อนาคตหนังสือการ์ตูนจะอยู่หรือไป ?
ฝัง
- เผยแพร่เมื่อ 17 ก.ย. 2024
- คุณชอบอ่านการ์ตูนแบบไหน ระหว่าง ‘หนังสือ’ หรือ ‘E-Book’ ?
.
ภาพจำสมัยก่อนตอนเด็กๆ จะรอซื้อการ์ตูนที่ร้านขายหนังสือทุกวันหลังเลิกเรียน ปัจจุบันนี้ต้องเปลี่ยนเป็นรอออกตอนใหม่บนสมาร์ทโฟนไปเสียเเล้ว เพราะปฎิเสธไม่ได้เลยว่ายุคนี้เราอ่านสื่อต่างๆ บนออนไลน์เกือบทั้งหมด รวมทั้งวงการการ์ตูนเองก็เริ่มเปลี่ยนจากหน้าหนังสือมาอยู่บนหน้าจอมือถือกันมากขึ้น หรือว่าต่อไปจะกลายเป็นยุคของ E-Book แล้ว ?
.
ชวนมาคุยกับ ‘บ.ก. ยูตะ’ หรือ ‘คุณพิธูร ตีรพัฒนพันธุ์’ หัวหน้ากองบรรณาธิการสำนักพิมพ์ ‘วิบูลย์กิจ’ ตำนานหนังสือการ์ตูนญี่ปุ่นที่ครองใจคนอ่านมานานกว่า 50 ปี อย่างโคนัน ก้าวเเรกสู่สังเวียน และไททัน เมื่อปัจจุบันค้นพบว่าไลฟ์สไตล์คนอ่านเปลี่ยนไปแล้ว พร้อมกับเทคโนโลยีที่เข้ามาแทนที่สื่อสิ่งพิมพ์ พวกเขาจะทำอย่างไรต่อไป ต้องมาติดตามกัน !
#UrbanCreature #UrbanInsight #วิบูลย์กิจ #ebook #vibulkij
หนูเป็นเด็กรุ่นใหม่นะคะที่ยังมีความอยากสะสมอยู่ล้นหลาม ถึงพื้นที่จะมีจำกัด แต่ก็ชอบความรู้สึกตอนพลิกหน้ากระดาษกับมือ ดีใจที่ได้ฟังว่าVBKพร้อมปรับตัวแล้วยังจะอยู่กับเราอีกนาน ในชั้นหนูมีการ์ตูนสนพ.นี้เยอะสุดเลย ผลงานของClamp โคนัน ไททัน ด้วยความที่หนูสะสม ก็อยากให้หนังสือมันไปถึงรุ่นลูกรุ่นหลานเลยปิดซิปล็อคไว้อย่างดี ถึงจะต้องรอนานหรือหนังสือแพงขึ้นหนูยอมจ่ายนะคะ แต่เนื้อกระดาษ หมึก ไม่เป็นใจเลยค่ะ... รบกวนช่วยปรับปรุงส่วนนี้หน่อยนะคะ
สะสมมังงะ เสียความรุ้สึกอย่างนึ่งคือ สำนักพิมพ์ลอยเเพมังงะ ไอ้วิบูลย์กิจกับเนชั่นที่ทำให้ผมเลิกซื้อมังงะมาเก็บสะสม ลอยเเพหลายเรื่องมาก พิมพ์ไม่จบ เเละไม่แปลต่อ
ผมก็คิดสะสมแต่อกหักที่เก็บมาได้นาน ได้แต่เก็บซ่อนหนังสือไว้ อายกับคุณภาพมันมาก ไม่อยากให้ใครเห็นเลย
น้องน่ารักแบบนี้ พี่จะขอน้องมาเป็นภรรยาของพี่ได้มั้ยครับ
@@adbellgameperformance3749 ผมเขาลือๆกันมาว่าค่ายพิมพ์รูปเล่มไม่ค่อยดีจริงหรือป่าวครับไม่กล้าเก็บ555555
@@ต้นOak สำหรับผมถือว่าใช้ได้นะ ไม่ได้แย่ อาจแพงไปนิด
ผมก็เป็นอีกคนที่ชอบอ่านการ์ตูนแบบเล่มมากกว่า E-Book และก็ชอบเก็บหนังสือแบบเล่มมากกว่า ซึ่งก็เก็บของวิบูรณ์กิจด้วย แต่อยากฝากไปถึงสำนักพิมพ์วิบูรณ์กิจนิดนึง
เพราะเห็นตอนนี้ราคาหลายเล่มโดดไป 90 บาทหมดแล้วเลยอยากให้อย่างน้อย ช่วยเพิ่มคุณภาพกระดาษสักนิดนึง เพราะถ้าปัจจุบันเที่ยบกับ Luckpim หรือ Dex แล้ว คุณภาพเขาคุ้มค่ากับราคามากกว่า
แต่ถึงอย่างไงผมก็ยังสนับสนุนค่ายนี้ต่อไปครับ
เอามาปริ้นเองยังราคาถูกกว่า
@@adbellgameperformance3749 ทำการ์ตูนขายไม่ได้มีต้นทุนแค่ค่าพิมพ์กับค่ากระดาษนะ
VBK นี่ทิ้งการ์ตูนไปหลายเรื่องมาก ตอนแรกแปลๆอยู่ สักพักก็ไม่เอามาแปลต่อแล้ว ออกมาหลายเล่มแล้วก็ทิ้งไปเลยก็มี อย่างเซ็ง
ปัญหามันอยู่ที่ว่า ชอบเท การ์ตูนไง อย่าง โอซาว่าฮายกครัว นี่แปลถึงเล่ม6 แล้วก็เท. เออ.. บางเรื่องญี่ปุ่นจบละ อย่างบาคุ นี่ ตั้งแต่ปี 2017 แต่ที่ไทยแม่งยังแค่กลางเรื่องอยู่เลย เสียฐานลูกค้าไปเยอะเอาจริงค่ายนี้
ชอบหนังสือมากกกกก ยังสะสมอยู่นะแต่เศรษฐกิจแบบนี้😵
ผมก็ชอบสะสมมังงะมากๆเลย
มังงะเล่มแรกกับมังงะเล่มล่าสุดของผมก็สะสมตอนเศรษฐกิจตอนนี้นะ55
เหมือนกันครับ
ผมชอบหนังสือมากก่วา
ขึ้นราคา เลยเลิกสะสม อีกสาเหตุคือสำนักชอบลอยเเพ ดองเค็ม
ทุกคนชอบหนังสือที่เป็นหนังสือแหละครับ
แต่ตอนนี้หลายๆคนคงต้องหันมาซื้อเป็น e book กัน คงเพราะราคาไม่เท่าคุณภาพ ส่งช้า ร้านหนังสือพากันปิดตัวหมดจะซื้อทีต้องนั่งรถเข้าเมือง มันหลายๆอย่างอะครับสุดท้ายคนก็อ่านเองก็ต้องปรับตัวเหมือนกัน
เป็นอีกคนที่ชอบจับหนังสือหรือกระดาษมากกว่าโทรศัพท์ค่ะ ไม่รู้สิ เราชอบกลิ่นกระดาษ ชอบสะสม ชอบเวลามองไปที่ชั้นหนังสือแล้วมีมังงะเรียงเต็มชั้นอะไรแบบนี้อะค่ะ ถึงพื้นที่จะมีจำกัดก็เถอะ 555
ช่ายยย ชอบกลิ่นน.สมากๆรู้สึกมีความสุข นี่เราเป็นโรคจิตรึเปล่า5555
@@moo-min1468 ไม่ครับผมก็เป็น
เขาใจคำว่าชอบกลิ่นกระดาษเลยเพราะผมก็เป็นเหมือนกัน55555
ผมเองก็อยากให้หนังสือการ์ตูนอยู่ต่อนะ แต่วิบูลย์กิจช่วยปรับปรุงเรื่องกระดาษกับหมึกติดมือหน่อยเถอะ!!! ขอร้องล่ะ
+1 ดันครับ ราคาแพงไม่ใช่ปัญหาหรอก แค่คุ้มกับคุณภาพก็พอ เกินไปอ่ะ ราคาแพงแต่กระดาษแม่งใช้แบบเดิม
เห็นด้วยเรื่องกระดาษ แต่หมึกติดมือมันคือเรื่องปกติสำหรับคนอ่านการ์ตูนครับ ยิ่งเล่มที่แกะอ่านใหม่ๆต้องโดนตลอดทุกค่าย
@kind man ในอดีตสยามหมึกติดมือครับ แต่ปัจจุบันสยามอาจจะปรับปรุงตรงจุดนี้ไปแล้ว ต้องขออภัยด้วยครับ ผมไม่ได้สังเกต เพราะนานๆจะได้ซื้อเล่ม1 เพราะปัจจุบันตามอยู่เรื่องเดียวครับ
ซื้อของ luckpim มาเล่มล่ะ 80 กระดาษอย่างดีพิมพ์เนียบกริบ พอมาของ vbk 90 บาท กระดาษอย่างหยาบ พิมพ์คุณภาพต่ำ เก็บไม่เกินปีกระดาษเหลืองกรอบแน่นอน คิดว่าถ้าจะอ่านเรื่องใหม่จะไม่อ่านของ vbk แล้วอ่ะครับ รู้สึกว่าโดนโกง
วิบูลย์กิจ ผมเเช่งให้สำนักพิมพ์มันเจ๊งไวๆ ชอบลอยเเพมังงะกับดองเค็ม หลายเรื่องผมซื้อมาเเล้วไม่พิมพ์ต่อ โครตเสียความรุ้สึก ต้องไปหาโหลดสแกนเถือนเป็นภาษาญี่ปุ่นหรืออังกฤษมาดูจนจบ
ส่วนตัวชอบค่ายสยามโอกาศลอยเเพมังงะน้อยมากๆ
ปัญหาของวิบูลย์กิจเลยคือดองการ์ตูนนะ กว่าจะออกมาเล่มนึงนี่นานมาก
การที่คนหันไปหา e-book ในช่วงแรก เพราะรอไม่ไหวนี่แหละ เลยเริ่มหาอ่านใน internet
หนังสืออยู่กับเราตลอดไปแน่นอนค่ะ มันเป็นคุณค่าทางใจอย่างนึง เราชอบสะสมหนังสือการ์ตูนญี่ปุ่น แล้วก็ หนังสือขายขำ ไม่ว่ามันจะเริ่มเก่าแค่ไหน พอหนังสือมันกองรวมๆ มันสวยงามมาก
ผมยังอ่านแบบหนังสืออยู่นะครับ เพราะผมอ่านแบบ E-Book แล้วปวดตา เพราะอ่านนานๆ ไม่ได้ ขอแค่มีอัพเดทหน้าเวปว่ามีหนังสือใหม่อะไรบ้าง ผมก็จะสั่งซื้อออนไลน์ได้นะ ขอแค่อย่าเลิกพิมพ์ก็พอ
ดีจังที่วิบูลย์กิจยังอยู่ต่อได้ ผมคิดถึงสมัยร้านหนังสือ หมึกจีน ที่เป็นคู่แข่งกัน ถ้าเค้าอยู่ต่อได้แบบวิบูลย์กิจคงดี ผู้บริโภคจะได้มีทางเลือกมากขี้น ขอให้วิบูลย์กิจ อยู่กับเด็กไทย(ผู้ใหญ่ก็ด้วย) ไปนานๆนะครับ
ส่วนตัวคิดว่ามังงะดั้งเดิม และนิยาย ยังไงก็เหมาะกับรูปเล่มกระดาษ ต่อให้ E book จะมีเอฟเฟคต์แบบเปิดหน้าหนังสือยังไงก็ไม่ช่วย นอกจากการ์ตูนเรื่องนั้นจะจัดหน้าแบบพวก web toon จึงเหมาะกับ device ที่เป็นจอแสดงผล
อีกเรื่องหนึ่ง เมื่อคอมพิวเตอร์มีสิ่งอื่นล่อตาล่อใจมากมาย ทั้งยูทูป เฟซบุ๊ค น้อยคนจะเลือกอ่านหนังสือบนคอม มือถือ แทปเล็ต สำหรับผมหนังสือคือทางเลือกเมื่อผมต้องการพักสายตาจากจอคอม จอมือถือ
ยังรักการ์ตูนเล่มเสมอครับ อาจจะเพราะเกิดในยุค 90’ ในความคิผมอ่าน E-book กับ อ่านหนังสือจริงๆมันคนละฟิวจริงๆครับ โตมากับสำนักพิมพ์นี้จริงๆครับ ถ้าเงินเดือนเยอะขึ้นคิดอยู่ว่าจะเจียดเงินกลับมาสะสมแบบเล่มอีกครั้ง 😌
ส่่วนตัวชอบ หนังสือมากกว่านะ ผมชอบที่จะสะสม555 อยากให้มีต่อนานๆ
vbk ช่วยเปลื่ยนกระดาษค่ายคุณหน่อยได้ไหม เพิ่มราคาแต่การดาษเหมือน20ปีที่แล้ว🙄
อีกอย่างยกเลิกแต้มสีตรงราคาสันปกได้แล้ว! เปลี่ยนราคาทีเปลี่ยนสีที เวลาเอามาเรียงในชั้นหนังสือค่ายอื่นสันปกสวยๆ มีแต่vbkนี่ละเกือบจะเป็นสีรุ้งแล้วเห็นแล้วน่าหงุดหงิดสุดๆ😑
/สันปกเรียงสวยๆต้องยกให้สนพ.phoenixเลย วางเรียงแล้วสวยมาก~ เพราะป้ายราคาอยู่ปกหลัง
อีกค่ายNEDถึงจะอยู่ที่สันปกแต่ก็กลมกลืนดี👍
อยากให้สู้ต่อไปนะครับ พวกคุณเป็นผู้สร้างความฝันให้กับพวกเด็กที่กำลังโตอย่างพวกผม ได้มีจินตนการ ความคิดสร้างสรรค์ รวมถึงความฝัน เวลาเจอเรื่องเครียด ได้อ่านการ์ตูนมันก็มีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้น ยังไงจะสนับสนุนต่อไปนะครับ ผมชอบเรื่อง Cage of Eden มากเลย ปล.นิดนึงครับเรื่องกระดาษปรับหน่อยก็ดีครับ 🥰
ผมอุดหนุนแบบรูปเล่มซะมากกว่าแบบ E-book นะครับ เพราะว่าผมแสบตา คงอ่านไม่ได้ตลอดเวลาถึงแม้ว่าผมจะเป็นคนติดมือถือก็ตาม แต่ผมอยากให้ปรับปรุงเรื่องหมึกหน่อยครับ แต่ผมอุดหนุนตลอดครับแบบรูปเล่มมันสามารถจับต้องได้ ถือว่าเป็นความสุขทางจิตใจดี
ฝากถึงวิบูลย์กิจว่า อยากสนับสนุนนะครับ ชอบแบบถืออ่านเป็นเล่มพิมพ์มากกว่า e-book เรื่องเนื้อกระดาษนี่ไม่บ่นเลย เข้าใจว่าทุกวันนี้กำไรน้อยลง แต่ช่วยควบคุมคุณภาพงานแปลให้ดีด้วยครับ โดยเฉพาะเรื่องดังเรื่องขายดี
เพิ่งซื้อผ่าพิภพไททันแบบชุดใหญ่มาไม่นาน อ่านเล่ม 1-10 แล้วปวดตับกับสำนวนแปลมาก ส่วนใหญ่ทื่อ ไม่เป็นธรรมชาติ บางจุดถึงขั้นอ่านแล้วต้องตีความอยู่นานมากว่านี่ตัวละครมันพูดอะไร แถมชื่อตัวละคร ชื่อสถานที่ก็หลุด ชื่อเฉพาะในเรื่องนี้ส่วนใหญ่เป็นชื่อที่ตั้งมาจากภาษาอังกฤษ แต่เหมือนนักแปลกับทีม บ.ก. ไม่เช็คเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับต้นทางว่าคำอ่านมันคืออะไรกันแน่ แปลมาตามคะตะคะนะดุ้นๆ จนมันเพี้ยนไปเลย แล้ว consistency ก็แย่ เล่มนึงแปลชื่อกำแพง Wall Sheena พออีกเล่มสะกด Shiina แล้วเล่มต่อไปก็กลับไป Sheena อีก กลับไปกลับมา
เข้าใจว่านักแปลญี่ปุ่นคงหาไม่ง่าย ถึงได้นักแปลที่เก่งภาษาญี่ปุ่นแต่ไม่เก่งภาษาไทยมาก็คงต้องใช้ไป แต่ถ้ากอง บ.ก. ไม่ใส่ใจเกลาภาษาไทยอีก ลูกค้าเสียเงินซื้อแบบเล่ม/e-book ของแท้มาสะสม แต่ได้คุณภาพเหมือนงานแฟนซับอ่านฟรีตามเว็บเถื่อนก็ไม่ไหวนะครับ
นึกถึงยุค 80 สมัยก่อนจะเริ่มมีลิขสิทธิ์ ตอนนั้นมีสาม สนพ. หลักที่เด็กรุ่นผมชอบซื้อ คือ วิบูลย์กิจ หมึกจีน มิตรไมตรี ซึ่งแปลดีสอง แปลลวกๆ อ่านรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้างเน้นออกเร็วซะหนึ่ง วิบูลย์กิจคือหนึ่งในสองที่แปลดีนะครับ อยากให้ยังเป็นอย่างงั้นต่อไปครับ
ยังชอบอ่านหนังสืออยู่ค่ะ ยังชอบอ่านทั้งนิยายการ์ตูนคอมิคหรือวรรณกรรมต่างๆ ผ่านหน้ากระดาษอยู่ค่ะ แต่ต้องยอมรับว่ากำลังซื้อมันมากขึ้น ราคาหนังสือสวนทางกับรายได้ และe-bookมีต้นทุนในการทำที่น้อยกว่าคนที่เขาไม่ซีเรียสก็จะซื้อebookแทน คนชอบebookมีเยอะค่ะ แต่คนที่ชอบหนังสือก็ยังมีค่ะ เรายังไม่อยากให้สำนักพิมพ์ต่างๆเลิกตีพิมพ์หนังสือออกมาจริงๆค่ะ
ผมชอบหนังสือมากกว่าE-book เพราะผมชอบที่จะได้กลิ่นของหนังสือ ได้สัมผัส ได้จับต้อง ชอบความคลาสสิคของหนังสือกลิ่นหมึกกลิ่นกระดาษ ได้หยิบจับ นั้นละครับผมถึงหลงรักหนังสือพอๆกับหลงรักผู้หญิง E-book มันสบายก็จริงแต่มันไม่มีเสน่
โดยส่วนตัวผม ชอบหนังสือมากกว่านะครับ เพราะผมชอบสะสมหนังสือมากว่าอ่าน e-book ผมก็เป็นคนรุ่นใหม่ที่ชอบสะสมหนังสือ ❤️❤️❤️
เห็นด้วยกับการปรับตัวครับ แต่ก็มองว่าคนที่เก็บสะสมแบบเล่มก็ยังเยอะอยู่ในระดับหนึ่ง และก็เห็นด้วยกับอีกหลายๆเสียงว่า ถ้าจะขึ้นราคาก็เพิ่มคุณภาพกระดาษให้เหมาะสมกับราคาสักหน่อย ราคาขึ้นแต่คุณภาพเท่าเดิมนี่ก็ไม่ไหวนะครับค่ายอื่นเขาไปถึงไหนกันแล้ว อีกเรื่องก็พวกดองหนังสือหรือลอยแพหนังสือไม่รู้ว่าปัจจุบันยังเป็นอยู่มั้ยแต่เรื่องนี้โดยส่วนตัวทำให้ไม่ค่อยกล้าที่จะซื้อของค่ายนี้เพราะกลัวออกไม่จบ รอจบแล้วซื้อทีเดียวรู้สึกปลอดภัยกว่า
ก็ยังสะสมอยุ่นะ ทุกวันนี้ปัญหาหลักๆ ที่ซื้อมันอยู่ไม่ไช่ราคา นะแต่คุณภาพล้วนๆ ตัดภาพบ้าง คุณธรรมเกินจำเป็นบ้าง เช่นผ่าง วิ้งบู้ม หน้ากระดาษคุณภาพหนังสือ ทุกวันนี้ในใจยกหนังสือทำด้วยใจ และตรงจุดก็ไล่แต่ของ เซนชู เลยทำดีมากตรงต้นฉบับอ่านลื่นราคาเหมาะแพงกว่านี้ยังไหวหงะ รองมาก็ของลัคพิม อันนี้กระดาษถนอมสายตาเส้นจะคมๆปกตัดคมกริ๊ป ราคาแพงขึ้นเรื่อยๆก็ไหวนะปัญหาค่ายนี้คือ หนังสืมมันมาไม่คงที่แถมขาดๆหายๆอีก ไอ้ที่ตามๆอยู่ไม่ออกดื้อหรือไม่มีเฉยเลย ค่ายเด๊กส สยาม วิบูลนี่พอๆกัน มาตฐาน แต่ราคาเริ่มไม่สมคุณภาพละแพงได้แต่ต้องดีด้วยเช่นของสยาม ทำเล่มรีบูตใหม่ปกอย่างดีเลยเช่น I,S เราก็นึกว่าตรงต้นฉบับที่ไหนได้เหมือนเล่มสมัย30กว่าบาทแบบเดิมๆเลย เกริ่นยาวเหมือนระบาย จบที่ว่ายังตามซื้อสะสมอยู่ดีนั่นแหละ ถึงเดือนๆหนึ่งหมดเกือบ3-4 พันแต่ได้หนังสือกลับบ้านไม่ถึง30เล่มก็เถอะ ใจรักซะอย่าง
ส่วนตัวชอบแบบหนังสือมากกว่านะ เวลาอ่านebook แล้วปวดตา(จริงๆ) ได้ฟีลรู้สึกว่าเวลาสะสมเป็นห้องหนังสือแล้วสวยดี
เข้าวงการอ่านการ์ตูน ebook เพราะวิบูลกิจเลย
ถูกใจสุดคือราคาไม่เวอร์เหมือนแบบเล่ม ซื้อง่าย อ่านง่าย ไม่เปลืองที่
สนับสนุน แบบ นส. มากกว่าครับ อ่านแล้วมันสนุกกว่าน่ะครับ ไม่รู้จะพูดคำอื่นยังไงแล้ว รัก หนังสือการ์ตูนครับบ❤
ผมเป็นเด็กรุ่นใหม่ ที่ยังชอบการอ่านหนังสือการ์ตูนแบบเป็นเล่มมากกว่านะครับ มันให้ความรู้สึกแบบได้สัมผัส ได้ตื่นเต้นกับบทของแต่ละหน้าแบบลุ้นๆว่าหน้าต่อไปจะเป็นยังไงนะ มันได้ฟิลกว่า เคยอ่านหลายเรื่องของวิบูลย์กิจสมัยเด็กครับ พอโตมามีกำลังทรัพย์แล้วพยายามตามหา ตามหายากมากในหลายๆเรื่องเพราะไม่พิมพ์เพิ่มแล้ว พูดแล้วก็เศร้า
บางร้านซื้อมาตั้งแต่เด็กจนโต ก็ปิด ทยอยปิดไปเรื่อยๆ ในห้างที่เคยซื้อก็ปิดหมด บางทีขับรถหาร้านการ์ตูนทั้งวัน บางเรื่องก็แพงมาก เด็กสมัยนี้ซื้อไม่ไหวก็เข้าใจเรื่องต้นทุนกับลิขสิทธิ์ เด็กก็เลยหาอ่านฟรีๆตามเนต ส่วนตัวอ่านกับหนังสือจะชอบมากกว่า เคยนั่งคุยกับเจ้าของบางร้านปรับตัวไว ก็อาศัยส่งเคอรี่ให้ลูกค้าประจำ แต่กำไรก็คงไม่ได้มากมายทำเพราะใจรัก ความทรงจำดีๆตอนเด็ก รอคอยเดอะทาเล้นเล่มละ7บาทออกทุกอาทิตย์เพื่ออ่านดราก้อนบอล เตรียมขนมพร้อมอ่านอย่างมีความสุข ซึ่งเด็กสมัยนี้คงไม่มีโอกาส สัมผัสบรรยากาศแบบนั้น.
เราเป็นที่ชอบอ่านแบบหนังสือมากกว่าแบบในโทรศัพท์อะคะ อ่านแบบE-bookละไม่ค่อยอินเลย ทำไมก็ไม่รู้5555555////ต่อให้หนังสือการ์ตูนราคาจะขึ้น เราก็จะอุดหนุนต่อไปค่า
//////อยากให้มีหนังสือการ์ตูนต่อไปเรื่อยๆ(;-;)
วิบูรณ์กิจ อยู่กับเรามาตั้งแต่เด็กๆ คู่กับ ยอดธิดา มิตรไมตรี หมึกจีน ฯลฯ หลังจากลิขสิทธิ์เข้ามา สนพ.ต่างๆก็ล้มหายตายจาก นึกถึงสมัยที่ สนพ.แข่งกันโดยการพิมพ์เรื่องเดียวกัน คุณภาพการแปล รูปเล่ม ความหนา ราคา คือตัวตัดสิน บรรยากาศแบบนั้นไม่มีอีกแล้ว ดีใจที่วิบูรณ์กิจยังคงอยู่ เป็นตำนานที่ยังมีชีวิตของวงการการ์ตูนญี่ปุ่นแปลไทย ตั้งแต่ยุคไพเรทจนถึงยุคลิขสิทธิ์
อยากให้บก.ยูตะได้อ่านเม้นนี้จัง
เป็น fc.วิบูลกิจรุ่นที่สองค่ะ เริ่มมาจากคุณพ่อที่สะสมหนังสือการ์ตูนมาตั้งแต่ สมัยวีคลี่ คอมมิคส์ ยังไม่มีลิขสิทธ์อะค่ะ ปัจจุบันคุณพ่อเสียไปแล้ว แต่ที่บ้านยังเก็บหนังสือเหล่านั้นเอาไว้อย่างดี(เท่าที่ทำได้)มาตลอด ที่อยากจะบอกก็คือ อย่าเทบ่อยนักสิ หลายเรื่องที่วิบูลกิจเท ทำให้คอลเลคชั่นมันแหว่ง นึกออกช้ะ
เป็นกำลังใจให้เสมอค่ะ ยังติดตามอยู่ ยังซื้ออยู่ นานเท่าที่ยังทำขายนั่นแหละ
ชอบหนังสือ ครับ ชอบหนังสือมากว่า ตอนนี้เริ่มเก็บได้หลายเรื่องแล้วครับ เมื่อ2-3ปีก่อน
อ่านหนังสือจะสนุกกว่า
ถึงปีนี้ เศรษฐกิจจะไม่ดี ผมก็ยังตามเก็บอยู่นะครับ ผมอยากให้มีอยู่ต่อไปครับ
ยังชอบหนังสืออยู่ค่ะ หนูเกิดปี 2550ค่ะบอกตรงๆว่ายัวพอได้รับอิทธิพลจาก90มาบ้างถึงแม้ว่าจะปลายๆแล้วแต่ก็ยังทันหนังสือตลกค่ะพวกขายหัวเราะ ปังปอน และก้หนังสือการ์ตูนผีไทยค่ะจะบอกว่าชอบมากในตอนนั้นซื้อมาหลายเล่มมากเพราะตอนนั้นราคาไม่ได้แรงเลยค่ะ 10-15บาทได้มั้งึะถ้าจำได้ แต่บอกตรงๆเลยนะคะว่าหนังสือการ์ตุูนมันมีความสนุกมากกว่าแบบในดิจิตอลจริงๆค่ะ ยังอยากให้มีต่อไปค่ะ แต่ยอมรับเลยว่าปัจจุบันหนังสือการ์ตูนแถวบ้านไม่มีขายแล้วค่ะ แต่แต่ก่อนยังมีสมัยหนูยังเด็ก
อย่าหยุดทำเป็นรูปเล่มนะคะ เพราะลูกชายอายุ 11 ขวบ ก็ยังเป็น 1 ในอีกหลาย ๆ คนที่ชอบอ่านเป็นหนังสืออยู่ดี อารมณ์ตอนฉีกซองพลาสติก เปิดแล้วได้กลิ่นหมึก ยังไง ๆ มันก็ใช่กว่า
หนังสือการ์ตูนมันมีสเน่ห์ในตัวมันอะ แบบมันมีสิ่งที่ e book ไม่มีอะ
สะสมโยกังไว้ทุกเล่ม เวลามองปกสีเรียงสลับคือดีงามมาก
ชอบสะสมหนังสือมากๆ แต่หลังๆมานี่ราคาโคดแพงทุกสำนักพิมพ์เลย ᅲᅲ สู้ไม่ไหวจริงงงงงๆ ไม่รู้ทำไมอยู่ๆถึงแพงขึ้นได้ขนาดนี้
ผมเลิกซื้อหนังสือการ์ตูนมาได้ 12 ปีละ ผมเคยนับๆ สะสมตั้งเเต่เล่มละ 25 จนถึง 45 บาท ประมาณ 1000 เล่มได้ ทุกวันนี้ไม่เหลือซักเล่ม ebook ไม่มีวันซื้อ ไม่ใช่หัวโบราณ เเต่ รู้สึกมันไม่มีราคา ตอนนี้จะสะสมเฉพาะ หนังสือการ์ตูนจากญี่ปุ่นเท่านั้น กระดาษดีกว่ามาก หมึกก็ดีมากมาย น่าสะสม ตอนนี้กำลังคิดว่า จะเอาเรื่องอะไรดี ส่งท้าย เป็นฉบับญี่ปุ่นทั้งหมด
ถึงแม้หนังสือการ์ตูนแบบกระดาษในบ้านเราจะค่อยๆหายไป แต่ยังไงก็ยังมีแบบที่แปลไทยให้ได้อ่านกัน เป็นการปรับตัวที่ดีมากๆเลย ขอบคุณครับ
เล่มสิครับ ของมันจับต้องได้ดีกว่า Feeling ดีกว่า แต่ที่แน่ๆ GTO ผมมีแถบทุกภาค ยังไงก็ขอให้สำนักพิมพ์สู้ๆครับ
เรื่องลอยแพ นี่ก็เป็นปัญหาใหญ่ ของคนเก็บ คนอ่าน กันเลยนะ วิบูลกิจ เรื่องลอยแพ นี่อันดับต้นๆเลย
ผมว่าตั้งแต่มีเขาเริ่มทำ ebook นี่แทบจะไม่ลอยแล้วนะครับ เอาเข้าจริงอันดับต้นๆเรื่องลอยนี่คือ ned ครับ แต่ของ vbk ชอบเกิดกับเรื่องดังตั้งแต่นักเขียนย้ายค่าย สนพ.ยุบ นิตยสารปิดหัว หรือลอยเอง
ช่ายเลยกับ ตามเก็บๆอยู่เปลี่ยนค่ายอีกนะ นั่นหละปัญหาเหมือนกัน คนละค่ายไม่พอทำไม่เหมือนกันอีก ไม่เทก็ทิ้งสิแบบนั้น
Ebook อ่านได้นะแต่ไม่ได้อรรถรสเท้าหนังสือ หนังสืออย่างน้อยได้เสียงการพลิกกระดาษ ได้กลิ่นหอมจากกระดาษที่พิมพ์ที่ ebook ไม่มีวันสู้ได้
น่าใจหายเมื่อคิดถึงจุดที่โลกจะ
ไม่ผลิตหนังสือการ์ตูนแล้ว
ตอนเด็กอยากสะสมเก็บเหมือนเพื่อน
แต่ด้วยฐานะการเงินที่บ้าน ยากพอที่จะทำเช่นนั้น แม้เราจะเก็บเงินซื้อได้เองแต่ก็ยังไม่สามารถซื้อได้ครบทุกตอน
พอโตมา พยายามเติมเต็มความฝันในวัยเด็ก แต่หนังการ์ตูนปัจจุบันเริ่มเป็นของแร หายาก ตามเก็บยากและบางครั้งเขาก็อาจจะเลิกพิมพ์ไปแล้ว
น่าใจหายเหมือนกันนะ
ถ้าเปลี่ยนกระดาษแบบเปลี่ยนราคายอดขายคงดีขึ้นกว่านีนะครับ attack on titan กระดาษโครตเน่าขอบายราคาตั้ง90บาท ซื้อเรื่องอื่นของ luckpim กระดาษโครตดีขอบายเสียดายลิขสิทธิ์ รอลุ้นสยามได้ลิขสิทธิ์เรื่องนี้แบบ berserk อยู่นะ vbk นี่เคยอ่านสมัยมัธยมเรื่องเกาะกระหายเลือดกระดาษว่าเน่าแล้ว แล้วก็ไม่ได้ตามต่อไม่คิดว่ากลับอ่านเรื่อง attack on titan กระดาษจะยังคงเเบบเดิมทุเรศมากบอกตรงๆราคาสวนทางกับคุณภาพมาก บาย vbk ไม่ขอสะสมของๆค่ายนี้อีกเสียดายลิขสิทธิ์การ์ตูนดีๆ
คือเข้าใจความอยากสะสม ความ old school นะ แต่การมาของเทคโนโลยีมันเข้ามาเพื่อให้คุณภาพชีวิตมนุษย์ดีขึ้น ใช้ทรัพยากรลดลง เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและโลกมากขึ้น มันก็ต้องปรับเปลี่ยนตามเทคโนโลยีสิ ทำไมต้องพยายามทำให้เทคโนโลยีดูเป็นผู้ร้าย ทั้งที่มันทำให้ลดการใช้กระดาษลง ก็ลดการใช้ไม้ลง บดประมาณขยะลงได้อีก ซึ่งมันก็เป็นสิ่งที่ดีอยู่แล้ว
เลิกโทษยุคสมัยและเทคโนโลยีกันสักที
ผมจะซื้อจะถ้า
-ราคาไม่แพงเว่อร์
-กระดาษอ่านแล้วไม่ปวดตา
-กรอบคำพูดไม่สลับกัน
วิบูลกิจกับสยามอินเตอร์มักเจอปัญหานี้
ชอบสะสมแบบเล่มครับ มากกว่าอ่านในมือถือ อรรถรสต่างกันมาก แต่ก็ต้องยอมรับว่าเทคโนโลยีทุกวันนี้ แทบจะครอบคลุมทุกอย่างแล้ว
ฟิวอ่านเป็นรูปเล่ม กับอีบุ๊ครึตามแปลเถื่อน มันต่างกันมากนะคะ เป็นคนนึงที่อ่านแต่เป็นเล่ม ไม่งั้นก็ดูเป็นอนิเมไปเลย อ่านตั้งแต่อายุ11 ขวบ เก็บตังค่าขนมซื้อ ปัจจุบัน อายุ35 แล้ว ก็ยังซื้ออ่านอยู่ทั้งค่ายนี้และค่ายอื่นๆ การ์ตูนโปรดเมื่อ10-20ปีที่แล้วที่ซื้อมาสมัยนั้นก็ยังรอดมาถึงปัจจุบันเลย (แต่แอบนอยนิดนึงนะคะ ว่าออกช้าจังค่ะ เคยรอเป็นปีๆเลยอะกว่าจะออกแต่ล่ะเล่ม ล่ะมีแบบพิมพ์เล่ม1 แล้วก็หายไปเลย...)
ปล.ยังรอซื้อ โนระงามิ อยู่นะคะ
เป็นกำลังใจให้สนพ.วิบูลย์กิจนะคะ ติดตามการ์ตูนสนพ.นี้มานานเลยค่ะ ชอบจังที่บ.ก.ยูตะบอกว่าการ์ตูนมันควรจะง่ายสำหรับทุกคน 👍🏻
แต่ตอนนี้ไม่ใช่แบบที่น้าแกคิดแล้วนะครับ โลกไปทางดิจิตอลก็จริง สิ่งพิมพ์หลายๆอย่างอาจจะตาย แต่ หนังสือการ์ตูนความต้องการยังเยอะและมีตลอด ไม่งั้นจะไม่มีพ่อค้าที่กวาดซื้อไปโก่งราคาหรอกครับ ปรับความคิดใหม่นะครับ นักสะสมมีเยอะครับบ้านเรา คนที่อยากเก็บเป็นเล่มๆ เสพงานผลิต งานพิมพ์ดีๆมีเยอะครับ อยากให้พิมพ์ออกมาเยอะๆและฟังเสียงของลูกค้าเวลาเล่มไหนหมดแล้ว อย่าให้รีปริ้น ผมคนนึงอย่าได้หลายเรื่องของวิบูลย์กิจแต่พอเข้าดูในเว็บ มีนะ แต่ไม่ครบ มันก็ไม่อยากซื้อครับ ไปดูร้านพ่อค้ามือสอง บางทีก็สภาพแย่แต่ขายแพง เพราะของมันมีความต้องการในตลาด ใครๆก็อยากได้หนังสือมือหนึ่งครับ ขอบคุณครับ
การ์ตูนเล่ม วิบูลย์กิจจะอยู่ได้ ต้องปรับกลยุทธ์กันเยอะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะ
1. คุณค่ากระดาษต้องดีกว่านี้
2. คุณภาพการพิมพ์ต้องดีกว่านี้
3. เลือกการ์ตูนต้องเฉียบกว่านี้
4. การจัดการจำนวนพิมพ์ต้องดีกว่านี้
อยากโทษเทคโนโลยี หันไปดูเจ้าอื่นว่าทำอย่างไร ค่อยโทษ EBook
สมัย 10 กว่าปีที่เเล้วผมอยู่ ป.6 ผมเก็บเงินซื้อหนังสือการ์ตูนทุกวัน ย้ำทุกวันผมได้เงินวันละ100 อย่างรีบอร์น สมัยนั้นเล่มละ 45-50 จำไม่ค่อยได้ ผมมีความสุขท่ีได้อ่าน เเต่ตอนนี้ผมอยากสารภาพว่าผมไม่ได้ซื้อหนังสือการ์ตูนเเล้ว 1.พอเก็บไว้สัก2-3ปีเหมือนตัวหนังสือมันจางลง 2.พื้นที่เก็บไม่มีซื้อเยอะเกิน 3.ขายไม่ได้ราคา ตอนเด็กซื้อมา45-50 พอตอนนี้มีขายเป็นชุดบางชุด 40 เล่ม 1000บาทหรือถูกกว่านั้น 4.ขาดง่ายมีวันหนึ่งเก็บในกระเป๋าเรียนฝนตกนั่งวินทำไรไม่ได้ต้องเอาตัวบังฝน พอกลับบ้านเอามาวางให้มันเเห้ง ผลที่ได้กระดาษติดกันผมจะเเกะ หนังสือลอกออกมาหรือไม่ก็ขาดหรือไม่ก็กระดาษกรอบเเบบเกี๊ยวเเข็งๆ จนมีอยู่วันหนึ่งผมคุยกับเพื่อนเเล้วผมอ่านถึงเล่มล่าสุด เเต่เพื่อนมันเล่ายาวกว่าผมหลายสิบตอน ผมถามไปหาอ่านจากไหน เพื่อนบอกในอินเทอร์เน็ตเเต่เป็นภาษาญี่ปุ่นหรืออังกฤษนี้ละ ผมก็เข้าไปอ่านวันนั้นความคิดของผมคือ 1.ไม่เสียเงิน 2.ไม่เสียพื้นที่เก็บ 3.ไม่ต้องกลัวของเสียหาย 4.สะดวกสบาย ที่ผมพิมพ์คือความจริงไม่เกี่ยวกับเรื่องลิขสิทธิ์หรือไม่ ผมเเค่สารภาพว่าครั้งหนึ่งความคิดผมได้เปลี่ยนไป ไม่ได้พูดถึงสำนักพิมพ์ไหนสักสำนักนะ พูดเรื่องความคิดการซื้อหนังสือเทียบสมัยนั้นกับสมัยนี้
หนูชอบอ่านเป็นหนังสือ มากกว่า E-book ค่ะ ชอบสะสมหนังสือมากกว่าถ้าเป็นe-bookนี้จะไม่ค่อยรู้สึกได้ฟิลเหมือนหนังสือ ตอนนี้หนังสือเต็มบ้าน555 อย่าหยุดสร้างหนังสือเลยนะคะหนูก็คนรุ่นใหม่
ผมชอบแบบเล่มครับ ซื้อของ luckpim มาเล่มล่ะ 80 กระดาษอย่างดีพิมพ์เนียบกริบ พอมาของ vbk 90 บาท กระดาษอย่างหยาบ พิมพ์คุณภาพต่ำ เก็บไม่เกินปีกระดาษเหลืองกรอบแน่นอน คิดว่าถ้าจะอ่านเรื่องใหม่จะไม่อ่านของ vbk แล้วอ่ะครับ รู้สึกว่าโดนโกงเสียความรู้สึกเมื่อเทียบกับเจ้าอื่นๆ ที่เขาพัฒนาใส่ใจไปตามราคาที่ขึ้นไป แต่ vbk ราคาเพิ่มขึ้นคุณภาพเท่าเดิม #ผิดหวัง #เลิกซื้อวิบูลย์กิจ
อายุ26ยังชอบอ่านหนังสือการ์ตูนมากกว่าอ่านผ่านเทคโนโลยี เพราะชอบสะสมเวลาเห็นหนังสือการ์ตูนเรียงกันเยอะๆ จะยังอุดหนุนเรื่อยๆแม้จะไม่ค่อยได้อ่าน สู้ๆค่ะ😀
ผมเป็นคนสะสมหนังสือการ์ตูนนะคับ ชอบอ่านและสะสมมากๆ ไม่ชอบอ่านE bookเพราะมันไม่ได้อารมณ์ กลิ่นหมึก และรอยเปื้อนหมึกบนนิ้ว ผมอยากให้พวกคุณพัฒนาให้มากกว่านี้ จำได้ว่าเคยซื้อตอนเล่มละ25บาท จนมันขึ้นราคาไป70up ผมว่ามันแพงไปเยอะมาก เข้าใจว่าอะไรๆก็แพง แต่ตอนนี้ผมเลิกซื้อละ แต่ก็ยังตามสะสมพวกมือ2 เพราะผมไม่ไหวกับราคาในปัจจุบัน ถ้าลดราคา หรือตรึงราคากลับมาได้สัก50-60ยังพอรับได้คับ ไม่ไหวจิงๆจากคนสะสมคับ
เราสะสมหนังสือการ์ตูนน่าาา มันรู้สึกดีเมื่อมองดูชั้นหนังสือ เเล้วมันเต็มๆ feel good☺️☺️❤❤
เป็นคนรุ่นครึ่งๆกลางๆ ชอบอ่านทั้ง2แบบ อ่านแบบหนังสือได้ฟิลสมัยก่อนชอบกลิ่นหมึกกลิ่นกระดาษรู้สึกว่ามันอ่านง่ายเวลากวาดสายตาเรามองภาพรวมได้ดี แต่ก่อนคืออ่านเป็นสิบเล่มภายในวันเดียว เดี๋ยวนี้หันมาอ่านebookก็ดีอีกแบบคืออ่านในที่มึดได้ ชอบเอาผ้าห่มมาคลุมโปงนอนอ่านแต่บางที่อ่านในมือถือต้องมานั่งขยายภาพก็จะอ่านได้ช้าลง แต่สะดวกตรงอยู่ที่ไหนก็ซื้อหนังสือได้เพราะร้านขายหนังสือร้านประจำแถวบ้านทยอยปิดตัวกันไปเยอะแล้ว เป็นกำลังใจให้สำนักพิมพ์อยู่ไปนานๆ อายุมากขึ้นแต่ไม่เคยหยุดชอบการอ่านการ์ตูน❤️
อยากให้ลองปรับ/พัฒนา 1.การแปลเนื้อหาให้ดีขึ้น 2.พิมพ์เนื้อหากระดาษที่ดีขึ้น 3.ลดราคาตัวเล่มปกลงไปหน่อย ปัจจุบันแพงเหลือเกิน
ไม่หรอก Ebook ทำให้เราเข้าใจเนื้อเรื่อง และ ความสนุก ที่นักเขียนสื่อได้ แต่ขาดอารมณ์ ที่เราจะได้สัมผัส กับกระดาษหยาบๆ ไม่ได้ลายเส้นหนักเบาของหมึก ที่ตีพิมพ์ลงบนกระดาษ แต่ต้องมานั่งอ่าน หน้าจอที่มีแต่แสงสีขาวๆ ยังไงการอ่านเป็นเล่ม ก็ง่าย และได้ความรู้สึกกว่า จะเรียกว่า คลาสสิคก็ได้ เมื่อก่อนก็ไม่ได้คิดว่า การอ่านหนังสือการ์ตูนจะคลาสสิคอะไร เพราะผู้ใหญ่ยังไม่เข้าใจว่าเราอ่านไปทำไม เขายังมองว่า ไร้สาระ เหมือนกับที่เรามองเด็กสมัยนี้ กดมือถือ
เอาจริงๆถึงจะมีE-bookเข้ามาหลายคนมากๆก็ชอบที่จะซื้อเป็นหนังสือมากกว่าผมก็เป็นหนึ่งในนั้นและเป็นเด็กยุคนี้ กลายเป็นว่าซื้อแต่ที่เป็นหนังสือ E-book ไม่เคยซื้อเลยการได้จับหนังสือ การได้กลิ่นหนังสือ การได้สะสมนั้นแหละคือเสน่ห์ของการอ่านหนังสือ มองว่าบางคนที่เขาหันไปซื้อแบบ E book เพราะเก็บง่าย ถูก และแบบที่เป็นหนังสือมันแพง แต่เอาจริงๆมันก็ไม่อาจไปแทนคุณค่าของหนังสือได้
อ่านจากหนังสือ
1. ได้สมาธิที่แท้จริง
2. ลดการใช้สายตาจากโทรศัพท์
บอกเลยว่ายุคนี้ถ้าค่ายไหนไม่มี e-book ขายก็เตรียมบ๊ายบายวงการอย่างไวได้เลยครับ(คือไม่จำเป็นต้องทำทุกเรื่องก็ได้ แค่เน้นเรื่องดังๆหรือที่คนเรียกร้องเยอะๆ) แล้วผมเองก็เป็นคนที่ชอบอ่านเป็นเล่มมากกว่า e-book ซึ่งถ้าผมมีพื้นที่บ้านใหญ่พอก็คงไม่ซื้อ e-bookแน่นอนเพราะอ่านแล้วปวดตา(และได้สัมผัสตัวเล่มและกลิ่นกระดาษ พอเบื่อสะสมก็ขายต่อได้) แต่พื้นที่บ้านเริ่มเล็กลงๆก็เปลี่ยนเป็นเน้น e-book แทนแต่ถ้าเรื่องไหนสนุกมากๆก็จะสะสมแบบเล่มเก็บด้วย (อย่างเช่น ผมสะสมคินดะอิจิทุกเล่มตั้งแต่ยังเป็นเล่ม มาปัจจุบันก็ซื้อทั้งเล่มทั้ง e-book)
ดีใจนะครับที่วิบูลกิจอยู่ได้ แอบเสียดายร้านหนีงสือแต่ก็โลกมันเปลี่ยน
อำดับแรกเลยอย่าขายแพงจ้า จะสู้ไม่ไหว
ที่ขายแพงเพราะไม่มีคนซื้อเป่าครับ
เลยต้องตั้งราคาสูงๆไว้ก่อน
เพราะพิมน้อยต้นทุนเลยสูง
ค่าลิขสิทธิ์ซื้อมาพิมพ์ ของญี่ปุ่นเล่มเป็นร้อยแล้วครับ ซื้อเถอะถ้าจะอ่านถูกลิขสิทธิ์ ค่าครองชีพมันขึ้นจะให้เขาขาย 35 บาทเหมือนแต่ก่อนไม่ไหวแล้วครับ
I'm Washer ใช่ครับ
สู้ๆครับ ยังคงตามซื้อเป็นเล่ม แม้ว่าน้อยลงมากกว่าตอนวัยรุ่น แต่การสัมผัสคือ อย่างหนึ่งที่ทำให้หลงหนังสื่อการ์ตูนเป็นเล่ม
ไม่ได้อ่านก็เก็บไว้ได้ ในกรณีที่กลับบ้านเปิดร้านเปิดไร ก็สามารถมีมุมให้ลูกค้าเข้ามาอ่านฟรีๆ ผมไม่เคยทิ้งหนังสือทุกประเภท มีเเต่ถ้าว่าเจอ เค้าให้มีเเต่จะเก็บ ไม่อ่านเเล้วก็ไม่ทิ้ง
ผมเป็นเด็กคนนึงที่ยังชอบตามเก็บหนังสือการ์ตูนหรือนิยายที่ชอบนะ ยังไงก็อยากให้มีอยู่ต่อไปสำหรับคนเก็บสะสมด้วยครับ
คือชอบอ่านหนังสือการ์ตูนมาก คือไม่อยากให้หายไปจริงๆ คือฟีลในการอ่านอีบุ๊กกับหนังสือมันคนละอย่างมาก แล้วอ่านในพวกทรศ.มันเสียสายตา เราชอบดูเมะแบบคนอื่นยังถามว่าดูเมะแล้วจะซื้อหนังสือทำไม มันเป็นของที่อยากสะสม แล้วฟีลในการอ่านแบบไม่รู้อะ แต่ชอบหนังสือการ์ตูนมากกว่า
อยากซื้อนะคะ แต่ราคาแพงมาก พอหันไปดู e-book เอ้า แพงเท่ากันทั้งๆ ที่ต้นทุนน่าจะถูกกว่าด้วยซ้ำเพราะไม่ต้องใช้กระดาษ ไม่ต้องใช้หมึก ไม่ต้องใช้แรงงานคุมเครื่องพิมพ์
ความรู้สึกต่างกันนะ ระหว่างหนังสือและe-book
แหงล่ะ อ่านค่ายนี้หมึกติดมือ
หนังสือที่เป็นแบบเล่ม กำลังจะกลับมาครับ อาจจะไม่บูมเหมือนก่อน แต่ มันน่าจะไปได้อีก
E-book มันสะดวก แต่มันก็ไม่ใช่อารมณ์จริงๆของคนอ่าน
ผมคนนึงถ้าจะซื้อการ์ตูน e-book คือทางเลือกสุดท้ายที่ผมจะเลือกซื้อ พูดง่ายๆคือถ้าไม่มีเป็นหนังสือจริงๆนั้นแหละ ต่อให้มันง่ายจ่ายตัดบัตรได้ ออกไวรวดเร็ว แต่เมื่อรู้ว่าออกเล่มใหม่ผมก็จะโทรไปร้านขายหนังสือถามว่าของมายัง แล้วก็ไปซื้อที่ร้านดีกว่า
"หลังโรงเรียนไม่มีร้านหนังสือการ์ตูนอีกแล้ว" น้ำตาซึมเลยครับ
อนาคตคงเน้น E-Book เป็นหลักส่วนหนังสืออาจจะเหลือแค่เปิดรับพรีออเดอร์เหมือนสินค้าของญี่ปุ่นเพื่อไม่ให้บริษัทแบกรับภาระมากเกินไปอาจจะเปิด Pre-order หนังสือช่วงนึงแล้วก็ discontinued เพิ่มความใส่ใจในรายละเอียด รูปแบบ ของแถมต่างๆ ให้มันดูพรีเมี่ยมมากขึ้นทำให้หนังสือดูน่าสะสมอารมณ์ Classic Edition
ยังไงผมก็ยังศรัทธา และอยากอ่าน หนังสือการ์ตูน วารสาร นิตยสาร มากกว่าอ่านในอินเตอร์เน็ตนะครับ แต่ด้วยภาวะสังคมที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว จึงทำให้คนอื่นที่ไม่ได้คิดแบบเรา เลิกอ่านหนังสือไปเรื่อยๆจนเกือบหมด
เสียดายมากเลยครับ คิดถึงช่วงวัยเด็กที่อยู่กับหนังสือ บทสรุปเกม หนังสือการ์ตูน มันได้ฟีลกว่าเยอะ
ดูจบแล้วก็เสียดาย แต่ก็เข้าใจในความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น เราเคยทำงานร้านขายหนังสือการ์ตูน 11 ปี มันเป็นความสุขที่ไม่สามารถบรรยายได้ การได้เห็นเด็กๆมาซื้อการ์ตูนอ่านตั้งแต่เล็กๆจนโตเป็นผู้ใหญ่ การที่ได้เห็นได้พูดคุยกันในสิ่งที่ตัวเองชอบ ได้เห็นคนมีความสุข ดีใจเวลาที่การ์ตูนออกเล่มใหม่มันเป็นความสุขของคนๆนึงที่เคยทำงานตรงนี้ แต่ตอนนี้ไม่มีอีกแล้ว ร้านได้ปิดกิจการลงแล้ว
ชอบหนังสือมากกกกกกก ยังสะสมอยู่เลย แต่เดียวนี้หนังสือเก่าๆ หาอ่านยากมากกกกก ความฝันอยากเปิดร้านขายหนังสือด้วย แต่เนาะปัจจุบันนี้หนังสือเริ่มหายไปแล้ว แค่มี โทรศัพท์มือถือก็สามารถอ่านได้แล้ว ความฝันคือปลิวหายไปดั่งสายลมแล้วที่พัดผ่านมาแล้วก็พัดผ่านไป
ผมซื้อการ์ตูนญี่ปุ่น เล่มแรกในชีวิต คือโคนัน ขอบคุณสำหรับความทรงจำวัยเด็กดีๆที่แปลการ์ตูนมากมายมาให้อ่าน ปัจจุบันผมยังสะสมและซื่อ e book ด้วย สุดท้าย ขอชมเชยที่สามารถปรับตัวตามสถานการณ์ปัจจุบันได้ดีมากครับ
ชอบเก็บแบบกระดาษมากกว่าค่ะ เวลาเห็นชั้นหนังสือเต็มแล้วมันรู้สึกปริ่มใจแบบบอกไม่ถูก บางเรื่องตอนเด็กไม่มีปัญญาซื้อ ตอนโตเลยต้องมาตามซื้อเก็บจนครบบางเรื่องทางสำนักพิมพ์ไม่พิมพ์เพิ่มก็ต้องไปหามือ2 มาแทน แม้ราคาจะเลือดตากระเด็นแค่ไหนก็ต้องไขว่คว้ามาให้ได้ เพราะเป็นเรื่องที่ชอบจริงๆ อารมณ์เวลาอ่านมันต่างกันด้วย ส่วนตัวจะไม่ชอบอ่านแบบ E-book เท่าไหร่ เพราะปวดตาด้วย สู้ไปด้วยกันนะคะ เราก็จะเก็บของลิขสิทธิ์แบบเล่มต่อไป ต่อให้ราคาเพิ่มแค่ไหนก็จะสู้ 😂
ไม่จริงเสมอไปนะคะ เราอ่านการ์ตูนมาตั้งแต่เด็ก สิ่งที่เราชอบที่สุดคือ เวลาอ่านแล้วนิ้วเลอะหมึก ข้างนิ้วโป้งจะเลอะ ๆ ได้กลิ่นกระดาษ ทุกวันนี้เราทำงานแล้ว ซื้อเก็บอย่างเดี่ยวค่ะ หนังสือคือสิ่งที่เราไม่เคยคิดเสียเวลาเสียเงินซื้อเลยค่ะ
เป็นเด็กรุ่นใหม่ค่ะ ที่ชอบจับหนังสือมากกว่า มาเปิด e-book ถึงจะมีพื้นที่น้อย แต่ก็ชอบสะสมค่ะ และพยายามซื้ออ่านซื้อเก็บตลอด ถึงแม้จะต้องมาคอยดูแลรักษา
สิ่งที่จะสู้ไม่ไหว ก็มีแค่ราคาเท่านั้นแหละค่ะ ที่ขึ้นเร็วซะเหลือเกินค่ะ 😂
โดยส่วนตัวอบอ่านเล่มมากกว่า อ่าน E book แล้วไม่ค่อยรู้สึกอยากอ่านอีกรอบ แต่เห็นด้วยเรื่องไม่ค่อยมีที่เก็บดี ๆ TT หลายปีมานี้การ์เรื่องใหม่ ๆ ไม่ซื้อเลย ซื้อเฉพาะเรื่องที่ตามอยู่แล้ว หรือซื้อยกชุด ไม่อยากโดนลอยแพซ้ำ ๆ + หลังหัก
เปลี่ยนมาซื้อเป็น E-book มา 3 ปีแล้ว รู้สึกดีมากๆไม่เปลืองพื้นที่ในบ้าน คิดถึงเมื่อไหร่อยากเปิดอ่านได้ทุกเมื่อทุกเวลา แค่อยู่ในแอพเดียวจบ และยังซับพอร์ตลิขสิทธิ์อย่างถูกต้อง ตอนนี้มีสะสมไม่ต่ำกว่า 40 เล่มในอีบุ๊ค (กำลังรอคินดะอิจิ 37 เล่มที่ 6-7อยู่นะ)
ผมนะ จากใจของเด็กอายุ14คือชอบมังะกับอนิเมะนะคือสิ่งที่บ.ก.พุดมาอ่ะคือผมฟังเเล้วพูดอะไรไม่ออกเลยครับ พูดถูกใจมากเลยครับ
20ปีที่แล้วเก็บตั้งขึ้นห้างทุกสิ้นเดือน เข้าอยู่2ร้านวิบูรณ์กิจ กับสยามอินเตอร์คอมมิค ซื้อยูกิโอกับนารุโตะเดือนละเล่ม สมัยนั้นเล่มละ40-45
E-bookอะ ผมรอราคามันลงอะผมว่ามันแพงไป คือรูปเล่มมันเป็นเล่มe bookมันคือไฟลอ่านในมือถือ แล้วผมมีเรื่องอยากบอกอยู่อย่างรูปเล่มคนอะยังชอบเก็บอยู่แต่!!! รูปมันต้องดีจริงน่ะครับ แบบจำมาแล้วหมึกไม่ติดมือพิมพ์ดีแปลดีกระดาษดี คือทำรูปเล่มสวยๆอะครับ พร้อมเก็บจริงของที่มันคุณภาพจริงๆอะครับ ทุกวันนี้ราคาเท่ากันแต่ละค่ายนิดูๆก็รู้ว่าอันไหนพิมพ์ดีกว่า
คือส่วนตัว หนังสือการ์ตูนถือว่าเป็นของสะสมอย่างนึงนะครับอารมณ์เดียวฟิกเกอร์โมเดล แบบเรื่องไหนชอบก็อยากสะสมเก็บไว้แต่ที่ต้องอ่านอีบุ็คคือ ผมยุต่างจัดหวัดหาซื้อหนังสือการ์ตูนตามร้านยาก จะสั่งออนไลน์ของก็หมดแถมราคาแอบแพงไป ซื้ออีบุ็คราคามันพอลดให้บ้าง 10เปอ20เปอ แต่ถึงยังไงถ้ามีของ คุณภาพคุ้มค่าสมราคา ก็อยากเก็บหนังสือการ์ตูนนะครับ
เข้าใจสำหรับสายฮาร์ดคอนะที่ชอบสะสมหนังสือ หรือบางคนที่บอกชอบสัมผัสหนังสือมากกว่าแต่มันเป็นความชอบที่เกิดจากความเคยชินพฤติกรรมผู้บริโภคก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆ ข้อเสีย(สำหรับบางคน)คือไม่ได้สัมผัสหนังสือ แต่ที่เหลือคือข้อดีทั้งนั้น สุดท้ายแล้วมันจะเป็นของเฉพาะกลุ่มสำหรับสายสะสมจริงๆ เช่น พวกเทป ซีดี แผ่นเสียง กล้องฟิล์ม หรืออื่นๆ
เราเป็นเด็กวัยรุ่นคนนึง *อายุแค่ 16* เราเริ่มหันมาชอบอ่านหนังสือ ,มังงะ เริ่มเก็บสะสมกับเรื่องที่เราอยากอ่าน คือมันรู้สึกดีๆมากเวลาเราซื้อหนังสือมา อ่านจบ แล้วเอาไปวางบนชั้นหนังสือ เห็นแล้วชอบมากๆ
ผมขอเป็น1คนที่จะสนับสนุนมังงะรวมเล่ม
ปัจจุบันถือว่าดีมากๆ ทำต่อไปครับถึงจะตามมังงะวิบูนน้อยก็เถอะ เเต่อนาคตอาจจะเยอะขึ้นอีก
สู้ราคา ขอกระดาษเหมาะกับราคาเถอะครับ ยังไงก็สนับสนุนลิขสิทธิ์อยู่แล้ว
ยังรักหนังสือการ์ตูนเล่มนะคะ โดยเฉพาะวิบูลย์กิจ ทุกเรื่องที่ชอบเลย ทำต่อไปนะคะ เป็นกำลังใจให้
เคยเห็น บก.ยูตะ เมื่อ16-17 ปีที่แล้วในงาน วิบูลกิจ ที่จัดในห้าง ซีคอน ศรีนคริน ยังจำภาพได้เลยยุคสมัยเฟื่องฟูของหนังสือการ์ตูน ชอบยุคนั้นมาก วันพุธจะเดินไปซื้อ kc.weekry มานั่งอ่าน จากนั้นไม่ถึง3-4ปี โลกก็เปลี่ยนไปเยอะ
ไม่ปรับปรุงคุณภาพก็ขอบายครับ แต่ก่อนในเดือนๆนึงซื้อของค่ายนี้เยอะสุด จนตอนนี้ไม่ได้ซื้อแล้วครับ เสียดายการ์ตูนดีๆที่ค่ายนี้ได้LCมา แต่ถ้าราคายังสวนทางกับคุณภาพแบบนี้ก็ขอผ่านครับ
ส่วนตัวผมอยู่ม.3 ชอบเก็บหนังสือมาก เริ่มมาจากอ่านจากเว็บนั่นแหละ แต่พอมาซื้ออ่านจริงๆ ความรู้สึกต่างกันมาก ส่วนตัวชอบอ่านแบบเป็นเล่มมากกว่า จนพอเก็บเงินได้ก็ซื้อตลอด ไม่อยากให้หนังสือการ์ตูนหายไปเลยอะ
ส่วนตัวอยากเก็บเป็นเล่มนะ แต่อีกใจนึงเดี๋ยวนี้คือรู้สึกว่ามันแพงเกินไป เมื่อก่อน 30-45 ก็รู้สึกแพงแล้วแต่รับราคาไหว เดี๋ยวนี้แพงยิ่งกว่า แล้วอ่านแปบเดียวจบเล่ม รู้สึกค้างครับไม่รวมเรื่องลอยแพ เลยหันมาสนใจนิยายมากกว่า 2-3 ร้อยก็ไม่หวั่นเล่มเดียวอ่านได้เป็นวัน แต่ปัญหาก็เหมือนเดิม ลอยแพ ไม่ก็แปลได้แย่ อะไรทำนองนี้
ผมเป็นช่างพิมพ์ครับ อาชีพโรงพิมพ์เกี่ยวกับหนังสือวรสาร มันค่อยๆตายลงเลื่อยๆแล้วครับ ตอนนี้ส่วนมากมีแต่งานของราชการเกือบทั้งนั้นที่ยังเข้าโรงพิมพ์
เราเป็นเด็กรุ่นใหม่ในยุคเทคโนคนนึงที่ชอบสะสมหนังสือมากกว่าอีบุ๊คค่ะ เวลาย้อนกลับมามองว่าเราอ่านไปมากแค่ไหนละได้ตั้งไว้บนตู้ พอมีคนอื่นมาเห็นก็แบบ เหย แกอ่านเรื่องนี้ด้วยหรอ ยืมอ่านได้มั้ย อ่านเยอะจัง มันเป็นปริ่มอ่ะค่ะ5555 เราถือว่าการอ่านในเล่มมันเป็นการพักตาจากแสงสีฟ้าเพราะเราก็ติดมือถือเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว วิธีจะหายติดมือถือก็คือไปติดหนังสือแทน555
ผมเคยนะอ่านผ่านโน้ตบุ้คแล้วปวดตาจริงแล้วพยายามซื้อแบบเล่มต่อ แต่ก็ไม่สะดวกต้องเดินทางไปซื้อบางที่ไปก็ไม่มี
E-BOOK สะดวกคืออยากอ่านได้อ่านเลย สุดท้ายก็ซื้อไอแพดมาเพื่ออ่านมังงะล้วนๆ คนซื้อของแท้ตลอดถ้ามีวิธีที่เขาจะซื้อง่ายๆเขาก็ตามซื้อกันนะ
หนังสือการ์ตูนมันไม่มีวันจะหมดไปหรอก ถ้าสำนักพิมพ์ไม่ดอง จนคนที่เขารอไปอ่านเถื่อนซะหมด
เราอยู่ในยุคที่หนังสือการ์ตูนมันบูมมากๆ เรียกได้ว่าซื้อวันละเล่มเลย ตั้งแต่มันราคา 35 บาท
วิบูลกิจ บงกช แอนท์ที่ปิดไปแล้ว เซนชู สยามอินเตอร์งี้ แต่แบบ บางทีกาตูนที่เราอ่านมันรอนานเกินอ่ะ
บางเล่มทิ้งกันเป็นปี หลายๆคนเลยเลือกอ่านในเน็ตมากกว่า วิบูลกิจเราตามเนกิมะ บงกชนี่พวกมังวาย
เช็นชูตาม ฮาเลลูย่าโอเวอร์ไดร์ฟ สยามนี่ตามรีบอร์น แอนท์ ก็มีเจ้าหญิงมันจุราช รู้สึกสยามเอาไปทำต่อเป็น เจ้าหญิงนักล่าปีศาจมั้ง
ผมซื้อทั้ง2แบบเลยครับ
แต่ยอมรับว่าหลังๆแบบE-Bookอ่านง่ายกว่า
เพราะแค่เปิดแอปก็อ่านได้แล้ว
ช่วงพักเที่ยงก็เปิดอ่านตอนกินข้าวไปด้วย
แบบเล่มมันพกไปอ่านข้างนอกลำบาก