**กำเนิดสมมติฐาน เศรษฐกิจพอเพียง หรือ Self-sufficiency ผู้เริ่มต้นคือ จอน ซีมัวร์ ด้านล่างมีคำอธิบายเพิ่มภาษาไทย** John Seymour (12 June 1914 - 14 September 2004) was an prolific early author in the self-sufficiency movement. He had multiple roles: he was a writer, broadcaster, environmentalist, agrarian, smallholder and activist; a rebel against: consumerism, industrialisation, genetically modified organisms, cities, motor cars; an advocate for: self-reliance, personal responsibility, self-sufficiency, conviviality (food, drink, dancing and singing), gardening, caring for the Earth and for the soil. Seymour was born in London, England; his father died when he was very young, his mother remarried and the family moved to the fashionable seaside town of Frinton-on-Sea in north-east Essex. It was however surrounded by agricultural land, and the life led by those on the land and in small boats laid a foundation for his later vision of a simple cottage economy with farming and fishing providing the essentials of life. …………….(ยังมีรายละเอียดอีกมาก) สิ่งที่เขาคิดขึ้นคือ มิสเตอร์จอน ซีมัว คิดขึ้นมาเมื่อหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เพื่อแก้ปัญหาด้านเศษฐกิจขณะนั้น เพียงเป็นแค่แนวคิด ยังไม่ถึงกับเป็นทฤษฏี และได้เขียนเป็นหนังสือ และสิ่งที่ตั้งเป็นสมมติฐานนี้กำลังอยู่ในขั้นทดสอบว่าจะเป็นจริงหรือไม่ เมื่อต้นปี 2558 เพิ่งตั้งโรงเรียนเพ่อทำการทดสอบสมมติฐานนี้ เพราะการทดสอบทางสังคมต้องใช้เวลามาก เพื่อจะได้ถือเป็นทฤษฎีต่อไป เรื่องเหล่านี้ท่านสามารถค้นหาข้อมูลเพื่อตรวจสอบตามแบบอย่าง แต่เว็บบางเพจก็ถูกพวกควายเหลืองฝุ่นใต้ส้นตีน ICT ล็อคไว้เข้าดูไม่ได้ ท่านต้องดาวโหลดโปรแกรม Ultrasurf มาวิ่งไว้ถึงเข้าดูได้ ไม่เข้าใจจริงๆ ว่าพวกนี้ทำไมหวาดระแวงต่อความจริงกลัวความจริงจนหางจึกตูด ขำจริงๆ 55+ น่าสมเพช ลองค้นหาความจริงซิครับ จะได้รู้ว่า ผมโกหก หรือควายเหลืองโดนหลอก กันแน่ ถ้าข้อสนเทศนี้จริง แสดงว่าควายเหลืองโดนต้มอีกแล้ว ไอ้พวกฝุ่นใต้ส้นตีน ผมว่าไอ้เหี้ยบอด หน้าหีลิง มันหน้าด้านจริงๆๆๆๆ อย่าเพิ่งเชื่อข้อมูลเหล่านี้ ท่านลองค้นหาข้อเท็จจริงเพิ่มเติมนะครับตามหลักอารยะ มิใช่เชื่ออะไรง่ายๆ จะตกเป็นเหยื่อของพวกโกหกตอแหลหลอกลวงคนในสังคม
กราบสาธุสาธุสาธุ เจ้าค่ะ
กราบสาธุ🙏🙏🙏ค่ะ
ท่านเป็นพระที่อธิบายพระไตรปิฎกให้ฟังง่ายและเพลินดีฐาตุจีรังสะตังธัมโสาธุๆอนุโมทธนา
กราบ.สาธุ.สาธุ.สาธุ.เจ้าค่ะ
สาธุๆในธรรม
นบะ
ถือท่านเป็นอาจารย์
**กำเนิดสมมติฐาน เศรษฐกิจพอเพียง หรือ Self-sufficiency ผู้เริ่มต้นคือ จอน ซีมัวร์ ด้านล่างมีคำอธิบายเพิ่มภาษาไทย**
John Seymour (12 June 1914 - 14 September 2004) was an prolific early author in the self-sufficiency movement. He had multiple roles: he was a writer, broadcaster, environmentalist, agrarian, smallholder and activist; a rebel against: consumerism, industrialisation, genetically modified organisms, cities, motor cars; an advocate for: self-reliance, personal responsibility, self-sufficiency, conviviality (food, drink, dancing and singing), gardening, caring for the Earth and for the soil.
Seymour was born in London, England; his father died when he was very young, his mother remarried and the family moved to the fashionable seaside town of Frinton-on-Sea in north-east Essex. It was however surrounded by agricultural land, and the life led by those on the land and in small boats laid a foundation for his later vision of a simple cottage economy with farming and fishing providing the essentials of life. …………….(ยังมีรายละเอียดอีกมาก)
สิ่งที่เขาคิดขึ้นคือ มิสเตอร์จอน ซีมัว คิดขึ้นมาเมื่อหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เพื่อแก้ปัญหาด้านเศษฐกิจขณะนั้น เพียงเป็นแค่แนวคิด ยังไม่ถึงกับเป็นทฤษฏี และได้เขียนเป็นหนังสือ และสิ่งที่ตั้งเป็นสมมติฐานนี้กำลังอยู่ในขั้นทดสอบว่าจะเป็นจริงหรือไม่ เมื่อต้นปี 2558 เพิ่งตั้งโรงเรียนเพ่อทำการทดสอบสมมติฐานนี้ เพราะการทดสอบทางสังคมต้องใช้เวลามาก เพื่อจะได้ถือเป็นทฤษฎีต่อไป เรื่องเหล่านี้ท่านสามารถค้นหาข้อมูลเพื่อตรวจสอบตามแบบอย่าง แต่เว็บบางเพจก็ถูกพวกควายเหลืองฝุ่นใต้ส้นตีน ICT ล็อคไว้เข้าดูไม่ได้ ท่านต้องดาวโหลดโปรแกรม Ultrasurf มาวิ่งไว้ถึงเข้าดูได้ ไม่เข้าใจจริงๆ ว่าพวกนี้ทำไมหวาดระแวงต่อความจริงกลัวความจริงจนหางจึกตูด ขำจริงๆ 55+ น่าสมเพช ลองค้นหาความจริงซิครับ จะได้รู้ว่า ผมโกหก หรือควายเหลืองโดนหลอก กันแน่ ถ้าข้อสนเทศนี้จริง แสดงว่าควายเหลืองโดนต้มอีกแล้ว ไอ้พวกฝุ่นใต้ส้นตีน ผมว่าไอ้เหี้ยบอด หน้าหีลิง มันหน้าด้านจริงๆๆๆๆ
อย่าเพิ่งเชื่อข้อมูลเหล่านี้ ท่านลองค้นหาข้อเท็จจริงเพิ่มเติมนะครับตามหลักอารยะ มิใช่เชื่ออะไรง่ายๆ จะตกเป็นเหยื่อของพวกโกหกตอแหลหลอกลวงคนในสังคม