เสียงนกขุนแผนหรือนกสาลิกาดง Red-billed blue magpie ชัดๆ 2021

แชร์
ฝัง
  • เผยแพร่เมื่อ 27 ก.ย. 2024
  • #นกขุนแผน
    #Red-billed blue magpie
    • นกปรอดคอลายหรือนกดอกแต... เสียงนกขอด
    • เสียงนกขมิ้นน้อยธรรมดา... เสียงนกขมิ้นน้อยธรรมดา
    • เสียงนกเขียวก้านตองหน้... เสียงนกเขียวก้านตอง
    • เสียงนกขมิ้นท้ายทอยดำ ... เสียงนกชมิ้นท้ายทอยดำ
    • เสียงนกกางเขนดง นกบินห... เสียงนกกางเขนดง
    นกขุนแผน
    Urocissa erythrorhyncha.jpg
    สถานะการอนุรักษ์
    ความเสี่ยงต่ำ (IUCN 3.1)
    การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์
    อาณาจักร: Animalia
    ไฟลัม: Chordata
    ชั้น: Aves
    อันดับ: Passeriformes
    วงศ์: Corvidae
    สกุล: Urocissa
    สปีชีส์: U. erythrorhyncha
    ชื่อทวินาม
    Urocissa erythrorhyncha
    (Boddaert, 1783)
    Urocissa erythrorhyncha map.jpg
    แผนที่แสดงการกระจายพันธุ์ของนกขุนแผน
    ชื่อพ้อง
    Cissa erythrorhyncha
    Urocissa erythrorhyncha
    สำหรับนกขุนแผนจำพวกอื่น ดูที่: วงศ์นกขุนแผน
    นกขุนแผน หรือ นกสาลิกาดง (อังกฤษ: Red-billed blue magpie; ชื่อวิทยาศาสตร์: Urocissa erythrorhyncha) จัดเป็นนกขนาดเล็กชนิดหนึ่ง อยู่ในวงศ์ Corvidae อันเป็นวงศ์เดียวกับกา
    นกขุนแผนเป็นนกที่มีสีสันสวยงามมาก กล่าวคือ โดยมีบริเวณหัวถึงลำคอสีดำ ขนบริเวณลำตัวมีสีฟ้าแกมม่วง ส่วนโคนปีกมีสีฟ้าแกมม่วง ด้านปลายปีกสีขาว มีหางสวยงามและยาวมาก มีสีฟ้าแกมม่วงส่วนบริเวณปลายหางมีสีขาว มีขนหางคู่บนยาวกว่าคู่อื่น ๆ ปากสีแดง ขาสีแดงส้มและตาสีดำ ทั้งตัวผู้และตัวเมียมีลักษณะที่คล้ายคลึงกันมาก จนยากที่จะแยกได้ออกจากการมองแค่ภายนอก
    ความยาวจากปลายปากถึงปลายหางประมาณ 65-68 เซนติเมตร และมีขนหางยาวมากราว 37-42 เซนติเมตร หรือ 2 ใน 3 ของความยาวจากปากถึงปลายหาง ขนหางค่อนข้างแข็ง มี 12 เส้น ซึ่งแต่ละคู่ยาวลดหลั่นกันลงไป โดยมีขนหางคู่บนสุดยาวที่สุด ซึ่งยาวกว่าขนหางคู่ที่ 5 อย่างเห็นได้ชัด ปลายขนหางแต่ละเส้นมีลักษณะมน ขนหางทุกเส้นมีสีฟ้าอมม่วง แต่ปลายขนหางแต่ละเส้นเป็นแถบสีขาว และเฉพาะปลายขนหางคู่ที่ 1 ถึงคู่ที่ 5 มีแถบสีดำถัดจากแถบสีขาวด้วย ปลายขนหางคู่ที่ 6 ซึ่งเป็นคู่บนสุดโค้งลงมาเล็กน้อย
    พบกระจายพันธุ์ตั้งแต่เชิงเขาหิมาลัยจนถึงจีน, พม่า และภูมิภาคอินโดจีน ในประเทศไทยพบเกือบทุกภาคยกเว้นภาคใต้
    มีพฤติกรรมชอบอาศัยอยู่รวมกันเป็นฝูงเล็กๆ ตามป่าละเมาะ, ป่าโปร่ง มักส่งเสียงร้องขณะที่มันเริ่มออกหากิน บางเวลาอาจลงมาหากินตามพื้นดินหรือซอกก้อนหิน ซอกไม้ผุ ๆ อาหารได้แก่ แมลงชนิดต่าง ๆ เช่น ด้วง, ปลวก, หนอน, หอยทาก, กิ้งก่า, จิ้งจก, จิ้งเหลน, งู รวมทั้งปาด, ตะขาบ และหนู แม้แต่ไข่นกและลูกนกชนิดอื่นในรัง รวมทั้งซากสัตว์ด้วย
    ฤดูผสมพันธุ์อยู่ในช่วงประมาณเดือนมีนาคม-พฤษภาคม จะทำรังโดยนำกิ่งไม้เล็กมาขัดสานกันเป็นแอ่งตรงกลาง และรองพื้นด้วยรากไม้หรือใบไม้ที่พอจะหาได้ในบริเวณนั้น ตัวเมียจะวางไข่ครั้งละ 3-6 ฟอง อยู่สูงจากพื้น 6-8 เมตร มีสถานะเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พุทธศักราช 2535 แต่ก็นิยมเลี้ยงเป็นสัตว์เลี้ยงเพราะสีสันและหางที่สวยงาม

ความคิดเห็น • 1

  • @Channel-dk9zq
    @Channel-dk9zq ปีที่แล้ว

    ราคากีบาท