ผู้เชี่ยวชาญ แนะวิธีเอาตัวรอดจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ดูดเงิน | เบื้องหลังข่าว กับ กาย สวิตต์
ฝัง
- เผยแพร่เมื่อ 10 ส.ค. 2023
- ข่าวเย็นประเด็นร้อน - หลังจากที่วันก่อน เรานำเสนอข่าว ดาราสาวช่อง 7HD ถูกมิจฉาชีพ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ สวมรอยเป็นเจ้าหน้าที่การไฟฟ้า หลอกอ้างว่าจะดำเนินการคืนเงินค่าประกันไฟฟ้าให้ โดยให้ผู้เสียหาย สลับซิมการ์ด จากโทรศัพท์ไอโฟน มาใส่ในแอนดรอยด์ แล้วหลอกให้โหลดแอปจากลิงก์ กรอกชื่อ เบอร์โทร จนสุดท้ายถูกดูดเงินในบัญชีไปเกือบ 200,000 บาท วันนี้ผู้เชี่ยวชาญแนะนำวิธีการเมื่อรู้ตัวว่ากำลังถูกดูดเงิน
เหตุการณ์นี้ คุณอ้อม อังคณา อึ๊งเจริญ ดารานักแสดงของช่อง 7HD เป็นผู้เสียหาย โดยคนร้ายคุยกับคุณพ่อก่อน และบอกข้อมูลจริงที่ถูกต้องด้วยว่า คุณพ่อทำเรื่องขอคืนเงินประกันค่าไฟฟ้า แต่ยังไม่ได้เงิน นี่เป็นจุดแรก ทำให้คุณพ่อตายใจไปแล้ว 1 คน ซึ่งคุณอ้อมสงสัยว่า ทำไมคนร้ายรู้ข้อมูลที่คุณพ่อเคยไปดำเนินการกับการไฟฟ้าไว้
จุดที่ 2 ที่คุณอ้อมรู้สึกว่า ข้อมูลของคุณพ่อเธอรั่วไหล ก็คือเมื่อเธอได้คุยกับคนร้าย คนร้ายก็รู้ด้วยว่า พ่อของเธอพิการ ซึ่งตรงจุดนี้ เธอก็สงสัยเหมือนกันว่า ข้อมูลที่ลึกลงไปแบบนี้ ตกไปอยู่ในมือของคนร้ายได้ด้วย นำมาสู่การหลงเชื่อ นำซิมออกจากมือถือไอโฟน ไปใส่ในมือถือแอนดรอยด์ของพ่อ ตามคำแนะนำของคนร้าย แล้วกดลิงก์ที่คนร้ายส่งมา กรอกชื่อ ใส่เบอร์โทรศัพท์ จนถูกดูดเงินจากบัญชีธนาคารไปเกือบ 200,000 บาท
อาจารย์ปริญญา หอมเอนก กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ด้านการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ ในคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ ข่าวเย็นประเด็นร้อน ว่า เรื่องการรั่วไหลของข้อมูลส่วนบุคคล ยืนยันมีล้านเปอร์เซ็นต์ และเป็นทั่วโลก ซึ่ง รั่วไหลได้หลายแบบ ประกอบด้วย หน่วยงานรัฐและเอกชนโดนคนร้ายแฮ็กข้อมูล, คนร้ายติดต่อซื้อข้อมูลจากคนดูแลระบบหรือไอที, ตัวเราเองลงแอปฯ ต่าง ๆ และ แอปฯ เหล่านั้นเข้าถึงข้อมูลในโทรศัพท์
ส่วนข้อมูลของคนไทย ที่รั่วไหลไปแน่ ๆ มีอย่างน้อย 5 อย่าง ประกอบด้วย ชื่อ-นามสกุล, วันเกิด, เลขประจำตัวประชาชน, ที่อยู่, เบอร์โทรศัพท์ ซึ่งแก๊งคนร้าย มักจะมีข้อมูลพื้นฐานเหล่านี้ และรู้ถึงกิจกรรมที่ผู้เสียหายทำผ่านโทรศัพท์มือถือด้วย เช่น การซื้อสินค้าผ่านแอปฯ จ่ายเงินทำธุรกรรมผ่านแอปฯ การติดต่อหน่วยงานต่าง ๆ บนมือถือ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ เมื่อตกอยู่ในมือคนร้าย จะนำมาเป็นข้อมูลแรก ๆ ที่หลอกให้ผู้เสียหายหลงเชื่อ จากนั้นขั้นตอนต่อไปก็ให้แอดไลน์คุยกัน
ส่วนกรณีน้องอ้อม ดาราสาวช่อง 7 ถูกคนร้ายลวงให้นำซิมจากเครื่องไอโฟน ไปใส่ในเครื่องของพ่อ ซึ่งเป็นแอนดรอยด์ แล้วส่งลิ้งก์การไฟฟ้า หรือ PEA มาให้กด จากนั้นใส่ชื่อ และเบอร์โทรศัพท์ แล้วคนร้ายชวนคุยระหว่างหลอกดูดเงิน โดยใช้เวลาราว 30-40 นาทีนั้น
อาจารย์ปริญญา บอกว่า คนร้ายไม่สามารถรีโมตลงแอปดูดเงินในไอโฟนได้ จึงหลอกให้ถอดซิมไปใส่ในเครื่องแอนดรอยด์ ซึ่งลิ้งก์แอปการไฟฟ้าหรือ PEA ที่คนร้ายส่งมาให้กด เป็นแอปธนาคารของคนร้าย ที่ซ่อนมาในรูปของแอป PEA เมื่อเราไปกดดาวน์โหลดหรืออินสตอลในเครื่องแล้ว แอปธนาคารของคนร้าย จะติดตั้งในโทรศัพท์เราโดยไม่รู้ตัว แต่ตัวแอปที่แสดงหน้าจอโทรศัพท์ ถูกพรางตัวว่าเป็นแอป PEA
แต่อาจารย์ปริญญา ก็บอกว่า ลำพังการที่เราใส่เฉพาะชื่อและเบอร์โทรศัพท์ คนร้ายก็ยังไม่สามารถดูดเงินได้ ต้องมีขั้นตอนที่เผลอยืนยันตัวตนด้วยรหัส OTP ที่ส่งมาในเครื่องแอนดรอยด์ที่เราใส่ซิมไว้ และเผลอไปใส่รหัสด้วย คนร้ายจึงรู้รหัสแอปธนาคารเรา และทำการโอนเงินออกจากแอปธนาคารที่ลงพรางไว้เป็นหน้าแอป PEA ซึ่งสังเกตได้ว่าช่วงที่หน้าจอหมุนหรือเป็นสีขาว นั่นแหละคือช่วงที่คนร้ายกำลังถอนเงิน โดยพรางหน้าจอไว้ให้หมุนหรือเป็นสีขาว โดยทุกวันนี้ ถ้าโอนเงินออกเกิน 50,000 บาทต่อครั้ง จะต้องสแกนใบหน้า จึงพบว่าในการถอนเงินออกจากบัญชีน้องอ้อม โอนออกครั้งละ 49,850 บาท จำนวน 4 ครั้ง เพื่อเลี่ยงการสแกนใบหน้า
อาจารย์ปริญญา แนะนำว่า ช่วงที่คนร้ายดูดเงินออกจากแอปบัญชีธนาคาร คนร้ายก็จะชวนคุยผ่านการโทรทางไลน์ที่คุยกันมาตั้งแต่ต้นโดยไม่วางสาย เพื่อเบี่ยงเบน ดึงความสนใจผู้เสียหายไม่ให้ไปสนใจกับโทรศัพท์ที่กำลังหมุน หรือหน้าจอกำลังเปลี่ยนเป็นสีขาว ซึ่งเป็นช่วงที่คนร้ายกำลังดูดเงินออก ถ้าเห็นแบบนี้ และฉุกคิดได้ว่า กำลังถูกหลอกดูดเงิน ให้รีบปิดเครื่องโทรศัพท์มือถือ เพื่อตัดการถอนเงินที่กำลังถอนอยู่ทันที คนร้ายจะทำอะไรต่อไม่ได้ จากนั้นให้ติดต่อธนาคารเพื่อระงับการทำธุรกรรมทุกอย่างก่อน จึงค่อยเปิดเครื่องโทรศัพท์ ส่วนการดึงซิมการ์ดออกระหว่างรู้ตัวว่าถูกดูดเงินก็ไม่มีประโยชน์ เพราะบางทีเราต่อไวไฟกับโทรศัพท์ไว้ เครื่องยังทำงานต่อได้
กรณีที่อาจารย์ปริญญา บอกว่าให้ปิดเครื่องและติดต่อธนาคารอายัดบัญชีนั้น ปัจจุบัน หลัง พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ซึ่งเป็นกฎหมายที่ออกมาเพื่อปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ บังคับใช้ไปเมื่อ 17 มีนาคม 2566 จะมีข้อสำคัญ 3 ข้อที่จะช่วยเหลือผู้เสียหายได้ไว คือ
1. เมื่อผู้เสียหายแจ้งกรณีการโดนหลอกกับธนาคาร จะได้ Bank ID Case มา ซึ่งเบื้องต้นธนาคารอาจอายัดบัญชีเงินฝากที่มีอยู่ภายในธนาคารเดียวกันได้ ชั่วคราวที่ 72 ชม.
2. นำเลข Bank ID Case เข้าแจ้งความต่อตำรวจผ่านช่องทางต่าง ๆ
3. เมื่อธนาคารได้รับหมายอายัดจากตำรวจ จึงสามารถขยายเวลาอายัดบัญชีได้
(อ่านต่อ : teroasia.com/news/248213)
ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 15.45-17.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35
กดติดตามช่อง CH7HD News ได้ที่ cutt.ly/YTch7hdnews
#ข่าวเย็นประเด็นร้อน #ข่าวช่อง7 #CH7HDNEWS
การเอาตัวรอดง่ายๆ อย่าพูดกับคนไม่รู้จัก เรื่อง ตำรวจ ไปโรงพัก เรื่อง ที่ดิน ไปที่ดิน เรื่อง ธนาคาร ไปธนาคาร .. ถ้ารับแล้ว ไม่ใช่ ไร้สาระ ตัดทิ้ง
ใช่ เคยโดนเหมือนกันไฟฟ้ามันบอกให้เราคุยไปเรื่อยๆ เราบอกไม่มีเวลาแล้ววางหูเลย
ใช่... มันจะพูดแบบ
ไม่ให้เรามีเวลาคิดเลย แถมมันจะพูดขู่ให้เรากลัวกับเรื่องที่มันบอก...
ทำไมรัฐบาลไม่มีวิธีช่วยปชช ให้ปชชระวังกันเอง
เอาจริงๆธนาคารห่วยแตกมากในเรื่องการอายัด..ให้กับผู้เสียหาย
ขั้นตอนมี เหตุผลมี ถ้าเข้าใจจะรู้ คนที่โดนหัดโทษตัวเองบ้างนะ
@@mmo1499 เฉียบ
@@mmo1499 มิจฉาชีพก็มีความรู้ๆจักหลอกล่อเอาข้อมูลมาจากไหนก็ไม่รู้ การอายัด..ผู้เสียหายเค้าก็เจ็บใจไม่มีใครอยากให้ธนาคารอายัดมั่วๆๆ
ถ้าเรากลัวคนดูดเงินก็เบิกเงินมาไว้ที่บ้านไปธนาคารไม่ปลอดภัยเอาไว้ที่บ้านดีกว่ายังได้ใช้
ยุคนี้ยุคโหลดเงินมีเงินเยอะก็ถอนเงินมาเก็บไว้ที่บ้านตั้งกล้องวงจรปิดเอาไว้ที่บ้านฝากธนาคารก็ไม่ปลอดภัยเก็บเงินถอนเงินไว้ที่บ้านดีกว่าดอกเบี้ยไม่ต้องไปหวังได้ไม่กี่ตังค์
ง่ายสุดคือไม่ผูกบัญชีไว้กับมือถือ ถ้าจำเป็นให้ใช้บัตร ATM เท่านั้น ในการโอนหรือถอนเงิน และเน้นใช้เงินสดครับ
ง่ายที่สุดอย่าเก็บเงินไว้ในบัญชีที่ผูกกับแอฟมากเกินไป เก็บแค่พอใช้
น่าสงสารคนไทย ที่เสียภาษีแล้ว แต่กลับหาความปลอดภัย ในการอยู่ในประเทศนี้ไม่ได้ แต่ข้าราชการ นักการเมือง อยู่สบาย อ้วนพี
เอ็งก็แขวะเรื่องการเมืองซะงั้นเอ็งก็นำ้หนักเบาซะที่ไหนไอ้ตี๋เอ้ย
ขอขอบคุณ รมว ไข่ต้ม ที่ปล่อยข้อมูลส่วนตัวของ ปชช พวกเรา ให้ มฉช กว่า 60 ล้านคนนะครับ
ช่ายคนเลวกับคนชั่วหลอกประชาชนผลักภาระประชาชนทุกอย่างเหมือนกัน
มันเอี้ยมาก
คาถาผมคือ "กรูไม่เชื่อ" ครับ ยิ่งหน่วยงานราชการร้อยวันพันปี เขาไม่ขยันมาโทรหาประชาชนตาดำๆละครับ สามโมงก็เตรียมกลับบ้านกันแล้ว
ควรจัดการบัญชีม้า ขั้นตอนเปิดบัญชีธนาคารควรรัดกุมตอนรับเปิดบช ให้ยากเข้าไว้อย่าอ้างไม่รู้เรื่อง
มีคนในขายข้อมูลล้วนๆ ไม่มีเหตุผลอื่น
1. อย่าเปิดวายฟาย หรือ อินเตอร์เน็ตค้างไว้
2.ก่อนรับสายที่ไม่รู้จัก ให้ออกจากอินเตอร์เน็ต หรือ วายฟาย มาก่อน
และ ให้จำไว้ว่า
3. จะไม่มี จนท.รัฐหรือรัฐวิสาหกิจ ที่คิดจะติดต่อมาหาเราก่อน (ถ้าเราไม่ติดต่อเข้าไปก่อน)
วาระแห่งชาติต้องมาแล้วครับ ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกันเเก้ไขปัญหาให้ประชาชน ไม่ใช่ต่างคนต่างทำ
เอาจริงๆนะ ขนส่งอ่ะรู้ข้อมูลเราทั้งหมดแหล่ะเพราะส่งพัสดุทีต้องให้ทุกอย่าง บัตรปชช เบอร์โทร
จนท.ราชการ การไฟฟ้า กรมศุล ที่ดิน เขาไม่โทรหาคุณหรอกค่ะ
สาเหตุเริ่มต้นจากรัฐบาลบังคับให้ลงทะเบียนตอนซื้อซิมการ์ดเพราะต้องใช้บัตรประชาชนของผู้ซื้อถ้าไม่ลงทะเบียนเหมือนเมื่อก่อนแก๊งคอลเช็นเตอร์ไม่มีทางรู้หรอกครับข้อมูลอาจจะโดนขายจากพนักงานก็ได้ใครจะไปรู้ละครับเจ้านายยยยย
ไม่ลงทะเบียนคนร้ายก็ยิ้มซิ ทางใต้เมื่อก่อนก็ใช้สัญญาณจากมือถือกดให้ระเบิดที่ซ่อนไว้ทำงาน ไหนจะอาชญากรรมประเภทอื่นอีก บัตรประชาชนนะมันขอกันเกร่อไปหมดไม่ใช่เฉพาะเวลาซื้อซิม
เม้นท์ได้ทื่อมาก
พี่ชายผมแนะนำวิธีง่ายๆ และได้ผลสำหรับผมมาก คือ ซื้อเครื่อง Apple เก่าๆมาซักเครื่อง แล้วใช้ทำธุรกรรมทางการเงินอย่างเดียว ใช้เสร็จก็ปิด จะใช้ไหนก็เปิด ลงแต่แอปธนาคารเท่านั้น (ผมใช้แทบทุกธนาคาร) ตั้งแต่นั้นมาผมนอนหลับสบายเลยครับ ลองใช้วิธีนี้ดูครับอยากแนะนำ
จริงค่ะทำอยู่ใช้โทรศัพท์ 2 เครื่อง
ใช่ต้องมีแผนสำรองเสมอ
โทรศัพท์มือถือก็คือคอมพิมเตอร์เครื่องนึงดีๆนั่นเอง เพราะฉะนั้นมันถูกHackได้ คนส่วนใหญ่คงไม่เข้าใจว่ามันอันตรายขนาดไหน สู้ๆครับ ให้ความรู้ประชาชน
มรึง เพิ่งรู้หรือว่ามือถือคือคอมพิวเตอร์ เขารู้กันมานานแล้ว ไอ้หลังเขา
การแฮ็กที่เก่งคือคนที่ใกลชิดข้อมูล😅
อันตราย มีอย่างเดียวเดี๋ยวนี้คือ.! เงินในบัญชีที่ผูกกับแอฟธนาคาร แต่ป้องกันก็ง่ายมากก ไม่ต้องไปรับสายที่แอบอ้าง ใดๆทั้งสิ้น.!
ให้สัมภาษณ์เหมือนรู้วิธีการของมิจฉาชีพทุกอย่าง แต่หน่วยงานที่ตั้งขึ้นมา ทีมีชื่อเหมือนจะเก่งและเป็นที่พึ่งของประชาชนได้ กลับไม่มีวิธีใดที่จะป้องกันได้เลย ตอนเงินโอนออกจากบช. ง่ายและเร็วเลย แต่พอแจ้งอายัติ ขั้นตอนบางอย่างก็ช้า เบรคเงินไม่ทันพวกนี้หรอก มิจฉาชีพจะล้ำหน้าไปก่อนหนึ่งก้าวเสมอ ประชาชนก็ต้องท่องไป.."อัตตา หิอัตตะโนนาโถ"
ไม่ต้องรู้วิธี แค่ไม่รับสายแปลก ไม่กดลิงค์ วางสายจบ ไม่ว่ามิจไหนก้ทำอะไรคุณไม่ได้ถ้าคุณไม่รับสาย
มันโง่ครับ วิธีแก้ง่ายมาก
ไปบอก ธนาคาร ดีกว่ามั่งครับ เราใว้ใจฝากเงินกับทางธนาคาร ธนาคารควรหาทางป่องกันเงินให้เราสิเพราะทุกๆที่มีการโอน ออก-เข้า มันต้องผ่านระบบธนาคารไม่ใช้หรือครับ
เมืองนอกถ้ามีเงินดึงออก ครั้งหรือสองครั้ง ธนาคารล็อคบัญชีไห้เลย ไม่เห็นต้องไปแจ้งความเลย สดวกจะตาย ไม่ล่าช้าเต่าล้านปีเหมือนประเทศไทยเลย ประเทศไทยมีแต่ข้ออ้างน่าเบื่อ
เหนือ.😆
ไม่จริงครับ
ผมก็อยู่เมืองนอก
มีคนโดน ไม่ล็อกอัตโนมัติครับ
อ้าว มีคนแย้ง หน้าแตกเลย
ขอถามดึงเงินออกกับโอนเอง ไม่เหมือนกันตรงไหน
แล้วคุณอยู่ประเทศอะไรล่ะ ประเทศที่ฉันอยู่เค้าล็อคไห้จริงๆ แม้แต่ตัวฉันเองถอนเงินตัวเอง เอง2 ครั้งเค้ายังล็อคเลย ล็อคเสร็จธนาคารก็เขียนมาถามฉันว่า บัตรอยู่คุณไหม ฉันก็บอกว่าอยู่ ธนาคารบอกเห็นถอนหลายครั้งก็ล็อค ฉันก็เลยถามธนาคารว่าว่าเงินของฉันถอนหลายครั้งไม่ได้หรือ ธนาคารบอกว่าได้ แต่ธนาคารคิดว่ามีคนเอาบัตรฉันไป ธนาคารก็บอกว่าถ้าบัตรอยู่กับคุณ เดี๋ยวเปิดล็อคไห้ใหม่ ประเทศเทศที่คุณอยู่มันหวยแตกไง รู้ไม่จริงอย่าอวดรู้
การไฟฟ้าโทรมาทุกวัน คืนค่ามิเตอร์ด่าไปหยุดโทรมา3วันเปลี่ยนมุกใหม่ ธนาคารโทรมา 😢
ถ้าเป็นแอปนอกสโตร มันต้องกดยอมรับนิ ถ้าไม่กดคือทำไรเราไม่ได้
เขาบอกเป็นแอปรีโมท ต้องตัดเนท คือตัดการต่อระบบ
เดี๋ยวคนโดนเยอะๆ รุ้ทัน พวกโจรมันก็เปลี่ยนรูปแบบไปอีก ควรจำไว้ ราขการไม่ติดต่อเราทางพวกอิเลค ส่วนใหญ่จะจดหมาย
ต้องวางสาย แล้วเช็คย้อนไปหน่วยงานนั้น จะได้รุ้ว่าจริงหรือปลอม ถึงจริงก็ไม่เสียหายอะไร
จดหมายเอกสารปลอมก็มี เจอมาแล้ว ฉีกทิ้งเลย พวกนี้มันเลวจริงๆ.
คืออย่ามีเงินไว้ในบัญชีครับ ไม่มีปุ๊บมันก็เอาเงินเราไปไม่ได้
ไม่ผูกเงินมากๆใว้กับโทรศัพย์
มหากาพย์เรื่องนี้..เป็นเพราะระบบแอปธนาคารไม่ดี
ระวังแก็งคอลเซ็นเตอร์นะคะ มารูปแบบเพื่อนของยืมเงินให้เดาว่าเป็นทำเสียงเนียนมากค่ะมันมาทุกรูปแบบ
ถ้าเป็นไปได้ ต้องพกหรือห้อยตัวเข็มที่ใช้ถอดซิมออก ติดตัวไว้ตลอด กรณีที่ไม่สามารถปิดเครื่องได้(ขณะที่มิจฉาชีพกำลังทำงาน)เพื่อตัดสัญญานซิม หรือถ้าอยู่ใกล้เร้าท์เต้อก็ให้รีบปิดหรือถอดปลั๊กออก ก็น่าจะช่วยได้บ้างในขณะนั้น
ผมพกไว้แล้ว เตรียมจิ้ม
แก้ปัญหาที่ปลายเหตุได้ยอดมากๆ ผมคิดไม่ถึงจริงๆ ผมคิดได้แค่"ถ้าไม่รู้จักก็วางสาย" ผมคิดได้แค่เนี้ยไม่ฉลาดเท่าคุณๆเลย
@@user-pn1wi3hg7mใช่ค่ะรับสายแล้วไม่ใช่ถ้าไม่เคอรี่วางสายทันที่(ถ้าเป็นญาติจะมีชื่อขึ้นทุกคน)
อย่าคุยกับคนที่เราไม่รู้จัก ทางโทรศัพท์ ถ้าบังเอิญต้องคุยกัน ก็อย่าไปแอดไลน์ เป็นเพื่อนกับพวกมัน ตัดสายทิ้งไปดีที่สุด
ขอขอบคุณค่ะ สำหรับคำแนะนำ
กดสายทิ้งเลยครับ อย่าได้แคร์
ง่ายนิดเดียวคือไม่มีเงินแบบผมนี้ มันจะไปยากอะไร😂😂😂
กินข้าวสามมื้อ ต้องใช้เงินนะคับ แต่คุนไช้เงินสดเนาะ
แต่ง่ายที่สุด คือ ไม่คุยไมเชื่อ แค่นี้จบ ใช้แค่ ความคิด ไมต้องลงทุนสักบาท
ไม่คุยกับที่ไม่รู้จัก ชื้อสินค้าจ่ายเงินสด บัญชีไม่มีแอ๊ป ไม่สแกน เบอร์ไม่รู้จักไม่รับ สมัยก่อนไม่มีแอ๊ป เงินหายไหม ของง่ายๆ
พวกรับเปิดบัญชีม้าต้องเพิ่มโทษจำคุกสัก20ปีคนถึงไม่กล้า
+1ต้นตอเห็นแก่เงินค่าจ้างเล็กๆน้อยๆเงินออกนอกประเทศ
แล้วจะเอาคุกที่ไหนมาใส่ เอาภาษีที่ไหนมาหาข้าวให้คนพวกนี้แดก
ต้องแก้ถฎหมาย อายัดบัญชีด่วน โดยตรง เพราะมันต้องใช้เวลา
ไม่ยากเลยถ้าเราไม่ดูไม่อยากได้
ไม่สนใจไม่เสียเงิน
หรือไม่ก็เปลี่ยนไปใช้โทรศัพท์แบบรุ่นปุ่มกด(๒g)รับรองไม่ใครโดน
อาจารย์ปริญญา ได้ยินข่าวว่า ล่าสุดข้อมูลของท่านก็หลุดว่อนเน็ตเลยไม่ใช่หรอครับ จะเชื่อท่านได้หรอครับ ขนาดท่านมีความรู้เฉพาะทางยังไม่รอด คนธรรมดาอย่างพวกเราจะรอดหรอ 😅
ไม่ใช่แค่มีโทสับอย่างเดียวนะถึงจะเม้นท์ถามแบบนี้ได้😂😂😂
@@user-pn1wi3hg7m อุ้ย! ขอบคุณครับที่เตือน แต่ผมทำงานด้านเทคโนโลยีนะครับ และข้อมูลมันหลุดทุกวันนะครับคุณ คำพูดนี้ควรย้อนกลับไปถามตัวคุณมากกว่านะ
เขาก็บอกอยู่ให้ระลึกเสมอ ข้อมูลเราหลุดไปอยู่แล้วไม่ต้องห่วง
แต่สิ่งที่เราทำได้ก็คือ ไม่ให้พวกมิจฉาชีพเข้าถึงง่ายแบบที่เราเปิดประตูให้โจรเข้าบ้าน(โดยไม่รู้ตัว)
1. อย่ากด Link ใดๆที่เข้ามาในมือถือ ไม่ว่าจะบอกว่าโปรดี ขายของมีส่วนลด แจกเงิน ให้กู้ผ่อนน้อย รึขู่ว่าท่านติดแบล็กลิสต์ ท่านมีคดีฟอกเงิน ค้ายา โดนจับเรื่องภาษีศุลกากร เจ้าหน้าที่ๆกรมที่ดินแจ้งเรื่องระวังเขต โดนตรวจสอบทางการเงิน...ฯลฯ เหตุผลล้านแปด จากธนาคาร/หน่วยงานราชการ/กนมตำรวจ/รัฐวิสาหกิจเช่น การไฟฟ้าให้โหลด Link กดปุ่มนั้น เพื่อ นั่น นู่น นี่...บลาๆๆๆ
2. ให้ติดต่อที่เบอร์หน่วยงานราการ หรือบริษัทต่างๆโดยตรง จากเบอร์ทางการ (ไปหาเบอร์หน่วยงานต่างๆใน Google มันจะขึ้นเวปทางการเป็นลำดับแรกๆ) หรือไม่ชัวร์ ก็ไปติดต่อที่สำนักงานหน่วยงานต่างๆโดยตรง เพราะหน่วยงานต่างๆ เขาไม่ใช้การโทรมาหา แต่พวกมิจฉาีพจะใช้ช่องโหว่นี้ที่คนเลือกความสะดวกเข้ามาหลอกหรือแม้กระทั่งส่งเอกสาร(ปลอม) ให้แสกน QRโคทปลอมเพื่อจะดูดเงินประาชนตามบ้านมันก็มีระบาด่วงนึงมาแล้ว
3. ให้แยกประเภทบัญีเงินของเรา พวกบัญเงินมากๆเป็นแสนเป็นล้าน ไม่ให้ผูกกับแอปใดๆ อาจใช้งานโดยการที่เจ้าของบัญีไปถอนฝากที่ธนาคารเองโดยตรง รึใช้บัตร ATM
4. ส่วนบัญชีค้าขาย ซื้อของ ที่มีการติดตั้งแอปในมือถือเพื่อซื้อของ กิน เที่ยว เปย์รัวๆ หรือ ทำธุรกิจซื้อมาขายไป ให้แยกอีกบัญชีนึงให้ชัดเจน เพื่อจำกัดความเสียหายไว้ไม่ให้โดนบัญีหลัก (พวกเงินแสนเงินล้านเงินบำนาญฯ) ให้นึกเสมอ หากเราเผลอโดยไม่รู้แล้วมิจฉาชีพสามารถเจาะระบบเข้ามาที่บัญชีนี้ เราจะได้ไม่เสียใจมาก ไม่เสียหายมากหากเสียเงินก้อนนี้ไป โดยใส่เงินบัญชีแยกนี้ตามความเสียหายที่เราพอรับได้เช่น ใส่เงินที่รับความเสียหายว่ามันอาจจะสูญหายไปได้มากสุด 5,000บาท, หรือ 50,000 บาท หรือ 1000,000 บาทเท่านั้น
ชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทร เลขบัญชี เลขบัตร มันไม่ใช่ความลับ มันเป็นสิ่งที่เอาไว้สื่อสารกับคนอื่นว่าเราเป็นใคร นิยามให้ถูกก่อน สิ่งที่เป็นความลับมีอย่างเดียวคือ"รหัส" ถ้ายังรักษาไม่ได้ก็พิจารณาตัวเองนะ
อยากให้ติดตามเอาผลสุดท้าย ของคดีแบบนี้ มารายงานข่าวบ้างว่าสุดท้ายแล้วได้เงินคืนบ้างไหม ถ้าได้คืนสรุปแล้วต้องดำเนินขั้นตอนยังไง แบบไหน ดีที่สุด เพื่อเป็นประโยชน์แก่ประชาชนวงกว้าง ที่โดนหลอก หรือว่าตอนนี้กฎหมายมันมีโหว่อะไร ทำให้ผู้เสียหายไม่ได้เงินคืน หรือ ได้คืนช้ามากๆเป็นปี หรือเปล่า
อายัดเงินไว้สุดท้ายตกเป็นของหลวงแล้วก็ไม่รู้ที่ไปของเงินอีกเลย
@@Nong_1661 ถ้าเป็นงั้นจริง ก็น่าเศร้าเช่นเคย
เลิกใช้แอฟธนาคาร เมื่อก่อนไม่มีก็ยังอยู่ได้ เรายังเลิกใช้แอฟธนาคาร หันมาใช้แบบกดเอทีเอ็มเท่านั้น
เลิกใช้แอปธนาคาร เปลียนไปใช้แอป เป๋าตัง แบบเติมเงินใช้ดีกว่า ทำได้หลายอย่างมากกว่าแอปธนาคาร
@@chodmaisamsee2302 ใช่เลย ตัดปัญหาเราลบแอฟธนาคารทิ้งหมด ไม่สะดวกแต่สบายใจ
เยี่ยมเลย แก้ไขที่ปลายเหตุได้สวดยวด
เคยมีข้อมูลแบบนี้เข้ามาเดือนก่อน แต่ดีที่เราไม่อัพเดท ลบทิ้งเลย ขอบคุณนะคะที่ให้ข้อมูล
รัฐที่ไหนดูแลประชาชนอยู่ละ ปล้นการเข้ามาบริหารประเทศและไม่รับผิดชอบต่อประชาชน มองผลประโยชน์ของตัวเองเป็นหลัก และสว. ก็ยังสนับสนุน
คนละประเดนเลยโทษปี่โทษกลองเนอะ😏😏😏
@@jirawattangthong6867 เสียงมันน่ารำคาญไง
ตกลงไม่มีใครเก่งกว่าโจร เวรละ
คือตร. แบ๊ง ต้อง มีมาตรการ ที่ดูแลประชาชน มากกว่านี้
ง่ายสุดคือ เสพข่าวอยู่เรื่อย หูตาไว อย่าอ้างว่าไม่มีเวลาดูข่าว เขามีให้ดูหลายช่องทาง ตั้งสติ
ต่อไปจะไม่มีใครใช้ หมายเลขโทรศพท์ ไม่อยากให้ใครโทรเข้า ไม่อยากให้ใครรู้ชื่อ กสทช. ทำอะไรไม่ได้ ยุบ กสทช. ไปเลย หนวยงาน เลขหมายกสทช. ไล่ออกให้หมด
ไม่ยากใครโทรมาก็ไม่เชื่อ ตัดสายทิ้งเลย
มีเงินให้แขวนคอใว้จะดีที่สุด
ผมใช้โทรศัพท์แบบปุ่มกดคุณเห็นไหม
ไม่มีปัญหานี่แหละคือข้อดี
ขอบคุณมากๆค่ะ
ง่ายๆบัญชีอย่ามีแอปชิ มันไม่สามารถดูดเงินได้ และอย่าทำ ATM
ต้องกำจัดให้หมดและรวดเร็วเท่านั้น
ก็ต้องเชื่อสิ เพราะเดี๋ยวนี้แยกไม่ออกระหว่าง ข้าราชการ กับ มิจฉาชีพ
งายนิดเดียวถอนออกจากธนาคารหมดครับ
ผมใช้วิธีไม่รับ หรือปฏิเสธทุกอย่าง ยิ่งเสียงเดิมๆเจอ ผมพูดคำเดียว "พ่องตาย" อย่างเดียว ขนาดดีแทคโทรมาผมยังสอบประวัติเขาก่อนเลย 5555
แปลกใจว่า..ไปธุระที่ธนาคารแค่ 2/3 วัน ก็มีโทรศัพท์มาบอกว่า..บัญชีเคลื่อนไหว..เลยบอกไปว่าไม่มีเงิน..ในบัญชีแม้แต่บาทเดียว...มันรีบวางโทรศัพท์ไปเลย😢
ถอนเงินสดออกจากธนาคารให้หมดครับแล้วซื้อทองคำแท่งฝากแทนครับ ปลอดภัยกว่าครับ
ดีที้สุดคือ อย่าเอาเงินผูกกับโทรศัพท์ หรือถ้าต้องผูกก็แยกบัญชีเอาผูกกับโทรศัพท์คือเงินน้อยแค่พอใช้จ่าย แต่ที่เงินเยอะไม่ต้องผูก
ในค.เป็นจริงบัญชีที่ไม่ผูกกับออนไลน์ก็จะถูกดึงขึ้นมาดูได้หมดเช่นกันนะคะ ดิชั้นก็ผูกออนไลน์แค่บัญชีเดียวที่เงินน้อย แต่ไอ้ที่ออฟไลน์ไว้นั้น โจรก็สามารถเพิ่มบัญชีดึงขึ้นมาดูในออนไลน์ได้เช่นกันค่ะ ถ้ามันควบคุมมือถือเราได้นะคะ ถ้าโดนแฮคก็จะโดนเรียบทั้งหมดได้เลยค่ะ ทางที่ดีสุด คือ ตัดสาย ไม่คุยเลยค่ะ เบอร์แปลกส่วนใหญ่จะสั่งอาหารหรือส่งของ ถ้าคุยห้าวิ รู้ตัวว่าไม่ใช่ละวางสายเลยค่ะ ส่วนที่ยากที่สุด คือการไม่กดลิงค์ใดๆเลยค่ะ บางทีนึกว่าเพื่อนหรือแอปโฆษณาส่งสินค้าอะไรมาให้ดู เผลอกดดูจบเห่เลย มันเป็นอะไรที่ต้องใช้สติสูงสุดในทุกข้อความแจ้งเตือนค่ะ เพราะปจบ.เราลงแอปในเครื่องกันหลากหลายเพื่อช๊อปปิ้งและอีกสารพัด เผลอไปกดอ่านแล้วปรากฎว่าเป็นแอปปลอมนี่ก็เสร็จโจรแล้วค่ะ😅😢
สรุป ไม่มีความปลอดภัย ใดๆเลย ในการใช้สมาร์ทโฟนทำธุรกรรมต่างๆ
ยิ่งรู้ข้อมูลของเรามากเท่าไหร่ยิ่งผิดปกติมากเท่านั้น
ให้ตรวจสอบ คนเก็บข้อมูล ของธนาคาร จนท หน่วยงานรัฐ รัฐวิสาหกิจ องค์กร เอกชน ที่ทำงานเกี่ยวข้องกับ ปชช. ทั้งหมดเลยครับ
ต้องให้ธนาคาร ถ้ามีเงินโอน หนึ่งหมื่น สองวัน ห้าหมื่น ห้าวัน เกินห้าหมื่นสิบวัน ธนาคารค่อยจ่ายเงิน..แบบนี้มิจฉาชีพหมดที่หลอกแน่นอน..
แต่ถ้าเราจำเป็นต้องใช้เงินด่วนนะสิคะจะไม่สะดวกเราเอง
คุณมึงเลิกใช้โทสับ โจรก็หมดที่หลอกแล้ว
โห..ต้องใช้คำว่าเอาตัวลอด คือมิฉาขีพใหญ่คับฟ้าเลยหรือไง แค่แก้กฎหมายประหารแล้วพวกบัญชีม้าให้จับไปทำงานในคุก
มีแต่ผู้รู้แต่ไม่เห็นเอาความรู้มาช่วยป้องกันโจรช่วยชาติบ้านเมือง
คนไทยเราควรไม่คุยเรื่องเงินไม่ว่าจะตำตรวจหรือใครทางโซเชียล.มันแปลกอีกอย่างประเทศไทยเรามีผู้ช่าย.ผู้ใหญ่บ้าน.กำนัน.นานอำเภอ.สจ.สส.ทุกเดือนมีการประชุมหมู่บ้านควรบันจุเรื่องเกี่ยวกับมิจฉาชีพเข้ามาหลอก.จริงเรื่องเงินไม่ต้องเชื่อตัดจบแล้วไปธนาคารเองเลย
เป็นรัฐบาลควรทำเรื่องนี้ให้เป็นเรื่องระดับชาตเพิ่มโทษบัญชีม้าถึงประหาร มันอ้างว่าไม่รู้จริงๆพวกนี้มันรู้
ต่างประเทศ ถ้าคุณ โอนเงิน มากกว่า สองหมื่น เขาระงับ และไม่สามารถกดเงินได้ ทุกกรณี ทำไม ประเทศไทยไม่มีระบบ ไม่สามารโอนเงินได้ มากกว่า เท่านี้เท่านั้น
ไม่มีอ่ะจ๊ะระวังเอาเอง😊
มันดูดเงินเราได้เราก้อต้องหาทางกำจัดมันได้
ง่ายสุดสำหรับเราไม่เอาเงินไปฝากธนาคารเงินก็มีไม่มากแบบนี้สบายใจกว่า การแก้ปัญหาก็แก้ที่ปลายเหตุ
จริงค่ะ เพิ่งโทรมาค่ะ กรุงไทย ตัดสายบล้อค ไม่คุย😂😂😂😂
สวัสดีครับ รับชมรับฟังอยู่ครับ
โดนไปเยอะเลยเจ็บใจ
ไม่มีเงินในบัญชีปบอดภัยที่สุดแล้ว...พูดง่ายๆก็คือ จน นั่นแหละ😂😂😂😂
เอาตัวรอดคือเก็บเงินไว้ที่บ้าน !
เอาผิดคนเปิดบัญชีม้าเป็นคดีอาญาคนก็จะกลัวและสามารถอายัดเงินได้ทันที อำนาจรัฐมีแต่ไม่ใช่ในการช่วยประชาชน เอามาช่วยเหลือตัวเองให้มีเงินมากขึ้น รัฐจะสนใจอะไรก็เขาก็ปล้นเงินเราออกขากประเป๋าทุกวันคนไทยยังไม่เห็นทำอะไรเลย
ถ้าใหวตัวทันว่าถูกหรอก เชื่อมซิมก็ถอดซิม เชื่อมไวไฟก็ถอดเร้าเตอร์ สิ โอกาสรอดมี เยอะขึ้น
ขอเสนอ วิธีแก้ ประกาศให้ข้อมูลคนที่่รับเปิดบัญชีม้า ไปปิดบัญชี วิธีการให้ความรู้ข้อมูลถึงหมู่บ้านโดยผู้ใหญ่บ้าน
ติดประกาศโดยป้ายไวนิล ว่าถ้าใครเปิดบัญชีม้า จะมีโทษ ถ้าสามารถปิดบัญชีม้าภายในประเทศได้มากเท่าไหร่
คงตัดวงจรได้พอสมควร
เจอเหมือนกันเปี๊ยบเลย
และส่วนตัวผม ก็แค่คิดว่าถ้ามีเงินอยู่ในบัญชี มากกว่า ราคาโทรศัพท์ที่จะซื้อใหม่ 1,000 ขึ้น ก็ยังมีเงินเหลือบ้างนะครับ แต่ถ้าปล่อยให้มิจฉาชีพ มันดูดตังค์จนเกลี้ยงบัญชี ไม่มีตังค์เหลือเลยนะครับ
สมมุติ
มีเงินในบัญชี 4,500 ถ้าจะซื้อโทรศัพท์ใหม่เอาแบบรุ่นเดิมเลยราคา 3,000 ก็ยังมีตังค์เหลือนะครับ
สรุป ควรมีโทรศัพท์ 2 เครื่อง เบอร์1 เอาไว้โทรและรับสาย อีก1 เบอร์เอาไว้ใช้ส่วนตัว
ที่ต่างประเทศก็มีเหมือนกัน มีทุกรูปแบบ ตัดปัญหาแต่ต้นก็คือไม่รับสาย ไม่รู้จักเบอร์ที่โทรมาอย่ารับ อย่าไปคุยอย่าไปต่อล้อต่อเถียงด้วย . ธนาคารไม่เคยโทหาลูกค้า . ถ้าคิดว่าไม่ได้ทําอะไรผิด รึ คิดว่ามีอะไรผิดปกติ เดินเข้าติดต่อเจ้าหน้าที่เองเลย .
ถ้ามีสติครุ่นคิดไตร่ตรอง เรื่องพวกนี้กลายเป็นเรื่องขี้ผงไปเลย
ไม่คุยตัดบทคีอจบค่ะง่ายๆ มีอะไรไปคุยที่เขตเลยค่ะ
ผมว่าน่าจะเป็นพวกที่รับซื้อมือถือเก่าๆ
เพราะมือถือเก่าๆของเราเราเคยใส่ข้อมูลส่วนอะไรเยอะแยะมากมาย
อีกหน่อยต้องเอาเงินฝังดิน 555😊😊😊😊😊😊😊
ปิดสัญญานไวไฟใด้มั้ยคะ
เราไม่กลัวเพราะไม่เคยทำธุรกรรมใดๆเกี่ยวกับการเงินเคยโทรมาค้างค่าพัสดุ4700บาทเราบอกเมื่อวานมึงยังโทรมาบอกว่าพ่อมึงตายกูก็โอนค่าโลงศพพ่อมึงไปให้แล้วไง!55555555
😂😂😂😂
บางที หน่วยงานรัฐเอกชน ไม่ได้โดนแฮกข้อมูล แต่ขายข้อมูลเองนะครับ ไม่ใช่บางทีแต่เป็นส่วนใหญ่
ข่าวออกโครมๆ ยังโดนเขาหลอก แล้วจะให้บอกว่าฉลาดเพียงพอได้อย่างไร
มีแต่คนเก่งๆ เก่งแต่พูด
เบอร์ ไม่รู้จัก ไม่เคยกดรับ
ข้อมูลประชาชนรั่วไหล
ธนาคารจ้างคนนอก..
ติดตามทวงหนี้...
ทุกครั้งจะให้แสดงตัวตนก่อนเพื่อทวงหนี้...
ข่าวดี
แล้วเขาให้ข้อมูลเรามาจากไหนทั้งที่ข้อมูลให้กับรัฐบาลครับ
เอาเป็นว่า แก้ไขระบบธนาคารจะดีกว่า มันไปเชื่อมโยงกันได้ยังไง
วิธีเอาตัวรอดง่ายๆคือ ถอนออกมาเก็บมาไว้ในตู้เซฟ
ถ้าซวยไฟไหม้หร่ะ
ขโมยเข้าบ้านอีก จบ
โทรศัพท์ ของเรา รับแค่ 3 คน 3 เบอร์ค่ะ นอกนั้น ไม่รับ ใครโทรมา บล็อก ทันที มีธุระ การเงิน ทำที่ธนาคารค่ะ อย่ามักง่าย
ส่วนมากคนรวยฉลาดเรียนสูงๆที่โดนหลอก
เอกสารไปถึงนอกอ่ะครับ
โยนโทรศัพท์ลงน้ำเลยค่ะ
ต่อไป ราชการ ธนาคาร อย่ามาติดต่อทางโทรศัพ
ใช้เบิกถอนฉบับเดิมดีอยู่แล้ว
ใช้เครื่องบินคับ
ปิดเครื่องบินเลยคับ