเล่นดีมาก คนเดียวเล่นได้หลายบุคลิก
แอดลองทำฝั่งDCบ้างครับอยากรู้ว่ามีความคิดเห็นว่าไงบ้าง(กลัวติ่งมาเวลมาแซะช่องแอด55)
คือที่ไม่ทํา DC เพราะคนควรรู้อยู่เเล้วว่าหนักขนาดไหน 5555 + ผมไม่ค่อยดูหนัง DC ไม่ใช่ Fc
เคครับคุณอาจรอดจากพวกติ่งมาเวลที่อวยจนไม่ลืมหูลืมตาแล้วเอาแต่แซะคนที่เห็นต่าง55
หลักคนไม่ดูเพราะไม่มีฮีโร่ ชูโรงละ โทนี่ เเคป1 เเละรุ่นเเรก หายไปหมด เเละรุ่นหลังมีเเต่ผู้หญิงไม่หน้าจดจำ
จากที่กล่าวมา Spider-man No way home คือตัวอย่างทั้งหมดที่กล่าวมาเลย แม้มันจะทำรายได้เยอะแต่เรื่องราวจริงๆนี่เข้าขั้นแย่มากขั้นดูถูกคนดู
ดูถูกตรงไหนแฟนๆเขาก็ชอบกันเยอะ ถ้าจะบอกเพราะ fan service ก็ใช่แต่ end game ก็แฟนเซอร์วิสบทจริงๆไม่ได้ดีขนาดนั้น แต่มันดีได้เพราะแฟนเซอร์วิสล้วนๆ
Spider Man ยังรอดครับ เพราะมันอยู่กับ Sony ไม่ใช่ D และ Marvel
ผมเดาว่า Deadpool กลางปีนี้น่าจะมาช่วยกู้กระแส MCU
หมดยุคหนัง hero ปฝแล้ว
กลายเป็นดราก้อนบอล โกคูตายก็ฟื้นได้เรื่อยๆ
หนังมาเวลเฟส 4-5 ผมให้ผ่านแค่ GoG3 เรื่องเดียวเหมือนกันครับ เรื่องอื่นผมให้สอบตกหมดเลย No Way Home นี่คนที่บอกว่าหนังดี ลองตัดพวก Cameo ออกไปสิ แกนกลางของหนังมันเหลืออะไรบ้าง Eternal นี่ก็เกือบๆผ่านแต่เขายังเขียนตัวละครออกมาได้ไม่น่าดึงดูดพอ Black Panther 2 นี่ก็สารยำสุด เอาคนตายมาแบกหนังแทนคนเป็นเลย
ฝั่งซีรีย์นี่กลับมีดีมีแย่คละๆกันไป ที่ดีๆก็ WandaVision Loki MoonKnight Werewolf ก็ถือว่าทำได้เยี่ยมนะ ที่แย่ก็ She Hulk เงี้ย เราหวังจะได้เห็นการต่อสู้ในชั้นศาลเป็นแกนหลัก กลายเป็นซีรี่ย์ Woke หลุดโลกแทน เสียของชิบหาย Ms.Marvel นี่ก็เซ็งตั้งแต่เปลี่ยนพลังน้องละ บทก็ห่วยแตก แทนที่จะนำเสนอปัญหาวัยรุ่นมุสลิมในอเมริกา ไปเน้นประวัติศาสตร์กับวิ่งไล่จับแทน 😅
ควรเลิกทำหนังแบบ universeเถอะ ในฐานะคนดู การทำหนังที่เอะอะอะไรก็ต้องเป็น.universe มันทำให้ดูซ้ๆซากๆไปหมด ยิ่งถ้าเทียบกับในอดีต ที่หนังไม่มีความจำเป็นต้องเป็นจักรวาล แค่เล่าเรื่องราวให้น่าสนใจ น่าติดตาม และสนุก ลุ้นไปกับตัวเอก ให้จบในเรื่องเดียว แล้วคนดูก็จะตอบรับเอง
แล้วก็ เลิกจ้างพวกนักแสดงที่ด่า และดูถูกลูกค้าตั้งแต่หนังยังไม่ฉาย และล้างบางพวกนักสิทธิ์ในบริษัท คนพวกนี้ไม่มีประโยชน์แถมยังให้เกิดภาพลบและรายได้หดหาย จนหนูผีมันตกต่ำถึงขนาดนี้
แปลกนะครับ สำหรับผมแล้วดูเรื่องไหนก็ดันสนุกไปหมดเลย 😊🎉
ผมก็ว่ามันไม่ได้แย่ขนาดนั้นเหมือนกันครับ
ข่าวล่าสุดเห็นว่าจะเอาไฟกีออก😅
ไปอยู่ DC กับตาเจมส์กันเลย 55 ตอนนั้นก็ช่วยขวาง D แต่สู้ไม่ได้
จัดอีเว้นท์ใหญ่สักทีดิ
รอThe punisher ss3
เรารอดูพวกX-men ในmcuอย่างเดียวเลย
ธรรมดา ทุกอย่างมีขึ้นมีลง ไม่มีอะไรอยู่เป็นดาวค้างฟ้า ประโยคนี้ผมว่าใช้ได้กับทุกเรื่อง
ผมว่ายกตกต่ำมันทั้งค่ายเลย ทั้งมาร์เวล ทั้งดิสนีย์ คิดว่าตัวเองนำคู่แข่งอยู่ เลยทำตัวเป็นผู้นำ ผู้บุกเบิก ด้านเพศ สีผิว วัฒนธรรม ยัดใส่มาหมด จนหนักแทบไม่มีเนื้ออะไร นอกจากชูภาพลักษณ์อย่างเดียว
ยังนับไม่หมด Pixar Lucas Fox เจ๊งหมดเพราะตามนโยบาย บทเกย์จูบกันใส่มาทำไม
ในฝั่งของหนังฉายโรงผมว่า Multiverse of Madness/ The Eternals / GOTG 3 ลายเซ็นด้านภาพและการเล่าเรื่องตามสไตล์ผู้กำกับโดดเด่นออกจากเรื่องอื่นๆใน mcu เฟสหลัง Endgame ค่อนข้างสูงเลยนะครับ
Kevin feige ผิดคนเดียวเหรอครับ 😢 ดิสนี่ย์ไม่มาเกี่ยวข้องใช่มั้ย ผมสงสัย
อาจมีส่วน
ผมว่า ไฟดี ต้องการทำอะไรใหม่ๆที่ไม่ใช่หนัง superhero ครับ แต่คนดูไม่ซื้อครับ
MCU ยังถือว่าดี มีความหวัง แต่ DC ตอนนี้ลาแล้วลาลับ รอดูเจมกัน
พอถึงจุดจบ marvel ใจหายมากๆ😢
😢
ไม่น่าไล่เจมส์กันออกเลย