อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา | พุทธวจน | ธรรมะ | พระอาจารย์คึกฤทธิ์ วัดนาป่าพง
ฝัง
- เผยแพร่เมื่อ 26 ก.ย. 2024
- ร่วมสนับสนุนการเผยแผ่ได้ที่
-บัญชี วัดนาป่าพง ธ.ไทยพาณิชย์ เลขที่ 318-246175-6
ติดตามได้ที่ช่องทางดังนี้
Facebook : / buddhawajanareal2020
TH-cam : / @buddhawajanareal
IG : / buddhawajanareal
watnapp.com
กด Like
กด Shared
กด ติดตาม
กด กระดิ่ง เพื่อไม่พลาดสาระธรรมดีๆ ก่อนใคร
เพื่อเป็นกำลังใจแก่ทีมงาน
ขอบพระคุณทุกท่านที่ติดตาม
#พุทธวจนเรียล#พุทธวจน#วัดนาป่าพง#พระอาจารย์คึกฤทธิ์
ผมโชคดี ที่ได้ฟังธรรมครับ
น้อมกราบ สาธุๆๆเจ้าค่ะ
👏👏👏...พระ.อาจารย์. สาธยาย.ได้.ละเอียด.ดี.มาก
ๆๆๆๆ.เข้า..ก็ได้.ฟัง..เข้า.ใจ...มาก..ๆๆๆๆ..
🙏🙏🙏
น้อมกราบสาธุ สาธุ สาธุอนุโมทามิเจ้าค่ะ
สาธุ สาธุ สาธุ ขอบคุณครับ พระอาจารย์.
❤ กราบสาธุ อนุโมทนาสาธุครับ
สาธุค่ะ
น้อมกราบในพระคุณ พระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์สาวก ครับ ❤ ❤ ❤
กราบนมัสการพอจ.ค่ะ
ສາທຸສາທຸສາທຸ
สาธุ
สาธเจ้าค่ะ
น้อมกราบสาธุสาธุค่ะ
สาธุ คับ
สาธุสาธุสาธุ
สาธุ.สาธุ.สาธุ.เจ้าค่ะ
น้อมกราบสาธุๆคะ
กราบสาธุค่ะ
สาธูสาธูเจัาคะ
น้อมกราบอนุโมทนาสาธุ สาธุ สาธุ ในโอวาทธรรมอันประเสริฐเจ้าค่ะ
สาธุในธรรมด้วยนะครับ
พระพุทธ พระธรรม พระสงค์ที่ตามหามาทั้งชีวิต น้อมกราบสาธุ สาธุ สาธุ เจ้าค่ะพระคุณเจ้า
กราบอนุโมทนาสาธุ สาธุ,ค่ะ
อนุโมทนาบุญด้วยค่ะ... สาธุ🙏
กราบอนุโมทนาสาธุ สาธุค่ะ🙏🙏🙏🧎♀️
กราบ🙇🙇🙇นมัสการ พระอาจารย์ ครับ ศรัทธา คำสอน 💕 ศึกษา ในธรรม อย่างยิ่ง🙇🙇🙇สาธุๆครับ
กราบสาธุพระธรรมอันประเสริฐสาธุ สาธุ สาํุคะ
กราบสาธุพระอาจารย์คึกฤทธิ์ ผู้มีอุปการคุณอย่างยิ่ง
สาธุๆๆคุะ
🙏🙏🙏ละเอียดยิบกราบพระอาจารย์ค่ะ
กระผมเกิดมาชาตินี้ได้มีผู้มีบูญที่แท้จริงมาเกิดแล้วเอาพุทธวจนมาเปิดเผยจนกระผมได้พบและศัทธาหยั่งมั่นในพุทธวจน ขอกราบเท้าพระอาจารย์คึกฤทธิ์ ผู้มีอุประคุณ ผู้เป็นพรม เป็นแม่พ่อให้สัตานังผู้นี้เจอทางที่ถูกปิด สาธุ
กราบพระอาจารย์เจ้าค่ะ
ฟังแล้วเข้าใจง่ายค่ะ
น้อมกราบพระธรรมคำสอนของพระตถาคตเจ้า น้อมกราบพระอาจารย์ สาธุสาธุสาธุเจ้าค่ะ
กราบสาธุในพระธรรมของตถาคต สาธุ สาธุครับ
น้อมกราบสาธุพระอาจารย์ครับ
น้อมกราบสาธุ สาธุ สาธุเจ้าค่ะ🙏🏻🙏🏻🙏🏻
น้อมกราบสาธุเจ้าค่ะ
นมัสการครับพระอาจารย์ผู้เลิศด้วยปัญญา🙏🙏🙏
ขอนอบน้อมกราบสักการะ พระตถาคต ผู้อรหันตสัมมาสัมพุทธะสัพพัญญูผู้รู้แจ้งโลก น้อมกราบนพระธรรมคำสอน
น้อมกราบนมัสการพระอาจารย์ ผู้มีอุปการะ มีพระคุณ อันใหญ่หลวง ที่น้อมนำพระธรรมคำสอนที่ออกจากพระโอษฐ์มาเปิดเผย สาธุ สาธุ สาธุเจ้าค่ะ
กราบพระอาจารย์ครับ ปัญญาแทงตลอดอย่างดี สาธุครับ
เป็นธรรมบรรยาย..แบบชัดเจนที่สุดตั้งแต่ได้ฟังมาครับ สาธุๆๆ
เคยสนทนาธรรมกับคนที่เชื่อเรื่องนิพพานเป็นอนัตตาเขาก็ยกแต่คำแต่งใหม่มาอ้างตลอดและไม่เปิดใจที่จะรับรู้ว่าคำที่ศาสดาบัญญัติกับคำที่ไม่ใช่ของศาสดานั้นต่างกันอย่างไร
เช่นเขาอ้างว่าอนัตตานั้นตรงข้ามกับอัตตา.. อ้างจากพจนานุกรม.. เพราะอนัตตาคือไม่ใช่ตัวตน.. จึงตรงข้ามกับอัตตา.. โดยอ้างว่าพระพุทธเจ้าตรัสว่าธรรมทั้งปวงนั้นเป็นอนัตตา.. เพราะฉะนั้นนิพพานหรืออสังขตะธรรมนั้นจึงเป็นอนัตตา...พอเราบอกให้ดูบริบทที่พระพุทธเจ้าตรัสเรื่องสัพเพธรรมาอนัตตาเขาก็ยืนกระต่ายขาเดียวจะเชื่อแบบนี้.. และมีความพยายามจะดึงให้ผมเชื่ิอตามแบบเขาด้วยนะครับ.. ผมก็ปล่อยไปตามเหตุปัจจัยครับ..สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม.. ถ้าเขาอยากออกจากกรรมเมื่ิอไรเขาคงจะเชื่อคำที่พระพุทธเจ้าเจ้าบัญญัติ.. สาธุครับ
สาธุ
🙏🙏🙏กราบนมัสการพอจ.ผู้มีอุปการะมากนำคำตถาคต.มาพร่ำสอน.บอกสอน..สาธุๆๆค่ะ
ขอนอบน้อมกราบนมัสการท่านพระอาจารย์และท่านภันเตทุกรูปเจ้าค่ะที่มีรัตนะ๕ เปิดธรรมที่ถูกปิดเจ้าค่ะสาธุ สาธุ สาธุค่ะ🙏🙏🙏🌻🌻🌻
น้อมกราบสาธุพระเจ้าค่ะ
สาธุ กราบนมัสการพระอาจารย์ค่ะ
ด้วยศรัทธายิ่งกราบสาธุ.ฯ.ฯ.
น้อมกราบพระอาจารย์สาธุค่ะ น้อมกราบพระธรรมสาธุเจ้าค่ะ
สาธุสาธุสาธุค่ะ
กราบสาธุค่ะ🙏🙏🙏
สาธุ สาธุ สาธุ เจ้าค่ะ❤❤❤❤
น้อมกราบพระอาจารย์ครับสาธุครับ
ขอขอบพระคุณพระอาจารย์มากๆครับได้ความรู้และวิธีการกลับไปสู่ความไม่เกิดอมตะธรรม 🙏🙏🙏🙏🙏
🙇♀️อนุโมทนาสาธุเจ้าค่ะ
ศึกษาธรรมะมามากมายหลายสํานักหลายครูบาอาจารย์ แล้วมาจบที่พุทธวจนแจ่มแจ้งยิ่งนักแทงตลอดด้วยดีในคําตถาคต ตอนนี้รอทํากาละอย่างเดียวยิ่งฟังยิ่งเบิกบานในธรรม น้อมกราบพระอาจารย์ด้วยเศียรเกล้า สาธุเจ้าค่ะ
ผมก็หยุดแสวงหา เพราะเจอพุทธวจน พบคำตอบในความหมายแห่งพุทธะ แก้ความสงสัยคลายแคลงใจ จนรู้ได้ด้วยตนเอง กรายพระอาจารย์ผู้เปิดธรรม เอาธุลีในตาออก สาธุ
นี้คือสุดยอดแห่งธรรม🙏🙏🙏💓
พุทธวจน คือ หนทางที่จะพาเราให้หลุดพ้นได้จริง พระธรรมที่สอนจากพระอริยสงค์สาวก พระอาจารย์ คึกฤทธิ์ โสตถิผโล สาธุค่ะ
@@รัศมีทองคํา-ณ5ภ สาธุค่ะ
เหมือนกันครับ
อนุโมทนาสาธุ
สาธุๆๆครับ
กราบสาธุครับพระอาจารย์
ขอกราบแทบเท้ามนัสการพระอาจารย์คึกฤทธิ์ โสตถิผโล พระอริยเจ้าผู้เป็นหนึ่งในรัตนะ 5 แก้วห้าประการ ที่หายากได้ที่สุดในโลก พระอาจารย์คึกฤทธิ์ โสตถิผโล และคณะสงฆ์วัดนาป่าพง มีพระคุณอย่างสูงต่อมหาชน ที่ได้เปิดธรรมที่ถูกปิด ให้โอกาสพวกเหล่าปุถุชนที่ยังไม่เคยสดับคำของพระพุทธเจ้าให้เป็นผู้ที่ได้สดับ และได้ให้ผู้ที่มีดวงตาเห็นธรรมไปสั่งสมสุตตะ พึ่งตนพึ่งธรรมประพฤติธรรม สมควรแก่ธรรม ประพฤติชอบ ปฎิบัติชอบ และหยั่งลงมั่นต่อตถาคตถึงที่สุดโดยส่วนเดียว ให้ได้ก้าวพ้นจากอบาย ทุคติ วินิบาต นรก กำเนิดเดรัจฉาน เปรตวิสัย สาธุ!
กราบสาธุ
วัด วา สร่าง อารม
89. อินทร์. แดง
อาจารย์. ตั้ม คอ ม้า
มาดินมังกร. ม้าสีหมอก
ยินดีในธรรมของตถาตค
สาธุๆ..รัตนะ๕.
💖💖💖🙏🙏🙏
🌷🙏🙏🙏🎋
🌴15/2/2265🌾
อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา @ ญาณนิพพาน
กราบน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธะ ที่ทรงมีเมตตาสั่งสอนพระสัทธรรมอริยะความรู้แก่สัตตานัง เหล่าสัตว์ผู้ยึดติดในขันธ์5 ให้รู้ตามซึ่งหนทางพ้นทุกข์ หนทางออกจากสังสารวัฏนี้, กราบสักการะในพระสัทธรรมองค์แทนพระศาสดา ,กราบนมัสการพระสงฆ์ในธรรมวินัยของพระพุทธองค์ที่สืบทอด และดำรงไว้ซึ่งศาสนาพุทธ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพระอาจารย์คึกฤทธิ์ ผู้มีอุปการะมากในการสืบค้น แยกแยะ รวบรวม และทำความเข้าใจในพระสัทธรรมของพระพุทธองค์แล้วนำมาเผยแผ่ บอกต่อแก่มหาชน__กราบสาธุ สาธุ สาธุครับ
สาธุ ครับ
สาธุๆครับ
🏝🙏🙏🙏🎋
⚘24/2/2265🌹
เวลาโยมเจ็บกาย จะมองดูเจ็บและเห็นว่ากายนั้นไม่ใช่เรา นั่นมันมนุษย์ ที่มันต้องเจ็บเช่นนั้นเอง โยมคิดถุกไหมเจ้าคะ
สาธุครับ
แต่จะถูกต้องไหม ต้องให้พระอาจารย์ฯ
ตอบนะครับ.
(ควรหาโอกาสไปสนทนาธรรมเนาะ)
แต่ขออนุญาตแชร์ สิ่งที่เข้าใจในกรณีนี้
และประพฤติอยู่เสมอด้วยคนครับว่า..
ส่วนตัวเมื่อเกิดทุกขเวทนา จะคิดว่า
กายนี้เป็นกรรมเก่า และ พิจารณาว่า
เราเป็นผู้มีความแก่ชราเป็นธรรมดา
ไม่ล่วงพ้นความแก่ชราไปได้.
เราเป็นผู้มีความเจ็บไข้เป็นธรรมดา
ไม่ล่วงพ้นความเจ็บไข้ไปได้.
เราเป็นผู้มีความตายเป็นธรรมดา
ไม่ล่วงพ้นความตายไปได้.
เราเป็นผู้มีความพลัดพรากฯเป็นธรรมดา
ไม่ล่วงพ้นความพลัดพรากฯไปได้.
เราเป็นผู้มีกรรมเป็นของตน
เป็นทายาทแห่งกรรม
มีกรรมเป็นกำเนิด
มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์
มีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัย
เราทำกรรมใดไว้ ดีก็ตาม ชั่วก็ตาม
เราจักเป็นผู้รับผลของกรรมนั้น.
แล้ววางใจในอุเบกขา คือเจริญสมาธิ
รู้ลมไปเรื่อยๆครับ (หายไวด้วยครับ)
บุญรักษาและเจริญในธรรมนะคุณ.
🙏🌿🌿
นมัสการพระอจ.เจ้าค่ะขอเรียนถาม..เมื่อเราทำกายคตาสติอยู่กับลมแล้วทำอย่างไรถึงจะเห็นเกิดดับเจ้าค่ะ
ขออนุญาติครับ จิตรู้ลมคือตั้งอยู่กับกายหรือตั้งอยู่ที่รูป แล้วจิตก็ดับซึ่งเร็วมากซึ่งดับไปพร้อมกับลมคือรูป แล้วไปเกิดใหม่ตั้งบนเวทนา แล้วจิตก็ดับพร้อมกับเวทนาดับ แล้วจิตก็เกิดใหม่พร้อมไปตั้งอยู่ที่สัญญา แล้วจิตดับพร้อมสัญญา แล้วเกิดใหม่ที่สังขาร แล้วก็ดับทั้งจิตและสังขาร จิตก็จะเวียนไปใน4ที่ตั้งนี้ ผมเข้าใจอย่างนี้นะครับ ลองฟังพระอาจารย์อธิบายที่ผ่านมา หรือหาพระสูตรอ่านดูครับ ผิดผลาดประการใดขออภัย
ขออนุญาตครับ.
ตามที่ตามฟังธรรมะจากพุทธวจน
ที่พระอาจารย์คึกฤทธิ์แสดง ตัวผม
เข้าใจไปในแนวนี้ครับ ว่า
1.หมั่นสะสมสุตตะเนื่องๆ
2.หมั่นเจริญสมาธิเนื่องๆ
3.หมั่นละนันทิเนื่องๆ
หลักการคือ ให้ตั้งจิตอยู่กับลม
เมื่อใดที่ลืมลม นั้นแสดงว่า
รูปดับ นามเกิด จิตได้ไปรับรู้
ในนามธรรมอื่นๆ เช่น
หากไปคิดไปในอดีต เรียกว่าสัญญา
หากไปคิดไปในอนาคต เรียกว่า สังขาร
หากไปรู้สึกสุข ทุกข์ หรือไม่สุข ไม่ทุกข์
เรียกว่าอุเบกขา.
เมื่อใดที่รู้ตัวว่าจิตลืมลมแล้ว ให้รีบละ
นันทิ คือละนามธรรมทั้งหลายเหล่านั้น
มารู้รูปธรรม คือ ลมหายใจ แทน.
หมั่นรู้ลม บ่อยๆ จิตจะชินกับการปล่อย
วางอารมณ์ที่ไปรับรู้ในนามธรรมอื่นๆ
การเกิดดับ ก็จะมีมาให้เห็นเอง.
(ส่วนตัวเข้าใจอย่างนี้นะครับ.)
อุปมาได้กับคำพูดพระอาจารย์ฯที่ถาม
ผู้ใหม่ท่านนึงว่า โยมวางของหนักแล้ว
ความเบาจะมีมาเองใช่ไหม?
คำตอบเป็นหลักสากลเลยครับว่า ใช่!
บุญรักษาและเจริญในธรรมนะครับคุณ.
ขอบพระคุณทั้งสองท่านที่ให้ความกระจ่าง.
พอจะเข้าใจแล้วค่ะ สาธุ.
ติดตามทุกคริ๊ป ได้มุมมองและความเห็นที่กว้างขึ้นเรื่อยๆพุทธวจน สาธุครับ
สาธุครับ
สาธุค่ะ
น้อมกราบพระอาจารย์ กราบสาธุเจ้าค่ะ🌳🍁🍂
Sathu sathu sathu
อนิจจัง" ก็ให้ ความหมาย ไม่เที่ยง
ทุกขัง" ก็ ให้ความหมาย แห่งความเป็น ทุกข
อนัตตา" ก็ ให้ความหมาย ไม่ไช่ ตัว ไช่ตน
การ เอา นิยาม ที่ว่า สิ่งใดไม่เทียง สิ่งนั้นเป็น ทุกข และ ต่อสิ่งใด เป็นทุกข สิ่งนั้น เป็น อนัตตา นี่ ต้องดูว่านี่กล่าวในสถานะ แห่งธรรม นั้นด้วย โดยมาเทียบ เป็นหลัก
และแต่ที่สำคัญหนัก นี่ ก็ยังดึงนิยาม นิโรธ..มา ใส่ในนิยาม อนิจจังอีก
ร่วมแล้ว ก็มา วนให้ ความหมาย อยู่แค่ อนิจจา เหมือนเดิม ในทั้ง สถานะธรรม
🙏🙏🙏นมัสการพระอาจารย์ผู้มีอุปการะมากเปิดธรรมที่ถูกปิดเป็นรัตนะ5ที่หาได้ยากในโลกและสาธุพระธรรมอันประเสริฐเจ้าค่ะ🙏🙏🙏26/6/63
ลล
เปิดฟังอ.คึกฤทธิ์บรรยายบ่อยๆ ในหัวข้อที่น่าสนใจ ซึ่งก็ได้ประโยชน์และความชุ่มฉ่ำใจในพระธรรม ปนเปไปกับความรู้สึกเป็นห่วงอย่างยิ่ง เพราะท่านอธิบายถูกบ้าง ผิดบ้าง โดยเฉพาะในเรื่องไตรลักษณ์ เพราะเป็นหลักธรรมที่สำคัญเป็นปากประตูอันจะนำผู้ฝึกไปถึงนิพพานได้ ก็พยายามท้วงทุกครั้งไปว่า
ไตรลักษณ์ เป็นสามัญลักษณ์ 3ประการที่เกิดขึ้นในเวลาเดียวกัน ไม่ใช่เกิดขึ้นเรียงลำดับกันอย่างที่ท่านอธิบาย มันเป็น three in one เปรียบไตรลักษณ์ก็เหมือนสามเหลี่ยม
คือขาดด้านใดด้านหนึ่งไปไม่ได้ต้องมี3ด้านพร้อมๆกันจึงเรียก3เหลี่ยม ส่วนเราจะเห็นด้านใดก่อนก็แล้วแต่มุมมองของผู้ฝึกว่าสะสมปัญญามามากแค่ไหน แต่โดยหลักการคือพระพุทธองค์ ทรงใช้อนิจจลักษณะมาสอนนำ
ก่อน เพราะเห็นได้โดยง่าย เมื่อฝึกเห็น
อนิจจลักษณะไปบ่อยๆก็จะเกิดปัญญาที่เรียกว่า โยนิโสมนสิการ และปัญญาชนิดนี้เองที่จะช่วยให้เห็นอีก2ลักษณะได้ง่ายขึ้น
หากจะเรียงความง่ายยากของการเห็นไตรลักษณ์ ก็สามารถเรียงจากง่ายไปยากได้ดังนี้คือ อนิจจัง อนัตตา ทุกขัง
ถาม ทำไมทุกขังจึงเห็นยากที่สุด
ตอบ เพราะทุกขังคือสภาวะการบีบคั้นซึ่งไม่สามารถเห็นได้ผ่านทางกาย เพราะมันเป็นสภาวะที่เห็นโดยยาก ดังนั้นหากต้องการทำความรู้จักจึงต้องทำให้ทุกขเวทนาทางกายเกิดขึ้นจึงจะเห็นทุกขังผ่านผลทางกายซึ่งเป็นวิธีที่พระพุทธองค์ไม่ทรงแนะนำ
ถาม แล้วเราจะเรียนรู้ทุกขังได้อย่างไร
ตอบ เราสามารถเรียนรู้ทุกขังด้วยโยนิโสมนสิการ คือปัญญาที่ได้จากการเห็นอนิจจังและอนัตตา ปัญญานี้มีอานุภาพมากพอที่จะทำให้ผู้ฝึกเห็นและเข้าใจสภาวะทุกขังซึ่งเป็นสภาวะบีบคั้น โดยตรง ไม่ใช่เรียนรู้จากทุกขเวทนา ซึ่งเกิดจากผลของการถูกบีบคั้น
ถาม แล้วเราจำเป็นต้องเห็นสภาวะทุกขังไหม
ตอบ จำเป็น เพราะจะเป็นประตูไปสู่นิพพิทา คือความเบื่อหน่ายในระดับสูง เพราะนิพพิทาญาณมีหลายระดับ การเห็นอนิจจังและอนัตตา ทำให้เกิดนิพพิทาญาณได้ในระดับหนึ่ง แต่ไปไม่ถึงจุดที่จะทำให้เข้าใจว่า "มีแต่ทุกข์เท่านั้นที่เกิดขึ้น และมีแต่ทุกข์เท่านั้นที่ดับไป"
และก็ยังไม่เคยได้ยินว่ามีสาวกครูบาอาจารย์ท่านใดสอนว่า นิพพานเป็นอนัตตา
แต่ถ้าตามหลักธรรมที่อธิบายไว้ เขาแสดงว่า
สังขตและอสังขตธรรมเป็นอนัตตา เรื่องนี้ก็ย่อมรับว่า ไม่ทราบยังฝึกไปไม่ถึง จึงไม่สามารถสรุปว่าใช่หรือไม่ใช่ แต่ก็จะไม่โจมตีใดๆ เพราะเรายังไปไม่ถึงสภาวะนั้น มีแต่ผู้ที่ฝึกไปถึงแล้วเท่านั้นที่จะบอกได้ว่า หลักธรรมที่เขียนนั้นมัน ผิดหรือถูก เรื่องใดที่เราสงสัย ยิ่งเป็นเป็นเรื่องสภาวะระดับอสังขตะธรรม ควรใช้วิธีตั้งข้อสงสัยไว้ ดีกว่าการสรุปด้วยตนเองเพราะอาจผิดพลาดได้ เว้นเสียแต่ ผู้นั้นจะไปถึงแล้ว
ท่านพอจ.คึกฤทธิ์ สอนน่าฟังอยู่แล้ว ดังนั้นจึงไม่ควรแวะไปคุยในเรื่องตำหนิพระสาวกรูปอื่นเลยค่ะ ทุกครั้งที่ฟังก็ไม่สบายใจ
อ่านคอมเม้นท์ของคุณ 2-3รอบ
ก็อนุมานได้ว่า นี่มันสาวกภาษิต
ขอพระสูตรที่ว่า ทุกขัง คือ สภาวะ
บีบคั้นอะไรที่ว่าด้วยได้ไหมครับ?
สภาวะ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา มัน
จะเกิดขึ้นพร้อมกันได้อย่างไร?
ในคลิปพระอาจารย์ท่านใช้กระดาษ
ทิชชู่มาเป็นสื่อการสอน ซึ่งดูยังไง
ก็ไม่ได้เกิดขึ้นทีเดียวพร้อมกันนะครับ.
ท่านอธิบายว่า
สิ่งใด สิ่งหนึ่งเมื่อมีเกิดปรากฏ
สิ่งนั้นๆย่อมมีการเสื่อมปรากฏ
และสิ่งนั้นก็มีการเสื่อมอยู่เรื่อยๆ
(ขั้นตอนนี้ เรียกว่า อนิจจัง ใช่มั้ย?)
จนถึงดับ สลาย หมดสิ้นไป
(ถึงขั้นตอนนี้ เรียกว่า ทุกขัง ใช่มั้ย?)
เมื่อสิ่งใด สิ่งหนึ่งนั้นดับ สลายหมดสิ้นไป
นั้นเรียกว่า อนัตตา ใช่มั้ย?
ถามครับ มันจะเกิดพร้อมๆกัน
ตามที่คุณเรียกว่า Three in one
ได้อย่างไร?
แล้วมีพระสูตรไหนของพระพุทธเจ้า
ที่ว่า ต้องเห็น อนิจจัง อนัตตา ทุกขัง
ในเมื่อพระพุทธองค์ทรงตรัสสอนว่า
สัพเพ สังขารา อนิจจา
สัพเพ สังขารา ทุกขา
สัพเพ สังขารา อนัตตาติ
(สัพเพ ธัมมา อนัตตาติ)
ผมว่าคุณยังรู้มาผิดๆ ยังยึดในบริบท
ของฝ่ายสาวกภาษิตตาอยู่ แล้วมา
ด้อยค่าคำพระพุทธเจ้าที่พระอาจารย์
ท่านนำมาแสดง.
พระอาจารย์ฯท่านมีหลักฐานที่น่า
เชื่อถือได้มาแสดง ของคุณล่ะครับ?
ธรรมะที่แท้จริงของพระพุทธเจ้า
ไม่เลี้ยวลด หย่อนยาน ซับซ้อนอะไร
แบบที่คุณกล่าวอ้างมาเลย ขอเพียง
เราซึ่งเป็นสาวกผู้เดินตาม ก็จงเดินตาม
ทางที่พระตถาคตแสดงไว้ ไปอย่าง
ว่าง่ายเถอะ ทรงสอนให้ทำอะไร ก็ทำไป
อย่าไปคิดเยอะ ปรุงแต่งเยอะนัก.
หากปรุงแต่งแยะจัด ก็จะเป็นอย่างคุณ
จำได้ หมายรู้มาผิดๆ แถมมาด้อยค่า
คำพระพุทธเจ้าเสียเองอีก.
ระวังจะประสบสิ่งที่ไม่ใช่บุญ
เป็นอันมากนะคุณ.
@@katanajoe7294 ก็รู้สึกยินดีที่มีผู้เข้ามาอ่านและออกความเห็น จะได้รู้ว่าการฟังพอจ. และการอ่านความเห็นที่แตกต่างจากพอจ.จะมีผลออกมาเช่นไร
ก็อย่างที่เขียนไว้ว่า น่าเป็นห่วงว่าผู้ฟังจะมีความเข้าใจผิดในเรื่องไตรลักษณ์ไปตามที่พอจ.สอน คุณคือตัวอย่างหนึ่งที่แสดงออกมาให้เห็นตามความเห็นที่เขียน จึงขอตอบความเห็นของคุณดังนี้
1 ไตรลักษณ์คือสามัญลักษณะ3ประการที่ปรากฎอยู่ในรูปและนามเสมอไป ด้วยตัวของมันเอง เป็นสภาวะธรรมล้วนๆเฉพาะตัวในทุกๆสรรพสิ่ง ส่วนอิทัปปัจจยตา เป็นกฎว่าด้วยความเป็นไปของสรรพสิ่งบนโลก มันเป็นคนละกฎและไตรลักษณ์ก็เป็นเอกเทศเหนืออิทัปปัจจยตา จะเอาอิทัปปัจจยตามาอธิบายเหนือไตรลักษณ์ไม่ได้ นอกจากจะใช้เป็นบางกรณีที่ต้องยืมกฎไตรลักษณ์มาช่วยเท่านั้นในการอธิบายเพื่อให้เห็นภาพ กล่าวคือ กฎอิทัปฯไม่ได้ควบคุมกฎไตรลักษณ์ มันเป็นคนละข้อกัน
@@katanajoe72942 การเอากระดาษมาอธิบายกฎไตรลักษณ์จะว่าผิดก็ผิด จะว่ามันไม่ผิดก็ไม่ผิด อยู่ที่เนื้อหาการอธิบายว่าอธิบายไปในแง่ใดอย่างในกรณีของพอจ. ที่อธิบายแล้วออกมาในรูป สามัญลักษณะเรียงกันเกิดแบบอิทัปฯ นี่ ถือว่าผิด
ถ้ายกตัวอย่างในเรื่องกระดาษ การอธิบายในแง่ไตรลักษณ์ก็คือ กระดาษเป็นของสิ่งหนึ่ง(รูป)ที่มีลักษณะไม่เที่ยงด้วยตัวมันเอง โมเลกุลของกระดาษประกอบไปด้วยอะไรมีลักษณะอย่างไร (ไม่เที่ยงอย่างไร)อตอมในกระดาษแปรเปลี่ยนไปตามกาลเวลา จะนานเท่าใดก็ตาม วันหนึ่งมันก็จะกลายสภาพไปด้วยตัวมันเองและที่สุดความเป็นกระดาษก็จะยุติลงกลายเป็นสิ่งอื่นรูปอื่นด้วยอำนาจของไตรลักษณ์
อะไรทำให้ความเป็นกระดาษหายไป โดยที่ไม่ต้องมีปัจจัยภายนอกเข้าไปยุ่งเกี่ยว
ถ้าจะใช้ภาษาทางโลกที่ใกล้เคียงที่สุดอธิบายการหายไปของกระดาษก็น่าจะใช้คำว่าย่อยสลายด้วยตัวมันเอง
หากอธิบายในแง่อิทัปฯ ก็ต้องเริ่มที่ว่า กระดาษแต่เดิมมาจากไหน มาจากอะไรก่อนหน้าเป็นกระดาษมันเป็นอะไร ทำไมมันถึงมาเป็นกระดาษ แล้วการฉีกกระดาษ มันเป็นเพราะมีกำลังจากภายนอกมากระทำ ถ้าจะเขียนให้ถูกตามกฎอิทัปฯคือ เพราะมีแรงจากภายนอกมาทำให้ กระดาษ4เหลี่ยมใหญ่กลายเป็นกระดาษ4เหลี่ยมเล็ก มันไม่ได้เสื่อม ด้วยกฎไตรลักษณ์ แต่มันเสื่อมเพราะ กฎที่ว่า เพราะมีสิ่งนี้จึงมีสิ่งนี้ กระดาษเปลี่ยนรูปร่างเพราะมีแรงมากระทำต่อมัน และสำหรับคนบางคน การที่กระดาษถูกกระทำให้เล็กลง มันอาจจะไม่ใช่ความเสื่อม มันอาจจะเป็นความพอดีต่อบุคคลที่ฉีก(แรงที่กระทำ)เขาพึงพอใจที่จะใช้กระดาษขนาดเล็กๆเพื่อทำบางสิ่ง คือเขาพอใจกับกระดาษแผ่นเล็กมากกว่ากระดาษแผ่นใหญ่ แบบนี้ เขาก็ไม่ถือว่าเสื่อม ว่าเป็นทุกข์ และสำหรับคนที่อยากใช้กระดาษแผ่นใหญ่ มันก็คือความเสื่อมมันก็คือความทุกข์เพราะความไม่พอใจ(กระดาษมันไม่ได้ทุกข์ด้วย)มันเป็นขบวนการ เป็นตัวอย่างหนึ่งของความเป็นไปในโลก
ดังนั้นความเสื่อมอาจจะใช้ได้ในกฎอิทัปฯ แต่ใช้ไม่ได้( หรือไม่เหมาะสม ซึ่งจะต้องอธิบายแบบมีเงื่อนไขในแง่ของทุกขัง เมื่อมีทุกขเวทนาปรากฎขึ้น)กับกฎไตรลักษณ์ เพราะในสภาวะแท้จริงของสรรพสิ่ง ไม่มีคำว่าเสื่อม มีแต่แปรเปลี่ยนไปจากเดิม
คำว่าเสื่อม เกิดจากอารมณ์ของผู้ที่ไม่พอใจต่อผลของการแปรเปลี่ยนนั้น เช่นแต่ก่อนในวัยเยาว์มีรูปร่างหน้าตาเต่งตึง แล้วเมื่อเวลาผ่านไปสูงวัยขึ้นก็หย่อนยาน จึงเกิดความรู้สึกว่า การเปลี่ยนแปลงนั้นคือเปลี่ยนไปสู่ความเสื่อม เป็นความทุกข์ แต่หากคือว่า เด็กเล็ก จากแรกเกิด แล้วค่อยๆเปลียนแปลงไปสู่เด็กน้อย น่ารักน่าเอ็นดูและต่างเฝ้าดูเพื่อเห็นความเปลี่ยนแปลงนั้นอย่างตั้งใจ และหวังให้การเปลี่ยนแปลงนั้นเกิดขึ้นเร็วๆ และต่างก็พากันเรียกว่าเจริญ ไม่ใช่เสื่อม
กฎไตรลักษณ์คือคุณลักษณะเฉพาะคือเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาในทุกๆสรรพสิ่ง(รูปนาม) ความชอบไม่ชอบต่อผลของการเปลี่ยนแปลงของบุคคลต่างหากที่กำหนดว่า แบบนี้เสื่อม แบบนี้เจริญ และหากให้กฎของไตรลักษณ์ดำเนินต่อไปโดยบุคคลไม่เข้าไปขวางกั้นหรือต่อต้าน สิ่งที่เป็นทุกขเวทนาก็จะไม่เกิดขึ้น
หากแต่เมื่อไหร่ที่คนอยากจะต่อต้านหรือท้าทาย สงสัยไหมทำไมการยืนเฉยๆไม่เคลื่อนไหวนานนาน จึงทำให้เกิดความรำคาญใจและทุกขเวทนาตามร่างกายส่วนต่างๆได้ เพราะการหยุดร่างกายโดยไม่เคลื่อนไหว เป็นสิ่งตรงข้ามกับกฎอนิจจะลักษณะนั่นเอง ทุกขเวทนา ทั้งทางกายและใจจึงปรากฎขึ้น นี่คือตัวอย่างเล็กๆให้เห็นอานุภาพของไตรลักษณ์ที่ ครอบงำและควบคุมรูปและนามอยู่
ดังนั้นหากจะอธิบายถึงไตรลักษณ์โดยสภาวะธรรมล้วนๆ จึงไม่ควรใช้คำว่าเสื่อมเพื่ออธิบายทุกขลักษณะ และทุกขลักษณะหรือทุกขัง ก็ไม่ใช่ทุกขเวทนา เพราะทุกขเวทนาเป็นผลอันเกิดจากการต่อต้านทุกขลักษณะเท่านั้น
สรุปคือเฉพาะในเรื่องกฎไตรลักษณ์และกฎอิทัปปัจจยตา มันเป็นคนละเรื่องกัน และกฎอิทัปปัจจยตาไม่สามารถนำมาอธิบายเสมือนมันควบคุมกฎไตรลักษณ์
และการจะอธิบายไตรลักษณ์นั้น จะใช้การวิเคราะห์และตีความถ้อยคำเพียงอย่างเดียวโดยขาดการปฏิบัติอย่างจริงจังไม่ได้ เพราะจะไม่มีวันเข้าใจกฎไตรลักษณ์อย่างแท้จริง
@@adketpower3624
คุณเข้าใจแบบนี้เหรอครับ?
ผมมีคำแนะนำเพียงสามอย่างแก่คุณ
ถ้ายังมีวาสนาต่อพระพุทธศาสนาอยู่นะ
คือ..
1.คุณต้องวางสิ่งที่คุณรู้มาก่อนให้หมด
เพราะสิ่งที่คุณรู้มา ที่คุณเข้าใจอยู่น่ะ
มันขัดกับหลักธรรมะตามพุทธวจน
ความรู้ของคุณ เอาง่ายๆ มันไม่มี
หลักฐานอ้างอิง แบบพุทธวจนที่
พระอาจารย์นำมาแสดงแก่มหาชน
คำพูดนี้ของคุณคือคำปรุงแต่ง
หรือคุณจำมาผิดๆ.
2.ไปสะสมสุตตะ และทำสมาธิให้มาก
อย่าเพิ่งอวดรู้ หรืออวดภูมิอะไร เพราะ
สิ่งที่คุณอธิบายมา มันเลอะเทอะ
คุณพาคนไม่รู้ออกทะเล หาฝั่งกลับ
ไม่ได้.
3.วนทำทั้งสองข้อเป็นประจำ
ขอให้คุณโชคดี เจริญในธรรมะ
ที่แท้จริง มีหลักฐาน หลักฐานที่แก่กว่า
พระภิกษุใดในประเทศนี้นะครับ.
@@katanajoe7294
1 อะไรคือสิ่งที่ขัดกับหลักธรรมะตามคำสอนในพระพุทธศาสนา ถ้าคุณเห็นว่าข้ออธิบายที่ผู้เขียนได้เขียนไป ผิดตรงไหนก็ชี้แจ้งและแสดงออกมาให้ชัดเจน หากว่าข้อคิดของคุณถูกต้องก็อาจจะเป็นประโยชน์แก่ผู้เขียนและผู้อื่นที่ได้มาอ่านเจอ อย่าเขียนรวบแบบสรุปว่าสิ่งที่ผู้เขียนเขียนนั้นมันไม่ถูกต้องโดยไม่มีคำอธิบายโต้แย้งเพราะมันไม่ได้แสดงภูมิรู้และสภาวะธรรมของคุณแต่อย่างใด มันจึงไม่เกิดประโยชน์เลย
2 อะไรคือคำนิยามว่านี่คือคำสาวก หากจะพูดกันตรงๆ เวลาที่พระภิกษุ(ระดับครูอาจารย์ที่แท้จริง) แสดงธรรมก็คือการถ่ายทอดคำสอนของพระพุทธองค์ทั้งสิ้น ไม่มีใครจะกล้าแต่งใหม่หรอก หากแต่ภูมิธรรมและความรู้ในการตีความในแต่ละหลักธรรมนั้นมีไม่เท่ากัน(ทั่วผู้สอนและผู้ฟัง) คือมากบ้าง น้อยบ้างเป็นธรรมดา และบ้างครั้งก็พยายามอธิบายด้วยภาษาง่ายๆเพื่อสร้างความเข้าใจให้ศิษย์และผู้ฟังซึ่งก็ย่อมมีตื้นบ้าง ลึกบ้าง เป็นธรรมดาอีกเช่นกันตามภูมิธรรม และสิ่งนี้ก็เป็นสิ่งที่พอจ.คึกฤทธิ์ก็กระทำอยู่เป็นประจำเสมอๆ คือพยายามอธิบายสภาวะธรรมที่คิดส่าสำคัญ โดยปรารถนาให้ผู้ฟังเข้าใจให้มากที่สุด เช่นการยกตัวอย่างกระดาษขึ้นมาอธิบายคุณสมบัติไตรลักษณ์ ซึ่งพอจ.ตีความตามที่ท่านเข้าใจว่า อนิจจังต้องเกิดก่อน แล้วจึงมีทุกขังเกิดตาม แล้วจึงมีอนัตตาเกิดตามมาอีก การอธิบายแบบเชื่อมเป็นสายแบบนี้ มันอยู่ตรงไหนในพระไตรปิฎก ก็อยากรู้เหมือนกัน และวิธีการอธิบายของพอจ.ด้วยถ้อยคำของพอจ.เองนั้นถือว่าเป็นคำสาวกไหม หากท่านตำหนิและด้อยค่าพอจ.ท่านอื่นที่พยายามอธิบายหลักธรรมจากยากให้เข้าใจง่ายว่าเป็นสาวกภาษิต คำของท่านก็ไม่พ้นจากข้อตำหนิที่ท่านตั้งขึ้นมาเหมือนกัน คือเป็นแค่คำสาวก
และหากพอจ.สามารถตีความไตรลักษณ์ในแง่นั้นได้ คนอื่นๆทุกคนที่ศึกษาธรรมะมาเช่นกัน ก็สามารถตีความตามความรู้และตามสภาวะธรรมของตนเองได้เช่นกัน ส่วนใครจะตีความผิดหรือตีความถูก ก็เป็นเรื่องที่ตนเองจะรู้อยู่แก่ใจว่า ความรู้ที่ได้มานั่น มาจากการอ่าน ท่องจำหรือมาจากปฏิบัติ
ผู้ปฏิบัติเป็นแล้วเท่านั้นหรอก ที่จะกล้าทักท้วงคำผู้อื่นได้ และจะเลือกทักท้วงเฉพาะเรื่องที่สำคัญๆที่จะส่งผลไปยังผู้ปฏิบัติอื่นๆเท่านั้น และการเขียนก็เขียนในรายละเอียด ไม่ได้เขียนแบบสรุป เพื่อที่ว่าผู้ฝึกตนท่านใดมีโอกาสมาอ่าน จะได้ใช้เป็นข้อมูลพิจารณาเพื่อไตร่ตรอง เพื่อพิสูจน์ด้วยตนเองว่าอันไหนจริง ซึ่งจะประจักษ์แก่ตนเองตามผลแห่งการปฏิบัติในเวลาต่อไป
ตถตา
ใช่สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามถนนทางเดินไปของเขาเอง..สัตว์ืั้ง4.ภพ.ที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้..
กราบอนุโมทนาสาธุค่ะ🙏🙏🙏🌹
สาธุ สาธุ สาธุ
สาธุ
สาธุคาะ
สาธุค่ะ
ธรรมะตอนนี้คิดตามดีๆเข้าใจจะพบทางออกได้เลย
อนุโมทนาสาธุค่ะ
กราบสาธุธรรมเจ้าค่ะ
กราบพระธรรมตถาตต. น้อมกราบพระอาจารย์เจ้าค่ะ
🙏🙏🙏
กราบนมัสการพระอาจารย์ค่ะ
กราบสาธุเจ้าค่ะ
กราบสาธุ
พระอรหันพระอาจารย์คึกฤทธิ์ โสตถิผโล ขอน้อมทั้งกายและใจสักการบูชาโดยครอบครัวพันธเสนสาธุ.สาธุ.สาธุ.
สาธุครับ
สาธุๆๆครับ
สาธุๆๆครับ
สาธุ สาธุ สาธุครับ
กราบสาธุเจ้าค่ะ
สาธุ