“ชินวรณ์” หวังพึ่งสถาบันพระปกเกล้า ช่วยหาทางออกสร้างประชาธิปไตยอย่างแท้จริง

แชร์
ฝัง
  • เผยแพร่เมื่อ 8 ม.ค. 2023
  • “ชินวรณ์” หวังพึ่งสถาบันพระปกเกล้า ช่วยหาทางออกสร้างประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ไม่ให้เป็นเพียงแค่ธนกิจทางการเมืองของพรรคการเมืองหรือกลุ่มการเมือง
    (5 ม.ค. 66) นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดนครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อรับทราบรายงานประจำปี 2564 สถาบันพระปกเกล้า โดยระบุว่า
    คนเป็นคนหนึ่งที่จะต้องลุกขึ้นอภิปรายต่อรายงานของสถาบันพระปกเกล้าด้วยความรักและผูกพันตั้งแต่ปี 2538 ที่เรามีการเรียกร้องให้ตั้ง คณะกรรมการพัฒนาประชาธิปไตย สมัย ท่านชวน หลีกภัย เป็นนายกรัฐมนตรี แล้วก็ท่านประธานรัฐสภาในขณะนั้นคือ ท่านมารุต บุนนาคก็ได้มีการตั้งสถาบันพระปกเกล้า และต่อมาเมื่อปี พ.ศ. 2541 พวกตนก็ได้มีส่วนร่วมในการให้มีร่างพระราชบัญญัติสถาบันพระปกเกล้า ขึ้นมาก็ต้องยอมรับความเป็นจริงว่าสถาบันนี้มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งที่จะสร้างองค์ความรู้สร้างวิถีชีวิตจิตวิญญาณและค่านิยมความเป็นประชาธิปไตยให้เกิดขึ้นตามวิสัยทัศน์ของสถาบันพระปกเกล้า
    สำหรับปีนี้ผมก็ขอแสดงความยินดีกับท่านเลขาธิการคนใหม่ จริง ๆ เมื่อช่วงเช้า ดร.ถวิลวดี มาแจกหนังสืองานวิจัยของสถาบันปกเกล้าส่วนตัวก็อยากจะไปเรียนท่านว่ามีเรื่องที่จะเรียนกับท่านว่าขอให้ท่านได้ไปเรียนกับคณะกรรมการสถาบันพระปกเกล้าด้วยว่า วันนี้ 20 กว่าปีที่เราทำกันทำให้ตนรู้สึกว่าต้องฝากความหวังไว้กับสถาบันพระปกเกล้า ก็คือว่าการเมืองวันนี้ทำไมมันถึงกลับมาเป็นธนกิจการเมืองทำไมการเมืองในระบอบประชาธิปไตยของเราเป็นการเมืองที่จะต้องมาพูดกันถึงเรื่องการใช้เงินซื้อเสียงเหมือนกับเป็นค่านิยมที่ถูกต้องไปแล้วที่เรียกว่าเงินไม่มากาไม่เป็น
    ตนคิดว่าสิ่งเหล่านี้จะเป็นจุดเริ่มต้นเหมือนคำขวัญที่ท่านประธานสภาได้ให้ไว้ว่าประเทศชาติจะเจริญบ้านเมืองต้องสุจริต แต่ว่าสุจริตไม่ได้หมายถึงว่าการคอร์รัปชันอย่างเดียว แต่หมายถึงว่าที่มาของอำนาจคือการเลือกตั้งก็ต้องสุจริตเที่ยงธรรมด้วย ที่สำคัญก็คือว่าที่มาของอำนาจจะสุจริตเที่ยงธรรมก็ต้องมาจากการที่ประชาชนจะต้องมีองค์ความรู้มีจิตวิญญาณที่เป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริงหรือมีความเป็นพลเมือง
    ตามจริงตนก็พอใจในยุทธศาสตร์ของท่านทั้ง 7 ข้อไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาองค์ความรู้เพื่อพัฒนาประชาธิปไตยธรรมาภิบาลและสันติวิธีหรือเรื่องการส่งเสริมวิชาการด้านต่าง ๆ ของท่านการพัฒนาและการสร้างความเป็นพลเมืองการพัฒนาองค์กรสู่สากลของท่านและการพัฒนานวัตกรรมประชาธิปไตย แต่ตนคิดว่าวันนี้สถาบันพระปกเกล้ามีเรื่องที่ท้าทายว่าภายใต้การเชี่ยวกรากของกระแสธนกิจทางการเมืองที่เกิดขึ้นในขณะนี้
    ตนคิดว่าจะทำให้ความชอบธรรมของระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขของเรา จะต้องท้าทายมากและก็อาจจะเป็นข้ออ้างในอนาคตว่าเนื่องจากว่าระบอบประชาธิปไตยของเรามีที่มาไม่ชอบธรรมและในท้ายสุดก็จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงการปกครองในระบอบประชาธิปไตยโดยวิธีการที่ไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ
    เพราะฉะนั้นเรื่องนี้จึงเป็นเรื่องที่ท้าทายมากว่าในขณะนี้สถาบันปกเกล้าในฐานะเป็นสถาบันวิชาการชั้นสูงท่านต้องออกมาทำหน้าที่ให้เป็นที่หวังพึ่งของพี่น้องประชาชน และกล้าพูดในสิ่งที่ถูกต้องโดยไม่เกรงใจต่อผู้มีอำนาจรัฐหรือองค์กรมีอิทธิพลใด ๆ ก็ตามและแน่นอนที่สุดสิ่งที่ท่านจะพูดได้ก็คือท่านต้องมีตัวเลขมีข้อมูลมีผลการวิจัยออกมารองรับที่ชัดเจนว่าเราจะแก้ไขอันนี้ได้ยังไง ถ้าองค์ความรู้ไม่พอ สิ่งที่อยากจะให้ท่านสร้างภายใน 2-3 เดือนนี้ก็คือว่าท่านต้องสร้างองค์กรเครือข่ายเพื่อสร้างความเป็นประชาธิปไตยให้เกิดขึ้นให้ไปถึงประชาชน ท่านจะมีเครือข่ายอย่างไรเป็นพิเศษหรือไม่เหมือนเราเคยทำกันหลังปี 2516 หรือเราเคยต่อสู้กันในปีที่เราเรียกร้องรัฐธรรมนูญถือธงเขียวกันทั่วประเทศหรือเราต้องการที่จะเห็นว่าค่านิยมที่สุจริต ค่านิยมที่ถูกต้องกับบ้านเมืองเป็นเรื่องที่มีความสำคัญไม่ใช่อำนาจเป็นเรื่องของความถูกต้อง วันนี้คิดว่าพรรคการเมืองก็ดีองค์กรต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการในการสร้างประชาธิปไตยก็ดีกำลังทำให้จุดยืนในเรื่องของความเป็นประชาธิปไตยที่เป็นสากลของเราเสียหายไป ตนจึงคาดหวังว่าสถาบันวิชาการชั้นสูงอย่างสถาบันพระปกเกล้าจะได้รีบตอบโจทย์ของประเทศในเรื่องของธนกิจการเมือง
    #พรรคประชาธิปัตย์ #democratpartyth

ความคิดเห็น •