ขนาดวิดีโอ: 1280 X 720853 X 480640 X 360
แสดงแผงควบคุมโปรแกรมเล่น
เล่นอัตโนมัติ
เล่นใหม่
การแสดงธรรม การสนทนาธรรม การให้ธรรมเป็นทาน เป็นบุญกุศล เป็นมงคลอย่างยิ่ง ขออนุโมทนาด้วยครับ
สาธุ..เข้าใจง่ายใล่ลำดับ.ของ ต้น...เหตุ..❤❤❤❤ อนุโมทนาบุญครับ
คุณอธิบายได้กระจ่าง..ได้ย้อนหลังก่อน..ถึงอวิชา..ที่ครูบาร์อาจารย์..ว่าเข้าใจนำไปใช่เป็น..ขอบคุณจริงๆ ที่ทำให้เข้าใจมากขึ้น..
สาธุ.ฟังแล้วเข้าใจธรนมชาติอย่างถ่องแท้เลยทีเดียว.สาธุ.ขอบคุนนะครับ🙏🥰
เมื่อสิ่งนี้มี สิ่งนี้ย่อมมีเพราะความเกิดขึ้นแห่งสิ่งนี้ สิ่งนี้จึงเกิดขึ้นเมื่อสิ่งนี้ไม่มี สิ่งนี้ย่อมไม่มีเพราะความดับไปแห่งสิ่งนี้ สิ่งนี้จึงดับไป
ต้องศึกษาเยอะๆ จึงจะเข้าใจปฎิจจสมุปบาท อย่างแท้จริง
เกือบจะถูกแล้วครับ ขาดอีกประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์ พยายามต่อไปน่ะครับ ขอแนะนำให้ศึกษาเรื่องการทำงานร่วมกันของ จิตทั้ง 4 เมื่อเข้าใจแล้วคุณจะถึงบางอ้อและจะอธิบายปฏิจจสมุปบาท ได้อย่างถูกต้องไม่ผิดเพี้ยน เอาใจช่วยครับ. เรื่องนี้สำคัญมากที่สุด เพราะหัวใจหรือแก่นแท้ของธรรมของพระพุทธองค์คือเรื่อง "อิทัปปัจจยตา ปฏิจจสมุปบาท" นี้เอง.
เกือยถูกครบ ต้องปฏิบัติด้วยถึงจะเข้าใจ ลองดูข่องพุทธะนอกวัด แล้ววิจารณ์ให้หน่อยครับ
ขอแสดงความเห็นนิดนึงนะครับ ผมคิดว่าคุณก็มีส่วนพูดถูก50% อีก50%คุณก็ควรศึกษาเพิ่มเติมนะครับเพื่อให้องค์ความรู้สมบูรณ์แบบ ในเรื่องของ ปฏิจจสมุปบาท และ อิทัปปัจจยตา จะว่าเป็นแก่นแท้ ก็ไม่ผิดครับ แต่คุณต้องตีความให้กว้างกว่านี้ ถ้าสมมุติผมบอกว่า อนัตตา หรือ ไตรลักษณ์ ไตรสิกขา หรือแม้แต่ อริยสัจ๔ เป็นแก่น ก็ย่อมได้เช่นกัน คุณต้อวตีความหมายและมองถึงจุดเชื่อมโยงกันก่อนนะว่า สิ่งนั้นสิ่งนี้ มันเกี่ยวข้องกันอย่างไร เพราะมันไม่ตายตัวว่า ต้อง ปฏิจจสมุปบาท คือแก่นเท่านั้น เพราะแก่นของพุทธศาสนา มันรวบรวมในหลายส่วน บีบคั้นลงมาเหลือแค่ การพ้นทุกข์ ปัจจัยในหลักธรรมอื่นก็มีส่วน.เช่นกัน ต้องศึกษาให้ละเอียดรอบด้าน และผมค่อนข้างเห็นด้วยในคลิปนี้ในการอธิบายของเขาในเรื่องนี้ ที่มีการตีความให้เข้าใจง่าย บวกกับใช้เรืีองวิทยาศาสตร์มาเสริม เพื่อให้คนฟังตีความได้ชัดขึ้น... ต้องเปิดใจและมองความจริงครับ ว่าคุณ ตีความและเข้าใจเฉพาะสิ่งที่คุณศึกษามาเท่านั้น เป็นที่ตั้ง
พุทธวจน คือ คำสอนของพระพุทธเจ้า ตถาคตภาษิต มีกฏอิทัปปัจจยตา มีปฏิจจสมุปบาท มีสังขตธรรม จึงเป็น สัมมาทิฏฐิ คือ อริยมรรคมีองค์แปด ในข้อที่ 1 สัมมาทิฏฐิ ตถาคตภาษิต จะเป็นเหมือนกันหมดเลย ทำให้ ตถาคตภาษิต เข้ากันได้รวมกันได้ไม่ขัดแย้งกัน ปฏิจจสมุปบาท สายเกิด เป็น ตถาคตภาษิต มีกฏอิทัปปัจจยตา มีปฏิจจสมุปบาท มีสังขตธรรม จึงเป็น สัมมาทิฏฐิ เมื่อมีศรัทธา ใน ตถาคตภาษิต คือ การเจริญ สัมมาสมาธิ ใน อริยมรรคมีองค์แปด จึงเป็น สัมมาสังกัปปะ คือ ความดำริถูก ดำริออกจาก กาม พยาบาท เบียดเบียน เมื่อมีศรัทธาใน ตถาคตภาษิต คือ การเจริญ สัมมาสมาธิ ซึ่งก็คือ บุคคล 4 คู่ 8 พวก พวกปฏิผล เจริญสมาธิรูปสัญญา ฌาน 1234 ด้วยการมี ศรัทธา ใน ตถาคตภาษิต สุตตมยปัญญา เป็นปัญญา ฌาน4 สัมมาทิฏฐิ พวกปฏิมรรค เจริญสมาธิ 9 ระดับ ละนันทิ เจริญอานาปานสติ เจริญสมาธิรูปสัญญา ฌาน 1234 ดูที่ปลายทางเป็น ปัญญา ฌาน4 สัมมาสังกัปปะ ศรัทธา ศีล สุตตะ จาคะ ปัญญา -ศรัทธา ศีล จาคะ ปัญญา - ศีล สมาธิ ปัญญา- ภาวนามยปัญญา ละนันทิใน เวทนาทุกข์ เวทนาสุข ด้วยการเจริญอานาปานสติ ตรวจสอบความก้าวหน้าด้วยอินทรีย์ภาวนาชั้นเลิศ คือ ละอารมณ์ได้ดุจกระพริบตา ละนันทิจิตหลุดพ้น เป็นปัญญา ฌาน4 สัมมาสังกัปปะ เจริญสมาธิอรูปสัญญา สมถะ วิปัสสนา อานาปานสติ ดูที่ปลายทาง อานาปานสติ คือ ละนันทิใน รูปขันธ์ ด้วยการเจริญอานาปานสติ ละนันทิจิตหลุดพ้น เป็น สมาธิสัญญาเวทยิตนิโรธ กรรมคือการกระทำทาง กาย วาจา ใจ คิดพูดทำ กรรมนิโรธ คือ อริยมรรคมีองค์แปด มีศรัทธาใน ตถาคตภาษิต คือ การเกิดขึ้นของ อริยมรรคมีองค์แปด คือ การเกิดขึ้นของ สัทธานุสารี คือ การเกิดขึ้นของ ธรรมวินัยโพธิปักขิยธรรม 37 ปฏิจจสมุปบาท สายเกิด คือ การทำงานของ วิญญาณและนามรูป วิญญาณเข้าไปตั้งที่รูปมีนันทิ เข้าไปตั้งที่เวทนามีนันทิ เข้าไปตั้งที่สัญญามีนันทิ เข้าไปตั้งที่สังขารมีนันทิ มีนันทิเห็น เกิด ละนันทิเห็น ดับ วิญญาณเข้าไปตั้งที่รูป ในช่องทาง ตา หู จมูก ลิ้น กาย มีเกิดปรากฏ เมื่อมีเกิดเป็นปัจจัยจึงมีเสื่อม เมื่อมีเสื่อมเป็นปัจจัยจึงมีดับ เมื่อมีดับเป็นปัจจัยจึงมีอนัตตา เมื่อมีอนัตตาเป็นปัจจัยจึงมี เนตังมะมะ เนโสหมัสสมิ นะเมโสอัตตา วิญญาณเข้าไปตั้งที่ เวทนา มีเกิดปรากฏ วิญญาณเข้าไปตั้งที่สัญญา มีเกิดปรากฏ วิญญาณเข้าไปตั้งที่ สังขาร มีเกิดปรากฏ เกิด เสื่อม ดับ เป็น อนัตตา เป็นการเกิดดับของ ปฏิจจสมุปบาท สายเกิด วงรอบเล็ก การเกิดดับ ของ ปฏิจจสมุปบาท สายเกิด วงรอบใหญ่ เมื่อมีภพเป็นปัจจัยจึงมีชาติ ถ้าเกิดเป็น มนุษย์ ก็จะมีอายุประมาณ 100 ปี เมื่อมีชาติเป็นปัจจัยจึงมี ชรา มรณะ กายแตกทำลาย วิญญาณเข้ามาตั้งที่รูปในช่องทาง ตา ตาปิดจึงไม่มีนันทิ จิตจึงหลุดพ้นจากรูปในช่องทางตา วิญญาณเข้ามาตั้งที่รูปในช่องทางหู หูไม่ได้ยินเสียงแล้ว จึงไม่มีนันทิ จิตจึงหลุดพ้นจากรูปในช่องทางหู ตา หู จมูก ลิ้น กาย ตัวเย็นแข็ง จิตหลุดพ้นจากรูปแล้ว เพราะกายแตกทำลาย เมื่อเป็นปฏิจจสมุปบาท สายเกิด จึงต้องมีการเกิดแน่นอน คิดถึงสิ่งใดดำริถึงสิ่งใด หรือมีจิตฝังลึกปักลงไปในสิ่งใด นั่นคือการตั้งอยู่ของวิญญาณ เมื่อวิญญาณตั้งอยู่เฉพาะแล้วเจริญงอกงามแล้ว นั่นคือภพใหม่อันเป็นภัยที่น่ากลัว การเกิดดับของปฏิจจสมุปบาท สายเกิด วงรอบใหญ่ ในสังสารวัฏ มีห้าคติ มีสามภพ กามภพ รูปภพ อรูปภพ นั่นเอง
สาธุขออนุโมทนาบุญโตยเน้อเจ้าสุดยอดดีใจที่อุบาสกประกาศพระสจัธรรมของพระพุทธธรรมสาธุ
ศึกษาเพิ่มเติม ออกคลิป v2 ใหม่นะครับ ให้ความรู้ที่ถูกต้อง จะได้อนิสงฆ์มาก
สาธุครับ เข้าใจง่ายครับ คุณไม่คิดทำหนังสืออธิบายธรรมะ เป็นบทๆ แยกส่วน สอนให้คนระดับล่างของสังคมที่ไม่เข้าใจ สำนวนคำยุคเก่าในหนังสือธรรมะบ่างหรือครับ (ไม่ใช่บาลีนะคำสำนวนไทยแปลกๆ)
ลองเข้าชมในช่องพุทธะนอกวัดนะครับ ละเอียดและใช้ภาษาธรรมดาและไม่ย้อนแย้งกัน
ความเห็นความเข้าใจของเราถ้าเป็นเพียงการคาดเดา ตรรกะ อนุมาน ถ้ายังเห็นว่า เราคือกายสังขารอยู่ ยังไม่เห็นว่าเราคือสภาวะหนึ่ง(จิต ใจ) ด้วยญาณรู้ อาจเป็นการปฏิรูปพระสัทธรรม ทำให้ผู้อื่นหลงผิดตามไปด้วย กรรมหนักมาก เสี่ยงอเวจีมหานรก ไม่คุ้มกับลาภสักการะสรรเสริญที่ได้มาเลย
สังขารในปฏิจจสมุปบาทไม่ใช่ร่างกายแต่หมายถึงความคิดปรุงแต่ง.
อธิบายได้เข้าใจง่ายมากเลยครับ
สาธุครับ
สิ่งนี้มี สิ่งนี้ย่อมมี (ขอบคุณมากค่ะ ละเอียดมากค่ะ)
กดไลค์กดแชร์กดติดตามให้เเล้วคับ
ขอบคุณครับ สาธุๆๆ
มีคำถาม โปรดตอบ เพื่อแลกเแลี่ยน 1 คุณบอกได้ไม๊ ว่า " อวิชา " ความไม่รู้ ไม่รู้อะไร 2 คุณบอกลักษณะทางกายภาพของการเกิดปฎิจสมุบาทได้ไม๊ ว่ามีลักษณะเช่นไร
ลองเข้าชมในช่องพุทธะนอกวัดนะครับเผืรอถูกใจ
ปฏิจจสมุปบาทหรือปัจจยาการ12แจงออกเป็น 2อริยสัจคือ ทุกข์และสมุทัย ดังนี้(1) ทุกข์(ขันธ์) ได้แก่ นามรูป สฬายตนะ ผัสสะ เวทนา ภพ ชาติ ชรามรณะ (2)สมุทัยประกอบด้วยกิเลสและกรรม ได้แก่ อวิชชา(กิเลส-ความไม่รู้อริยสัจ4) สังขาร(กรรม) ตัณหา(กิเลสและกรรม) อุปาทาน(กรรม) ส่วนวิญญาณ"เป็นปฏิสนธิวิญญาณลงสู่ครรภ์ **การทำงานของทุกข์และสมุทัยเป็นวัฏฏะ3หมุนวนคือ "กิเลส กรรม(เจตนา) วิบาก(ขันธ์=ทุกข์)"ต้องละด้วยไตรสิกขาคือ "ศีล สมาธิ ปัญญา"โดยที่"ศีล+สมาธิ"ละกรรมได้แต่ละไม่ขาด "กิเลสและกรรม"ละขาดด้วย "ปัญญา"
ยอดเยี่ยมมากค่ะ ทำคลิปดีๆ อีกนะคะ
คุณทำคลิปได้น่าสนใจมากฟังเพลินเลย
ขอบคุณสำหรับคลิปดีๆค่ะ
ขอบคุณความรู้ที่นำมาถ่ายทอดบอกสอนกับคนที่ยังไม่เข้าใจสายเกิดสายดับ ขอให้ทำต่อไปคลิปที่มีสาระและเป็นประโยชน์เป็นบุญกุศลอย่างยิ่งคับ
บทนี้ฟังก่อนตายเหรอคะ
เข้าใจว่าจบตรงอวิชชา แล้วจิตเกิดขึ้นได้อย่างไร เหมือนจะมีต่อ
คลิปนี้ยังไม่สมบูรณ์ครับลองชมในช่องพุทธะนอกสัดนะครับ
จิต,,ไม่ได้โดน อวิชา หลอกท่านว่า จิต,,คืออะไรอะไรมี ,,,อวิชา ,,,ครับอวิชา ในปฏิจจสมุปบาท คืออะไร ครับ เพราะมีอวิชาเป็นปัจจัย จึงมี,,,สังขารทั้งหลาย,,, ครับเพราะมีสังขารเป็นปัจจัยจึงมีวิญญาณ ครับสังขารทั้งหลาย กับสังขารต่างกันอย่างไรครับ ชรา มรณะ มีได้เพราะมี การเกิด (ชาติ) ครับไม่มีชาติ(เกิด) แก่ ตาย ไม่มีครับ
ดูในช่องพุทธะนอกวัดนะครับ
เลิกทำคลิปแล้วเหรอคับ
ทุกคนครับ ข้อสุดท้าย ที่คุณบอกว่า จิตไปหลงวิชา คือเข้าใจผิดแล้ว สัตไปหลง อวิชา
ไม่มีสัตตานัง มายึดขันธ์๕หรอกครับ สัตตานังเป็นคำสมมุติ เมื่อยังมีอุปาทานอยู่ คำว่าสัตจึงเกิดมีขึ้นมาได้ คุณเรียนพุทธวจนะมาแน่ๆเลย??
@@Man_U.0770 ก้ผมผมพูดผิดตรงไหน สภาวะ นิพพาน ที่มานึดขัน5 จึงถูกเรียกว่าสัต ถ้าถ้าปล่อยการยึดถือแล้ว ก้ไช้คำว่าสัต ไม่ได้ เพราะไม่มีอะไร เพราะเป็นความว่าง แล้วพุทธวจนนี้ มันเป็นคำไม่ดีหรอครับ คุณถึงพูดเหมือนว่า สิ่งนี้มันผิดเป็นสิ่งที่ไม่ควรศึกษาหรอครับ ผมว่สเป็นพื้นฐานของคนยุคนี้ ที่ไมาเชื่ออะไรง่ายๆ ยุคที่พูดกันด้วยเหตุผล คุณจะบอกเด็กรุ่นใหม่ให้เชื่อพุทธโดยการ ไห้น้อมใจไปเชื่ออะไรก่อนหรอครับ น้ำมัน เครื่องราง พยานาค ผมว่าคนที่จะเข้ามาเชื่อศานายุคนี้ไม่ง่ายน่ะครับ พุทธวจน คือการทำไห้เริ่มศรัธธารุ้จัก พุทธเจ้า ว่าเขาเป็นคนแบบไหนเก่งจิงไหม พูดผิดไหม ผมเริ่มเชื่อพุทธ ก้พุทธวจนน่ะนี้แหละครับ เพราะเป็นพื้นฐานเริ่มต้นของคน เจ้าความคิดความเห็น พอไปไล่แล้วก้ทำไห้รุ้ว่า มันมีจริงน่ะคนที่พูดอะไร เป็นอกาลิโก ไม่ผิด เลย คนธรรมดา เก่งจนาดไหนก้หาไม่ได้แล้ว พอเริ่มเชื่อหมดสงสัยแล้ว ก้เริ่มปฏิบัติ พอเข้าถึงสภาวะ ละเอียด จังหวะชีวิตจะเปลี่ยนขั้นไห้เรา ต้องไปต่อ หาอาจารที่สอน ระดับสภาวะ แบยเน้นๆทิ้งเรื่องสัญญาปริยัต ไห้หมดเพราะเชื่อแล้วว่า พุทธนี้ของจริง อยู่ๆจะไห้คนไปทำสมาทิแล้ว มันได้เฉพาะคนที่มีนิสัยวาสนาเกิดมาก้ไม่สงสัยอยู่แล้ว แต่คนที่ไม่เชื่อ ตัวนี้จะขวางกั้น ที่สุดแล้วครับ นั้งไปก้ฟุ้งส่าน เพราะลังเล ผมว่า พุทธวจนมีประโยชน์ กว่าหลายสำนัก แต่ที่แน่ๆ ชีวิตคนๆหนึ่งจะมานั่งสอนคนเหนื่อยจนไม่มีเวลาพาวนา นี้ก้หายากน่ะครับ คนมีกิเลสเต็มหัวใจทำอะไรแบบนี้ยาก ทิ้งชีวิตสุขสบายมา ค้นหาคำสอนมาบอกคน ทุกสำนักมันก้ดีหมดและครับ สุดท้าย ก้ต้องมีคนสอนอนุบาล สอนปริญญา ครูระดับไหนก้ประเสริตทั้งนั้น สุดท้ายก้จบที่เป้าหมายเดียวกัน น้อยคนน่ะครับ ที่จะมองข้อดี คนส่วนใหญ่ จะมองอะไรที่จัดๆตา ไม่เหมือนครูบาอาจารก้ เพ้งโทษสติไม่พอ มองข้อดีคนอื่น เมื่อก่อนผมก้มองว่ามันเป็นเรื่องแปลกน่ะ พอมาปฏิบัติ ใจเป็นกลางจึงรุ้ว่า นี้แหละคือปกติที่สุดแล้ว
@@mmoosmylife6862 ก็ดีแล้วครับ ที่สนใจศึกษาพุทธแท้ๆ แต่ธรรมโลกุตระมันละเอียดลึกซึ้งมากๆ อาจจะเข้าใจผิดเพี้ยนได้อยู่ ยิ่งคุณพูดว่า..สภาวะนิพพาน ที่มายึดขันธ์5!!! เอ่อ..นิพพานจะมายึดขันธ์5 ทำไมล่ะครับ ก็หลุดพ้นแล้วนี่ แสดงว่าคุณเชื่อพระคึกฤทธิ์ มากเกินไป จนขาดการพิจารณา สัตตานังไม่ใช่นิพพาน คนละตัวแล้วครับ สัตตานังไม่ได้มายึดเกาะขันธ์๕(ผมอธิบายไปแล้ว)เกิดตายไปกับขันธ์๕ แต่สัตตานัง ได้มาเพราะยังมีการยึดขันธ์๕ คล้ายกับคำว่า..ผีหรือสัมภเวสีฯ เป็นคำสมมุติใช้เรียกคนที่ยังมีอุปาทาน ยึดมั่นในขันธ์๕อยู่ครับ ไม่ใช่สัตตานังไปยึดขันธ์5 เกิดตายไปกับขันธ์5 อยู่ตลอดเวลา อันนี้ผิดแล้วพุทธวจนะ เรียนได้ ศึกษาได้ แต่อย่าเชื่อทั้งหมด เอาคำพุทธะก็จริงอยู่ แต่บางเรื่องพระคึกฤทธิ์ก็ใส่ความเห็น ตีความของท่านเองลงไปด้วย ทำให้ธรรมผิดเพี้ยนเป็นบางเรื่อง เช่น สัตตานัง,พระอรหันต์ยังมีภพ,ปฏิจจสมุปบาทหมุนอยู่ตลอดเวลาฯ เหล่านี้ล้วนพูดผิดจากธรรม คือเป็นการตีความเห็นตนเองลงไปด้วย ดังนั้นต้องตามให้ทัน ไม่งั้นก็ตกเป็นทาสปัญญาของคนอื่นอยู่ร่ำไป บัญฑิตอย่าเชื่อง่าย ฟังแล้วนำไปพิจารณาตามหาความจริงความถูกต้อง
@@Man_U.0770 ผมสนใจสิ่งที่คุณกล่าว...ช่วยชี้แน่ะด้วยคับ...ผมควรศึกษาได้ต่อจากท่านไหนบ้างคับ
@@hopezero2605 คุณสงสัยอะไรครับ ถามได้นะ หรือศึกษาธรรมของท่านพุทธทาส ก็ได้ครับ นั่นเป็นพุทธแท้ๆ เพื่อความหลุดทุกข์
นามรูป ไม่ใช่ตัวเราค่ะ ไม่มีการกล่าวถึงตัวเรา ในปฏิจจสมุปบาท
ปฏิจจสมุปบาทสิ้นสุดที่มรณะ คือ ความตาย แต่เดิมอวิชชาธาตุของชาตินี้นั้นไม่ได้มี แต่อวิชชานั้นเกิดจากความรู้ตา หู จมูก ลิ้น กาย เมื่อใจเราโยนิโสมนสการรูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะไม่ดี คิดผิดก็ทำให้เกิดวิบาก คือ โลภะ โทสะ โมหะ หรือนิวรณ์เข้าไปสั่งสมในใจ นานๆไปการสั่งสมของวิบากนิวรณ์๕ ก็ไปรวมตัวกันเป็นอวิชชา นิวรณ์๕ที่บริบูรณ์ย่อมนำมาซึ่งอวิชชาที่บริบูรณ์ อวิชชาย่อมนำมาซึ่งมรณะที่บริบูรณ์ อวิชชาที่บริบูรณ์ครอบงำมโนวิญญานย่อมทำให้ใจบอด ครอบงำจักขุวิญญานทำให้ตาบอด ครอบงำโสตะวิญญานก็ทำให้หูหนวก และทำให้คนๆนั้นตาย ใช่ มรณะนี้ไม่ได้มาจากชาติ แต่มาจากอวิชชา
![[Full] 4 ต่อ 4 Celebrity EP.910 | 22 ก.ย. 67 | one31](http://i.ytimg.com/vi/4TR3MVpOiw8/mqdefault.jpg)
การแสดงธรรม การสนทนาธรรม การให้ธรรมเป็นทาน เป็นบุญกุศล เป็นมงคลอย่างยิ่ง ขออนุโมทนาด้วยครับ
สาธุ..เข้าใจง่ายใล่ลำดับ.ของ ต้น...เหตุ..❤❤❤❤ อนุโมทนาบุญครับ
คุณอธิบายได้กระจ่าง..ได้ย้อนหลังก่อน..ถึงอวิชา..ที่ครูบาร์อาจารย์..ว่าเข้าใจนำไปใช่เป็น..ขอบคุณจริงๆ ที่ทำให้เข้าใจมากขึ้น..
สาธุ.ฟังแล้วเข้าใจธรนมชาติอย่างถ่องแท้เลยทีเดียว.สาธุ.ขอบคุนนะครับ🙏🥰
เมื่อสิ่งนี้มี สิ่งนี้ย่อมมี
เพราะความเกิดขึ้นแห่งสิ่งนี้ สิ่งนี้จึงเกิดขึ้น
เมื่อสิ่งนี้ไม่มี สิ่งนี้ย่อมไม่มี
เพราะความดับไปแห่งสิ่งนี้ สิ่งนี้จึงดับไป
ต้องศึกษาเยอะๆ จึงจะเข้าใจปฎิจจสมุปบาท อย่างแท้จริง
เกือบจะถูกแล้วครับ ขาดอีกประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์ พยายามต่อไปน่ะครับ ขอแนะนำให้ศึกษาเรื่องการทำงานร่วมกันของ จิตทั้ง 4 เมื่อเข้าใจแล้วคุณจะถึงบางอ้อและจะอธิบายปฏิจจสมุปบาท ได้อย่างถูกต้องไม่ผิดเพี้ยน เอาใจช่วยครับ. เรื่องนี้สำคัญมากที่สุด เพราะหัวใจหรือแก่นแท้ของธรรมของพระพุทธองค์คือเรื่อง "อิทัปปัจจยตา ปฏิจจสมุปบาท" นี้เอง.
เกือยถูกครบ ต้องปฏิบัติด้วยถึงจะเข้าใจ ลองดูข่องพุทธะนอกวัด แล้ววิจารณ์ให้หน่อยครับ
ขอแสดงความเห็นนิดนึงนะครับ ผมคิดว่าคุณก็มีส่วนพูดถูก50% อีก50%คุณก็ควรศึกษาเพิ่มเติมนะครับเพื่อให้องค์ความรู้สมบูรณ์แบบ ในเรื่องของ ปฏิจจสมุปบาท และ อิทัปปัจจยตา จะว่าเป็นแก่นแท้ ก็ไม่ผิดครับ แต่คุณต้องตีความให้กว้างกว่านี้ ถ้าสมมุติผมบอกว่า อนัตตา หรือ ไตรลักษณ์ ไตรสิกขา หรือแม้แต่ อริยสัจ๔ เป็นแก่น ก็ย่อมได้เช่นกัน คุณต้อวตีความหมายและมองถึงจุดเชื่อมโยงกันก่อนนะว่า สิ่งนั้นสิ่งนี้ มันเกี่ยวข้องกันอย่างไร เพราะมันไม่ตายตัวว่า ต้อง ปฏิจจสมุปบาท คือแก่นเท่านั้น เพราะแก่นของพุทธศาสนา มันรวบรวมในหลายส่วน บีบคั้นลงมาเหลือแค่ การพ้นทุกข์ ปัจจัยในหลักธรรมอื่นก็มีส่วน.เช่นกัน ต้องศึกษาให้ละเอียดรอบด้าน และผมค่อนข้างเห็นด้วยในคลิปนี้ในการอธิบายของเขาในเรื่องนี้ ที่มีการตีความให้เข้าใจง่าย บวกกับใช้เรืีองวิทยาศาสตร์มาเสริม เพื่อให้คนฟังตีความได้ชัดขึ้น... ต้องเปิดใจและมองความจริงครับ ว่าคุณ ตีความและเข้าใจเฉพาะสิ่งที่คุณศึกษามาเท่านั้น เป็นที่ตั้ง
พุทธวจน คือ คำสอนของพระพุทธเจ้า ตถาคตภาษิต มีกฏอิทัปปัจจยตา มีปฏิจจสมุปบาท มีสังขตธรรม จึงเป็น สัมมาทิฏฐิ คือ อริยมรรคมีองค์แปด ในข้อที่ 1 สัมมาทิฏฐิ ตถาคตภาษิต จะเป็นเหมือนกันหมดเลย ทำให้ ตถาคตภาษิต เข้ากันได้รวมกันได้ไม่ขัดแย้งกัน ปฏิจจสมุปบาท สายเกิด เป็น ตถาคตภาษิต มีกฏอิทัปปัจจยตา มีปฏิจจสมุปบาท มีสังขตธรรม จึงเป็น สัมมาทิฏฐิ เมื่อมีศรัทธา ใน ตถาคตภาษิต คือ การเจริญ สัมมาสมาธิ ใน อริยมรรคมีองค์แปด จึงเป็น สัมมาสังกัปปะ คือ ความดำริถูก ดำริออกจาก กาม พยาบาท เบียดเบียน เมื่อมีศรัทธาใน ตถาคตภาษิต คือ การเจริญ สัมมาสมาธิ ซึ่งก็คือ บุคคล 4 คู่ 8 พวก พวกปฏิผล เจริญสมาธิรูปสัญญา ฌาน 1234 ด้วยการมี ศรัทธา ใน ตถาคตภาษิต สุตตมยปัญญา เป็นปัญญา ฌาน4 สัมมาทิฏฐิ พวกปฏิมรรค เจริญสมาธิ 9 ระดับ ละนันทิ เจริญอานาปานสติ เจริญสมาธิรูปสัญญา ฌาน 1234 ดูที่ปลายทางเป็น ปัญญา ฌาน4 สัมมาสังกัปปะ ศรัทธา ศีล สุตตะ จาคะ ปัญญา -ศรัทธา ศีล จาคะ ปัญญา - ศีล สมาธิ ปัญญา- ภาวนามยปัญญา ละนันทิใน เวทนาทุกข์ เวทนาสุข ด้วยการเจริญอานาปานสติ ตรวจสอบความก้าวหน้าด้วยอินทรีย์ภาวนาชั้นเลิศ คือ ละอารมณ์ได้ดุจกระพริบตา ละนันทิจิตหลุดพ้น เป็นปัญญา ฌาน4 สัมมาสังกัปปะ เจริญสมาธิอรูปสัญญา สมถะ วิปัสสนา อานาปานสติ ดูที่ปลายทาง อานาปานสติ คือ ละนันทิใน รูปขันธ์ ด้วยการเจริญอานาปานสติ ละนันทิจิตหลุดพ้น เป็น สมาธิสัญญาเวทยิตนิโรธ กรรมคือการกระทำทาง กาย วาจา ใจ คิดพูดทำ กรรมนิโรธ คือ อริยมรรคมีองค์แปด มีศรัทธาใน ตถาคตภาษิต คือ การเกิดขึ้นของ อริยมรรคมีองค์แปด คือ การเกิดขึ้นของ สัทธานุสารี คือ การเกิดขึ้นของ ธรรมวินัยโพธิปักขิยธรรม 37 ปฏิจจสมุปบาท สายเกิด คือ การทำงานของ วิญญาณและนามรูป วิญญาณเข้าไปตั้งที่รูปมีนันทิ เข้าไปตั้งที่เวทนามีนันทิ เข้าไปตั้งที่สัญญามีนันทิ เข้าไปตั้งที่สังขารมีนันทิ มีนันทิเห็น เกิด ละนันทิเห็น ดับ วิญญาณเข้าไปตั้งที่รูป ในช่องทาง ตา หู จมูก ลิ้น กาย มีเกิดปรากฏ เมื่อมีเกิดเป็นปัจจัยจึงมีเสื่อม เมื่อมีเสื่อมเป็นปัจจัยจึงมีดับ เมื่อมีดับเป็นปัจจัยจึงมีอนัตตา เมื่อมีอนัตตาเป็นปัจจัยจึงมี เนตังมะมะ เนโสหมัสสมิ นะเมโสอัตตา วิญญาณเข้าไปตั้งที่ เวทนา มีเกิดปรากฏ วิญญาณเข้าไปตั้งที่สัญญา มีเกิดปรากฏ วิญญาณเข้าไปตั้งที่ สังขาร มีเกิดปรากฏ เกิด เสื่อม ดับ เป็น อนัตตา เป็นการเกิดดับของ ปฏิจจสมุปบาท สายเกิด วงรอบเล็ก การเกิดดับ ของ ปฏิจจสมุปบาท สายเกิด วงรอบใหญ่ เมื่อมีภพเป็นปัจจัยจึงมีชาติ ถ้าเกิดเป็น มนุษย์ ก็จะมีอายุประมาณ 100 ปี เมื่อมีชาติเป็นปัจจัยจึงมี ชรา มรณะ กายแตกทำลาย วิญญาณเข้ามาตั้งที่รูปในช่องทาง ตา ตาปิดจึงไม่มีนันทิ จิตจึงหลุดพ้นจากรูปในช่องทางตา วิญญาณเข้ามาตั้งที่รูปในช่องทางหู หูไม่ได้ยินเสียงแล้ว จึงไม่มีนันทิ จิตจึงหลุดพ้นจากรูปในช่องทางหู ตา หู จมูก ลิ้น กาย ตัวเย็นแข็ง จิตหลุดพ้นจากรูปแล้ว เพราะกายแตกทำลาย เมื่อเป็นปฏิจจสมุปบาท สายเกิด จึงต้องมีการเกิดแน่นอน คิดถึงสิ่งใดดำริถึงสิ่งใด หรือมีจิตฝังลึกปักลงไปในสิ่งใด นั่นคือการตั้งอยู่ของวิญญาณ เมื่อวิญญาณตั้งอยู่เฉพาะแล้วเจริญงอกงามแล้ว นั่นคือภพใหม่อันเป็นภัยที่น่ากลัว การเกิดดับของปฏิจจสมุปบาท สายเกิด วงรอบใหญ่ ในสังสารวัฏ มีห้าคติ มีสามภพ กามภพ รูปภพ อรูปภพ นั่นเอง
สาธุขออนุโมทนาบุญโตยเน้อเจ้าสุดยอดดีใจที่อุบาสกประกาศพระสจัธรรมของพระพุทธธรรมสาธุ
ศึกษาเพิ่มเติม ออกคลิป v2 ใหม่นะครับ ให้ความรู้ที่ถูกต้อง จะได้อนิสงฆ์มาก
สาธุครับ เข้าใจง่ายครับ คุณไม่คิดทำหนังสืออธิบายธรรมะ เป็นบทๆ แยกส่วน สอนให้คนระดับล่างของสังคมที่ไม่เข้าใจ สำนวนคำยุคเก่าในหนังสือธรรมะบ่างหรือครับ (ไม่ใช่บาลีนะคำสำนวนไทยแปลกๆ)
ลองเข้าชมในช่องพุทธะนอกวัดนะครับ ละเอียดและใช้ภาษาธรรมดาและไม่ย้อนแย้งกัน
ความเห็นความเข้าใจของเราถ้าเป็นเพียงการคาดเดา ตรรกะ อนุมาน ถ้ายังเห็นว่า เราคือกายสังขารอยู่ ยังไม่เห็นว่าเราคือสภาวะหนึ่ง(จิต ใจ) ด้วยญาณรู้ อาจเป็นการปฏิรูปพระสัทธรรม ทำให้ผู้อื่นหลงผิดตามไปด้วย กรรมหนักมาก เสี่ยงอเวจีมหานรก ไม่คุ้มกับลาภสักการะสรรเสริญที่ได้มาเลย
สังขารในปฏิจจสมุปบาทไม่ใช่ร่างกายแต่หมายถึงความคิดปรุงแต่ง.
อธิบายได้เข้าใจง่ายมากเลยครับ
สาธุครับ
สิ่งนี้มี สิ่งนี้ย่อมมี (ขอบคุณมากค่ะ ละเอียดมากค่ะ)
กดไลค์กดแชร์กดติดตามให้เเล้วคับ
ขอบคุณครับ สาธุๆๆ
มีคำถาม โปรดตอบ เพื่อแลกเแลี่ยน
1 คุณบอกได้ไม๊ ว่า " อวิชา " ความไม่รู้ ไม่รู้อะไร
2 คุณบอกลักษณะทางกายภาพของการเกิดปฎิจสมุบาทได้ไม๊ ว่ามีลักษณะเช่นไร
ลองเข้าชมในช่องพุทธะนอกวัดนะครับเผืรอถูกใจ
ปฏิจจสมุปบาทหรือปัจจยาการ12แจงออกเป็น 2อริยสัจคือ ทุกข์และสมุทัย ดังนี้(1) ทุกข์(ขันธ์) ได้แก่ นามรูป สฬายตนะ ผัสสะ เวทนา ภพ ชาติ ชรามรณะ (2)สมุทัยประกอบด้วยกิเลสและกรรม ได้แก่ อวิชชา(กิเลส-ความไม่รู้อริยสัจ4) สังขาร(กรรม) ตัณหา(กิเลสและกรรม) อุปาทาน(กรรม) ส่วนวิญญาณ"เป็นปฏิสนธิวิญญาณลงสู่ครรภ์ **การทำงานของทุกข์และสมุทัยเป็นวัฏฏะ3หมุนวนคือ "กิเลส กรรม(เจตนา) วิบาก(ขันธ์=ทุกข์)"ต้องละด้วยไตรสิกขาคือ "ศีล สมาธิ ปัญญา"โดยที่"ศีล+สมาธิ"ละกรรมได้แต่ละไม่ขาด "กิเลสและกรรม"ละขาดด้วย "ปัญญา"
ยอดเยี่ยมมากค่ะ ทำคลิปดีๆ อีกนะคะ
คุณทำคลิปได้น่าสนใจมากฟังเพลินเลย
ขอบคุณสำหรับคลิปดีๆค่ะ
ขอบคุณความรู้ที่นำมาถ่ายทอดบอกสอนกับคนที่ยังไม่เข้าใจสายเกิดสายดับ ขอให้ทำต่อไปคลิปที่มีสาระและเป็นประโยชน์เป็นบุญกุศลอย่างยิ่งคับ
บทนี้ฟังก่อนตายเหรอคะ
เข้าใจว่าจบตรงอวิชชา แล้วจิตเกิดขึ้นได้อย่างไร เหมือนจะมีต่อ
คลิปนี้ยังไม่สมบูรณ์ครับลองชมในช่องพุทธะนอกสัดนะครับ
จิต,,ไม่ได้โดน อวิชา หลอก
ท่านว่า จิต,,คืออะไร
อะไรมี ,,,อวิชา ,,,ครับ
อวิชา ในปฏิจจสมุปบาท คืออะไร ครับ
เพราะมีอวิชาเป็นปัจจัย
จึงมี,,,สังขารทั้งหลาย,,, ครับ
เพราะมีสังขารเป็นปัจจัย
จึงมีวิญญาณ ครับ
สังขารทั้งหลาย
กับ
สังขาร
ต่างกันอย่างไรครับ
ชรา มรณะ มีได้เพราะมี การเกิด (ชาติ) ครับ
ไม่มีชาติ(เกิด) แก่ ตาย ไม่มีครับ
ดูในช่องพุทธะนอกวัดนะครับ
เลิกทำคลิปแล้วเหรอคับ
ทุกคนครับ ข้อสุดท้าย ที่คุณบอกว่า จิตไปหลงวิชา คือเข้าใจผิดแล้ว สัตไปหลง อวิชา
ไม่มีสัตตานัง มายึดขันธ์๕หรอกครับ สัตตานังเป็นคำสมมุติ เมื่อยังมีอุปาทานอยู่ คำว่าสัตจึงเกิดมีขึ้นมาได้
คุณเรียนพุทธวจนะมาแน่ๆเลย??
@@Man_U.0770 ก้ผมผมพูดผิดตรงไหน สภาวะ นิพพาน ที่มานึดขัน5 จึงถูกเรียกว่าสัต ถ้าถ้าปล่อยการยึดถือแล้ว ก้ไช้คำว่าสัต ไม่ได้ เพราะไม่มีอะไร เพราะเป็นความว่าง แล้วพุทธวจนนี้ มันเป็นคำไม่ดีหรอครับ คุณถึงพูดเหมือนว่า สิ่งนี้มันผิดเป็นสิ่งที่ไม่ควรศึกษาหรอครับ ผมว่สเป็นพื้นฐานของคนยุคนี้ ที่ไมาเชื่ออะไรง่ายๆ ยุคที่พูดกันด้วยเหตุผล คุณจะบอกเด็กรุ่นใหม่ให้เชื่อพุทธโดยการ ไห้น้อมใจไปเชื่ออะไรก่อนหรอครับ น้ำมัน เครื่องราง พยานาค ผมว่าคนที่จะเข้ามาเชื่อศานายุคนี้ไม่ง่ายน่ะครับ พุทธวจน คือการทำไห้เริ่มศรัธธารุ้จัก พุทธเจ้า ว่าเขาเป็นคนแบบไหนเก่งจิงไหม พูดผิดไหม ผมเริ่มเชื่อพุทธ ก้พุทธวจนน่ะนี้แหละครับ เพราะเป็นพื้นฐานเริ่มต้นของคน เจ้าความคิดความเห็น พอไปไล่แล้วก้ทำไห้รุ้ว่า มันมีจริงน่ะคนที่พูดอะไร เป็นอกาลิโก ไม่ผิด เลย คนธรรมดา เก่งจนาดไหนก้หาไม่ได้แล้ว พอเริ่มเชื่อหมดสงสัยแล้ว ก้เริ่มปฏิบัติ พอเข้าถึงสภาวะ ละเอียด จังหวะชีวิตจะเปลี่ยนขั้นไห้เรา ต้องไปต่อ หาอาจารที่สอน ระดับสภาวะ แบยเน้นๆทิ้งเรื่องสัญญาปริยัต ไห้หมดเพราะเชื่อแล้วว่า พุทธนี้ของจริง อยู่ๆจะไห้คนไปทำสมาทิแล้ว มันได้เฉพาะคนที่มีนิสัยวาสนาเกิดมาก้ไม่สงสัยอยู่แล้ว แต่คนที่ไม่เชื่อ ตัวนี้จะขวางกั้น ที่สุดแล้วครับ นั้งไปก้ฟุ้งส่าน เพราะลังเล ผมว่า พุทธวจนมีประโยชน์ กว่าหลายสำนัก แต่ที่แน่ๆ ชีวิตคนๆหนึ่งจะมานั่งสอนคนเหนื่อยจนไม่มีเวลาพาวนา นี้ก้หายากน่ะครับ คนมีกิเลสเต็มหัวใจทำอะไรแบบนี้ยาก ทิ้งชีวิตสุขสบายมา ค้นหาคำสอนมาบอกคน ทุกสำนักมันก้ดีหมดและครับ สุดท้าย ก้ต้องมีคนสอนอนุบาล สอนปริญญา ครูระดับไหนก้ประเสริตทั้งนั้น สุดท้ายก้จบที่เป้าหมายเดียวกัน น้อยคนน่ะครับ ที่จะมองข้อดี คนส่วนใหญ่ จะมองอะไรที่จัดๆตา ไม่เหมือนครูบาอาจารก้ เพ้งโทษสติไม่พอ มองข้อดีคนอื่น เมื่อก่อนผมก้มองว่ามันเป็นเรื่องแปลกน่ะ พอมาปฏิบัติ ใจเป็นกลางจึงรุ้ว่า นี้แหละคือปกติที่สุดแล้ว
@@mmoosmylife6862 ก็ดีแล้วครับ ที่สนใจศึกษาพุทธแท้ๆ แต่ธรรมโลกุตระมันละเอียดลึกซึ้งมากๆ อาจจะเข้าใจผิดเพี้ยนได้อยู่ ยิ่งคุณพูดว่า..สภาวะนิพพาน ที่มายึดขันธ์5!!! เอ่อ..นิพพานจะมายึดขันธ์5 ทำไมล่ะครับ ก็หลุดพ้นแล้วนี่ แสดงว่าคุณเชื่อพระคึกฤทธิ์ มากเกินไป จนขาดการพิจารณา สัตตานังไม่ใช่นิพพาน คนละตัวแล้วครับ สัตตานังไม่ได้มายึดเกาะขันธ์๕(ผมอธิบายไปแล้ว)เกิดตายไปกับขันธ์๕ แต่สัตตานัง ได้มาเพราะยังมีการยึดขันธ์๕ คล้ายกับคำว่า..ผีหรือสัมภเวสีฯ เป็นคำสมมุติใช้เรียกคนที่ยังมีอุปาทาน ยึดมั่นในขันธ์๕อยู่ครับ ไม่ใช่สัตตานังไปยึดขันธ์5 เกิดตายไปกับขันธ์5 อยู่ตลอดเวลา อันนี้ผิดแล้ว
พุทธวจนะ เรียนได้ ศึกษาได้ แต่อย่าเชื่อทั้งหมด เอาคำพุทธะก็จริงอยู่ แต่บางเรื่องพระคึกฤทธิ์ก็ใส่ความเห็น ตีความของท่านเองลงไปด้วย ทำให้ธรรมผิดเพี้ยนเป็นบางเรื่อง เช่น สัตตานัง,พระอรหันต์ยังมีภพ,ปฏิจจสมุปบาทหมุนอยู่ตลอดเวลาฯ เหล่านี้ล้วนพูดผิดจากธรรม คือเป็นการตีความเห็นตนเองลงไปด้วย ดังนั้นต้องตามให้ทัน ไม่งั้นก็ตกเป็นทาสปัญญาของคนอื่นอยู่ร่ำไป บัญฑิตอย่าเชื่อง่าย ฟังแล้วนำไปพิจารณาตามหาความจริงความถูกต้อง
@@Man_U.0770 ผมสนใจสิ่งที่คุณกล่าว...ช่วยชี้แน่ะด้วยคับ...ผมควรศึกษาได้ต่อจากท่านไหนบ้างคับ
@@hopezero2605 คุณสงสัยอะไรครับ ถามได้นะ หรือศึกษาธรรมของท่านพุทธทาส ก็ได้ครับ นั่นเป็นพุทธแท้ๆ เพื่อความหลุดทุกข์
นามรูป ไม่ใช่ตัวเราค่ะ ไม่มีการกล่าวถึงตัวเรา ในปฏิจจสมุปบาท
ปฏิจจสมุปบาทสิ้นสุดที่มรณะ คือ ความตาย แต่เดิมอวิชชาธาตุของชาตินี้นั้นไม่ได้มี แต่อวิชชานั้นเกิดจากความรู้ตา หู จมูก ลิ้น กาย เมื่อใจเราโยนิโสมนสการรูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะไม่ดี คิดผิดก็ทำให้เกิดวิบาก คือ โลภะ โทสะ โมหะ หรือนิวรณ์เข้าไปสั่งสมในใจ นานๆไปการสั่งสมของวิบากนิวรณ์๕ ก็ไปรวมตัวกันเป็นอวิชชา นิวรณ์๕ที่บริบูรณ์ย่อมนำมาซึ่งอวิชชาที่บริบูรณ์ อวิชชาย่อมนำมาซึ่งมรณะที่บริบูรณ์ อวิชชาที่บริบูรณ์ครอบงำมโนวิญญานย่อมทำให้ใจบอด ครอบงำจักขุวิญญานทำให้ตาบอด ครอบงำโสตะวิญญานก็ทำให้หูหนวก และทำให้คนๆนั้นตาย ใช่ มรณะนี้ไม่ได้มาจากชาติ แต่มาจากอวิชชา