BJC ทำอะไร น่าสนใจอย่างไร และมีความเสี่ยงยังไง?

แชร์
ฝัง
  • เผยแพร่เมื่อ 21 ก.ย. 2024
  • #หุ้น #BJC หรือ บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) ทำธุรกิจที่หลากหลาย โดยมีธุรกิจหลัก 4 กลุ่ม ได้แก่
    1. ธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภค ( #Consumer #Products ) - ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค เช่น ผลิตภัณฑ์ในครัวเรือนและผลิตภัณฑ์สุขภาพ
    2. ธุรกิจค้าปลีกและการจัดจำหน่าย ( #Modern Trade and #Distribution ) - ดำเนินการห้างสรรพสินค้า เช่น บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์
    3. ธุรกิจบรรจุภัณฑ์ ( #Packaging ) - ผลิตและจำหน่ายบรรจุภัณฑ์ต่าง ๆ เช่น ขวดแก้วและกระป๋อง
    4. ธุรกิจอื่น ๆ เช่น ธุรกิจด้านการผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าเพื่อสุขภาพ
    หุ้น BJC น่าสนใจด้วยเหตุผลหลายประการ:
    1. ธุรกิจที่หลากหลาย: BJC มีธุรกิจหลายกลุ่ม ทั้งสินค้าอุปโภคบริโภค, ค้าปลีก, และบรรจุภัณฑ์ ทำให้มีรายได้จากหลายแหล่ง จึงลดความเสี่ยงจากการพึ่งพาธุรกิจใดธุรกิจหนึ่งมากเกินไป
    2. บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์: การถือครองห้างบิ๊กซีทำให้ BJC มีตำแหน่งที่แข็งแกร่งในตลาดค้าปลีก ซึ่งเป็นหนึ่งในธุรกิจที่มีการเติบโตสม่ำเสมอในไทย
    3. ศักยภาพการเติบโต: ความต้องการสินค้าบริโภคและบรรจุภัณฑ์เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม ทำให้ BJC มีโอกาสเติบโตตามความต้องการของตลาด
    4. เครือข่ายและการจัดจำหน่าย: BJC มีเครือข่ายการกระจายสินค้าที่แข็งแกร่ง ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดจำหน่ายและลดต้นทุนในการดำเนินธุรกิจ
    5. การขยายตัวในอาเซียน: BJC มีแผนขยายธุรกิจไปในประเทศเพื่อนบ้าน เช่น เวียดนามและลาว ซึ่งเป็นตลาดที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว
    การลงทุนในหุ้น BJC จึงเหมาะสำหรับผู้ที่มองหาบริษัทที่มีความมั่นคงและมีโอกาสเติบโตในระยะยาว
    การลงทุนในหุ้น BJC มีความเสี่ยงที่ควรพิจารณาดังนี้:
    1. การแข่งขันสูงในธุรกิจค้าปลีก: ตลาดค้าปลีกในไทยมีการแข่งขันรุนแรงจากทั้งผู้เล่นในประเทศและต่างประเทศ เช่น โลตัส, เซ็นทรัล และห้างสรรพสินค้าอื่น ๆ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อส่วนแบ่งการตลาดและกำไรของ BJC
    2. ความเสี่ยงจากเศรษฐกิจและการบริโภค: ธุรกิจค้าปลีกและสินค้าอุปโภคบริโภคขึ้นอยู่กับกำลังซื้อของผู้บริโภค หากเศรษฐกิจซบเซาหรือผู้บริโภคลดการใช้จ่าย BJC อาจได้รับผลกระทบโดยตรง
    3. ความผันผวนของต้นทุนวัตถุดิบ: ธุรกิจบรรจุภัณฑ์ของ BJC ขึ้นอยู่กับราคาวัตถุดิบ เช่น แก้วและอลูมิเนียม หากราคาวัตถุดิบผันผวน อาจทำให้ต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้นและกระทบต่อกำไร
    4. การขยายธุรกิจในต่างประเทศ: แม้การขยายตัวในอาเซียนจะมีโอกาสเติบโต แต่ก็มีความเสี่ยงจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น กฎระเบียบของประเทศนั้น ๆ, ความไม่แน่นอนทางการเมือง และความเสี่ยงทางสกุลเงิน
    5. การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภค: หากผู้บริโภคหันไปซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น ธุรกิจค้าปลีกแบบดั้งเดิมอาจถูกกระทบ ทำให้ BJC ต้องปรับตัวเพื่อตอบสนองต่อแนวโน้มนี้
    การวิเคราะห์ความเสี่ยงเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญในการตัดสินใจลงทุนในหุ้น BJC

ความคิดเห็น •