ทำงานเพื่อเงินแล้วหมดไฟ ทำไงดี / Have a nice day! EP41 โดย นิ้วกลม
ฝัง
- เผยแพร่เมื่อ 27 มี.ค. 2021
- ทำงานเพื่อเงินแล้วหมดไฟ ทำไงดี / Have a nice day! EP41 โดย นิ้วกลม
ติดตามชมรายการสด ‘Have a nice day!’ จันทร์ - ศุกร์ 7:00-8:00 น. ได้ทาง FB : Roundfinger / TH-cam : Roundfinger Channel / Clubhouse : Roundfinger
⏳ ดูย้อนหลังได้ทุกตอน ทาง TH-cam : Roundfinger Channel และทาง Podcast
😊 ถ้าชอบเนื้อหา ฝากกด Like และ กด Subscribe ไว้ด้วยนะคะ
😊 ร่วมสนับสนุนรายการ have a nice day! ให้อยู่อย่างยั่งยืน ได้ที่ ธ.กสิกรไทย 729-2-31323-8 สาธิดา เฮ้งสวัสดิ์
📚 สนใจหนังสือของนิ้วกลมและสำนักพิมพ์ KOOB (คู้บ) กดลิ้งค์นี้ได้เลย
☎️ ติดต่องานนิ้วกลม ได้ที่ 087-712-5874 (คุณหนึ่ง)
FB : / roundfinger.book
LINE : @roundfinger
IG : Roundfinger
Clubhouse : Roundfinger
Spotify : spoti.fi/3y9NUbY
Apple Podcast : apple.co/36YqJ9a
SoundCloud : bit.ly/2TjmGRq
Podbean : bit.ly/3h5P4zB
Blockdit : www.blockdit.com/roundfinger
#Roundfinger #นิ้วกลม #ความสุขโดยสังเกต #ทักษะความสุข #Haveaniceday - บันเทิง
😊 ถ้าชอบเนื้อหา ฝากกด Like และ กด Subscribe ไว้ด้วยนะคะ
😊 ร่วมสนับสนุนรายการ have a nice day! ให้อยู่อย่างยั่งยืน ได้ที่ ธ.กสิกรไทย 729-2-31323-8 สาธิดา เฮ้งสวัสดิ์
2:25 - เปิดทักทาย
8:32 - เริ่มเล่าเรื่องครับ
ขอบคุณมากครับ
33:45 อันนี้ยอมรับว่าจริงเลยค่ะ จากใจพยาบาลที่ทำงานในโรงพยาบาล เจ้าหน้าที่ทุกคนมีส่วนในการช่วยเหลือคนไข้มากๆค่ะ เพราะในโรงพยาบาลไม่ได้มีแค่หมอและพยาบาล มีทั้งหนักเวชชระเบียน พี่เวรเปล แม่บ้านและอื่นๆอีกมากมาย หากขาดตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่งไปจะทำให้การทำงานทั้งหมดไม่มีประสิทธิภาพและจะเป็นอันตรายต่อคนไข้ได้ค่ะ
ฟังทุกวันค่ะบ้านอยู่ติดส.ป.ป.ลาวชอบมากค่ะ
5 คะแนน เต็มค่ะ
จะบอกคุณเอ๋ว่า ฟังทุกวัน แต่ฟังแห้ง ..
เนื้อหาของวันนี้ ขอบอกว่า *โดน* มากทุกบรรทัด ทุกคำ... ชอบมากค่ะ เป็นเหมือน wake up call ของเราจริงๆ👍🌟
คงกลับมาฟังอีกหลายๆ รอบ..
“ทำงานไปถึงจุดหนึ่ง จุดที่โอเคกับเงินเดือนแล้ว แต่แล้วก็เกิดคำถามว่ายังไงต่อดี”
ผมตกอยู่ในภวังค์นี้เลยครับ พยายามหาแรงจูงใจภายในอยู่เหมือนกันครับ ขอบคุณที่นำเอาเนื้อหาดีๆ แบบนี้มาแบ่งปันครับ เดี๋ยวจะไปหนังสือ “Are you fully charged” มาอ่าน ขอบคุณครับ
ขอบคุณมากครับที่แชร์เรื่องดีๆครับ
เห็นด้วยกับเรื่องสังคมหล่อหลอมให้เราสนใจแต่สิ่งภายนอก การแข่งขัน ต้องเก่งต้องดี
สุดท้ายก็ทำเพื่อตัวเองให้มี ลาภ ยศ สรรเสริญ แต่ภายในไร้ความหมาย
ผมจึงเริ่มมองหาความหมายที่งานเชื่อมโยงกับผู้อื่นแทนครับ
แล้วพบว่าแต่ละวันเรามีชีวิตที่มีคุณค่ามากขึ้นครับ ค่อยๆทำทีละนิดเพื่อส่วนรวมกันครับ :)
คลิปนี้ผมให้4เต็ม5ครับ ให้น้อยๆบ้างเดะเวลาให้เยอะเเล้วจะดีใจน้อยลง ชอบเรื่องนี้ครับมันทำให้เข้าใจอะไรมากขึ้น โดยรวมที่ฟังคุณนิ้วกลมพูดรู้สึกเหมือนกำลังเรียนเกี่ยวกับมนุษย์อย่างละเอียดครับ ขอบคุณสำหรับผลวิจัยครับ ผมชอบมาก
ดี..ครับ ประโยชน์ มากมาย
เป็นอีกหัวข้อที่ดีมากๆ เลยค่ะ เอาไปปรับ mindset ใหม่ในการทำงานให้ดีขึ้นได้อีกค่ะ ขอบคุณนะคะ....ที่ผลิตคอนเทนท์ดีๆ ออกมาให้บริโภคทุกวัน 🙏🙏🙏👍👍
4:18 ว๊าบของน้องข้าวต้มมัดค่ะ
ขอบคุณครับ
ชอบเนื้อหามากๆ ขอบคุณสำหรับการแบ่งปันครับ
ปล. ดนตรีตอน intro ผมว่าเสียงมันแตกแปลกๆครับ เสียงตอนพูดชัดและ clear กว่ามากเลยครับ
ขอบคุณมากนะครับ มองเห็นเงินเเละเเรงบันดาลใจจริงๆของตนเองครับ
พี่นิ้วกลมพักผ่อนเยอะๆนะค้า ✨
บางคนเห็นแล้วก็ลืมมันไป ขอบคุณมากค่ะ
มาดูแบบ Live ไม่ทัน ทักทายข้าวต้มมัดคร้าา
ต้มมัดน่ารักจังค่ะ น่าฟัด😘
5 stars, thank you
ต้มมัดน่าร๊าาาก
กำลังจะหมดไฟพอดี ขอบคุณค่ะ
5 thank you
It's more useful about that topics.., being like burnt out disease now. "5"
📚 สนใจหนังสือของนิ้วกลมและสำนักพิมพ์ KOOB (คู้บ) กดลิ้งค์นี้ได้เลย m.me/141179435910975?ref=koob
กรี้ดดดดดดต้มมัด
ติดตามชมรายการสด ‘Have a nice day!’ จันทร์ - ศุกร์ 7:00-8:00 น. ได้ทาง FB : Roundfinger / TH-cam : Roundfinger Channel / Clubhouse : Roundfinger
⏳ ดูย้อนหลังได้ทุกตอน ทาง TH-cam : Roundfinger Channel และทาง Podcast
01:00:53 สรุป
5
ฟังและพิมพ์สรุป ขอบคุณค่ะ
ทำงานเพื่อเงินแล้วหมดไฟ ทำยังไงดี
ไม่ตอนนี้ ก็ตอนไหนซักตอน
เราจะคิดว่า งานคือเงิน
เราทำงานไปเพื่อความอยู่รอด แนวคิดนี้ก็ไม่ผิด
การทำงานแล้วโฟกัสอยู่ที่เงิน ส่งผลอย่างไรบ้าง
อาจส่งผลตั้งแต่คณะที่เรียน บริษัทที่เลือกที่จะทำงาน
ผู้เขียนหนังสือเล่มนี้ ตั้งคำถามตั้งแต่ยังวัยรุ่นว่า
เราจะทำอะไรเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงได้บ้าง
หมอวินัจฉัยว่าเป็นมะเร็งตั้งแต่อายุ 16 มีเนื้องอกขนาดใหญ่ ทำให้ตาซ้ายบอด
มะเร็งลุกลามไปทั่วร่างกาย
ความตายทำให้คนที่ยังใช้ชีวิตอยุ่ ตระหนักมากขึ้น
ว่าชีวิตยังมีความหมายได้อย่างไรบ้าง
มีงานวิจัยบอกว่า มีแนวโน้มที่ความผูกพันธ์ต่อองค์กรจะเพิ่มขึ้น 250% เมื่องานที่ทำมีความหมายกับเราหรือกับครอบครัว
ความอินจะลดน้อยลงไปด้วย ถ้างานไม่มีความหมาย
เมื่อแรกเข้าอาจไฟลุก แต่ผ่านไป 2-3 ปีอาจเกิดอาการไฟมอด
เราสูญเสียความหมายที่เคยมองเห็นในงานชิ้นนั้น
คนส่วนใหญ่มองหาความสุข
แต่เมื่อเราตั้งเป้าหาความสุข เรามักจะไม่ค่อยเจอมัน
สิ่งที่จะนำมาซึ่งความสุข
คือ ทำในสิ่งที่มีความหมายมากกว่า
เราสามารถสังเกตุเห็นได้ว่า
ยิ่งเราให้คุณค่ากับความสุขส่วนตัวมากเท่าไหร่ เรายิ่งรู้สึกโดดเดี่ยวมากขึ้นเท่านั้น
การตอบสนองของฮอร์โมนในการใฝ่หาความสุขส่วนตัว ทำให้เราเหงามากขี้น
ในเวลาที่พูดถึงฉัน พูดถึงตัวเองบ่อยๆ เวลาที่เราบ่น รำพึงรำพัน อยู่บ่อย เราจะเริ่มรู้สึกเหงา โดดเดี่ยวมากขึ้น
สายสัมพันธ์ของเรากับคนอื่นๆ หายไป เราโฟกัสตัวเอง ฉันทำสิ่งนี้เพื่อตัวชั้น จะสามารถสร้างแรงจูงใจได้เพียงระยะนึง
แต่แล้วจะค่อยๆ หายไป
มีการพูดถึง taker และ giver
ผู้ที่แสวงหาความสุข คือ ผู้รับ
ผู้ที่ใช้ชีวิตอย่างมีความหมาย จะสุขใจมากกว่า
เวลาเราตื่นขึ้นมาทำงาน งานนั้นมีความหมายอย่างไรกับชีวิต
คนๆ นึงมีความสุข แต่ขาดความหมายในชีวิต จะเป็นอย่างไร
เมื่อเราโฟกัสความสุข แล้วรู้สึกเครียด
แม้ว่าอยู่ในตำแหน่ง และเงินเดือนที่ตัวเองพอใจ แต่ทำไปแล้วมันโหวงๆ ว่างเปล่า
เมื่ออยู่ในภาวะนี้ไปนานๆ จะเกิดความเครียด
ยีนส์ที่อยู่ในสภาวะนั้น จะเป็นรูปแบบเดียว กับคนที่เผชิญความยากลำบากในชีวิต
แม้ตัวร่างกายมีความเครียดสะสมข้างใน ทำให้มีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ โรคมะเร็ง
คนที่ดำเนินชีวิตอย่างมีความหมาย อาจไม่ได้จัดตัวเอง อยู่ในกลุ่มคนที่มีความสุข
คนที่มีอุดมการณ์อะไรบางอย่าง แล้วพยายามผลักดันอุดมการณ์นั้นให้เกิดขึ้นจริง
แต่ตื่นมาจะไม่รู้สึกว่า เราทำสิ่งนั้นไปทำไม
ภาวะของการถูกบีบบังคับ และคุกคาม
ในช่วงที่เราทำงาน แล้วเราไม่ชอบ
ร่างกายเหมือนถูกบีบบังคับให้ทำ จึงก่อให้เกิดความเครียด
ผู้เขียน man search for meaning
สามารถพยุงชีวิตจากค่ายกักกันได้ สิ่งที่ช่วยเค้าคือ การมองเห็นความหมายของการมีชีวิตอยู่
บทเรียนที่ฟรังเคิลได้มาคือ ในช่วงที่มนุษย์สิ้นหวังมากที่สุด ทำไมตัวเค้าเองยังรอดมาได้
หมดหวังกับชีวิต ทรมานเต็มไปด้วย เห็นเพื่อนร่วมค่ายหายไป โดนฆ่า โดนรมแก๊ส และไม่เห็นว่าสงครามจะจบสิ้นลงเมื่อไหร่
แต่ฟรังเคิลไม่เคยสูญเสียเป้าหมายในชีวิต
ถ้าเค้ารอดชีวิต ชีวิตเค้าจะมีความหมายต่อคนอื่นมากๆ
เค้าประคองตัวเอง ให้รอดชีวิตไปในแต่ละวัน
ฟรังเคิล ค้นพบวิธีบำบัดก่อนถูกจับ และพัฒนาการรักษาชนิดหนึ่งขึ้นมาเรียกว่า นัยยะบำบัด
ช่วยให้ผู้คนพบเป้าหมายที่แท้จริงของแต่ละคน และรู้จักขั้นตอนวิธีในการสร้างความหมายเฉพาะของแต่ละคนขึ้นมา
เราไม่สามารถตามหาความสุขได้ เพราะความสุขมันเป็นผล
ความสุขเป็นผลลัพธ์ จากการทำอะไรบางอย่างที่เป็นเหตุ
การทำสิ่งที่มีความหมาย ช่วยปกป้องสมองจากความคิดด้านลบ
มีการติดตามนักเรียนนายร้อย ถึงหนึ่งหมื่นคน 14 ปี
แรงจูงใจภายนอก และภายใน
คนที่มีแรงจูงใจภายใน อยากเรียนสิ่งนั้นจริงๆ เรียนไปเพื่ออะไร
สามารถพัฒนาได้มากกว่าคนที่มาเรียนเพื่อเงิน
การเน้นว่า เรากำลังจะทำอะไร ก็สำคัญในการขับเคลื่อนผู้คน ในองค์กรด้วยเหมือนกัน
คุณนิ้วกลม เติบโตมาในระบบการศึกษา ที่ให้รางวัลกับคนเรียนเก่ง และคนที่สอบได้ที่หนึ่ง
เราอยู่ในโหมดของการแข่งขันเพื่อที่จะเป็นที่หนึ่งตลอดเวลา
เรียนเก่งที่สุด จะได้งานที่ดีที่สุด
มองไปหาแรงจูงใจภายนอกเยอะมาก
เรียนไปทำไม มีประโยชน์อะไรกับเรา และมีประโยชน์กับผู้อื่น
เราทำงานไปให้ดีที่สุด เพื่อหวังโบนัส ว่าจะได้เท่าไหร่
จนกระทั่งเราใช้ชีวิตไปถึงวันนึง แล้วรู้สึกงงๆ
ทุกคนวิ่งไล่ล่าอะไรบางอย่าง พอได้มาแล้วก็งง ว่าแล้วยังไงต่อ
เราต้องหาแรงจูงใจภายในของตัวเอง ว่าเราทำสิ่งนั้นไปทำไม
คำถามง่ายๆ คือ
ไม่จำเป็นต้องเป็นสิ่งใหญ่โต
ทุกคนสามารถสร้างแรงจูงใจของตัวเองเล็กๆ ได้ด้วยเหมือนกัน
ผู้ดูแลรถไฟที่กรุงลอนดอน
อยากทำให้ผุ้โดยสารที่หน้านิ่งที่สุด ยิ้มออกมาได้
ใช้เป้าหมายนี้ในการผลักดันคนในทีม
ให้คนที่ขึ้นรถไฟในกรุงลอนดอน มีความสุขมากกว่าที่เคยเป็น
แคมเปญสถานีรถไฟ กรุงลอนดอน
ขึ้นรถไฟ ก็ได้อ่านบทกวีด้วย
ไม่ได้เงินค่าโฆษณา แต่มีความหมาย
ทำอย่างไรถึงจะมีแรงกระตุ้น หรือ แรงจูงใจภายใน
ให้หาในงาน หรือ อาจไม่เกี่ยวข้องในงานก็ได้
คนที่ได้ทำงานเขียน หรือ ศิลปะนอกเวลางาน
จะช่วยให้ทำงานได้ดียิ่งขึ้น
การเพิ่มศิลปะในที่ทำงาน ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้ด้วยเหมือนกัน
เพราะสิ่งนั้นอาจเติมเต็ม และทำให้มีความสุข
พนักงานไม่ได้แยกตัวเองออกจากหมอ พยาบาล แต่เค้าเห็นว่าตัวเองเป็นส่วนนึง ที่ช่วยให้ผู้ป่วยหายไวขึ้น
เราทำอะไรบางอย่าง เพื่อช่วยเหลือ และเป็นประโยชน์ต่อคนอื่น
เราจะชวนผู้คนที่อยู่ใกล้ตัว ให้มาเห็นคุณค่าของงาน
เมื่อเราเห็นว่างานมีประโยชน์ เราจะทำอย่างเต็มที่ ผลพลอยได้ คือ เงิน
มีงานวิจัย สำรวจคนทำงานทั่วสหรัฐอเมริกา
12% บอกว่าบริษัททำให้ชีวิตดีขึ้น ที่เหลือบอกว่าบั่นทอนชีวิตให้แย่ลง
งาน การทำงาน ค่าตอบแทน
ความไม่คุ้มคือ การได้เงินเดือนสูง แต่เงินนั้นเอาไปเพื่อรักษามะเร็ง ที่เกิดจากความเครียด
เหตุผลที่น่าจะสำคัญคือ พนักงานไม่สามารถตอบได้ ว่าทำงานนั้นไปทำไม ไม่รู้สึกผูกพันธ์กับที่ทำงาน
เราจะรู้สึกดีขึ้น เมื่อเรารู้สึกเป็นส่วนนึงขององค์กรนั้น และองค์กรนั้น กำลังทำประโยชน์อยู่
คนที่ทำงานองค์กรที่มีประโยชน์ จึงรู้สึกมีพลังที่จะตื่นขึ้นมา เพื่อทำอะไรที่มีประโยชน์
สิ่งที่ดีต่อพนักงาน ก็เป็นประโยชน์ต่อบริษัทด้วยเช่นกัน
บริษัทใหม่ๆ จึงตั้งคำถามว่า จะทำอย่างไรให้พนักงานมีชีวิตที่ดีขึ้น
บริษัทที่มีพนักงานรู้สึกผูกพันธ์กับบริษัทต่ำ จะมีกำไรประมาณ 10%
บริษัทที่พนักงานผูกพันธ์สูง จะทำกำไรได้ 14%
บริษัทไม่ใช่แค่รีดเค้นศักยภาพพนักงาน แต่มีมิติอื่นๆ มีเป้าหมายร่วมกันที่จะทำอะไรบางอย่าง
ในอนาคต ต้องปรับความเข้าใจซะใหม่
การทำงานคือ การสร้างความเปลี่ยนแปลงในแต่ละวัน
ทำงานเพื่อเป้าหมาย ไม่ใช่ทำงานไปวันๆ
ทำให้พนักงานเห็นว่า ดึงพรสวรรค์ ที่เป็นจุดแข็งสูงสุดของคุณ ช่วยให้ชีวิตของคุณอื่นดีขึ้มาได้
ค่าตอบแทนจะถูกผลักไปอยู่ข้างหลัง
แต่สิ่งที่สำคัญกับจิตใจคือ ตัวฉันมีประโยชน์
หาแรงบันดาลใจที่มากกว่าเงิน
การทำงานเพื่อเงิน ไม่ต่างจากการติดสินบน
ทำให้รู้สีกติดขัดอยู่ตรงเรื่องนั้น และนำไปสู่ความไม่พอใจเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
คนยุคสมัยใหม่ รู้สึกขาด และไม่เติมเต็ม จะหันไปหาวัตถุมากขึ้น เพราะข้างในมันโหวง และไม่พอใจกับตัวเอง
ตอนคุณนิ้วกลมเป็นอาจารย์พิเศษ สอนปี 4
เปิดพื้นที่ให้ถามคำถาม
คำถามส่วนใหญ่จะถามคำถามเรื่องเงินเดือนกันหมดเลย
คิดว่าตัวเองมีความพึงพอใจในชีวิตเพิ่มขึ้นสองเท่า ถ้าเงินเพิ่มขึ้นสองเท่า
มีเงินเพิ่มขึ้นสองเท่า มีความสุขเพิ่มขึ้นสองเท่า
ความสุขเพิ่มขึ้นเพียง 9% ไม่ใช่ 100% อย่างที่คาดการณ์ไว้
เมื่อเราโฟกัสแค่งาน ทำให้เราสูญเสียบาลานซ์ด้านอื่นๆ
เช่นเวลาที่จะอยู่กับครอบครัว ท่องเที่ยว ใช้ชีวิตไปในแง่อื่นๆ
ไฟ ไม่ได้เกิดขึ้นจากรายได้
ไฟเกิดขึ้นจากความสุขที่ได้ทำ
คุณต้องลองประเมิณว่าอาชีพของคุณก่อให้เกิดอะไรบ้าง
ความสัมพันธ์ คุณต่อคุณอื่นดีขึ้นไหม สุขภาพดีขึ้นไหม คุณได้ให้อะไรกับสังคมมากขึ้นไหม
ตอนคุณนิ้วกลมเป็นพนักงานออฟฟิศ ไม่เคยถามคำถามเหล่านี้
ถ้าเราอยู่กับบริษัทที่บั่นทอนสุขภาพ แม้จะได้โบนัสหกเดือน ก็ไม่แน่ใจว่าคุ้มไหม
เมื่อเราอยู่ในโหมดของการทำงานเพื่อเงิน เพื่อนในออฟฟิศ จะไม่ได้รู้สึกสนิทซะทีเดียว
เพื่อนที่เรารุ้สึกสนิทมากที่สุด คือ เพื่อนสมัย มัธยม และมหาลัย
ไม่ใช่เพื่อนที่ทำงาน เป็นเพราะเราไม่สามารถ เชื่อมโยงกันได้
5
5